LOGIN... โดยไม่ฉุกใจคิดถึงคำพูดของแม่เลี้ยงสักนิด ว่าเป็นการยั่วยุกระตุ้นให้เธอทานอาหาร มีความห่วงใยที่แฝงเอาไว้ในคำพูด
เธอกลัวว่าจะเสียบิดาอันเป็นที่รักให้หญิงสาวที่จะมาเป็นแม่เลี้ยง เพราะขึ้นชื่อว่าแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงมักมีข่าวไม่ดีเสมอ
“คุณทำได้ยังไง สายบอกว่ายัยบัวทานอาหารหมดเกลี้ยงเลย”
ทรงศักดิ์กอดร่างภรรยาบนเตียง ถามด้วยความอยากรู้ มือใหญ่ลูบไล้แขนเปลือยเล่น
“พื้นฐานหนูบัวเป็นเด็กจิตใจดี แกคงคิดว่าพรจะมาแย่งความรักของคุณไปจากแก หนูบัวเลยต่อต้าน เอาไว้เป็นหน้าที่ของพรเถอะค่ะ ลูกของคุณก็เหมือนลูกของพร พรจะรักแกไม่ให้แกคิดว่าขาดแม่อีก”
พรพิมลลูบแผงอกกว้างที่อุดมไปด้วยขนดกหนาเบาๆ ยั่วเย้าอารมณ์นายหัววัยสี่สิบได้เป็นอย่างดี
“ผมฝากลูกไว้กับคุณด้วยนะพร บางครั้งผมงานยุ่งไม่ค่อยมีเวลาให้แก อยากให้แกมีแม่เหมือนคนอื่นๆ เค้าก็เท่านั้น”
ทรงศักดิ์พูดเสียงอ่อนโยนเมื่อเอ่ยถึงบุตรสาว พรพิมลรับรู้โดยทันทีว่าเขารักลูกสาวเพียงใด
“อย่าห่วงเลยค่ะ พรอยากมีลูกสาวอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญดินจะได้มีน้องสาวอีกด้วย เห็นดินดีใจใหญ่ที่ได้เจอหนูบัว พูดไม่ขาดปากว่าน้องน่ารักมาก”
พรพิมลจูบแก้มสามีเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ การที่คนสองคนตกลงครองคู่อยู่ด้วยกันนั้น ต้องรับรู้ว่าอีกฝ่ายมีพื้นฐานชีวิตเป็นเช่นไร ต้องรับได้ในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น ปรับตัวเข้าหากัน เข้าอกเข้าใจกัน เห็นอกเห็นใจกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ชีวิตถึงจะมีความสุข หากมีแต่ทิฐิ มีความเห็นแก่ตัวชีวิตคู่ก็ไร้ซึ่งความสุข
“ผมดีใจที่ได้เจอคุณ”
ทรงศักดิ์จูบหน้าผากภรรยาเบาๆ พรพิมลไม่เคยเรียกร้องอันใดจากเขา หลังจากที่ได้รู้จักกันหลายเดือน ถ้าจะกล่าวก็เกือบปีด้วยซ้ำ เวลาเขาเคร่งเครียด มักได้คำพูดปลอบโยนและการเอาอกเอาใจที่ดีจากเธอ รับฟังปัญหาของเขาอย่างสนใจ ทำให้เขาผ่อนคลายที่ได้ระบายเรื่องอัดอั้นตันใจออกมา
... มันไม่ใช่ความรักระหว่างหนุ่มสาวที่หวือหวา แต่เป็นความรักความห่วงใย ความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจกันเสียมากกว่า
“พรต้องขอบคุณคุณมากที่รับเราสองแม่ลูกมาอยู่ด้วยค่ะ”
พรพิมลบอกด้วยความซาบซึ้งใจ เธอตั้งใจไว้ว่าจะดูแลทรงศักดิ์และพลอยชมพูให้ดีที่สุด นั่นคือความตั้งใจของเธอเมื่อตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่กับเขา
ทรงศักดิ์หอมแก้มภรรยาซ้ายขวาก่อนขึ้นทาบทับด้วยความเสน่หา
“ผมขอนะ รอคุณมาหลายเดือนแล้ว”
นายหัววัยสี่สิบขอตรงๆ พรพิมลยิ้มหวานเอาใจ มือลูบแผงอกกว้างที่อุดมไปด้วยเส้นขน
ทรงศักดิ์มีผิวสีแทน ร่างกายบึกบึนกำยำบ่งบอกถึงการทำงานกลางแจ้ง เขายังดูหล่อเหลาไม่เหมือนคนอายุสี่สิบเลยสักนิด เรือนกายอุดมไปด้วยมัดกล้าม ดูเป็นชายชาตรีที่แข็งแกร่งยิ่งนัก
พรพิมลรับคำโดยการเผยอปากให้สามีจุมพิตเร่าร้อน มือนุ่มลูบไล้ร่างบึกบึนอย่างเอาใจ ก่อนปลดกระดุมเสื้อของเขาออกคล่องแคล่ว
ทรงศักดิ์ครางเบาๆ ภรรยาไล้มือไปตามสาบเสื้อเมื่อจัดการกับกระดุมจนหมดเม็ดสุดท้าย เสื้อนอนจึงถูกถอดออกง่ายดายด้วยความร่วมมือของเขาเอง
พรพิมลผลักร่างสูงใหญ่ของสามีนอนลง แม้ระหว่างที่คบกันเขาจะให้เกียรติเธอเสมอไม่ว่าจะเป็นแม่หม้ายสามีตายก็ตาม
เขาไม่เคยล่วงเกินกว่าการกอดจูบลูบสัมผัส อยากทำให้เขามีความสุขที่สุด เธอรู้จักการเอาอกเอาใจสามีเพราะผ่านประสบการณ์แต่งงานมาแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาเคอะเขินอะไรมากนัก
หาญ... ซึ่งเป็นอดีตสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้ทิ้งทรัพย์สมบัติมากมายเอาไว้ แต่เธอมิอาจดูแลได้ตามที่ควรจะเป็น หัสดินยังด้อยประสบการณ์ที่จะควบคุมดูแลคนงานมากมายของสามีได้
พายัพน้องชายของสามีกลับได้รับการโอนทรัพย์สมบัติทั้งหมดเป็นของตน ทั้งที่ควรจะเป็นหัสดิน หลักฐานการโอนทุกอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เรียบร้อย จนเธอทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นเธอและลูกชายจึงเหลือแต่ตัวแบบไม่คาดคิดมาก่อน
หรืออาจเป็นเพราะเธอไม่ได้ต้องการเรียกร้องอันใดให้ยุ่งยาก ด้วยความเป็นห่วงหัสดิน พายัพค่อนข้างอารมณ์ร้อน หากไม่พอใจขึ้นมาอาจมีปัญหาตามมาอีกมากมาย เธอกับลูกไม่อยู่ในฐานะที่จะต่อกรกับเขาได้เลย
แม้ทรงศักดิ์จะต้องการช่วยเหลือ แต่เธอไม่อยากให้มีเรื่องแย่งชิงสมบัติ รวมถึงการฟ้องร้องเกิดขึ้น จึงตัดสินใจเด็ดขาดที่จะไม่ยุ่งกับทรัพย์สมบัติดังกล่าวอีก ทรงศักดิ์จึงไม่ได้ทัดทานอันใดอีก
... แต่พรพิมลไม่รู้ว่าสามีที่กำลังกอดเธออยู่ในอ้อมแขนกำลังรอเวลาเท่านั้น รอให้หัสดินเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้
การที่นายหัววัยสี่สิบยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้เธอซาบซึ้งน้ำใจของเขา ความใกล้ชิดที่มีให้กัน ทำให้เธอยอมตกลงปลงใจมาอยู่กับเขาในฐานะภรรยา
ในใจคิดเสมอว่าการที่สามีฝากเธอและลูกกับเพื่อนรักแทนที่จะเป็นน้องชายคนเดียว มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น
หัสดินรู้ข้อนี้ดี แต่เพราะคำสั่งสอนที่เธอมักพร่ำบอกเสมอว่า อะไรก็ตามที่เป็นของเรา เช่นไรเสียมันต้องเป็นของเราอยู่วันยังค่ำ หากไม่ใช่ของของเรา ทำเช่นไรก็ไม่ใช่ของของเรา แม้จะไขว้คว้าจนเหนื่อยก็อาจได้เป็นเจ้าของเพียงแค่ไม่นาน แล้วสิ่งสิ่งนั้น ต้องกลับไปเป็นของเจ้าของเดิมของที่แท้จริง เหมือนดั่งคนที่โกงของคนอื่น สักวันต้องสูญเสียสิ่งที่โกงมาเพราะได้มาด้วยความไม่สุจริตใจ สิ่งนั้นไม่ใช่ของเขาตั้งแต่แรกที่ควรจะเป็น หัสดินจึงทำใจได้ในข้อนี้
ร่างของภรรยาที่ลุกไปยืนข้างเตียง เปลื้องชุดนอนบางเบาออกจากกาย ทำให้ทรงศักดิ์หายใจติดขัด ด้วยความต้องการที่ร้างลามานานทำให้เขาตื่นตัวอย่างเต็มที่
พรพิมลดึงกางเกงนอนของสามีออกแผ่วเบา เขาอำนวยความสะดวกโดยการยกสะโพกสอบให้ไม่อิดออด
แม่หม้ายสาวพาร่างมาแอบอิงแนบชิด ประกบริมฝีปากหนาขบดูดหนักๆ กายเปลือยเปล่า ถูไถเสียดสีกับผิวแน่นเรียบตึงของนายหัวหนุ่มใหญ่
ริมฝีปากอิ่มเอิบลากผ่านไปตามผิวกายชาย ตวัดลิ้นเล็กอุ่นร้อนออกมากวาดเลียทุกสัดส่วนที่สามารถสัมผัสได้
“คุณจะกินผมเป็นอาหารหรือไง”
ทรงศักดิ์พูดกลั้วหัวเราะ พรพิมลหน้างอเล็กน้อยก่อนผละห่าง
“อย่าล้อสิคะ คนบ้า พรจะรู้ได้ไง... ว่าคุณชอบแบบไหน”
เธอบิดหัวนมเขาด้วยความหมั่นไส้ นี่เป็นกิริยาที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันเท่านั้น คนภายนอกไม่มีวันได้เห็น ลูกน้องและคนงานจะเห็นทรงศักดิ์ในแบบที่เขาเป็น เป็นที่เกรงใจและเด็ดขาดอยู่ตลอดเวลา
“ผมชอบแบบนี้ที่สุด แต่อยากกินคุณก่อนได้ไหม”
นายหัวหนุ่มใหญ่พลิกร่างภรรยานอนลงบนเตียง พรพิมลโอบรอบคอหนาของสามีส่งสายตายั่วยวนให้อีกฝ่าย
ทรงศักดิ์แทบลุกเป็นไฟ ร้อนระอุด้วยความต้องการ เขาแทะเล็มริมฝีปากไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น ระเรื่อยลงมายังทรวงสาวอวบใหญ่
“อุ๊ย!”
พรพิมลตีมือซนของสามี เขาบีบเคล้นแล้วเขย่าเล่นด้วยความชอบใจ
“ไม่ชอบเหรอ”
เขาหัวเราะขำคนหน้างอที่กำลังทำแก้มป่องเหมือนสาวๆ ไม่มีผิด
“คุณน่ะ เล่นเหมือนเด็กๆ ไปได้”
เธอว่าให้ ค้อนใส่เสียหลายครั้ง ทรงศักดิ์ยังเขย่าปทุมถันทั้งสองข้างไปมาอย่างหยามใจ
“งั้นเดี๋ยวผมจะเล่นเหมือนผู้ใหญ่”
เขาทำตาพราว พรพิมลยิ้มเอียงอายเล็กน้อย ทำให้เขาหัวเราะเบาๆ ชอบใจในกิริยายั่วๆ ของภรรยา ที่ทำท่าเดียงสาเหมือนสาวแรกรุ่นให้เขากรุ่นในหัวใจ
“คุณนี่พูดให้ฉันอายนะคะ”
พรพิมลลูบปลายคางพูดเสียงกระเส่าเย้าอารมณ์หนุ่มใหญ่
“จะอายอะไร ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของคุณใจจะขาดแล้ว”
เขากระซิบเสียงแหบห้าวข้างหู
“พี่กันต์ขา ศิเหนื่อยเหลือเกิน เมื่อยด้วย”เธอพ้อเมื่อเขายังไม่ยอมถอดถอนกายออกไปจากร่าง“พี่ยังไม่เหนื่อยเลย”ศศิกานต์ตาโต เขาจุมพิตเปลือกตาทั้งสอง เธอเริ่มครวญครางครั้งใหม่ กว่าเขาจะละจากร่างบางก็ตักตวงความสุขถึงที่สุดศศิกานต์หลับใหลด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่อิ่มเอมสุขกระสันแบบที่ไม่เคยพานพบมาก่อนในชีวิตสาวกณวรรธ เอาใจใส่ศศิกานต์เป็นอย่างดี ชายหนุ่มให้หญิงสาวไปทำงานกับเขาทุกวัน โดยไม่ยอมให้ไปทำงานที่ไหน เพราะอยากเห็นหน้าหวานๆ ตลอดเวลา เวลาตรวจคนไข้ออกมาเหนื่อยๆ จะได้ชื่นใจ บิดามารดาของหญิงสาวชอบใจใหญ่ที่ได้ลูกเขยเป็นคนดีและรักบุตรสาวจากใจจริงทั้งสองมีทายาทหัวปีท้ายปี ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งหมด ยิ่งนานวันหมอหนุ่มยิ่งหวงภรรยามากขึ้น เพราะยัยหมูน้อยของเขาอวบอัดน่ากินไปทั้งเนื้อทั้งตัวสำหรับหัสดินกับพลอยชมพูดำเนินกิจการทำข้าวนึ่งบรรจุกระป๋อง ซึ่งได้รับการตอบรับดีพอสมควร ทั้งสองค่อยๆ ขยายกิจการไปเรื่อยๆ แบบไม่รีบร้อน โดยเปิดโรงงานเล็กๆ เพื่อแปรรูปข้าวหลายรูปแบบ มีให้เลือกสรรแล้วแต่ความต้องการของผู้บริโภค แต่เน้นเพื่อสุขภาพเป็นหลัก ที่สำคัญพันธุ์ข้าวสังข์หยดที่มีคุณค่าถูกนำมาผลิตเป็นข้าวบรรจ
“พี่กันต์บ้า อย่าพูดนะ คนเจ้าเล่ห์เกลียดที่สุดเลย” ศศิกานต์ตาเขียวใส่เจ้าบ่าว“เค้าบอกว่าเกลียดอะไรมักได้อย่างนั้นนะ” เขายิ้มตาพราว“พี่กันต์ ศิอยากอาบน้ำจริงๆ นะ”เธออ้อนวอนเขาทั้งคำพูดและแววตา“ได้สิ แต่ต้องให้พี่อาบด้วย ไม่งั้นก็ไม่ให้อาบ”ศศิกานต์ตาโต หมอหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์เริ่มหื่นกับเธออีกแล้ว คนบ้า... ไม่ให้เวลาเธอตั้งตัวบ้างเลยเหรอ“ไม่เอา ศิอาย พี่กันต์บ้าๆๆๆ”ศศิกานต์ดิ้นอึกอักทุบเขาไม่ยั้ง ชายหนุ่มกดมือน้อยทั้งสองเอาไว้“ไม่บ้าแล้วยัยลูกหมูน้อยของพี่ พี่อยากรักศิแบบนี้มานานแล้ว”เขากระซิบบอกเสียงกระเส่าหวาน จนหญิงสาวขนลุกชัน“พี่กันต์ ให้ศิทำใจก่อน”เธอกลืนน้ำลายฝืดเคืองลงคอ เขาไม่คิดจะให้เธอตั้งตัวเลยหรือยังไง สักนิดหนึ่งก็ยังดี“ก็ได้” เขาใจอ่อนในที่สุด ตกหลุมรักเด็กไปแล้วนี่นาศศิกานต์เผยยิ้มออกมาเมื่อรอดพ้นเงื้อมือเขาไปได้บ้าง อย่างน้อยให้เวลาเธอทำใจสักนิด“แต่มีข้อแม้...” นั่นไง เธอว่าแล้วเชียว“อะไรอีกล่ะคะ” เธอถามเสียงสั่นเมื่อเห็นประกายตาของเขา“พี่อาบน้ำด้วย ประหยัดเวลาไง อยากรักศิแล้วนะ รีบปั้มลูกไง จะได้มีลูกทันใช้ พี่แก่แล้วนะ อายุมากโข... กว่าเมียจะโตขนาดนี้”เข
ร่างสาวโยกกายเร้าอารมณ์หนุ่ม จนได้ยินเสียงเนื้อเสียดสีเป็นจังหวะปะปนกับเสียงร้องครวญแทบขาดใจ“พี่ดินขา... บัวจะขาดใจแล้ว”พลอยชมพูกระตุกร่างหวีดร้องสุดเสียง ร่างน้อยถูกกระชากเข้าสู่ความสุขหฤหรรษ์หัสดินผ่อนแรงเล็กน้อยเพื่อพลิกร่างอรชรให้นอนหงาย ดวงตาสองคู่สบกันนิ่งเขายกขาเพรียวพาดบ่าเอาไว้ อยากเห็นเธอมีความสุขอยู่ใต้ร่างเขา อยากเห็นหน้าตาเสียวซ่านสุขล้ำที่ได้รับจากเขาพลอยชมพูอ้าแขนรับร่างสูงหนาที่ทาบทับเข้าหา เขาหมุนวนสะโพกสอบกระทั้นหน่วงหนักเมื่อจัดท่วงท่าได้เรียบร้อยสะโพกผายงอนงามลอยขึ้นจากพื้นเตียงเมื่อเขาโน้มกายลงมาเพราะขาทั้งสองของเธอพาดบนบ่ากว้างมือน้อยจับมั่นที่เอวหนาเพื่อรับแรงกระแทกจากกายหนุ่ม ริมฝีปากหวานครวญครางไม่ขาดสาย ริมฝีปากหยักลึกกดประทับปิดเสียงครวญหวานเอาไว้ จึงได้ยินแต่เสียงอู้อี้ในลำคอประสานกับเสียงกระแทกเนื้อกายเร่าร้อน เรียกอารมณ์เพศรสให้รุนแรงเกินห้ามใจ ยิ่งได้ยิน ยิ่งรัญจวนทั้งอารมณ์หวาม อารมณ์สวาทคุกรุ่นรุนแรงพลอยชมพูเกร็งร่างน้อยยะเยือก ตอดรัดความเป็นชายรุนแรง ร่างเล็กเกร็งสะท้านร้องครางเสียงสะอื้นด้วยความสุขซ่านล้นในลำนำรักที่ได้รับหัสดินเร่งเร้าลีลา
“อยากอาบน้ำเหรอคะ พี่ก็ร้อนเหมือนกัน”หัสดินพูดยิ้มๆ ดวงตาเป็นประกายจนสาวน้อยหน้าแดงระเรื่อ อาการนอนนิ่งของสาวน้อยทำให้เขารู้ว่าเธอต้องการอันใด“พี่ดินขา... ระหว่างอาบน้ำเล่าเรื่องพวกที่จับตัวบัวไปหน่อยสิคะ พี่ดินยังไม่เล่าให้บัวฟังเลย”เธอยังติดใจเรื่องนั้นอยู่ไม่หาย เขาบอกว่าจะเล่าให้ฟัง จนถึงบัดนี้ เธอเพิ่งจะนึกถามเขาอีกรอบ ลืมเลือนไปเสียสนิทเนื่องจากการดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้เธอมีความสุขจนลืมเรื่องความเจ็บป่วยของตัวเองและเหตุการณ์เลวร้ายไปเสียสนิท... แม้แต่กณวรรธเพียงแค่ได้มาตรวจอาการเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ได้ทำอะไรมากกว่าคนข้างๆ ที่ทำตัวเป็นหมอเสียเอง“ถ้าอาบน้ำด้วยกัน พี่ยังไม่รู้เลยว่าจะเล่าจบหรือเปล่า”เขาเอ่ยเสียงทุ้มลึก พลอยชมพูคล้องแขนที่คอหนา กดจุมพิตเบาๆ“งั้นเล่าก่อนสิคะ แล้วค่อยอาบน้ำ”สาวน้อยออดอ้อนเบียดกายเข้าหา เงยหน้ามองตาปริบๆ เขากดริมฝีปากหยักหนาที่พวงแก้มหอมแรงๆ อย่างชื่นใจ“เมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นพี่ถูกยิง บัวจำได้ไหม”เขาทวนความจำ“จำได้ค่ะ”เธอตอบรวดเร็ว ตอนนั้นบิดาเริ่มให้หัสดินเข้าไปดูแลคนงานแทนท่าน มีหัวขโมยมาขโมยยางเอาไปขาย บิดากับเขาและลูกน้องก็เลยไปดักจับพ
บริเวณรอบกายเป็นป่าเขาลำเนาไพร ดูจากพื้นที่คงเป็นเนินเขาที่ใดที่หนึ่ง มีชายฉกรรจ์หลายคนเฝ้าเวรยามไม่ขาดหญิงสาวลอบกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ หากคิดจะหนีคงยาก ตอนนี้เธอทำได้เพียงแต่ถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้เท่านั้น“เร็วๆ ตรงนั้นแล้วกัน อย่าคิดตุกติกหนีนะ ไม่งั้นศพไม่สวยแน่” คิมหันต์ยังขู่สำทับ“รู้แล้วจ้ะ ใครจะกล้าหนี บอกแล้วไงคืนนี้จะพาพี่คิมขึ้นสวรรค์”พลอยชมพูยิ้มหวานหยด เดินไปสามก้าวมันก็ตวาดมาเสียงดัง“ตรงนั่นแหละ อย่าไปไกล”หญิงสาวเม้มปากแน่น เริ่มขาสั่นเล็กน้อย แต่ทำใจดีสู้เสือเอาไว้ จะให้เธอมาถอดกางเกงตรงนี้ จะบ้าหรือไง“แหม... ขอตรงโน้นได้ไหม ฉันอายนะ ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ไม่มีปัญญาหนีหรอกจ้ะ” พลอยชมพูต่อรองชี้ไปอีกด้าน“จะฉี่ไม่ฉี่ เรื่องมากจริง เดี๋ยวก็ต้องเห็นอยู่แล้ว ตอนเข้าไปในกระท่อม”ชายหนุ่มทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจก่อนกวาดสายตาหยาบคายมองหื่นๆ“แหม... เอาไว้ในกระท่อมเราอยู่กันสองคน แต่ว่าตอนนี้ฉันอาย ฉันขอทำใจก่อนได้ไหม นี่ครั้งแรกของฉันเลยนะ ฉันจะยอมแบบไม่ขัดขืนเลย”พลอยชมพูสูดลมหายใจเข้าปอดแรงลึก เดินเข้าไปใกล้ๆ กรีดนิ้วที่แผงอกกว้างเพื่อยั่วยวนแม้จะหายใจไม่ทั่วท้อง แ
“โทรหาคุณบัวไม่ติดเลยค่ะนายหัว” สายรายงานเสียงระรัว“ผมจะออกไปตามหาน้องบัวครับป้าพา”หัสดินที่นั่งไม่ติดเอาเสียเลยบอกด้วยความร้อนใจเมื่อได้รับรายงานว่าพลอยชมพูยังไม่กลับมา ที่สำคัญตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วด้วย เป็นความผิดของเขาเองที่ไม่ได้พาเธอเข้าเมืองดังที่สัญญาเอาไว้เพราะมัวแต่ยุ่งกับงาน ไม่คิดว่าหญิงสาวจะเดินทางไปคนเดียวแบบนี้ แถมไม่พาใครร่วมทางไปด้วยสักคนเดียว“นายหัวระวังตัวนะคะ ตามคุณบัวกลับมาให้ได้นะคะ”พากับสายรู้สึกใจไม่ดีเพราะช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ค่อยปกติ พลอยชมพูออกไปไหนก็ไม่บอกไม่กล่าวให้ใครรู้ ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่“ไม่ต้องห่วง ผมจะเอาคนงานไปสักสิบคน ฝากป้าดูแลบ้านด้วยนะครับ เดี๋ยวผมให้ลูกน้องมาอยู่เป็นเพื่อน”หัสดินจัดการตามที่บอก แล้วเดินทางออกไปหาหญิงสาวไม่รั้งรอระยะทางที่ขับรถผ่าน ใจของหัสดินร้อนรุ่มเหมือนไฟสุม ป่านนี้พลอยชมพูจะเป็นเช่นไรบ้าง นั่นคือสิ่งที่เขาเป็นกังวลที่สุดลางสังหรณ์บางอย่างทำให้เขาใจคอไม่ดี ขอให้คุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครองหญิงสาวให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเถิด“ข้างหน้ามีรถจอดอยู่ครับนายหัว”เม่นที่ทำหน้าที่เป็นคนขับรีบบอกผู้เป็นนาย







