ในช่วงสายของวัน อัณณาขยับกายด้วยความเมื่อยขบที่นอนท่าเดียวมาทั้งคืน เธอลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเพราะหมอนที่เธอหนุนอยู่นั้น มันเป็นแขนของเขา ผู้ชายคนเดิมที่เธอเคยมีความทรงจำแสนวิเศษด้วย
เธอกำลังจะขยับกายออกจากอ้อมกอดเขา ก็โดนแขนแข็งแรงดึงรั้งเธอกลับเข้ามานอนซบอกเขาอีกจนได้ เมื่อคนตัวโตที่เธอคิดว่าเขานอนหลับ เขารู้สึกตัวตื่นมานอนมองหน้าเธอนานแล้ว
“อุ๊ย คุณ มากอดฉันทำไม”
“อืม จะรีบลุกไปไหน ผมยังเพลียอยู่เลย”
“คุณก็นอนไปสิ ปล่อยฉันนะ อย่ามาฉวยโอกาสกับฉัน”
“โถ่คุณ ผมนอนของผมอยู่ในฝั่งผมดีๆ คุณไม่ใช่หรอที่ดิ้นมานอนกอดผม”
เธอยกศีรษะขึ้นมอง เป็นจริงอย่างที่เขาว่า เธอเป็นฝ่ายเข้ามานอนกอดเขา ในที่ฝั่งของเขา
“อุ๊ย ขอโทษค่ะ”
เธอเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง และเขาก็ลุกขึ้นมานั่งตาม ต่างมองหน้ากันแล้วก็รู้สึกแปลกๆ มันอุ่นๆในหัวใจ จนเลือดสูบฉีดไปทั่วร่าง หัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าคนที่นั่งข้างๆจะได้ยิน
ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยนอนค้างคืนแล้วตื่นมาพร้อมกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน คราวที่แล้วที่นอนกับเธอ เขาก็ตื่นมาคนเดียว เลยไม่ได้มีความรู้สึกนี้ มันก็จักจี้ในหัวใจดีเหมือนกันนะ
“เอ่อ คุณไปอาบน้ำเถอะ สดชื่นแล้วค่อยขับรถกลับ”
เธอก็ยังมีแก่ใจเป็นห่วงเขา ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย
“ครับ”
เขาเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วออกมาพร้อมกับชุดใส่อยู่บ้านสบายๆ เธอมองเขาอย่างสงสัย ว่าดาราเบอร์หนึ่งอย่างเขาจะใส่ชุดแบบนี้ออกสู่สายตาประชาชนจริงๆหรือ แต่ก็ไม่ได้ถามออกไป
“ถ้าคุณจะกลับ รบกวนล็อกประตูให้ด้วยนะคะ”
“ครับ”
เธอเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็ออกจากห้องน้ำมาในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมันปมหมิ่นเหม่ที่อกอวบ ผมยาวเกล้าหมวยกลางศีรษะมีปอยผมหลุดลุ่ย ในขณะที่เธอเดินผ่านเตียงนอนไปที่ตู้เสื้อผ้านั้น ปลายหางตาเธอก็เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างอยู่บนเตียงนั้น จึงหันกลับมาดู
“ว๊ายยย คุณโปรด ทำไมคุณยังอยู่”
เธอตะครุบคว้าปมผ้าขนหนูที่มันจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ของเธอ แล้วกำมันไว้ให้แน่น
“ผมก็ไม่ได้บอก ว่าผมจะกลับ”
“แต่นี่มันห้องฉันนะ แล้วคุณก็ได้นอนเต็มอิ่มแล้ว คุณก็น่าจะขับรถกลับคอนโดคุณไหวแล้วนี่”
“ก็ยังไม่อยากกลับอ่ะ”
“แล้วคุณจะมาอยู่ที่ห้องคนอื่นทำไม ฉันไม่สะดวกให้คุณอยู่นะ”
“ทำไม เดี๋ยวแฟนคุณจะมาหาหรือไง”
“ใช่”
เธอเชิดหน้าขึ้นสูงจากเดิมเล็กน้อยอย่างถือดี แกล้งบอกให้เขาเข้าใจว่าเธอมีแฟน เขาจะได้รีบกลับ และไม่มายุ่งกับเธออีก
“โกหก”
“ฉันไม่ได้โกหกนะ ฉันมีแฟนแล้วจริงๆ”
“คบกันมานานหรือยัง”
“แล้วคุณยุ่งอะไรด้วยเล่า”
“ถามก็ตอบมาเถอะ หรือคุณกำลังโกหกผมอยู่”
“แล้วฉันจะโกหกคุณทำไมคะ”
“จะไปรู้คุณเหรอ ตกลงว่าไง คบกันมานานหรือยัง”
“นานแล้วค่ะ”
“กี่ปี”
“7” แต่เลิกกันแล้ว ประโยคหลังเธอต่อมันในใจ ขอเอาแฟนเก่ามาอ้างไล่ดาราหน้ามึนออกไปจากห้องก่อนเถอะ
“อืม คบกันนานขนาดนี้เชียว”
“ค่ะ คุณกลับไปได้แล้ว ถ้าเขามา จะเป็นเรื่อง”
เขากวาดตามองไปรอบๆห้องของเธออีกครั้ง ไม่ได้มีอะไรบ่งบอกว่าจะมีของใช้ของผู้ชายอยู่เลย แม้แต่ห้องน้ำก็มีแปรงสีฟันของเธอแค่อันเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่คนเป็นแฟนกัน จะมาหากัน แล้วจะไม่มีการทิ้งของใช้ส่วนตัวอะไรกันไว้เลยแบบนี้
และที่สำคัญ ที่เขาไม่เชื่อว่าเธอมีแฟน เพราะเมื่อเดือนที่แล้ว เธอยังชวนเขาไปนอนด้วยและมอบความบริสุทธิ์ให้กับเขาอยู่เลย เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ
“ผมอยากพบเขาอยู่พอดี มีเรื่องจะถามหน่อย”
“เรื่องอะไร”
เธอเอ่ยถามเขาหน้าตาตื่น ดวงตากลมโตเบิกกว้างแววตาเป็นกังวลอย่างหนัก
“ก็ถามว่า ทำไมเขาถึงปล่อยให้แฟนของเขา เอาความบริสุทธิ์มาให้ผมเป็นคนทะลวง แทนที่จะเป็นแฟนที่คบกันมา 7 ปีแบบเขาไง”
“นี่คุณรู้หรอ”
“หึหึ เลือดคุณหยดซะเต็มเตียงผมขนาดนั้น แถมคุณยังร้องลั่นบีบรัดผมซะแน่น ผมไม่รู้มั้ง”
เธอตกใจจนไม่รู้จะตกใจยังไง เขารู้ว่าเธอไม่เคยผ่านมือใคร และคงจะรู้แน่ว่าเธอโกหกเรื่องแฟน ทำยังไงถึงจะไล่เขาให้ออกไปจากห้องเธอได้
“นี่คุณ คุณต้องการอะไรกันแน่ พูดมาตรงๆเลยดีกว่า”
“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณไง”
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังไงก็คงเลี่ยงไม่ได้ คุยมาให้มันจบๆเลยก็ดี
“งั้นฉันไปใส่เสื้อผ้าก่อน”
ไม่นาน เธอก็เดินออกมานั่งที่ขอบๆเตียงไม่ไกลจากเขานัก สาวน้อยในชุดอยู่บ้าน เสื้อยืดสีขาวตัวโต กับกางเกงขาสั้นจู๋ที่ชายเสื้อแทบจะปิดมิด ดูเซ็กซี่น่าค้นหายิ่งกว่าพวกที่ใส่สายเดี่ยวหรือเกาะอกด้วยซ้ำในสายตาของเขา
“คุณมีอะไรก็ว่ามาค่ะ”
“ทำไมคุณไม่โทรหาผม ตามที่ผมบอก”
“ก็ฉันไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับคุณนี่คะ เราไม่ได้รู้จักกันซักหน่อย”
“หึ นอนด้วยกันจนเช้าขนาดนั้น คุณยังบอกว่าเราไม่ได้รู้จักกัน แล้วต้องขนาดไหน คุณถึงจะนับผมเป็นคนรู้จัก”
“คุณกำลังหลงประเด็นนะคะ เอาเป็นว่าฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรจะติดต่อพูดคุยกับคุณ เลยไม่ได้ติดต่อไปค่ะ”
“แต่ผมมีไง”
“ฉันรู้ ว่าคนมีชื่อเสียงอย่างคุณคงกังวลว่าฉันจะเอาเรื่องที่เรานอนด้วยกันไปพูด หรือไปทำข่าวให้คุณเสียหายสินะ ฉันไม่ใช่คนบ้านะคุณ ฉันเป็นผู้หญิง จะเที่ยวเอาไปป่าวประกาศได้ยังไง อีกอย่าง ชื่อเสียงเรื่องนี้ของคุณก็มีมากมายอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องแคร์เลย ไม่ได้มีภาพหลุดอะไรซักหน่อย”
ปุณณัตถ์นั่งมองผู้หญิงตรงหน้าเหมือนเป็นของแปลกประหลาด เธอนอนกับเขา มีค่ำคืนที่โคตรเร่าร้อนด้วยกัน เขาทำเธอถึงสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่าและเขามั่นใจว่าเธอเสียวซ่านสุดชีวิต แต่ทำไมพอจบคืนนั้น เธอกลับไม่เห็นอยากจะสนใจไยดีหรืออยากจะข้องเกี่ยวกับเขาเหมือนสาวๆคนอื่นเลย หรือที่เขาทำไปทั้งหมดในคืนนั้น มันไม่ได้มีอะไรถูกใจเธอ เธอถึงไม่ติดใจเขา
แต่เขาติดใจเธอนะ สาวบริสุทธิ์ที่แน่นหนึบหนับ ตอดรัดเขาเสียจนเสียวไปทั้งลำ หน้าอกที่อวบใหญ่เกินตัวนั่นก็เด้งสู้มือเขาดีเหลือเกิน ไหนจะผิวพรรณเนียนละเอียดของเธอ ไหนจะหุ่นที่แสนเย้ายวน ใบหน้าสวยหวานน่ารัก อีกทั้งการตอบสนองที่แสนจะเร่าร้อนแบบไม่ได้แต่งเติมจริต เขาชอบมันมากจริงๆ และอยากที่จะมีโอกาสนอนกับเธออีกสักหลายๆหน เขายังคิดว่ากลับมาเจอกัน เธอคงอยากจะเข้ามาขอเป็นหนึ่งในคู่นอนและมีความสัมพันธ์กับเขาไปเรื่อยๆจนกว่าเขาจะเบื่อแน่ๆ ที่ไหนได้ กลับเป็นเขาคนเดียวหรอกหรือ ที่ติดใจเธอ
บรรยากาศงานแต่งงานในสวนสวยเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สถานที่สวยงามได้รับการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวชนิดต่างๆและสีฟ้าของดอกไฮเดรนเยียทั่วทั้งงาน เจ้าสาวในชุดลูกไม้เนื้อดีสีขาวงาช้าง แหวกอกพอเหมาะโชว์หน้าอกอวบอิ่มและแหวกหลังลึกโชว์ผิวขาวราวน้ำนมของเจ้าสาว ชุดกระโปรงบานฟูฟ่องกำลังงาม บนศีรษะเกล้ามวยต่ำแล้วประดับด้วยผ้าคลุมผมเจ้าสาวผืนบางยาวสวย ที่ด้านข้างมวยผมนั้นก็ประดับด้วยช่อดอกไม้ดอกเล็กๆสีขาวดูอ่อนหวาน เธอยืนเคียงคู่กับเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีดำดูหล่อเหลาสมกันราวกิ่งทองใบหยก หลังจากที่บ่าวสาวยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงพิธีมอบแหวนและปฏิญาณรักกันอย่างเรียบง่ายตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ เขาสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามให้กับเธอ แล้วเธอก็สวมแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ตรงกลางให้กับเขา “ผมจะรัก ซื่อสัตย์ มีอัณณ์แค่คนเดียวและดูแลอัณณ์กับลูกตลอดชีวิต ผมสัญญา” “อัณณ์ก็จะรัก และซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดชีวิตค่ะ” บ่าวสาวโผเข้าจูบกั
อย่าคิดว่าดาราหนุ่มที่มีสถานะสมรสและเป็นคุณพ่อของลูกสาวในวัยสามเดือนจะหมดความฮอตนะ เปล่าเลย เขากลับยิ่งโด่งดังและครองใจผู้คนหลากหลายช่วงวัยยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากงานละคร งานอีเว้นท์ต่างๆแล้ว งานพรีเซ็นเตอร์สินค้าและโฆษณายังเข้ามาหาเขาอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์มีมากมาย ทั้งน้ำหอม ครีมบำรุงผิวผู้ชาย เสื้อผ้า น้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงสมอง เฟอร์นิเจอร์ ขนมขบเคี้ยว สถาบันการเงินต่างๆ และต่างๆอีกมากมาย ชนิดที่ว่าเปิดทีวีมาจะต้องเห็นหน้าเขาแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ โดยเฉพาะยิ่งเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีครอบครัวที่อบอุ่น ยิ่งมีงานโฆษณาที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวติดต่อเข้ามาอีกมาย ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปของลูกน้อย แป้งเด็ก สบู่และยาสระผมเด็ก นมผงเด็ก เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นของเด็กอีกมากมาย และภรรยาที่แสนจะงกของเขาก็รับเอาไว้หมดทุกชิ้น จนกลายเป็นว่า นอกจากเขาที่เป็นดาราที่ดังเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีลูกสาวที่กลายเป็นซุปตาร์ตัวน้อยที่ครองใจประชาชนไปทั่วประเทศแล้ว จนคนเป็
สองสัปดาห์ต่อมา ละครที่เขารับเล่นไว้ก็ได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำวันแรก ปุณณัตถ์ที่หยุดงานไปหลายเดือน แล้วไปใช้ชีวิตพ่อบ้านเสียเต็มที่ วันนี้เป็นวันแรกที่ต้องออกมาทำงานห่างไกลลูกเมียก็รู้สึกไม่ชิน จึงออดอ้อนขอให้เมียและลูกรักมาทำงานกับเขาด้วย ดีหน่อยที่เขามีรถบ้านที่สะดวกสบายและแอร์เย็นฉ่ำ จึงมีที่สำหรับให้ลูกนอนระหว่างวันตอนที่รอเขาทำงาน ระหว่างพักกอง หรือในช่วงที่ไม่มีบทของเขา เขาจะแวะเข้ามาหาลูกเมียเสมอ เขาหอมแก้มลูกสาวเพื่อเป็นกำลังใจ และจูบเมียหวานๆเนิ่นนานจนเมียอ่อนระทวยเพื่อเป็นพลังให้เขากลับไปเข้าฉากอีกครั้ง เมื่อน้องแป้งหอมที่นอนกลางวันจนเต็มอิ่ม ตื่นแล้ว อัณณาจึงใส่หมวกให้ลูกสาวแล้วพาออกไปเดินเล่นรับลมในโลเคชันสวนสาธารณะ “อุ๊ย นั่นภรรยาพี่โปรดนี่นา” บรรดาแฟนคลับของเขาที่มารอให้กำลังใจในงานชิ้นแรกหลังเกิดเรื่องเกิดราว หันมาเห็นอัณณากำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆกองถ่ายพอดี “ใช่จริงๆด้วย ไปขอถ่ายรูปกันไหม”
“อัณณ์ครับ คุณว่าผมรับละครเรื่องนี้ดีไหม ไม่ต้องแคสเลย ผู้ใหญ่ส่งบทมาให้ผมโดยเฉพาะเลย ไม่รู้เพราะปลอบใจในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า” “จะเพราะอะไรก็เป็นโอกาสของเราค่ะ ไหนเรื่องอะไรคะ ขออัณณ์ดูหน่อย” เธอรับบทละครของเขามาดู แค่เห็นชื่อผู้แต่งต้นฉบับและผู้แต่งบทละคร แถมชื่อผู้กำกับและผู้จัด คำตอบที่เขาควรมีคือ รับครับ ไม่ต้องถามอะไรกันอีกแล้ว “โห คุณโปรด เรื่องนี้มันสุดยอดเลยนะคะ ขายดีตั้งแต่เป็นนิยายแล้ว ไหนจะผู้จัดผู้กำกับอีก อัณณ์ว่าคุณควรรับนะคะ นี่มันโอกาสทองเลยล่ะ” “อืม นั่นสินะ โอกาสทองเลย คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างผม ยังมีโอกาสดีๆแบบนี้ก็น่าดีใจมากจริงๆ คุณกับลูกคือเครื่องรางนำโชคของผมนะครับ” “ที่คุณได้มาทุกอย่างเพราะความสามารถและความทุ่มเทของคุณต่างหาก” “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมนะ เสียดายที่ลูกยังเล็ก ไม่งั้นผมก็อยากให้คุณตามผมไปด้วยทุกที่ จะได้มีกำลังใจจากเมียตลอดเวลา” เขาทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของภรรยาสาวสวย แล้วจับมือเธอมาจูบเห
ปุณณัตถ์กับอัณณากลับเข้าบ้านมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว เพราะหลังจากแถลงข่าว ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆที่ช่องก็เรียกพบเขาเพื่อขอโทษที่มีผู้ใหญ่บางคนใช้อำนาจบังคับให้เขาต้องฝืนใจคบกับมินตรา แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเรื่องราวบานปลายแบบนี้ ปรากฏว่าตอนนี้ ทั้งละคร งานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์สินค้า ต่างก็กลับคืนมาหาเขาจนหมด แถมผู้ใหญ่ยังมอบโอกาสเสนอบทละครที่ตั้งใจให้เป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปีมาให้เขาพิจารณาด้วย จากนั้น คุณพ่อที่เพิ่งเปิดตัวลูกเมียหมาดๆ ก็พาเมียกับลูกไปเดินเที่ยวห้างและช้อปปิ้งของให้ลูกรัก แถมยังซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เมียรักอีกหลายใบ ก่อนกลับบ้านก็พาเธอไปทานอาหารร้านโปรดของเธอกับเขา แต่เมื่อก่อนต้องไปอย่างหลบๆซ่อนๆ แต่วันนี้ได้พาเมียพาลูกออกสู่สังคมอย่างเต็มภาคภูมิเสียที เมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องตกใจเพราะมีแขกสำคัญมานั่งรอเธอกับเขาที่ห้องนั่งเล่นอยู่นานแล้ว “พ่อ” อัณณาวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อของเธอทันทีที่เข้ามาในห้อง เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มเพราะความกดดันและอัดอั้นตันใจมาตลอด
“กรี๊ดดดดดดดดด พี่โปรด พี่กล้าทำกับมินนี่ขนาดนี้เลยหรอ กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นบ้านของมินตรา ทำให้มารดาและพ่อเลี้ยงของเธอ ที่กำลังดูแถลงข่าวอยู่ที่ห้องนอนส่วนตัว รีบวิ่งลงมาดูเธอที่อยู่ในห้องนั่งเล่นทันที “มินนี่ ใจเย็นๆลูก” มารดาเข้ามาปลอบใจโดยไม่ต้องถามว่าลูกเป็นอะไร เพราะทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่เป็นช่องเดียวกันกับที่เธอและสามีเปิดดูเมื่อสักครู่ “พี่โปรดทำแบบนี้กับมินนี่ได้ยังไง มินนี่ไม่ยอม ทำไมเขาไม่เลิกกับนังอัณณ์แล้วมาแต่งงานกับมินนี่” อานนท์ บิดาของอัณณาที่ยังคงช็อกกับเรื่องของลูกสาวไม่หาย ทั้งๆที่ได้รับรู้เรื่องราวโดยละเอียดจากตุลย์อดีตคนรักของลูกสาวแล้วก็ตาม แต่พอภรรยาเปิดแถลงข่าวของมินตราให้ดูตอนเช้า ก่อนจะฟังการแถลงข่าวของดาราหนุ่มลูกเขยหมาดๆต่อเลยทันที ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกต้องมาเจอกับเรื่องราวอะไรแบบนี้ และเมื่อได้ยินมินตราพูดแบบนี้ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ “ลุงว่ามินนี่ทำเกินไปหน่อยนะ” “เกินไปตรงไหนค