‘ก็ได้ค่ะ ฉันจะลองดู’ นี่คือคำตอบของเธอที่ได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอได้ทำงานของตัวเองไปแล้วตัวเองก็กลับมาพักผ่อนที่เพ้นท์เฮาส์คิดถึงใบหน้าสวยหวานของเธอทีไรเขาก็มักจะเผลอยิ้มออกมาทุกครั้ง ท่าจะเป็นเอามาก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นเธออีกครั้งในแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิมหัวใจของเขาก็เต้นแรงไม่หยุด ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงหัวใจก็เต้นแรงเป็นบ้านี่กูต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ขนาดรักแรกหัวใจยังไม่เต้นแรงขนาดนี้เลย นี่แก่จนเกือบจะเลยวัยมีลูกมีเมียแล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ (เกินไป พระเอกมึงอายุแค่สามสิบห้าปีเองนะ)เพิ่งจะเจอเธอไปไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ให้ตาย คิดถึงอีกแล้ว สมองเฝ้าวนเวียนคิดถึงแต่ใบหน้าสวยๆ เรือนร่างสะโอดสะองสมส่วนนั้น พลันย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องระหว่างเขาและเธอในห้องสูทโรงแรมคืนนั้นโอ้วว กูเมื่อยมืออีกแล้ว…ณ ร้านสะดวกซื้อ Diamond Mart เจ๊แมนถึงกับตกใจแทบหงายหลังตกจากเก้าอี้เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าตาดีคนที่เข้ามาถึงก็ทำโน่นทำนี่เข้านอกออกในภายในร้านจนเขาเกือบคิดว่าเธอเป็นขโมยเสียแล้ว ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกจ้างสุดเฉิ่มที่ได้ฉายาว่ายัยป้าหน้าจืดจะเปลี่ยนแปลงไปมากขน
“พ่อ! ลุกขึ้นไปนอนในบ้าน มานอนอะไรอยู่หน้าบ้านอย่างนี้ ไม่หนาวหรือยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” นริศราก้มลงไปเขย่าร่างของชายวัยกลางคนที่นอนกำคอขวดเหล้าไว้แน่นราวกับไม่สนว่าตัวเองจะเป็นยังไงแต่ขอให้มีเหล้าข้างกายอยู่อย่างนี้ตลอดไป“โอยๆ…เอื้อก…” คำรณบิดขี้เกียจพลางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังเขย่าแขนตัวเองอยู่ “ใครวะ…เธอเป็นใครเข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไง” พูดพลางหรี่ตามองคนตรงหน้า“เอ้า เมาจนจำลูกจำเต้าไม่ได้แล้วเหรอเนี่ย”“เธอเป็นใคร” คนพูดยังคงย้ำคำเดิมที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหนและเข้ามาเขย่าตัวเขาเหมือนสนิทสนมอะไรกันถึงขนาดนี้ได้อย่างไร“ก็นุ่มนิ่มไง นุ่มนิ่มลูกสาวพ่ออ่ะ เป็นเอามากนะพ่อ เพลาๆ ลงบ้างนะเรื่องเหล้าน่ะ ยังไม่แก่เลยนะลืมลูกแล้วเนี่ย” หญิงสาวพูดหยอกเอินผู้เป็นพ่ออย่างที่ชอบอำกันเล่นอยู่เป็นประจำ“นุ่มนิ่ม?”“ใช่ นุ่มนิ่มเอง อ๋อ หนูสวยขึ้นใช่ไหมล่ะ” เวรกรรม! นี่เธอลืมไปว่าตัวเองไปแปลงโฉมมาใหม่แล้วยังไม่ได้เข้ามาบ้านสอง-สามวันแล้ว คนอื่นยังจำไม่ได้ แล้วมีหรือที่พ่อที่เมาเหล้าเป็นประจำจะจำได้ “หนูเองจริงๆ อ้าว ไม่เชื่อๆ อะดี๊” “แกไปทำอะไรมาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้” ด้
หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วเจย์เดนก็พานริศราไปเดินเที่ยวที่ย่านการค้าแห่งหนึ่ง เขาถามความเห็นว่าเธออยากไปทำอะไรทว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรดีเพราะเธอไม่เคยมาเดทอย่างนี้ เธอไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องการมาออกเดทระหว่างหนุ่มสาวหรอกนะ เพราะไม่เคยมีแฟน! อีกทั้งชีวิตก็เอาแต่วนลูปอยู่กับอะไรเดิมๆ ทำงานแทบทุกวันตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นเที่ยงคืน นอกจากที่ทำงานก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปที่ไหน ขนาดดูหนังเธอยังลืมไปแล้วว่าดูครั้งสุดท้ายเมื่อไร คงจะหลายปีมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียนโน่นแหละมั้ง“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะดีกว่า” เธอให้คำตอบในที่สุดหลังจากที่เขารอคำตอบอยู่นานสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับวัดที่มีแม่น้ำด้านหลัง ผู้คนมาให้อาหารปลาและมาทำบุญปล่อยนกปล่อยปลากัน หลายปีมาแล้วที่เธอไม่ได้มาที่นี่ แต่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยมาเที่ยวกับพ่อแม่และน้องตอนสมัยที่ยังเป็นเด็ก ตอนนั้น แม้จะยังคงเด็กมาก ยังไม่ถึงสิบขวบเลยด้วยซ้ำแต่เธอจำได้ว่ามีความสุขมาก เพราะนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อพามาเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตากับแม่และน้อง เพราะหลังจากนั้นแม่ของเธอก็เสียและน้องชายก็เริ่มเผยความเป็
ในที่สุดก็จบที่โรงพยาบาล อวสานความตั้งใจที่อยากจะงาบเธอในคืนนี้ ทำไมมันถึงได้ซวยขนาดนี้วะ อยากจัดการเธอแต่กลับโดนส้มตำปูปลาร้าจัดการเสียนี่“คุณเจย์เดน เป็นยังไงบ้างคะ” นริศรารีบเดินเข้ามาหาเขาทันทีที่ออกมาจากห้องพบแพทย์ รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้คนตัวสูงแพ้อาหารจนผื่นขึ้นแดงเต็มหน้าเต็มตัวอย่างนี้“ไม่เป็นอะไรแล้วแหละ” ถึงจะยังไม่เป็นอะไรก็เถอะ แต่เมื่อสักครู่ที่พบหมอ หมอบอกว่าถ้ากินเข้าไปเยอะกว่านี้ก็มีสิทธิ์ที่จะอาการหนักถึงขั้นอาเจียน หมดสติได้ “หมอฉีดยาแล้วก็จ่ายยาแก้แพ้ให้แล้ว ตอนนี้ก็แค่รอให้ผื่นแดงมันค่อยๆ ยุบหายไป”“ฉันก็ตกใจแทบแย่ ไม่คิดว่าคุณจะแพ้ส้มตำ”“ไม่ได้แพ้ส้มตำหรอก หมอบอกว่าแพ้ปลาร้า”“แพ้ปลาร้า!” นริศราว่าพลางตกใจก่อนที่จะอมยิ้มและแอบหัวเราะ“หัวเราะอะไร” “ก็หัวเราะคนแพ้ปลาร้าน่ะสิ คนอะไรเนี่ย” จะบอกให้ว่าปลาร้าน่ะเป็นของเด็ดที่สุดแล้ว ทำไมแต้มบุญของเขาถึงได้น้อยอย่างนี้นะ“น่าแปลกตรงไหน” เขาเอ่ยเซ็งๆ ไม่ได้เซ็งที่รู้ตัวว่าแพ้ปลาร้าหรอกนะ แต่เซ็งเพราะคืนนี้อดแอ้มเธอต่างหาก“ฉันขอโทษนะคะ ที่เป็นต้นเหตุให้คุณเป็นแบบนี้” เธอแก้ตัวด้วยการขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ ใบหน้
‘เลิกงานตอนไหนเข้ามาหาฉันด้วยนะ’‘เดี๋ยวไปส่ง’‘เข้ามาได้เลย มีคนรอพาเข้ามา’ข้อความถูกส่งเข้ามาไลน์ของนริศราตอนห้าทุ่มสี่สิบห้า จากบุคคลที่พาเธอไปเดทเมื่อวาน อย่างกับเขารู้ดีว่าเธอเลิกงานตอนเที่ยงคืนแต่กกลับทำเป็นถามว่าเลิกงานตอนไหนเหลือเวลาอีกสิบกว่านาทีก็จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว จะไปหรือไม่ไปดีนะ แม้ว่าเธอจะทำงานอยู่หน้าไนต์คลับมาหลายปีแต่ก็ไม่เคยเข้าสถานที่อโคจรอย่างนั้นเลย มันก็คงจะแปลกๆ ที่จะเข้าไปหรือจะแอบขับมอเตอร์ไซค์กลับแล้วบอกเขาทีหลังว่าลืมอ่าน… ไม่ได้แล้วสิ ตอนนี้เธอเปิดอ่านข้อความไปแล้ว ไม่ทันให้เธอต้องคิดหนักเพราะพอเก็บข้าวของแล้วเดินออกมาจากมินิมาร์ท ร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดสูทดำของบอดี้การ์ดที่เธอจำได้ว่าเป็นคนที่มักจะอยู่กับเจย์เดนยืนรออยู่หน้าประตูแล้ว จะหนีกลับก็หนีไม่ได้แล้ว…“นายให้ผมมารอรับคุณครับ เชิญครับ” คิรินผายมือให้เธอเดินไปยังถนนฝั่งตรงข้าม “เอ่อ..ค่ะ” “เดี๋ยวครับ” “อะไรคะ”“เดี๋ยวผมถือของให้ครับ” เขายื่นมือออกมารับเสื้อคลุมและกระเป๋าสะพายของเธอ นริศราจะไม่ให้ก็กระไรอยู่ในเมื่อเขายื่นมือมาขนาดนั้นแล้ว ในที่สุดก็ต้องให้เขาถือรู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันนะที่เ
‘ตืดดด…ตืดดด…’ เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ดังขึ้นเช่นทุกวันบอกเวลาว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่ง เธอจะต้องลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวไปทำงาน หากอยู่ที่บ้านต้องรีบลุกไปห้องน้ำทันทีไม่อย่างนั้นจะไปทำงานสายเพราะบ้านอยู่ไกล แต่ถ้าหากนอนที่คอนโดก็อาจจะมีเวลาอ้อยอิ่งเล่นเฟซบุ๊คสักสิบถึงยี่สิบนาทีก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำเพราะอยู่ใกล้กับที่ทำงานมาก ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงเอ๊ะ…ทำไมบรรยากาศรอบตัวมันเปลี่ยนไปนะ ทีแรกคิดว่าตัวเองนอนอยู่ที่คอนโด แต่เพิ่งรู้เมื่อกี๊นี้เองว่า…ไม่ใช่กูอยู่ที่ไหนวะเนี่ย ตายแล้ว!เมื่อลุกขึ้นมานั่งคิดดีๆ ก็นึกได้ว่า เมื่อคืนตอนขึ้นรถของเจย์เดนปุ๊บ ภาพตัดไวเท่าความคิด นริศราหันขวับมามองร่างด้านข้างที่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาขยับตัว “คุณ! ตายแล้ว” รีบก้มมองร่างตัวเองทันทีแล้วก็เป่าปากโล่งอกไปหนึ่งเปลาะ โชคดี เสื้อผ้าชุดเดิมยังอยู่ครบ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รังแกตอนเธอไม่มีสติหรอก แต่เธอก็นอนเน่าทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ นี่เขาไม่รังเกียจว่าที่นอนเขาจะเหม็นเพราะเธอหรือยังไงถึงเอาเธอขึ้นมานอนด้วย เพราะเดาว่าที่นอนและชุดเครื่องนอนของเขานั้นคงจะราคาแพงมากเพราะมันทั้งนุ่มและสบายจนเธอหลั
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะคุณเม ที่ร้านเรายินดีต้อนรับเสมอ แล้วก็ต้องขอโทษอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ” นริศรากล่าวเสร็จก็โค้งศีรษะให้กับเมลินดาไพลินพลางยิ้มกว้าง“เช่นกันนะคะ ร้านน่ารักๆ มีพนักงานที่น่ารักอย่างนี้ ไว้ถ้าเมยังไม่กลับต่างประเทศจะแวะมาบ่อยๆ นะคะ”“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”เมลินดาไพลินออกจากร้านไปแล้ว ทั้งนริศราและจิราภาออกมาส่องที่ประตูกระจกใสก่อนจะพบว่ามีรถหรูคันหนึ่งมาจอดรอเธออยู่ไม่ไกลจากหน้าร้าน เธอเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในก่อนที่รถจะแล่นผ่านหน้าร้านไป“สวยแล้วยังจิตใจดีอีกเนอะ” จิราภามองแล้วก็ยิ้มกับความมีอัธยาศัยดีของลูกค้า“อืมใช่” นริศราตอบเพื่อนพลางแอบคิดในใจ ไม่รู้ทำไมรถคันที่มารับผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน เอ๊ะ หรือจะเบลอไปเอง…เที่ยงคืน วันนี้เขาไม่ได้ส่งข้อความมาบอกให้เธอเข้าไปหาที่ไนต์คลับ แต่พอถึงเวลาเลิกงานของเธอปุ๊บ เขาก็มารอที่หน้ามินิมาร์ทเลย ไม่ให้เธอได้ปฏิเสธแต่มีหน้าที่ขึ้นรถไปกับเขา “นี่คุณกลายมาเป็นคนขับรถของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” แอบจิกกัดเล็กๆ เมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับ“แล้วดีไหมล่ะ ไม่ต้องขับรถมอเตอรไซค์กลับเอง ยิ่งดึก
นริศราคล้องคอชายหนุ่มให้โน้มลงมาหาตัว ไม่คิดว่าใบหน้าคมคร้ามของเขาจะชนเข้ากับใบหน้าหวานฉ่ำของเธอ “อุ๊บ…อืม…” ราวกับล่องลอยอยู่ในความฝัน หลับตาก็ยังรับรู้ถึงความรู้สึกอ่อนโยน นุ่มละมุนทว่าเจย์เดนกำลังตกใจสุดขีดเพราะเธอโน้มต้นคอของเขาลงไปจูบ ปากแนบปาก ความนุ่มละมุนจากกลีบปากสวยงามนั้นส่งผ่านมายังปากหนาของตัวเอง มันช่างหอมหวานจริงๆ เขาอดใจไม่ไหวแล้วนะในที่สุด เจย์เดนตบะแตก เขาแทรกเรียวลิ้นสากเข้าไปควานหาความหวานที่แสนยั่วยวนนั้นอย่างดูดดื่ม เธอยั่วนักใช่ไหม จัดให้!ชายหนุ่มส่งเรียวลิ้นสากควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากอย่างดุดัน ไม่อาจยับยั้งความต้องการให้ทำอย่างนุ่มนวลอีกต่อไป ปากที่เขาคิดถึง ปากที่ทำเขาอารมณ์ค้างที่ห้องวีวีไอพีคืนนั้น“เธอสวย…สวยจังเลย…นุ่มนิ่ม…” เขาครางกระเส่าพลางจูบเลื่อนไล้ทั่วใบหน้าสวยหวานเธอเผยอปากเล็กน้อยอย่างรอคอยปากและลิ้นของเขาตามความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจ แม้สมองจะพร่าเบลอแต่หัวใจสั่งการว่าเธอต้องการเขา เธอตอบสนองเขาด้วยการจูบตอบอย่างไม่ประสีประสา แต่นั่นยิ่งทำให้เขาใจสั่นปากหนางับริมฝีปากล่างของเธอพลางขบเม้มและดูดดึงเล่น เธอครางกระเส่าอยู่ในลำคอพลาง
“คุณกลับไปได้แล้วนะ” นริศราสะพายกระเป๋าขึ้นข้างลำตัวพลางสั่งร่างสูงใหญ่เพราะเธอกำลังจะออกไปจากที่นี่“จะไปไหน” นี่ก็เพิ่งจะสี่โมงเย็น เธอจะรีบออกไปทำงานพาร์ททามตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอ เร็วไปไหม อันที่จริงเขาคิดมาหลายครั้งแล้วว่าจะให้เธอออกจากงาน อย่างน้อยหากเธอยืนยันที่จะไม่ยอมก็ทำแค่งานประจำเท่านั้นพอ เธอควรจะหยุดพักบ้างหรือเอาเวลามาให้เขาจะดีกว่า“ฉันจะเข้าบ้านสักหน่อย ไม่ได้กลับมาหลายวันแล้ว” กะจะไปดูพ่อด้วยว่ามีเงินซื้อเหล้า เอ๊ย…มีเงินใช้หรือเปล่า “เดี๋ยวไปส่ง”“ฮะ ไม่ต้อง ฉันไปเองได้ คุณกลับไปเถอะ”“ก็บอกว่าจะไปส่ง มีเรื่องจะคุยด้วย”อะไรอีกล่ะ อีตานี่ พอได้แล้วก็ทำตัวตามติด แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเลยนะ จะไม่ให้เธอมีชีวิตเป็นส่วนตัวบ้างหรือยังไง“จะคุยอะไร แค่นี้ยังคุยไม่จบอีกหรือไง”เจย์เดนลุกขึ้นพลางเดินนำเธอออกไปหน้าประตู “ค่อยคุยกันในรถก็ได้” ในที่สุด ทั้งสองคนก็เข้ามานั่งอยู่ในรถของเขา โดยที่นริศราก็ยังคงนั่งไปเกร็งไปจนเขาสังเกตได้“เป็นอะไร”“เปล่า” บอกไม่มีอะไรแต่หน้าเกร็งไม่เป็นธรรมชาติ “ขะ…ข้างหน้า เลี้ยวซ้าย” เจย์เดนลอบยิ้มกับอาการของคนบอกทาง “ฉันว่า เธอออกจากงาน
“เฮือก…” นริศราสะดุ้งตื่นลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องครางซี๊ดเพราะความร้าวระบมที่เกิดขึ้นทั่วร่างกายโดยเฉพาะส่วนสงวนกึ่งกลางกาย อีกทั้งเรือนร่างก็เปลือยเปล่าอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาที่ร่นลงล่างจนเต้าอวบทั้งสองข้างแทบทะลักออกมาโชว์ หลากหลายความรู้สึกประเดประดังเข้ามาในหัวสมอง ทว่าตอนนี้มันกี่โมงแล้วเนี่ย ทำไมตรงรอยแยกของม่านหน้าต่างที่มีแสงจากข้างนอกลอดผ่านเข้ามาไม่เหมือนแสงของดวงอาทิตย์ยามเช้าเลย มันเหมือนตอนเที่ยงหรือบ่ายด้วยซ้ำไปไวเท่าความคิด นริศรารีบคว้าโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาดูเวลาทันที12:39 “เฮ๊ย! จะบ่ายแล้วเหรอเนี่ย” ทันทีที่กุลีกุจอลุกขึ้นจากเตียงพลันหางตาเหลือบไปเห็นร่างของใครคนหนึ่งนอนซุกผ้าห่มผืนเดียวกันที่เธอไม่ได้สังเกตเห็นเมื่อสักครู่เพราะมัวแต่ตกใจเรื่องเวลาอยู่ร่างนั้นขยับเขยื้อนเพราะเสียงของเธอ“จะเสียงดังทำไม” คนงัวเงียเพิ่งตื่นเพราะเสียงของเธอเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่านริศราหน้าแดงก่ำเมื่อย้อนกลับไปคิดถึงเรื่องราวเมื่อคืน “คุณ!”“ก็ใช่น่ะสิ จำผัวตัวเองไม่ได้หรือไง” ใช้คำนี้แหละ ตรงและชัดเจนดีก่อนหน้านี้ถ้าเธอจะบอกว่าครั้งเดียวไม่นับว่าเป็นผัวเป็นเมียเขาก็คงจะไม่
นริศราคล้องคอชายหนุ่มให้โน้มลงมาหาตัว ไม่คิดว่าใบหน้าคมคร้ามของเขาจะชนเข้ากับใบหน้าหวานฉ่ำของเธอ “อุ๊บ…อืม…” ราวกับล่องลอยอยู่ในความฝัน หลับตาก็ยังรับรู้ถึงความรู้สึกอ่อนโยน นุ่มละมุนทว่าเจย์เดนกำลังตกใจสุดขีดเพราะเธอโน้มต้นคอของเขาลงไปจูบ ปากแนบปาก ความนุ่มละมุนจากกลีบปากสวยงามนั้นส่งผ่านมายังปากหนาของตัวเอง มันช่างหอมหวานจริงๆ เขาอดใจไม่ไหวแล้วนะในที่สุด เจย์เดนตบะแตก เขาแทรกเรียวลิ้นสากเข้าไปควานหาความหวานที่แสนยั่วยวนนั้นอย่างดูดดื่ม เธอยั่วนักใช่ไหม จัดให้!ชายหนุ่มส่งเรียวลิ้นสากควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากอย่างดุดัน ไม่อาจยับยั้งความต้องการให้ทำอย่างนุ่มนวลอีกต่อไป ปากที่เขาคิดถึง ปากที่ทำเขาอารมณ์ค้างที่ห้องวีวีไอพีคืนนั้น“เธอสวย…สวยจังเลย…นุ่มนิ่ม…” เขาครางกระเส่าพลางจูบเลื่อนไล้ทั่วใบหน้าสวยหวานเธอเผยอปากเล็กน้อยอย่างรอคอยปากและลิ้นของเขาตามความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ภายในหัวใจ แม้สมองจะพร่าเบลอแต่หัวใจสั่งการว่าเธอต้องการเขา เธอตอบสนองเขาด้วยการจูบตอบอย่างไม่ประสีประสา แต่นั่นยิ่งทำให้เขาใจสั่นปากหนางับริมฝีปากล่างของเธอพลางขบเม้มและดูดดึงเล่น เธอครางกระเส่าอยู่ในลำคอพลาง
“โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะคุณเม ที่ร้านเรายินดีต้อนรับเสมอ แล้วก็ต้องขอโทษอีกครั้งกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะคะ” นริศรากล่าวเสร็จก็โค้งศีรษะให้กับเมลินดาไพลินพลางยิ้มกว้าง“เช่นกันนะคะ ร้านน่ารักๆ มีพนักงานที่น่ารักอย่างนี้ ไว้ถ้าเมยังไม่กลับต่างประเทศจะแวะมาบ่อยๆ นะคะ”“ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ”เมลินดาไพลินออกจากร้านไปแล้ว ทั้งนริศราและจิราภาออกมาส่องที่ประตูกระจกใสก่อนจะพบว่ามีรถหรูคันหนึ่งมาจอดรอเธออยู่ไม่ไกลจากหน้าร้าน เธอเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านในก่อนที่รถจะแล่นผ่านหน้าร้านไป“สวยแล้วยังจิตใจดีอีกเนอะ” จิราภามองแล้วก็ยิ้มกับความมีอัธยาศัยดีของลูกค้า“อืมใช่” นริศราตอบเพื่อนพลางแอบคิดในใจ ไม่รู้ทำไมรถคันที่มารับผู้หญิงคนนั้นถึงได้ดูคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหน เอ๊ะ หรือจะเบลอไปเอง…เที่ยงคืน วันนี้เขาไม่ได้ส่งข้อความมาบอกให้เธอเข้าไปหาที่ไนต์คลับ แต่พอถึงเวลาเลิกงานของเธอปุ๊บ เขาก็มารอที่หน้ามินิมาร์ทเลย ไม่ให้เธอได้ปฏิเสธแต่มีหน้าที่ขึ้นรถไปกับเขา “นี่คุณกลายมาเป็นคนขับรถของฉันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” แอบจิกกัดเล็กๆ เมื่อขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับ“แล้วดีไหมล่ะ ไม่ต้องขับรถมอเตอรไซค์กลับเอง ยิ่งดึก
‘ตืดดด…ตืดดด…’ เสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์ดังขึ้นเช่นทุกวันบอกเวลาว่าเป็นเวลาหกโมงครึ่ง เธอจะต้องลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวและเตรียมตัวไปทำงาน หากอยู่ที่บ้านต้องรีบลุกไปห้องน้ำทันทีไม่อย่างนั้นจะไปทำงานสายเพราะบ้านอยู่ไกล แต่ถ้าหากนอนที่คอนโดก็อาจจะมีเวลาอ้อยอิ่งเล่นเฟซบุ๊คสักสิบถึงยี่สิบนาทีก่อนแล้วค่อยไปอาบน้ำเพราะอยู่ใกล้กับที่ทำงานมาก ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงเอ๊ะ…ทำไมบรรยากาศรอบตัวมันเปลี่ยนไปนะ ทีแรกคิดว่าตัวเองนอนอยู่ที่คอนโด แต่เพิ่งรู้เมื่อกี๊นี้เองว่า…ไม่ใช่กูอยู่ที่ไหนวะเนี่ย ตายแล้ว!เมื่อลุกขึ้นมานั่งคิดดีๆ ก็นึกได้ว่า เมื่อคืนตอนขึ้นรถของเจย์เดนปุ๊บ ภาพตัดไวเท่าความคิด นริศราหันขวับมามองร่างด้านข้างที่เพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเขาขยับตัว “คุณ! ตายแล้ว” รีบก้มมองร่างตัวเองทันทีแล้วก็เป่าปากโล่งอกไปหนึ่งเปลาะ โชคดี เสื้อผ้าชุดเดิมยังอยู่ครบ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้รังแกตอนเธอไม่มีสติหรอก แต่เธอก็นอนเน่าทั้งที่ยังไม่ได้อาบน้ำ นี่เขาไม่รังเกียจว่าที่นอนเขาจะเหม็นเพราะเธอหรือยังไงถึงเอาเธอขึ้นมานอนด้วย เพราะเดาว่าที่นอนและชุดเครื่องนอนของเขานั้นคงจะราคาแพงมากเพราะมันทั้งนุ่มและสบายจนเธอหลั
‘เลิกงานตอนไหนเข้ามาหาฉันด้วยนะ’‘เดี๋ยวไปส่ง’‘เข้ามาได้เลย มีคนรอพาเข้ามา’ข้อความถูกส่งเข้ามาไลน์ของนริศราตอนห้าทุ่มสี่สิบห้า จากบุคคลที่พาเธอไปเดทเมื่อวาน อย่างกับเขารู้ดีว่าเธอเลิกงานตอนเที่ยงคืนแต่กกลับทำเป็นถามว่าเลิกงานตอนไหนเหลือเวลาอีกสิบกว่านาทีก็จะถึงเวลาเลิกงานแล้ว จะไปหรือไม่ไปดีนะ แม้ว่าเธอจะทำงานอยู่หน้าไนต์คลับมาหลายปีแต่ก็ไม่เคยเข้าสถานที่อโคจรอย่างนั้นเลย มันก็คงจะแปลกๆ ที่จะเข้าไปหรือจะแอบขับมอเตอร์ไซค์กลับแล้วบอกเขาทีหลังว่าลืมอ่าน… ไม่ได้แล้วสิ ตอนนี้เธอเปิดอ่านข้อความไปแล้ว ไม่ทันให้เธอต้องคิดหนักเพราะพอเก็บข้าวของแล้วเดินออกมาจากมินิมาร์ท ร่างสูงใหญ่ภายใต้ชุดสูทดำของบอดี้การ์ดที่เธอจำได้ว่าเป็นคนที่มักจะอยู่กับเจย์เดนยืนรออยู่หน้าประตูแล้ว จะหนีกลับก็หนีไม่ได้แล้ว…“นายให้ผมมารอรับคุณครับ เชิญครับ” คิรินผายมือให้เธอเดินไปยังถนนฝั่งตรงข้าม “เอ่อ..ค่ะ” “เดี๋ยวครับ” “อะไรคะ”“เดี๋ยวผมถือของให้ครับ” เขายื่นมือออกมารับเสื้อคลุมและกระเป๋าสะพายของเธอ นริศราจะไม่ให้ก็กระไรอยู่ในเมื่อเขายื่นมือมาขนาดนั้นแล้ว ในที่สุดก็ต้องให้เขาถือรู้สึกเขินๆ อยู่เหมือนกันนะที่เ
ในที่สุดก็จบที่โรงพยาบาล อวสานความตั้งใจที่อยากจะงาบเธอในคืนนี้ ทำไมมันถึงได้ซวยขนาดนี้วะ อยากจัดการเธอแต่กลับโดนส้มตำปูปลาร้าจัดการเสียนี่“คุณเจย์เดน เป็นยังไงบ้างคะ” นริศรารีบเดินเข้ามาหาเขาทันทีที่ออกมาจากห้องพบแพทย์ รู้สึกผิดที่เป็นต้นเหตุให้คนตัวสูงแพ้อาหารจนผื่นขึ้นแดงเต็มหน้าเต็มตัวอย่างนี้“ไม่เป็นอะไรแล้วแหละ” ถึงจะยังไม่เป็นอะไรก็เถอะ แต่เมื่อสักครู่ที่พบหมอ หมอบอกว่าถ้ากินเข้าไปเยอะกว่านี้ก็มีสิทธิ์ที่จะอาการหนักถึงขั้นอาเจียน หมดสติได้ “หมอฉีดยาแล้วก็จ่ายยาแก้แพ้ให้แล้ว ตอนนี้ก็แค่รอให้ผื่นแดงมันค่อยๆ ยุบหายไป”“ฉันก็ตกใจแทบแย่ ไม่คิดว่าคุณจะแพ้ส้มตำ”“ไม่ได้แพ้ส้มตำหรอก หมอบอกว่าแพ้ปลาร้า”“แพ้ปลาร้า!” นริศราว่าพลางตกใจก่อนที่จะอมยิ้มและแอบหัวเราะ“หัวเราะอะไร” “ก็หัวเราะคนแพ้ปลาร้าน่ะสิ คนอะไรเนี่ย” จะบอกให้ว่าปลาร้าน่ะเป็นของเด็ดที่สุดแล้ว ทำไมแต้มบุญของเขาถึงได้น้อยอย่างนี้นะ“น่าแปลกตรงไหน” เขาเอ่ยเซ็งๆ ไม่ได้เซ็งที่รู้ตัวว่าแพ้ปลาร้าหรอกนะ แต่เซ็งเพราะคืนนี้อดแอ้มเธอต่างหาก“ฉันขอโทษนะคะ ที่เป็นต้นเหตุให้คุณเป็นแบบนี้” เธอแก้ตัวด้วยการขอโทษอย่างรู้สึกผิดจริงๆ ใบหน้
หลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อยแล้วเจย์เดนก็พานริศราไปเดินเที่ยวที่ย่านการค้าแห่งหนึ่ง เขาถามความเห็นว่าเธออยากไปทำอะไรทว่าเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรดีเพราะเธอไม่เคยมาเดทอย่างนี้ เธอไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องการมาออกเดทระหว่างหนุ่มสาวหรอกนะ เพราะไม่เคยมีแฟน! อีกทั้งชีวิตก็เอาแต่วนลูปอยู่กับอะไรเดิมๆ ทำงานแทบทุกวันตั้งแต่เช้ายันดึกดื่นเที่ยงคืน นอกจากที่ทำงานก็ไม่รู้หรอกว่าจะไปที่ไหน ขนาดดูหนังเธอยังลืมไปแล้วว่าดูครั้งสุดท้ายเมื่อไร คงจะหลายปีมาแล้วตั้งแต่สมัยเรียนโน่นแหละมั้ง“ถ้าอย่างนั้นก็ไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะดีกว่า” เธอให้คำตอบในที่สุดหลังจากที่เขารอคำตอบอยู่นานสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับวัดที่มีแม่น้ำด้านหลัง ผู้คนมาให้อาหารปลาและมาทำบุญปล่อยนกปล่อยปลากัน หลายปีมาแล้วที่เธอไม่ได้มาที่นี่ แต่อยู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเคยมาเที่ยวกับพ่อแม่และน้องตอนสมัยที่ยังเป็นเด็ก ตอนนั้น แม้จะยังคงเด็กมาก ยังไม่ถึงสิบขวบเลยด้วยซ้ำแต่เธอจำได้ว่ามีความสุขมาก เพราะนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่พ่อพามาเที่ยวกันพร้อมหน้าพร้อมตากับแม่และน้อง เพราะหลังจากนั้นแม่ของเธอก็เสียและน้องชายก็เริ่มเผยความเป็
“พ่อ! ลุกขึ้นไปนอนในบ้าน มานอนอะไรอยู่หน้าบ้านอย่างนี้ ไม่หนาวหรือยังไง เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” นริศราก้มลงไปเขย่าร่างของชายวัยกลางคนที่นอนกำคอขวดเหล้าไว้แน่นราวกับไม่สนว่าตัวเองจะเป็นยังไงแต่ขอให้มีเหล้าข้างกายอยู่อย่างนี้ตลอดไป“โอยๆ…เอื้อก…” คำรณบิดขี้เกียจพลางค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองคนที่กำลังเขย่าแขนตัวเองอยู่ “ใครวะ…เธอเป็นใครเข้ามาในบ้านของฉันได้ยังไง” พูดพลางหรี่ตามองคนตรงหน้า“เอ้า เมาจนจำลูกจำเต้าไม่ได้แล้วเหรอเนี่ย”“เธอเป็นใคร” คนพูดยังคงย้ำคำเดิมที่ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นใครมาจากไหนและเข้ามาเขย่าตัวเขาเหมือนสนิทสนมอะไรกันถึงขนาดนี้ได้อย่างไร“ก็นุ่มนิ่มไง นุ่มนิ่มลูกสาวพ่ออ่ะ เป็นเอามากนะพ่อ เพลาๆ ลงบ้างนะเรื่องเหล้าน่ะ ยังไม่แก่เลยนะลืมลูกแล้วเนี่ย” หญิงสาวพูดหยอกเอินผู้เป็นพ่ออย่างที่ชอบอำกันเล่นอยู่เป็นประจำ“นุ่มนิ่ม?”“ใช่ นุ่มนิ่มเอง อ๋อ หนูสวยขึ้นใช่ไหมล่ะ” เวรกรรม! นี่เธอลืมไปว่าตัวเองไปแปลงโฉมมาใหม่แล้วยังไม่ได้เข้ามาบ้านสอง-สามวันแล้ว คนอื่นยังจำไม่ได้ แล้วมีหรือที่พ่อที่เมาเหล้าเป็นประจำจะจำได้ “หนูเองจริงๆ อ้าว ไม่เชื่อๆ อะดี๊” “แกไปทำอะไรมาถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้” ด้