เขาเดินเร็วๆไปที่รถยนต์คันหรูของตัวเองแล้วรีบขับออกไปทันที เพราะรู้สึกเซ็งไปหมด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นเธอเข้ามาร่วมงาน ก็รู้สึกตื่นเต้นกระชุ่มกระชวยทั้งๆที่ร่างกายเหนื่อยจนตาแทบจะปิดแล้วก็ตาม
เมื่อขับมาได้สักพัก ก็ต้องตีไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง เมื่อเห็นรถยนต์คันสวยที่จอดแล้วเปิดไฟกะพริบอยู่ด้านหน้ามันคุ้นตานัก
"อัณณา รถคุณเป็นอะไร"
เห้อ อุตส่าห์หนีเขาแทบตาย สุดท้ายรถคู่ใจดันดับไปเสียดื้อๆ จนเขาตามมาเจอแบบนี้ เซ็งชะมัด
"อยู่ๆก็ดับค่ะ ไม่รู้เป็นอะไร"
แต่อย่างน้อยก็ดีนิดหนึ่งตรงที่คนที่มาเจอเธอคือเขา ไม่ใช่คนร้ายที่ไหน เพราะในซอยนี้ก็ค่อนข้างเปลี่ยวและไม่มีรถมากมาย จึงน่ากลัวไม่น้อย
"ผมก็ซ่อมไม่เป็น งั้นเอาแบบนี้ เดี๋ยวผมโทรตามช่างประจำมาลากเข้าอู่ แล้วผมจะไปส่งคุณเอง"
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวจัดการเรื่องรถแล้ว ฉันนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้"
"ผมบอกจะไปส่งก็ไปเถอะน่า มีเรื่องต้องคุยด้วยหน่อย เร็วๆเถอะ ผมเพลียและง่วงมาก อยากนอนจะแย่แล้ว"
เธอเห็นสภาพเขาก็ดูจะไม่ไหว คงทั้งมึนทั้งง่วงเลยสินะ ส่วนเธอเองก็เมาเหมือนกัน ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้งที่ต้องไปกับเขา แค่ขับรถไปส่งเอง เรื่องในอดีตเขาก็ไม่เคยพูดถึงอีกทุกครั้งที่เจอกัน เรื่องที่อยากคุยก็คงจะเป็นเรื่องที่เขากังวลนั่นแหละ คุยกันให้จบๆไปซะก็ดี จะได้ไม่มีอะไรคาใจ เธอจะได้ไม่ต้องหนีหน้าและประหม่าทุกครั้งเมื่อเจอเขาอีก
"คอนโดคุณอยู่ไหน"
เธอบอกเส้นทางกับเขาเสร็จก็นั่งเงียบไปตลอดทาง แม้จะง่วงและเมาเพียงใดก็ไม่กล้านอนหลับ เพราะเหลือบตาไปดูแล้วเขาก็มีสภาพแย่ไม่ต่างกัน
"คุณไหวไหมคะ ให้ฉันขับให้ไหม"
"ผมแค่ง่วงและเพลีย แต่คุณน่ะ เมา เจอด่านขึ้นมาเราเป็นข่าวใหญ่แน่"
นั่นน่ะสิ เพราะฉะนั้น นั่งเป็นเพื่อนเขาเฉยๆก็คงพอ จึงหาเรื่องชวนคุย
"คุณมีอะไรจะพูดกับฉันหรอคะ พูดมาได้เลยนะ"
"ผมต้องใช้สมาธิขับรถ ยังคิดอะไรไม่ได้ตอนนี้ เดี๋ยวค่อยว่ากัน"
โอยยย นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ เธอเองก็เมาและง่วงจะแย่ เดี๋ยวก็หลับโชว์เสียหรอก
ไม่นาน เธอและเขาก็มาถึงคอนโดของเธอ เมื่อเธอกำลังหยิบกระเป๋าและเอ่ยขอบคุณเขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาดับเครื่องยนต์และคว้ากระเป๋าเป้ใบโตของเขาติดมือแล้วลงจากรถและล็อกเรียบร้อย
"คุณ จะไปไหนคะ คอนโดคุณไม่ใช่ที่นี่นี่นา อ๋อ หรือคอนโดของสาวในสต๊อกคุณอยู่ที่นี่หรอคะ"
"อืม ประมาณนั้น"
คิดแล้วเชียว คนเจ้าชู้เปลี่ยนคู่นอนไปทั่วอย่างเขา คู่นอนคงอยู่ทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ค่ำไหน ง่วงไหน นอนนั่นได้ทุกที่เลยสินะ
"งั้นก็ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง"
"ครับ"
เธอเดินเซนิดๆเข้ามาในใต้อาหาร แล้วกดเรียกลิฟต์ ไม่นานประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอจึงหอบสังขารของเธอเดินเข้าไป แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเขาเดินเข้ามาในลิฟต์ตัวเดียวกันกับเธอด้วย ช่างพอดีจริงๆที่สาวของเขาอยู่ตึกเดียวกันกับเธอ เธอกดชั้นที่ต้องการไปแล้วเอ่ยถามเขาเพราะเธออยู่ใกล้กับปุ่มกด
"ชั้นไหนคะ"
"ชั้นเดียวกันครับ"
บังเอิญสุดๆ ชั้นของเธอมีทั้งสาวออฟฟิศและนักศึกษา ก็คงจะเป็นนักศึกษาสาวๆสักคนสินะ ที่ทำให้คนอย่างเขาสนใจได้
เธอเดินออกจากลิฟต์แล้วตรงดิ่งไปเปิดประตูเข้าห้องทันที เพราะอยากจะนอนเต็มแก่แล้ว โดยไม่ได้หันไปสนใจดูเขาอีก ว่าเขาจะเดินไปที่ห้องไหน เพราะเธอไม่อยากรู้ ไม่อยากสนใจ
เมื่อประตูห้องเธอถูกเปิด เธอก็แทรกกายเข้าไป แล้วหมุนตัวเตรียมจะปิด ก็ต้องตกใจจนแทบกรีดร้องเมื่อเขาแทรกตัวเข้ามาในห้องเธอแล้วปิดล็อกประตูเรียบร้อยพร้อมเปิดไฟในห้องของเธอให้จนสว่างจ้า บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ
"คุณโปรด นี่ห้องฉัน คุณเข้าผิดห้องแล้วค่ะ ผู้หญิงของคุณอยู่ห้องไหนคะ ไป เดี๋ยวฉันพาไปส่ง"
"ผู้หญิงของผมก็อยู่ห้องนี้ไง เราเคยนอนด้วยกันแล้วไม่ใช่หรอ คืนนั้นตั้งหลายครั้ง คุณไม่น่าความจำสั้นขนาดนี้นะ ถึงว่า ผมให้โทรหา ผ่านมาเป็นเดือนคุณยังไม่ยอมโทรหาผมเลย"
เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่รู้จะทำยังไงกับสถานการณ์จวนตัวตรงหน้านี้ วันนี้ก็ดันดื่มเข้าไปเสียเยอะจนเมาขนาดนี้ แอลกอฮอล์มันทำลายระบบประสาทและสมองของเธอจนหมดแล้ว
"ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ เราแค่มี One Night Stand กัน ไม่ได้ผูกมัด ไม่ได้คบหากันเสียหน่อย เชิญคุณกลับออกไปได้แล้วค่ะ"
"อัณณา คุณคงอยากเห็นผมตายมากใช่ไหม คุณจะได้มีข่าวไปเขียน ว่าปุณณัตถ์ ดาราหนุ่มรูปหล่อ ขับรถหลับในชนตอม่อสะพานดับอนาถ แล้วคุณช่วยเติมไปด้วยนะว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้เนื่องจากโดนผู้หญิงที่เคยมีค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนไล่ออกจากห้องกลางดึก ทั้งๆที่เขาทั้งง่วงและเพลียจากการทำงานลากยาวจนไม่ได้พักมาร่วมเดือน โอเคไหม"
"คุณโปรด คุณนี่มัน.."
"มันอะไร พูดดีๆนะคุณ"
"คุณต้องการอะไร"
"ผมง่วง เพลีย ผมอยากนอน ขับรถไม่ไหวหรอก ตาผมบวมตุ่ยขนาดนี้ คุณก็เห็น ผมไม่ได้แอกติ้ง"
อืม ก็จริง ตาเขาทั้งบวมทั้งช้ำ แล้วก็ดูเพลียสุดๆ แต่ห้องเธอมันดันมีชุดเครื่องนอนเหลือแค่ชุดเดียว เพราะเพิ่งเคลียร์ของในตู้ส่งซักไปเมื่อเช้านี้เอง จะให้เขานอนที่โซฟาได้อย่างไร คงได้แข็งตาย
"คุณ แต่ฉันไม่มีผ้าห่มสำรอง เพิ่งส่งซักไปเอง จะทำยังไง"
"ผมขี้หนาวและป่วยง่ายด้วยสิ แต่ผมก็ไปไหนไม่ไหวแล้วจริงๆ ขอนอนบนเตียงกับคุณนะ อัณณา"
"ตะ แต่ แต่ว่า คุณ"
"เราก็เคยนอนด้วยกันมาแล้ว ไม่เป็นไรหรอกน่า ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก นอกเสียจากว่าคุณจะอ่อยผมหรือร้องขอให้ผมทำ ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็จะจัดให้"
"บ้า อย่ามาพูดมั่วๆนะ"
"นั่นไง ในเมื่อคุณก็ไม่ได้ต้องการ และผมก็ง่วงจนจะหลับกลางอากาศแล้ว ขอผมนอนด้วยเหอะนะ"
"อืม ก็ได้ค่ะ แต่อย่ามารุ่มร่ามกับฉันนะ เพราะเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ตกลงนะ"
"ครับ ตามนั้น"
พูดจบเขาก็เดินเข้าห้องน้ำไปแปรงฟัน ล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออก แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆที่มีในกระเป๋า แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงเธอทันที ไม่ถึงนาที เสียงหายใจสม่ำเสมอและกรนเบาๆด้วยความเหนื่อยของเขาก็ดังออกมาจนเธอต้องส่ายหน้า
"ท่าจะเหนื่อยจริงๆ"
เธอเดินเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัวและวิ่งผ่านน้ำด้วยความรวดเร็ว ก่อนรีบออกมาใส่ชุดนอนที่มิดชิดที่สุดเท่าที่มี แต่ความเมาก็ทำให้เธอติดกระดุมมั่วไปหมดจนหงุดหงิด เธอยืนทะเลาะกับเสื้อนอนแขนยาวตัวนั้นอยู่นานจนทนไม่ไหว จึงถอดมันออกทางศีรษะโดยลืมไปว่าในห้องไม่ได้มีเธอแค่คนเดียวอีกต่อไปแล้ว
คนเมาเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อค้นหาชุดนอนตัวใหม่ และที่เหมาะก็คงเป็นชุดที่ใส่ง่าย นั่นคือชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยว จึงถอดกางเกงขายาวออก แล้วหยิบชุดสายเดี่ยวนั้นมาใส่ทันที
การกระทำทั้งหมดของเธอตั้งแต่ออกจากห้องน้ำแล้วมายืนทะเลาะกับกระดุมเสื้อ จนถึงถอดเสื้อผ้าออกหมด ก็อยู่ในสายตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงที่ไม่ได้หลับจริงๆมาตลอด เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่แล้วใช้มือกดลูกชายตาเดียวที่มันตื่นตัวตั้งโด่เอาไว้ พร้อมลูบมันเบาๆเพื่อปลอบใจและกล่อมให้หลับ เพราะยังไงคืนนี้ก็คงไม่ได้กินแม่สาวอัณณานี่อีกครั้งแน่ ถึงเธอจะเมา แต่ท่าทางของเธอก็ไม่ได้จะสมยอมเหมือนคราวที่แล้ว ขืนไปทำอะไรเธอ เธอคงเอามีดไล่ฟันเขาแน่ๆ
อัณณาเดินไปปิดไฟแล้วขึ้นเตียง สอดตัวใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันกับเขาแล้วก็หลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเมา เขารอจนเธอหายใจสม่ำเสมอแล้ว ก็ขยับกายเข้าใกล้แล้วโอบประคองร่างบางให้มานอนซุกซบอยู่แนบอกอย่างที่เคยทำมาแล้วคืนหนึ่ง เขาก้มมองคนที่นอนหลับสนิทในอ้อมกอด แล้วก้มหน้าลงจูบหน้าผากโหนกนูนของเธอแผ่วเบาครั้งหนึ่ง แล้วก็เข้าสู่ห้วงนิทราอันแสนหวานตามเธอไปติดๆ
บรรยากาศงานแต่งงานในสวนสวยเป็นไปด้วยความชื่นมื่น สถานที่สวยงามได้รับการประดับตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวชนิดต่างๆและสีฟ้าของดอกไฮเดรนเยียทั่วทั้งงาน เจ้าสาวในชุดลูกไม้เนื้อดีสีขาวงาช้าง แหวกอกพอเหมาะโชว์หน้าอกอวบอิ่มและแหวกหลังลึกโชว์ผิวขาวราวน้ำนมของเจ้าสาว ชุดกระโปรงบานฟูฟ่องกำลังงาม บนศีรษะเกล้ามวยต่ำแล้วประดับด้วยผ้าคลุมผมเจ้าสาวผืนบางยาวสวย ที่ด้านข้างมวยผมนั้นก็ประดับด้วยช่อดอกไม้ดอกเล็กๆสีขาวดูอ่อนหวาน เธอยืนเคียงคู่กับเจ้าบ่าวในชุดสูทสากลสีดำดูหล่อเหลาสมกันราวกิ่งทองใบหยก หลังจากที่บ่าวสาวยืนถ่ายรูปกับแขกที่มาในงานเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงพิธีมอบแหวนและปฏิญาณรักกันอย่างเรียบง่ายตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ เขาสวมแหวนเพชรเม็ดใหญ่น้ำงามให้กับเธอ แล้วเธอก็สวมแหวนทองคำขาวที่มีเพชรเม็ดเล็กฝังอยู่ตรงกลางให้กับเขา “ผมจะรัก ซื่อสัตย์ มีอัณณ์แค่คนเดียวและดูแลอัณณ์กับลูกตลอดชีวิต ผมสัญญา” “อัณณ์ก็จะรัก และซื่อสัตย์กับคุณคนเดียวตลอดชีวิตค่ะ” บ่าวสาวโผเข้าจูบกั
อย่าคิดว่าดาราหนุ่มที่มีสถานะสมรสและเป็นคุณพ่อของลูกสาวในวัยสามเดือนจะหมดความฮอตนะ เปล่าเลย เขากลับยิ่งโด่งดังและครองใจผู้คนหลากหลายช่วงวัยยิ่งกว่าเดิม เพราะนอกจากงานละคร งานอีเว้นท์ต่างๆแล้ว งานพรีเซ็นเตอร์สินค้าและโฆษณายังเข้ามาหาเขาอย่างล้นหลาม แน่นอนว่าโฆษณาผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์มีมากมาย ทั้งน้ำหอม ครีมบำรุงผิวผู้ชาย เสื้อผ้า น้ำดื่ม น้ำอัดลม เครื่องดื่มบำรุงสมอง เฟอร์นิเจอร์ ขนมขบเคี้ยว สถาบันการเงินต่างๆ และต่างๆอีกมากมาย ชนิดที่ว่าเปิดทีวีมาจะต้องเห็นหน้าเขาแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้ โดยเฉพาะยิ่งเขามีลูกสาวที่แสนน่ารักและมีครอบครัวที่อบอุ่น ยิ่งมีงานโฆษณาที่เกี่ยวกับเด็กและครอบครัวติดต่อเข้ามาอีกมาย ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปของลูกน้อย แป้งเด็ก สบู่และยาสระผมเด็ก นมผงเด็ก เสื้อผ้าและของใช้จำเป็นของเด็กอีกมากมาย และภรรยาที่แสนจะงกของเขาก็รับเอาไว้หมดทุกชิ้น จนกลายเป็นว่า นอกจากเขาที่เป็นดาราที่ดังเพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีลูกสาวที่กลายเป็นซุปตาร์ตัวน้อยที่ครองใจประชาชนไปทั่วประเทศแล้ว จนคนเป็
สองสัปดาห์ต่อมา ละครที่เขารับเล่นไว้ก็ได้ฤกษ์เปิดกล้องถ่ายทำวันแรก ปุณณัตถ์ที่หยุดงานไปหลายเดือน แล้วไปใช้ชีวิตพ่อบ้านเสียเต็มที่ วันนี้เป็นวันแรกที่ต้องออกมาทำงานห่างไกลลูกเมียก็รู้สึกไม่ชิน จึงออดอ้อนขอให้เมียและลูกรักมาทำงานกับเขาด้วย ดีหน่อยที่เขามีรถบ้านที่สะดวกสบายและแอร์เย็นฉ่ำ จึงมีที่สำหรับให้ลูกนอนระหว่างวันตอนที่รอเขาทำงาน ระหว่างพักกอง หรือในช่วงที่ไม่มีบทของเขา เขาจะแวะเข้ามาหาลูกเมียเสมอ เขาหอมแก้มลูกสาวเพื่อเป็นกำลังใจ และจูบเมียหวานๆเนิ่นนานจนเมียอ่อนระทวยเพื่อเป็นพลังให้เขากลับไปเข้าฉากอีกครั้ง เมื่อน้องแป้งหอมที่นอนกลางวันจนเต็มอิ่ม ตื่นแล้ว อัณณาจึงใส่หมวกให้ลูกสาวแล้วพาออกไปเดินเล่นรับลมในโลเคชันสวนสาธารณะ “อุ๊ย นั่นภรรยาพี่โปรดนี่นา” บรรดาแฟนคลับของเขาที่มารอให้กำลังใจในงานชิ้นแรกหลังเกิดเรื่องเกิดราว หันมาเห็นอัณณากำลังอุ้มลูกสาวเดินเล่นบริเวณสวนสาธารณะใกล้ๆกองถ่ายพอดี “ใช่จริงๆด้วย ไปขอถ่ายรูปกันไหม”
“อัณณ์ครับ คุณว่าผมรับละครเรื่องนี้ดีไหม ไม่ต้องแคสเลย ผู้ใหญ่ส่งบทมาให้ผมโดยเฉพาะเลย ไม่รู้เพราะปลอบใจในเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า” “จะเพราะอะไรก็เป็นโอกาสของเราค่ะ ไหนเรื่องอะไรคะ ขออัณณ์ดูหน่อย” เธอรับบทละครของเขามาดู แค่เห็นชื่อผู้แต่งต้นฉบับและผู้แต่งบทละคร แถมชื่อผู้กำกับและผู้จัด คำตอบที่เขาควรมีคือ รับครับ ไม่ต้องถามอะไรกันอีกแล้ว “โห คุณโปรด เรื่องนี้มันสุดยอดเลยนะคะ ขายดีตั้งแต่เป็นนิยายแล้ว ไหนจะผู้จัดผู้กำกับอีก อัณณ์ว่าคุณควรรับนะคะ นี่มันโอกาสทองเลยล่ะ” “อืม นั่นสินะ โอกาสทองเลย คุณพ่อลูกหนึ่งอย่างผม ยังมีโอกาสดีๆแบบนี้ก็น่าดีใจมากจริงๆ คุณกับลูกคือเครื่องรางนำโชคของผมนะครับ” “ที่คุณได้มาทุกอย่างเพราะความสามารถและความทุ่มเทของคุณต่างหาก” “ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างผมนะ เสียดายที่ลูกยังเล็ก ไม่งั้นผมก็อยากให้คุณตามผมไปด้วยทุกที่ จะได้มีกำลังใจจากเมียตลอดเวลา” เขาทิ้งตัวลงนอนหนุนตักของภรรยาสาวสวย แล้วจับมือเธอมาจูบเห
ปุณณัตถ์กับอัณณากลับเข้าบ้านมาอีกทีก็บ่ายคล้อยแล้ว เพราะหลังจากแถลงข่าว ผู้ใหญ่ท่านอื่นๆที่ช่องก็เรียกพบเขาเพื่อขอโทษที่มีผู้ใหญ่บางคนใช้อำนาจบังคับให้เขาต้องฝืนใจคบกับมินตรา แถมยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดเรื่องราวบานปลายแบบนี้ ปรากฏว่าตอนนี้ ทั้งละคร งานโฆษณา พรีเซ็นเตอร์สินค้า ต่างก็กลับคืนมาหาเขาจนหมด แถมผู้ใหญ่ยังมอบโอกาสเสนอบทละครที่ตั้งใจให้เป็นละครฟอร์มยักษ์แห่งปีมาให้เขาพิจารณาด้วย จากนั้น คุณพ่อที่เพิ่งเปิดตัวลูกเมียหมาดๆ ก็พาเมียกับลูกไปเดินเที่ยวห้างและช้อปปิ้งของให้ลูกรัก แถมยังซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมให้เมียรักอีกหลายใบ ก่อนกลับบ้านก็พาเธอไปทานอาหารร้านโปรดของเธอกับเขา แต่เมื่อก่อนต้องไปอย่างหลบๆซ่อนๆ แต่วันนี้ได้พาเมียพาลูกออกสู่สังคมอย่างเต็มภาคภูมิเสียที เมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องตกใจเพราะมีแขกสำคัญมานั่งรอเธอกับเขาที่ห้องนั่งเล่นอยู่นานแล้ว “พ่อ” อัณณาวิ่งเข้าไปสวมกอดพ่อของเธอทันทีที่เข้ามาในห้อง เธอปล่อยน้ำตาให้ไหลอาบแก้มเพราะความกดดันและอัดอั้นตันใจมาตลอด
“กรี๊ดดดดดดดดด พี่โปรด พี่กล้าทำกับมินนี่ขนาดนี้เลยหรอ กรี๊ดดดดดดด” เสียงกรีดร้องดังลั่นบ้านของมินตรา ทำให้มารดาและพ่อเลี้ยงของเธอ ที่กำลังดูแถลงข่าวอยู่ที่ห้องนอนส่วนตัว รีบวิ่งลงมาดูเธอที่อยู่ในห้องนั่งเล่นทันที “มินนี่ ใจเย็นๆลูก” มารดาเข้ามาปลอบใจโดยไม่ต้องถามว่าลูกเป็นอะไร เพราะทีวีที่เปิดทิ้งเอาไว้อยู่เป็นช่องเดียวกันกับที่เธอและสามีเปิดดูเมื่อสักครู่ “พี่โปรดทำแบบนี้กับมินนี่ได้ยังไง มินนี่ไม่ยอม ทำไมเขาไม่เลิกกับนังอัณณ์แล้วมาแต่งงานกับมินนี่” อานนท์ บิดาของอัณณาที่ยังคงช็อกกับเรื่องของลูกสาวไม่หาย ทั้งๆที่ได้รับรู้เรื่องราวโดยละเอียดจากตุลย์อดีตคนรักของลูกสาวแล้วก็ตาม แต่พอภรรยาเปิดแถลงข่าวของมินตราให้ดูตอนเช้า ก่อนจะฟังการแถลงข่าวของดาราหนุ่มลูกเขยหมาดๆต่อเลยทันที ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าลูกต้องมาเจอกับเรื่องราวอะไรแบบนี้ และเมื่อได้ยินมินตราพูดแบบนี้ก็ชักสีหน้าไม่พอใจ “ลุงว่ามินนี่ทำเกินไปหน่อยนะ” “เกินไปตรงไหนค