การแต่งงานที่ไม่ได้ซึ่งคำว่า “รัก” สร้างความเจ็บปวดให้กับกรกวินทร์กับแพรวพรรณรายไม่น้อยแต่ทว่ามันเจ็บปวดกว่า เมื่อเขาและเธอมีแต่ความเกลียดชังที่มอบให้แก่กันและกัน “ปล่อยนะ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะคุณทัช คุณจะมาทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ว้าย!” เธอร้องโวยวายเสียงดัง ก่อนที่เสียงอุทานตกใจจะดังตามมา เมื่อเขาเหวี่ยงร่างของเธอลงไปบนเตียง โดยร่างหนาคร่อมทับรวบข้อมือเล็กทั้งสองข้างด้วยมือใหญ่ของเขาเพียงมือเดียว “ทำไมจะทำไม่ได้ ในเมื่อเธออยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่น ฉันก็จะสนองให้ สนองอย่างหนักให้ลืมโลกไปเลย” เขาพูดเสียงเยาะ “สิ่งที่เธอจะได้รับจากฉันไม่ใช่ความสุข แต่เป็นความทุกข์ต่างหาก ฉันจะทำให้เธอตกนรกเหมือนกับที่ฉันเป็น”
عرض المزيد“สวยมากเลยแพรว รับรองว่าเจ้าบ่าวเห็นแล้วต้องอึ้งแน่ๆ เลย”
แซมมี่หรือสุริยนสาวประเภทสองช่างแต่งหน้ามืออาชีพเอ่ยชื่นชมความงดงามของแพรวพรรณราย เจ้าสาวผู้โชคดีแห่งปีที่ได้วิวาห์กับกรกวินทร์ รัตนบดี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงขวัญใจสาวๆ ครึ่งค่อนเมือง แต่สำหรับเจ้าสาว เธอคิดว่าตัวเองโชคร้ายเสียมากกว่า
“ขอบคุณค่ะ”ใบหน้าเรียบเฉยไม่ยินดียินร้ายกับคำชมของเจ้าสาวตอบกลับแล้วสีหน้าของแพรวพรรณรายก็ทำให้ใครอีกคนหนึ่งที่นั่งไม่ห่างรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“นังแพรว แกทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย แกแต่งงานนะไม่ได้ไปตาย” พริ้งเพราแหวใส่บุตรสาวคนโต
“ถ้าแม่แต่งงานกับคนที่แม่ไม่ได้รัก แม่จะอยากตายหรืออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อล่ะคะ”
แพรวพรรณรายย้อนถามมารดา หน้าบูดบึ้ง ยิ่งนึกถึงหน้าเจ้าบ่าว เธอก็แทบจะอยากตายวันละหลายๆ รอบถ้าไม่ติดที่ว่ามารดาบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงาน อย่าหวังเลยว่าเธอจะยอมง่ายๆ
แซมมี่มองแพรวพรรณราย หญิงสาวที่เปรียบเสมือนน้องสาวของตนด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะเธอรู่ดีว่า น้องสาวคนนี้ไม่มรความปรารถนาจะวิวาห์สุดอลังการกับกรกวินทร์ แต่ที่ยอมแต่งเพราะถูกมารดาบังคับ ทว่าแซมมี่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้มากไปกว่า ส่งกำลังใจให้
“ถ้าฉันได้แต่งงานกับคนรวยๆ หล่อๆ แบบคุณทัชล่ะก็ ฉันไม่อยากตายหรอก อยากมีชีวิตต่อมากกว่า” พริ้งเพราตอบกลับทันควัน "แล้วแกก็ไม่ต้องแสดงออกมากนักนะว่าไม่อยากแต่งงาน เห็นแก่หน้าฉันบ้างถ้าคิดว่าฉันเป็นแม่"
“ก็ที่แพรวยอมแต่งงานกับไอ้หมอนั่นก็เพราะเห็นว่าแม่เป็นแม่ ไม่อย่างนั้นอย่าหวังว่าแพรวจะยอม”
เจ้าสาวโต้กลับมารดา เพราะความเป็นแม่ลูกกันนี่แหละที่ทำให้เธอต้องสวมชุดวิวาห์ราคาแพง ต้องมานั่งให้ช่างแต่งหน้าทำผม ต้องมานั่งปั้นหน้ายิ้มทั้งที่อยากจะร้องไห้ ต้องกล่ำกลืนฝืนทนทุกอย่างเพื่อใครล่ะ ถ้าไม่ใช่คนจอมบงการตรงหน้า
“งั้นแกก็จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่า อย่าทำให้ฉันผิดหวัง”พริ้งเพรากำชับเสียงแข็ง “ถ้าแกทำให้ฉันผิดหวัง อย่ามาเรียกฉันว่าแม่ จำใส่หัวเอาไว้”
ระหว่างที่สถานการณ์ของพริ้งเพราและแพรวพรรณรายกำลังตึงเครียด หญิงสาวนางหนึ่งได้เดินเข้ามาในห้องแต่งตัว ความสวยงามไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเจ้าสาวเลย
“แม่ขา ได้เวลาแล้วค่ะ ไปกันเถอะคะ”
เจ้าของเสียงคือ เดือนดาราลูกสาวคนเล็กของพริ้งเพรา และเป็นน้องสาวต่างบิดาของเจ้าสาวเอ่ยบอกมารดาด้วยรอยิ้มอ่อนหวาน
“จ้ะลูก เดี๋ยวแม่ออกไป” น้ำเสียงของพริ้งเพราที่พูดกับเดือนดารา ต่างกับพูดกับแพรวพรรณรายมากเหลือเกิน ราวกับหนังคนละม้วน
“แม่คะ เมื่อกี้พี่หวานบอกว่า คุณหญิงป่านถามถึงแม่ค่ะ” เดือนดาราพูดต่อ
“คุณหญิงป่านมาแล้วเหรอลูก ถ้าอย่างนั้นออกไปข้างนอกกันเลยนะ ในห้องนี้มลพิษมันเยอะ แม่หายใจหายคอไม่สะดวก”
พริ้งเพราไม่วายเหน็บแนมแพรวพรรณราย ที่มองมารดากับน้องสาวผ่านกระจกบานใหญ่ ผู้เป็นแม่พูดจบก็เดินกุมมือลูกสาวคนเล็กออกไปจากห้องแต่งตัวทันที
คำพูดและการกระทำของพริ้มเพรา สร้างความเสียใจและเจ็บช้ำซ้ำๆ ให้กับแพรวพรรณราย เธอไม่เคยได้ยินคำพูดจาหวานหูจากมารดาเลย มีแต่แข็งกระด้าง ตวาดใส่อยู่ร่ำไป และไม่มีสักครั้งที่พริ้งเพราะจะกอดหรือแม้แต่กุมมือเธอ ไม่เลยไม่เคยปรากฏ จนบางครั้งเธอก็ยังแอบคิดว่า ตนเองไม่ใช่ลูกของนาง น้ำตาเม็ดใสเออคลอดวงตาคู่หวานปนเศร้า จนเธอต้องหยิบทิชชู่มาซับความอ่อนแอที่กำลังไหล
“ใจเย็นๆ นะแพรว วันนี้เป็นวันดีของแพรว พี่ไม่อยากเห็นแพรวร้องไห้”
แซมมี่พูดปลอบใจ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เหตุใดพริ้งเพราถึงได้ไม่รักแพรวพรรณราย ต่างกับเดือนดาราที่รักและเอาใจสารพัด ทั้งที่แพรวพรรณรายก็เป็นลูกของนางเช่นกัน
“แพรวไม่อยากร้องไห้ แพรวอยากตายมากกว่า”
นี่คือความรู้สึกที่แท้จริงของเธอ มารดาไม่รักว่าแย่แล้ว นี่ยังต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักอีก ความรู้สึกของเธอเวลานี้ย่ำแย่มากเหลือเกิน
“ไม่เอาค่ะไม่พูดอย่างนั้นนะ” แซมมี่รีบห้าม “ชีวิตคนไม่ได้เกิดมาง่ายๆ นะแพรว มีหลายคนที่แย่กว่าแพรวแต่เขาก็ไม่คิดอยากจะตาย เขามีแต่จะสู้กับสู้ ดูอย่างพี่สิ พี่ถูกพ่อกับแม่รังเกียจและถูกไล่ออกจากบ้านเรื่องที่พี่ผิดเพศ แต่พี่ก็พิสูจน์ให้ท่านรู้ว่า การเป็นกระเทยไม่ได้เป็นเรื่องเลวร้าย ไม่ได้ผิดศีลธรรม สามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติ จนตอนนี้พ่อกับแม่พี่ภูมิใจในตัวพี่มาก ชีวิตของคนเรามันไม่ได้แย่ไปซะทุกเรื่องนะแพรว มันต้องมีเรื่องดีๆ เข้ามาบ้าง”
แซมมี่ให้ข้อคิดกับแพรวพรรณราย กว่าที่เธอจะเป็นที่ยอมรับและเป็นที่ภาคภูมิใจของบิดามารดาและคนรอบข้างได้ แซมมี่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองร่วมห้าปี จนกระทั่งตอนนี้เธอเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ แต่หน้าทำผมให้กับคนดังมานับไม่ถ้วน รวมทั้งดารานางแบบและเหล่าเซเลบทั้งหลาย
“ขอบคุณพี่แซมมี่มากค่ะที่ปลอบใจแพรว แพรวจะเข้มแข็งค่ะ”
ในชีวิตของแพรวพรรณราย นอกจากทักษอรกับเพทาย สองเพื่อนสนิท เธอก็ยังมีแซมมี่ เพื่อนบ้านคนสนิทที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา แซมมี่จึงเปรียบเสมือนพี่สาวคนหนึ่งของเธอ
“ดีมากแพรว” แซมมี่พูดด้วยรอยยิ้ม “จำไว้นะแพรว น้ำตาไม่ช่วยอะไร สติเท่านั้นที่จะช่วยเราได้”
แซมมี่พูดทิ้งท้าย ก่อนจะลงมือแต่งแต้มใบหน้า ปกปิดคราบน้ำตาของเจ้าสาว
จริงอย่างที่แซมมี่พูด น้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร เธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด งานแต่งงานก็ยังคงดำเนินตามกำหนดการ ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแปลงงานวิวาห์นี้ได้ เพราะชีวิตของเธอถูกลิขิตด้วยมือของพริ้งเพราะมาตั้งแต่เธอลืมตาดูโลก
Chapter 86จุ๋มพูดกับตัวเอง ยกมือเกาหัวยิกๆ มองเจ้านายทั้งสองคนด้วยความแปลกใจ ตั้งแต่แพรวพรรณรายมาอยู่ที่นี่ เธอไม่เคยเห็นว่าทั้งสองจะพูดดีหรือทำตัวสนิทสนมปรองดองกันมากเท่าวันนี้มาก่อนเลย ทำตัวเฉยชา เมินเฉย ไม่ใส่ใจกันและกัน ไม่พูดกันนั่นคือภาพที่จุ๋มเห็นมาตลอด พอเห็นแบบนี้จุ๋มถึงกับงง หรือว่าการที่ทั้งคู่ไม่อยู่บ้านมาหลายวัน ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดเธอก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี เจ้านายมีความสุข เธอก็สุขตามไปด้วย“อ้าว ทัชกลับมาแล้วหรือลูก ไหนบอกแม่ว่าไม่มีกำหนดกลับไง” ธาริณีทักลูกชายเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนเปิดประตูห้อง“สวัสดีครับคุณแม่” เขายกมือไหว้มารดา ขณะที่ทรุดกายลงนั่งข้างธาริณี “พอดีผมมีงานด่วนน่ะครับก็เลยต้องกลับเร็ว” กรกวินทร์แก้ตัว“ไปฮันนีมูนเป็นไงบ้างลูก สนุกไหม มีความสุขหรือเปล่า”คืนแรกที่กรกวินทร์กับแพรวพรรณรายไม่กลับบ้าน ธาริณีใจร้อนดังไฟเพราะโทรศัพท์ติดต่อทั้งคู่ไม่ได้เลย กลัวว่าการหายตัวไปเพียงคืนเดียวของลูกชายและลูกสะใภ้จะเกิดจากฝีมือของภวินทร์ ครั้นจะคาดคั้นสามีก็ไม่ได้ เนื่องจากคืนนั้นภวินทร์เดินทางไปประเทศจีน ภวินทร์ปิดการสื่อสารทุกอย่าง เพ
Chapter 85สิ่งที่ดิตถพงศ์ทำให้เธอในวันนี้ เขาทุ่มเต็มที่ เขายอมเสียมารยาทลอบออกมาโทรศัพท์ไปยังเจ้าของร้านดอกไม้ที่เคยสั่งดอกกุหลาบขาวคราวก่อนในเวลาเกือบตีหนึ่ง บอกความต้องการของตนว่า ต้องการดอกกุหลาบสีขาวที่มีอยู่ทั้งหมด และให้ทางร้านช่วยกว้านซื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เสนอเม็ดเงินจำนวนสูงถึงหนึ่งแสนบาทหากเจ้าของร้านหาดอกไม้ให้เขาได้ตามจำนวนและเวลาที่กำหนดคือ เก้าโมงเช้า ส่วนเทียนหอมแกะสลักเขาก็ให้ลูกน้องกวาดซื้อเอาจากร้านในละแวกนี้จากนั้นทางร้านจะนำดอกไม้ทั้งหมดที่หามาได้ ไปส่งยังสนามบินดอนเมือง เพื่อขนส่งทางอากาศแบบเร่งด่วน เขาจึงทุ่มเงินตรงส่วนนี้ไปมากโขเพื่อให้สินค้าส่งถึงโรงแรมที่จัดงานเลี้ยงฉลองปิดกองถ่าย สิบสามนาฬิกาเพื่อให้ทางโรงแรมจัดใส่แจกันและไปประดับไว้ในห้องจัดเลี้ยงชากีล่าตามเวลาและแบบที่เขาต้องการแผนการที่ดิตถพงศ์วางไว้เพื่อเธอเป็นไปอย่างเรียบร้อย เขาประกาศให้ทุกคนได้รับรู้แล้วว่า นิสารัตน์มีความสำคัญกับเขามากแค่ไหน เธอจะเป็นหญิงเดียวที่เขาจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน เป็นแม่ของลูก เป็นภรรยาที่เคียงข้างเขาตลอดไปจวบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิตสี่วันต่อมาสุเมธขับรถออกจากบ้า
Chapter 84“ก็ดีเหมือนกันนะ มันคงน่ารักดีทีเดียว”“น่ารักมากค่ะ ฟ้าเคยเห็นแล้วค่ะพี่เอม”ผู้พูดเคยเห็นตุ๊กตาล้อเลียนดังกล่าวแล้ว เธอยิ้มรับว่ามันน่ารักและเรียกรอยยิ้มยามที่ได้มองตู๊ดๆ...เสียงข้อความเข้าดังจากมือถือของเอมิกา ทำให้เธอระงับการสนทนา กดเปิดอ่านดูข้อความที่เข้ามาสดๆ ร้อนๆ เธอยิ้มก่อนจะเงยหน้ามองนิสารัตน์“พี่ว่าเรากลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงดีกว่านะ ออกมานานแล้ว”จู่ๆ เอมิกาก็ตัดบทเอาดื้อๆ ละทิ้งความสนใจเรื่องของขวัญ แล้วชวนกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ทำเอานิสารัตน์ถึงกับงงแต่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยงแต่โดยดีพอทั้งคู่ก้าวเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง แสงไฟภายในห้องก็ปิดลงทุกดวง เหลือเพียงแสงจากเทียนหอมแกะสลักรูปกุหลาบราวห้าสิบกว่าชิ้นที่ส่องสว่าง กลิ่นหอมจากเทียนไขคละเคล้ากับกลิ่นดอกกุหลาบนับพันดอกที่กระจายคลุ้งทั่วห้อง“ทำไมเป็นแบบนี้คะพี่เอม” นิสารัตน์หันมาถามเอมิกาเมื่อเข้ามาในห้องจัดเลี้ยงที่เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่มากเหลือเกิน“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เราเข้าห้องไม่ผิดแน่”เอมิกาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นิสารัตน์มองไปรอบๆ ห้อง และเห็นทีมงานทุกคนกำลังรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอ
Chapter 83“ลองไปถามพี่ตูนกันไหม เผื่อพี่ตูนจะรู้เรื่อง”สายสมรนึกถึงเอกชัย ผู้กำกับละครเรื่องนี้ที่อาจจะรู้ถึงเหตุผลที่เอมิกาให้พนักงานทั้งหลายนำมาจัดวางไว้ในห้องนี้ สองสาวจึงพากันเดินไปหาเอกชัยที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก“พี่ตูน...” ยังไม่ทันที่นารีจะพูดอะไรมากกว่านี้ เสียงของเอกชัยก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน “พอเลยนา ไม่ต้องถาม เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”เอกชัยดักคอ เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่า เอมิกาทำเช่นนี้ทำไม และไม่เพียงแค่นารีเท่านั้นที่มาถามเรื่องที่อยากรู้ เกือบจะทุกคนก็เข้ามาถามเขา ซึ่งเขาก็หันไปถามหนึ่งในพนักงานว่า นำดอกไม้มาไว้ในห้องนี้ทำไม คำตอบที่ได้รับคือ เป็นคำสั่งของเอมิกา“แล้วพี่เอมไปไหนล่ะคะ นาไม่เห็นเลย”เธอคิดว่าถามคนสั่งน่าจะดีกว่า“เห็นออกไปนอกห้องกับฟ้าน่ะ แต่พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน”เอกชัยตอบเท่าที่ตัวเองรู้ “เก็บความอยากรู้ไว้ในใจก่อนก็ได้ รอให้เอมมาก่อนแล้วค่อยอยากรู้ต่อ” เขาพูดดักทางคนอยากรู้ที่ทำหน้ามุ่ยเมื่ออีกฝ่ายรู้ทัน นารีกับสายสมรทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ รอคอยเอมิกาให้กลับเข้ามาในห้อง เพื่อที่เธอจะได้ถามเรื่องที่ตนใคร่รู้ด้านนอกห้องจัดเลี้ยงเ
Chapter 82“พี่ดีใจ ดีใจที่สุดที่ได้ยินคำนี้ พี่ดีใจที่สุดเลย ดีใจที่สุดในโลกเลย”เขาพูดย้ำความดีใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนคนบ้า น้ำตารื้นคลอดวงตาด้วยความปลื้มปิติสุขใจและดีใจจนระงับไม่อยู่เสมือนฟ้าประทานรางวัลให้กับเขา มูลค่าของรางวัลประมาณการเป็นจำนวนเงินไม่ได้ เช่นเดียวกับทางด้านจิตใจที่สุดแสนจะเลอค่าจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้“ฟ้าก็ดีใจค่ะที่ฟ้าไม่ได้รักพี่อิฐข้างเดียว” เธอเอ่ยบอกเขาพร้อมรอยยิ้มหวาน“ฟ้าไม่ต้องคิดว่าตัวเองเป็นนางบำเรอของพี่อีกแล้วนะ ฟ้าเป็นเมียพี่ต่างหาก เป็นเมียเพียงคนเดียวของพี่ที่จะรักและดูแลไปตลอดชีวิต”เขาเอ่ยบอกสาวตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม “พี่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้อง พี่จะทำให้ทุกคนรู้ว่า ฟ้าเป็นเมียของพี่”ในเมื่อความรู้สึกของเขาและเธอตรงกัน ดิตถพงศ์ไม่ต้องการให้เธออึดอัดกับสถานะที่เป็นอยู่อีกต่อไปและเขาต้องทำอะไรบางอย่างให้ถูกต้อง ให้เธอและเขาเดินเคียงคู่อยู่ในสังคมได้อย่างเปิดเผย เพื่อเป็นการให้เกียรติเธอที่เขารัก“พี่อิฐจะทำอะไรคะ” นิสารัตน์เอ่ยถามตามประสาคนอยากรู้“ไม่บอก เป็นเซอร์ไพรส์” เขาอุบทีเด็ดเอาไว้ “แต่ตอนนี้เรามาฉลองความรักของเรากันดีกว่านะ พี่หิวจะ
Chapter 81นิสารัตน์ทุ่มตัวลงบนเตียงฟุบหน้าลงบนที่นอนแล้วร้องไห้ระบายอารมณ์ทั้งหลายที่ประดังเข้ามาในจิตใจ เธอไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านี้ นอกจากจะร้องไห้ให้กับสถานะอันเจ็บปวดของตัวเอง หากเธอไม่รักเขาก็คงไม่เจ็บปวดคนที่กำลังโกรธและโมโหถึงกับอึ้งกับคำพูดที่แสดงให้รู้สึกว่า เธอกำลังเสียใจและเจ็บปวดใจกับการกระทำของเขา ดิตถพงศ์เหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ตั้งเงื่อนไขให้เธออยู่ข้างกายเขา โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของนิสารัตน์เลยแม้แต่น้อยทว่าความคิดของเขาและเธอคิดกันคนละด้าน คนละมุม เธออาจคิดว่า สิ่งที่ดิตถพงศ์ทำอยู่ขณะนี้จะเห็นเธอเป็นเพียงนางบำเรอที่ให้ความสุขในยามเกิดอารมณ์เปลี่ยว ไม่ได้มีค่าอะไรมากกว่านี้ และต้องทนเจ็บปวดหัวใจกับความรักที่ค่อยๆ งอกเงยขึ้น เป็นความรักที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดที่เธอก็ไม่รู้ว่า เกิดขึ้นได้อย่างไรสำหรับดิตถพงศ์ นิสารัตน์คือทุกสิ่งอย่างในชีวิต เขาทำทุกอย่างเพราะรักเธอ ปรารถนาชิดใกล้คนที่ตัวเองรัก ในขณะเดียวกันก็ใช้ความเอาใจใส่ดูแลเธอสารพัด หวังจะพังทลายความรักที่ดาราสาวมอบให้กรกวินทร์ แล้วมอบหัวใจดวงนี้ให้เขาแทนเสมือนมีกำแพงแก้วบางๆ กั้นความรู้สึกของคนทั้งคู่ ไม่ให้เช
تعليقات