พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าว
ตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นการบังคับแต่งงานและแต่งงานแทนแต่หัวอกคนเป็นพ่อก็ไม่อยากจะเห็นลูกๆ ทั้งสองเลิกกันอยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานของคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันดูแลกันและกันจนแก่จนเฒ่าจริงๆ “ครับคุณพ่อ ขอบคุณครับ” ทั้งสองคนขอบคุณผู้ให้กำเนิดทั้งสอง ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันออกจากห้องหอไป ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่ด้วยกัน พอในห้องนี้มีแต่พวกเขาคู่บ่าวสาวสองคนที่แปลกหน้าต่อกัน เพิ่งเจอกันวันนี้ก็ต้องมาอยู่กันตามลำพังสองคนในห้องแคบ ๆ ในฐานะสามีภรรยาต่างคนต่างไม่รู้จะคุยอะไรกัน “เอ่อ เดี๋ยวเธอไปอาบน้ำก่อนเลยนะ มันดึกแล้วจะได้พักผ่อนเหนื่อยเป็นบ้า” นิลกาฬบอกร่างบางก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนที่เตียงเพื่อรออาบน้ำต่อ พีรฉัตรหยิบเอาชุดนอนที่คนที่บ้านเอามาเตรียมไว้ให้เข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนด้วย ตัวเขาเองก็อึดอัดที่ต้องอยู่กับเจ้าบ่าวที่ไม่ได้เต็มใจแต่งงานและไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน เลยไม่รู้จะพูดอะไรด้วย อีกคนก็หน้าไม่รับแขกพูดน้อยเหลือเกินยังกลับกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงออกมาจากปากเวลาพูด เฮ้อ ขอให้ผ่านพ้นในแต่ละวันไปได้ด้วยดีเถอะนะพรีน สู้ ๆ พีรฉัตรยืนให้กำลังใจตัวเองหน้ากระจกอ่างล้างหน้า ก่อนจะรีบอาบน้ำแล้วออกมาเพื่อที่จะพักผ่อนวันนี้ทั้งวันเค้าเพลียทั้งกายเพลียทั้งใจแล้วอยากจะล้มตัวลงนอนมาก พอออกมาจากห้องน้ำตาคมเฉี่ยวก็มองไปที่เตียงที่มีร่างหนาของนิลกาฬนอนหลับอยู่บนเตียง แล้วอย่างนี้เขาจะนอนตรงไหนล่ะ อีกคนก็นอนหลับกลางเตียงกินพื้นที่เกือบหมด และนอนหลับลงไปได้ยังไงก็ไม่รู้น้ำยังไม่ได้อาบสงสัยคงจะเพลียมากเหมือนกัน “นี่คุณ คุณ ได้ยินไหมครับ ตื่นไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยมานอน” “ฮือ นี่คุณอาบเสร็จแล้วเหรอ โอเคเดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อนล่ะกัน คุณนอนที่เตียงไปเลยนะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมว่าจะไปโรงพยาบาลซักหน่อย พรุ่งนี้อย่าเพิ่งออกไปล่ะ รอออกไปพร้อมกัน” สั่งเสียเสร็จนิลกาฬก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้พีรฉัตรอ้าปากค้าง นี่เขาเป็นเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวหนีออกจากห้องหอไปนอนที่อื่นตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอและใช้ชีวิตคู่เลยหรือนี่ ระหว่างที่อีกคนเข้าไปอาบน้ำ พีรฉัตรเลยตัดสินใจนอนดีกว่า ขี้เกียจจะคิดอะไรแล้วใครจะไปไหนนอนไหนก็ช่างเถอะ ตัวเขาขอนอนพักกายก่อนดีกว่า นิลกาฬที่อาบน้ำเสร็จพอออกมาจากห้องน้ำสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางที่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนเตียง หน้าหวานแก้มเนียนใส คงนิ่มน่าดู ขนตาดกยาวงอนอย่างกับดัดขนตามา จะว่าไปเจ้าสาวเค้าก็สวยหน้าตาดีอยู่หรอก แต่เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าตัวถึงยอมแต่งงานกับเขาแทนพี่สาวง่ายๆ ก็ไม่รู้ อีกอย่างที่เค้ารู้มาคือพีรฉัตรไปเติบโตอยู่ที่เมืองนอกเรื่องเซ็กส์แบบนี้อาจจะช่ำชองเลยไม่ถือเลยไม่ปฏิเสธที่จะต้องแต่งงานกับเขาซึ่งเป็นผู้ชาย แต่ยังไงก็เถอะที่ตกลงกันคือ แต่งแค่ในนาม แต่งแล้วรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะเลิกกันโดยที่สังคมไม่ติดใจอะไร ระหว่างนี้ก็ต่างคนต่างอยูไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันเข้าหอเขาก็ขอไปนอนที่อื่นก่อนแล้วกันเพื่อจะได้บอกเจ้าสาวเป็นนัยๆ ว่า จากนี้ไปเขาจะทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเดิน จะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร แต่งตัวเสร็จหมอหนุ่มอย่างนิลกาฬก็คว้าเอากุญแจรถแล้วหันมามองร่างบางอีกครั้งก่อนที่จะปิดประตูห้องหอแล้วไปนอนที่คอนโดแทนการไปโรงพยาบาลตามที่บอกเจ้าสาวไว้ ส่วนตัวแทนเจ้าสาวอย่างพีรฉัตรหลังจากที่ได้หลับเต็มอิ่มไปเมื่อคืน เช้านี้ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยหน้าตาที่สดชื่น พอลุกขึ้นนั่งขยับตัวมานั่งพิงหัวเตียงเพื่อตั้งสติ มองไปรอบห้องก็ไม่พบร่างสูงที่บอกว่าตอนเช้าจะรีบกลับมาเพื่อที่จะได้ออกจากโรงแรมพร้อมกัน นี่ก็เกือบแปดโมงเช้าแล้วพีรฉัตรเลยลุกออกจากที่นอนก่อนที่จะไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้าน พอก้าวขาเรียวยาวออกมาจากห้องน้ำพีรฉัตรก็ตกใจเมื่อเจอร่างสูงนั่งกดโทรศัพท์อยู่บนเตียงด้วยความที่คิดว่า อีกคนคงไม่กลับมาที่โรงแรมแล้วทำให้ร่างบางที่เข้าไปอาบน้ำไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนด้วย พออาบน้ำเสร็จตอนออกมาเลยนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพร้อมกับผ้าเช็ดผมผืนเล็กเดินเช็ดผมเปียกหมาดๆ ออกมาจากห้องน้ำ “โอ๊ะ ขอโทษครับไม่นึกว่าคุณจะกลับมา” พีรฉัตรเลยถอยหลังกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่พร้อมกับออกมาด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำก่อนท่ีจะออกมาอีกครั้งเพื่อมาหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ส่วนคนที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกก็ตกตะลึงในความขาวออร่าของร่างบางมันนวลเนียนไปหมดไหนจะหยดน้ำที่เกาะตามร่างบางนั่นอีกดูมันช่างยั่วยวนเซ็กซี่มาก ทำให้เจ้านิลน้อยตื่นตัวเลยทีเดียว ยังไม่ทันที่จะมองสำรวจความงามของอีกคนได้เต็มตาเลยเจ้าของร่างดันกลับเข้าไปในห้องน้ำและกลับออกมาใหม่ในเสื้อผ้าที่ปิดกายขาวแบบมิดชิด เสียดายเลยไม่ร้อนหรือไงนะ พอพีรฉัตรกลับออกมาจากห้องน้ำคนตัวโตก็ลุกขึ้นจากที่นอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง “เก็บของหมดแล้วใช่ไหม ” “เก็บหมดแล้วครับ ป่ะ กลับกันเถอะ” “ไม่ลืมอะไรแน่นะ” คุณหมอหนุ่มย้ำอีกครั้ง จนพีรฉัตรอยากจะมองบน นี่ใครพีรฉัตรผู้ที่ละเอียดรอบคอบที่สุด “ไม่ลืมครับ เก็บครบ” “ดี งั้นก็กลับกัน” ทั้งสองออกจากห้องลงมาที่รถคันหรูที่จอดอยู่ของคุณหมอ เมื่อก้าวเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย เจ้าของรถก็เคลื่อนรถออกจากโรงแรมไปยังจุดหมายปลายทาง “เดี๋ยวคุณส่งผมที่ป้ายรถข้างหน้าก็ได้ครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้” พีรฉัตรบอกสารถีเจ้าของรถที่เค้าอาศัยโดยสารออกมาจากโรงแรมของที่บ้านเพื่อให้พ้นคำครหาว่าผัวเมียแยกกันอยู่ตั้งแต่วันแรก คำพูดของร่างบางทำให้คนที่ขับรถมาหงุดหงิดทันที “จะลงไปไหน” “อ้าว ก็กลับบ้านไงครับ ผมไม่อยากรบกวนให้คุณไปส่งที่บ้านเพราะนี่มันคนละเส้นทางที่จะกลับบ้านผม คุณจะได้ไม่เสียเวลากลับไปกลับมา คุณก็กลับบ้านคุณได้เลย” “เดี๋ยวนะ นี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หลังแต่งงานกันแล้ว คุณต้องไปอยู่บ้านผม จนกว่าวันที่เราจะหย่าจากนั้นก็ทางใครทางมันไม่ใช่เหรอ” “เอ่อ ขออยู่บ้านผมไม่ได้เหรอครับ” ร่างเพรียวบางเริ่มเสนอทางเลือกให้คนขับรถ “ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”“นี่ออเดิร์ฟครับเมีย ต่อไปเป็นของจริงแล้วนะครับ”ร่างสูงของนิลกาฬลงไปนอนบนเตียงสลับหัวกับภรรยาคนสวยก่อนที่แขนแกร่งจะออกแรงยกร่างบางให้ขึ้นมานอนทับบนตัวเอง ไม่ต้องบอกเป็นคำพูดแค่สื่อสารกันด้วยภาษากายภาษาใจ พีรฉัตรก็รู้ได้ทันทีว่าสามีจะต้องการอะไร มือเรียวเอื้อมไปคว้าเอาท่อนเนื้อไร้กระดูกขนาดใหญ่ยักษ์ของสามีมากำไว้แล้วใช้ปลายลิ้นเรียวเลียตรงส่วนหัวหยักไปมา จนเริ่มมีน้ำปริ่มเอ่อออกมา จากนั้นก็อ้าปากอมเจ้าท่อนเนื้อเข้าไปให้ลึกที่สุดเท่าที่จะลึกได้ แล้วค่อยๆ รูดจากโคนมายังส่วนปลายอีกที ก่อนที่จะอมเข้าไปลึกสุดคออีกครั้งแล้วรูดออกมาอีกทำซ้ำไปเรื่อยๆ ส่วนที่เหลือที่ยาวเกินกว่าที่จะอมเข้าไปในปากได้หมดก็เป็นหน้าที่ของมือนุ่มที่ช่วยรูดอีกที ร่างสูงที่โดนรีดพิษครางเสียวอยู่ใต้สะโพกผายของภรรยา“อูยยย อ๊ะ เมีย เมียจ๋า อึยย เสียวค่ะ เสียวมาก อูยยย ทำไมหนูอมได้ลึกขนาดนี้ ดีค่ะเมีย ดีมากเลย โอยยย”นิลกาฬตอบแทนความเสียวที่ภรรยามอบให้ด้วยการคืนความเสียวให้แก่ร่างบางเช่นกัน ด้วยการผงกศีรษะขึ้นฝังริมฝีปากและลิ้นเข้าไปที่บริเวณรูรักด้านหลัง ใช้ปลายลิ้นร้อนเลียและแหย่เข้าไปในรูรักที่ยังปิดสนิท แล้วใช้น้ิวกล
“จ้ำม่ำเชียวหลานลุง เลี้ยงง่ายๆ นะลูก โตไปอย่าเหมือนพ่อนะครับ” เวทานนท์ที่แวะมาเยี่ยมคลอดพีรฉัตรกับหลาน คุยกับน้องพู่กันตัวน้อยที่คุณพ่อนิลกาฬอุ้มอยู่ หยอกหลานเสร็จแอบแว๊บมาแขวะพ่อมันสักนิดหน่อยแล้วกัน “อ้าว ไอ้ห่าเวย์ เอ่อ ไอ้คุณเวย์ครับ โตไปเหมือนพ่อดีแล้วครับ เนาะลูก จะได้หล่อ เก่งและฉลาดเหมือนพ่อใช่ไหมครับ ยิ้มให้พ่อหน่อยครับคนเก่งของพ่อ” นิลกาฬยับยั้งปากไว้ได้ทันก่อนที่จะเผลอพูดคำหยาบออกไป เมื่อหันไปเจอน้องเนม วรานนท์ ลูกของเพื่อนรักที่ตอนนี้มากับพ่อด้วย ตอนนี้น้องเนมอายุเกือบสี่ขวบแล้วกำลังน่ารักช่างพูดช่างเจรจา ช่างจดช่างจำ จึงไม่ควรที่จะให้เด็กได้ยินคำไม่สุภาพจากผู้ใหญ่ “แด็ดดี้ น้องเนมอยากดูเบบี๋ใกล้ๆ ได้ไหมคร้าบ” เด็กชายวรานนท์ถามบิดาขึ้นเมือเห็นน้องน้อยในห่อผ้าที่ลุงหมออุ้มอยู่ อยากจะเข้าไปดูใกล้ๆแต่ไม่กล้า “ลองขอลุงหมอนิลดูซิลูก ว่าลุงหมอจะว่ายังไง เพราะเบบี๋น้อยเป็นลูกของลุงหมอ” เวทานนท์บอกให้ลูกชายขอนิลกาฬเอง เพื่อที่จะให้น้องเนมกล้าแสดงออก เด็กชายตัวอ้วนหันมามองพ่อของตัวเองแล้วก็หันไปมองนิลกาฬลุงหมอที่ใจดีกับน้องเนมมาตลอด พร้อมกับ
หนึ่งอาทิตย์ก่อนถึงวันกำหนดคลอด เท้าสองข้างของพีรฉัตรบวมขึ้นกว่าเดิมและปวดท้องเตือนเริ่มถี่ขึ้น คุณหมอนิลกาฬจึงให้ภรรยาเข้ามานอนแอดมิทรอคลอดที่โรงพยาบาลของตัวเองเลยเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินคลอดก่อนกำหนด และเจ้าของโรงพยาบาลอย่างหมอนิลกาฬก็เตรียมทีมผ่าตัดคลอดให้สแตนบายอยู่ที่โรงพยาบาลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ตอนนี้ในห้องพัก VVIP ระดับเจ้าของโรงพยาบาล เหมือนมีการรวมญาติเพราะทุกคนมาให้กำลงใจคนท้องที่ต้องมานอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อรอคลอดเป็นอาทิตย์ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อจุมพล พี่สาวคนสวยอย่างพิมพ์ชนกที่อุ้มลูกสาวตัวน้อยอย่างน้องพริ้มตามด้วยสามีอย่างอิทธิพล ฝั่งของนิลกาฬก็มีคุณพ่ออาทิตย์กับตัวแทนคนงานในบ้านอย่างป้าสายบัว ที่ขออาสาทำอาหารมาให้ทุกๆ คนได้ทานร่วมกันกับคนท้องในทุกๆ เย็น เพราะกลัวพีรฉัตรจะเหงา ตอนกลางวันนิลกาฬก็เอางานมาทำที่ห้องนี้และอยู่เป็นเพื่อนภรรยา ตอนกลางคืนคุณสามีก็จะขึ้นมานอนบนเตียงด้วย จนคนท้องลืมไปเลยว่านอนอยู่โรงพยาบาล เพราะทุกคนช่วยกันทำบรรยากาศให้เหมือนอยู่ที่บ้านตอนนี้พีรฉัตรต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนใกล้รุ่ง เพราะโดนก่อกวนจากลูกน้อยในครรภ์ที่ดูเหมือนจะดิ้นแรงย่ิงกว่าเดิม จนร่าง
“อึก อึก ฮือ ฮึก พี่นิลคิดว่าพรีนน่ารังเกียจหรือเปล่า ปกติเวลาเห็นพรีนเปลือย ไอ้นั่นของพี่นิลแข็ง พี่นิลก็จะจับพรีนกินเลย แต่ตอนนี้ทำไมนิลน้อยแข็งแต่ทำไมพี่นิลยังเฉย เพราะพรีนรูปร่างน่าเกลียดใช่ไหม ฮึก อึก ฮือ พี่นิลถึงไม่กินพรีน”โธ่ เมียเขาคิดได้ยังไง ตอนนี้เมียเขาน่ากินน้อยซะเมื่อไหร่ เขาท่องสวดมนต์ในใจเพื่อข่มใจไม่จับเมียปล้ำในห้องน้ำขนาดแค่ท่องพุทธโธยังผิดๆ ถูกๆ เลยตอนนี้“โธ่เมียจ๋าอย่าเข้าใจผัวผิดซิคะ ที่ผัวไม่จับหนูกินไม่ใช่ผัวไม่รู้สึกรู้สมอะไรนะ ผัวอยากจะจับเมียกระแทกใจจะขาด เพียงแต่กลัวเมียว่าหื่นไม่สงสารลูกสงสารเมีย นี่หนูดูหลักฐานซิไอ้ยักษ์ของผัวแข็งจนไม่อยากจะแข็งแล้ว มันอยากมุดรูเมียไปทักทายเทวดาตัวน้อยในท้องเมียมากเลยตอนนี้ ถ้าอย่างงั้นแสดงว่าเมียจะอนุญาตให้ผัวได้กินเมียได้ใช่ไหมคะ”พอได้ยินคนตัวสูงสารภาพความจริงว่าอยากจะจับตัวเองกินเหมือนกันทำเอาคนเข้าใจผิดคิดว่าผัวไม่อยากทำรักตัวเองใบหน้าเห่อแดงด้วยความเขินอาย หวังพี่นิลคงไม่หาว่าเราหื่นจัดอยากโดนจับกินหรอกนะ ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ ถ้าพี่นิลจะจับเรากินก็จะยินดีที่สุด ร่างอวบจึงพยักหน้าตอบรับด้วยความเอียงอาย
หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนิลกาฬและพีรฉัตรสองสามีภรรยาก็ตกลงกันว่าจะอยู่ที่รีสอร์ตแค่อีกอาทิตย์เดียวก็พากันกลับกรุงเทพ เพราะกลัวทุกคนในครอบครัวพากันเป็นห่วง จนกระทั่งวันกลับนิลกาฬพาภรรยาท้องโตขึ้นเครื่องบินกลับเพราะไม่ต้องการให้คนท้องนั่งรถนาน ส่วนรถของนิลกาฬที่ขับมาจากกรุงเทพก็ให้คนงานที่รีสอร์ตขับกลับไปให้ จนลงเครื่องที่สนามบินที่กรุงเทพคุณอาทิตย์ก็ให้รถที่บ้านมารอรับ พอรถเคลื่อนเข้าไปจอดที่คฤหาสน์เท่านั้นแหละทั้งคุณพ่ออาทิตย์ คุณพ่อจุมพล ป้าสายบัวและบรรดาแม่บ้านและคนรับใช้ต่างก็ออกมาต้อนรับกันใหญ่“สวัสดีครับพ่อๆ สวัสดีครับทุกคน” ร่างอวบอิ่มจากการตั้งครรภ์ยกมือไหว้ทุกคนด้วยใบหน้ายิ้มแย้มหลังลงจากรถได้โดยมีคุณสามีประครองโอบเอวอยู่ไม่ห่าง“คุณพรีนของป้าบัว ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะคะ คุณหนูตัวน้อยในท้องด้วยค่ะ” ป้าสายบัวเข้ามากอดร่างอวบอิ่ิมของคุณแม่ตั้งครรภ์ด้วยความคิดถึง“พรีนก็คิดถึงป้าบัวเหมือนกันครับ” “ป่ะลูกเข้าไปในบ้านกันเถอะจะได้นั่งพัก เดินทางมาเหนื่อยๆ หลานพ่อเพลียแล้วมั้งป่านนี้”คุณอาทิตย์ชวนทุกคนเข้าไปพักผ่อนที่ห้องรับแขก ป้าสายบัวกับเหล่าแม่บ้านก็เต
“เราหันมาคุยกันดีๆนะครับ หนูนั่งเฉยๆก่อนฟังพี่เล่าอย่างเดียวให้จบก่อนนะครับ หนูจะตัดสินใจยังไงพี่แล้วแต่หนูเลย”ร่างสูงของนิลกาฬเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆ ของตัวเองกับเลขาให้ภรรยาฟัง พร้อมทั้งการจ้างนักสืบตามหาพีรฉัตรมาตลอด จนกระทั่งเจอ“ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะไม่คิดถึงพรีน พอพรีนไม่อยู่ใจของพี่แทบจะขาด พี่เพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่พรีน ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะไม่รู้สึกผิด ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะนอนหลับสนิท ไม่มีวันไหนเลยที่พี่จะทานข้าวอร่อยเพราะมันไม่ใช่รสมือของเมียพี่ พี่กินแค่พอประทังชีวิตให้มีแรงตามหาหนูเท่านั้น พี่รักพรีนนะครับ หมอนิลกาฬคนนี้รักคุณพีรฉัตรมากนะครับ ที่รักของพี่ เมียพี่พอจะให้อภัยผัวคนนี้ได้ไหม เรากลับมาเป็นครอบครัวเดียวกันได้ไหมครับ พี่ขอโอกาสได้ดูแลหนูดูแลลูกของเราด้วยได้ไหมครับ”ร่างสูงพูดออกมาทัั้งน้ำตาเขาคุกเข่ากับพื้นตรงหน้าของภรรยา พีรฉัตรก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขารับรู้มาตลอดตั้งแต่นอนอยู่ที่โรงพยาบาลว่าอีกคนตามหาตัวเอง ช่วงเวลาสองเดือนกว่าไม่นึกว่ามันจะทำให้เขาเป็นขนาดนี้ รูปร่างที่เคยสง่างามกลับซูบผอม พ่ออาทิตย์บอกว่าร่างสูงไม่สามารถ