พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าว
ตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นการบังคับแต่งงานและแต่งงานแทนแต่หัวอกคนเป็นพ่อก็ไม่อยากจะเห็นลูกๆ ทั้งสองเลิกกันอยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นการแต่งงานของคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันดูแลกันและกันจนแก่จนเฒ่าจริงๆ “ครับคุณพ่อ ขอบคุณครับ” ทั้งสองคนขอบคุณผู้ให้กำเนิดทั้งสอง ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันออกจากห้องหอไป ปล่อยให้บ่าวสาวได้อยู่ด้วยกัน พอในห้องนี้มีแต่พวกเขาคู่บ่าวสาวสองคนที่แปลกหน้าต่อกัน เพิ่งเจอกันวันนี้ก็ต้องมาอยู่กันตามลำพังสองคนในห้องแคบ ๆ ในฐานะสามีภรรยาต่างคนต่างไม่รู้จะคุยอะไรกัน “เอ่อ เดี๋ยวเธอไปอาบน้ำก่อนเลยนะ มันดึกแล้วจะได้พักผ่อนเหนื่อยเป็นบ้า” นิลกาฬบอกร่างบางก่อนที่ตัวเองจะล้มตัวลงนอนที่เตียงเพื่อรออาบน้ำต่อ พีรฉัตรหยิบเอาชุดนอนที่คนที่บ้านเอามาเตรียมไว้ให้เข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนด้วย ตัวเขาเองก็อึดอัดที่ต้องอยู่กับเจ้าบ่าวที่ไม่ได้เต็มใจแต่งงานและไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน เลยไม่รู้จะพูดอะไรด้วย อีกคนก็หน้าไม่รับแขกพูดน้อยเหลือเกินยังกลับกลัวว่าดอกพิกุลจะร่วงออกมาจากปากเวลาพูด เฮ้อ ขอให้ผ่านพ้นในแต่ละวันไปได้ด้วยดีเถอะนะพรีน สู้ ๆ พีรฉัตรยืนให้กำลังใจตัวเองหน้ากระจกอ่างล้างหน้า ก่อนจะรีบอาบน้ำแล้วออกมาเพื่อที่จะพักผ่อนวันนี้ทั้งวันเค้าเพลียทั้งกายเพลียทั้งใจแล้วอยากจะล้มตัวลงนอนมาก พอออกมาจากห้องน้ำตาคมเฉี่ยวก็มองไปที่เตียงที่มีร่างหนาของนิลกาฬนอนหลับอยู่บนเตียง แล้วอย่างนี้เขาจะนอนตรงไหนล่ะ อีกคนก็นอนหลับกลางเตียงกินพื้นที่เกือบหมด และนอนหลับลงไปได้ยังไงก็ไม่รู้น้ำยังไม่ได้อาบสงสัยคงจะเพลียมากเหมือนกัน “นี่คุณ คุณ ได้ยินไหมครับ ตื่นไปอาบน้ำก่อนนะครับ เดี๋ยวค่อยมานอน” “ฮือ นี่คุณอาบเสร็จแล้วเหรอ โอเคเดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อนล่ะกัน คุณนอนที่เตียงไปเลยนะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จผมว่าจะไปโรงพยาบาลซักหน่อย พรุ่งนี้อย่าเพิ่งออกไปล่ะ รอออกไปพร้อมกัน” สั่งเสียเสร็จนิลกาฬก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ปล่อยให้พีรฉัตรอ้าปากค้าง นี่เขาเป็นเจ้าสาวที่เจ้าบ่าวหนีออกจากห้องหอไปนอนที่อื่นตั้งแต่คืนแรกที่เข้าหอและใช้ชีวิตคู่เลยหรือนี่ ระหว่างที่อีกคนเข้าไปอาบน้ำ พีรฉัตรเลยตัดสินใจนอนดีกว่า ขี้เกียจจะคิดอะไรแล้วใครจะไปไหนนอนไหนก็ช่างเถอะ ตัวเขาขอนอนพักกายก่อนดีกว่า นิลกาฬที่อาบน้ำเสร็จพอออกมาจากห้องน้ำสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางที่ตอนนี้นอนหลับอยู่บนเตียง หน้าหวานแก้มเนียนใส คงนิ่มน่าดู ขนตาดกยาวงอนอย่างกับดัดขนตามา จะว่าไปเจ้าสาวเค้าก็สวยหน้าตาดีอยู่หรอก แต่เค้าไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าตัวถึงยอมแต่งงานกับเขาแทนพี่สาวง่ายๆ ก็ไม่รู้ อีกอย่างที่เค้ารู้มาคือพีรฉัตรไปเติบโตอยู่ที่เมืองนอกเรื่องเซ็กส์แบบนี้อาจจะช่ำชองเลยไม่ถือเลยไม่ปฏิเสธที่จะต้องแต่งงานกับเขาซึ่งเป็นผู้ชาย แต่ยังไงก็เถอะที่ตกลงกันคือ แต่งแค่ในนาม แต่งแล้วรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อที่จะเลิกกันโดยที่สังคมไม่ติดใจอะไร ระหว่างนี้ก็ต่างคนต่างอยูไม่ก้าวก่ายซึ่งกันและกัน ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันเข้าหอเขาก็ขอไปนอนที่อื่นก่อนแล้วกันเพื่อจะได้บอกเจ้าสาวเป็นนัยๆ ว่า จากนี้ไปเขาจะทำอะไรตามใจตัวเองเหมือนเดิน จะไม่เปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร แต่งตัวเสร็จหมอหนุ่มอย่างนิลกาฬก็คว้าเอากุญแจรถแล้วหันมามองร่างบางอีกครั้งก่อนที่จะปิดประตูห้องหอแล้วไปนอนที่คอนโดแทนการไปโรงพยาบาลตามที่บอกเจ้าสาวไว้ ส่วนตัวแทนเจ้าสาวอย่างพีรฉัตรหลังจากที่ได้หลับเต็มอิ่มไปเมื่อคืน เช้านี้ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยหน้าตาที่สดชื่น พอลุกขึ้นนั่งขยับตัวมานั่งพิงหัวเตียงเพื่อตั้งสติ มองไปรอบห้องก็ไม่พบร่างสูงที่บอกว่าตอนเช้าจะรีบกลับมาเพื่อที่จะได้ออกจากโรงแรมพร้อมกัน นี่ก็เกือบแปดโมงเช้าแล้วพีรฉัตรเลยลุกออกจากที่นอนก่อนที่จะไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้าน พอก้าวขาเรียวยาวออกมาจากห้องน้ำพีรฉัตรก็ตกใจเมื่อเจอร่างสูงนั่งกดโทรศัพท์อยู่บนเตียงด้วยความที่คิดว่า อีกคนคงไม่กลับมาที่โรงแรมแล้วทำให้ร่างบางที่เข้าไปอาบน้ำไม่ได้เอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนด้วย พออาบน้ำเสร็จตอนออกมาเลยนุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวสีขาวพร้อมกับผ้าเช็ดผมผืนเล็กเดินเช็ดผมเปียกหมาดๆ ออกมาจากห้องน้ำ “โอ๊ะ ขอโทษครับไม่นึกว่าคุณจะกลับมา” พีรฉัตรเลยถอยหลังกลับเข้าไปในห้องน้ำใหม่พร้อมกับออกมาด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำก่อนท่ีจะออกมาอีกครั้งเพื่อมาหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่เข้าไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ส่วนคนที่เพิ่งกลับมาจากข้างนอกก็ตกตะลึงในความขาวออร่าของร่างบางมันนวลเนียนไปหมดไหนจะหยดน้ำที่เกาะตามร่างบางนั่นอีกดูมันช่างยั่วยวนเซ็กซี่มาก ทำให้เจ้านิลน้อยตื่นตัวเลยทีเดียว ยังไม่ทันที่จะมองสำรวจความงามของอีกคนได้เต็มตาเลยเจ้าของร่างดันกลับเข้าไปในห้องน้ำและกลับออกมาใหม่ในเสื้อผ้าที่ปิดกายขาวแบบมิดชิด เสียดายเลยไม่ร้อนหรือไงนะ พอพีรฉัตรกลับออกมาจากห้องน้ำคนตัวโตก็ลุกขึ้นจากที่นอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง “เก็บของหมดแล้วใช่ไหม ” “เก็บหมดแล้วครับ ป่ะ กลับกันเถอะ” “ไม่ลืมอะไรแน่นะ” คุณหมอหนุ่มย้ำอีกครั้ง จนพีรฉัตรอยากจะมองบน นี่ใครพีรฉัตรผู้ที่ละเอียดรอบคอบที่สุด “ไม่ลืมครับ เก็บครบ” “ดี งั้นก็กลับกัน” ทั้งสองออกจากห้องลงมาที่รถคันหรูที่จอดอยู่ของคุณหมอ เมื่อก้าวเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย เจ้าของรถก็เคลื่อนรถออกจากโรงแรมไปยังจุดหมายปลายทาง “เดี๋ยวคุณส่งผมที่ป้ายรถข้างหน้าก็ได้ครับ เดี๋ยวผมกลับเองได้” พีรฉัตรบอกสารถีเจ้าของรถที่เค้าอาศัยโดยสารออกมาจากโรงแรมของที่บ้านเพื่อให้พ้นคำครหาว่าผัวเมียแยกกันอยู่ตั้งแต่วันแรก คำพูดของร่างบางทำให้คนที่ขับรถมาหงุดหงิดทันที “จะลงไปไหน” “อ้าว ก็กลับบ้านไงครับ ผมไม่อยากรบกวนให้คุณไปส่งที่บ้านเพราะนี่มันคนละเส้นทางที่จะกลับบ้านผม คุณจะได้ไม่เสียเวลากลับไปกลับมา คุณก็กลับบ้านคุณได้เลย” “เดี๋ยวนะ นี่เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หลังแต่งงานกันแล้ว คุณต้องไปอยู่บ้านผม จนกว่าวันที่เราจะหย่าจากนั้นก็ทางใครทางมันไม่ใช่เหรอ” “เอ่อ ขออยู่บ้านผมไม่ได้เหรอครับ” ร่างเพรียวบางเริ่มเสนอทางเลือกให้คนขับรถ “ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”นิลกาฬโยนร่างบางให้ลงไปนอนบนเตียงกว้างในห้องตัวเอง ก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบถอดเสื้อผ้าจนตอนนี้เป็นชีเปลือยยืนอวดหุ่นสวยด้วยกล้ามเนื้ออยู่ปลายเตียง “ต่อต้านดีนักกับผมที่เป็นสามีเนี่ยถูกกฎหมายเนี่ย ทีกับชู้ก็ยืนนิ่งๆ ให้มันกอด เดี๋ยวผมจะทำให้ดูว่าลีลาผมเด็ดกว่าไอ้ชู้หน้าตี๋นั่นอีก อย่ามาติดใจแล้วกัน”ร่างบางของพีรฉัตรที่โยนลงบนเตียงขยับหนี เขาพยายามที่จะอธิบายให้อีกคนฟังแล้ว แต่คนตัวโตไม่ยอมฟังเขาเอาซะเลย พอเขาขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามแรงกระชาก ก็โดนคนแรงเยอะอุ้มพาดบ่าเข้าบ้านมา พอดิ้นมากๆ เข้าก็โดนตีที่ก้นจนแสบไปหมดแล้ว ไหนจะโดนจับโยนลงบนเตียงจนจุก ไหนจะคำหยาบคายที่กล่าวหากันนั่นอีก ที่สำคัญตอนนี้อารมณ์ของนิลกาฬน่ากลัวมาก คนตัวสูงก้าวขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไร้ซึ่งอาภรณ์ปิดบังร่างกาย ไหนจะพกอาวุธกลางกายที่ใหญ่โตน่าเกรงขามนั่นอีก ถ้าเขาโดนไอ้นี่ทำโทษคงสลบแน่เลยมันไม่น่าจะเข้ากันได้“ถอยออกไปนะคุณนิล มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดคุณก็ฟังผมบ้างซิ” ร่างบางพยายามจะอธิบายอีกครั้ง“เข้าใจผิดอะไร เข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนดีน่ะซิ ที่ไหนได้ร่านชิบหาย พอผมไม่ทำหน้าที่ผัวให้ เลยจะให้ไอ้ตี๋นั่นมาทำแทนเหรอ ฝันไปเถอะผมเ
“คุณพ่อทำไมวันนี้เริ่มทานเร็วล่ะครับ” เสียงของพีรฉัตรดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวขึ้นของร่างเพรียวบางและมีพนักงานทยอยถือกับข้าวเข้ามาเสิร์ฟบรรดาพ่อๆ ที่โต๊ะเพื่อที่จะรับประทานอาหาร พอมาถึงเห็นบุคคลแปลกปลอมนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อๆ ทั้งสองก็ตกใจ มาได้ยังไงเนี่ย“วางเลยลูก น้องพรีนมานั่งเลยจะได้เริ่มทาน วันนี้คุณหมอหิวมาก เห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลย” พ่อตาออกโรงแทนลูกเขย พีรฉัตรมองหน้าหล่อของคุณหมอที่พ่อบอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ คนตัวสูงแทน “เริ่มแทนเลยตานิล นี่พรีนเค้าทำเองหมดเลยนะ ถ้าต้องปรับปรุงตรงไหนอร่อยไม่อร่อยบอกเชฟพรีนได้เลยนะลูก เชฟเค้าจะได้ปรับปรุง” ถึงเวลาอวยลูกตัวเองบ้าง พอตักอาหารมาเริ่มทานนิลกาฬก็พบว่าอาหารอร่อยถูกปากเขาทุกอย่างสมกับเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทุกคนต้องมาทานจริงๆ เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อๆ และภรรยาจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนพ่อตาเค้า พ่อตาอยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เหงา นี่เป็นการแสดงความเอาใจใส่อีกรูปแบบหนึ่งของร่างบางที่มีต่อพ่อ “เอ่อ น้องพรีนเมื่อกี้พ่อคุยกับพี่นิลแล้ว ว่าจะให้พี่นิลนั่งรถมาทำงานเ
ตอนนี้พีรฉัตรอยากจะเอาสมาธิมาจดจ่ออยู่กับแค่การขับรถ แต่จิตใจมันไม่รักดีดันไปไขว้เขวกับคนร่างสูงที่วิสาสะนั่งมาด้วย แม้อีกคนจะนั่งอยู่เงียบๆตามที่บอก แต่ก็ไม่นิ่งเอาเสียเลยคอยขยับ คอยปรับแอร์ เปิดเพลงเปลี่ยนเพลงอยู่นั่นแหละ มันทำให้พีรฉัตรไม่มีสมาธิเอาซะเลย เริ่มจะโมโหแล้วนะ“คุณจะลงที่ไหนผมจะได้จอดรถให้ลงได้ถูก” เจ้าของรถถามผู้โดยสารทันที เพราะร่างบางไม่ไหวแล้วขืนนั่งไปด้วยกันต่อ อาจจะเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับไม่มีสมาธิเป็นแน่“ผมว่าผมบอกคุณแล้วนะว่าคุณพ่อให้นั่งไปส่งคุณจนถึงที่ทำงาน ฉะนั้นคุณขับไปให้ถึงที่ทำงานของคุณเลย คุณจอดรถอย่างปลอดภัยไม่ชนใครเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมก็กลับเอง”“ผม เอ่อ ไม่มีสมาธิขับรถถ้าคุณอยู่ด้วย เพระฉะนั้นผมขอล่ะคุณลงไปจากรถผมหน่อย ผมไม่บอกคุณพ่อหรอก”“ไม่เอา ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ คุณมาหวั่นไหวกับผมเอง คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย”“ผมไม่ได้คิดอะไร ไม่หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น ผมแค่รำคาญ ตอนนี้คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้คุณลงจากรถผมซะที ในเมื่อคุณตีมึนพูดยังไงก็ไม่ลง งั้นก็นั่งเฉยๆ แล้วกัน” นิลกาฬนั่งขำอีกคนที่ทำท่าทางฟึดฟัดใส่เขา มองดูแล้วน่ารักดีเหมือนตอนนี้เขากำลัง
“คุณพรีนคะ ป้ามา อุ๊ย คุณนิล”ป้าสายบัวร้องอุทานตกใจที่คนที่มาเปิดประตูเป็นนิลกาฬ ส่วนคนที่ป้าสายเรียกเห็นรางๆ ว่านอนอยู่ที่เตียง แหม! คุณนิลกับคุณพรีนทำเป็นนอนแยกห้องกันแต่สุดท้ายก็มาจู๋จี๋กันอยู่ดี“ว่าไงครับป้าบัว” คนตัวสูงเอ่ยถามป้าบัวเสียงหงุดหงิด สงสัยป้าบัวมาผิดเวลามากวนเวลาจู๋จี๋“เอ่อ พอดีป้านัดกับคุณพรีนไว้ว่าจะทำม้ือเย็นกันค่ะป้าเลยมาตาม ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณนิลกับคุณพรีนตามสบายเลยนะคะ ป้าบัวไม่กวนแล้ว” ป้าสายบัวกำลังจะหันหลังกลับ “ป้าบัวครับ รอพรีนด้วยครับ เดี๋ยวพรีนจะลงไปพร้อมป้าบัว” เสียงร่างบางเรียกมาจากในห้องป้าสายบัวจึงต้องหยุดรอ ส่วนคนร่างบางหลังจากจัดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วรีบออกมาจากห้องเพราะกลัวร่างสูงจะทำอนาจารกับตัวเองอีก “ไหวเหรอ” เสียงร่างสูงถามเพราะต้องการสื่อความหมายให้ป้าบัวเข้าใจผิด ซึ่งได้ผลดีเกินคาดป้าบัวคิดไปไกลว่าที่ร่างสูงของเจ้านายถามภรรยาน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงเพราะอาจจะเพิ่งผ่านกิจกรรมรักกันมา ส่วนคนถูกถามหน้าแดงเขินอายไปไม่ถูก จะถามบ้าอะไรอย่างนั้น“ช่วยหลีกทางให้ผมด้วยครับ ผมจะลงไปทำกับข้าวกับป้าบัว”นิลกาฬเลยเบี่ยงตัวออกเพื่อเปิด
เช้านี้เป็นวันหยุดของนิลกาฬ ที่จริงยังไม่อยากตื่นเลยแต่เมื่อคืนตอนเดินเข้ามาในบ้านเขาดันไปได้ยินเสียงของภรรยาในนามนัดแนะกับใครสักคนว่าเจอกันตอนเก้าโมง เพราะความอยากรู้ว่าอีกคนนัดใครไว้ เค้าก็เลยต้องรีบตื่นก่อน เก้าโมงเพื่อมาจับชายชู้ให้ได้คาหนังคาเขา เค้าจะได้มีข้ออ้างกับพ่อขอหย่าเพราะร่างบางมีชู้ทั้งๆ ที่ยังกอดทะเบียนสมรสกับเขาอยู่ แปดโมงครึ่งยังไม่ถึงเวลาที่ได้ยินร่างบางนัดแนะ แต่นิลกาฬก็อยู่ในชุดออกกำลังกาย ทำเหมือนมาออกกำลังกายแถวสนามหญ้าหน้าบ้านเพื่อจะได้จับภรรยาและชู้ให้ได้ตัวเป็นเห็นกันซึ่งๆ หน้า ร่างสูงท้ังวิ่งจ๊อกกิ้งจนเหนื่อย จังหันมายืดเหยียดกล้ามเนื้อบริหารร่างกายแทน จนเวลาเก้าโมงครึ่งก็ยังไม่เห็นร่างบางลงมาหรือคนที่มารับปรากฏตัวเลย เอ๊ะหรือว่านัดกันที่อื่น แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ยหรือจะถามจากใครได้ พ่อเขาไม่ได้ล่ะหนึ่งถ้าไปถามมีหวังโดนซักฟอก คุณจุมพลพ่อตาก็ไม่ได้หมดแล้วตัวเลือกแล้ว ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เสียเวลาชิบหาย“อ้าวคุณนิล ป้านึกว่าออกไปกับคุณพรีนซะอีก” ป้าสายบัวทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร เหยื่อมาแล้วหนึ่ง คุณหมอยิ้มกริ่มในใจ “พอดีผมตื่น
พอพีรฉัตรเดินมาหาผู้เป็นบิดาที่ห้องอาหาร ก็พบว่ามีคุณอาทิตย์นั่งรออยู่กับพ่อแล้ว “พ่อทิตย์สวัสดีครับ มานานหรือยังครับ”คุณอาทิตย์หันมาหาร่างบางของลูกสะใภ้ทันที“พ่อเพิ่งมาถึงนี่เองลูกว่าจะมาหาเพื่อนดื่มสักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะลาภปากได้ทานอาหารฟรีของโรงแรมดังระดับ 6 ดาว และเจ้าของโรมแรมมาทำอาหารให้ทานเอง 555” คุณอาทิตย์แซวลูกสะใภ้คนโปรด “เป็นไงบ้างลูก ทำงานสนุกไหมเหนื่อยหรือเปล่า”“สนุกครับ งานเยอะจนหายเหงาเลย” ร่างบางยิ้มตาหยี “พ่อๆ ชิมอาหารดูนะครับพรีนอยากรู้ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง”“แค่เห็นหน้าตาก็ไม่กล้าทานเลยลูก” คำพูดของพ่อสามีที่หวังดีกับพีรฉัตรมาตลอดทำเอาคนฟังใจแป้วไปเลย “ที่พ่อว่าไม่กล้าทานไม่ใช่อะไรนะลูก มันสวย มันดูดีมาก เดี๋ยวพ่อถ่ายรูปไว้หน่อยนะเดี๋ยวจะโพสต์โปรโมทซะหน่อย เดี๋ยวชิมรสชาติก่อนนะ ฮือ มันอร่อยมากลูก ว่าคุณฉัตรทำกับข้าวอร่อยแล้วนะ น้องพรีนแซงแม่มาเลย ไอ้พลมึงลองชิมดู เดี๋ยวว่ากูโม้” พ่อคุณอาทิตย์พูดก็ทำให้คนทำปราบปลื้มยิ้มหวานเลย และหันมารอลุ้นจากคนเป็นพ่ออีก“อือ ใช่รสคล้ายๆ ของคุณฉัตร แต่อร่อยกว่าลูก พ่อว่าห้องอาหารของโรงแรมเรากลับมาบูมอีกแน่เลย” “จริงหรือ
เช้าวันต่อมา คุณอาทิตย์ก็เดินมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน หลังจากนั่งลงแค่แป๊บเดียวพีรฉัตรก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ ลงมานานหรือยังครับ” ฝ่ายลูกสะใภ้เอ่ยทักทายและถามขึ้น “เพิ่งลงมาก่อนน้องพรีนแปล๊บเดียวลูก เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับหรือเปล่า”“หลับๆ ตื่นๆ ครับ อาจจะเพราะพรีนแปลกที่ก็ได้ คงยังไม่คุ้น”“เดี๋ยวก็ชินลูก”คุณอาทิตย์ไม่รู้จะปลอบใจลูกสะใภ้ยังไงดี“สายบัว ทำไมวันนี้ข้าวต้มรสชาติแปลกๆ ไป” สีหน้าฉงนของเจ้าของบ้าน หันไปถามหัวหน้าแม่บ้านทันทีที่ชิมข้าวต้มปลา“เป็นยังไงบ้างคะคุณท่าน ไม่ถูกปากหรือคะ”“เปล่า มันอร่อยมากต่างหาก วันหลังทำสูตรนี้อีกนะ หนูพรีนลองทานดูซิลูกอร่อยมาก”คุณอาทิตย์เชิญชวนลูกสะใภ้ให้ชิมข้าวต้มที่ตนคิดว่าตั้งแต่แม่ครัวทำมาวันนี้อร่อยที่สุด“คุณท่านต้องบอกคุณหนูพรีนแล้วล่ะค่ะ ว่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะข้าวต้มวันนี้ฝีมือคุณพรีนเป็นคนทำค่ะ” ป้าสายบัวบอกเจ้านายยิ้มๆ“อ้าว พ่อเลยปล่อยไก่ตัวเบ่อเร่อเลย ลืมไปเลยว่ามีเชฟอยู่ที่บ้านตัวเอง 5555”“ถ้าคุณพ่อชอบวันหลังพรีนจะทำให้ทานบ่อยๆ ครับ”ขณะที่เจ้าของบ้านกับลูกสะใภ้กำลังทานข้าวต
“ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”“ผมขอไปอยู่บ้านผมได้ไหมต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดี๋ยววันไหนถ้าต้องออกงานด้วยกัน คุณค่อยมารับผมที่บ้านก็ได้”ร่างบางเสนอทางออกให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะซิ พ่อๆ ของเรายอมที่ไหน หรือคุณจะลองขอพวกเค้าดูก่อนก็ได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะแต่งหรอกนะไอ้งานแต่งบ้าๆ เนี่ย”ร่างสูงบ่นยาวแต่ก็ไม่ยอมจอดรถให้อีกคนลงตามคำขอ ตรงกันข้ามเขากลับขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของตัวเองตามเดิมคำว่า งานแต่งบ้าๆ ทำเอาพีรฉัตรได้ยินแล้วถึงกับจุกเหมือนกัน ก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ช่วยพูดอะไรที่มันซอฟๆ กว่านี้ได้ไหม คนฟังพอได้ยินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ พอคุณหมอรูปหล่อทำหน้าที่สารถีหนุ่มขับรถคันหรูสัญชาติยุโรปเข้ามาจอดสนิทที่โรงจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลธีรวัฒนาวัฒน์ เขาก็กดเปิดประตูแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ส่วนคนที่โดยสารมาด้วยรีบลงจากรถและเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไป แบบงงๆ พอเดินมาถึงห้องโถงของคฤหาสน์ก็เจอชายสูงวั
พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าวตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน