ผับ Moon
“ไอ้ทิมไปส่งเมษากลับบ้านด้วย” แทนคุณออกคำสั่ง ใบหน้าหล่อตึงเครียด หลังจากได้รับรายงานเรื่องผับถูกวางเพลิง ก็รีบร้อนมาที่ผับทันที ซึ่งเป็นจังหวะที่ภรรยาสาวกำลังจะกลับบ้านพอดี จึงจำเป็นต้องพาเธอติดรถมาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ครับนาย” ทิมโค้งศีรษะน้อมรับคำสั่งจากผู้เป็นนาย แทนคุณเร่งพาตัวเองออกจากรถยนต์หรูสีดำวิ่งตรงไปยังทางประตูเข้าผับด้านหลัง ส่วนเมษาเธออยากตามสามีไปมากกว่ากลับบ้าน
“อย่าเพิ่งไปค่ะ”
ทิมที่กำลังจะขับรถออกจากโรงจอดรถของผับเป็นต้องหยุดนิ่ง ช้อนตาขึ้นมองนายหญิงของบ้านผ่านกระจกรถตรงหน้าเหนือศีรษะ คิ้วเข้มขมวดเข้ากันเล็กน้อยอย่างมีคำถาม
“…”
ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!
หมัดหนัก ๆ ของแทนคุณฟาดเข้าที่ใบหน้าของเหล่าบรรดาลูกน้องจำนวนห้าคน ที่ยืนเรียงรายตรงหน้าคนละหมัด โทษฐานที่ละเลยหน้าที่ปล่อยให้คนไม่ประสงค์ดีรอบเข้ามาวางเพลิงได้ ดีที่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน จึงไม่มีอะไรเสียหายมากมาย
“พวกมึงไสหัวออกไปให้หมด อย่ากลับมาเหยียบที่นี่อีก!” แทนคุณตะเบ็งเสียงอย่างฉุนเฉียว ที่ลูกน้องทำงานไม่เอาไหน เหล่าบรรดาลูกน้องทั้งห้าเหงื่อตกไปตาม ๆ กัน เมื่อถูกไล่ออกจากงาน ซึ่งไม่มีใครกล้าเอ่ยขอร้อง เพราะรู้ดีว่าหากผู้เป็นนายตัดสินใจหรือเอ่ยปากแล้ว ไม่มีวันเปลี่ยนใจ จึงรีบพากันวิ่งออกไปก่อนที่จะถูกตัดคอ
“ขออนุญาตครับนาย”
แทนคุณเสยผมบริเวณหน้าม้าขึ้นลวก ๆ พลางหอบหายใจหนัก ๆ ด้วยความโมโหที่ไม่มีท่าทีว่าจะสงบลงเสียที ก่อนจะหมุนตัวหันไปหาลูกน้องที่วิ่งเข้ามาทำความเคารพ
“คนของเราสามารถตามจับตัวคนวางเพลิงได้แล้ว ตอนนี้พาไปขังที่ห้องมืดเรียบร้อยครับ”
“เคล้นเอาความจริงจากมันให้ได้ อย่าให้ถึงมือกู”
“ครับนาย”
มาริษาชะลอฝีเท้าเดินให้ช้าลงก่อนจะหยุดอยู่กับที่ หัวคิ้วขมวดด้วยความสงสัย เมื่อเห็นเหล่าบรรดาชายชุดดำวิ่งออกมาจากประตูทางเข้าด้านหลังผับ มุมปากของแต่ละคนมีเลือดผุดซึม
“ทำไมพี่เขาถึงได้แผลออกมากันล่ะคะ มีเรื่องชกต่อยกันเหรอคะ?” เธอเอียงศีรษะถามลูกน้องคนสนิทของสามี แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ผมว่านายหญิงเปลี่ยนใจกลับบ้านดีกว่าครับ”
“ไม่ค่ะ พี่ทิมไม่ต้องกลัวพี่แทนนะคะ เดี๋ยวสารับผิดชอบเองค่ะ”
ทิมหม่นคิ้วเข้าหากันเป็นปมพลางพ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ อย่างนึกรำคาญ ความดื้อรั้นของหญิงสาวตัวเล็ก ที่มีสถานะเป็นภรรยาของผู้เป็นนาย เขาไม่น่าใจอ่อนปล่อยให้เธอลงจากรถตั้งแต่แรกเลย
“งั้นผมขอตัว” ว่าจบก็โค้งศีรษะทำความเคารพนายหญิงของบ้านตามหน้าที่ แล้วเดินตรงไปขึ้นรถหรูสีดำทันที โดยมีสายตาของมาริษามองตามหลังไป
แกรก
แทนคุณผลักประตูเข้าห้องทำงาน แต่สองเท้ากลับต้องหยุดเดินกะทันหัน จ้องมองภรรยาที่นั่งอยู่ในห้องสายตาแข็งกร้าว
“ฉันให้เธอกลับบ้านไม่ใช่เหรอ? มานั่งอยู่ที่นี่ทำไม” น้ำเสียงเข้มดุเอ่ยถาม พลอยทำให้หัวใจของหญิงสาวเต้นถี่เร็วราวกับว่าจะทะลุออกมานอกเบ้าให้ได้ด้วยความประหม่า
“สะ…สายังไม่อยากกลับบ้าน เลยดื้อกับพี่ทิม แต่พี่แทนอย่าทำโทษพี่ทิมนะคะ สาเร้าหรือที่จะอยู่เองแหละ”
หมับ!
“อ๊ะ!” มาริษานิ่วหน้าเมื่อถูกแทนคุณกระชากแขนให้ลุกขึ้นจากโซฟาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่มือหนาจะยกขึ้นมาบีบแก้มนุ่มอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ใบหน้าหล่อดูดีฉายแววดุร้ายน่ากลัว
“กลับบ้านไป อย่ามายุ่มย่ามที่นี่!”
“โอ๊ย! สาเจ็บนะคะ”
“เจ็บสิดี! ถ้ายังกล้าขัดคำสั่งฉันอีกล่ะก็ เธอได้เจ็บกว่านี้แน่”
ฟุบ!
“อ๊ะ!” ร่างเล็กกระแทกตัวนั่งบนโซฟาอีกครั้ง เมื่อถูกร่างใหญ่ผลักอย่างแรง
“ออกไป” มาริษามองสบตากับแทนคุณแววตาสั่นระริก โดยที่ยังนิ่งไม่ขยับตัวไปไหน ก่อนที่อีกฝ่ายจะละสายตาจากเธอก่อน แล้วสาวเท้าเดินไปที่โต๊ะทำงาน โดยไม่สนใจไยดีความรู้สึกเธอเลยแม้แต่น้อย
…
“เดี๋ยว” ประโยคเอ่ยรั้งของแทนคุณ ทำให้มาริษาที่กำลังจะเปิดประตูออกไปตามคำสั่ง เป็นต้องหยุดชะงักมือ แล้วหมุนตัวกลับหลังไปมองสบตากันอีกครั้ง
“อยากอยู่ก็อยู่ ฉันอนุญาต”
มาริษาเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงวย ไม่เข้าใจอารมณ์ของสามีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาราวกับคนเป็นไบโพล่า
“จะยืนอยู่ตรงนั้นจนกว่าจะกลับเลยหรือไง?”
มาริษาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งพลางกระชับกระเป๋าสะพายข้าง ก่อนก้าวขาเดินไปข้างหน้า หย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาตัวเดิม โดยที่แววตาคู่สวยยังเต็มไปด้วยคำถาม
#สิบนาทีต่อมา
“นัดเพื่อนเหรอคะ?” มาริษาถูกแทนคุณพามานั่งร่วมโต๊ะวีไอพีชั้นสองของผับติดกับระเบียง ซึ่งเห็นโซนด้านล่างได้แทบทุกมุม เสียงเพลงดังกระหึ่มพลอยทำให้หัวใจเต้นโครมครามตามไปด้วย
“เปล่า” แทนคุณตอบกลับเพียงเท่านั้น ขณะมือหนาหยิบมวนบุหรี่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตขึ้นมาคาบ มาริษขมิบเปลือกตาเข้าหากันบ่อยครั้ง เนื่องจากรู้สึกตาลาย เพราะแสงไฟหลากสีภายในผับ
“อย่าสูบตรงนี้ค่ะ กลิ่นมันเหม็น” มาริษารีบห้ามปรามทันที เมื่อแทนคุณกำลังจะเปิดไฟแช็กเป็นต้องหยุดชะงักนิ้วแกร่ง หัวคิ้วหม่นเข้าหากันอย่างไม่ชอบใจที่ถูกสั่ง
“ฉันจะสูบ”
“งั้นสาขอตัวกลับเข้าห้องนะคะ”
“ฉันไม่อนุญาต แล้วฉันก็จะสูบตรงนี้ เธอไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรทั้งนั้น”
คำพูดเอาแต่ใจของผู้เป็นสามี ทำเอามาริษาหน้าหงิกเธอกัดปากล่างแน่น โดยไม่สามารถขัดขืนอะไรได้
“จิ๊!” แทนคุณคีบบุหรี่ที่กำลังสูบออกจากปาก แล้วส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด เมื่อเสียงไอแอก ๆ ของคนที่นั่งอยู่เคียงข้างดังแข่งกับเสียงเพลงในผับคอยกวนใจไม่หยุด ราวกับเป็นการประท้วง โดยเฉพาะสีหน้าของเธอ ทำให้เขาต้องดับไฟบุหรี่อย่างจำใจ
“เธอนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ” มือหนาคว้าแก้วเหล้าราคาแพงขึ้นกระดกดื่มแก้เซ็งแทน ส่วนมาริษาใช้นิ้วเรียวถูกขยี้จมูกไปมา เพราะกลิ่นฉุนของบุหรี่ยังหลงเหลือ
เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มาริษายังนั่งเฉย ๆ อยู่ข้างสามีที่เอาแต่ดื่มไม่พูดอะไรกับเธอสักคำ เธอกรวดสายตามองนู้นมองนี่ภายในผับตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นจนเบื่อ
“พี่แทนคะ” ริมฝีปากจิ้มลิ้มขยับขานเรียกสามี แต่คนถูกเรียกกลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เธอจึงกระตุกเสื้อเชิ้ตสองสามที เจ้าของใบหน้าหล่อที่ดูเริ่มเมามายก็หันกลับมาจ้องท่าทางไม่สบอารมณ์
“อะไร?”
“สาขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะคะ”
“อือ”
เมื่อได้รับคำตอบจากสามี มาริษาผุดตัวลุกขึ้นตั้งท่าจะเดินไปแต่…
หมับ!
“อ๊ะ!” มือใหญ่คว้าข้อมือแล้วกระตุกดึง ทำให้มาริษาทรุดตัวนั่งบนตักแกร่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ
“O” แต่ไม่ทันที่มาริษาจะได้ตั้งตัว ใบหน้าคมคายโน้มลงมาประกบจูบอย่างรวดเร็วเสียก่อน ส่งผลให้ใบหน้าเห่อร้อน ม่านตาเบิกกว้างทันทีทันใด สัมผัสที่แนบชิดทำให้ได้กลิ่นแอลกอฮอล์จากอีกฝ่ายชัดเจน
การกระทำน่าอายของแทนคุณ พลอยทำให้หัวใจมาริษากระหน่ำเต้นถี่เร็วจนแทบหลุดออกมานอกอกให้ได้
“อื้อ!” มาริษาตั้งสติได้ เธอส่งเสียงประท้วงพลางผลักแผงอกแกร่งต่อต้านแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะสู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ได้ ขณะที่ริมฝีปากอวบอิ่มถูก ทั้งดูดทั้งขบเม้มอย่างแรงสลับกันจนชาหนึบไปหมด ราวกับริมฝีปากของเธอเป็นที่รองรับอารมณ์ของคนตัวโต
“…”
--------------------
สามปีต่อมา งานรับปริญญาภายในงานรับปริญญาบัตรพลุกพล่านไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องของแต่ละคณะ และ ญาติมิตรที่มาร่วมแสดงความยินดีกับลูกหลาน หรือ คนรู้จัก“สา” มนัสรินทร์ที่เห็นน้องสาวเป็นคนแรก เธอขานเรียกพลางโบกมือ ส่งสัญญาณว่าอยู่ทางนี้มาริษาอยู่ในชุดครุย ใบหน้าน่ารักถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางที่ค่อนข้างเข้มจัด สวยหวานราวกับเจ้าหญิง เธอโบกมือตอบรับพี่สาว รีบเร่งฝีเท้าเดินบนรองเท้าคัทชูตรงดิ่งเข้าไปหาบิดามารดาและ เพื่อนสนิทที่มาร่วมแสดงความยินดีในความสำเร็จของเธอ เธอเรียนจบหลังเพื่อน เพราะต้องดรอปเรียน เพื่อดูแลลูกสาวที่ตอนนี้อายุได้สามขวบเศษ“คูณแม่~” เจ้าของแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปา ตากลมโต ฉีกยิ้มกว้างสดใส ตะโกนเรียกผู้เป็นแม่ ปล่อยมือจากผู้เป็นน้าสาว วิ่งเตาะแตะเข้าไปหามารดาด้วยความคิดถึง มาริษาย่อตัวลงอ้าแขนรับลูกสาว อุ้มขึ้นแนบอกฟอด~ มาริษาหอมแก้มป่องลูกสาวเจ้าของใบหน้าน่ารักฟอดใหญ่ด้วยความคิดถึงและเอ็นดู ขณะเพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ต่างก็เดินเข้ามาสบทบ ยกเว้นเสียแต่พ่อของลูกที่ติดงานด่วนที่ต่างประเทศไม่สามารถมาวันสำคัญของเธอได้“ยินดีด้วยนะสา” จีน่าพ
หนึ่งเดือนต่อมา @คฤหาสน์ พีรพัฒน์ “สบายขึ้นไหม?” บนเตียงขนาดคิงไซซ์แทนคุณกำลังนวดเรียวขาทั้งสองข้างของมาริษาบนตักแกร่งอย่างเบามือ เนื่องจากเธอมีอาการปวดเมื่อยบริเวณขาทั้งสองข้าง เพราะท้องใกล้คลอดขนาดใหญ่มหึมา ครั้นจะนอนหรือนั่งก็ขยับพลิกตัวลำบากไปหมด“ค่ะ~” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยตอบเบา ๆ ด้วยความปวดขึ้นเรื่อย ๆ บริเวณอุ้งเชิงกราน จนน้ำตาเล็ด ถึงจะปวดไม่มากแต่ก็รู้สึกทรมานพอสมควร“ปวดท้องเหรอ?”“…” มาริษาพยักหน้าหงึก ๆ หยาดน้ำค่อย ๆ ไหลกลิ้งอาบแก้มใส มือบางกุมเข้าหากันแน่นอย่างอดทนกับอาการต่าง ๆ ของคนท้องใกล้คลอดที่ต้องเจอ เพื่อลูกคนแรกของเธอ“ทนอีกหน่อยนะ อีกไม่กี่วันเราจะได้เจอหน้าลูกกันแล้ว” แทนคุณเห็นความเจ็บปวดบนใบหน้ามาริษาก็ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าด้วยความสงสาร นิ้วยาวเอื้อมไปเช็ดน้ำตาบนแก้มนุ่มอย่างปลอบประโลม“ให้พี่นวดต่อไหมหรือนอนพัก”“นวดค่ะ สารอให้อาการปวดหายไปอีกสักนิดค่อยนอน”“ครับ งั้นพี่ร้องเพลงให้เอาไหม?” แทนคุณฉีกยิ้มให้กำลังใจมาริษา ในเมื่อไม่สามารถรับเจ็บปวดแทนเธอได้ เขาขอเป็นคนสร้างพลังบวกและคอยอยู่เคียงข้างเธอไม่ไปไหนมาริษากะพริบตาปริบ ๆ สีหน้าไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ มือ
หลายอาทิตย์ต่อมา คฤหาสน์ พีรพัฒน์ ดึก~“ฮึ ตัวเล็กถีบหน้าพ่อซะแรงเลยนะลูก” ภายในห้องนั่งเล่นคนที่กำลังเป็นพ่อคนแนบหูฟังเสียงเต้นหัวใจของลูกน้อยในครรภ์ของภรรยาตัวเล็กตรงโซฟาตัวยาว แต่แก้มสากกลับสัมผัสได้ถึงแรงดิ้นลูกน้อยในท้องค่อนข้างแรง ไม่รู้ว่าเป็นการทักทายหรือกลั่นแกล้งพ่อกันแน่ “ดูสิสาลูกเราดิ้นใหญ่เลย”แทนคุณเงยหน้าขึ้นกล่าวกับมาริษาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เป็นครั้งแรกที่ลูกในท้องดีดดิ้นอย่างซุกซน จนเห็นการเคลื่อนไหวเป็นคลื่น ๆ ตรงท้องป่องชัดเจน“สงสัยแกอยากออกมาเล่นกับพ่อเขาแล้วมั้งคะ” มาริษายิ้มปริ่มมีความสุขไปกับแทนคุณ แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อลูกในท้องดิ้นแรงเกินไปแต่เธอก็ยอมอดทน เธอท้องได้เจ็ดเดือนย่างเข้าเดือนที่แปด ท้องจึงโตตามอายุครรภ์ ไปไหนมาไหนก็ค่อนข้างยากลำบากแทนคุณฉีกยิ้มดีใจใหญ่ทาบมือบนท้องป่องตรงจุดที่ลูกในท้องดีดดิ้น “เบา ๆ หน่อยนะครับ เดี๋ยวแม่เจ็บ”“ขออนุญาตค่ะ” ระหว่างนั้นสาวใช้ก็เดินเข้ามาโค้งศีรษะทำความเคารพผู้เป็นนายทั้งสอง ก่อนจะกล่าวรายงานในเวลาต่อมา “คุณหมอธัน คุณหวาน คุณเทวินแล้วก็คุณมิลินมาถึงแล้วค่ะ”“อือ” แทนคุณครางตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้าเรียบเฉย
เช้าวันต่อมา “อื้อ~” หญิงสาวบนเตียงนุ่มส่งเสียงครางในลำคอเบา ๆ อย่างรู้สึกตัวตื่น เมื่อถูกรบกวนการนอนหลับ สัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังยุ่มย่ามตรงกลางความเป็นสาว จนรู้สึกเสียววาบไปทั่วทั้งร่าง มือบางขยุ้มผ้าปูเตียงโดยทันที ขณะที่สมองเริ่มกลับมาประมวลอีกครั้งแผล็บ แผล็บ แทนคุณตวัดปลายลิ้นสากเลียกลีบกุหลาบสวยที่ไม่ได้เชยชมมานานหลายเดือนอย่างละเมียดละไม กลืนกินน้ำหวานบนกลางความเป็นสาวราวกับของอร่อย เหลือบตาขึ้นมองมาริษาที่ยังไม่ลืมตา แต่มือบางกลับเอื้อมลงมาผลักศีรษะให้ออกห่างจากความหอมหวาน“ยะ…อย่า~” ใบหน้าน่ารักเหยเกด้วยความเสียวในรอบสี่เดือน จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหาคนตรงกลางหว่างขา ผลักไสยังไงก็ไม่เป็นผล คืนดีกันได้ไม่ถึงวันคนพี่ก็ลักหลับเธอเสียแล้ว เป็นคืนแรกที่เธอตื่นสายและรู้สึกว่าได้หลับเต็มอิ่ม หากไม่ถูกปลุกเสียก่อนก็คงนอนเพลินจนไม่รู้ตื่นกี่โมง“น้ำเมียพี่ยังหวานเหมือนเดิมเลยนะ” เจ้าของใบหน้าหล่อเงยขึ้นไปสบตากับร่างเล็กที่ยังงัวเงียด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ แววตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยความหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด“คนลามก ออกไปเลยนะ! สาไม่อนุญาตให้พี่ทำอะไรกับร่างกายสาทั้งนั้น” วาจาหยาบโลนทำ
ภายในรถสปอร์ตหรูสีฟ้าตกอยู่ในความเงียบสงัดตั้งแต่ขับออกมาจากโรงพยาบาล xxx มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคนที่พ่นออกมาเป็นจังหวะ แทนคุณทำหน้าที่ขับรถ หันมองมาริษาที่นั่งเงียบ หันหน้าออกหน้าต่างตลอดทางบ่อยครั้งด้วยความเป็นห่วง “หิวไหม เดี๋ยวพี่จอดเซ่เว่นข้างหน้า ลงไปซื้อของกินมาให้” “ไม่” น้ำเสียงห้วน ๆ ตอบกลับ บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังหงุดหงิด แทนคุณพยายามทำความเข้าใจกับอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ของคนท้อง แม้ว่าค่อนข้างยากก็ตาม โดยนิสัยเป็นคนใจร้อนและขี้รำคาญ แต่ครั้งนี้เขาจะยอมทำเพื่อคนน้องและหัวใจตัวเอง “อือ ถ้าหิวหรืออยากเข้าห้องน้ำก็บอกพี่นะ” “…” คำตอบที่ได้กลับมาจากคนมาริษาคือความเงียบ เธอมองวิวนอกหน้าต่างรถ ตามทางส่วนมากเป็นบ้านคน และ ต้นไม้สลับกันไป ในหัวครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องตรวจ ยามที่นอนบนเตียงเพื่ออันตราซาวดูลูกในครรภ์เป็นวันแรก เธอเห็นหยดน้ำตาคนพี่หยดแหมะลงบนเตียง ขนาดที่หมอกำลังอธิบายอวัยวะต่าง ๆ ของลูกในท้อง เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นมุมอ่อนไหวของเขา บ้านสวนหวาน “ปลานึ่งมีทั้งโปรตีนทั้งโฟเลท สร้างเนื้อเยื่อให้กับร่าง
@บ้านสวน หวาน ปัง!ประตูรถกระบะถูกปิดเสียงดังด้วยฝีมือของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ เธอเดินสะบัดตูดเข้าบ้านโดยไม่รอชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวขาเดินลงจากรถ“เปลี่ยนไปเยอะแฮะ” แทนคุณเหยียดยิ้มมุมปากอย่างเอ็นดู การกระทำน่าหงุดหงิดของมาริษา ไม่ได้ทำให้รู้สึกโกรธเลยสักนิดเดียว กลับมองว่าน่ารักเสียมากกว่า ถึงแม้ไม่ใช่มาริษาคนเดิมที่รู้จักก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยเธออยู่ก็ในสายตา เขาต้องทำให้เธอกลับมาเป็นมาริษาคนเดิมให้ได้“…” แทนคุณส่ายหน้าไปมา แล้วสาวเท้าเดินตามหลังมาริษาเข้าบ้าน แต่ไม่ทันได้เดินตามเข้าห้องนอน มาริษากลับปิดประตูใส่หน้าเสียก่อน ใบหน้าหล่อ ๆ แทบถูกประตูกระแทก“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยตัวแสบ” นิ้วแกร่งชี้ย้ำ ๆ อย่างคาดโทษคนตัวเล็ก มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง“ผู้ชายอะไรดื้อด้านเป็นที่สุด!” เจ้าของดวงตาสวยมุ่ยหน้าหงุดหงิดพลางหย่อนสะโพกนั่งบนเตียงนุ่มอย่างเจ็บใจพ่อของลูก แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกแปลกใจกับท่าทีของคนพี่ เขาดูใจเย็น พูดจาดีขึ้นเยอะ หากเป็นเมื่อก่อนพี่ไม้คงเละเป็นโจ๊ก “ทำไมใบหน้าดูซูบลงไปเยอะจัง”“…” ความสงสัยและความเป็นห่วงแทรกเข้ามาแทนที่ความโกรธ ใบหน้าน่ารักมีแ