สิบปีที่แล้ว
@ร้านสะดวกซื้อ
ดิ้งงง~
เสียงกริ่งประตูร้านสะดวกซื้อดังขึ้น ครั้นมีคนเดินผ่านเข้ามาใช้บริการ ทว่าบุคคลดังกล่าวกลับไม่ใช่ลูกค้า
พรึ่บ!
“กรี๊ด!” เด็กสาวอยู่ในชุดนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจและหวาดกลัว จนเนื้อตัวสั่นเทาอย่างหนัก เนื่องจากยืนจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ จู่ ๆ ชายร่างใหญ่ก็โผล่เข้ามาล็อกคอแน่นหนา พร้อมทั้งจ่อปืนที่ศีรษะ
พนักงาน รวมถึงลูกค้าที่ยังอยู่ภายในร้านต่างแตกตื่นไปตาม ๆ กัน แต่ต้องอยู่ในความสงบ เมื่อโจรจับเด็กสาวเป็นตัวประกัน อีกทั้งยังมีอาวุธ
“อยู่เฉย ๆ! ถ้าไม่อยากตาย”
“…” น้ำเสียงเหี้ยมข่มขู่ ทำให้เด็กสาวนิ่งงันราวกับหินอย่างไม่กล้าขยับตัวเพราะกลัวตาย ขณะที่น้ำสีใสไหลพรากออกจากหัวตาเป็นสายธาร เธอได้แต่หลับตาภาวนาในใจ ขอให้ใครสักคนเข้ามาช่วย
ฟึ่บ!
“เอาเงินใส่กระเป๋าให้หมด ถ้าไม่อยากให้อีเด็กนี่ตาย!” โจรร่างใหญ่จ่อปืนไปที่พนักงานสาวพร้อมทั้งโยนกระเป๋าเป้สีดำไปตรงเคาน์เตอร์
ดิ้งงง~
แต่ขณะเดียวกันประตูร้านสะดวกซื้อก็เลื่อนเปิดพร้อมทั้งเสียงแจ้งเตือน ปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มชุดนักศึกษาไม่เรียบร้อยปล่อยชายเสื้อออกนอกกางเกงสีดำ สวมทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำอย่างหล่อเท่ดูดี ใบหน้าหล่อ จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วเข้ม แววตาเรียบนิ่ง ไม่มีความหวั่นกลัวใด ๆ กับเหตุการณ์ที่ทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างขวัญเสีย
“เข้ามาทำไมวะ! อยากตายหรือไง”
“ใจเย็นก่อนครับพี่ ผมแค่จะมาซื้อของ เอ๊ะ!..แต่ดูเหมือนพี่จะรีบ ให้ผมช่วยไหม ผมช่วยพี่ได้นะ เอารถผมไปดีไหม ผมมีรถสปอร์ต ถ้าพี่เอาไปขายก็น่าจะได้หลายสิบล้าน” ชายหนุ่มชุดนักศึกษาตะล่อมโน้มน้าว พร้อมทั้งชูกุญแจรถสปอร์ตยืนยันว่าตนเองมีอย่างที่พูด ก่อนจะยื่นข้อเสนอ “เราแลกกันดีไหมครับ พี่เอากุญแจรถผมไป ส่วนพี่ก็ส่งตัวเด็กผู้หญิงคนนั้นมาให้ผม”
โจรร่างใหญ่ได้ฟังรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังลังเล ในขณะที่เด็กสาวจ้องมองเจ้าของใบหน้าหล่อตรงหน้า แววตาเต็มไปด้วยความหวัง อยากรอดพ้นจากง่ามมือของโจรโดยเร็ว เพราะไม่รู้ว่าโจรจะลั่นไกลใส่หัวเธอเมื่อไหร่
กึก! ปึก!
“อ๊าดด!” ชายหนุ่มชุดนักศึกษาใช้โอกาสที่โจรร่างใหญ่เผลอ เร่งฝีเท้าเข้าไปแย่งปืน โดยใช้ศิลปะป้องกันตัวในระยะประชิดที่เคยฝึกฝนเป็นประจำ เด็กสาวรู้หน้าที่รีบผละตัวออกห่างจากโจรร่างใหญ่ทันควัน
โจรร่างใหญ่ถูกจัดการ นอนคว่ำหน้าราบไปกับพื้น ส่งเสียงร้องโอดโอย เมื่อแขนทั้งสองข้างไขว้ไปข้างหลัง และ ถูกเข่าแกร่งของชายหนุ่มนักศึกษากดทับจนเกิดความเจ็บปวด หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกตำรวจจับกุมไปเป็นที่เรียบร้อย
…
“พี่คะ! เดี๋ยวค่ะ!” น้ำเสียงใส ๆ ขานเรียกตามหลัง ทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อหยุดชะงักอยู่กับที่ ซึ่งกำลังจะเดินไปยังรถสปอร์ตของตัวเอง ขณะนั้นเสียงฝีเท้าขนาดเล็กก็หยุดยืนอยู่ด้านหลัง
“พี่คะ”
“ยังไม่รีบกลับบ้านไปอีก” เจ้าของใบหน้าหล่อหมุนตัวกลับไปจ้องมองเด็กสาวตัวเล็กนิ่ง ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักดูสดใสขึ้นกว่าเมื่อครู่ แต่แววตาไหวระริกยังเต็มไปด้วยความหวาดผวา
“รอคนมารับค่ะ เมื่อกี้สาขอบคุณพี่มาก ๆ เลยนะคะที่ช่วย พี่ทั้งเก่งทั้งเท่สุด ๆ ไปเลยค่ะ” ริมฝีปากเล็กอมชมพูฉีกยิ้มกว้างพร้อมทั้งยกนิ้วโป้งอันสั้นขึ้นชื่นชมชายหนุ่ม
เจ้าของใบหน้าหล่อไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ออกมาเช่นเคย หันหลังให้เด็กสาวทันทีที่เธอพูดจบ แล้วสาวเท้าเดินไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง แต่เดินได้ไม่ถึงสองก้าวต้องหยุดชะงักฝีเท้าอีกครั้ง…
“พี่คะ! ช่วยบอกชื่อพี่ได้ไหม?”
ร่างสูงชำเลืองหางตาไปด้านข้าง ก่อนจะเอ่ยบอกชื่อเสียงเรียงนามกับเด็กสาว “….แทนคุณ”
หลังจากนั้นก็ก้าวขายาวเดินตรงไปที่รถสปอร์ต โดยมีเสียงตะโกนของเด็กสาวดังขึ้นตามหลัง
“หนูชื่อเมษานะคะ ขอบคุณค่ะพี่แทนคุณ!”
“…”
ปัจจุบัน
@บริษัท TM Agency Group
หลังจากแทนคุณทานอาหารกลางวันกับเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองเสร็จ ก็รีบบึ่งรถกลับมาที่บริษัทตัวเอง มือหนาผลักประตูเดินเข้าห้องทำงาน แต่ต้องชะลอฝีเท้าเดินช้าลง คิ้วหนาหม่นเข้ากันเล็กน้อย เมื่อสายตาโฟกัสไปที่แจกันดอกไม้ถูกจัดวางเด่นอยู่บนโต๊ะทำงาน ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มี
“วุ่นวายจริง ๆ” ใบหน้าหล่อเหลียวไปมองร่างเล็กนอนตะแคงข้างหลับปุ๋ยบนโซฟาตัวยาว ก่อนจะเบี่ยงเท้าเดินเข้าไปหาภรรยาสาวในวินาทีต่อมา
แทนคุณหลุบตามองกระเป๋าเก็บความร้อนบนโต๊ะกระจกตรงหน้าโซฟาที่ภรรยานอนอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนสายตามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนหลับตาพริ้มไม่รู้ตัว แม้กระทั่งเขาเดินมาหยุดตรงหน้า
“นี่เธอ เธอ!” แทนคุณพ่นลมหายใจหนัก ๆ แล้วเขย่าปลุกภรรยาสาว ทำให้คนที่ตกอยู่ในห้วงแห่งความฝันขยับยู่ใบหน้าเข้าหากันอย่างรู้สึกตัวตื่น
มาริษาลูบหน้าตัวเองหนึ่งครั้ง เพื่อให้หายจากความง่วงนอน เปลือกตาค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมอง แต่ร่างสูงที่ยืนตรงหน้าทำเธอตกใจ จนต้องเด้งตัวลุกขึ้นนั่งทันควัน ส่งผลให้หัวใจเต้นตึกตักถี่เร็ว “พี่แทน!”
“ก็ฉันน่ะสิ ไม่ใช่ผี”
“มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?”
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่าใครใช้ให้เธอมายุ่มย่ามที่บริษัท”
“สาเอาข้าวเที่ยงมาให้ค่ะ”
“ข้าวเที่ยงอะไร นี่มันจะบ่ายสองแล้ว”
มาริษาดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือ พบว่าบ่ายสองครึ่งเกือบบ่ายสาม เพราะตั้งแต่เธอจัดดอกไม้ใส่แจกันเสร็จ ก็มานั่งเล่นโทรศัพท์ระหว่างรอสามีที่โซฟาตัวยาว แต่ไม่รู้ว่าตัวเองผล็อยหลับไปยามไหน
“แล้วพี่แทนทานอะไรมาหรือยังคะ?”
“เรียบร้อย” น้ำเสียงห้วน ๆ เอ่ยตอบจบ ก็หมุนตัวเดินไปทันที พลันทำให้มาริษาใบหน้าหงอยทันที เธอมองตามแผ่นหลังกว้างเดินห่างออกไปด้วยความรู้สึกห่อเหี่ยว เพราะอาหารที่เธอตั้งใจเตรียมมาให้สามี ดูเหมือนว่าจะเสียเปล่า
“เอาเวลามาทำอาหารให้ฉันเนี่ย ไปอ่านหนังสือเรียนดีกว่านะ” แทนคุณพูดพลางทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงาน
“…” มาริษากัดปากล่างเบา ๆ อย่างรู้สึกเสียใจ ในขณะที่ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นมาจุกคอ เพราะสิ่งที่สามีพูดแต่ละอย่างไม่เคยถนอมน้ำใจเธอเลย ทั้งที่เธอตั้งใจทำเพื่อดูแลเอาใจเขา
แทนคุณที่เห็นว่ามาริษาเงียบไป จึงตวัดสายตามองที่เธอ พบว่าเธอเอาแต่นั่งนิ่งทำหน้าเศร้าชวนให้รู้สึกรำคาญใจ “กลับบ้านไปซะ ฉันจะให้ไอ้ทิมไปส่ง”
“ไม่ดีกว่าค่ะ สาอยากกลับพร้อมพี่แทน” มาริษาเงยหน้าตอบอย่างเคือง ๆ
“เธอกำลังขัดคำสั่งฉันนะเมษา”
เมื่อเจอกับสายตาดุดันที่แทนคุณตวัดมองมาเขม็ง ทำเอามาริษารีบหลุบตามองต่ำทันที ส่วนแทนคุณถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
----------------
สามปีต่อมา งานรับปริญญาภายในงานรับปริญญาบัตรพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละคณะ และ ญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลาน หรือ คนรู้จัก“สา” มนัสรินทร์ที่เห็นน้องสาวเป็นคนแรก เธอขานเรียกพลางโบกมือ ส่งสัญญาณว่าอยู่ทางนี้มาริษาอยู่ในชุดครุย ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่ค่อนข้างเข้มจัด สวยหวานราวกับเจ้าหญิง เธอโบกมือตอบรับพี่สาว รีบเร่งฝีเท้าเดินบนรองเท้าคัทชูตรงดิ่งเข้าไปหาบิดามารดาและ เพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเธอ เธอเรียนจบหลังเพื่อน เพราะต้องดรอปเรียน เพื่อดูแลลูกสาวที่ตอนนี้อายุได้สามขวบเศษ“คูณแม่~” เจ้าของแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปา ตากลมโต ฉีกยิ้มกว้างสดใส ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ ปล่อยมือจากผู้เป็นน้าสาว วิ่งเตาะแตะเข้าไปหามารดาด้วยความคิดถึง มาริษาย่อตัวลงอ้าแขนรับลูกสาว อุ้มขึ้นแนบอกฟอด~ มาริษาหอมแก้มป่องลูกสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงและเอ็นดู ขณะเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ต่างก็เดินเข้ามาสบทบ ยกเว้นเสียแต่พ่อของลูกที่ติดงานด่วนที่ต่างประเทศไม่สามารถมาวันสำคัญของเธอได้“ยินดีด้วยนะสา” จีน่าพ
หนึ่งเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “สบายขึ้นไหม?” บนเตียงขนาดคิงไซซ์แทนคุณกำลังนวดเรียวขาทั้งสองข้างของมาริษาบนตักแกร่งอย่างเบามือ เนื่องจากเธอมีอาการปวดเมื่อยบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะท้องใกล้คลอดขนาดใหญ่มหึมา ครั้นจะนอนหรือนั่งก็ขยับพลิกตัวลำบากไปหมด“ค่ะ~” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยตอบเบา ๆ ด้วยความปวดขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน จนน้ำตาเล็ด ถึงจะปวดไม่มากแต่ก็รู้สึกทรมานพอสมควร“ปวดท้องเหรอ?”“…” มาริษาพยักหน้าหงึก ๆ หยาดน้ำค่อย ๆ ไหลกลิ้งอาบแก้มใส มือบางกุมเข้าหากันแน่นอย่างอดทนกับอาการต่าง ๆ ของคนท้องใกล้คลอดที่ต้องเจอ เพื่อลูกคนแรกของเธอ“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอหน้าลูกกันแล้ว” แทนคุณเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้ามาริษาก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร นิ้วยาวเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มอย่างปลอบประโลม“ให้พี่นวดต่อไหมหรือนอนพัก”“นวดค่ะ สารอให้อาการปวดหายไปอีกสักนิดค่อยนอน”“ครับ งั้นพี่ร้องเพลงให้เอาไหม?” แทนคุณฉีกยิ้มให้กำลังใจมาริษา ในเมื่อไม่สามารถรับเจ็บปวดแทนเธอได้ เขาขอเป็นคนสร้างพลังบวกและคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหนมาริษากะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ มือ
หลายอาทิตย์ต่อมา คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ดึก~“ฮึ ตัวเล็กถีบหน้าพ่อซะแรงเลยนะลูก” ภายในห้องนั่งเล่นคนที่กำลังเป็นพ่อคนแนบหูฟังเสียงเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ของภรรยาตัวเล็กตรงโซฟาตัวยาว แต่แก้มสากกลับสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นลูกน้อยในท้องค่อนข้างแรง ไม่รู้ว่าเป็นการทักทายหรือกลั่นแกล้งพ่อกันแน่ “ดูสิสาลูกเราดิ้นใหญ่เลย”แทนคุณเงยหน้าขึ้นกล่าวกับมาริษาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ลูกในท้องดีดดิ้นอย่างซุกซน จนเห็นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่น ๆ ตรงท้องป่องชัดเจน“สงสัยแกอยากออกมาเล่นกับพ่อเขาแล้วมั้งคะ” มาริษายิ้มปริ่มมีความสุขไปกับแทนคุณ แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อลูกในท้องดิ้นแรงเกินไปแต่เธอก็ยอมอดทน เธอท้องได้เจ็ดเดือนย่างเข้าเดือนที่แปด ท้องจึงโตตามอายุครรภ์ ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างยากลำบากแทนคุณฉีกยิ้มดีใจใหญ่ทาบมือบนท้องป่องตรงจุดที่ลูกในท้องดีดดิ้น “เบา ๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวแม่เจ็บ”“ขออนุญาตค่ะ” ระหว่างนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายทั้งสอง ก่อนจะกล่าวรายงานในเวลาต่อมา “คุณหมอธัน คุณหวาน คุณเทวินแล้วก็คุณมิลินมาถึงแล้วค่ะ”“อือ” แทนคุณครางตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เช้าวันต่อมา “อื้อ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ อย่างรู้สึกตัวตื่น เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังยุ่มย่ามตรงกลางความเป็นสาว จนรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง มือบางขยุ้มผ้าปูเตียงโดยทันที ขณะที่สมองเริ่มกลับมาประมวลอีกครั้งแผล็บ แผล็บ แทนคุณตวัดปลายลิ้นสากเลียกลีบกุหลาบสวยที่ไม่ได้เชยชมมานานหลายเดือนอย่างละเมียดละไม กลืนกินน้ำหวานบนกลางความเป็นสาวราวกับของอร่อย เหลือบตาขึ้นมองมาริษาที่ยังไม่ลืมตา แต่มือบางกลับเอื้อมลงมาผลักศีรษะให้ออกห่างจากความหอมหวาน“ยะ…อย่า~” ใบหน้าน่ารักเหยเกด้วยความเสียวในรอบสี่เดือน จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหาคนตรงกลางหว่างขา ผลักไสยังไงก็ไม่เป็นผล คืนดีกันได้ไม่ถึงวันคนพี่ก็ลักหลับเธอเสียแล้ว เป็นคืนแรกที่เธอตื่นสายและรู้สึกว่าได้หลับเต็มอิ่ม หากไม่ถูกปลุกเสียก่อนก็คงนอนเพลินจนไม่รู้ตื่นกี่โมง“น้ำเมียพี่ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเงยขึ้นไปสบตากับร่างเล็กที่ยังงัวเงียด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แววตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด“คนลามก ออกไปเลยนะ! สาไม่อนุญาตให้พี่ทำอะไรกับร่างกายสาทั้งนั้น” วาจาหยาบโลนทำ
ภายในรถสปอร์ตหรูสีฟ้าตกอยู่ในความเงียบสงัดตั้งแต่ขับออกมาจากโรงพยาบาล xxx มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่พ่นออกมาเป็นจังหวะ แทนคุณทำหน้าที่ขับรถ หันมองมาริษาที่นั่งเงียบ หันหน้าออกหน้าต่างตลอดทางบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วง “หิวไหม เดี๋ยวพี่จอดเซ่เว่นข้างหน้า ลงไปซื้อของกินมาให้” “ไม่” น้ำเสียงห้วน ๆ ตอบกลับ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิด แทนคุณพยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนท้อง แม้ว่าค่อนข้างยากก็ตาม โดยนิสัยเป็นคนใจร้อนและขี้รำคาญ แต่ครั้งนี้เขาจะยอมทำเพื่อคนน้องและหัวใจตัวเอง “อือ ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะ” “…” คำตอบที่ได้กลับมาจากคนมาริษาคือความเงียบ เธอมองวิวนอกหน้าต่างรถ ตามทางส่วนมากเป็นบ้านคน และ ต้นไม้สลับกันไป ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องตรวจ ยามที่นอนบนเตียงเพื่ออันตราซาวดูลูกในครรภ์เป็นวันแรก เธอเห็นหยดน้ำตาคนพี่หยดแหมะลงบนเตียง ขนาดที่หมอกำลังอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ของลูกในท้อง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา บ้านสวนหวาน “ปลานึ่งมีทั้งโปรตีนทั้งโฟเลท สร้างเนื้อเยื่อให้กับร่าง
@บ้านสวน หวาน ปัง!ประตูรถกระบะถูกปิดเสียงดังด้วยฝีมือของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เธอเดินสะบัดตูดเข้าบ้านโดยไม่รอชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาเดินลงจากรถ“เปลี่ยนไปเยอะแฮะ” แทนคุณเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู การกระทำน่าหงุดหงิดของมาริษา ไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธเลยสักนิดเดียว กลับมองว่าน่ารักเสียมากกว่า ถึงแม้ไม่ใช่มาริษาคนเดิมที่รู้จักก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธออยู่ก็ในสายตา เขาต้องทำให้เธอกลับมาเป็นมาริษาคนเดิมให้ได้“…” แทนคุณส่ายหน้าไปมา แล้วสาวเท้าเดินตามหลังมาริษาเข้าบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินตามเข้าห้องนอน มาริษากลับปิดประตูใส่หน้าเสียก่อน ใบหน้าหล่อ ๆ แทบถูกประตูกระแทก“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ” นิ้วแกร่งชี้ย้ำ ๆ อย่างคาดโทษคนตัวเล็ก มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง“ผู้ชายอะไรดื้อด้านเป็นที่สุด!” เจ้าของดวงตาสวยมุ่ยหน้าหงุดหงิดพลางหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มอย่างเจ็บใจพ่อของลูก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของคนพี่ เขาดูใจเย็น พูดจาดีขึ้นเยอะ หากเป็นเมื่อก่อนพี่ไม้คงเละเป็นโจ๊ก “ทำไมใบหน้าดูซูบลงไปเยอะจัง”“…” ความสงสัยและความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ความโกรธ ใบหน้าน่ารักมีแ