“ในห้องมีแค่เตียงเดียวและเราต้องนอนด้วยกันใช่ไหมคะ ถ้าอย่างนั้นพรีมขอพื้นที่ครึ่งนึง แล้วห้ามข้ามเขตกันเด็ดขาด” พรีมเริ่มพูดถึงข้อตกลงที่เธอคิดมาจากบ้านให้ธีร์ฟัง
“แล้วตู้เสื้อผ้าพี่จะแบ่งพื้นที่ให้พรีมยังไงคะ เราจะแยกกันคนละตู้ หรือจะให้ใส่ไว้ด้วยกัน”
“เธอไปดูเอาเองก็แล้วกัน แต่ขอจัดแยกให้เป็นระเบียบด้วยนะ”
“งั้นถ้าจะใช้ห้องน้ำ ใครตื่นก่อนหรือจะอาบน้ำก่อนก็แล้วแต่สะดวกก็แล้วกันนะคะ พรีมคงจะกำหนดเวลาตายตัวไม่ได้”
“อืม”
ข้อตกลงคร่าวๆ ที่เธอคิดออกก็คงจะมีประมาณนี้ เพราะชั้นล่างของบ้านก็จะเป็นห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ในส่วนนี้คงไม่จำเป็นต้องขออนุญาต หรือทำข้อตกลงในการใช้พื้นที่ร่วมกัน
“แล้วเรื่องการอยู่ด้วยกันล่ะคะ พรีมอยากรู้ว่านานแค่ไหน หรือจะต้องแต่งงานกันอีก” พรีมยังคงอยากรู้ข้อนี้มาก เธออยากรู้กรอบระยะเวลาที่เราต้องอยู่ร่วมกันแบบนี้ แบบคนที่ไม่ได้รักกัน
“ตามใจเธอเลย อยากอยู่นานแค่ไหนก็อยู่ แม่ฉันอยากได้เธอมาเป็นลูกสะใภ้อยู่แล้วนี่” ธีร์ตอบราวกับคนตัดพ้อปนกระทบกระทั่งหญิงสาวเหมือนคนไม่มีทางเลือก และถูกมัดมือชกให้ต้องมาหมั้นหมายกัน
“ขอโทษนะคะที่ทำให้ลำบากใจ เอาเป็นว่าพรีมขอเวลาแค่สองปี เรียนจบเมื่อไหร่จะรีบกลับไปช่วยงานที่บริษัทและนำเงินค่าหุ้นมาคืนให้นะคะ ถือว่าพรีมขอซื้อหุ้นคืนก็แล้วกัน แค่พี่เสียสละตัวเองขนาดนี้พรีมก็รู้สึกแย่มากแล้วค่ะที่ทำให้ต้องมาเดือดร้อนไปด้วย”
“ไม่ต้องคืนหรอก ถือซะว่าเป็นค่าเสียเวลาที่ต้องมาทนอยู่กับฉันก็แล้วกัน” ธีร์เอ่ยจบก็ลุกออกจากโซฟา พลางถอดเสื้อสูตและดึงเนกไทออกจากคอ และเดินตรงไปที่ห้องแต่งตัว
พรีมเดินไปย่อตัวลงนั่งที่ปลายเตียง ฉุกคิดขึ้นว่าเธอจะต้องมาอยู่กับคนเย็นชาไร้หัวใจแบบนี้อีกตั้งสองปีเลยหรือ ถ้าไม่ติดว่าผู้ใหญ่ได้คุยกันเอาไว้แล้ว เธอจะหนีไปนอนคอนโดของนิวเยียร์ตั้งแต่คืนนี้เลย คนอะไรจิกกัดได้ทุกประโยคยิ่งกว่าไก่เสียอีก
พอต่อว่าชายหนุ่มเสร็จก็ไปลืมว่าตัวเองยังไม่ได้เก็บเสื้อผ้าออกจากกระเป๋า จึงเดินไปลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปยังห้องแต่งตัว พอเปิดประตูตู้เสื้อผ้าออกถึงกับต้องถอนหายใจ ไม่คิดว่าหนุ่มคู่หมั้นจะเป็นคนระเบียบจัดขนาดนี้ เพราะตู้เสื้อผ้าของธีร์จะแบ่งออกเป็นสี่หลัง ตู้แรกจะเป็นชุดสำหรับใส่นอน ตู้ที่สองจะเป็นชุดลำลองแบบใส่สบายๆ สำหรับอยู่ที่บ้าน ส่วนตู้ที่สามจะเป็นเสื้อผ้าที่ดูเป็นทางการขึ้นมาอีกนิดสำหรับใส่ออกไปทำธุระนอกบ้าน และตู้ที่สี่ก็จะเป็นชุดสูตสำหรับใส่ไปทำงาน และออกงานต่างๆ แล้วเธอก็ต้องจัดเสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเหมือนเขาด้วย ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะมาบ่นให้อีก ขี้เกียจจะฟัง
ธีร์อาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวพันท่อนล่างเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ และไม่คิดว่าจะมีใครอีกคนอยู่ในห้องแต่งตัว
“นี่เธอเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง” ธีร์เอ่ยถามอย่างคนลืมตัวว่าตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเจ้าของห้องนี้เพียงคนเดียวอีกต่อไปแล้ว
“พรีมกำลังเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้อยู่ค่ะ พี่ธีร์ตามสบายเลยนะคะ พรีมไม่ถือ”
พรีมทำทีไม่สนใจ แม้จะหายใจหายคอไม่ค่อยถนัด ก็ผิวของเขานั้นขาวราวกับน้ำนม แถมยังมีซิกแพกซ์เป็นลอนน่าสัมผัส และสองเม็ดเล็กๆ บริเวณหน้าอกก็ยังมีสีอมชมพูสะดุดตาอีกต่างหาก เธอจึงเลือกที่จะไม่สนใจแล้วหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแขวนต่อ เพราะถ้ามองนานกว่านี้หน้าของเธอคงจะแดงเป็นลูกตำลึงแน่ ๆ
ธีร์ไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร เพราะเธอไม่ถือ แต่เขาถือ ทำได้แค่รีบหยิบเสื้อผ้าแล้วเข้าไปใส่ในห้องน้ำแทน
ธีร์แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย พรีมก็เข้าไปอาบน้ำต่อ พอออกจากห้องน้ำมาก็เห็นเจ้าของห้องนั่งทำงานอยู่ที่โซฟากับโน้ตบุ๊กคู่ใจ เธอจึงขึ้นไปนอนอยู่บนเตียงที่ถูกคั้นกลางด้วยหมอนข้างสองใบที่วางติดกัน เพื่อไม่ให้อีกคนลุกล้ำพื้นที่ที่ตกลงกันไว้
“ปกติพี่ธีร์เข้านอนกี่โมงเหรอคะ”
“ถามทำไม”
“ก็ไม่ทำไมค่ะ พรีมแค่อยากรู้ว่าคนที่จะนอนด้วยเข้านอนกี่โมง นอนดึกกว่าหรือนอนเร็วกว่าก็แค่นั้น”
“ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืนไม่เกินนี้”
“อ่อ โอเคค่ะ คงพอๆ กัน” เข้านอนในเวลาใกล้เคียงกันก็โอเคหน่อย เธอก็แค่ถามเผื่อว่าเธอจะนอนดึกกว่าแล้วเผลอทำให้อีกคนรำคาญใจ
ระหว่างที่พรีมหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดดูอะไรเรื่อยเปื่อยในโลกโซเชียล เพื่อนรักอย่างนิวเยียร์ก็ส่งข้อความเข้ามา
……….
Newyear : (คลิปวิดีโอ)
Newyear : ห้ามเปิดเสียงดังนะ เดี๋ยวคู่หมั้นของแกจะตกใจ 5555
………..
“คลิปบ้าอะไรของแก ถึงได้ห้ามเปิดเสียงดัง” พรีมกระตุกยิ้มส่งเสียงอู้อี้ในลำคอ แต่ก็ไม่ได้ทำตามที่เพื่อนบอก พอเปิดคลิปขึ้นมาเท่านั้นเสียงครวญครางแบบรีมิกซ์ก็ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“อ๊ะ อ๊ะ อา…. อะ อา… อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”
คนที่กำลังดูคลิปด้วยใบหน้าระรื่นราวกับไม่ได้รู้สึกอะไรกับเสียงที่ดังกังวานไปทั่วห้อง แต่คนที่ไม่ได้อยากรับฟังแต่มันได้ยินเข้าหูนี่สิถึงก็หายใจไม่ทั่วท้อง จนต้องหันไปหาต้นตอของเสียง
“เธอช่วยเบาเสียงหน่อยได้ไหม” ประโยคแรกเขาพูดเสียงแข็งราวกับออกคำสั่ง “ยัยเด็กแก่แดด” ประโยคถัดมาเขาแค่ทำปากมุบมิบเสียงเบา แต่อีกคนที่กดลดเสียงลงก็ได้ยินเข้าพอดี
“แก่แดดที่ไหนกันคะ อายุยี่สิบแล้วค่ะ” พรีมตอบอย่างไม่รู้สึกรู้สา
“ถ้าชอบคลิปแบบนั้นก็หัดเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่ต้องเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ยิน”
“ก็สนุกดีนะคะ ดูแล้วตื่นเต้นและเร้าใจดีออก” พรีมตอบพลางขยับตัวล้มลงนอนคว่ำหน้า แล้วใช้สองมือวางเท้าคางเอียงหน้ามองคนหล่อที่ดูไม่เป็นตัวของตัวเอง
คนที่อยู่บนเตียงคงไม่ทันได้คิดว่าชุดนอนแบบสายเดี่ยวที่เธอใส่อยู่นั้น มันทำให้เห็นก้อนกลมตรงหน้าอกที่ถูกดันกับเตียงนอนจนนูนล้นเสื้อชั้นในออกมาแทบจะเห็นทั้งลูก
“เธอช่วยนอนให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม” ธีร์เอ่ยพลางเบือนหน้าหนีไปอีกทาง ลมหายใจติดขัดและเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ทั่วใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ ที่ผุดพลายขึ้นมา
“ก็นอนดีแล้วนะคะ” ขณะที่ตอบกลับพรีมก็ก้มหน้าลงมองที่สองเต้าอวบที่ล้นบราออกมาถึงกับหลุดขำแล้วเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย
“อะไรที่ไม่ควรมองพี่ธีร์ก็อย่ามองสิคะ แต่ถ้าอยากมองพรีมก็ไม่ว่านะคะ คริคริ” พรีมเอ่ยกับคนที่หลบสายตา แล้วหัวเราะตบท้ายเบาๆ ให้กับคนเสียอาการ
“หึ เธอนี่ดูเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองดีนะ คิดว่าเนื้อตัวของเธอมันน่ามองนักรึไง” ธีร์แค่นหัวเราะหันมามองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงโดยไม่กระพริบตา
“พรีมไม่ได้อยากให้พี่มองสักหน่อย อ้อ แล้วจำคำของพี่ไว้ด้วยนะคะว่าพรีมมันไม่น่ามอง อย่าเผลอมามองแล้วคิดมิดีมิร้ายกับพรีมก่อนก็แล้วกัน”
พรีมรู้สึกเสียความมั่นใจ รีบดันตัวลุกขึ้นแล้วเอนตัวลงนอนที่หมอนของเธอ แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมจนถึงหน้าอก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูอะไรที่มันจรรโลงใจมากกว่าการเห็นหน้าคู่หมั้นที่เอาแต่ปากเก่งและเย็นชาใส่เธอ
คนอะไรนอกจากจะมีดีแค่หน้าตาแล้วอย่างอื่นไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แล้วตัวเธอมันไม่น่ามองตรงไหน ทั้งสูง ทั้งขาว หุ่นก็ดี ก้อนกลมสองเต้าก็อวบใหญ่ จับตรงไหนก็นุ่มมือขนาดนี้ ตาต่ำจริงๆ ที่มองไม่เห็นความสวยความงามในตัวของเธอ
แล้วคลิปที่นิวเยียร์ส่งมาให้ดู มันก็เป็นแค่คลิปตลกที่คนในคลิปพากันไปเล่นเครื่องเล่นหวาดเสียวในสวนสนุก ขนาดเธอดูก็ยังยิ้มและหลุดขำออกมาเบาๆ เลย เขายังไม่ทันได้ดูมันเลยด้วยซ้ำ ก็หาว่าเธอดูคลิปอะไรก็ไม่รู้ แล้วยังจะมาว่าเธอแก่แดดและไม่น่ามองอีก ไอ้ผู้ชายปากเสีย
“ไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน” ธีร์รีบตอบกลับอย่างไม่ต้องคิดด้วยความมั่นอกมั่นใจ
“ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกันค่ะ”
ธีร์วางหญิงสาวลงอย่างเบามือ พรีมก็ส่งสายตาคู่หวานมองหน้าคนที่กำลังถอดชุดคลุมอาบน้ำของตนเองออกแล้วขึ้นมานอนทาบทับบนตัวของเธออย่างเย้ายวนธีร์ส่งริมฝีปากบดจูบริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเร้าร้อน มือหนาดึงรั้งสายชุดคลุม พรีมก็ดึงแขนของเธอออกโดยยังนอนทับชุดนั้นอยู่ริมฝีปากหยักถอนจูบออกแล้วเลื่อนลงไปงับเม็ดสีหวานที่แข็งชูชันบนยอดอกทั้งสองข้าง ละเลงปลายลิ้นสะกิดระรัว และดูดเลียสลับข้างกันไปมา มือหนาก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือเจ้ามังกรที่ผ่านศึกในห้องน้ำไปแล้วสองรอบเริ่มจะแข็งขึ้นมาอีกครั้ง เขาจึงส่งมือไปจับท่อนเอ็นแล้วถูไถขึ้นลงที่กลีบกุหลาบน้ำที่มีน้ำสีใสไหลเยิ้มออกมา จากนั้นก็กดจ่อที่ปากทางร่องรักกดเอวสอบส่งตัวตนเข้าไปจนมิดลำธีร์กระแทกน้องชายขนาดใหญ่เข้าใส่ร่องรักของเมียสาวถี่รัว พรีมอยากเปลี่ยนบรรยากาศทั้งที เขาก็จะไม่ทำให้ผิดหวัง อยากจะได้กี่น้ำ หรืออยากจะจัดจนฟ้าสางก็จะตามใจ เพราะไหน ๆ พรุ่งนี้ก็เป็นวันอาทิตย์ซึ่งธีร์ไม่ได้เข้าไปทำงานที่บริษัทอยู่แล้วเสียงครวญครางประสานกันดังลั่นห้องที่ถูกก่อสร้างและเก็บเสียงได้เป็นอย่างดี สองร่างผลัดเปลี่ยนกันจัดบทรักให้กับอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อ
หลังจากงานรับปริญญาพรีมและเพื่อนๆ ในคณะก็นัดกันไปกินเลี้ยงส่งท้ายชีวิตนักศึกษา ต่อไปทุกคนต้องเดินหน้าหางานทำและบางคนก็กลับไปช่วยธุรกิจครอบครัว ไม่ต่างจากพรีมที่เธอเลือกไปช่วยงานที่โรงพิมพ์ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวของเธอนับจากวันที่ธีร์คุกเข่าขอแต่งงาน อมรภัคและพิมลพรรณผู้เป็นแม่ของทั้งสองฝ่ายก็ได้พากันไปดูฤกษ์แต่งงานเอาไว้ และฤกษ์ที่เหมาะสมทั้งเวลาและพรีมก็เรียนจบพอดีก็คืออีกสองเดือนข้างหน้า“ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เรียนก็จบแล้วและกำลังจะได้แต่งงานมีสามี แต่แกดูฉันสิยังเหี่ยวเฉาอยู่เลย” ระหว่างที่นั่งดื่มและเมาท์มอยกันในกลุ่มเพื่อน นิวเยียร์ก็หันมาคุยกับเพื่อนรักที่หลังจากนี้อาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียน“ก็แกมัวแต่เล่นตัวไม่ยอมคบใครสักที กะจะรอให้ขึ้นคานก่อนหรือไง”“ไม่ได้เล่นตัว แต่มันยังไม่เจอคนที่ถูกใจนี่นา” นิวเยียร์เอ่ยพลางถอนลมหายใจ ยื่นมือไปหยิบแก้วน้ำเมาจรดริมฝีปากแล้วกระดกลงคอไปหลายอึกพรีมได้แต่ส่ายหัวและหลุดขำเบาๆ ให้เพื่อน ใช่ว่านิวเยียร์จะไม่มีคนคุย แต่คุยเยอะจนเหมือนเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาเสียมากกว่า คุยทุกคืน มือไม่ได้จับ แก้มไม่ได้หอม และก็ไม่ยอมคบใครจริงจัง หรือว่ามีคนท
วันนี้พรีมไม่มีเรียนเพราะเป็นวันเสาร์ ธีร์ใช้เวลาครึ่งวันเช้าในการเคลียร์งานที่บ้าน และพาเธอออกไปเดตในตอนเย็นรถหรูเคลื่อนตัวออกจากบ้านเพื่อเดินทางไปยังร้านสเต๊กเฮาส์สุดหรูในโรงแรมชื่อดังที่ได้โทรจองเอาไว้พรีมควงแขนของธีร์เดินเข้าไปในร้านอาหาร เข้าไปนั่งที่โต๊ะริมกระจกมองเห็นวิวตึกสูงและแสงไฟในเมืองกรุง พอเข้าไปนั่งก็มีพนักงานของร้านเข้ามารับเมนูอาหาร ธีร์เลือกสั่งเป็นเซตโรแมนติกดินเนอร์ ทั้งสองคนนั่งกินสเต๊กเนื้อนุ่ม ท่ามกลางแสงเทียนที่ตั้งวางอยู่บนโต๊ะ และมองบรรยากาศรอบนอกในยามค่ำคืน“เข้าใจเลือกร้านนะคะ” พรีมระบายรอยยิ้มหวานพร้อมกับเอ่ยปากชม เพราะร้านนี้มันเหมาะกับการพาคู่รักมานั่งเดต และเธอก็ชอบบรรยากาศของที่นี่มาก“จะเอาใจเมียทั้งทีก็ต้องเลือกให้ดีที่สุดสิครับ” ระหว่างที่เคลียร์งานที่บ้าน ธีร์ได้ใช้เวลาในช่วงเช้าเกือบหนึ่งชั่วโมงเพื่อมองหาร้านอาหารที่เหมาะกับคู่รัก และเขาก็ถูกใจกับร้านแห่งนี้เป็นอย่างมากจึงได้โทรจองโต๊ะเอาไว้“สเต๊กถูกใจไหมครับ” ธีร์เอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งตรงข้าม สำหรับเขามื้อนี้ถือเป็นมื้อที่แสนพิเศษ เพราะตั้งแต่เคลียร์เรื่องอลิซได้ ทั้งคู่ก็เพิ่งจะมีโอกาสได้มาดิ
เช้าวันทำงาน วันนี้พรีมมีเรียนตอนสิบโมง เช้านี้เลยไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของธีร์ เหตุการณ์วันนั้นเกิดขึ้นตอนเย็นของวันศุกร์ ดีที่วันหยุดทั้งสองวันไม่ได้เจอหน้าตัวต้นเรื่อง ไม่อย่างนั้นพรีมคงจะได้ต่อปากต่อคำกับอลิซอีกเป็นแน่ก๊อก ก๊อกธีร์และพรีมเพิ่งมาถึงได้ไม่นานเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น“เข้ามา”“มีคนมาขอพบครับ ตอนนี้นั่งรออยู่ที่ล็อบบี้” พิรัชย์เข้ามายืนอยู่หน้าโต๊ะและรายงานเจ้านาย“ใครครับ”“เห็นว่าชื่อไมเคิลครับ เป็นสามีของคุณอลิซ” หลังจากรายงานเจ้านายเสร็จพิรัชย์ก็เดินออกจากห้องไป“ไปกับพี่นะ” ธีร์ลุกออกจากโต๊ะเดินไปหาพรีมที่โซฟา แล้วพากันลงไปที่ล็อบบี้ที่อยู่ด้านหน้าของแผนกประชาสัมพันธ์“สวัสดีครับคุณไมเคิล ผมธีร์ ซีอีโอของที เอส กรุ๊ป” พอเข้าไปถึงธีร์ก็ยื่นมือออกไปทักทาย และพูดกับอีกฝ่ายเป็นภาษาอังกฤษ“สวัสดีครับ ผมไมเคิล”พอทักทายกันเสร็จ ธีร์และพรีมก็นั่งลงที่โซฟา หญิงสาวเลือกที่จะนั่งฟังอยู่เงียบๆ ปล่อยให้คนทั้งสองพูดคุยธุระกัน“คุณไมเคิลมาขอพบผมด้วยเรื่องอะไรหรือครับ” ธีร์เอ่ยถามกับอีกฝ่าย เบื้องต้นพิรัชย์บอกเขาแล้วว่าไมเคิลคือสามีของอลิซ คงจะเป็นคนที่หนีไปแต่งงานด้วย แต่ที่เ
ตั้งแต่ออกจากลิฟต์จนกระทั่งกลับถึงบ้าน พรีมก็เอาแต่เงียบไม่พูดไม่จา ถามคำก็ตอบคำ พอถึงเวลากินข้าวเธอยังคงมานั่งกินด้วยกันเหมือนเดิม แต่แทบจะไม่มองหน้ากันเลยทั้งสองคนผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปอาบน้ำ พรีมอาบเป็นคนแรกก็ขึ้นมานอนเล่นโทรศัพท์บนเตียง พอธีร์อาบน้ำเสร็จก็เห็นคนตัวเล็กนอนหันหลังให้ทางฝั่งที่เขานอน ซึ่งต่างจากทุกครั้งที่เธอมักจะรอเขาขึ้นมาบนเตียงก่อน แล้วแทรกตัวเข้ามานอนหนุนแขนซบใบหน้าเข้ากับแผงอกคืนนี้ธีร์ไม่ได้นั่งทำงานที่โต๊ะเหมือนทุกคืน พออาบน้ำเสร็จก็ขึ้นมานอนที่ของเขาเพื่อพูดคุยปรับความเข้าใจ จะปล่อยให้เมียโกรธนานแบบนี้ไม่ได้“โกรธกันขนาดนั้นเลยเหรอ”“ลองเห็นพรีมไปจูบกับผู้ชายคนอื่นดูไหมคะ” พรีมตอบกลับเสียงแข็ง เป็นใครจะไม่โกรธบ้างถ้าเจอแบบเธอ“พรีม” ธีร์เอ็ดเสียงเบา ถ้าเขาเห็นแบบนั้นคงทนดูไม่ได้แน่ๆ“เรียกทำไมคะ ทีตัวเองทำได้ พรีมแค่เปรียบเทียบแค่นี้รับไม่ได้แล้วเหรอคะ”ธีร์ขมวดคิ้วมองแผ่นหลังของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะพลิกตัวของเธอให้หันหน้ามาหากัน แล้วขยับขึ้นไปนอนคร่อมอยู่ด้านบน“ปล่อยพรีมนะคะ” พรีมส่งสายตาแง่งอนและดิ้นตัวอยู่ใต้ร่าง“ไม่ปล่อย” เอ่ยจบก็ก้มลงมาจูบที่ริมฝีปาก
ช่วงที่อลิซยังต้องเข้าบริษัท ธีร์มักก็จะขอให้พรีมไปนั่งเล่นที่ห้องทำงานของเขาในเวลาที่เธอไม่มีเรียน ส่วนอลิซก็ยังหอบงานมานั่งทำร่วมโต๊ะกับธีร์ทุกวันโดยไม่สนใจว่าคู่หมั้นของเขาจะนั่งอยู่ด้วยหรือไม่ระหว่างที่นั่งทำงานจนใกล้จะสามโมง ธีร์ก็ได้รับข้อความที่ถูกส่งมาจากพรีม……….Noo’ Preme : เย็นนี้พรีมขอกลับกับนิวเยียร์นะคะThee : จะพากันไปไหนNoo’ Preme : ไปดูหนังค่ะThee : จะให้พี่รอที่นี่หรือว่าจะไปที่กลับบ้านเลยNoo’ Preme : ไปเจอกันที่บ้านเลยก็ได้ค่ะThee : ครับNoo’ Preme : สติ๊กเกอร์ส่งจูบ……….“บอกพี่ธีร์แล้วเหรอ” นิวเยียร์ที่เห็นเพื่อนปิดหน้าจอมือถือก็ได้ถามขึ้นวันนี้พวกเธอมีนัดไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า เป็นเรื่องที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ นิวเยียร์จึงชวนพรีมไปดูเป็นเพื่อน“อื้ม”“งั้นไปกันเถอะ”สองสาวพากันไปขึ้นรถของนิวเยียร์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัยแล้วมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้า พากันไปซื้อตั๋วเรื่องที่อยากดูแล้วเข้าไปนั่งประจำที่ตลอดหนึ่งชั่วโมงกว่าที่อยู่ในห้องฉายภาพยนตร์ที่มีแอร์เย็นเฉียบ พรีมและนิวเยียร์ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับความสนุกของภาพยนตร์แนวโรแมนติก