รัญรวีลงจากรถแล้วก็รีบเดินเข้าหอพักในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวอาบน้ำสระผมและเก็บชุดทำงานที่ร้านซักรีดเอามาแขวนไว้หน้าห้องใส่ตู้จากนั้นก็ตรวจดูว่ามีของใช้อะไรที่จะต้องซื้อไหมเพราะคิดว่าพรุ่งนี้สายๆ จะไปหาซื้อให้ครบก่อนจะทำงานยาวอีกหลายวัน
แต่ยังตรวจไม่ครบพีรกันต์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าเขาถึงบ้านแล้ว เธอคุยกับเขาอีกไม่นานเพราะอยากให้เขาได้พักผ่อนเนื่องจากขับรถไปกลับวันนี้รวมแล้วก็หลายชั่วโมง
หญิงสาวก็อยากจะช่วยเขาขับอยู่หรอกแต่มันติดตรงที่เธอนั้นขับรถไม่เป็น เธอเคยคิดที่จะซื้อรถมือสองมาใช้แต่เพราะหออยู่ในโรงพยาบาลก็เลยไม่คิดจะซื้อ รัญรวีจึงเปลี่ยนใจมาเก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมห้องเล็กๆ แทนเพราะถ้าจะออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลเอกชนก็รู้สึกว่าตนเองจะเอาเปรียบโรงพยาบาลมากเกินไป
เมื่อวางสายแล้วก็เปิดตู้เย็นดูว่ามีอาหารกึ่งสำเร็จรูปอะไรที่ต้องซื้อมาเพิ่มไหมเพราะที่หอไม่อนุญาตให้ทำอาหาร ในห้องของเธอจึงมีแค่ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อนและหม้อชาบูใบเล็กที่เอาไว้ทำกินเองคนเดียว
เสียงเคาะประตูทำให้เธอรีบปิดตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดเพราะดึกแบบนี้คนที่มาเคาะน่าจะมีเรื่องด่วน
“อ้าว จุ๋มวันนี้ไม่ขึ้นเวรบ่ายเหรอ”
“ขายให้น้องแขน่ะ พอดีตอนเย็นมีญาติมาจากต่างจังหวัดเลยไปกินข้าวกับเขา จุ๋มแวะมาหาที่ห้องไม่เจอลุงยามบอกว่ามีหนุ่มมารับคุณกันต์เหรอ”
“ก็เขานั่นแหละ รีบกลับห้องไหมเนยมีอะไรจะเล่าให้ฟัง”
“ไม่รีบพรุ่งนี้ขึ้นบ่าย เรื่องยาวไหมจะได้เอาที่นอนมาที่นี่”
“ก็ยาวอยู่ เอาที่นอนมานอนด้วยกันก็ได้เราไม่ได้นอนคุยกันนานแล้ว”
“รอเดี๋ยวนะขอไปเอาก่อน” จริญญากลับมาที่ห้องของตนเองและกลับมาอีกครั้งในเวลาไม่ถึง 5 นาที จากนั้นก็ช่วยกันจัดที่นอน
รัญรวีเล่าเรื่องที่เธอยอมตกลงเป็นแฟนกับพีรกันต์ให้เพื่อนฟังก่อนเป็นเรื่องแรก
“ดีใจด้วยนะเนย อย่าลืมพาเขามาเจอจุ๋มล่ะ”
“อยากเจอเหรอ”
“ใช่สิ จุ๋มอยากเจอคนที่ทำให้ทำเพื่อนจุ๋มหัวใจเป็นสีชมพูอีกครั้ง”
“ก็เคยเจอแล้วนี่”
“ตอนนั้นยังไม่รู้นี่ว่าเขามาจีบเนย”
“จุ๋มว่ามันเร็วไปไหมที่เรายอมเป็นแฟนเขา”
“ไม่หรอกจุ๋มว่าช้าไปด้วยซ้ำสมัยนี้บางคนเจอกันไม่กี่วันก็เป็นแฟนกันแล้วหรือถ้าเร็วหน่อยยังไม่ทันรู้จักกันก็นอนด้วยกันแล้ว”
“นั่นก็เร็วเกินไปแล้ว”
“จุ๋ทพูดจริงนี่ ไม่อยากจะเม้าท์เลย”
“เม้าท์อะไร”
“ก็ได้ข่าวมาว่าน้องหวานฝ่ายบัญชีนางอกหักแล้วไปเที่ยวผับ ทีนี้นางก็เมามากก็เลยประชดชีวิตด้วยการไปวันไนท์สแตนด์กับผู้ชายที่เพิ่งเจอกัน”
“แล้วได้ป้องกันไหม” รัญรวีถามด้วยความเป็นห่วงเพราะเธอก็รู้จักรุ่นน้องคนนี้เหมือนกัน
“เรื่องนั้นไม่น่ากังวลเท่าไหร่”
“แล้วกังวลเรื่องอะไร”
“ก็คนที่นางไปวันไนท์ด้วยเขาเป็นพ่อหม้ายลูกติด พอตื่นมาตอนเช้าลูกเขาเข้ามาที่ห้องแล้วคิดว่านางเป็นแม่เรื่องเลยยุ่งกันไปใหญ่ นี่ก็ไม่รู้จะเอายังไงต่อ”
“น่าเห็นใจนะ หวังว่าหวานจะผ่านเรื่องนี้ไปได้”
“เราสองคนก็คงได้แต่เอาใจช่วย ว่าแต่เนยมีเรื่องจะเล่าอีกไม่ใช่เหรอ”
“ก็เรื่องคุณกันต์นั่นแหละ อยากฟังต่อไหม”
“อยากสิ เล่ามาเลย”
“เขาชวนพวกเราไปทำงานกับเขา”
“พวกเราเหรอ แสดงว่าชวนหลายคนเลยแล้วเขาทำงานอะไรที่ไหนล่ะ”
“จุ๋มรู้จักโรงพยาบาลเอกชน XX ไหม”
“รู้จักสิ ก็โรงพยาบาลนี้ที่เพื่อนเราหลายคนไปทำพาร์ทไทม์เงินดีมากเลยนะ คุณกันต์เขาทำงานที่นี่เหรอ”
“ใช่ เขาบอกว่าที่นั่นเป็นโรงพยาบาลของที่บ้านเขา”
“อะไรนะ โรงพยาบาลของที่บ้านหมายถึงเขาเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเหรอ”
“ก็คงอย่างนั้นเนยไม่กล้าถามเยอะ”
“ไม่เป็นไรเดี๋ยวจุ่มสืบเอง”
“นั้นจะโทรไปไหนดึกแล้วนะ” รัญรวีตกใจที่เพื่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาในเวลาเกือบจะตีหนึ่งแบบนี้
“ไม่ได้โทรก็แค่จะถามในไลน์ไปถามในกลุ่มว่ามีใครรู้จักผู้บริหารโรงพยาบาลนั้นบ้าง”
เมื่อกดส่งข้อความไปแล้วสองสาวก็ลุ้นคำตอบและนับว่าโชคดีมากที่เพื่อนในกลุ่มมีรูปถ่ายผังองค์กรของที่นั่น
“นี่ใช่คุณคุณกันต์ของเนยไหม”
“คุณกันต์ไม่ใช่ของเนยสักหน่อยเราเพิ่งคบกัน”
“เขาเป็นประธานเลยนะ”
“คุณกันต์บอกว่าพ่อเพิ่งมอบตำแหน่งให้เมื่อไม่นาน ตอนนี้พ่อเขาก็ยังเป็นที่ปรึกษาอยู่ ส่วนคนนี้น่าจะเป็นพี่ชายเขา” เธอชี้มือไปยังคุณหมอท่านหนึ่งที่มีนามสกุลเดียวกับเขา
“คนนี้จุ๋มเคยได้เคยได้ยินชื่ออยู่เขาเคยส่งคนไข้มาที่นี่อยู่หลายครั้ง”
“เนยก็พอจะคุ้นชื่ออยู่”
“แล้วเนยจะเอายังไงต่อเรื่องไปทำงานที่นั่น”
“เนยรับปากว่าจะไปช่วยงานเขาก่อนที่จะรู้ว่าเขาคือเจ้าของโรงพยาบาล แต่คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก ถ้าจะออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่อื่นเนยว่าจะลองหาที่พักใหม่”
“คอนโดที่จุ๋มบอกไง พรุ่งนี้เราไปดูกันไหม”
“ได้สิ เนยเวรบ่ายจุ๋มก็เวรบ่ายเราไปดูคอนโดแล้วไปซื้อของเข้าหอกันดีไหม”
“ดีเหมือนกันงั้นรีบนอนกันดีกว่าพรุ่งนี้จะได้ไปกันแต่เช้า”
รัญรวีเอื้อมปิดไฟที่หัวเตียงแต่ยังไม่ทันจะหลับจริญญาก็ลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง
“เป็นอะไร”
“จุ๋มอยากรู้เรื่องของคุณกันต์อีกนิด”
“เนยก็เล่าไปหมดแล้วนะ”
“จุ๋มไม่ได้หมายถึงเรื่องที่เนยรู้มา แต่อยากรู้ว่าคุณกันต์ตอนที่อยู่โรงพยาบาลเขาเป็นยังไงบ้าง” จริญญาไลน์ไปถามเพื่อนที่ตอนนี้กำลังขึ้นเวรอยู่ที่โรงพยาบาลของพีรกันต์ รอไม่นานเพื่อนก็ตอบกลับเพราะเวลาดึกแบบนี้คนไข้จะหลับหมดแล้ว
‘คุณกันต์เป็นขวัญใจของสาวๆ ที่นี่ ทั้งหมอทั้งพยาบาลต่างก็ชอบเขาทั้งนั้น’
‘แล้วเขาชอบใครหรือเปล่า’
‘เท่าที่รู้คือไม่ คุณกันต์อัธยาศัยดี วางตัวดีแต่ไม่เคยยุ่งกับพนักงานของตัวเองเลย จุ๋มถามทำไมหรือสนใจคุณกันต์’
‘พอดีว่าจุ๋มเคยเจอคุณกันต์เห็นว่าเขาหล่อดีก็เลยอยากจะรู้ว่ายังโสดอยู่หรือเปล่า’
‘เรื่องโสดตอนนี้ก็น่าจะโสดนะ แต่เรื่องเจ้าชู้ก็ขึ้นชื่อ’
‘ทำไมเหรอ’
‘เราได้ข่าวว่าเขาเจ้าชู้มาก คบผู้หญิงแต่ละคนก็ไม่เกินสามเดือน’
‘ขอบใจนะสำหรับข้อมูล’
‘เมื่อไหร่จุ๋มจะมาทำงานที่นี่บ้างล่ะ เงินดีนะ ตอนนี้กำลังเปิดรับสมัครพยาบาลอีกเยอะเลยนะ ชวนเนยกับคนอื่นๆ มาด้วย’
‘เราก็กำลังจะไปสมัครอยู่แต่ยังไม่ว่าง ว่าแต่เขามีหมดเขตไหม’
‘ไม่หรอกมาสมัครได้เรื่อยๆ เลย อย่าลืมชวนเพื่อนมาเยอะๆ นะ’
“คุณกันต์เขาเคยบอกเนยไหมว่าเขาเจ้าชู้”
“บอก แต่ไม่ได้บอกว่าคบแต่ละคนไม่เกินสามเดือน”
“จุ๋มขอโทษนะที่ทำให้เนยไม่สบายใจ”
“ไม่เป็นไรหรอก เราตกลงคบกับเขาไปแล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ถ้าเขาจะเลิกคุยก่อนสามเดือนมันก็เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว”
“เนยยังไม่รักเขาใช่ไหม ถอนตัวตอนนี้ยังทันนะ”
“ยังไม่รักหรอกแค่รู้สึกดี เขาอยู่ด้วยแล้วสบายใจ เวลาเนยบ่นเรื่องงานหรือเรื่องคนไข้เขาก็เป็นผู้รับฟังที่ดี”
“พูดแบบนี้แสดงว่าจะคบต่อ”
“ก็อยากจะลอง เราอยากให้โอกาสเขา”
“จุ๋มเชื่อว่าเนยมองคนออก บางเรื่องที่คนอื่นพูดถึงเขาอาจไม่ใช่เรื่องจริงก็ได้ จุ๋มมองว่าเขาจริงใจกับเนยนะ ถ้าคนเจ้าชู้จริงๆ เขาไม่เสียเวลาคบเป็นเพื่อนนานถึงสองเดือนหรอก”
“เนยก็หวังอย่างนั้น”
“นอนกันดีกว่านะ พรุ่งนี้เรามีอะไรต้องทำกันอีกเยอะ”
รัญรวีเอื้อมปิดไฟตรงหัวเตียงอีกครั้งแต่กว่าจะนอนหลับเวลาก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ