เช้าวันต่อมา คุณอาทิตย์ก็เดินมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน หลังจากนั่งลงแค่แป๊บเดียวพีรฉัตรก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ ลงมานานหรือยังครับ” ฝ่ายลูกสะใภ้เอ่ยทักทายและถามขึ้น “เพิ่งลงมาก่อนน้องพรีนแปล๊บเดียวลูก เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับหรือเปล่า” “หลับๆ ตื่นๆ ครับ อาจจะเพราะพรีนแปลกที่ก็ได้ คงยังไม่คุ้น” “เดี๋ยวก็ชินลูก”คุณอาทิตย์ไม่รู้จะปลอบใจลูกสะใภ้ยังไงดี “สายบัว ทำไมวันนี้ข้าวต้มรสชาติแปลกๆ ไป” สีหน้าฉงนของเจ้าของบ้าน หันไปถามหัวหน้าแม่บ้านทันทีที่ชิมข้าวต้มปลา “เป็นยังไงบ้างคะคุณท่าน ไม่ถูกปากหรือคะ” “เปล่า มันอร่อยมากต่างหาก วันหลังทำสูตรนี้อีกนะ หนูพรีนลองทานดูซิลูกอร่อยมาก” คุณอาทิตย์เชิญชวนลูกสะใภ้ให้ชิมข้าวต้มที่ตนคิดว่าตั้งแต่แม่ครัวทำมาวันนี้อร่อยที่สุด “คุณท่านต้องบอกคุณหนูพรีนแล้วล่ะค่ะ ว่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะข้าวต้มวันนี้ฝีมือคุณพรีนเป็นคนทำค่ะ” ป้าสายบัวบอกเจ้านายยิ้มๆ “อ้าว พ่อเลยปล่อยไก่ตัวเบ่อเร่อเลย ลืมไปเลยว่ามีเชฟอยู่ที่บ้านตัวเอง 5555” “ถ้าคุณพ่อชอบวันหลังพรีนจะทำให้ทานบ่อยๆ ครับ” ขณะที่เจ้าของบ้านกับลูกสะใภ้กำลังทานข้าวต้มอยู่นั้นนิลกาฬก็ลงมาจากข้างบนพอดีกำลังจะเลี้ยวเข้ามาทานข้าวเช้าที่ห้องอาหาร พอเห็นว่ามีร่างบางนั่งอยู่ที่โต๊ะกับพ่อตัวเอง ขายาวเลยชะงักและกำลังจะหมุนตัวกลับออกไป แต่คุณอาทิตย์ผู้เป็นพ่อเห็นก่อนเลยเรียกไว้ “อ้าว ตานิลลงมาแล้วเหรอ มาทานข้าวซิ วันนี้หนูพรีนทำข้าวต้มอร่อยมาก มาเร็ว” ผู้เป็นพ่อสามีรีบอวยลูกสะใภ้ทันที “ไม่ดีกว่าครับคุณพ่อ พอดีผมรีบและยังไม่หิว ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ” ตอบผู้เป็นพ่อไปพร้อมสาวเท้าก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องครัวเพื่อที่จะออกจากบ้านมุ่งไปที่ทำงานอีกทีให้เหมือนรีบ ทั้งที่จริงก็ไม่ได้รีบอะไร ช่วงเช้าไม่ประชุมหรือตรวจคนไข้อะไรทั้งนั้น ที่สำคัญตอนนี้ท้องเริ่มประท้วงบ่งบอกว่าถึงเวลาอาหารเช้าท่ีเคยได้รับเป็นประจำควรที่จะหาอะไรใส่ท้องได้แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อยากอยู่ใกล้ร่างบางมากเกินไป ทำให้คุณหมอหนุ่มปฏิเสธคำชวนของผู้เป็นพ่อทันทีไปหาอะไรกินที่โรงพยาบาลก็ได้ ส่วนคนร่างเพรียวบางที่นั่งทานข้าวอยู่ ตาหม่นลงทันทีอาจจะเป็นเพราะมีเขาอยู่ในห้องนี้และเป็นฝีมือของเขาที่ทำอาหารทำให้สามีในนามปฏิเสธการร่วมโต๊ะ ทำไมเขาจะไม่รู้เพราะตอนทำกับข้าวป้าสายใจแม่บ้านเล่าให้ฟังว่าทุกเช้าสองพ่อลูกต้องตื่นกี่โมงบรรดาเหล่าแม่บ้านต้องตั้งโต๊ะกี่โมง เมนูโปรดของแต่ละคนคืออะไร ดั้งนั้นเมื่อสักครู่คงเป็นแค่ข้ออ้างของสามีนั่นเองที่ไม่อยากร่วมโต๊ะกับเขาจนยอมอดข้าว “เจ้านิลคงมีงานแต่เช้าน่ะวันนี้ แล้วนี่วันนี้น้องพรีนจะไปทำงานยังไงลูกให้คนขับรถพ่อไปส่งไหม เห็นพ่อของหนูบอกอีกอาทิตย์ถึงจะได้รถที่ไปจองไว้” “อ่อ เดี๋ยวคุณพ่อจะให้คนเอารถพี่พิมพ์มาให้ขับครับคุณพ่อ แต่ระหว่างรอรถนี้คนขับรถเค้าจะพาพรีนไปศึกษาเส้นทางก่อนครับ พอขับรถเองจะได้คุ้นเคยเส้นทาง ขอบคุณคุณพ่อนะครับที่เป็นห่วง” สองหนุ่มต่างวัยพากันทานข้าวอิ่ม คนขับรถที่คุณจุมพลขับมารับพีรฉัตรก็มารออยู่ ร่างบางเลยขอตัวคุณอาทิตย์ไปทำงาน พอมาถึงที่โรงแรมของครอบครัวที่พิมพ์ชนกผู้เป็นพี่สาวดูแลอยู่ก็มีหญิงสาววัยกลางคนเลขาของพี่พิมพ์ออกมารับและพาอีกร่างเพรียวบางไปที่โต๊ะห้องทำงานหรูสมฐานะผู้บริหารเจ้าของโรงแรมของพี่พิมพ์ “ผมจะรบกวนพี่ดาวช่วยเล่ารายละเอียดงานที่ผ่านมาของพี่พิมพ์ให้ฟังหน่อยได้ไหมครับ พรีนจะได้ทำต่อถูกระหว่างรอพี่พิมพ์กลับมา” พีรฉัตรบอกดาวิกาเลขาคุณเก่งของพิมพ์ชนก ดาวิการู้แต่เพียงว่าพิมพ์ชนกเจ้านายของเธอไม่อยู่ไปเที่ยวพักผ่อนไม่มีกำหนดกลับและให้คุณพีรฉัตรน้องชายที่เพิ่งกลับมาจากเรียนที่เมืองนอกมาทำงานแทนชั่วคราว เธอจึงอธิบายรายละเอียดและคำแนะนำต่าง ๆ ดาวิการู้สึกชื่นชมในตัวพีรฉัตรที่สามารถเรียนรู้ได้เร็ว เหนือสิ่งอื่นใดพีรฉัตรหน้าตาดีมากหล่อหวานๆ หล่อละมุน ดวงตากลมขนตายาวและงอน ไหนจะจมูกเล็กที่โด่งโดยไม่ต้องพึ่งศัลยกรรมนั่นอีก ผิวขาวเนียนกว่าของตนอีก รูปร่างก็ดี สูงโปร่งไม่ได้หนาแน่นแต่ก็ไม่ได้อ้อนแอ้น ว่าคุณพิมพ์สวยหน้าตาดีแล้วคุณพรีนกลับหน้าตาดีกว่ามองอีกมุมก็หล่อมองอีกมุมก็สวย โอ๊ย แค่อยู่ใกล้อีดาวก็จะไม่ไหวใจละลายแล้ว พอเจอรอยยิ้มหวานๆ นั่นอีกอยากสมัครเป็นคนใช้ที่บ้านด้วยเลยจะได้อยู่ใกล้คุณพรีนตลอด พูดแล้วก็อิจฉาคุณหมอสามีคุณพรีนได้ภรรยาที่แสนจะเพอร์เฟคแบบนี้ไปครอง “พี่ดาวครับ พรีนคุยกับคุณพ่อไว้เรื่องว่าพรีนอยากจะยกระดับอาหารในห้องอาหารของโรงแรมเรา พรีนอยากจะปรับปรุงใหม่และเพิ่มเมนูเข้าไป พรีนต้องการคุยกับผู้จัดการห้องอาหารและไปดูสภาพห้องอาหารและห้องครัว พี่ดาวพาพรีนลงไปได้ไหมครับ อย่าเพิ่งโทรลงไปแจ้งทางโน้นนะครับ” พรีฉัตรแจ้งความประสงค์ของตนเองแก่เลขาของพี่สาว “ได้ค่ะคุณพรีน คุณพรีนสะดวกไปกี่โมงคะ” “พรีนว่าจะไปตอนนี้เลย ถือโอกาสไปลงทานมื้อกลางวันด้วยครับ เดี๋ยวมื้อนี้พี่ดาวให้เกียรติทานข้าวกลางวันกับพรีนนะครับ” “อุ๊ย เขินจังอยู่ๆ ก็มีหนุ่มหน้าตาดีมาชวนทานข้าว งั้นดาวคงต้องตกลงแล้วล่ะคะคุณพรีน ไปเลยไหมคะ” ดาวิกาแกล้งเขิน และชวนเจ้านายทันที “ครับ พี่ดาวเดินนำไปเลยครับ” ตอนนี้ทั้งคู่ได้มานั่งรับประทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรม พีรฉัตรได้จัดการสั่งอาหารมาลองดูหลายเมนูทั้งเมนูพื้นๆ กับเมนูแนะนำ รสชาติอาหารถือว่าใช้ได้แต่การจัดจานยังไม่ค่อยโดดเด่นและการโปรโมทอีกที่ต้องปรับปรุง พอทานอาหารเสร็จพีรฉัตรเลยให้ผู้จัดการห้องอาหารมาคุยแผนงานของเขา เล่นเอาผู้จัดการเหงื่อตกเพราะไม่รู้ว่าที่มานั่งเป็นแขกหน้าตาดีทานอาหารที่ห้องอาหารนี้เป็นใครเห็นพวกพนักงานพูดถึงและพากันแอบออกมามองดูแขกหน้าตาดีเรื่อยๆ ที่ไหนได้ลูกชายเจ้าของโรงแรมนี่เอง ที่สำคัญตอนนี้กำลังเข้ามาบริหารโรงแรมและดูแลห้องอาหารนี้ พีรฉัตรคุยแผนงานการบริหารและการปรับปรุงห้องอาหารกับผู้จัดการและเชฟได้สักพัก สายตาก็เหลือบเห็นร่างสูงของนิลกาฬเดินออกจากห้องอาหารไปพร้อมกับสาวสวยที่เขาไม่เคยเห็นหน้า ไหนคุณพ่ออาทิตย์บอกว่าลูกชายมีงานที่โรงพยาบาลยุ่งมากไม่ค่อยมีเวลาว่าง ที่ไหนได้มีเวลาพาสาวสวยมาทานข้าวดูแล้วสองคนน่าจะสนิทสนมกันพอสมควรเพราะดูจากที่ฝ่ายหญิงเกาะแขนแกร่งของสามีในนามของเขาตลอดและร่างสูงก็ทีท่าว่าจะชอบด้วยเพราะยอมให้ฝ่ายหญิงเกาะอยู่อย่างนั้นและไหนจะหัวเราะยิ้มหวานให้กัน มองจนสองคนเดินลับตาไป พีรฉัตรนึกได้ว่าคุยงานอยู่ จึงหันมาตั้งใจอีกครั้ง “เอ่อ คุณธีร์กับเชฟมีความเห็นว่ายังไงบ้างครับ เสนอหรือแนะนำได้นะครับ ผมอยากให้โรงแรมของเรามีชื่อเสียงในด้านอาหารเหมือนสมัยคุณแม่ และอยากให้เน้นอาหารมื้อเที่ยงและจัดให้ความเป็นส่วนตัวกว่านี้เพื่อรองรับแขกที่จะมาคุยงานหรือตกลงธุรกิจกัน” “ผมว่าที่เจ้านายบอกก็ดีนะครับ ผมจะได้บอกเด็ก ๆ ให้จัดโซนใหม่ ส่วนเรื่องอาหารเชฟนุว่ายังไง” ผู้จัดการร้านหันมาถามเชฟเพื่อขอความเห็น เชฟอนุสรณ์ เชฟมือหนึ่งของทางโรงแรม “ผมพร้อมจะเรียนรู้และปรับเปลี่ยนตามที่เจ้านายแนะนำเลยครับ แต่ว่าเจ้านายมีเวลาสอนใช่ไหมครับ” ฝ่ายเชฟเก่าแก่รุ่นลุงของโรงแรมเอ่ยถามเจ้านายน้อยลูกชายเจ้าของโรงแรม เชฟอนุสรณ์อยู่และทำงานที่ห้องอาหารนี้ตั้งแต่สมัยคุณฉัตรมณี มารดาของพีรฉัตรตอนนั้นคุณฉัตรมณีเจ้านายก็แบ่งเวลาเข้ามาคุมห้องอาหารนี้จนตอนนั้นห้องอาหารของโรงแรมนั้นมีชื่อเสียงมาก พอคุณฉัตรมณีเสียไปไม่มีทายาทมีสืบทอดฝีมือต้นตำรับเอาไว้ อาหารที่ทำออกมาถึงแม้จะสูตรเดียวกับที่คุณฉัตรมณีเค้าสอนแต่รสชาติฝีมือยังเทียบไม่ต้นตำรับไม่ได้ คุณพิมพ์ชนกลูกสาวก็บริหารด้านโรงแรมเน้นการบริการอย่างเดียว ชื่อเสียงด้านอาหารเลยลดลง แต่ตอนนี้คุณพรีนซึ่งเป็นตัวแทนของคุณฉัตรมาแล้ว ห้องอาหารนี้น่าจะกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง “ทุกคนอย่าเรียกพรีนว่าเจ้านายเลยครับ เรียกพรีนธรรมดาก็ได้ครับ ยังไงพรีนจะปลีกตัวมาช่วงหลังเลิกงานหรือช่วงบ่ายก็ได้ครับ พอเราสามารถจัดการเรื่องอาหารได้ลงตัวแล้วพรีนว่าค่อยโปรโมท” พีรฉัตรตกลงกับทั้งผู้จัดการและเชฟเรื่องการปรับเปลี่ยนและการที่เขาจะลงมาสอนทำและควบคุมเรื่องอาหาร ซึ่งได้รับความร่วมมือกับทั้งสองเป็นอย่างดีทำให้อย่างน้อยการทำงานวันแรกของเขาก็ราบรื่นไประดับหนึ่ง “พรีนขอบคุณทุกคนนะครับที่ให้ความร่วมมือกับพรีน ตอนแรกๆ ของการปรับเปลี่ยนมันอาจจะยากหน่อย แต่พอผ่านไปสักระยะพรีนเชื่อว่าทุกคนจะทำได้ดีและมีความสุขไปกับมัน โรงแรมของเรานอกจากจะมีชื่อเสียงด้านการบริการแล้วก็จะมีชื่อเสียงด้านอาหารที่อร่อยที่สุดด้วยครับ” พีรฉัตรแจกยิ้มหวานให้พนักงานทุกคนที่เข้ามานั่งฟังนโยบายที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงห้องอาหารใหม่ได้รับทราบ เพียงแค่เห็นหน้าและรอยยิ้มหวานของเจ้านายคนใหม่ทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานถวายชีวิตแล้ว ไหนจะอัธยาศัยที่เป็นกันเองนั่นอีกเพียงชั่วเวลาไม่ถึงชั่วโมงพีรฉัตรก็สามารถครองใจพนักงานเอาไว้ได้เกือบทุกคน “เป็นยังไงบ้างลูกทำงานวันแรก” คุณจุมพลเดินเข้ามาหาลูกชายที่บริเวณห้องครัวของห้องอาหารโรงแรม ซึ่งตอนแรกคุณจุมพลไปหาลูกชายที่ห้องทำงานเก่าของพิมพ์ชนก แต่เลขาบอกว่าพีรฉัตรอยู่ที่นี่ เขาเลยเดินลงมาดูเพราะใกล้ถึงเวลาเลิกงานแล้ว และก็มาพบร่างบางซึ่งกำลังสอนบรรดาเชฟและลูกมือทำอาหารอยู่ “คุณพ่อสวัสดีครับ ก็สนุกดีครับ ตอนแรกก็งง ๆ อยู่ครับแต่ดีที่ได้ความร่วมมือจากทุกคน เลยโอเคครับ คุณพ่อหิวยังพรีนทำอาหารเสร็จพอดี จะได้ให้เด็กเอาไปเสิร์ฟ ลองชิมฝีมือลูกดู” “งั้นวันนี้พรีนทานข้าวที่นี่กับพ่อนะ พอดีเลยลุงอาทิตย์กำลังมาหาพ่อจะได้บังคับให้กินข้าวด้วยกันเลย พอกลับบ้านพ่อก็ต้องกลับไปกินข้าวคนเดียวมันเหงา ปกติมียัยพิมพ์อยู่ด้วยเลยไม่เหงา” “งั้นวันนี้เราทานข้าวที่นี่กันนะครับ คุณพ่อไปรอข้างนอกก็ได้ครับเดี๋ยวพรีนเสร็จแล้วรอจัดจานก็จะเอาไปเสิร์ฟให้ ทนหิวแปล๊บนะครับสุดหล่อ” พีรฉัตรได้ยินคนเป็นพ่อพูดถึงพี่สาวหน้าเศร้าๆ ก็สงสาร คนแก่อยู่บ้านคนเดียวคงเหงา ขนาดเขาแต่งงานไปแล้วตอนนี้ก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวยังเหงาเลย แล้วพีรฉัตรก็สาธิตการจัดจานของแต่ละเมนูให้ทุกคนดูซึ่งแต่ละจานรสชาติและหน้าตาดีมาก พีรฉัตรเลยให้พนักงานจัดไปเสิร์ฟให้กับบิดาด้านนอก และแนะนำการจัดเป็นจานเล็กๆ ไว้เสิร์ฟ แถมให้แขกเป็นเมนูแนะนำเพื่อเป็นการโปรโมทไปในตัว พอเสร็จแล้วก็ออกมาหาผู้เป็นพ่อที่ด้านนอกโซนห้องอาหารทันทีนิลกาฬโยนร่างบางให้ลงไปนอนบนเตียงกว้างในห้องตัวเอง ก่อนที่ตัวเขาเองจะรีบถอดเสื้อผ้าจนตอนนี้เป็นชีเปลือยยืนอวดหุ่นสวยด้วยกล้ามเนื้ออยู่ปลายเตียง “ต่อต้านดีนักกับผมที่เป็นสามีเนี่ยถูกกฎหมายเนี่ย ทีกับชู้ก็ยืนนิ่งๆ ให้มันกอด เดี๋ยวผมจะทำให้ดูว่าลีลาผมเด็ดกว่าไอ้ชู้หน้าตี๋นั่นอีก อย่ามาติดใจแล้วกัน”ร่างบางของพีรฉัตรที่โยนลงบนเตียงขยับหนี เขาพยายามที่จะอธิบายให้อีกคนฟังแล้ว แต่คนตัวโตไม่ยอมฟังเขาเอาซะเลย พอเขาขืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามแรงกระชาก ก็โดนคนแรงเยอะอุ้มพาดบ่าเข้าบ้านมา พอดิ้นมากๆ เข้าก็โดนตีที่ก้นจนแสบไปหมดแล้ว ไหนจะโดนจับโยนลงบนเตียงจนจุก ไหนจะคำหยาบคายที่กล่าวหากันนั่นอีก ที่สำคัญตอนนี้อารมณ์ของนิลกาฬน่ากลัวมาก คนตัวสูงก้าวขึ้นมานั่งบนเตียงโดยไร้ซึ่งอาภรณ์ปิดบังร่างกาย ไหนจะพกอาวุธกลางกายที่ใหญ่โตน่าเกรงขามนั่นอีก ถ้าเขาโดนไอ้นี่ทำโทษคงสลบแน่เลยมันไม่น่าจะเข้ากันได้“ถอยออกไปนะคุณนิล มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดคุณก็ฟังผมบ้างซิ” ร่างบางพยายามจะอธิบายอีกครั้ง“เข้าใจผิดอะไร เข้าใจผิดว่าคุณเป็นคนดีน่ะซิ ที่ไหนได้ร่านชิบหาย พอผมไม่ทำหน้าที่ผัวให้ เลยจะให้ไอ้ตี๋นั่นมาทำแทนเหรอ ฝันไปเถอะผมเ
“คุณพ่อทำไมวันนี้เริ่มทานเร็วล่ะครับ” เสียงของพีรฉัตรดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวขึ้นของร่างเพรียวบางและมีพนักงานทยอยถือกับข้าวเข้ามาเสิร์ฟบรรดาพ่อๆ ที่โต๊ะเพื่อที่จะรับประทานอาหาร พอมาถึงเห็นบุคคลแปลกปลอมนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อๆ ทั้งสองก็ตกใจ มาได้ยังไงเนี่ย“วางเลยลูก น้องพรีนมานั่งเลยจะได้เริ่มทาน วันนี้คุณหมอหิวมาก เห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลย” พ่อตาออกโรงแทนลูกเขย พีรฉัตรมองหน้าหล่อของคุณหมอที่พ่อบอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ คนตัวสูงแทน “เริ่มแทนเลยตานิล นี่พรีนเค้าทำเองหมดเลยนะ ถ้าต้องปรับปรุงตรงไหนอร่อยไม่อร่อยบอกเชฟพรีนได้เลยนะลูก เชฟเค้าจะได้ปรับปรุง” ถึงเวลาอวยลูกตัวเองบ้าง พอตักอาหารมาเริ่มทานนิลกาฬก็พบว่าอาหารอร่อยถูกปากเขาทุกอย่างสมกับเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทุกคนต้องมาทานจริงๆ เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อๆ และภรรยาจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนพ่อตาเค้า พ่อตาอยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เหงา นี่เป็นการแสดงความเอาใจใส่อีกรูปแบบหนึ่งของร่างบางที่มีต่อพ่อ “เอ่อ น้องพรีนเมื่อกี้พ่อคุยกับพี่นิลแล้ว ว่าจะให้พี่นิลนั่งรถมาทำงานเ
ตอนนี้พีรฉัตรอยากจะเอาสมาธิมาจดจ่ออยู่กับแค่การขับรถ แต่จิตใจมันไม่รักดีดันไปไขว้เขวกับคนร่างสูงที่วิสาสะนั่งมาด้วย แม้อีกคนจะนั่งอยู่เงียบๆตามที่บอก แต่ก็ไม่นิ่งเอาเสียเลยคอยขยับ คอยปรับแอร์ เปิดเพลงเปลี่ยนเพลงอยู่นั่นแหละ มันทำให้พีรฉัตรไม่มีสมาธิเอาซะเลย เริ่มจะโมโหแล้วนะ“คุณจะลงที่ไหนผมจะได้จอดรถให้ลงได้ถูก” เจ้าของรถถามผู้โดยสารทันที เพราะร่างบางไม่ไหวแล้วขืนนั่งไปด้วยกันต่อ อาจจะเกิดอุบัติเหตุเพราะคนขับไม่มีสมาธิเป็นแน่“ผมว่าผมบอกคุณแล้วนะว่าคุณพ่อให้นั่งไปส่งคุณจนถึงที่ทำงาน ฉะนั้นคุณขับไปให้ถึงที่ทำงานของคุณเลย คุณจอดรถอย่างปลอดภัยไม่ชนใครเมื่อไหร่ เดี๋ยวผมก็กลับเอง”“ผม เอ่อ ไม่มีสมาธิขับรถถ้าคุณอยู่ด้วย เพระฉะนั้นผมขอล่ะคุณลงไปจากรถผมหน่อย ผมไม่บอกคุณพ่อหรอก”“ไม่เอา ผมนั่งของผมอยู่เฉยๆ คุณมาหวั่นไหวกับผมเอง คิดอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย”“ผมไม่ได้คิดอะไร ไม่หวั่นไหวอะไรทั้งนั้น ผมแค่รำคาญ ตอนนี้คิดอย่างเดียวจะทำยังไงให้คุณลงจากรถผมซะที ในเมื่อคุณตีมึนพูดยังไงก็ไม่ลง งั้นก็นั่งเฉยๆ แล้วกัน” นิลกาฬนั่งขำอีกคนที่ทำท่าทางฟึดฟัดใส่เขา มองดูแล้วน่ารักดีเหมือนตอนนี้เขากำลัง
“คุณพรีนคะ ป้ามา อุ๊ย คุณนิล”ป้าสายบัวร้องอุทานตกใจที่คนที่มาเปิดประตูเป็นนิลกาฬ ส่วนคนที่ป้าสายเรียกเห็นรางๆ ว่านอนอยู่ที่เตียง แหม! คุณนิลกับคุณพรีนทำเป็นนอนแยกห้องกันแต่สุดท้ายก็มาจู๋จี๋กันอยู่ดี“ว่าไงครับป้าบัว” คนตัวสูงเอ่ยถามป้าบัวเสียงหงุดหงิด สงสัยป้าบัวมาผิดเวลามากวนเวลาจู๋จี๋“เอ่อ พอดีป้านัดกับคุณพรีนไว้ว่าจะทำม้ือเย็นกันค่ะป้าเลยมาตาม ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรค่ะ เชิญคุณนิลกับคุณพรีนตามสบายเลยนะคะ ป้าบัวไม่กวนแล้ว” ป้าสายบัวกำลังจะหันหลังกลับ “ป้าบัวครับ รอพรีนด้วยครับ เดี๋ยวพรีนจะลงไปพร้อมป้าบัว” เสียงร่างบางเรียกมาจากในห้องป้าสายบัวจึงต้องหยุดรอ ส่วนคนร่างบางหลังจากจัดการแต่งตัวเรียบร้อยแล้วรีบออกมาจากห้องเพราะกลัวร่างสูงจะทำอนาจารกับตัวเองอีก “ไหวเหรอ” เสียงร่างสูงถามเพราะต้องการสื่อความหมายให้ป้าบัวเข้าใจผิด ซึ่งได้ผลดีเกินคาดป้าบัวคิดไปไกลว่าที่ร่างสูงของเจ้านายถามภรรยาน่าจะถามด้วยความเป็นห่วงเพราะอาจจะเพิ่งผ่านกิจกรรมรักกันมา ส่วนคนถูกถามหน้าแดงเขินอายไปไม่ถูก จะถามบ้าอะไรอย่างนั้น“ช่วยหลีกทางให้ผมด้วยครับ ผมจะลงไปทำกับข้าวกับป้าบัว”นิลกาฬเลยเบี่ยงตัวออกเพื่อเปิด
เช้านี้เป็นวันหยุดของนิลกาฬ ที่จริงยังไม่อยากตื่นเลยแต่เมื่อคืนตอนเดินเข้ามาในบ้านเขาดันไปได้ยินเสียงของภรรยาในนามนัดแนะกับใครสักคนว่าเจอกันตอนเก้าโมง เพราะความอยากรู้ว่าอีกคนนัดใครไว้ เค้าก็เลยต้องรีบตื่นก่อน เก้าโมงเพื่อมาจับชายชู้ให้ได้คาหนังคาเขา เค้าจะได้มีข้ออ้างกับพ่อขอหย่าเพราะร่างบางมีชู้ทั้งๆ ที่ยังกอดทะเบียนสมรสกับเขาอยู่ แปดโมงครึ่งยังไม่ถึงเวลาที่ได้ยินร่างบางนัดแนะ แต่นิลกาฬก็อยู่ในชุดออกกำลังกาย ทำเหมือนมาออกกำลังกายแถวสนามหญ้าหน้าบ้านเพื่อจะได้จับภรรยาและชู้ให้ได้ตัวเป็นเห็นกันซึ่งๆ หน้า ร่างสูงท้ังวิ่งจ๊อกกิ้งจนเหนื่อย จังหันมายืดเหยียดกล้ามเนื้อบริหารร่างกายแทน จนเวลาเก้าโมงครึ่งก็ยังไม่เห็นร่างบางลงมาหรือคนที่มารับปรากฏตัวเลย เอ๊ะหรือว่านัดกันที่อื่น แล้วเขาจะรู้ได้ยังไงล่ะเนี่ยหรือจะถามจากใครได้ พ่อเขาไม่ได้ล่ะหนึ่งถ้าไปถามมีหวังโดนซักฟอก คุณจุมพลพ่อตาก็ไม่ได้หมดแล้วตัวเลือกแล้ว ไม่อยากรู้แล้วก็ได้ เสียเวลาชิบหาย“อ้าวคุณนิล ป้านึกว่าออกไปกับคุณพรีนซะอีก” ป้าสายบัวทักขึ้น เมื่อเห็นเจ้านายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องอาหาร เหยื่อมาแล้วหนึ่ง คุณหมอยิ้มกริ่มในใจ “พอดีผมตื่น
พอพีรฉัตรเดินมาหาผู้เป็นบิดาที่ห้องอาหาร ก็พบว่ามีคุณอาทิตย์นั่งรออยู่กับพ่อแล้ว “พ่อทิตย์สวัสดีครับ มานานหรือยังครับ”คุณอาทิตย์หันมาหาร่างบางของลูกสะใภ้ทันที“พ่อเพิ่งมาถึงนี่เองลูกว่าจะมาหาเพื่อนดื่มสักหน่อย ไม่นึกเลยว่าจะลาภปากได้ทานอาหารฟรีของโรงแรมดังระดับ 6 ดาว และเจ้าของโรมแรมมาทำอาหารให้ทานเอง 555” คุณอาทิตย์แซวลูกสะใภ้คนโปรด “เป็นไงบ้างลูก ทำงานสนุกไหมเหนื่อยหรือเปล่า”“สนุกครับ งานเยอะจนหายเหงาเลย” ร่างบางยิ้มตาหยี “พ่อๆ ชิมอาหารดูนะครับพรีนอยากรู้ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง”“แค่เห็นหน้าตาก็ไม่กล้าทานเลยลูก” คำพูดของพ่อสามีที่หวังดีกับพีรฉัตรมาตลอดทำเอาคนฟังใจแป้วไปเลย “ที่พ่อว่าไม่กล้าทานไม่ใช่อะไรนะลูก มันสวย มันดูดีมาก เดี๋ยวพ่อถ่ายรูปไว้หน่อยนะเดี๋ยวจะโพสต์โปรโมทซะหน่อย เดี๋ยวชิมรสชาติก่อนนะ ฮือ มันอร่อยมากลูก ว่าคุณฉัตรทำกับข้าวอร่อยแล้วนะ น้องพรีนแซงแม่มาเลย ไอ้พลมึงลองชิมดู เดี๋ยวว่ากูโม้” พ่อคุณอาทิตย์พูดก็ทำให้คนทำปราบปลื้มยิ้มหวานเลย และหันมารอลุ้นจากคนเป็นพ่ออีก“อือ ใช่รสคล้ายๆ ของคุณฉัตร แต่อร่อยกว่าลูก พ่อว่าห้องอาหารของโรงแรมเรากลับมาบูมอีกแน่เลย” “จริงหรือ
เช้าวันต่อมา คุณอาทิตย์ก็เดินมาที่โต๊ะอาหารเพื่อที่จะทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน หลังจากนั่งลงแค่แป๊บเดียวพีรฉัตรก็เดินเข้ามานั่งฝั่งตรงข้าม “อรุณสวัสดิ์ครับคุณพ่อ ลงมานานหรือยังครับ” ฝ่ายลูกสะใภ้เอ่ยทักทายและถามขึ้น “เพิ่งลงมาก่อนน้องพรีนแปล๊บเดียวลูก เมื่อคืนเป็นไงบ้างนอนหลับหรือเปล่า”“หลับๆ ตื่นๆ ครับ อาจจะเพราะพรีนแปลกที่ก็ได้ คงยังไม่คุ้น”“เดี๋ยวก็ชินลูก”คุณอาทิตย์ไม่รู้จะปลอบใจลูกสะใภ้ยังไงดี“สายบัว ทำไมวันนี้ข้าวต้มรสชาติแปลกๆ ไป” สีหน้าฉงนของเจ้าของบ้าน หันไปถามหัวหน้าแม่บ้านทันทีที่ชิมข้าวต้มปลา“เป็นยังไงบ้างคะคุณท่าน ไม่ถูกปากหรือคะ”“เปล่า มันอร่อยมากต่างหาก วันหลังทำสูตรนี้อีกนะ หนูพรีนลองทานดูซิลูกอร่อยมาก”คุณอาทิตย์เชิญชวนลูกสะใภ้ให้ชิมข้าวต้มที่ตนคิดว่าตั้งแต่แม่ครัวทำมาวันนี้อร่อยที่สุด“คุณท่านต้องบอกคุณหนูพรีนแล้วล่ะค่ะ ว่าให้ทำแบบนี้อีก เพราะข้าวต้มวันนี้ฝีมือคุณพรีนเป็นคนทำค่ะ” ป้าสายบัวบอกเจ้านายยิ้มๆ“อ้าว พ่อเลยปล่อยไก่ตัวเบ่อเร่อเลย ลืมไปเลยว่ามีเชฟอยู่ที่บ้านตัวเอง 5555”“ถ้าคุณพ่อชอบวันหลังพรีนจะทำให้ทานบ่อยๆ ครับ”ขณะที่เจ้าของบ้านกับลูกสะใภ้กำลังทานข้าวต
“ไม่ได้ ถึงเราสองคนไม่ได้อยากอยู่ด้วยกัน แต่พ่อๆ สองคนเค้าตกลงกันแล้ว และคงขนของใช้คุณมาบ้านผมแล้ว เราทนอีกนิดแล้วกันกว่าจะถึงวันหย่า”“ผมขอไปอยู่บ้านผมได้ไหมต่างคนต่างอยู่ดีกว่า เดี๋ยววันไหนถ้าต้องออกงานด้วยกัน คุณค่อยมารับผมที่บ้านก็ได้”ร่างบางเสนอทางออกให้ทั้งสองฝ่ายอีกครั้ง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่าจะได้ไม่อึดอัด“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีน่ะซิ พ่อๆ ของเรายอมที่ไหน หรือคุณจะลองขอพวกเค้าดูก่อนก็ได้ ผมก็ไม่ได้อยากจะแต่งหรอกนะไอ้งานแต่งบ้าๆ เนี่ย”ร่างสูงบ่นยาวแต่ก็ไม่ยอมจอดรถให้อีกคนลงตามคำขอ ตรงกันข้ามเขากลับขับรถมุ่งตรงไปที่บ้านของตัวเองตามเดิมคำว่า งานแต่งบ้าๆ ทำเอาพีรฉัตรได้ยินแล้วถึงกับจุกเหมือนกัน ก็รู้ว่าไม่เต็มใจแต่งงาน แต่ช่วยพูดอะไรที่มันซอฟๆ กว่านี้ได้ไหม คนฟังพอได้ยินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ พอคุณหมอรูปหล่อทำหน้าที่สารถีหนุ่มขับรถคันหรูสัญชาติยุโรปเข้ามาจอดสนิทที่โรงจอดรถของคฤหาสน์ตระกูลธีรวัฒนาวัฒน์ เขาก็กดเปิดประตูแล้วลงจากรถเดินเข้าบ้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด ส่วนคนที่โดยสารมาด้วยรีบลงจากรถและเก็บสัมภาระของตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไป แบบงงๆ พอเดินมาถึงห้องโถงของคฤหาสน์ก็เจอชายสูงวั
พอจบพิธิหมั้นและจดทะเบียนสมรสในช่วงเช้า ช่วงค่ำก็เป็นพิธีฉลองมงคลสมรส กว่าจะผ่านพิธีการแต่งงานต่างๆไปได้ทำเอาทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวทั้งเหนื่อยทั้งเพลียไหนจะต้องแสร้งทำว่าเป็นคู่รักที่รักกันมาก เจ้าบ่าวก็คอยดูแลเทคแคร์เจ้าสาวตลอด มีช็อตหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมงานได้อิจฉาและฟินไปตามๆ กัน ส่วนเจ้าสาวหน้าสวยก็คอยเดินแจกยิ้มหวานๆ ให้แขกที่มาร่วมยินดี ถึงแม้พีรฉัตรจะไม่ได้อยู่เมืองไทยมานาน ไม่ค่อยรู้จักแขกที่คุณพ่อกับลุงอาทิตย์เชิญมาร่วมงานแต่เค้าก็สามารถเอาตัวรอดได้ ด้วยการเออออห่อหมกไปตามเจ้าบ่าวตอนนี้เหลือขั้นตอนพิธีการสุดท้ายแล้ว ทั้งสองคนอยู่ในห้องหอที่ถูกจัดไว้ที่โรงแรมหรูของครอบครัวศิริวงศ์ไพโรจน์ โดยมีคุณอาทิตย์ และคุณจุมพล พร้อมป้าชื่นมาส่งตัวบ่าวสาวเข้าหอพร้อมกับให้คำอวยในการใช้ชีวิตคู่ “อดทนไว้นะลูก ชีวิตคู่มันอาจจะมีอะไรกระทบกระทั่งกันบ้าง พ่อก็ขอให้ลูกทั้งสองใจเย็นๆ คิดด้วยเหตุด้วยผล อย่าเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง แล้วพากันผ่านจุดนั้นไปให้ได้ ถึงวันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันจะสวยงาม ขอบคุณลูกทั้งสองที่ทำเพื่อพวกพ่อ” คุณจุมพลและคุณอาทิตย์สองเพื่อนซี้ที่อวยพรคู่บ่าวสาวและให้ข้อคิดการครองเรือน