...เพราะความสัมพันธ์ชั่วคืน ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปตลอดกาล...
View More"พาย...จบ ม.6 เราจะไปเรียนที่ไหนต่อล่ะลูก" พรพรรณ ป้าของพระพาย ญาติเพียงคนเดียวของเธอ เอ่ยถามหลานสาวขึ้น
พระพาย บุญพิทักษ์ วัย 18 ปี อาศัยอยู่กับป้าในจังหวัดหนึ่งของภาคกลาง ป้าพรพรรณมีอาชีพทำสวน ปลูกผักสวนครัวขาย ซึ่งพรพรรณเป็นญาติทางพ่อเพียงคนเดียวของเธอ ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่งไม่ใหญ่มาก เพราะพวกเธอไม่มีทรัพย์สมบัติอะไรเลย พรพรรณ เป็นหญิงวัยกลางคน ที่ไม่มีครอบครัวหรือสามี เพราะเธอมีโรคประจำตัว...เธอจึงไม่คิดมีสามี และเมื่อพี่ชาย พ่อของพระพายเสีย ตนจึงรับมาเลี้ยงตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ส่งเสียต่อจนหญิงสาวจบระดับมัธยมศึกษา
"พายว่าจะเข้าไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯจ่ะป้า...เรียนมหาลัยเปิดเอา...แล้วพายจะได้หางานพิเศษทำด้วยค่ะ" พระพายเอ่ยตอบเมื่อคนเป็นป้าถามขึ้น
"จ่ะ...ดีเหมือนกันลูก...กรุงเทพก็ถือว่าไม่ไกลจากบ้านเรามาก...ไป-มาก็สะดวกอยู่" พรพรรณเอ่ยตอบ
"แต่พายห่วงที่ป้าต้องอยู่คนเดียวนี้ค่ะ" พระพายเอ่ยขึ้นมาน้ำเสียงเปลี่ยนทันที เเล้วมาสวมกอดพรพรรณเอาไว้
"ป้าไม่เป็นไรหรอกลูก...พายไม่ต้องห่วงป้าน่ะ" พรพรรณเอ่ยพร้อมมือลูบศีรษะของพระพายเบาๆ
"ป้าไปอยู่กรุงเทพกับพายได้ไหมค่ะ...เราเช่าห้องอยู่กัน พายจะหางานทำเองค่ะ" พระพายเอ่ยขึ้นอีกครั้งอย่างออดอ้อนคนเป็นป้า
"ป้าขออยู่ที่นี่ดีกว่าน่ะ...ป้าก็แก่มากแล้ว และอีกอย่างโรคที่ป้าเป็นอยู่มันรักษาต่อเนื่อง...ถ้าขืนป้าไปอยู่กรุงเทพด้วย ต้องย้ายที่รักษา...แถมค่าใช้จ่ายคงสูงมากแน่ๆเลย" พรพรรณเอ่ยขึ้นบอกถึงเหตุผล
"เห้อ...คิดถึงป้าแย่เลย" เสียงถอนหายใจยาวเหยียดของพระพาย
"คิดถึงเราก็วีดีโอคอลเห็นหน้ากันได้ ทุกวันนี้เทคโนโลยีไปไกลมากแล้ว"
"จ่ะป้า...พรุ่งนี้พายต้องเดินทางแล้วน่ะ"
"จ้า...วันนี้ รีบไปพักผ่อนเถอะ" พรพรรณเอ่ยบอก
"จ่ะป้า...พายไปนอนแล้วน่ะ...อื้อ...รักป้าที่สุดเลย" พระพายเอ่ยรับปาก พร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งฟอด แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนห้องนอนทันที
"ตาคิม...เมื่อไหร่ลูกจะมีหลานให้แม่อุ้มสักที นี้อายุก็ปาไป สามสิบกว่าแล้วน่ะ" คนึงนิจ เอ่ยถามลูกขายเพียงคนเดียวของทันที ที่ลูกชายก้าวขาเข้ามาในบ้าน
"ผมมาบ้านทีไร...คุณแม่ไม่คิดจะคุยเรื่องอื่นบ้างเลยหรือครับ...นอกจากเรื่องนี้" คิมหันต์ ฤทธิไพศาล หนุ่มวัย 32 ปี ผู้รักสันโดษ รักสบาย ความอิสระ ใช้ชีวิตโสด เพลบอย เป็นลูกคนรวย พ่อแม่มีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเจ้าตัวมีตำแหน่งเป็นถึงรองฯประธาน
"แล้วลูกจะให้แม่รอไปถึงเมื่อไหร่?...ถ้าในปีนี้ลูกยังไม่มีครอบครัวสักที...แม่จะเป็นคนจัดการให้เอง" คนึงนิจเอ่ยขึ้นมาทันที
"นี้คุณ...หยุดความคิดจับลูกคลุมถุงชนเลยน่ะ...สมัยนี้มันหมดยุคนั้นแล้ว" เหมันต์ บิดาของคิมหันต์ เอ่ยคัดค้านขึ้นมาทันที เมื่อภรรยาพยายามจะหาครอบครัวให้ลูกชาย เพียงเพราะอยากได้หลาน
"ก็คุณ...ไม่เห็นเหรอว่าลูกเราอายุก็เยอะเเล้ว...ฉันกลัวว่าลูกเราจะแก่ไปเสียก่อน ก่อนได้ใช้น้ำเชื้อ" คนึงนิจเอ่ยบอกสามี
"เรื่องน้ำเชื้อ...คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ...ผมปั้มออกตลอดทุกวัน เพียงแต่ยังไม่ได้เจอแม่ของลูกแค่นั้นเอง" คิมหันต์เอ่ยเชิงหนอกล่อมารดา
"ถ้าคิด...จะเอาพวกผู้หญิงที่ทำงานแบบนี้มาเป็นแม่ของลูกล่ะ...เราไม่ต้องมาเป็นแม่ลูกกันเลย" คนึงนิจเอ่ยคำขาด
"ครับ...ผมรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่ ถึงผมจะรักสนุกเพราะชีวิตโสด...แต่คุณแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกนะครับ ผมป้องกันอย่างดี ไม่มีทางพลาดแน่นอน" คิมหันต์เอ่ยยืนยัน รับประกันของคำตอบทันที
"ดี...แม่จะคอยดู...แล้วผับนั้นก็ขายทิ้งส่ะ...เเล้วก็เจ้าไปช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทเถอะ!" คนึงนิจ บอกกับลูกชาย
"ผมขอเวลาอีก 2 ปี น่ะครับคุณแม่" คิมหันต์เอ่ยบอกมารดาไป
"แม่พูดอะไรออกไป...ลูกก็มีข้อต่อรองกับแม่ทุกที" คนึงนิจเอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจลูกชาย
"แล้วคืนนี้...จะนอนบ้านไหม?" เหมันต์ เอ่ยถามลูกชายขึ้นบ้าง
เพราะตั้งแต่ตอนเรียนลูกชาย ก็ขอออกไปใช้ชีวิตข้างนอก นอนคอนโด หรือไม่ก็ที่ผับ ไม่เคยกลับมานอนที่บ้าน
"ไม่ครับ...วันนี้งานที่ผับมีปัญญานิดหน่อยครับ" คิมหันต์เอ่ยบอกบิดาไป
"มีลูกชายก็เหมือนไม่มี" คนึงนิจเอ่ยเสียงเบา
"ถ้าอย่างนั้น...ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณพ่อ คุณแม่" คิมหันต์เอ่ยลา พร้อมกลับหมุนตัวเดินจากไปทันที
"เดินทางปลอดภัยนะลูก!" พรพรรณเอ่ยบอกอวยพรให้หลานสาว ที่วันนี้ต้องเป็นวันเดินทางแล้ว
"ขอบคุณป้ามากนะค่ะ...ไว้พายทำงานได้เงินเยอะๆ...พายจะมาหาป้าบ่อยๆ แล้วพายจะรีบเรียนให้จบไวๆ พายจะได้มีงานทำ มีเงินเยอะๆ เราจะไปซื้อบ้านอยู่กันนะป้า...ป้ารอดูความสำเร็จของพายก่อนน่ะ" พระพายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงมีความหวัง
"ป้าขอบคุณหนูมากเลยน่ะพาย...เดินทางปลอดภัยน่ะลูก ดูแลตัวเองด้วยน่ะ...ป้ารักหนูน่ะลูก" พรพรรณเอ่ยบอกหลานสาวเพียงคนเดียวของเธอ
ทั้งสองกอดลากันอยู่สักพักใหญ่ พระพายก็ออกเดินทาง
"คุณว่าอะไรน่ะ!...คุณปาลิน มีคนมาสมัครงานในตำแหน่งแม่บ้าน?..." คิมหันต์ เอ่ยถาม ปาลิน ผู้จัดการร้านสาวใหญ่ของผับแห่งนี้ เมื่อเธอมาบอกว่ามีคนมาสมัครงานในตำแหน่งแม่บ้าน ไม่ได้มาสมัครในตำแหน่งเสิร์ฟ หรือเด็กดริ้งค์
"นี่...คนที่มาสมัครงาน...เขาไม่รู้เหรอว่าผับส่วนมากรับพนักงานในตำแหน่งอะไร?" คิมหันต์ได้แต่คิดในใจ เมื่อคนที่ต้องการมาสมัครงานในผับของเขา มาสมัครในตำแหน่งแม่บ้าน
"คุณบอกเขาไปเถอะ...ว่าเราไม่รับแม่บ้าน" คิมหันต์เอ่ยบอกผู้จัดการร้านออกไป
"ลินบอกไปแล้วค่ะ...แต่เธอไม่ยอมกลับ แถมยังจะขอคุยกับเจ้าของที่นี่อีกค่ะ" ปาลินเอ่ยบอก
"ผมมอบสิทธิ์...ในการตัดสินใจของคุณนะ คุณปาลิน คุณมีสิทธิ์ที่จะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่คุณจะพิจารณาตามสมควรได้เลย" คิมหันต์เอ่ยบอกผู้จัดการร้านไป
"ก็ได้ค่ะ!!..." ปาลิน เดินออกจากห้องทำงานส่วนตัวของคิมหันต์ในผับนี้ทันที
10 ปีต่อมาตอนนี้ลูกๆของทุกคนโตกันหมดแล้ว ทีม ทินกร หนุ่มมหาลัย ในวัย 19 ปี สูงหล่อ นิสัยถอดแบบคุณพ่อหมอของเขามาแป๊ะ จนทุกคนที่ไม่รู้จัก จะคิดว่าทั้งคู่นั้นเป็นพ่อลูกกันจริงๆ"ไอ้ทีม! วันนี้เลิกคลาสเร็ว ไปยืดเส้นยืดสายที่สนามกันหน่อยไหมเพื่อน" คามิน เพื่อนสนิทที่เรียนมาด้วยกันตั้งมัธยม เอ่ยถามขึ้น ทั้งคู่ชอบเล่นฟุตบอล และเป็นตัวแทนนักกีฬาของโรงเรียน แต่ตอนนี้พวกเขาหันกลับมาชอบกับความเร็ว หลังเลิกเรียนจะแวะไปแข่งรถที่สนามของพ่อเพื่อนอยู่เป็นประจำ"ไม่อ่ะ...วันนี้แม่ปิ่นโทรมาบอก ให้แวะไปรับน้องๆ ไปส่งไว้ที่บ้านปู่เหมกับย่านิจให้หน่อย เพราะอาคิมกับอาพายติดธุระ" ทีมเอ่ยบอกเพื่อนไป"น้องพิพิมกับภาคินลูกเพื่อนพ่อมึงอ่ะน่ะ" คามินเอ่ยถาม เพราะรู้จัก และเรียนโรงเรียนเดียวกัน เพราะเขาสนิทกับทีม"อื้ม" ทีมพยักหน้ารับ"ถามจริงเถอะไอ้ทีม...มึงไม่คิดอะไรกับน้องมันจริงๆหรือว่ะ" คามินถามขึ้นมา"มึงจะพูดอะไรไอ้มิน...น้องยังเด็ก นั้นมันคุกเลยน่ะเว้ย" ทีมต่อว่าคามินทันที"กูเห็นมึงดูแลน้องเขามาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้น้องพิพิมก็...." คามินกำลังจะเอ่ยต่อ แต่ถูกทีมสวนขึ้นมาก่อน"มึงหยุดคิดอะไรเลยน่ะเว้ย นั้นมั
3 ปีผ่านไปพระพายได้ให้กำเนิดลูกชาย โดยมีนามว่า "ภาคิน ฤทธิไพศาล" ซึ่งสมใจคิมหันต์ เพราะเจ้าตัวอยากได้ลูกชาย และตอนนี้ มีอายุ 2 ขวบกว่าๆแล้ว"ว่าไง...คุณพ่อลูกสอง" หมอโปรดเดินเข้ามาทักทาย คิมหันต์"เป็นไงวันนี้ หอบลูกหอบหลานมาเยอะเชียว พ่อแม่เขาไปไหนกันเหรอ" คิมหันต์ถามหมอโปรดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับหลานทั้งสามคน และลูกสาว กับลูกชายของเขาอีก"อ๋อ...พอดีไอ้ไปร์ พาเมียขึ้นมาทำธุระที่กรุงเทพฯ เลยฝากลูกไว้ ส่วนไอ้ธันกับยัยปริม ก็หนีไปฮันนีมูนกัน""พ่อโปรดครับ น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" น้องทีมตอนนี้ วัย 9 ขวบ ลูกบุญธรรมของหมอโปรดและปิ่นลดาเอ่ยบอกพ่อ"พิพิมเล่นอยู่ที่บ้านคุณย่าครับน้องทีม" คิมหันต์เอ่ยบอกหลาน"ขอบคุณมากครับอาคิม น้องทีมไปหาพิพิมน่ะครับ" เสียงเล็กเอ่ยบอกพร้อมกับวิ่งไปที่บ้านหลังใหญ่ทันที"ไอ้หมอ!...กูว่าลูกชายมึงคิดอะไรกับลูกสาวกูหรือเปล่าว่ะ" คิมหันต์เอ่ยถามอย่างหยอกล้อ"พี่คิมค่ะ ลูกยังเด็กน่ะค่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้" พระพายต่อว่าทัน ที่เดินนำน้ำมาเสริฟให้แก่หมอโปรดและปิ่นลดา"เด็กๆ สวัสดีคุณอากันก่อนสิครับ" หมอโปรดเอ่ยบอกหลานๆ และลูกสาว"สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ" เสียงเล็กเ
แต่งงานหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งของคิมหันต์และพระพายถูกจัดขึ้นในเวลาอันเร่งด่วน ตามความต้องการของชายหนุ่ม"เป็นยังไงไอ้เจ้าบ่าว ไหวไหมว่ะ" หมอโปรดเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อเดินมาหาชายหนุ่มที่ห้องแต่งตัว เเละทราบถึงอาการแพ้ท้องแทนเมียของคิมหันต์ดี "แทนที่จะรอให้อาการของตัวเองดีขึ้นก่อนค่อยจัดงานแต่งก็ไม่ช้าไปหรอก""ไม่ได้หรอก เดี๋ยวเมียกูใส่ชุดไม่สวย" คิมหันต์เอ่ยบอก พร้อมกับจัดแจงชุดให้เรียบร้อย"เป็นไงล่ะอาการหลังมีเมียเด็กรู้สึกยังไงบ้างครับเพื่อน" ธันวาถามขึ้นเมื่อเข้ามาภายในห้อง"แมร่งเอ้ย...เล่นกูเข่าอ่อนทุกคืนเลยหว่ะ ปกติกูก็ว่ากูหื่นอยู่น่ะ แต่พอเมียกูท้อง เล่นเอากูสะขาสั่นหมดแรงทุกคืน" คิมหันต์เอ่ยบอกแถมติดตลกไปด้วย"โอ้....ไอ้นี้ กูว่ามันเจอของจริงแล้วหว่ะไอ้หมอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า" ธันวาเอ๋ยแซว"สมน้ำหน้า...ใครหว่าที่บอกว่าไม่ชอบกินเด็ก มึงจำได้ไหมไอ้ธัน" หมอโปรดเเซวขึ้นบ้าง"เออ...กูนี้แหล่ะ สุดท้ายเหมือนกูโดนเด็กกินเสียเอง""หรือไม่ชอบ?" ธันวาเลิกคิ้วถาม"ใครบอกว่ะ โคตรถูกใจกูเลย ถ้ารู้ว่ามีเมียเด็ก แถมเด็ดขนาดนี้ กูจะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปนานขนาดนี้เลย" คิมหันต์ตอบออกมาอย่างสายตาเจ
แพ้ท้องแทนเมีย"คุณค่ะ!...ทำไมตาคิมกับหนูพายถึงยังไม่ลงมาทานข้าวกันอีกล่ะค่ะ ทะเลาะกันหรือเปล่า เมื่อตอนกลางวันเห็นงอนๆกันด้วย" คนึงนิจเอ่ยถามสามีเมื่อนั่งรอทานข้าวที่โต๊ะอาหาร โดยมีพิมนั่งอยู่ใกล้ๆ"ป่ะป๊า ม่ะม๊า..." เสียงเล็กของพิพิมเอ่ยเรียกเมื่อเห็นพระพาย และคิมหันต์เดินเข้ามา"ทำไมลงมาช้ากันจังเลยลูก" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อพึ่งเห็นคนทั้งคู่ลงมา"อ่อ...พอดีหลับเพลินกันไปหน่อยครับ" คิมหันต์เอ่ยตอบ พร้อมกับลูบศรีษะทุยเบาไปของลูกสาวอย่างเอ็นดู"หนูพายเห็นตาคิมบอกว่าหนูกำลังจะ... ข่าวดีใช่ไหมลูก" คนึงนิจเอ่ยถามพระพาย เมื่อทั้งสองมานั่งลงที่เก้าอี้"ค่ะคุณแม่" พระพายตอบกลับ พร้อมกับพยักหน้ารับอีกที"จริงเหรอลูก! เเม่ดีใจสุดๆเลย" คนึงนิจเอ่ยขึ้นมาอย่างดีใจ พร้อมกับรอยยิ้มยินดีผุดขึ้นมา"คราวนี้ ก็สมใจคุณแม่แล้วสิน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามมารดา"รู้ทันแม่ตลอดเลย ลูกคนนี้ แล้วนี่ตาคิมทำอะไรน้องหรือเปล่า" คนึงนิจถามขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าของพระพายไม่ค่อยจะสู้ดีนัก"โถ่วคุณแม่ครับ...ผมจะทำอะไรล่ะครับ มีแต่ลูกสาวของคุณแม่นี้แหล่ะครับที่จัดการผม" คิมหันต์เอ่ยตอบมารดา แล้วหันหน้าไปยักคิ้วใส่พระพาย"นี้
ครั่งรัก"อะไรน่ะค่ะ!" พระพายเอ่ยถามย้ำขึ้นอีกรอบทันที เพื่อความแน่ใจ ในคำพูดของชายหนุ่มตรงหน้า"แต่งงานกันน่ะครับ" คิมหันต์เอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างจริงจัง"ตะ แต่งทำไมล่ะค่ะ เราก็จดทะเบียนสมรส เป็นสามีภรรยากันแล้วหนิ่ค่ะ และอีกอย่าง พายว่าพายอยู่แบบนี้ก็โอเคอยู่แล้วนี้ค่ะพี่คิม ตะจัดให้เปลืองทำไหมค่ะ" พระพายเอ่ยบอกออกไป"แต่พี่อยากจัดงานน่ะครับ พี่อยากประกาศให้โลกรู้ไปเล้ย ว่าพระพายและพิพิม คือภรรยาและลูกของพี่ครับ" คิมหันต์เอ่ยออกมาอย่างภาคภูมิใจ"อยากประกาศให้คนอื่นรู้ หรืออยากบอกสาวๆ ของพี่คิมกันแน่ค่ะ" พระพายพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ"โถ่ว...เมียจ๋า คิดอะไรอีกแล้วครับ พี่บอกกับเมียจ๋าไปตรงๆ และสัญญาตรงนี้เลยครับว่าตั้งแต่ที่พี่มีเมียจ๋าคนนี้ พี่ก็ไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวกับใครเลยนะ ทั้งๆที่พี่เคยพยายามจะลืมเมียจ๋า แต่พี่ก็ทำไม่ได้สักครั้งเลย จนพี่ต้องทิ้งงานที่ผับ แล้วมาช่วยทำงานที่บริษัทกับคุณพ่อไงครับ พี่ใช้งานมาอ้าง ทำงานหนักขึ้น เพื่อไม่ให้คิดอะไรพุ่งซ่าน แต่เมื่อพี่กลับมาอยู่กับตัวเองตามลำพัง พี่ก็จะคิดถึงผู้หญิงคนนี้" มือหนาลูบศรีษะทุยเบาๆ พร้อมโยกไปมาเบาๆ "เป็นผู้หญิงธรรมดาที่สามรถโ
ครอบครัวอบอุ่นบ้านฤทธิไพศาล"ไงลูก! กลับมากันแล้วเหรอ!" คนึงนิจเอ่ยถามเมื่อเห็นทั้งคู่เดินเข้ามาในบ้าน "เอ้า...หนูพาย เป็นอะไรไป ตาคิม ทำอะไรน้อง" คนึงนิจหันมาต่อว่าลูกชายทันที เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้างอเดินขึ้นไปชั้นบน"ผมเปล่าน่ะครับคุณแม่" คิมหันต์รีบปฏิเสธทันที"เปล่า...แล้วทำไม น้องทำหน้าแบบนั้นล่ะ""แค่คิดมากนิดหน่อยครับ""คิดมากเรื่องอะไร นี่ลูกแอบไปทำเรื่องอะไรลับหลังหนูพายมาเหรอ...ตาคิม" คนึงนิจต่อว่าลูกชายทันที และฟาดฝามือลงที่แขนของลูกชายอย่างแรง"โอ้ย...คุณแม่ครับ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหล่ะครับ พายเครียดที่จะไม่ได้เรียนต่อน่ะครับ" คิมหันต์บอกมารดาออกไป แต่ยังอธิบายไม่ชัดเจน"ไม่ได้เรียน!...ลูกทำไมถึงไม่ให้น้องเรียน ไหนตอนแรกลูกบอกจะให้น้องมาเรียนเอกชนแถวนี้ไงตาคิม" คนึงนิจเอ่ยถามลูกชายอย่างไม่เข้าใจ ในคำพูดที่คิมหันต์บอก"จะเรียนได้ยังไงล่ะครับ...ก็ในเมื่อพายกำลังจะมีน้อง ผมไม่ยอมให้พายแบกท้องไปเรียนหรอกนะครับคุณแม่""ท้อง!...นี่หมายความว่า..." คนึงนิจเบิกตากว้างขึ้นทันที เมื่อได้ยินคำว่าท้อง"ผมว่าพายท้องแน่นอนครับคุณแม่ เพียงแต่พายยังไม่ยอมรับความจริงก็เท่านั้นเองครับ""แล้วย
Comments