ห้องบ้าอะไรไม่มีโซฟาให้นั่งเลย.. หญิงสาวทำได้แค่คิดอยู่ในใจ เธอลากเก้าอี้ที่มีอยู่ตัวเดียวมานั่งมุมหน้าต่าง
ห้องนายแพทย์เซอร์เวย์นอกจากชั้นวางหนังสือ เตียงที่ใช้นอนพักผ่อนและโต๊ะทำงานแล้ว นอกนั้นก็ไม่มีอะไรนอกจากเก้าอี้อีกตัวที่เธอลากไปนั่ง เพราะห้องของเขาไม่เคยรับแขก ถ้าจะรับแขกก็ใช้อีกห้องหนึ่ง
"??" นี่อะไรกัน ..เขานั่งทำอะไรอยู่ที่โต๊ะทำงานครู่หนึ่ง แล้วก็เดินไปนอนลงที่เตียงโดยไม่ได้พูดอะไรกับเธอเลย
เมื่อคืนนี้เขาไม่ได้นอนเลยเพราะอยู่ในห้องผ่าตัดทั้งคืน คิดว่าจะเคลียร์งานที่ค้างไว้แต่ทนความง่วงไม่ไหว
ตกลงเขาจะเอายังไงกับเรากันแน่ จะถามก็ไม่กล้า เมื่อคืนนี้ตอนเขาบอกให้ขึ้นมารออยู่บนห้องเธอก็ขึ้นมา ข้าวก็ยังไม่ได้กินแถมน้ำก็ยังไม่ได้อาบ
สองชั่วโมงผ่านไป..
พอเห็นว่าเขาขยับตัวเธอก็มีรอยยิ้มขึ้นมา อยากจะขอลงไปข้างล่าง แต่เขาก็ทำแค่ขยับแล้วก็นอนหันหลังให้
อ๊อยยหิว เป็นห่วงแม่ก็ห่วง และตอนนี้ต้องได้มาห่วงท้องตัวเองอีก
อีกหนึ่งชั่วโมงผ่านไป..
"คุณหมอคะ" ตายเป็นตายสิ ถ้าอยู่แบบนี้เธอก็จะตายเหมือนกัน
"มีอะไร"
ตื่นแล้วเหรอ? หญิงสาวค่อยๆ เดินเข้าไปชะโงกหน้ามอง เพราะได้ยินเสียงเขาตอบรับแต่ไม่เห็นลืมตาเลย
ขณะที่ใบหน้าสวยหวานชะโงกเข้าไปใกล้..อีกฝ่ายก็ลืมตาขึ้น
"อุ๊ย..คือ ฉัน"
"ห้ามเข้าใกล้ผม"
"คะ?"
"อยากพูดอะไรก็ถอยออกไปก่อน"
"แปลกคน เออ..ขอโทษค่ะ" หญิงสาวรีบขยับออกมา "ฉันหิว"
"?" ชายหนุ่มมองไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่ผนังห้อง "เดี๋ยวจะให้คนเอาขึ้นมาให้"
"ฉันอยากจะบอกอะไรอีกอย่าง ฉันไม่มีเสื้อผ้า" ต้องรีบชิงพูดก่อนกลัวว่าเขาจะหลับไปอีก
"ผนังตรงนั้นเป็นตู้"
"คะ?" หญิงสาวเดินไปสังเกตดู อะไรจะลับลมคมในขนาดนี้ เพราะเธอคิดว่ามันเป็นแค่ผนังห้องธรรมดา "หือ?" พอเอามือแตะประตูตู้เสื้อผ้าก็เปิดออก
"มีแต่ชุดผู้ชายนี่คะ" แถมจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก แต่ละเฉดสีเรียงกันไว้อย่างดี
"มีของผู้หญิงน่ะสิแปลก คุณเลือกใส่ได้เลย"
"??" ..ถ้าจะบอกว่าชุดชั้นในไม่มีก็อายที่จะพูด
เซอร์เวย์ลุกขึ้นจากที่นอนแล้วก็เดินมาสวมเสื้อสูท
"คุณหมอจะไปไหนคะ"
"มีผ่าตัดต่อ"
"แล้วฉันล่ะคะ"
"เดี๋ยวแม่บ้านเอาข้าวขึ้นมาให้"
"??" นี่อะไรกัน เขาจะขังเราไว้ในห้องทำงานทำไม ..จะพูดมากไปกว่านี้ก็ไม่ได้ เพราะฝากชีวิตแม่ไว้กับเขา
พอนายแพทย์เซอร์เวย์ออกไปเพียงไม่นาน แม่บ้านก็จัดหาอาหารมาให้
"ขอบคุณค่ะ" เห็นสายตาคนที่มองแล้วรู้สึกแปลกๆ
ที่แม่บ้านมองเพราะไม่เคยเห็นคุณหมอพาใครขึ้นมาห้องนี้
หลายชั่วโมงผ่านไป..
ถ้าเขาเข้าห้องผ่าตัด อย่างน้อยก็ 5 ชั่วโมง เพราะผ่าตัดแต่ละเคสต้องใช้เวลามาก
กลับมาถึงห้องก็เห็นเธอนอนหลับอยู่บนเตียง
ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไป
เช้าวันต่อมา..
"??" ไอยวริญตื่นขึ้นมาพบว่าบนเตียงไม่ได้มีเธออยู่แค่คนเดียว หญิงสาวรีบมองสำรวจร่างกาย เพราะเธอสวมแค่เสื้อเชิ้ตของเขา แถมไม่มีชุดชั้นในใส่
เขาไม่ได้ทำอะไรเราเหรอ? คิดว่าจะถูกลักหลับซะแล้ว ตกลงเขาเป็นผู้ชายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม แต่ถ้าเป็นแบบที่คิดไว้ก็ดีน่ะสิ เธอจะได้ปลอดภัย
"เข้าข้างในกัน" เกษมราษฎร์เอื้อมมือมาให้อีกฝ่ายจับมือท่านไว้ เพื่อจะได้ก้าวเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน"ท่านทำอะไรคะ" นางยอมเดินตามแรงที่อีกฝ่ายจูง แต่ก็อดที่จะถามไม่ได้"บอกแล้วไงว่าไม่อยากปล่อยเวลาให้เสียไปเปล่าๆ แต่งงานกันนะ""อู๊วววว" เสียงโห่แสดงความยินดีดังขึ้นเมื่อเกษมราษฎร์คุกเข่าลงต่อหน้าผู้หญิงที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวในคืนนี้ ท่านเคยพูดไว้แล้วถึงแม้ว่าจะพูดแค่กับตัวเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำเพื่อเธอ..จะทำให้ผู้หญิงทุกคนบนโลกนี้ต้องอิจฉาเธอ"ลุกขึ้นเถอะค่ะท่าน""คุณตอบตกลงมาก่อนสิ""ท่านเพิ่งขอหมั้นไปวันก่อนเองนะคะ""ถ้าคุณไม่ตกลงผมก็จะอยู่แบบนี้""ตกลงก็ได้ค่ะ" จากเสียงโห่ร้องกลายเป็นเสียงกรี๊ดลั่นจนโรงแรมแทบจะแตก เมื่อฝ่ายหญิงตอบตกลงแต่งงานด้วยเกษมราษฎร์ลุกขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ใครมาช่วยพยุง ถึงแม้จะอายุและเยอะแล้วแต่ร่างกายของท่านก็ยังแข็งแรง เพราะการเป็นทหารต้องได้ฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา"ดีใจด้วยนะครับ" รามสูรเข้ามาแสดงความยินดี เขาดีใจมากที่จะเห็นแม่มีความสุขสักที ตั้งแต่จำความได้เลยมั้งที่เห็นแม่ต้องเฝ้ารอพ่อกลับบ้านทุกวันและลูกๆ คนที่เหลือก็เข้ามาแสดงความยินดี รวมทั้งแขกในงาน วันนี้ท่าน
เย็นวันเดียวกันนั้น.. พุดตาลเรียกลูกชายและลูกสะใภ้มาทานข้าวเย็นร่วมกัน"สวัสดีครับท่าน" รามสูรมาพร้อมกับภรรยา และลูกชาย พอมาถึงก็เห็นว่าท่านพลเอกเกษมราษฎร์ ก็นั่งอยู่ในห้องรับแขกด้วย"มาครบกันแล้วใช่ไหม นั่งก่อนสิลูก"พอลูกชายนั่งลงเกษมราษฎร์ก็ขอเป็นคนพูดเอง ท่านบอกทุกคนว่าขอเข้ามาอยู่ร่วมครอบครัวด้วย ทีแรกเกษมราษฎร์ก็ช่างใจอยู่ กลัวลูกๆ ของพุดตาลจะไม่ชอบใจ เพราะถึงยังไงพ่อของพวกเขาก็มีทีท่าว่าจะกลับมา"ยินดีต้อนรับครับ ผมเองต่างหากที่ต้องฝากคุณแม่ไว้กับท่าน" พี่ชายคนโตเป็นคนเอ่ยพูดก่อน"ขอบใจมากนะลูก" ใจจริงพุดตาลก็อยากจะอยู่กับลูกและหลานแบบนี้ไปจนแก่เฒ่า แต่มันคงเป็นไปไม่ได้แล้ว เมื่อสามีหย่าขาดจากผู้หญิงคนนั้น ยังไงท่านก็ต้องกลับมาวนเวียนจนทำให้ชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขแน่ นางก็เลยตัดสินใจตัดกรรมกันไปแต่เพียงแค่นี้"ผมจะประกาศให้สังคมรับรู้เรื่องของเราในเร็ววันนี้""เรื่องนี้แล้วแต่ท่านค่ะ" นางคิดว่าให้คนรับรู้ไว้ก็ดี เรื่องถูกนินทาหนีไม่พ้นอยู่แล้ว ใครจะนินทาก็ช่าง ขอให้ตัวเองอยู่แบบสบายใจก็พอร่วมทานข้าวเย็นกันเสร็จ ลูกชายทั้งสองก็ขอตัวกลับเพราะมันดึกแล้ว ส่วนเพลิงไม่อยากจะกลับก็ต้องได
"ใจเย็นก่อนสิคะมาเหนื่อยๆ น้ำก็ยังไม่อาบ""ขอชื่นใจก่อน" ริมฝีปากหนากระซิบพูดในขณะที่จมูกยังสูดดมคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอด"คิดถึงคุณเหมือนกันค่ะ" รักครั้งแรกของเธอมันช่างสวยงามนัก แต่เมขลาหวังว่าจะหยุดผู้ชายคนนี้ไว้ได้แค่เธอ เพราะถ้าเขามีตำแหน่งที่สูงขึ้น เขาจะเป็นเหมือนคนที่ให้กำเนิดเธอไหม"เป็นอะไร" เพลิงสัมผัสได้ว่าอารมณ์ของเธอไม่เหมือนตอนที่เรียกเขาขึ้นมาข้างบนเลย"อนาคตข้างหน้าอะไรมันก็ไม่แน่นอนค่ะ เผื่อคุณก้าวไปในตำแหน่งที่สูงกว่านี้..""อย่าคิดอะไรที่มันจะไม่เกิดขึ้น" แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอคงกลัวว่าเขาจะทำตัวเหมือนพ่อ"คุณรู้เหรอคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่""ผมรักคุณ คำนี้ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้ฟังมันจากปากผม และผมก็จะพูดให้คุณฟังเพียงคนเดียว""ขอบคุณนะคะ" ขอบคุณเขาทั้งน้ำตา แต่ก่อนตอนที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ ยังมีความสุขมากกว่านี้เลย แต่พอรู้ว่าพ่อมีนิสัยยังไง เมขลาก็เริ่มกลัวผู้ชายรอบข้าง[โรงแรมหรู]ที่พลเอกเกษมราษฎร์พาพุดตาลมาทานข้าวที่โรงแรม เพราะรู้แล้วว่านางคงไม่กลับไปหาอะไรเดิมๆอีก ท่านต้องทำให้นางเห็นว่าท่านสามารถที่จะพานางก้าวไปในทุกๆที่ได้"ทำไมคุณรู้ว่าฉันชอบกิน เออ..
"ทำอะไรกัน"คนที่กำลังโอบกอดกันถึงกับตกใจปล่อยมือออก"ท่าน?""นายคงไม่อยากจะอยู่ในกรมแล้วใช่ไหม""อย่าทำอะไรผู้กองนะคะ" ถึงแม้เธอจะตัวเล็กกว่ามาก แต่หญิงสาวก็ใจกล้าก้าวออกมายืนบังชายคนรักไว้"เรารู้ไหมว่ามันไม่สมควร""จะสมควรหรือไม่ มันอยู่ที่เราสองคนค่ะ""อย่าลืมสิว่าเราเป็นลูกของใคร""หึ.. แล้วฉันเป็นลูกของใครล่ะคะ""มันสมควรแล้วเหรอที่จะมาพูดต่อล้อต่อเถียงกับพ่อ""พ่อ?" เมขลาอยากจะพูดอะไรอีกตั้งมากมาย แต่มันจุกในอกเสียก่อน"มีอะไรกัน" แม่บ้านรีบเข้าไปตามคุณผู้หญิงออกมาดู กลัวว่าจะมีเรื่อง"คุณมาก็ดีแล้ว ผมจะเร่งเรื่องให้ลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ""เรียนต่อต่างประเทศ?" เพลิงพูดพร้อมกับมองหน้าเมขลา แล้วมองไปที่ท่านพลเอกเรวทัต"ฉันไม่ไปค่ะ""ลูกไม่อยากเรียน" พุดตาลคิดว่านางคงต้องได้ออกหน้าเองแล้วล่ะ"อายุแค่นี้ยังเรียนได้อีกตั้งเยอะ ทำไมถึงคิดสั้น""อะไรคือการคิดสั้นคะ""ก็ที่เห็นอยู่นี่ไง""คนนี้ผู้กองเพลิงท่านก็คงจะรู้จักแล้ว เขาเป็นคนรักของฉัน ไม่สิ.." ถ้าพูดแค่คนรักมันคงไม่จบตรงนี้แน่ เมขลาก็เลยให้สถานะใหม่กับเพลิง "เขาเป็นพ่อของลูกในท้องฉันเองค่ะ""???" ไม่ใช่แค่พลเอกเรวทัตและพุดตา
เห็นว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า เรวทัตก็เลยยังไม่พูดอะไรอีก เพราะคดีเก่ายังไม่เคลียร์"อยู่พร้อมหน้ากันก็ดีแล้ว พ่อจะย้ายกลับมาอยู่บ้านหลังนี้แล้วนะ"เรวทัตพูดจบ ลูกๆ ต่างก็มองดูหน้าคนเป็นแม่มันคงเป็นเวรกรรมของนางที่เคยสร้างไว้กับผู้ชายคนนี้ตั้งแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็เลยต้องได้ตามมาชดใช้กรรม หนีไปไหนก็คงจะหนีไม่พ้นแล้ว"บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคุณ คุณจะมาอยู่ใครจะว่าอะไรได้ล่ะคะ"เรวทัตอยากได้ยินคนตรงหน้าเรียกว่าคุณพี่เหมือนเดิม แต่คงต้องใช้เวลา เพราะตัวเองทำไว้กับนางเยอะ"หือ รามิล" มองเข้าไปด้านในก็เห็นลูกสะใภ้คนโตกำลังอุ้มหลานชายเดินออกมา เรวทัตก็เลยเดินเข้าไปหาหลานพอคนเป็นพ่อไปแล้ว ลูกๆ ที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มองดูหน้าแม่อีกครั้ง นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารเท่าท่านอีกแล้ว"แม่ไม่เป็นอะไรหรอก เข้าไปข้างในกันเถอะ" แค่นี้นางก็รู้แล้วว่าสามีคงจะหย่าจริง เพราะถ้าไม่งั้นคงไม่บอกว่าจะกลับมานอนบ้านหลังนี้ นางรนหาที่เอง คิดว่าท่านจะไม่กล้าหย่าดาราสาวสวยคนนั้นทุกคนเข้าไปแล้ว เมขลาก็หันกลับมากุมมือเพลิงไว้ "เรายังจะเป็นเหมือนเดิม อย่าคิดมากนะคะ" เมขลารู้ดีว่าเพลิงคิดว่าตัวเองต่ำต้อย"ผมจะไม่ถอ
"ผมมาคิดทบทวนเรื่องของเราดูแล้ว""ท่านไม่สบายหรือเปล่าคะ" แพรวพราวเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ยังคงส่งรอยยิ้มหวานๆ ให้ แบบใจดีสู้เสือ"เราหย่ากันเถอะ""คุณพี่!!""ผมจะให้ทุกอย่างที่คุณอยากได้ ผมขอแค่ให้คุณเซ็นใบหย่า""ไม่มีทางค่ะ กว่าเราจะฝ่าฟันความรักของเรามาด้วยกันได้ ทำไมคุณพี่ถึงทำแบบนี้กับแพรวคะ""ผมให้เกียรติคุณถึงได้มาคุยก่อน หรืออยากจะคุยผ่านทนายของผมล่ะ""แพรวรักท่าน ยอมอุ้มท้องลูกของท่าน ถึงแม้จะถูกใครตราหน้าว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี""เรื่องลูกผมก็ยังจะส่งเสียเลี้ยงดู""แพรวไม่ได้ต้องการแบบนั้นสักหน่อย ใครคะ..ท่านมีใครใหม่อีกเหรอคะ""เรื่องนั้นไม่เกี่ยว เรามาคุยเรื่องของเราก่อน""เรื่องของเรา แพรวไม่หย่า!""ผมมาคุยกับคุณดีๆ แล้วนะ หลังจากนี้คุณก็คุยกับทนายของผมแล้วกัน และสิ่งที่คุณอยากได้ก็อย่าฝันว่าจะได้""ท่านอย่าบอกนะว่าจะกลับไปหามันอีก""ผมเพิ่งรู้ว่ารักภรรยา""รักภรรยาอย่างนั้นเหรอคะ แล้วที่ผ่านมาล่ะผู้หญิงนับสิบนับร้อยยังจะเรียกว่ารักภรรยาได้อยู่อีกเหรอคะ!" แต่ดูเหมือนเรวทัตจะไม่ฟังอะไรอีก เพราะตอนนี้เดินไปที่รถแล้ว "กรี๊ดดดด!!""คุณแม่เป็นอะไรคะ" มโนราห์ได้ยินเสียงร้องก็รีบลงมาดู"