ทั้งที่หลงรักเขามาตั้งเกือบสามปี ทำไมตอนนี้เพิ่งรู้สึกเจ็บ หรือเพราะตอนนี้เธอกับเขามีความสัมพันธ์ทางกายกันแล้ว นี่สินะความน่ากลัวของความผูกพันทางใจเมื่อมีเรื่องทางกายเกิดขึ้น
แต่มันคงเกิดขึ้นแค่กับเธอเท่านั้น กับเขามันก็คงเป็นเพียงวันไนต์สแตนด์ทั่วไปเท่านั้น ถ้าเขาจะต้องมานั่งจำเรื่องผู้หญิงคืนเดียวของเขา เขาคงไม่เป็นอันทำอะไร...ลืมมันซะถ้าไม่อยากเจ็บ บอกตัวเองแค่นั้นแล้วก็ทำงานของตัวเองต่อไป
หลังจากนั้นเธอก็ขอตัวกลับก่อนเวลา ให้เหตุผลว่าไม่สบายซึ่งพี่เจ้าของร้านก็เข้าใจดี คงเพราะเธอไม่เคยลางานมาก่อน พอกลับมาถึงห้อง น้ำตาที่ไม่เคยคิดว่าจะมีก็ไหลอาบแก้ม จะมาร้องไห้อะไรกันตอนนี้
จะหวังอะไรกับเขา เธอเดินไปหยิบไม้ถูพื้นมาถูพื้นทำความสะอาดห้อง เก็บทุกอย่าง ถูทุกซอกทุกมุมจนมันสะอาด ซึ่งจริง ๆ มันก็สะอาดอยู่แล้ว ที่ทำไปเพราะอยากให้ตัวเองเหนื่อยเท่านั้น เหนื่อยมาก ๆ จะได้เลิกคิดอะไรที่ไม่เข้าท่า
เธอเอนหลังนอนบนโซฟาตัวใหญ่ด้วยความเหนื่อย ความเหนื่อยล้าทั้งเรื่องเมื่อคืนและเรื่องของเขาวันนี้ด้วย เธอไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไร มารู้ตัวอีกทีเพราะเสียงกดออดหน้าห้อง เมื่อมองเห็นหน้าผู้ชายในจอรับภาพ เธอก็อดแปลกใจไม่ได้ ไม่คิดว่าเจ้าของวันเกิดและคนที่อยู่ในความคิดของตัวเองจะมายืนอยู่หน้าห้อง
“มีอะไรหรือเปล่า” เธอเปิดประตูออกไปคุยกับเขา พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด ทั้งที่ในใจไม่ได้ปกติเลยสักนิด
“ขอเข้าไปได้ไหม”
“เออ ...ได้” เธอเบี่ยงตัวให้เขาเดินเข้ามาในห้อง เขาเดินตรงไปยังโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง เธอนั่งลงโซฟาอีกตัวซึ่งห่างจากเขาพอสมควร
“กินยาหรือยัง”
“ยาอะไร” กานดาไม่เข้าใจคำว่ายาของเขา
“ก็ยาคุมฉุกเฉินไง” เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ความรู้สึกร้อนทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว เธอรู้สึกอายกับสิ่งที่เขาถาม เธอลืมเรื่องนี้ไปเลย
“ยัง” เธอตอบออกไปเบา ๆ น่าจะตีตัวเองนัก ลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร ทั้งเรื่องป้องกัน ทั้งเรื่องยาคุม ท้องขึ้นมาจะเอาปัญญาอะไรไปเลี้ยงลูก แค่ลำพังตัวเองยังต้องกินให้น้อยเข้าไว้
“ซื้อมาให้ คำแนะนำอยู่ในกล่อง”
“อือ” สิ่งนี้สินะที่เขาห่วง ห่วงว่าเธอจะท้อง ก็ยังดีที่ยังมีความรับผิดชอบ ถ้าจะรับผิดชอบกว่านี้ควรใส่ถุงไหม
“กลับก่อนนะ”
“อือ” เธอตอบไปเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มยืนขึ้นแล้วเดินออกห้อง แต่จังหวะนั้นเขาก็หันกลับมาหาเธออีกครั้ง
“ขอเบอร์หน่อยได้ไหม”
“เออ ...”เธอกำลังตกใจกับคำขอนั้น แต่ก่อนที่เธอจะคิดอะไรเตลิดเปิดเปิงเขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เผื่อจะโทรบอกเวลากินยาเม็ดที่สอง”
“โอเค...081... ..”
เธอบอกเบอร์โทรเขาไป ความร้อนพุ่งขึ้นบนใบหน้าอีกครั้ง คิดไปได้ไงว่าเขาอยากติดต่อเธอ จากนั้นเขาก็บอกให้เธอเมมเบอร์มือถือเขาไว้ด้วยเผื่อถ้ามีผลข้างเคียงของยา เขาบอกให้โทรหาเขาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ
“กลับก่อนนะ”
“อืม ...” เธอตอบเขาแค่นั้นเพราะเธอคิดว่าพวกเขาทั้งสองคน คงไม่มีเรื่องอะไรให้คุยกันอีก มันคือความผิดพลาด ไม่ใช่ความตั้งใจ ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ก็ต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ ก็แค่คนที่เคยเอากันจะคิดอะไรให้มาก กานดาบอกกับตัวเอง
วันนี้ของเธอหมดไปกับการวุ่นวายทำโน่นทำนี่ เอาเสื้อผ้ามาซัก ผ้าปูที่นอนที่ซักไว้ก่อนไปทำงานเมื่อแห้งแล้วก็ไม่หลงเหลือคราบเลือดคราบอะไรต่ออะไรอีก คงไว้แค่ความทรงจำ นับจากวันนี้ก็คงไม่รู้สึกอะไรแล้ว ความง่วงเข้าเล่นงานเธออีกครั้ง เธอหลับไปตอนนอนดูซีรีส์ดัง ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะเสียงโทรศัพท์ กานดาไม่ได้มองที่หน้าจอแต่แนบหูกับโทรศัพท์มือถือด้วยความเคยชิน
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงอ่อนเพราะยังไม่หายจากการง่วงซึม
“กินเม็ดที่สองได้แล้ว”
“หือ ... อือ” เสียงตอบรับของเธอตอบทั้งที่ยังง่วงอยู่ แต่ก็ยังจำเสียงจากปลายสายได้
“นี่คงกลัวฉันท้องมาก ๆ เลยสินะ” บ่นออกมาไม่จริงจัง แต่ก็ดีไม่ใช่เหรอ อย่างน้อยเขาก็ไปซื้อยามาให้ในเมื่อมันเป็นเรื่องผิดพลาด อย่างน้อยเขาก็แสดงความรับผิดชอบที่ควรจะเป็น
และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่ได้คุยกัน ถึงจะอยู่ห้องไม่ไกลกัน แต่โอกาสที่จะบังเอิญเจอกันนั้นยากมาก เพราะตอนนี้ก็เป็นช่วงปิดเทอมด้วย ทั้งคู่ไม่ต้องไปเรียนโอกาสที่จะออกจากห้องตรงกันนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย
แต่แปลกที่เธอกลับเจอเขาบ่อยครั้งขึ้นที่ร้านกาแฟ และตอนนี้เหมือนเขาจะเป็นลูกค้าประจำของร้านไปเสียแล้ว คงเพราะร้านอยู่ข้างล่างคอนโดทำให้เขาแวะมาได้บ่อย ๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะลูกค้าส่วนมากก็เป็นคนที่พักในคอนโดนี้ทั้งนั้น
สะโพก เผยให้เห็นข้างเอวที่เป็นส่วนเว้าลึกของบอดี้สูทที่หายเข้าไปในกางเกงยีนชุดนี้ทำให้หัวใจผมสูบฉีดอย่างไม่ต้องสงสัย เลือดลมหนุ่มใหญ่วัยจะสี่สิบกำลังจะขาดใจเพราะหวงเมีย“ไม้ว่าวันนี้เราไม่ต้องไปดีไหม นอนฟังเพลงที่บ้านก็ได้เมาก็จะได้หลับ” ผมเริ่มไม่อยากพาเมียไปเลย ไม่อยากให้คนมอง แต่ถ้าจะให้เธอไปเปลี่ยนชุดใหม่มันก็ดูขี้หวงเกินไป หรือผมควรจะทำอย่างไรดี แกล้งป่วยจะได้ผลไหมนะ“ ไม่ได้วันนี้แก้วนัดวี อิงดาวไว้” สองสาวเพื่อนซี้ของเมียผมตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย“อืม แต่ถ้าพ่อไม่อยากไปด้วยแม่ไปคนเดียวก็ได้นะ“ไม่เอาไปด้วย” เรื่องอะไรผมจะปล่อยเมียไปคนเดียว แล้วยิ่งเมียแต่งตัวแบบนี้บอกได้คำเดียวว่าผมไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน“งั้นก็ไปค่ะ”“ผ้าคลุมไหม ในนั้นหนาวนะ” ผมแสร้งเป็นหวังดีแต่เพราะหวงนั่นแหละ“ก็ได้ค่ะ” เธอยิ้มให้ผมกอดแขนอย่างออดอ้อน ไม่ชอบเลยที่เธออ้อนแบบนี้เพราะผมจากปกติที่หลงเมียอยู่แล้วกลับหลงหนักกว่าเดิม@เดอะไนต์กู๊ด (The Nightgood)[1] ผมชอบไนต์คลับแห่งนี้มาก ไม่คิดว่าเพื่อนเมียจะชอบเหมือนกัน ผมโทรหาไอ้ฟ้า กับ ไอ้เลให้แวะมาเที่ยวด้วยกัน อย่างที่รู้ ๆ กันพวกเรามันพวกชมรมพ่อบ้
ผมชอบนะเวลาได้แกล้งเมียรัก ความรู้สึกเวลาเธอโมโห เธอแหวใส่ผมมันทำให้ผมอบอุ่นใจทุกครั้ง รู้สึกเหมือนได้อยู่กับแม่ เธอมีความเป็นแม่สูงมาก พวกเราเลี้ยงลูกสามคนมาด้วยกัน ยากลำบากเหนื่อยแต่ก็ช่วยกันมาถึงทุกวันนี้ มันดีมากเลย แค่คิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาและคิดถึงช่วงเวลาในอนาคตผมก็ยิ้มกับความคิดแล้ว“พ่อขาวันนี้มีผู้ชายมาขอหอมแก้มต้นหลิวด้วย” เสียงเล็กบอกเล่าเรื่องราวของวันนี้ทำให้ผมหน้าตาขึงขังขึ้นมาทันที ใครกันที่มันกล้ามาขอหอมแก้มลูกสาวของผมกัน“แล้วต้นหลิวบอกเขาว่าไงครับ” ผมถามกลับอย่างใจเย็น เมียรักถึงกลับบีบต้นแขนผมอย่างให้กำลังใจไม่ให้โมโหมากจนเกินไป“ต้นหลิวบอกจะมาถามพ่อก่อนค่ะ” ลูกสาวผู้ฉลาดที่สุดของผม“ไม่ได้/ไม่ได้” เสียงลูกชายที่หวงน้องสาวไม่ต่างจากพ่อดังมาจากเบาะหลัง ผืนป่ากับใบไผ่รีบบอกน้องสาวทันที“ลูกได้ยินหรือยังคะ” ผมถามลูกสาวคนเล็ก“ค่ะ” หน้าเศร้าของลูกสาวทำให้ผมปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้“ทำไมครับ หนูอยากให้เพื่อนคนนั้นหอมแก้มเหรอครับ”“คือ ต้นหลิวไปหอมแก้มมิกก่อน มิกเลยจะขอหอมบ้าง แต่ต้นหลิวบอกว่าจะมาถามพ่อก่อน” ลูกสาวผมหน้าเสียยิ่งกว่าเดิม ปากน้อยกำลังคว่ำลงอย่างเอาแต่ใ
“อยากมากเมียจ๋า” เขาจัดการเสื้อผ้าตัวเองอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งบอกฉันให้จัดการเสื้อผ้าของฉัน หลายวันแล้วที่เราไม่ได้มีกิจกรรมตื่นเต้นแบบนี้เขากระโดดขึ้นเตียงเข้ามาโรมรันจนฉันแทบหายใจไม่ออก จูบเร่าร้อนทำเอาฉันแทบหายใจไม่ออก ฉันทุบอกเขาแรง ๆ ให้รู้ว่าตอนนี้เมียเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ“อื้อ” ฉันสูดอากาศหายใจเมื่อเขาปล่อยปากให้สูดอากาศเข้าเต็มที่ เขาเปลี่ยนเป้าหมายไปกินกลางลำตัวฉันแล้ว นั่นยิ่งทำให้ฉันหายใจติดขัดไม่ต่างจากเดิม ไม้เล่นฉันไม่หยุดเลย ทุกการกระทำของเขากำลังจะฆ่าฉันด้วยความสุขจนล้นความร้อนชื้นลากเลียตรงดอกไม้งามจนฉันต้องจิกทึ้ง นอนหอบหายใจให้เขาได้กระทำตามใจ ไม่ไหวแล้วฉันแทบจะตาย เขาหอบฉันขึ้นไปบนยอดเขาก่อนจะปล่อยให้ร่วงลงมาลอยคว้างบนอากาศ ความไหวหวามแตกกระจายไหลรดจนเกิดความฉ่ำชื้น“ไม้ อื้อ” เสียงครางของฉันคือสิ่งที่เขาพอใจ ทุกครั้งเขาต้องเป็นแบบนี้ ปรนเปรอฉันจนหนำใจ ครั้งแล้วครั้งเล่า ถ้าไม่ทำหมันรับรองว่ามีน้องให้เจ้าสามแสบเพิ่มแน่ แต่เพราะไม้ทำหมันแล้ว ยิ่งทำหมันแล้วยิ่งหื่นขึ้นเยอะ ความถี่ของเขามากขึ้น ใช้เวลาแต่ละครั้งแม้นไม่นานในบางครั้งเพราะต้องทำเวลา แต่ระดับความถี่ไ
ฉันยิ้มให้กับคุณพ่อลูกสาม เช้ามาความวุ่นวายของคุณพ่อคือจัดการลูกแต่ละคนพาไปโรงเรียน สิ่งที่น่ารักสุดสำหรับผู้ชายคนนี้คือความรักที่มากมายเหลือเกินฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะน่ารักได้ขนาดนี้ ยิ่งอยู่ด้วยกันฉันยิ่งหลงรักเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน“เป็นอะไรยิ้มไม่หุบ” ไม้ถามฉันในตอนที่นั่งยิ้มมองเขากลับมาจากส่งลูก พ่อคนอื่นอาจวุ่นวายกับการทำงานนอกบ้านแล้วทิ้งเรื่องเลี้ยงลูกให้เป็นหน้าที่ของแม่บ้าน แต่ไม่ใช่สำหรับเขา“ยิ้มเพราะพ่อบ้านน่ารัก”“พ่อก็น่ารักแบบนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว” พ่อ...คำเปลี่ยนเรียกตัวเองตั้งแต่เราสองคนเริ่มมีลูก ตอนนี้ลูกคนที่สามของเราได้สามขวบแล้ว เร็วมากไม่คิดว่าชีวิตที่มีความสุขจะผ่านไปเร็วขนาดนี้“น่ารักอะไรตอนคบกันแรก ๆ ให้เป็นแค่เพื่อนนอนเอง” ฉันกระเซ้า คนที่ให้เป็นแค่เพื่อนนอนในตอนแรกทำหน้าระเรื่อ“จีบใครไม่เป็นคิดว่าอยู่ด้วยกันเรื่อย ๆ เดี๋ยวแม่คงเข้าใจว่าพ่อรักแม่ รักแม่ที่สุด” แม่...คำที่เขาเรียกฉันในตอนนี้ อบอุ่นหัวใจและบ่งบอกถึงการเป็นครอบครัว“เว่อร์”“จริง ๆ พ่อรักแม่จริงนะ ไม้รักแก้วมาก บอกตั้งหลายหนไม่เชื่ออีก” เขาหอมแก้มซ้ายขวา ละลายหมดแล้วฉันเนี่ย ไม่ใช่ไม่เชื่อว
นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้กลับมาที่แห่งนี้ มหาวิทยาลัยที่เราเจอกันครั้งแรก หลังจากส่งเด็ก ๆ ไปโรงเรียนเรียบร้อย เราทั้งสองก็เลยแวะมาทานข้าวในมหาวิทยาลัย“มีอะไรจะบอก เราเคยเจอไม้ตรงนั้น ไม้ถามว่าปากกาเราหรือเปล่า” แก้วเริ่มเล่าก่อน ผมยังยิ้มและตั้งใจฟัง“เราชอบไม้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยนะ ชอบมาตลอด” เธอมองผมสายตาเป็นประกายเหมือนครั้งแรกที่เราเจอกัน ใช่สายตาแบบนี้แหละ ที่ทำผมตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ“ชอบแล้วทำไมไม่จีบ”“ใครจะกล้าจีบ พฤกษา เดือนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเธอดังมาก ส่วนเราเหรอเด็กบ้าน ๆ คนหนึ่ง แล้วแต่ละคนที่จีบเธอ ทั้งดัง ทั้งเด่นขนาดนั้น ยังโดนตอกหน้ากลับ หมอไม่รับเย็บตั้งหลายต่อหลายคน แล้วเราจะเอาความกล้ามาจากไหน อีกอย่างเราต้องทำงานหาเงินเรียนไม่มีเวลามานั่งวิ่งตามความรักหรอก”“เหมือนเก็บกดเลยแฮะ” ผมอดแซวเธอไม่ได้ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามีคนแอบรักตัวเองมานานขนาดนี้“เก็บกด ยิ่งเวลาเห็นคนกรี๊ดไม้เยอะขึ้น เรายิ่งดูห่างจากเธอไปอีก แล้วแบบนั้นใครจะกล้าจีบ เพื่อนแต่ละคนยิ่งทับถมด้วยว่าเราไม่เหมาะสมกับเธอ”“น่าสงสารจังเลย นะเนี่ย” ผมยื่นมือไปบีบจมูกเล็กของคนน่าสงสาร“ แล้วตอนนั้นนะ ตอนที่เราไ
ความแข็งขืนที่ตั้งตระหง่าน เย้ายวนใจจนเธอต้องเลียริมฝีปากตัวเอง แค่เธอเลียริมฝีปากตัวเอง ทำไมผมถึงได้ขนลุกไปทั้งร่าง ร่างกายผมจำสัมผัสจากปลายลิ้นเล็ก ๆ นั้นได้ดีริมฝีปากนั่น ลิ้นนั่น ทำผมดิ้นทุรนทุรายมากี่ครั้ง ฝ่ามือบางลูบปลายชุดนอนให้ร่นกองที่เอว เปิดเผยดอกไม้อวบอูมของเธอ ปลายนิ้วเรียวแยกส่วนแนบชิดตรงกลางกายออกเล็กน้อย เกสรดอกไม้สีแดงสด ที่ผมชื่นชอบกลิ่นหอมหวานของมันทำผมแทบคลั่ง สายตาเย้ายวนใจของเธอยิ่งทำผมอยากกระโดดขึ้นเตียง“อยากลองจังว่าลีลาจะแค่ไหน” เสียงหวาน ๆ พร้อมนิ้วมือกรีดตามรอยแยก หมดแล้วครับความอดทนของผมสิ้นสุดแล้วครับ ผมกระโดดขึ้นเตียงกระโจนเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง“เบา ๆ ไม้”“แล้วใครยั่ว”“อื้อ..อ๊า เบา” เสียงห้ามบอกเบาแต่การกระทำช่างแตกต่าง เธอกำลังขยุ้มเส้นผมของผมแน่น กดให้หน้าผม ลิ้นผมจมจ่อกับดอกไม้งามของเธอ เสียงครางหวานดังไม่หยุดเมื่อผมไล้ชิมจุดนั้นของเธอ ทุกซอกทุกมุมที่ลิ้นผมซอกซอน ความสุขหรรษาของเราจบลงในอีกหลายชั่วโมงต่อมา“เป็นไงครับ ผมได้ทิปเยอะไหมครับ” ผมกระซิบถามร่างบางในอ้อมกอด“ให้หมดตัว หมดกระเป๋าเลยค่ะ ลีลาดี ขนาดดี หน้าตาดี ดีทุกอย่าง” ผมหัวเราะชอบใจกั