"คอยดูนะ กูจะทำให้สายรุกหน้าหวาน กลายมาเป็นรับให้ดู" คำพูดสุดแสนท้าทายดังออกมาจากปาก ของเจ้าของคาสิโนหนุ่ม โดยที่เขาไม่รู้เลยคำพูดสุดแสนจะมั่นใจนั้น จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล "เวรเอ้ย!!"
View Moreเรือสำราญหรู
หลังจากที่ทำงานเหน็ดเหนื่อยกันมาตลอดทั้งปี การได้ออกมาท่องเที่ยวบนเรือสำราญสุดหรู มันก็ถือเป็นการพักผ่อนหย่อนใจอีกรูปแบบหนึ่ง แถมยังทำให้เราได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เจอผู้คนใหม่ ๆ และยังได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ ของธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว
เรือสำราญสุดหรูถูกตกแต่งไปด้วยหินอ่อน ที่ดูโดดเด่นและสวยงาม พร้อมประดับแชนเดอเลียร์ที่ทำจากคริสตัลนับร้อยเพื่อให้แสงสว่าง ยิ่งทำให้บรรยากาศบนเรือดูงดงาม และโรแมนติกมากขึ้นในยามค่ำคืน
“โอ้โห! บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้นสเปกมึงเลยนี่หว่า ไอ้ริค”
“ไหนวะ…โห! ขาวสูง หน้าตาสวยเหมือนผู้หญิงเลยว่ะ”
เสียงพูดคุยของหนุ่ม ๆ ดังขึ้น เมื่อไซออนนักธุรกิจชื่อดังสังเกตเห็นว่า เอริคเพื่อนของตัวเองกำลังนั่งจ้องไปทางบาร์ ที่มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มกำลังยืนชงเครื่องดื่มอยู่ได้ซะพัก มังกรที่เป็นเพื่อนอีกคนได้ยินไซออนพูดออกมาแบบนั้น ก็รีบหันมองตามทันที หึหึ นี่มันสเปกเพื่อนของเขาเลยนะเนี่ย ดูถ้าการมาล่องเรือเที่ยวรอบนี้ จะไม่ได้มาเสียเปล่าแล้วสินะ
…เอริค ไซออน มังกรได้นัดกันออกมาล่องเรือสำราญเที่ยว เพื่อเป็นการพักผ่อนและเปลี่ยนบรรยากาศ หลังจากที่ทุกคนต่างทำงานกันมาหนักทั้งปี…
เอริคหนุ่มลูกครึ่งไทยอังกฤษ เจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ของประเทศ หนุ่มโสดที่มีใบหน้าหล่อคมตามสไตล์ลูกครึ่ง ทำให้หนุ่มสาวที่ได้เห็นอดหลงใหลในใบหน้านี้ไม่ได้ เลยชอบพยายามเข้ามาตีสนิทกับเขาอยู่หลายครั้ง แต่ด้วยรสนิยมของเอริคเป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน เลยทำให้สาว ๆ ที่เข้ามาพวกนั้นถูกไล่ตะเพิดออกไปอย่างไม่มีเยื่อใยแทน
เอริคครองตัวเป็นโสดมาตลอด เพราะเขาชอบชีวิตแบบอิสระไม่ชอบผูกมัด และเป็นพวกไม่มีความเชื่อในเรื่องความรักสักเท่าไหร่ ส่วนมากความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับเขา จะเป็นแบบวันไนท์หรือแบบคู่นอนชั่วคราวเท่านั้น เขามีความมั่นใจในตัวเองสูง คิดว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่คนเดียวได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาความรักอะไรพวกนั้น
แล้วดูเหมือนว่าคืนนี้เอริคก็จะได้ว่าที่คู่นอนคนใหม่ดั่งหวังซะด้วย เมื่อเขารู้สึกสะดุดตาบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ยืนชงเหล้าอยู่ตั้งแต่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าขาว ๆ ราวกับใบหน้าผู้หญิง แถมยังมีริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อ ที่ฉีกยิ้มหวานส่งให้ผู้คนรอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นท่วงท่าการขยันตัวที่ดูพลิ้วไหว ราวกับว่าเขากำลังร่ายรำอยู่หลังเคาน์เตอร์บาร์นั้น มันยิ่งทำให้ผู้คนที่เห็นแทบไม่สามารถละสายตาจากเขาไปได้เลย เอริคนั่งจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มแบบไม่รู้ตัว…
เอริคเหลือบตามองไปทางเพื่อน ๆ ของตัวเองแวบหนึ่ง เมื่อได้ยินทั้งสองพูดชมบาร์เทนเดอร์ที่ตัวเองกำลังนั่งมองอยู่ ก่อนจะเอ่ยเรียกหาลูกน้องของตัวเองที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ให้เข้ามาหา
“ไอ้แซม”
“ครับนาย” แซมลูกน้องคนสนิท รีบเดินเข้ามาหาเจ้านายตัวเองตามเสียงเรียก
“มึงไปติดต่อบาร์เทนเดอร์คนนั้นให้กูหน่อยสิ”
เสียงทุ่มเข้มพูดสั่งลูกน้องตัวเองออกไป โดยทำเป็นไม่สนใจสีหน้าของเพื่อนทั้งสอง ที่กำลังนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองมาทางตัวเอง เอริคไม่คิดจะปิดบังความรู้สึกสนใจที่มีต่อบาร์เทนเดอร์หนุ่มกับเพื่อน ๆ และคืนนี้เขาก็จะต้องได้ครอบครองเด็กหนุ่มคนนั้นตามที่ใจทต้องการด้วย
“ได้ครับนาย” แซมพยักหน้ารับคำสั่งอย่างว่าง่าย ก่อนจะถอยหลังเดินไปทางบาร์เครื่องดื่ม
นิสัยของเอริคถ้ารู้สึกชอบหรือสนใจใคร ก็จะให้ลูกน้องของตัวเองเข้าไปติดต่อ แล้วทำข้อตกลงกับผู้ชายคนนั้นให้ โดยที่เขาไม่เคยต้องไปคุยพูดเอง เจอกันอีกทีก็คือบนเตียงเลยเท่านั้น
เอริคนั่งมองดูแซมที่กำลังยืนคุยอยู่กับบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างไม่ละสายตา ถึงเขาจะรู้คำตอบของค่ำคืนนี้แล้วก็เถอะ เพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครหน้าไหน โง่ปฏิเสธการมาเป็นคู่นอนของเขาอย่างแน่นอน
********************
“ว่าไง”
“เออ…”
เอริคถามแซมขึ้นเมื่อเห็นลูกน้องของตัวเองเดินยิ้มแห้ง ๆ กลับมาที่โต๊ะ แล้วเอาแต่ยืนอ้ำอึ้งไม่พูดไม่จาอะไรออกมาสักที
“อ้ำอึ้งอยู่ได้ น้องเขาตอบกลับมาว่ายังไงก็พูดมาสิวะ” ไซออนที่นั่งลุ้นรอฟังคำตอบของแซมอยู่ ก็พูดขึ้นอย่างอดใจไม่ไหว
“น้องเขาปฏิเสธครับ บอกว่าถึงจะชอบผู้ชายเหมือนกันก็จริง แต่เขาเป็นสายรุกไม่ใช่สายรับครับ”
แซมเหลือบตามองเอริคแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบสายตาที่กำลังมองมาทางตัวเอง จากนั้นก็ค่อย ๆ เอ่ยพูดตอบทุกคนออกไปอย่างไม่เต็มเสียง เพราะกลัวว่าพอเจ้านายตัวเองได้ยินแล้วจะหัวเสียขึ้นมา
“สายรุก!” สามหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
“หน้าหวานเหมือนผู้หญิงขนาดนั้น ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นสายรุก”
“นั้นสิ น่าเสียดายหน้าตาฉิบหายเลยว่ะ”
ทุกคนที่นั่งอยู่พูดออกมาอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาหวานราวกับผู้หญิงคนนั้น จะเป็นฝ่ายรุกเหมือนกับพวกเขา บ้าไปแล้ว หน้าตาแบบนั้นเนี่ยนะ เป็นฝ่ายรุก! พวกเขาเชื่อไม่ลงจริง ๆ
“ครับ แต่…” แซมพยักหน้าตอบกลับทุกคน ก่อนคิดจะพูดอะไรออกมาอีกครั้ง แต่ก็หยุดไปเพราะไม่กล้าพูดต่อ
“แต่อะไร”
เอริคเห็นแซมเหมือนมีอะไรจะพูดต่อ ก็เลยถามขึ้นด้วยความสงสัย เพราะเขาคิดว่าบาร์เทนเดอร์คนนั้นจะต้องพูดอะไรฝากมาอีกแน่ ๆ
“น้องเขาบอกว่า...ถ้าเจ้านายอยากลองเปลี่ยนแนวมาเป็นรับ เขาก็พร้อมเสมอครับ” แซมกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมาอีกครั้ง
แกร็บ!!
“เปลี่ยนแนวอย่างงั้นเหรอ”
เอริควางแก้วเหล้าในมือลงกับโต๊ะเสียงดังลั่น พร้อมชักสีหน้าไม่พอใจใส่แซมทันทีที่ฟังจบ ไอ้บ้านั้นคิดจะให้เขาเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายรับแทนอย่างงั้นเหรอ มันเป็นใครถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับเขา
แซมที่รับรู้ถึงรังสีอำมหิตรอบ ๆ ตัวของเอริค ก็รีบก้มหน้าแล้วขยับถอยห่างทันที เพราะอย่างนี้ไงเขาถึงไม่อยากพูดมันออกมา แซมอยู่รับใช้เอริคมานาน เขารู้ดีว่าเจ้านายตัวเองคนนี้นิสัยเป็นยังไง สงสัยคราวนี้บาร์เทนเดอร์หนุ่มคนนั้น จะเจอปัญหาใหญ่เข้าแล้ว
ดวงตาคู่คมที่อาบเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว จ้องมองไปทางเทนเดอร์หนุ่ม ที่กำลังยืนยิ้มให้ลูกค้าอยู่อย่างเคียดแค้น ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีใครกล้าพูดหรือปฏิเสธเขาแบบนี้มาก่อน ไอ้บาร์เทนเดอร์บ้านั้นมันรู้จักเขาน้อยไปซะแล้ว
“เอาไงต่อ…จะถอยหรือเปล่าวะ”
มังกรที่นั่งดูท่าทีของเอริคอยู่ ก็พูดถามขึ้นอย่างลองเชิง เพราะเขาอยากรู้ว่าเพื่อนตัวเองคิดจะทำยังไง จะหยุดเพียงเท่านี้หรือว่าจะเดินหน้า หาวิธีจัดการพ่อหนุ่มสายรุกหน้าหวานต่อไป
“คนอย่างเอริค สะกดคำว่าถอยไม่เป็นโว้ย!”
เอริคหันมาตอบเพื่อน ๆ กลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนอย่างเอริคเจ้าของคาสิโนยักษ์ใหญ่ ที่มีลูกน้องให้ความเคารพนับถือเป็นพัน ไม่มีทางมายอมถอยเพราะเรื่องแค่นี้อย่างแน่นอน คอยดูนะ เขาจะทำให้สายรุกหน้าหวานคนนั้น กลายมาเป็นสายรับให้ดู!!
หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง เจ้าของคาสิโนหน้านิ่งก็ได้ป่าวประกาศ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับอดีตบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ให้เพื่อน ๆ และลูกน้องทุกคนได้รับรู้ทั่วกัน ถึงระยะแรก ๆ เอริคจะรู้สึกประหม่าตอนเจอคนอื่นอยู่บ้าง เพราะไม่รู้ว่าใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้ตัวเองอยู่นั้น เป็นรอยยิ้มจริงจากใจหรือรอยยิ้มจอมปลอม แต่พอหลัง ๆ มาเอริคก็เริ่มเลิกสนใจสายตาพวกนั้นในที่สุดแล้วเวลานี้เอริครู้สึกโล่งใจมาก ๆ ที่ไม่ต้องคอยโกหกปิดบังเรื่องตัวเองอีก และที่เขารู้สึกดีมากที่สุดของการป่าวประกาศข่าวในครั้งนี้ คือมันทำให้เด็กหนุ่มที่ชอบมาหยอกล้อพูดเล่นกับเฟย ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดเล่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เอริครู้สึกชอบเรื่องนี้มาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องคอยระแวง กลัวเฟยอดใจไม่ไหวไปแอบหากินที่อื่นอีกเรือสำราญ-ห้องพัก“นายจำห้องนี้เตียงนี้ได้ไหมเฟย”“จำได้สิครับ ก็ห้อ
หลังจากที่คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จแล้ว ภายในห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เอริคนั่งเล่นไอแพดอยู่ข้างเตียงของเฟย ส่วนมังกรไซออนกับแซมเซ็นลูกน้องของเอริค ก็นั่งพูดคุยเล่นกันอยู่ที่โซฟาข้าง แล้วอยู่ ๆ สองหนุ่มเพื่อนสนิทเจ้าของห้อง ก็เปลี่ยนมานั่งจ้องมองเพื่อนกับคนบนเตียง แล้วหันกับมาพูดกระซิบกัน เมื่อทั้งสองก็เกิดความสงสัยอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนสนิทขึ้นมาแต่จะให้พวกเขาพูดถามเพื่อนออกไปตรง ๆ ความกล้าในตัวมันก็ยังมีไม่พอ เลยได้แต่นั่งสงสัยกันอยู่เงียบ ๆ สองคน“พวกมึงสองคนมีอะไรจะพูดกับกูก็พูดมา นั่งจ้องพวกกูกันอยู่ได้”เอริคสังเกตท่าทางของเพื่อนสนิททั้งสองมาได้สักพัก สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวพูดถามออกไปด้วยความสงสัย ทำเหมือนพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยทำความผิดอะไรมาซะอย่างงั้น“แล้วมึงล่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสารภาพกับพวกกูหรือเปล่า” พอมังกรได้ยินเอริคพูดเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน ก็ไม่รอช้ารีบถามเรื่องที่ตัวเองรู้สึกสงสัยออกไปทันที
กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้งไปทั่วห้องพักฟื้นของผู้ป่วย เมื่อบาดแผลที่ใกล้จะหายดีแล้วของคนไข้ อยู่ ๆ ก็ฉีกมีเลือดไหลออกมาอีกครั้งอย่างไม่มีสาเหตุ เอริคนั่งนิ่งดูคุณหมอกับพยาบาลสาวยืนทำแผลให้เฟยอยู่โซฟาเงียบ ๆ โดยมีสายตาของมังกรกับไซออนแอบมองมาทางเขาเป็นระยะ ๆ แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันอยู่สองคนอย่างมีเลศนัย“ทำแผลเสร็จแล้วครับ เออ...ยังไงหมอก็ขอให้ญาติช่วยระมัดระวังเรื่องการขยับร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับ”คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ก็ได้หันมาพูดกับเอริคที่นั่งอยู่ด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ เพราะถ้าท่านคิดไม่ผิด ที่แผลของคนไข้เปิดมีเลือดออกครั้งนี้ สาเหตุอาจมาจากคนดูแลเป็นต้นเหตุก็ได้นั่นเอง“เออ...ครับ”ใบหน้าของเอริคร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อฟังที่คุณหมอพูดบอกจบประโยค เขานิ่งอึ้งพูดอะไรแทบไม่ออก เพราะรู้ดีว่าท่านกำลังจะสื่อถึงเรื่องอะไรแต่เรื่องนี้จะมาบอกเขาฝ่ายเดียวได้ยังไง ก็ในเมื่อไอ้คนท
“เฟย!! นายเป็นอะไร นี่มัน...เลือด!!”เอริคเห็นเฟยร้องออกมาเสียงดัง ก็รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ พอได้ยินเสียงร้องของเฟยแล้ว มันทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก เอริคมองสำรวจร่างกายของเฟยอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเฟยไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ แต่แล้วสายตาของเขาก็ต้องหยุดชะงักค้าง อยู่ที่สะโพกข้างหนึ่งที่เฟยใช้มือปิดไว้ มีน้ำสีแดงสดเริ่มไหลอาบไปทั่วมือ“ผมไม่เป็นไรครั...” เฟยพยายามเก็บสีหน้าความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วพูดยิ้ม ๆ กับเอริคออกไป เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเป็นกังวลไปมากกว่านี้ แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบประโยค ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มพร่ามัว แล้วมืดดับลงไปอย่างห้ามไม่ได้“เฟย เฟย เฟย!!!” เอริคร้องเรียกชื่อเฟยออกมาซ้ำ ๆ ด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ เฟยก็หมดสติไปต่อหน้าตัวเองโรงพยาบาล-หน้าห้องฉุกเฉินหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยญาติผู้ป่วย และพวกคุณ
“หยุดนะคุณชุน!! อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”เสียงร้องโวยวายดังก้องไปทั่วห้องนอน เมื่อบนเตียงกลางห้องเวลานี้ มีชายร่างกายเปลือยเปล่าคนหนึ่ง กำลังพยายามปลุกปล้ำ ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอขาว ของชายหนุ่มที่ถูกมัดนอนอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน มือทั้งสองข้างของเขาก็ไม่อยู่นิ่ง พยายามถอดดึงเสื้อผ้าของคนนอนอยู่ออกไปด้วยเฟยถูกจู่โจมอย่างหนักโดยที่สามารถปัดป้องอะไรได้เลย เขาพยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อหลบริมฝีปากร้าย ที่เข้ามาเล่นงานซอกคอของตัวเอง ปากก็ร้องตะโกนออกมาไม่หยุด หวังว่าจะมีใครสักคนได้ยิน แล้วเข้ามาช่วยเหลือตัวเองจากเหตุการณ์ตอนนี้เฟยพยายามกระชากข้อมือของตัวเองออกจากผ้าหัวเตียงอย่างสุดแรง จนข้อมือทั้งสองข้างเจ็บแสบและเป็นรอยแดง เพื่อจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการครั้งนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขยับร่างกายดิ้นหนีสุดแรงยังไง มันก็แทบจะไม่เป็นผลเลยสักนิด ส่วนคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขา ก็ยังคงพยายามถอดดึงเสื้อผ้าบนตัวของเขาไม่หยุด…หรือว่าครั้งนี้เขาจ
โรงแรมหรูกลางใจเมืองในค่ำคืนที่มืดมิดภายในห้องหรูของโรงแรมห้องหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหลับใหลไร้สติอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยผ้าสีขาวมัดตึงไว้กับหัวเตียง โดยมีดวงตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มอีกคน นั่งจ้องมองดูเรือนร่างนั้นอยู่อย่างไม่ละสายตาหลังจากที่จับตัวเฟยขึ้นรถมาได้ ชุนก็ทำให้เฟยสลบแล้วพามาที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องมัดมือทั้งสองข้างของเฟยผูกติดกับหัวเตียงเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟยแผลงฤทธิ์เวลาที่ตื่น ส่วนตัวเองก็นั่งดื่มเหล้ารออยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็นชุนอย่างให้ครั้งแรกของตัวเองกับเฟยเป็นเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีสติครบถ้วน เลยไม่คิดจะรีบร้อนทำอะไรเฟยในตอนนี้ เพราะเขายังมีเวลาดื่มด่ำกับความหอมหวานตรงหน้าอีกนาน โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครหน้าไหนจะมาขัดขว้างความสุขครั้งนี้ของเขาได้…และแล้วในที่สุดคนบนเตียงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เฟยหันมองซ้ายมองขวาดูรอบตัวอย่างงง ๆ เมื่อภาพที่เห็นตร
Comments