" เป็นไงบ้างคุณไอ้เจ้าลูกชายตัวดีของคุณ
มันอยู่ที่ไหนแล้ว "
" กำลังมาค่ะ ติดธุระนิดหน่อยก็เลยมาช้า ต้องขอโทษคุณประสิทธิ์กับเธอด้วยนะพิมล "
" ไม่เป็นไรหรอกจ้า ฉันกับคุณประสิทธิ์ไม่ว่าอะไรหรอกฉันเข้าใจ "
ทั้งสองครอบครัวก็คุยกันไปด้วยเปื่อยจนเวลาล่วงเลยผ่านมาจนครบ 20 นาที ก็ปรากฏชายหนุ่มร่างสูงผิวขาว ทรงผมจับเซตดูดีในที่ติ จัดว่าเป็นคนที่หล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว สาวๆที่อยู่ในละแวกนั้นต้องหันมามองเป็นตาเดียวกัน
" นั่นไงตาเซอร์เวย์มาแล้ว เซอร์เวย์ลูกมานี่ แม่จะแนะนำให้รู้จัก นี่คุณน้าพิมล คุณอาประสิทธิ์แล้วนี่ก็หนูเคสว่าที่ภรรยาในอนาคตของลูกจ้ะ"
" สวัสดีครับคุณน้าพิมล คุณอาประสิทธิ์ "
เสียงผมเอ่ยบอกคุณน้าทั้งสองก่อนที่จะหันไปมองหน้าผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อเคส OK ครับในรูปที่บอกว่าสวย ตัวจริงก็คือสวยแหละ อาจจะเป็นเพราะไปศัลยกรรมมาหรือไม่ก็แต่งหน้าจัดจนเกินไป สวยแต่รูปจูบไม่หอม ก็คงจะเหมือนกับพวกสาวๆที่ผมควงนั่นแหละครับ ผมไม่ได้สนใจอะไรไม่ได้มีอะไรพิเศษ
" สวัสดีจ้าเซอร์เวย์ มาๆนั่งลงกันก่อนจ๊ะทานข้าวกันดีกว่าทานไปคุยไปเนาะ จะได้ไม่เสียเวลา"
ผมนั่งลงทานข้าวไปอย่างเงียบๆสายตาก็ชำเรืองมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นเธอก็มองผมอยู่แต่พอเห็นผมมองเธอก็หลบสายตาคงจะมองผมอยู่นานแล้วสิท่า ก็ทำไงได้ผมมันหล่อไม่แปลกหรอกที่สาวๆจะกรี๊ดกร๊าดเธอก็คงเป็นหนึ่งในนั้น หึหึ เห็นผู้ชายหล่อหน่อยไม่ได้สงสัยน้ำลายจะหก คงอยากจะมาเป็นเจ้าสาวของผมจนตัวสั่นแล้วสิท่า
ทั้งสองครอบครัวก็นั่งรับประทานอาหารกันไปคุยเรื่อยเปื่อยจนกระทั่ง...
" แล้วนี่ตกลงได้ฤกษ์มาแล้วใช่ไหม"
เสียงพ่อของผมเอ่ยถามหลังจากที่นั่งรับประทานอาหารกันมาได้สักพัก
" ได้มาแล้วค่ะคุณปกรณ์ฉันกับญาดาไปดูฤกษ์กันมาแล้วเลิกแต่งดีที่สุดก็คือสิ้นเดือนหน้า"
" แล้วเราจะเตรียมงานกันทันเหรอ นี่ก็เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ "
นั่นน่ะสิครับในความคิดผมคือมันเร็วมากเลยออกจะเร็วเกินไปด้วยซ้ำสำหรับผม แต่ก็อย่างว่าผมไม่ได้เสียหายอะไร ก็แค่มีผู้หญิงนอนร่วมเตียงด้วยให้เอาฟรีๆแค่นั้น ดูท่าแล้วเธอก็ไม่ได้ตกใจอะไร คงอยากมีผัวจนตัวสั่นล่ะสิท่าถึงได้รีบแต่งงานขนาดนี้ หรือบางทีเธอก็อาจจะท้องแล้วมายัดเยียดให้ผมเป็นพ่อของลูกในท้องเธอ ผู้หญิงคนนี้มันร้ายจริงๆ
" ทันอยู่แล้วค่ะคุณ ฉันกับพิมลจัดการได้ค่ะไม่ต้องห่วง จะห่วงก็แต่เจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่แหละค่ะยังไม่ได้ไปลองชุดกันเลย "
" จริงด้วยสิต้องรีบไปตัดชุดแล้วเดี๋ยวจะไม่ทันการ"
" พรุ่งนี้เซอร์เวย์พาน้องไปลองชุดหน่อยนะลูก เดี๋ยวแม่โทรจองที่ร้านไว้ให้คนจะได้ไม่เยอะ เราไม่ติดธุระอะไรใช่ไหม "
" ไม่เป็นไรค่ะคุณป้าเดี๋ยวเคสไปเองได้ค่ะ ต่างคนต่างไปลองก็ได้ค่ะ จะได้ไม่รบกวนเปล่าๆ "
อยู่ๆยัยนั้นก็พูดขึ้นมากับแม่ผม หึหึ คำพูดคำจาดูเหมือนว่าไม่อยากไปกับผมแต่จริงๆแล้วก็อยากไปน่ะสิท่า คิดว่าผมจะดูไม่ออกหรือไง ไม่เนียนเลยจริงๆ คิดว่าผมจะรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของเธอแต่เสียใจด้วยนะผมดูออก
" ไม่ได้หรอกจ๊ะหนูเคส รบกวนอะไรกันล่ะ เดี๋ยวอีกหน่อยเราก็จะเป็นสามีภรรยากันแล้วไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ พี่เขาเต็มใจพาเราไปอยู่แล้วแหละ ให้พี่เขาพาไปนั่นแหละดีแล้วลูก เราจะได้ทำความรู้จักกันให้มากขึ้นด้วย"
" แต่แม่คับพรุ่งนี้ผมมีธุระ"
" ธุระอะไรมันจะสำคัญกว่าการพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดหืม นี่มันงานแต่งของลูกนะ "
" เออไม่เป็นไรหรอกจ้ะญาดาถ้าตาเซอร์เวย์ไม่ว่างเดี๋ยวให้ยัยเคสไปเองก็ได้ "
" ไม่ได้หรอกพิมลยังไงเสียตาเซอร์เวย์ก็ต้องพาหนูเคสไปลองชุด ใช่ไหมลูก "
เสียงแม่ของผมเอ่ยแกรมบังคับ พร้อมกับส่งสายตาพิฆาต ให้ผมต้องไปเท่านั้นห้ามปฏิเสธ ถามผมสักคำไหมว่าอยากไปหรือเปล่า สุดท้ายผมเลือกอะไรได้ล่ะครับก็ต้องไปอยู่ดี เดี๋ยวค่อยไปจัดการกับนายนั่นทีหลัง หน้าหงุดหงิดชะมัด
" คับ "
และทั้งสองครอบครัวก็นั่งรับประทานอาหารกันไปจนเวลาล่วงเลยไปสักพัก ทั้งสองครอบครัวจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ก่อนกลับปกรณ์เอื้อยกระซิบกับลูกชายด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
" เข้าไปที่บ้านฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"
พูดจบปกรณ์ก็จูงมือภรรยาขับรถออกไปมุ่งสู่บ้านของตน เซอร์เวย์จึงทำได้แค่ฟังคำสั่งจากผู้เป็นพ่อและก็ขึ้นรถขับตามผู้เป็นพ่อไปยังบ้านของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดูจากน้ำเสียงและท่าทีพ่อของเขาก็คงจะโกรธอยู่ไม่น้อยแต่แล้วไงล่ะใครสนกัน ชายหนุ่มนึกในใจ
บ้านเซอร์เวย์
" ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยได้ไหม แกรู้ไหมว่าฉันอายแค่ไหนตั้งแต่ที่แกมาช้า แถมยังทำหน้าตาปฏิบัติต่อหนูเคสไม่ดี แกช่วยรักษาหน้าฉันกับแม่แกหน่อยได้ไหม "
เสียงของปกรณ์เอ่ยบอกลูกชายคนเดียวหลังจากที่กลับมาจากร้านอาหาร เขาหงุดหงิดลูกชายเขาตั้งแต่ตอนที่มาช้า แถมยังปฏิเสธที่จะพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดแต่งงานอีกมันน่าโมโหจริงๆ
" แล้วพ่อจะให้ผมทำหน้ายังไงผมก็เป็นของผมแบบนี้ จริงๆยันนั่นก็บอกอยู่ว่า ไปเองได้แล้วพ่อกับแม่จะมาบังคับผมทำไมกะอีแค่ไปลองชุดแต่งงาน "
" มันเป็นหน้าที่ของแกที่ควรจะพาว่าที่ภรรยาไปลองชุดอยู่แล้วแกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ "
" เฮ้อๆๆ.... แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด งั้นผมไปละ จริงๆแล้วคุยตรงนั้นก็ได้ไม่เห็นจำเป็นต้องลากมาที่บ้านเลยเสียเวลา"
" เดี๋ยวแกจะไปไหนกลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง ไอ้ลูกเวรกลับมาเดี๋ยวนี้ กลับมา"
เซอร์เวย์พูดจบก็เดินถอยหลังขับรถออกไปทันทีทิ้งไว้ให้พ่อของตัวเองยืนโกรธจนหน้าดำหน้าแดง อยู่แบบนั้น
" เป็นยังไงล่ะ ไอ้ลูกชายตัวดีของคุณงามน่านักเถียงคำไม่ตกฟาก "
ปกรณ์โกรธจนหน้าดำหน้าแดงไม่พอยังหันไปพูดแขวะต่อหน้าภรรยาของเขาที่เจ้าลูกชายมีนิสัยไม่เชื่อฟังหัวดื้อ หัวลั้น เถียงคำไม่ตกฟาก ญาดาก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะคิดว่าสักวันลูกชายตัวเองจะมีนิสัยที่ดีกว่านี้ได้เพราะ เคส ภัทรินทร์ ว่าที่ลูกสะใภ้ ที่จะเป็นคนเปลี่ยนชีวิตให้ลูกชาย เขาเองก็ได้แต่รอเวลาเท่านั้น
3 ปีผ่านไปทะเลภูเก็ตผมได้พาเมียสุดที่รักมาพักผ่อนที่ทะเลภูเก็ต ที่ที่มีทั้งความทุกข์และความสุขรวมอยู่ด้วยกัน ส่วนลูกๆทั้งสองของผมก็มีพ่อๆ แม่ๆ ช่วยรับไปดูแลเป็นการชั่วคราว ในระหว่างที่ผมกับเคสมาสวีทหวานกันที่นี่ โดยน้องโซนจะไปอยู่กับคุณปู่คุณย่า ส่วนน้องซันจะไปอยู่กับคุณตาคุณยาย แล้วตอนนี้ผมก็ได้มาอยู่ที่บ้านพักหลังเดิม บ้านของคุณเมนี่เพื่อนสนิทของเมียผมเอง" พี่เวย์ ชุดเคสสวยไหมค่ะ "เอือกผมกลืนน้ำลายลงคอก็ชุดที่เมียผมใส่อยู่เป็นชุดบิกินี่สีแดงเพลิง ให้ตายเถอะ ผิวขาวอมชมพูตัดกับชุดสีแดงมันช่างดูเร้าร้อน เซ็กซี่ ขยี้ใจผมเป็นบ้าเลย นี่อย่าบอกนะว่าเธอจะใส่ชุดนี้ไปเล่นน้ำจริงๆ ไม่มีทาง ผมไม่มีทางยอมเด็ดขาด" นี่อย่าบอกนะว่าหนูจะใส่ชุดนี้ไปเล่นน้ำ "" ไม่สวยเหรอค่ะ "ดูคุณเมียผมถามมาได้ว่าสวยไหม สวยน่ะมันสวย มันสวยมากๆเลยด้วยสำหรับผม แต่ถ้าจะให้เธอไปเล่นน้ำทั้งชุดแบบนี้มีหวังคงได้มีไอ้พวกสายตาหื
หลังจากที่เพื่อนๆของผมและเคสกลับไปตอนนี้ก็เป็นเวลาหัวค่ำพอดี ผมกำลังนั่งรอเมียรักอาบน้ำ เนื่องจากว่าแผลของผมยังไม่แห้งจึงไม่สามารถที่จะอาบน้ำได้ ทำได้เพียงแค่เช็ดตัวและคนที่จะต้องเช็ดให้ผมนั้นก็คือเมียสุดที่รักของผมนั่นเอง ตอนนี้ผมถอดเสื้อผ้าออกหมดเรียบร้อยพร้อมที่จะทำการเช็คตัวเต็มทีแกร๊กว้ายยย" คะ คุณเวย์ ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าค่ะ "" จะใส่ทำไมยังไงก็ต้องเช็ดตัวอยู่ดี "" ยะ อย่างน้อยก็ควรจะมีผ้าคลุมไว้หน่อยนะค่ะ ไม่ใช่ล่อนจ้อนแบบนี้ "ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก็ต้องตกใจ ก็เขาน่ะสิเล่นนอนล่อนจ้อนอยู่บนที่นอนไม่ใส่อะไรเลยซักชิ้น แถมตรงนั้นของเขาก็ตั้งขึ้นชูชันปลายหัวบานผงกงกๆ ให้ตายเถอะทำไมมันถึงได้ทั้งใหญ่ทั้งยาวขนาดนี้" ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ เขินหรอ ทำอย่างกับไม่เคยเห็นไปได้ "" ไม่ใช่อย่างนั้…..ว้ายยย "ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยคเขาก็กระชากร่างของฉัน
หลังจากที่ชายหนุ่มเอ่ยออกไปพยาบาลสาวหุ่นเซ็กซี่ก็รีบจัดการเก็บข้าวของและเดินออกไปจากห้องพักทันทีตอนนี้ก็จะเหลือเพียงแค่หญิงสาวกับชายหนุ่มเพียงสองคนเท่านั้น" เคสเธอเป็นอะไร "" เปล่านี่ค่ะ "" เธอก็เห็นว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะแถมฉันก็บอกอยู่ว่าฉันมีเมียแล้ว "" แล้วคุณมาบอกเคสทำไมล่ะคะ "" เธองอนฉันอีกแล้ว "" เปล่า เคสไม่ได้งอน "อาการของเคสแบบนี้ผมรู้ได้ทันทีเลยว่าตอนนี้เมียของผมกำลังงอนผมอยู่แน่นอนให้ตายเถอะครับเรื่องเก่ายังไม่ทันหาย เรื่องใหม่ก็มาอีกแล้ว แล้วผมจะทำยังไงดี จะลุกไปหาเธอก็ไม่ได้จะให้เธอเดินมาเธอก็คงไม่มาเป็นแน่" อะ โอ้ยๆๆ เจ็บแผลจัง "" เป็นอะไรค่ะ เจ็บตรงไหนขอเคสดูหน่อย "ได้ผลครับผมแค่แกล้งทำเป็นว่าเจ็บแผลเคสก็รีบเดินตรงมาหาผมทันที เอาจริงๆผมก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย หลอกเมียสำเร็จด้วยแฮะ
โรงพยาบาลตี๊ด ตี๊ด ตี๊ดหลังจากที่ชายหนุ่มสลบไปเพื่อนๆทั้งสามก็ได้ทำการพาเขามาส่งยังโรงพยาบาลทันที ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังทำการรักษาตัวอยู่ในห้องผ่าตัด เพื่อเอากระสุนปืนออก และไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าอาการตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้างฮือๆๆๆๆ" เคสลูก "" แม่ค่ะ ฮือๆๆๆ คะ คุณเวย์ค่ะแม่ "" ไม่ร้องนะลูก ไม่ร้อง ตาเวย์ต้องปลอดภัย "หลังจากเกิดเหตุวอร์มและคิมก็ได้โทรไปแจ้งให้พ่อแม่ของชายหนุ่มรับทราบพวกเขาจึงได้นั่งเครื่องบินมาพร้อมกับพ่อแม่ของหญิงสาวทันที พวกเขาทำการเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวให้พวกท่านทั้งสี่คนได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ว่าพวกท่านจะโกรธก็ตามเวลาผ่านไป 3 ชั่วโมงแกร๊ก" คะ คุณหมอครับลูกชายผมเป็นยังไงบ้างครับ"หลังจากคุณหมอเปิดประตูออกมาปกรณ์ไม่รอช้าสาวเท้าตรงไปหาคุณ
ฉันยืนคิดอะไรเพลินๆเกี่ยวกับการกระทำของเขาเมื่อครู่ เขาคงไปแล้วและคงไม่กลับมาแล้วสินะ ในขณะที่ฉันกำลังจะหันหน้ากลับขึ้นไปบนห้องก็ได้เจอเข้ากับแขกที่ไม่ได้รับเชิญนั่นก็คือเชอรี่" คะ คุณเข้ามาได้ยังไง "" ไงจ๊ะสาวน้อย จับตัวมันมัดไว้ "กรี๊ดดดดด" อย่านะ ปล่อย จะทำอะไร "" ได้ข่าวว่าแกท้องเหรอ ไม่น่าล่ะเวย์ถึงได้มาขลุกอยู่แต่กับแก คิดที่จะเอาลูกมายื้อเวย์ไว้งั้นเหรอฝันไปเถอะ แก่กับไอ้มารหัวขนนี่ไม่มีทางรอดไปได้ "" อย่านะ อย่าทำอะไรลูกฉันนะ "อีกด้านเซอร์เวย์ผมขับรถออกมาจอดอยู่บริเวณชายทะเลไม่ไกลจากบ้านพักมากนัก อันที่จริงคำพูดที่เคสบอกว่าเบื่อขี้หน้าผม มันทำให้ผมโครตรู้สึกเสียใจ มันเจ็บแบบบอกไม่ถูก แต่ก็นั่นแหละ ผมรู้อยู่แล้วว่าอารมณ์คนท้องค่อนข้างที่จะแปรปรวน ทั้งๆที่บอกกับตัวเองว่าต้องอดทน แต่มันก็แอบน้อยใจไม่ได้อยู่
ตอนนี้ผมและเคสก็กำลังรอรับยาที่อาหมอสั่งแต่ไม่รู้ว่าเคสเป็นอะไร เพราะทันทีที่ออกมาจากห้องของอาหมอ เคสก็เอาแต่นั่งนิ่งอยู่ตลอดไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า" เคส เคส "" หะ จะเรียกอะไรนักหนา "" เป็นอะไรหรือเปล่า ก็ฉันเห็นเธอนั่งนิ่งมาตั้งแต่ออกจากห้องตรวจแล้ว ทำไมเธอจะต้องดุฉันด้วยละ "" มันเรื่องของฉันไม่ต้องมายุ่ง ว่าแต่ยาน่ะได้หรือยัง ฉันอยากกลับบ้านแล้ว "" ยังเลยรอแป๊บนึงกำลังจะถึงคิวแล้ว "ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่กับเคสมา เธอก็มักจะมีอารมณ์แปรปรวนอยู่แบบนี้เป็นประจำ ผมเข้าใจอารมณ์ของคนท้อง แต่มันก็แอบน้อยใจอยู่ดี ไม่ว่าผมจะทำดีกับเธอสักแค่ไหน เธอก็ยังไม่ให้อภัยผมสักที" คุณภัทรรินทร์ อภิรักษ์ เชิญรับยาช่อง 2 ค่ะ "" เดี๋ยวฉันไปรับยาก่อนนะเธอนั่งรออยู่ตรงนี้ "" อืม "หลังจากที่ผมรับยาเสร็จ ก็พาเคสตรงดิ่งกลับมาบ้านทันที ตอนแรกผมกะว่าจะพาเธอไปซื้อของกิ