LOGINตอนที่6
“เฮียหวังดีกับทุกคนนะ แล้วอีกอย่างหนึ่งเฮียก็ไม่ชอบสิ่งที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทำด้วย นี่มันสมัยไหนแล้ว ยังจะคลุมถุงชน จับลูกหลานแต่งงานกันอยู่อีก”
“ขวัญงงว่ะเฮีย เฮียช่วยใคร? ถ้าหมายถึงพี่มุกน่ะใช่ เฮียช่วยไม่ให้พี่มุกต้องแต่งงานตามที่พวกผู้ใหญ่บงการ แต่ทำไมขวัญต้องมาแต่งงานแทนด้วยเนี่ย”
“ฟังเฮียนะขวัญ มุกกับชายปัณไม่ได้รักกัน ถ้าแต่งงานกันไป ก็มีแต่จะเสียใจกันทั้งสองฝ่าย”
“แต่ขวัญกับคุณชายก็ไม่ได้รักกันสักหน่อย ทำไมเฮียไม่ช่วยขวัญ เฮียไม่กลัวขวัญจะเสียใจบ้างเหรอ”
“แต่ชายปัณชอบขวัญ ถ้าแต่งงานกันไปอย่างน้อยก็มีคนเสียใจแค่คนเดียวคือขวัญ”
“เฮีย! ขวัญเป็นน้องสาวเฮียนะ” ฉันตวาดแหวเมื่อได้ฟังสิ่งที่เฮียกรมันบอก เฮียมันคิดได้ยังไงวะ?
“เอาน่า แต่งกันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง” เฮียมันพูดออกมาได้หน้าตาเฉย
“เฮีย! ขวัญไม่คิดเลยว่าเฮียจะเห็นเพื่อนดีกว่าน้องแบบนี้” ฉันพูดอย่างหงุดหงิดไอ้พี่ชายตัวดี
“เฮียก็รู้ว่าเพื่อนเฮียเจ้าชู้จะตาย ดีไม่ดีพวกผู้หญิงของเขาจะตามมาเล่นงานขวัญอีก เฮียไม่กลัวว่าขวัญจะเสียใจบ้างเหรอ?”
“ขวัญฟังเฮีย ชายปัณมันไม่ได้เป็นอย่างที่ขวัญเห็นหรอกนะ เฮียคบกับมันมาตั้งหลายปี เฮียรู้จักมันดี”
“ก็เฮียเป็นเพื่อนเขา ก็ต้องเข้าข้างเขาสิ”
“แต่เฮียก็ไม่มีทางเห็นคนอื่นดีกว่าน้องสาวหรอกนะ” เฮียกรพูดอย่างจริงจัง มองหน้าฉันนิ่ง
“เฮียรู้นะว่าขวัญรู้สึกยังไงกับชายปัณ” คำพูดของเฮียกร ทำเอาฉันพูดอะไรไม่ออก แต่นั่นมันก็เป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายปีแล้ว อีกอย่างทั้งฉันและเขาต่างก็ไม่เคยบอกความรู้สึกที่มีต่อกันเลยสักครั้ง
และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะคิดอย่างที่ฉันคิดกับเขาหรือเปล่า การที่เราจะกลับมารื้อฟื้นความรู้สึกกันในตอนนี้ มันอาจจะยากเกินกว่าที่จะกลับมาเหมือนเดิมแล้วก็ได้
“ลองให้โอกาสตัวเอง ให้โอกาสชายปัณมันก่อน เชื่อเฮียนะ”
“แล้วเฮียรู้ได้ยังไงว่าคุณชายเขา เอ่อ รู้สึกแบบนั้นกับขวัญ” คนอย่างคุณชายหรือจะชอบเด็กกะโปโลแบบฉัน ถึงเมื่อก่อนฉันอาจจะเคยแอบคิดว่าเขาก็อาจจะมีใจให้ฉัน แต่หลังจากที่เห็นเขาควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า ฉันเลยต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ ว่าเขาอาจจะเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งก็ได้
ก็ดูสาวๆ ที่คุณชายเขาควงแต่ละคนสิ ไม่นางแบบ ก็นางเอกแถวหน้าทั้งนั้น แล้วแต่ละคนก็ธรรมดาเสียที่ไหน สวยเฉี่ยว หุ่นแซ่บกันทุกคน
“เฮียเป็นเพื่อนมันนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะไม่รู้” เฮียกรพูดแค่นั้นฉันเพียงฟังเฉยๆ ส่วนมันจะเป็นอย่างที่เฮียบอกหรือเปล่า ก็ต้องรอดูไปก่อน
เพราะฉันเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อในสิ่งที่เฮียมันพูดสักเท่าไหร่
ตอนที่12ปัณณทัตพาขวัญนรีออกมาจากบ้าน หลังจากที่เขาตามเธอมาที่นี่ แล้วมาได้ยินคำพูดเสียดสีดูถูกจากแม่ใหญ่ ซึ่งขนาดเขามาได้ยินยังรับไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับขวัญนรีที่จะทนไม่ได้ ที่ถูกคนอื่นมาพูดจาดูถูกเธอและก็แม่ของเธอแบบนี้ซึ่งเขาเองก็พอจะรู้สถานการณ์ภายในบ้านพาณิชย์พงษ์ภากรอยู่บ้าง จากชวกรพี่ชายของขวัญนรี แต่ก็ไม่เคยเข้ามารับรู้ถึงขนาดวันนี้ที่มาได้ยินเองกับหู เขาถึงกับทนไม่ได้จนต้องเอ่ยปากพูดเพื่อปกป้องเธอ“คุณตามฉันมาที่นี่ได้ยังไงคะ” เธอเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่อยู่กันในรถและขับออกมาได้สักพัก“พรบอกว่าขวัญให้มาส่งที่บ้าน” พรคือคนขับรถที่มาส่งเธอที่บ้านในวันนี้“ความจริงคุณไม่ต้องมารับฉันก็ได้นะคะ ฉันว่าจะเอารถที่บ้านไปใช้ด้วย”“ไม่ต้องหรอกค่ะ ใช้รถของพี่นั่นแหละ ขวัญอยากเอาคันไหนไปใช้ก็เลือกได้เลย” เขาบอก เพราะรถของเขาที่บ้านก็มีตั้งหลายคัน เพราะเขาใช้ประจำอยู่แค่คันเดียว“อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างหรือยังคะ?” ปัณณทัตเอ่ยถามคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เพราะก่อนหน้านั้นเธอยังอารมณ์เสียนั่งเงียบมาตลอดทางอยู่เลย“ก็ดีขึ้นแล้วค่ะ ว่าแต่นี่เราจะไปไหนกันคะ?” ขวัญนรีเอ่ยถาม เพราะทางที่เขาพาเธอมามันไม่ใช่ทางก
ตอนที่11“ใช่สิ ได้ทุกอย่างสมใจแล้วนี่” แม่ใหญ่หันไปพูดกับแม่ที่นั่งเงียบไม่ได้มีการตอบโต้อะไร ซึ่งแม่ก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปล่อยให้แม่ใหญ่พูดจาดูถูกแบบนี้เสมอแม่เคยบอกว่าเดี๋ยวเขาเหนื่อย ก็หยุดพูดไปเอง แต่ดูเหมือนคนอย่างแม่ใหญ่จะหยุดยากสักหน่อยนะเพราะคนอย่างแม่ใหญ่ ต้องเจอคนอย่างขวัญนรีถึงจะสมน้ำสมเนื้อ แม่ฉันใจดีเกินไปที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเขา“ได้ความรักจากคุณทรงพลไปยังไม่พอ ยังให้ลูกสาวมาแย่งสามีของยัยมุกอีก” แม่ใหญ่พูดออกมาเหมือนเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำ ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉันต่างหากที่ถูกใครต่อใครบงการชีวิตอยู่ตอนนี้แม่เล่าให้ฟังว่าป๊ากับแม่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย แต่เป็นเพราะครอบครัวของแม่ไม่ได้ร่ำรวย อากงเลยหาผู้หญิงให้ป๊า นั่นก็คือแม่ใหญ่ที่เป็นลูกสาวของเพื่อนอากง ป๊าจำใจต้องแต่งงานกับแม่ใหญ่และจดทะเบียนสมรสตามที่อากงต้องการเพราะไม่อย่างนั้นป๊าจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ป๊ามีข้อแม้กับอากงว่าจะต้องให้แม่เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะภรรยาของป๊าอีกคนด้วย ซึ่งอากงก็ยินยอมเพราะตอนนั้นแม่ตั้งท้องเฮียกรแล้วที่แม่ยอมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียรองของป๊า ก็เพราะว่ารักป๊ามาก ยอมแ
ตอนที่10หลังจากที่เมื่อวานฉันถูกหม่อมย่าเรียกไปเรียนทำอาหารที่ตึกใหญ่เกือบทั้งวัน วันนี้เลยกะว่าจะเนียนไม่ไปสักหน่อย เมื่อวานฉันก็แทบจะทำครัวเขาเละไม่มีชิ้นดี ก็บอกแล้วว่าฉันเคยเข้าครัวทำอาหารเสียที่ไหนกันวันนี้เลยมาหาแม่ที่บ้าน แล้วก็น่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยเลย คิดถึงฝีมือทำอาหารของป้าแก้ว แม่ครัวที่บ้านจะแย่“ทำไมมาคนเดียวล่ะขวัญ คุณชายไม่ได้มาด้วยเหรอ” แม่เอ่ยถามเมื่อเห็นฉันมาเพียงคนเดียวไร้เงาของคุณชาย ฉันให้คนขับรถมาส่งเพราะรถของฉันอยู่ที่นี่ วันนี้ก็ว่าจะเอาไปใช้ที่บ้านโน้นเหมือนกัน เวลาอยากไปไหน จะได้ไม่ต้องให้คนขับรถที่บ้านขับไปให้ถึงคุณชายเขาจะมีรถหลายคันที่จอดเรียงรายอยู่ที่บ้าน แต่ฉันก็ไม่อยากไปวุ่นวายเอามาใช้หรอก“เขาทำงานน่ะแม่ วันนี้ว่าจะมาทานข้าวเย็นด้วย” ฉันเข้าไปกอดแม่ด้วยความคิดถึง“แล้วเป็นยังไงบ้าง ไปอยู่ที่นั่นขวัญโอเคมั้ยลูก”“ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่หรอก หม่อมจินดาให้ขวัญไปเรียนทำอาหารด้วย ไหนจะมารยาทเวลาต้องเข้าสังคมอีก” ฉันบ่นกระปอดกระแปดให้แม่ฟัง“หม่อมเขาคงอยากให้หนูเรียนรู้เอาไว้ เพราะไปอยู่ที่นั่นหนูจะต้องเป็นเจ้านาย จะได้ดูแลเด็กในบ้านได้ อีกอย่างตระกูลวง
ตอนที่9“คุณชาย มีอะไรหรือเปล่า” ฉันถามคนที่อยู่หน้าห้อง แต่เขากลับเดินเข้ามาภายในห้องหน้าตาเฉย“แล้วนี่ คุณเข้ามาที่ห้องนี้ทำไม” ฉันมองคนที่อยู่ในชุดนอนที่เตรียมพร้อมจะนอนแล้วอย่างสงสัย“พี่ก็จะมานอนที่ห้องนี้ไงคะ” เขาตอบก่อนที่จะเดินตรงไปที่เตียงนอนอย่างหน้าตาเฉย“ก็ไหนคุณบอกว่าจะไปนอนที่ห้องอื่นไง”“ลืมไปแล้วเหรอคะ ว่าหม่อมย่าบอกว่ายังไง” อยู่ๆ เขาก็เอาหม่อมย่าขึ้นมาอ้าง“ถ้าท่านรู้ว่าเราสองคนนอนแยกห้องกัน มีหวังต้องเรียกไปว่าอีกแน่” ซึ่งมันก็จริงอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ เด็กรับใช้ที่นี่ก็คนของท่านทั้งนั้น ขนาดคืนแรกที่ฉันกับคุณชายแยกห้องกันนอน ท่านยังรู้เลย“ถ้าอย่างนั้นคุณก็นอนที่โซฟาก็แล้วกัน”“ได้ไงคะ พี่จะนอนเข้าไปได้ยังไงโซฟาเล็กแค่นั้น”“แต่ฉันไม่เคยนอนกับคนอื่น ฉันคงนอนไม่หลับหรอก”“ไม่เคยก็ต้องหัดค่ะ จะได้ชินไง” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขา มันโคตรจะน่าหมั่นไส้เลย“มานอนเถอะค่ะ นี่ก็ดึกมากแล้ว” เขาจัดแจงไปนอนลงอีกฝั่งของเตียงอย่างหน้าตาเฉย เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นฉันจึงต้องจำใจนอนอีกฝั่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ฉันจัดการปิดไฟที่หัวเตียงแล้วถึงล้มตัวลงนอน แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะได้หลับตาลง ร่า
ตอนที่8“อะไรกันยะ? ฉันไปเที่ยวยุโรปกับที่บ้านแค่สองอาทิตย์ กลับมาเพื่อนฉันแต่งงานมีสามีไปแล้ว” พลอยลดา เพื่อนสนิทของฉันเอ่ยขึ้น เมื่อมาถึงเมืองไทยแล้วรู้ว่าฉันแต่งงานย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว“แล้วแกก็ไม่คิดจะโทรไปบอกฉันเลย จะได้บินกลับมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว”“เพื่อเจ้าสาวอะไรล่ะ ฉันถูกบังคับให้แต่งงานแทนพี่มุกนะสิ อีกอย่างฉันไม่อยากโทรไปกวนแกด้วย ไม่อยากกวนเวลาเที่ยวของแก”“แกว่าไงนะ แต่งงานแทนพี่มุก!”“ใช่”“ก็แสดงว่าเจ้าบ่าวของแกคือคุณชายปัณณทัตเหรอ?” ยัยพลอยมันตาลุกวาวขึ้นมาทันที“อื้อ”“แบบนี้ ถ่านไฟเก่าก็ลุกพรึบเลยละสิ” พูดจบมันก็หัวเราะชอบใจ“ถ่านเถิ่นอะไร ฉันกับเขาไม่เคยคบกันซะหน่อย” ฉันรีบปฏิเสธทันที“แต่ก็เคยรู้สึกดีต่อกันแหละน่า” ยัยพลอยรู้เรื่องระหว่างฉันกับคุณชายดี เพราะเมื่อก่อนยัยพลอยกับคุณชายก็มักจะไปที่บ้านของฉันเป็นประจำ คุณชายไปหาเฮียกร ส่วนยัยพลอยก็ไปหาฉัน เลยทำให้รู้จักคุ้นเคยกันตั้งแต่ตอนนั้น“แกหยุดเลย รู้มั้ยคืนแรกที่มาอยู่ที่นี่ เขาก็ทำเจ้าชู้ใส่ฉันแล้ว ฉันไม่คิดเลยจริงๆ ว่าเขาจะเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้” เพราะคุณชายคนที่ฉันเคยรู้จักคนนั้น เขาอบอุ่น อยู่ด้วยแล้วปลอดภัย
ตอนที่7ฉันกลับไปที่บ้าน และอยู่คุยกับแม่จนค่ำถึงจะกลับ พอกลับมาถึงก็เจอคุณชายนั่งอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่ก่อนแล้ว“มาแล้วเหรอคะ หม่อมย่าเรียกพี่กับขวัญไปหาน่ะ”“มีเรื่องอะไรคะ?”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน”ฉันกับคุณชายมาที่ตึกใหญ่ และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันเข้ามาที่บ้านของตระกูลวงศ์วรรณเดชา สมแล้วที่เป็นมรดกตกทอดกันมา เพราะที่นี่คือใหญ่โตและสวยมาก สวยจนฉันถึงกับตะลึงไปเลย“มากันแล้วเหรอ?” หม่อมจินดาที่นั่งรออยู่ที่โถงใหญ่เอ่ยขึ้น ซึ่งตรงนั้นมีคุณพ่อกับคุณแม่ของคุณชายก็นั่งอยู่ด้วยตกลงมีเรื่องอะไรจะคุยกันแน่เนี่ย? อยู่กันครบเลยฉันกับคุณชายเดินมานั่งลงที่โซฟาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับคุณพ่อคุณแม่“เมื่อคืนเธอสองคนแยกห้องกันนอนเหรอ?” หม่อมย่าเปิดประเด็นทันที ขนาดอยู่คนละบ้านยังรู้เรื่องเลยเหรอเนี่ย“คือขวัญแปลกที่นะครับหม่อมย่า อีกอย่างขวัญอาจจะยังไม่ชินที่ต้องนอนกับคนอื่น” เป็นคุณชายที่ช่วยพูดให้“แต่คืนเข้าหอ ยังไงเธอสองคนก็ต้องอยู่ในห้องนั้นจนถึงเช้า” หม่อมย่าเอ่ยเสียงเข้ม แววตาดุมองมาที่ฉันเหมือนจะตำหนิ“ฉันเข้าใจนะว่าเธอเป็นเด็กหัวสมัยใหม่ อาจจะไม่เชื่อหรือใส่ใจกับพิธีการอะไรแบบนี้ แต่ในเมื่อ







