“ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”
“ผมขอไปอยู่บ้านผมได้ไหมต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดี๋ยววันไหนถ้าต้องออกงานด้วยกัน คุณค่อยมารับผมที่บ้านก็ได้” ร่างบางเสนอทางออกให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด “ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะซิ พ่อๆ ของเรายอมที่ไหน หรือคุณจะลองขอพวกเค้าดูก่อนก็ได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะแต่งหรอกนะไอ้งานแต่งบ้าๆ เนี่ย” ร่างสูงบ่นยาวแต่ก็ไม่ยอมจอดรถให้อีกคนลงตามคำขอ ตรงกันข้ามเขากลับขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของตัวเองตามเดิม คำว่า งานแต่งบ้าๆ ทำเอาพีรฉัตรได้ยินแล้วถึงกับจุกเหมือนกัน ก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ช่วยพูดอะไรที่มันซอฟๆ กว่านี้ได้ไหม คนฟังพอได้ยินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ พอคุณหมอรูปหล่อทำหน้าที่สารถีหนุ่มขับรถคันหรูสัญชาติยุโรปเข้ามาจอดสนิทที่โรงจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลธีรวัฒนาวัฒน์ เขาก็กดเปิดประตูแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ส่วนคนที่โดยสารมาด้วยรีบลงจากรถและเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไป แบบงงๆ พอเดินมาถึงห้องโถงของคฤหาสน์ก็เจอชายสูงวัยนั่งอยู่เค้าจำได้เป็นคุณลุงอาทิตย์เพื่อนพ่อและเจ้าของคฤหาสน์นี่เอง “สวัสดีครับ คุณลุงอาทิตย์” พีรฉัตรยกมือไหว้เจ้าของบ้าน “หวัดดี น้องพรีน เรียกพ่อเถอะ เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วอย่าเรียกลุงเลย ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัว ธีรวัฒนาวัฒน์อย่างเป็นทางการนะลูก เป็นยังไงบ้างพี่นิลทำให้ลำบากใจอะไรหรือเปล่า” “เปล่าครับ” “บอกพ่อมาเลยลูกไม่ต้องเกรงใจ” “งั้น เอาตรงๆ นะครับ เราเหมือนคนแปลกหน้ากัน พอต้องมาอยู่ด้วยกันเลยไม่รู้จะพูดอะไร มันเลยทำให้เราอึดอัดทั้งคู่ครับ” “ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะลูก เจ้านิลลูกพ่อมันอาจจะเป็นคนพูดน้อย ดูหน้าจริงจังไปหน่อย เลยทำให้พรีนอึดอัด พรีนมีอะไรจะบอกพ่ออีกไหม” “เอ่อ คือแบบ พรีนขอนอนคนละห้องได้ไหมครับ ไหนๆ ก็แต่งกันไปรอเวลาเลิกกันเท่านั้น” “ฮือ เอาไงดี ถ้าพรีนต้องการแบบนั้นก็ได้ เดี๋ยวอีกไม่ถึงชั่วโมงพ่อพรีนจะมาพร้อมกับเสื้อผ้าของใช้ของพรีน พ่อจะได้ให้คนขนของพรีนไปไว้ในห้องนั้นเลย” “ขอบคุณนะครับที่เข้าใจพรีน” “ไม่เป็นไรลูก ถ้าไม่สบายใจตรงไหนบอกพ่อได้เลยนะ งั้นเดี๋ยวพ่อพาพรีนไปดูห้องและเอาของไปเก็บที่ห้องแล้วลงมารอทานข้าวพร้อมพ่อพรีนดีกว่านะ” คุณอาทิตย์เดินนำพีรฉัตร ลูกสะใภ้หมาดๆ เดินไปดูห้องที่ต้องพักระหว่างที่อาศัยอยู่ที่นี่ ระหว่างที่กำลังจะไปถึงห้องของพีรฉัตรที่คุณอาทิตย์จะให้พัก ประตูอีกห้องก็โดนเปิดออกมาพร้อมด้วยร่างสูงใบหน้าหล่อเหลาฟ้าประทานของ นิลกาฬก้าวออกมาจากห้องและมองพ่อกับภรรยาของตัวเองที่เดินมาพร้อมกันพร้อมกับเลิกคิ้วทำหน้าคล้ายอยากจะถาม แต่โดนผู้เป็นพ่อถามก่อน “แกกำลังจะออกไปไหนหรือเปล่านิล” “ใช่ครับ ผมว่าจะออกไปหาเพื่อนข้างนอกหน่อย และก็จะเลยไปที่โรงพยาบาล คงกลับดึกๆ นะครับพ่อ แล้วพ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ” คุณอาทิตย์หมั่นไส้ลูกชายเลยแกล้งว่า “ฉันก็เอาเมียมาส่งแกน่ะซินิล แล้วแกจะออกไปได้ยังไง แกอย่าลืมว่าแกเพิ่งแต่งงานเมื่อคืน เดี๋ยวคนอื่นงงกันเจ้าบ่าวหนีไปเที่ยวคนเดียว” “อย่าบอกนะพ่อว่าจะให้เรานอนห้องเดียวกัน พ่อก็รู้ว่าการแต่งงานของเราคือแต่งงานหลอกๆ อีกเดี๋ยวก็ต้องหย่ากัน ผมว่าแยกกันนอนตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่าครับ และที่สำคัญถึงแม้ผมจะแต่งงานแล้ว ผมก็จะทำตัวเหมือนเดิม ไม่เห็นต้องปรับตัวเพื่อใครเลยนี่” คำพูดไม่สนโลกของคุณสามีทำเอาร่างบางแสลงหู ไม่อยากได้ยิน นิลกาฬแสดงออกชัดเจนว่าไม่ได้สนใจอะไรในตัวภรรยา ให้ต่างคนต่างอยู่และไม่ก้าวก่ายกันตามข้อตกลง “แกไม่ต้องห่วงหรอก น้องพรีนเค้ามาขอพ่อแล้วล่ะ ว่าจะขอนอนแยกห้องกับแก งั้นแกจะไปไหนทำอะไรของแกก็ไปเถอะ” คุณอาทิตย์ได้ยินลูกชายพูดไม่ถนอมน้ำใจภรรยาที่ฟังอยู่เลยอดจะแก้ตัวให้ไม่ได้ร่างบางไม่ได้ หมั่นไส้ความปากร้ายของลูกชายด้วย ส่วนร่างสูงของนิลกาฬเลยเดินลงบันไดไปทันที แยกกันนอนไปเลยเค้าก็ไม่อยากแบ่งพื้นที่ส่วนตัวกับใครหรอกนะถึงแม้จะเป็นภรรยาก็เถอะ แต่เป็นภรรยาที่ไม่ได้อยากจะแต่งด้วยนี่นา “หนูพรีนนอนห้องนี้นะลูก เดี๋ยวถ้าเสื้อผ้าของใช้หนูมาแล้วก็ให้เค้าขนมาไว้ห้องนี้เลย แล้วจะได้ให้แม่บ้านมาจัดให้” คุณอาทิตย์พาพีรฉัตรมาห้องพักที่อยู่ติดกันกับห้องของนิลกาฬ เปิดเข้าไปภายในห้องกว้างขวางพอๆ กับที่บ้านของเขา พีรฉัตรรู้สึกขอบคุณในความเมตตาของอีกคนที่มีให้ตัวเองมาก “ขอบคุณคุณพ่อที่เข้าใจและเมตตาพรีนนะครับ” “ไม่เป็นไรลูก พรีนก็เหมือนลูุกคนหนึ่งของพ่อ นอกจากจะเป็นลูกสะใภ้แล้วอย่าลืมว่าพรีนก็เป็นลูกของจุมพลเพื่อนรักของพ่อด้วยนะ ฉะนั้นแล้วมีอะไรน้องพรีนบอกพ่อได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ ป่ะเราลงไปรอไอ้พลพ่อหนูกันเถอะ หิวหรือยังลูก” “ยังไม่หิวมากเท่าไร่ครับ รอคุณพ่อก่อนดีกว่า” ทั้งสองคนต่างวัยในฐานะพ่อสามีกับลูกสะใภ้ก็พากันเดินลงมายังห้องรับแขกของบ้านเพื่อรอคุณจุมพลเอาเสื้อผ้าของใช้มาให้ลูกชาย พอเดินลงมาถึงก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่คุณจุมพลให้คนเข็นกระเป๋าเดินทางที่บรรจุเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของลูกชายคนเดียวเข้ามาพอดี พีรฉัตรเลยเดินเข้าไปหาผู้เป็นพ่อ ก่อนที่จะยกมือไหว้และสวมกอดอีกคนเพื่อขอกำลังใจ “สวัสดีครับคุณพ่อ พรีนคิดถึงคุณพ่อจังเลยครับ” คุณจุมพลกอดตอบลูกชายพลางเอามือมาลูบหลังไปมาอย่างเอ็นดูในความขี้อ้อนของลูก ถึงแม้จะโตจนแต่งงานมีสามีแล้วยังไงในมุมของพ่อลูกก็ยังเป็นลูกชายตัวน้อยๆ ของพ่อเสมอ “พ่อก็คิดถึงน้องพรีนเหมือนกันลูก เป็นไงบ้างพ่ออาทิตย์ดูแลหนูดีไหม” “พ่ออาทิตย์ต้อนรับและดูแลพรีนดีมากเลยครับ” “สายบัว เดี๋ยวบอกเด็กๆ เอากระเป๋าคุณพรีนขึ้นไปไว้ที่ห้องข้างห้องตานิลนะ แล้วจัดเข้าตู้ให้หน่อย” คุณอาทิตย์สั่งสาวใช้ที่เดินผ่านมา “ได้ค่ะคุณท่าน” “ป่ะเราไปทานข้าวกันดีกว่า” สามหนุ่มต่างวัยก็พากันเดินไปที่ห้องอาหาร หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสามคนก็พากันออกมาคุยกันต่อที่ห้องรับแขกอีกครั้ง “จุมพลมึงให้คนตามหาน้องพิมพ์เจอยัง” คุณอาทิตย์ถามเพื่อนรักขึ้นด้วยความเป็นห่วงทั้งจิตใจของเพื่อนรักและเป็นห่วงน้องพิมพ์ลูกสาวที่ท้องอ่อนๆของเพื่อน “ยังเลยมึง ให้ไปดูที่มหาลัยที่อิทธิพลสอนแล้ว เค้ายื่นเรื่องลาออกแล้วก่อนหน้าแล้ว ตอนนี้กูมืดแปดด้านสงสารลูกไม่รู้จะไปอยู่ยังไง พากันไปลำบากหรือเปล่าก็ไม่รู้” คุณจุมพลตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย “มึงมีอะไรให้กูช่วยไหม ให้คนของกูช่วยตามอีกแรงดีกว่า” คุณอาทิตย์เสนอเพื่อนรักเผื่อช่วยกันแล้วจะได้เจอ พิมพ์ชนกเร็วขึ้น “จริงป่ะ งั้นก็รบกวนมึงหน่อยละกัน ตอนนี้กูคงต้องทำงานคนเดียวรอยัยพิมพ์กลับมาก่อน” “คุณพ่อครับ ถ้าพรีนจะไปช่วย คุณพ่อจะว่าอะไรไหมครับ” พีรฉัตรมองเห็นความเศร้าโศกในน้ำเสียงและดวงตาของผู้เป็นพ่อ ก็รู้สึกสงสารเขาเป็นลูกมีอะไรที่ช่วยแบ่งเบาได้เขาก็ยินดีทำ เพราะตั้งแต่เด็กจำความได้พ่อคนนี้ดูแลเขากับพี่พิมพ์มาอย่างดีตลอด “พรีนไหวไหมลูก แต่มันเป็นงานที่พรีนไม่ถนัดนะ” “พรีนว่าน่าจะเรียนรู้ได้ไม่ยากครับระหว่างรอพี่พิมพ์กลับมา เพราะตอนนี้พรีนก็ไม่มีอะไรให้ทำอยู่แล้ว” “เอางั้นก็ได้ลูก แล้วพรีนอยากทำอะไรอีกไหม” “พรีนอยากจะปรับปรุงห้องอาหารของโรงแรมครับ พรีนอยากให้ห้องอาหารของคุณแม่กลับมาดังอีกครั้ง” พีรฉัตรหมายถึงห้องอาหารฉัตรมณีของโรงแรมที่ก่อตั้งโดยคุณฉัตรมณีภรรยาของเจ้าของโรงแรม ตอนที่แม่ของเขาดูแลอยู่ห้องอาหารนี้ขึ้นชื่อว่ามีอาหารนานาชาติที่อร่อยที่สุดในย่านนี้ให้ทานและที่เลื่องลือว่าอร่อยเป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมแขกทุกคนที่มาพักต้องมาลองชิมหรือแขกที่ไม่ได้มาพักก็ต้องหาโอกาสเข้ามาทานอาหารของที่นี่ให้ได้คืออาหารไทยสูตรชาววังที่บางอย่างบางเมนูหาทานได้ที่นี่ที่เดียว “ถ้าลูกไหว ไม่ทำให้ตัวเองเหนื่อยมากพ่อไฟเขียวเลย” “ก็ดีเหมือนกันนะพ่อก็สนับสนุน อยู่บ้านเฉยๆ เดี๋ยวก็เหงา เจ้านิลก็คงมีแต่ทำงานที่โรงพยาบาลไม่มีเวลาอยู่กับน้องพรีนแน่ ๆ” คุณอาทิตย์สนับสนุนอีกเสียง “งั้นพรีนขอเริ่มงานพรุ่งนี้เลยได้ไหมครับคุณพ่อ พรีนไม่อยากอยู่เฉย ๆ” “หนูไม่อยากพักผ่อนหรือเที่ยวก่อนเหรอลูก” ผู้เป็นพ่อถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่อ่ะครับ พรีนอยากเริ่มเลย เริ่มเร็วเราได้เปรียบ” “งั้นก็ตามใจลูก เดี๋ยวพ่อแจ้งเลขาพี่พิมพ์เค้าก่อน ส่วนเรื่องเวลาเข้างานลูกสะดวกกี่โมงก็ค่อยไป ไม่ต้องซีเรียส ว่าแต่ลูกจะไปยังไงเดี๋ยวพ่อให้คนขับรถมารับไหม” คุณจุมพลก็ยังเป็นห่วงลูกชายอยู่มากเพราะพีรฉัตรไปอยู่เมืองนอกนานหลายปีน่าจะไม่คุ้นเคยกับถนนหนทางของเมืองไทยที่ผุดขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนอยู่เมืองไทยก็มีคนขับรถคอยไปรับไปส่ง “มึงไม่ต้องกังวลหรอกไอ้พล คนขับรถที่บ้านกูก็มีเอาคนขับรถที่บ้านกูก็ได้ หรือถ้าน้องพรีนอยากขับเองรถบ้านกูก็มีเยอะแยะเอาไปขับได้เลย” คุณอาทิตย์บอกทั้งเพื่อนรักและลูกสะใภ้ “เอ่อ พรีนอยากขับรถเองมากกว่าครับ แล้วก็พรีนพอมีเงินเก็บอยู่บ้างเรื่องรถขอพรีนซื้อเองดีกว่าครับ พรีนสบายใจกว่า” พีรฉัตรบอกพ่อๆ ทั้งสองคนเพราะไม่อยากรบกวนใครโดยเฉพาะที่บ้านของพ่ออาทิตย์ เพราะอีกหน่อยก็ต้องหย่าขาดจากนิลกาฬแล้ว เขาไม่อยากให้อีกคนมาว่าเอาได้ว่าขูดรีดพ่อเค้า “เอาตามที่ลูกว่าก็ได้ถ้างั้น แล้วลูกมีรถในดวงใจหรือยัง เล็งๆ ยี่ห้อไหนรุ่นไหนไว้บ้างหรือเปล่า ไหนๆ วันนี้ก็ว่างแล้วเราออกไปจองรถกันเลยไหมลูก” คุณจุมพลถือโอกาสชวนลูกชายเพื่อออกไปเปิดหูเปิดตา พีรฉัตรหันมามองคุณอาทิตย์เพื่อเป็นนัยว่าจะขออนุญาตออกไปข้างนอกกับพ่อของตน “ไปเลยลูกไม่ต้องเกรงใจ เดี๋ยวพ่อก็ว่าจะออกไปหาพี่นันท์เค้าที่บริษัทหน่อย เจอกันอีกทีตอนเย็นนะลูก” คุณอาทิตย์บอกลูกสะใภ้เพื่อจะได้ไม่เป็นกังวล เกรงใจเพื่อนด้วยเหมือนเอาลูกเขามาทรมาน บังคับให้แต่งงานกับลูกชายตัวเอง แต่ไอ้ลูกชายมันดันหนีเมียไปทำงานตั้งแต่วันแรก “งั้นเราไปดูรถกันเถอะลูก” คุณจุมพลชวนลูกชายไปข้างนอกทันทีนิลกาฬโยนร่างบางให้ลงไปนอนบนเตียงกว้างในห้องตัวเอง ก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบถอดเสื้อผ้าจนตอนนี้เป็นชีเปลือยยืนอวดหุ่นสวยด้วยกล้ามเนื้ออยู่ปลายเตียง “ต่อต้านดีนักกับผมที่เป็นสามีเนี่ยถูกกฎหมายเนี่ย ทีกับชู้ก็ยืนนิ่งๆ ให้มันกอด เดี๋ยวผมจะทำให้ดูว่าลีลาผมเด็ดกว่าไอ้ชู้หน้าตี๋นั่นอีก อย่ามาติดใจแล้วกัน”ร่างบางของพีรฉัตรที่โยนลงบนเตียงขยับหนี เขาพยายามที่จะอธิบายให้อีกคนฟังแล้ว แต่คนตัวโตไม่ยอมฟังเขาเอาซะเลย พอเขาขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามแรงกระชาก ก็โดนคนแรงเยอะอุ้มพาดบ่าเข้าบ้านมา พอดิ้นมากๆ เข้าก็โดนตีที่ก้นจนแสบไปหมดแล้ว ไหนจะโดนจับโยนลงบนเตียงจนจุก ไหนจะคำหยาบคายที่กล่าวหากันนั่นอีก ที่สำคัญตอนนี้อารมณ์ของนิลกาฬน่ากลัวมาก คนตัวสูงก้าวขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไร้ซึ่งอาภรณ์ปิดบังร่างกาย ไหนจะพกอาวุธกลางกายที่ใหญ่โตน่าเกรงขามนั่นอีก ถ้าเขาโดนไอ้นี่ทำโทษคงสลบแน่เลยมันไม่น่าจะเข้ากันได้“ถอยออกไปนะคุณนิล มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดคุณก็ฟังผมบ้างซิ” ร่างบางพยายามจะอธิบายอีกครั้ง“เข้าใจผิดอะไร เข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนดีน่ะซิ ที่ไหนได้ร่านชิบหาย พอผมไม่ทำหน้าที่ผัวให้ เลยจะให้ไอ้ตี๋นั่นมาทำแทนเหรอ ฝันไปเถอะผมเ
“คุณพ่อทำไมวันนี้เริ่มทานเร็วล่ะครับ” เสียงของพีรฉัตรดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวขึ้นของร่างเพรียวบางและมีพนักงานทยอยถือกับข้าวเข้ามาเสิร์ฟบรรดาพ่อๆ ที่โต๊ะเพื่อที่จะรับประทานอาหาร พอมาถึงเห็นบุคคลแปลกปลอมนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อๆ ทั้งสองก็ตกใจ มาได้ยังไงเนี่ย“วางเลยลูก น้องพรีนมานั่งเลยจะได้เริ่มทาน วันนี้คุณหมอหิวมาก เห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลย” พ่อตาออกโรงแทนลูกเขย พีรฉัตรมองหน้าหล่อของคุณหมอที่พ่อบอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ คนตัวสูงแทน “เริ่มแทนเลยตานิล นี่พรีนเค้าทำเองหมดเลยนะ ถ้าต้องปรับปรุงตรงไหนอร่อยไม่อร่อยบอกเชฟพรีนได้เลยนะลูก เชฟเค้าจะได้ปรับปรุง” ถึงเวลาอวยลูกตัวเองบ้าง พอตักอาหารมาเริ่มทานนิลกาฬก็พบว่าอาหารอร่อยถูกปากเขาทุกอย่างสมกับเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทุกคนต้องมาทานจริงๆ เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อๆ และภรรยาจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนพ่อตาเค้า พ่อตาอยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เหงา นี่เป็นการแสดงความเอาใจใส่อีกรูปแบบหนึ่งของร่างบางที่มีต่อพ่อ “เอ่อ น้องพรีนเมื่อกี้พ่อคุยกับพี่นิลแล้ว ว่าจะให้พี่นิลนั่งรถมาทำงานเ
ตอนนี้พีรฉัตรอยากจะเอาสมาธิมาจดจ่ออยู่กับแค่การขับรถ แต่จิตใจมันไม่รักดีดันไปไขว้เขวกับคนร่างสูงที่วิสาสะนั่งมาด้วย แม้อีกคนจะนั่งอยู่เงียบๆตามที่บอก แต่ก็ไม่นิ่งเอาเสียเลยคอยขยับ คอยปรับแอร์ เปิดเพลงเปลี่ยนเพลงอยู่นั่นแหละ มันทำให้พีรฉัตรไม่มีสมาธิเอาซะเลย เริ่มจะโมโหแล้วนะ“คุณจะลงที่ไหนผมจะได้จอดรถให้ลงได้ถูก” เจ้าของรถถามผู้โดยสารทันที เพราะร่างบางไม่ไหวแล้วขืนนั่งไปด้วยกันต่อ อาจจะเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับไม่มีสมาธิเป็นแน่“ผมว่าผมบอกคุณแล้วนะว่าคุณพ่อให้นั่งไปส่งคุณจนถึงที่ทำงาน ฉะนั้นคุณขับไปให้ถึงที่ทำงานของคุณเลย คุณจอดรถอย่างปลอดภัยไม่ชนใครเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมก็กลับเอง”“ผม เอ่อ ไม่มีสมาธิขับรถถ้าคุณอยู่ด้วย เพระฉะนั้นผมขอล่ะคุณลงไปจากรถผมหน่อย ผมไม่บอกคุณพ่อหรอก”“ไม่เอา ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ คุณมาหวั่นไหวกับผมเอง คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย”“ผมไม่ได้คิดอะไร ไม่หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น ผมแค่รำคาญ ตอนนี้คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้คุณลงจากรถผมซะที ในเมื่อคุณตีมึนพูดยังไงก็ไม่ลง งั้นก็นั่งเฉยๆ แล้วกัน” นิลกาฬนั่งขำอีกคนที่ทำท่าทางฟึดฟัดใส่เขา มองดูแล้วน่ารักดีเหมือนตอนนี้เขากำลัง
“คุณพรีนคะ ป้ามา อุ๊ย คุณนิล”ป้าสายบัวร้องอุทานตกใจที่คนที่มาเปิดประตูเป็นนิลกาฬ ส่วนคนที่ป้าสายเรียกเห็นรางๆ ว่านอนอยู่ที่เตียง แหม! คุณนิลกับคุณพรีนทำเป็นนอนแยกห้องกันแต่สุดท้ายก็มาจู๋จี๋กันอยู่ดี“ว่าไงครับป้าบัว” คนตัวสูงเอ่ยถามป้าบัวเสียงหงุดหงิด สงสัยป้าบัวมาผิดเวลามากวนเวลาจู๋จี๋“เอ่อ พอดีป้านัดกับคุณพรีนไว้ว่าจะทำม้ือเย็นกันค่ะป้าเลยมาตาม ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณนิลกับคุณพรีนตามสบายเลยนะคะ ป้าบัวไม่กวนแล้ว” ป้าสายบัวกำลังจะหันหลังกลับ “ป้าบัวครับ รอพรีนด้วยครับ เดี๋ยวพรีนจะลงไปพร้อมป้าบัว” เสียงร่างบางเรียกมาจากในห้องป้าสายบัวจึงต้องหยุดรอ ส่วนคนร่างบางหลังจากจัดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วรีบออกมาจากห้องเพราะกลัวร่างสูงจะทำอนาจารกับตัวเองอีก “ไหวเหรอ” เสียงร่างสูงถามเพราะต้องการสื่อความหมายให้ป้าบัวเข้าใจผิด ซึ่งได้ผลดีเกินคาดป้าบัวคิดไปไกลว่าที่ร่างสูงของเจ้านายถามภรรยาน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงเพราะอาจจะเพิ่งผ่านกิจกรรมรักกันมา ส่วนคนถูกถามหน้าแดงเขินอายไปไม่ถูก จะถามบ้าอะไรอย่างนั้น“ช่วยหลีกทางให้ผมด้วยครับ ผมจะลงไปทำกับข้าวกับป้าบัว”นิลกาฬเลยเบี่ยงตัวออกเพื่อเปิด
เช้านี้เป็นวันหยุดของนิลกาฬ ที่จริงยังไม่อยากตื่นเลยแต่เมื่อคืนตอนเดินเข้ามาในบ้านเขาดันไปได้ยินเสียงของภรรยาในนามนัดแนะกับใครสักคนว่าเจอกันตอนเก้าโมง เพราะความอยากรู้ว่าอีกคนนัดใครไว้ เค้าก็เลยต้องรีบตื่นก่อน เก้าโมงเพื่อมาจับชายชู้ให้ได้คาหนังคาเขา เค้าจะได้มีข้ออ้างกับพ่อขอหย่าเพราะร่างบางมีชู้ทั้งๆ ที่ยังกอดทะเบียนสมรสกับเขาอยู่ แปดโมงครึ่งยังไม่ถึงเวลาที่ได้ยินร่างบางนัดแนะ แต่นิลกาฬก็อยู่ในชุดออกกำลังกาย ทำเหมือนมาออกกำลังกายแถวสนามหญ้าหน้าบ้านเพื่อจะได้จับภรรยาและชู้ให้ได้ตัวเป็นเห็นกันซึ่งๆ หน้า ร่างสูงท้ังวิ่งจ๊อกกิ้งจนเหนื่อย จังหันมายืดเหยียดกล้ามเนื้อบริหารร่างกายแทน จนเวลาเก้าโมงครึ่งก็ยังไม่เห็นร่างบางลงมาหรือคนที่มารับปรากฏตัวเลย เอ๊ะหรือว่านัดกันที่อื่น แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ยหรือจะถามจากใครได้ พ่อเขาไม่ได้ล่ะหนึ่งถ้าไปถามมีหวังโดนซักฟอก คุณจุมพลพ่อตาก็ไม่ได้หมดแล้วตัวเลือกแล้ว ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เสียเวลาชิบหาย“อ้าวคุณนิล ป้านึกว่าออกไปกับคุณพรีนซะอีก” ป้าสายบัวทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร เหยื่อมาแล้วหนึ่ง คุณหมอยิ้มกริ่มในใจ “พอดีผมตื่น
พอพีรฉัตรเดินมาหาผู้เป็นบิดาที่ห้องอาหาร ก็พบว่ามีคุณอาทิตย์นั่งรออยู่กับพ่อแล้ว “พ่อทิตย์สวัสดีครับ มานานหรือยังครับ”คุณอาทิตย์หันมาหาร่างบางของลูกสะใภ้ทันที“พ่อเพิ่งมาถึงนี่เองลูกว่าจะมาหาเพื่อนดื่มสักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะลาภปากได้ทานอาหารฟรีของโรงแรมดังระดับ 6 ดาว และเจ้าของโรมแรมมาทำอาหารให้ทานเอง 555” คุณอาทิตย์แซวลูกสะใภ้คนโปรด “เป็นไงบ้างลูก ทำงานสนุกไหมเหนื่อยหรือเปล่า”“สนุกครับ งานเยอะจนหายเหงาเลย” ร่างบางยิ้มตาหยี “พ่อๆ ชิมอาหารดูนะครับพรีนอยากรู้ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง”“แค่เห็นหน้าตาก็ไม่กล้าทานเลยลูก” คำพูดของพ่อสามีที่หวังดีกับพีรฉัตรมาตลอดทำเอาคนฟังใจแป้วไปเลย “ที่พ่อว่าไม่กล้าทานไม่ใช่อะไรนะลูก มันสวย มันดูดีมาก เดี๋ยวพ่อถ่ายรูปไว้หน่อยนะเดี๋ยวจะโพสต์โปรโมทซะหน่อย เดี๋ยวชิมรสชาติก่อนนะ ฮือ มันอร่อยมากลูก ว่าคุณฉัตรทำกับข้าวอร่อยแล้วนะ น้องพรีนแซงแม่มาเลย ไอ้พลมึงลองชิมดู เดี๋ยวว่ากูโม้” พ่อคุณอาทิตย์พูดก็ทำให้คนทำปราบปลื้มยิ้มหวานเลย และหันมารอลุ้นจากคนเป็นพ่ออีก“อือ ใช่รสคล้ายๆ ของคุณฉัตร แต่อร่อยกว่าลูก พ่อว่าห้องอาหารของโรงแรมเรากลับมาบูมอีกแน่เลย” “จริงหรือ
เช้าวันต่อมา คุณอาทิตย์ก็เดินมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน หลังจากนั่งลงแค่แป๊บเดียวพีรฉัตรก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ ลงมานานหรือยังครับ” ฝ่ายลูกสะใภ้เอ่ยทักทายและถามขึ้น “เพิ่งลงมาก่อนน้องพรีนแปล๊บเดียวลูก เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับหรือเปล่า”“หลับๆ ตื่นๆ ครับ อาจจะเพราะพรีนแปลกที่ก็ได้ คงยังไม่คุ้น”“เดี๋ยวก็ชินลูก”คุณอาทิตย์ไม่รู้จะปลอบใจลูกสะใภ้ยังไงดี“สายบัว ทำไมวันนี้ข้าวต้มรสชาติแปลกๆ ไป” สีหน้าฉงนของเจ้าของบ้าน หันไปถามหัวหน้าแม่บ้านทันทีที่ชิมข้าวต้มปลา“เป็นยังไงบ้างคะคุณท่าน ไม่ถูกปากหรือคะ”“เปล่า มันอร่อยมากต่างหาก วันหลังทำสูตรนี้อีกนะ หนูพรีนลองทานดูซิลูกอร่อยมาก”คุณอาทิตย์เชิญชวนลูกสะใภ้ให้ชิมข้าวต้มที่ตนคิดว่าตั้งแต่แม่ครัวทำมาวันนี้อร่อยที่สุด“คุณท่านต้องบอกคุณหนูพรีนแล้วล่ะค่ะ ว่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะข้าวต้มวันนี้ฝีมือคุณพรีนเป็นคนทำค่ะ” ป้าสายบัวบอกเจ้านายยิ้มๆ“อ้าว พ่อเลยปล่อยไก่ตัวเบ่อเร่อเลย ลืมไปเลยว่ามีเชฟอยู่ที่บ้านตัวเอง 5555”“ถ้าคุณพ่อชอบวันหลังพรีนจะทำให้ทานบ่อยๆ ครับ”ขณะที่เจ้าของบ้านกับลูกสะใภ้กำลังทานข้าวต
“ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”“ผมขอไปอยู่บ้านผมได้ไหมต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดี๋ยววันไหนถ้าต้องออกงานด้วยกัน คุณค่อยมารับผมที่บ้านก็ได้”ร่างบางเสนอทางออกให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะซิ พ่อๆ ของเรายอมที่ไหน หรือคุณจะลองขอพวกเค้าดูก่อนก็ได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะแต่งหรอกนะไอ้งานแต่งบ้าๆ เนี่ย”ร่างสูงบ่นยาวแต่ก็ไม่ยอมจอดรถให้อีกคนลงตามคำขอ ตรงกันข้ามเขากลับขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของตัวเองตามเดิมคำว่า งานแต่งบ้าๆ ทำเอาพีรฉัตรได้ยินแล้วถึงกับจุกเหมือนกัน ก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ช่วยพูดอะไรที่มันซอฟๆ กว่านี้ได้ไหม คนฟังพอได้ยินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ พอคุณหมอรูปหล่อทำหน้าที่สารถีหนุ่มขับรถคันหรูสัญชาติยุโรปเข้ามาจอดสนิทที่โรงจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลธีรวัฒนาวัฒน์ เขาก็กดเปิดประตูแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ส่วนคนที่โดยสารมาด้วยรีบลงจากรถและเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไป แบบงงๆ พอเดินมาถึงห้องโถงของคฤหาสน์ก็เจอชายสูงวั
พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าวตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน