LOGINลูกน้องลุงแหวนค่อย ๆ ใช้ไม้เขี่ยเสื่อที่เต็มไปด้วยเลือดออกอย่างช้า มืออีกข้างอุดจมูกไว้แล้วหันหน้าหนีมองออกไปทางอื่น
"ศพ นี่ประหลาดมาก" เสือหาญกล่าวในใจเมื่อเห็นศพ ชาวบ้านตาโตเท่าไข่ไก่ พะอืดพะอมคดตัวลงเหมือนกำลังจะอาเจียนมือยกขึ้นปิดปากปิดจมูกแน่น "โอ๊ย จะไม่ไหวแล้ว" ชาวบ้านเซถอยหลังปากสั่นงึกงักทรุดนั่งลงกับพื้นพยายามกลั้นอาเจียนสุดชีวิต ทันใดนั้นชาวบ้านนางกลุ่มนั้นทนไม่ไหวกับสภาพศพที่น่ากลัวและกลิ่นเหม็นที่ทนไม่ได้จึงทยอยออกจากลานประชุม สภาพศพรอยมีดบาดลึกหลายจุด เสื้อผ้าขาดวินจนแทบไม่เหลือสภาพเดิมบางจุดเห็นผิวหนังที่ฟกซ้ำและไหม้เกรียมเหมือนถูกทรมานก่อนเสียชีวิต "ใครกันฆ่าแม้กระทั่งคนสติไม่ดี" เสือหาญกล่าว ในขณะที่เสือหาญนั้นยืนสำรวจศพอยู่ห่างๆ สายตาได้ไปสะดุดกับบางสิ่งบางอย่าง เขาสวมถุงมือแล้วค่อยๆ ดึงฝ่ามือที่กำแน่นเอาสิ่งของในนั้นออกมา ลุงแหวนกับลูกน้องที่ว่ามันคือเศษเสื้อทำมาจากด้ายที่หายากมีเฉพาะผู้มีฐานะครอบครัวที่มีเงินชาวบ้านตาดำทั่วไปคงไม่มีปัญญาชื้อได้ "ลุงแหวน ลุงจะทำอย่างไรต่อไป " "ฉันว่าต่อให้ไปฟ้องตำรวจก็ไม่มีประโยชน์" ลุงแหวนได้แต่ส่ายหน้าจนปัญญาที่จะติดตามผู้ร้ายตัวจริง เพราะหมู่บ้านหุบดงไม่รับเงินใต้โต๊ะจากผู้มีอิทธิพลแถบนี้ คนไม่ตายก็ต้องมีอย่างอื่นเช่น เงินสนับสนุนการศึกษาเด็กยากไร้ "ลุงแหวนมีฉันทั้งคน ฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้ต่อไป " เสือหาญยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะต้องทำลายพวกโจรในคราบผู้ดีให้หมดไป หลังจากนั้นลุงแหวนได้นำศพชายไร้สติไปฝั่งพร้อมทำพิธี บ่ายโมงในตลาดริมน้ำราชบุรีแม่ค้าพ่อค้าต่างวนเวียนมาชื้อของ ที่นี่มีรวมทุกอย่างที่คนรวยนั้นต้องการแต่จะแบ่ง ชนชั้นวรรณะฝั่งซ้ายเป็นตลาดราคาแพงฝั่งขวาเป็นตลาดของคนจน แต่ฝั่งคนจนคนจะเยอะมีทั้งโจรที่แอบแฝงปะปนกันไป หลังจากที่เสือหาญช่วยลุงแหวนจัดการศพเขาได้ออกมาจากหมู่บ้านเพื่อชื้อของจำเป็นให้ชาวบ้านทุกๆคนที่เขียนไว้ในกระดาษ โดยมีไอ้สันขวานกับไอ้กระบานเป็นผู้ช่วย เสียงตะโกนขายของสลับกับกลิ่นหอมของกล้วยย่างในเต่าไฟ "พ่อหนุ่มทางนี่จ้า" แม่ค้ากวักมือเรียกเสือหาญตั้งแต่ทางเข้าตลาด "เหมือนเดิมครับป้า" "ได้ๆ รอประเดี๋ยว" "ฉันแวะร้านอื่นฉันจะกลับมาเอานะป้า" "จ้า ๆ " ที่นี่คนเยอะมากจึงต้องค่อย ๆ ฝ่าผู้คนเสือหาญปรายตามองไปรอบ ๆ เหมือนทุกครั้งที่เคยทำทุกอย่างดูปกติดีไม่มีเหตุร้ายเกิดขึ้น "พี่ ๆ พี่หาญ" ในยามผู้คนเบียดกันเดินอย่างช้า ๆ ไอ้สันขวานรีบตบไหล่พี่เสือหาญ "พี่นั้นมันตำรวจที่เราเจอวันนี้" แต่แทนที่เสือหาญจะมองไปที่จ่าเเฉล้มกลับเบี่ยงเบนสายตาไปมองหญิงสาวแต่งกายเรียบง่าย ใส่เสื้อผ้าพื้นเมืองสีอ่อน ผ้าซิ่นลายดั่งเดิมพลิ้วไหวตามจังหวะก้าวเดิน เธอเดินทอดน่องขาช้า ๆ ดวงตากวาดมองแผงขายท่าทางสุภาพอ่อนโยนพูดคุยกับแม่ค้าด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล ทำให้ดึงดูดสายตาเสือหาญโดยไม่รู้ตัว "นั้นใครกัน" "อ้าว ก็ตำรวจน้ำดีคนนั้นไงพี่" ไอ้สันขวานตอบ "เอ๊ะ หรือว่าพี่มองผู้หญิงที่เดินตามจ่าแฉล้ม" ไอ้ส้นขวานมองแววตาพี่หาญจึงรู้ว่าพี่ของตนนั้นกำลังจ้องมองสาวสวยอยู่นั้นเอง "พี่ๆ จะไม่ชื้อของหรือไง" ไอ้กระบานเอ่ยถาม แต่ในขณะนั้นเสือหาญเหมือนคนหูดับชั้วคราว ทั้งสองเลยยืนคนละฝั่งแล้วตะโกนเรียกพี่หาญให้ดังก้องในรูหู "พี่หาญ" เสียงเรียกที่ดังทำให้เสือหาญมีสติขึ้นมาอีกครั้ง "มีอะไร" "พี่ ข้าสองคนเรียกอยู่นาน" "เออ ๆ ฉันรู้แล้ว" ทันใดนั้นเสือหาญเท้าก้าวต่อไปอย่างเชื่องช้าลัดเลาะผ่านแผงขายผักสด หอม กระเทียม วางเรียงรายบนใบตองอย่างสวยงาม เสียงแม่ค้าเจรจาชื้อขายยังคงคึกคัก เสียงเหรีญกระทบกัน เสียงมีดสับหมู และอื่น ๆ เมื่อเดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอเข้ากับร้านขนมของโปรดเสือหาญ ขนมเปี๊ยะหัวบรรได เป็นขนมแป้งบาง ไส้ถั่วกวนรถหวานนวล " ยายจ๊ะ ฉันข้าต้องการสองชิ้นจ๊ะยาย" "ยายค่ะ หนูอยากได้หกชิ้นค่ะ" เสียงนุ่มนวลน่าฟังทำให้เสือหาญนั้นเผลอหยุดยืนมองอยู่ครู่หนึ่ง "นั้นมันผู้หญิงคนนั้น" เอ่ยในใจ ทันใดนั้นเธอเงยหน้าขึ้นมาพอดี ดวงตาคู่นั้นสบตาเสือหาญโดยบังเอิญ ก่อนจะเบิกตากว้างเล็กน้อย พร้อมรอยยิ้มที่เบ่งบานออกมาชั่วขณะ "พ่อหนุ่ม ขนมเอ็งได้แล้ว" ไม้ตะเกียบเคาะกับกระดงเบาๆ เพื่อเรียกเสือหาญ "จ๊ะยาย นี่จ๊ะเงิน " เสือหาญหันหน้ามาหายายแล้วหยิบเงินในถุงผ้าออกมา "ขอบใจพ่อหนุ่ม พูดเพราะเสียจริง "เช้านั้นตลาดในหมู่บ้านคึกคักตามปกติแม่ค้าเรียกลูกค้าขายผัก เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ วิ่งเล่นแถวลานกลางตลาดดังเจี๊ยวจ๊าวเสือหาญกับจอมขวัญเดินจับจ่ายของสดด้วยกันเหมือนทุกวันหลังจากกลับมาใช้ชีวิตเรียบง่ายจอมขวัญยืนเลือกผักอยู่ที่แผง ส่วนเสือหาญยืนคุยเล่นกับแม่ค้าข้าง ๆ อย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งหญิงสาวคนหนึ่งแต่งตัวสะสวย เดินเข้ามายิ้มหวาน “อ้าว...สารวัตรหาญจริงด้วยเหรอคะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย”เธอพูดเสียงนุ่ม ยกมือแตะต้นแขนเขาเบา ๆ อย่างสนิทสนมแม่ค้าบางคนเริ่มหันมามอง จอมขวัญก็เงยหน้าขึ้นจากตะกร้าผักทันทีเสือหาญหันไปยิ้มสุภาพ “ครับ จำได้...คุณเป็นใครนะ?” “ฉันมาจากพระนครค่ะ เคยเจอกันตอนสัมภาษณ์คดีใหญ่เมื่อหลายปีก่อน”เธอพูดยิ้มเจ้าเล่ห์ “สารวัตรยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะคะ”แม่ค้าหลายคนแอบหัวเราะกันคิกคักแต่ในจังหวะนั้นเอง เสือหาญกลับหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดเรียบ ๆ “ขอบคุณครับ แต่ผมไม่โสดแล้วนะ”พูดจบ เขายื่นมือไป โอบเอวจอมขวัญ ที่เพิ่งเดินเข้ามาพอดีมือของเขาวางอย่างมั่นใจ ไม่ใช่แค่ปกป้อง แต่ประกาศต่อหน้าทุกคนว่า นี่คือของหัวใจฉันจอมขวัญหน้าแดงนิด ๆ แต่ยิ้มอย่างเขิน ๆหญิงสาวชะงัก ยิ้มเจ
ห้องผู้ป่วยสว่างด้วยแสงแดดอ่อนของยามเช้าจอมขวัญวางช่อดอกไม้ที่ลูกชาวบ้านเอามาเยี่ยมไว้ตรงหัวเตียงเสือหาญพิงหมอนอยู่บนเตียง แผลที่สีข้างยังพันผ้าไว้แน่น แต่สีหน้าเริ่มดีขึ้นเธอหันมาเห็นเขายิ้มบาง ๆ แล้วพูดเบา ๆ “ยิ้มได้แล้วเหรอคะ สารวัตรคนเก่งของฉัน”เขาหัวเราะในลำคอ “ไม่ยิ้มได้ยังไง มีเมียสวยมานั่งเฝ้าเช้ายันค่ำขนาดนี้”เธอทำหน้าย่น “ยังจะพูดเล่นอีก คนเกือบตายไม่รู้ตัวหรือไง”เสือหาญเอื้อมมือไปจับมือเธอไว้แน่น “พี่รู้ตัวดี...รู้ว่าถ้าไม่ได้ขวัญวันนั้น พี่อาจไม่ได้อยู่ถึงวันนี้”น้ำเสียงเขาอ่อนลงทันที “ขวัญ…พี่อยากขอโทษสำหรับทุกอย่าง ที่ทำให้เธอต้องร้องไห้ ต้องเจ็บ ต้องสงสัยพี่”จอมขวัญส่ายหน้าเบา ๆ “พี่ไม่ต้องขอโทษเลย พี่เองต่างหากที่ฉันควรขอบคุณ ที่พี่ยอมเจ็บเพื่อปกป้องฉัน” “พี่ทำเพราะมันคือหน้าที่”“ไม่ใช่แค่หน้าที่...” เธอสวนเบา ๆ “แต่เพราะพี่รักฉัน…ใช่ไหม”เสือหาญนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพยักหน้าช้า ๆ “พี่รักขวัญ รักมากจนไม่กล้าคิดว่าจะเสียขวัญไปได้ยังไง”น้ำตาคลอในตาจอมขวัญ เธอบีบมือเขาแน่น “ฉันเองก็กลัวจะเสียพี่…ตอนเห็นเลือดของพี่วันนั้น ฉันเหมือนหัวใจหยุดเต้น”เขายกมือขึ้นลู
ยามค้ำเสียงลมตีหน้าต่างดัง ปัง...ปัง...จอมขวัญกำลังยกชามข้าวไปล้างในครัว ขณะที่เสือหาญนั่งเงียบอยู่บนชานบ้าน สูบบุหรี่ยามดึกเขาคิดถึงทุกสิ่งที่ผ่านมา ทั้งอัญชัน ทั้งความเจ็บใจ ทั้งสายตาของภรรยาที่เขาไม่อยากให้มีน้ำตาอีกเสียงบางอย่างดังแผ่วจากข้างรั้วแกรก...แกรก...เสือหาญชะงัก หยุดสูบ แล้วหรี่ตามองในความมืดมือคว้าปืนที่พกไว้ตามสัญชาตญาณตำรวจ “ขวัญ เข้าบ้านเดี๋ยวนี้”น้ำเสียงเขาเปลี่ยนไปในพริบตา เข้ม ดุ และจริงจัง“เกิดอะไรขึ้นพี่?” “พี่บอกให้เข้าไปข้างใน!”ไม่ทันขาดคำ เสียงกระจกแตก เพล้ง!!ชายสวมหมวกคลุมหน้า 2 คนพังเข้ามาทางหลังบ้าน มีดในมือแวววับภายใต้แสงไฟจอมขวัญร้อง “กรี๊ด!”เสือหาญผลักเธอหลบข้างกำแพงก่อนยกปืนขึ้นเล็งเสียงปืนดัง ปัง! ลูกแรกเฉี่ยวไหล่คนร้าย แต่พวกมันยังพุ่งเข้ามาไม่หยุดหนึ่งในนั้นคว้ามีดแทงสวนมาที่เขา — เสือหาญเบี่ยงหลบ แล้วต่อยสวนเต็มแรงแต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง มีดอีกเล่มพุ่งเข้ามาจากด้านหลัง “พี่หาญ ระวัง!!!”จอมขวัญร้องสุดเสียง เธอเห็นทุกอย่างในภาพช้า เสือหาญหันขวับกลับมาแต่ไม่ทัน…ฉึก!เสียงมีดเสียบเข้ากลางสีข้างของเขาเลือดแดงซึมผ่านเสื้อ เสือหาญ
เช้าวันต่อมาฟ้าหลังฝนดูหม่นแต่สงบ รถจี๊ปของเสือหาญแล่นเข้ามาจอดหน้าสถานีพิสูจน์หลักฐานกลางเมืองจอมขวัญนั่งเงียบอยู่ข้าง ๆ สีหน้าเรียบ แต่ในแววตายังเต็มไปด้วยคำถามเสือหาญหยิบขวดน้ำจากซองพลาสติกใส แล้วหันไปพูดกับภรรยาเบา ๆ “พี่อยากให้เธอเห็นกับตา ว่าพี่พูดความจริง”จอมขวัญพยักหน้า แม้ในใจยังสั่น เธอเพียงกำมือแน่นบนตักเจ้าหน้าที่ในเสื้อกาวน์ขาวออกมาต้อนรับ เสือหาญยื่นหลักฐานให้ “ช่วยตรวจหาสารตกค้างหรือยานอนหลับในนี้หน่อยครับ เป็นเรื่องสำคัญมาก”เจ้าหน้าที่รับไปด้วยสีหน้าจริงจัง “ได้ครับ รอผลไม่นาน”ระหว่างรอ เสือหาญนั่งพิงผนังในห้องรับรอง มองฝนที่เริ่มโปรยอีกครั้งมือเขากำหมัดแน่น ทั้งเพราะกังวล ทั้งเพราะโกรธที่ใครบางคนเล่นเกมสกปรกกับชีวิตของเขาจอมขวัญนั่งตรงข้าม มองเขาเงียบ ๆเธอเห็นชายที่เธอรักที่สุดในสภาพอ่อนล้าแต่ยังคงพยายามพิสูจน์ตัวเองหัวใจเธอสั่นระรัว อยากเชื่อ แต่กลัวจะเจ็บอีก“พี่หาญ…” เธอเรียกเบา ๆ“อืม?”“ถ้าผลออกมาไม่พบอะไรเลย พี่จะทำยังไง”เขาหันมามองตรง ๆ “พี่ก็ยังจะหาความจริงจนเจอ ไม่ว่าจะต้องขุดให้ถึงใครก็ตาม”น้ำเสียงเขานิ่งและมั่นคงจนเธอเผลอหลุบตาเวลาผ่านไปรา
เสือหาญนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องพักเจ้าหน้าที่ เสื้อเปียกชุ่มจากการลุยฝน ใบหน้าเต็มไปด้วยความล้าอัญชันเดินเข้ามาช้า ๆ ในมือถือขวดน้ำเย็นกับผ้าเช็ดหน้า “คุณเสือหาญ…ดื่มน้ำหน่อยเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน”เธอยื่นขวดให้ เขารับมาโดยไม่ได้คิดอะไร “ขอบคุณนะครับ”อัญชันยิ้มบาง มองเขายกขวดขึ้นดื่ม กล้ามคอขยับตามจังหวะกลืนในแววตาเธอมีทั้งความห่วงใยและอะไรบางอย่างที่อ่านไม่ออก “วันนี้คุณช่วยดิฉันอีกแล้ว…” เธอพูดแผ่ว ๆ“หน้าที่ของตำรวจครับ” เสือหาญตอบ พลางพิงพนักเก้าอี้ หลับตาไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมา เขารู้สึกว่าลมหายใจเริ่มหนัก หัวหมุนเหมือนโลกเอียงเสียงฝนข้างนอกกลายเป็นเสียงอื้ออึงในหู “คุณอัญชัน…ทำไม…ฉันรู้สึก…”คำพูดขาดห้วง ร่างกายชาไปตั้งแต่ปลายนิ้วอัญชันรีบพยุงเขาไว้ไม่ให้ล้ม ดวงตาเธอสั่นแต่สีหน้าเยือกเย็นผิดจากเมื่อครู่ “ไม่ต้องกลัวนะคะ…แค่พักซะหน่อย เดี๋ยวก็หาย”เสียงเธอเบาแต่ชัดเจน ก่อนทุกอย่างจะดับวูบลงในสายตาเสือหาญภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าอัญชันที่มองลงมา ยิ้มสวยแต่เยือกเย็นจนแยกไม่ออกว่าคือความรัก…หรือกับดักรุ่งเช้าวันนั้นเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้นขณะจอมขวัญกำลังจัดอาหารเช้าใ
จอมขวัญจัดเสื้อผ้าเรียบง่าย เสื้อผ้าฝ้ายสีขาวกับผ้าถุงลายทาง มือเธอถือถุงข้าวกล่องสองใบ ใบหนึ่งสำหรับตัวเอง อีกใบสำหรับเสือหาญ “พี่จะพาไปจริงเหรอ?”เธอถามยิ้ม ๆ ขณะเขาเดินมาปิดประตูบ้าน“อืม ไปสิ วันนี้พี่มีงานไม่มาก อยากให้ขวัญเห็นกองด้วย จะได้รู้ว่าพี่อยู่ยังไงเวลาไม่อยู่บ้าน”น้ำเสียงเขาเรียบแต่เต็มด้วยความตั้งใจบนรถ เสียงเครื่องยนต์ดังเบา ๆ ล้อบดฝุ่นตามทางดินแดง เสือหาญขับช้า ๆ กว่าปกติ ราวกับอยากยืดเวลาช่วงนี้ให้นานที่สุดจอมขวัญมองวิวข้างทางที่คุ้นตา แต่ในใจกลับรู้สึกแปลกใหม่ เหมือนเธอกำลังได้ “รู้จักผู้ชายของเธออีกครั้ง”“ไม่คิดเลยว่ากองจะอยู่กลางทุ่งขนาดนี้”“ก็แถวนี้เงียบดี เวลาสืบคดีต้องอาศัยสมาธิ” เขาตอบพร้อมรอยยิ้มที่หายไปจากหน้าเขามาหลายวันพอรถจอดหน้ากอง เสียงสุนัขเห่าต้อนรับกับเสียงลูกน้องตะโกน “สารวัตรมาแล้ว!” ดังทั่วลานเสือหาญหัวเราะ “ขวัญ อย่าตกใจนะ พวกมันเสียงดังแต่ใจดี”เธอยิ้มบาง ๆ แล้วพยักหน้า เดินตามเขาเข้าไปในอาคารไม้เก่าลูกน้องหลายคนมองจอมขวัญด้วยแววตาเอ็นดู “อ้าว นี่แม่บ้านของสารวัตรเหรอครับ วันนี้มาเยี่ยมถึงกองเลย” “ใช่จ้ะ พอดีอยากเห็นที่ทำงานของพี่เขา







