ใบบัวนั่งกอดเข่าอยู่ในมุมเล็ก ๆ ของกระท่อม ผู้ชายที่พาเธอเข้ามาในนี้จากไปแล้ว ทิ้งไว้แต่เพียงความมืดมิด และอากาศที่เย็นยะเยือกเพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมา
ในช่วงเวลาที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต ใบบัวในวัยสิบแปดปีก็อดคิดถึงพ่อแท้ ๆ ไม่ได้ ความทรงจำเมื่อตอนอายุห้าขวบเลือนลางแต่กลับเต็มไปด้วยความสุข พ่อมักจะกอดเธอเสมอ แม้แต่วันที่หมดลมหายใจ พ่อก็ยังตระกองกอดเธอไว้ในอ้อมแขนไม่ยอมปล่อย
ถ้าพ่อยังอยู่ เธอคงไม่ต้องมาเจอกับเรื่องราวเลวร้ายแบบนี้ เพราะพ่อจะปกป้องเธอเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้
เหตุใดพ่อถึงได้ทิ้งใบบัวไปเร็วนัก
“พ่อจ๋า เดี๋ยวใบบัวก็จะได้ไปหาพ่อแล้วนะ”
ใบบัวสะอื้นไห้ กอดตัวเองแน่นขึ้นเพราะความหนาวเหน็บ เธอสวมผ้าถุงเพียงตัวเดียว เนื้อตัวเย็นเฉียบและสั่นระริก
แกร๊ก..
แสงไฟสลัวจากด้านนอกสาดส่องเข้ามาเมื่อบานประตูไม้ไผ่เปิดออก หญิงสาวลืมตาขึ้นมอง เธอไม่เห็นอะไรนอกจากเงาทะมึนที่ใหญ่โตสูงเท่ากรอบประตู ยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
“คะ ใคร.. พี่เป็นใครหรือจ๊ะ”
ปัง!
เจ้าของเงาดำไม่ตอบ แต่กลับปิดประตูเสียงดังจนกระท่อมสะเทือน สาวน้อยผวาเฮือก ตัวสั่นเทาเพราะความหวาดกลัวจับใจ
หรือว่าคน ๆ จะเป็นราชัน ผู้ชายที่ต้องการแก้แค้นกำนันมิ่ง
เวลาตายของเธอมาถึงแล้วหรือ...
“พะ.. พี่”
“อย่าสะเออะมาเรียกกู!”
เสียงทุ้มดุดันจนใบบัวต้องรีบปิดปากเงียบ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ๆ ด้วยความหวาดกลัว ดวงตากวางมองเงาตะคุ่มที่ค่อย ๆ เดินเข้ามาใกล้
“อ๊ะ!”
ร่างอวบอิ่มถูกมือหนากระชากให้ลุกขึ้นยืนอย่างแรง ใบบัวเผลอร้องอุทาน ก่อนจะรีบงับริมฝีปากที่สั่นระริกเอาไว้
“ตัวมึงหอม” เสียงดุแหบพร่ากระซิบชิดใบหูเล็ก “คืนนี้กูจะเอาจนมึงลืมไม่ลงเลยทีเดียว อีลูกจันทร์!”
“มะ ไม่”
จอมโจรเหวี่ยงร่างอิ่มไปที่เตียงไม้ไผ่แข็ง ๆ แรงมีเท่าไรราชันใส่ไปจนหมด ไม่คิดถนอมเพราะทั้งโกรธและเกลียดพ่อของผู้หญิงคนนี้จับใจ
เกลียดจนต้องกินยาดองผสมยาปลุกกำหนัดก่อนเข้ามาในกระท่อมหลังนี้ เพราะราชันไม่มีอารมณ์กับลูกศัตรู
จอมโจรกระชากผ้านุ่งออก ท่อนลำกลางกายตั้งตระหง่านชูชันอวดความน่าเกรงขามในความมืด ใบบัวผวาถอยหนี สาวน้อยไม่ได้ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ทำอะไรได้บ้าง แต่มันใหญ่ และน่ากลัวเหลือเกิน..
“กลัวกูหรือ?”
ราชันแสยะยิ้ม เอื้อมมือลงไปรูดรั้งท่อนลำใหญ่ยาวเนิบ ๆ
“ที่มึงเคยเจอมีแต่เล็ก ๆ หรืออย่างไร”
ลูกจันทร์ ลูกสาวคนเดียวของไอ้มิ่งมันไม่ได้สดซิงอะไร มันมีผัวแล้ว แถมยังมีหลายคนเสียด้วย เรื่องนี้ราชันรู้ดี เพราะหน้าตาสะสวยของมัน หุ่นอ้อนแอ้นบอบบาง รวมถึงผิวพรรณที่ขาวจัดผิดแปลกจากชาวบ้านที่ต้องทำงานตากแดดตากลม ทำให้มีหนุ่มมาติดมันตรึม และมันก็รับน้ำใจผู้ชายพวกนั้นทุกคน ราชันรู้แม้กระทั่งเด็กใจแตกคนนี้เคยหลับนอนกับผู้ชายหลายคนในคราวเดียวกัน ผู้หญิงร่านราคะ ขี้คร้านถูกจับมาแบบนี้จะชอบใจจนไม่อยากกลับด้วยซ้ำ
ส่วนไอ้มิ่งนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากับราชันมานานนม ด้วยอายุที่ห่างกันแค่สิบปี แต่เส้นทางที่แตกต่างทำให้ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก ทว่าก็ไม่เคยถึงขั้นทะเลาะเบาะแว้งกัน ต่างคนต่างอยู่ ราชันไม่ใส่ใจแม้จะรู้ว่าไอ้มิ่งหาทางกำจัดตนเองตลอดเวลา จนกระทั่งมันจับเอามะลิ เมียสาวคนสวยของจอมโจรไปข่มเหง
คล้ายถูกเหยียบหน้า ราชันไม่อาจนิ่งเฉยได้อีกต่อไป
ดังนั้นการเอาคืนไอ้มิ่งด้วยการจับลูกสาวมันมาข่มเหงเช่นเดียวกัน นับเป็นการเอาคืนที่เจ็บแสบที่สุด ไอ้มิ่งเกลียดราชันมาก พยายามหาทางเอาเข้าตะรางหลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้ สุดท้ายก็ใช้วิธีโสมม ทำร้ายผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้ ในเมื่อมันกล้าทำขนาดนี้ราชันก็จะตอบกลับด้วยวิธีเดียวกัน แต่มันต้องเจ็บแสบยิ่งกว่า
“พี่จ๋า”
เสียงหวาน ๆ ดึงความคิดของราชันกลับมา เขาเพ่งมองเงาเลือนลาง เห็นลูกสาวที่ทะนงว่าตัวเองอยู่เหนือกว่าใครของไอ้มิ่งยกมือขึ้นไหว้เขาปลก ๆ
จอมโจรแสยะยิ้ม สะใจที่ได้เห็นคนที่คิดว่าตัวเองสูงส่งนักหนา ยกมือไหว้โจรอย่างเขาแบบนี้
“ยะ อย่าทำฉันเลยนะจ๊ะ ฉันขอร้อง”
“คนอย่างมึงขอร้องใครเป็นด้วยหรืออีจันทร์”
“ไม่ ฉันไม่ใช่..”
“มึงชอบนักไม่ใช่หรือ นอนแหกขาให้ผู้ชายเอาน่ะ”
“มะ.. ไม่ใช่นะจ๊ะ!”
“เลิกตอแหลได้แล้วอีจันทร์! กูไม่ใจอ่อนเพราะกูไม่ได้โง่ วันนี้กูจะเอามึง แล้วส่งมึงให้ลูกน้องของกูเอาต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่ามึงจะท้อง ถึงวันนั้นกูจะส่งมึงกลับไปให้พ่อของมึง กูล่ะอยากรู้นักว่าไอ้มิ่งจะกระอักแค่ไหนที่รู้ว่าลูกรักของมันถูกโจรอย่างพวกกูข่มเหงจนย่อยยับ”
“ไม่นะจ๊ะ!”
ใบบัวเสียงสั่นเครือ ไม่คิดว่าความแค้นของเขาจะรุนแรงถึงเพียงนี้ หากทำกันขนาดนี้ไม่สู้ฆ่าเธอให้ตายไปไม่ดีกว่าหรือ
“อย่างน้อย ๆ เด็กก็ไม่เกี่ยว อย่าทำแบบนี้เลยนะจ๊ะพี่”
“กูหูฝาดหรือวะที่ได้ยินมึงพูดแบบนี้” ราชันเหยียดยิ้มในความมืด “ผู้หญิงสำส่อนที่ท้องไม่มีพ่อจนต้องเอาออกนับครั้งไม่ถ้วนอย่างมึงห่วงเด็กเป็นด้วยหรือ ถุย! เล่นละครเก่งนักนะมึง ไม่ไปเป็นดาราในโทรทัศน์เลยล่ะ อ้อ.. คงไม่ได้สินะ เพราะเป็นดาราคงทำตัวร่านไม่ได้!”
“พี่...”
ใบบัวสะเทือนใจนัก แม้รู้ว่าราชันไม่ได้หมายถึงตัวเอง แต่คนที่ต้องฟังคำหยาบคายในตอนนี้คือเธอ.. ไม่ใช่ลูกจันทร์ และเธอก็ไม่ได้แข็งแกร่งจนไม่รู้สึกอะไรกับคำด่าทอพวกนั้น
“โอ๊ย!!”
เสียงหวานร้องลั่นเมื่อขาถูกดึงกระชาก กายน้อยครูดไปกับไม้ไผ่ แผ่นหลังส่วนที่ไม่มีผ้าปกคลุมแสบร้อนจากการเสียดสี ราชันไม่รอให้สาวน้อยได้พูดมากอีก มือใหญ่จับขาเรียวแยกออกกว้าง แล้วถลกผ้าถุงขึ้นไปกองที่หน้าท้องแบนราบ
“ขาวแบบนี้สินะผู้ชายถึงได้เดินตามมึงต้อย ๆ”
ถึงจะเกลียดแสนเกลียดแต่ราชันก็ยอมรับว่าลูกจันทร์มีผิวกายที่ขาวสะอาด มันผุดผาดจนมองเห็นความขาวแม้จะอยู่ในคืนเดือนดับ
“พี่ ฉันไม่ใช่ลูกจันทร์! ฉันไม่ใช่ลูกจันทร์นะ!”
ใบบัวรีบละล่ำละลักบอก เธอขวัญผวาและหวาดกลัว เพราะหลังจากสวมใส่บางอย่างเรียบร้อยแล้ว ราชันก็จับสิ่งใหญ่โตนั้นเข้ามาใกล้เนินสาวที่ไม่เคยถูกชายใดแตะต้อง
มันใหญ่มาก ใหญ่เกือบเท่าท่อนแขนเธอเลยทีเดียว ถ้ามันเข้ามาในตัว ส่วนนั้นของเธอคงฉีกขาดจนจำรูปเดิมไม่ได้
“ตอแหล!”
ราชันไม่สนใจฟังความจริง แขนแกร่งจับขาขาวพาดบ่า จ่อหัวบานใหญ่กับเนื้อนุ่มที่แห้งผาก
“ไม่ต้องเล้าโลมหรอก อย่างมึงคงหลวมโพรกหมดแล้ว”
“ไม่นะจ๊ะ! อย่า อ๊ะ! โอ้ย!!”
ใบบัวดิ้นพล่านทันทีที่ส่วนหัวถูกดันเข้ามาเพียงเล็กน้อย เธอดิ้นจนมันหลุดออก ในตอนนั้นเองที่ราชันรู้สึกแปลกใจ
เท่าที่สัมผัส ร่างกายของผู้หญิงคนนี้เต็มไม้เต็มมือต่างจากลูกจันทร์ที่ราชันเคยเห็น ลูกสาวไอ้มิ่งมีรูปร่างผอมบางเหมือนไม้กระดาน ไม่ได้เต็มแน่นแบบนี้
และที่สำคัญ..
ราชันยัดไม่เข้า
เป็นไปไม่ได้ที่ผู้หญิงอย่างอีจันทร์จะรับของเขาไม่ได้ เมื่อวานตอนไปดูลาดเลา ราชันยังเห็นว่ามันกำลังเริงสวาทกับท่อนเอ็นของไอ้หนุ่ม ลูกชายผู้ใหญ่สิงห์ในยุ้งข้าวอยู่เลย
คิดได้ดังนั้นราชันก็ลุกพรวดขึ้น จอมโจรจุดไฟตะเกียงจนสว่าง แล้วส่องเข้าที่ใบหน้าของผู้หญิงที่จับตัวมา
“เฮ้ย!”
ร่างใหญ่เผลอก้าวถอยหลังด้วยความตกใจ เพราะผู้หญิงที่คิดว่าเป็นลูกสาวของศัตรูกลับไม่ใช่ หนำซ้ำยัง..
มีใบหน้าที่อัปลักษณ์ แตกต่างจากลูกจันทร์อย่างสิ้นเชิง
หมู่บ้านกอบัวเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีประชากรราวห้าสิบครัวเรือน ชาวบ้านมีรายได้จากการค้าขายพืชผลทางการเกษตร นับว่าโชคดีที่ราชันได้ผืนดินตรงนี้มา เพราะมันอุดมสมบูรณ์และปลูกพืชผักผลไม้ได้ทั้งปี อากาศไม่ร้อนมาก และยังมีน้ำไหลผ่านแม้ในหน้าแล้ง ชาวบ้านจึงไม่เคยต้องอดยาก ทั้งยังนำผลผลิตออกไปขายสร้างรายได้ให้ครอบครัวได้อีกด้วยหลังจากฝึกงานและสอบปฏิบัติผ่าน ราชันก็ขนลูกเมียกลับมายังหมู่บ้านทันที ใบบัวนั้นบ่นทุกวันว่าไม่ชอบเมืองหลวง คนเป็นผัวจึงไม่อยากโอ้เอ้อยู่ที่นั่นนานอยู่บ้านตัวเองมันดีกว่าเป็นไหน ๆ“ค่อย ๆ เดินคนดี” ฝ่ามือใหญ่โอบประคองร่างเมียรักอย่างเบามือ “อีกนิดเดียว อึ๊บ!”“ร้อน”เพียงแค่คำพูดเดียวราชันก็รีบหยิบพัดขึ้นมาโบกตรงหน้า สีหน้าหงุดหงิดของเมียรักดูผ่อนคลายขึ้นให้คนเป็นผัวได้เบาใจใบบัวเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อห้าเดือนก่อน ตอนนั้นเขาและครอบครัวย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ ได้เพียงสองเดือน เช้าวันหนึ่งใบบัวมีอาการอ่อนเพลียและหงุดหงิดง่าย อะไรไม่ถูกใจเพียงเล็กน้อยก็พร้อมจะโวยวายทุกเมื่อ คราแรกราชันคิดว่าเป็นเพราะอากาศหรือไม่ก็สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป จนกระทั่งอีกสามวันต่อมาใบบัวกลับอาการห
ใบบัวกลับบ้านมาพร้อมกับความโกรธและความเสียใจ ดีแค่ไหนที่ครานี้เธอไม่ได้พาลูกชายไปด้วย ไม่อย่างนั้นลูกคงเสียใจมากกว่าเธอเป็นร้อยเท่าพันเท่าที่ไม่ได้เจอหน้าพ่อหากไม่ใช่เพราะใบบัวรู้สึกแปลกใจกับจดหมายฉบับล่าสุด ที่ราชันบอกว่าไม่ต้องมาเยี่ยมหากันสักเดือนแล้วตัดสินใจนั่งรถไฟไปหา เธอก็คงกลายเป็นคนโง่งมที่ไม่รู้อะไรเลยต่อไป และคงไม่มีวันได้รู้ว่าราชันนั้นกำลังโกหกหลอกลวงกันถึงขั้นนี้ผู้ชายเฮงซวย!ป่านนี้คงมีความสุขกับรักใหม่ ผู้หญิงคนใหม่ไปแล้ว ปล่อยให้เธอรอคอยเหมือนคนโง่ตั้งสามปี ช่างเสียเวลาเสียจริงใบบัวนั้นไม่มีแม้สักวันจะเลิกรักราชัน ต่อให้ติดคุกติดตารางใบบัวก็ยังเฝ้ารอเสมอ จะสามปีสิบปีก็ยังรอไม่เปลี่ยนแปลง ใช่ว่าที่ผ่านมาจะไร้คนมาเกี้ยวพาราสี ทว่าเธอรักมั่นเพียงราชัน รอเพียงราชันคนเดียวไม่เคยหันไปทางอื่นแม้แต่เพียงหางตานี่หรือคือสิ่งที่คนจงรักภักดีแบบเธอได้รับตอบแทน“แม่จ๋าทำอะไร”“เก็บเสื้อผ้าจ้ะ”“แม่จ๋าจะไปไหนจ๊ะ”“แม่ไม่ได้ไปไหน” ดวงตากวางวาวโรจน์ เธอไม่ร้องไห้หรอก เธอไม่อยากเสียน้ำตาให้คนเฮงซวย “คนบางคนต่างหากที่ต้องไป”เรือนนี้เป็นเรือนของเธอ คนที่ต้องไปคือคนทรยศต่างหาก เธอไม่
“แม่จ๋า” เสียงใส ๆ ของลูกชายปลุกให้ใบบัวตื่นจากภวังค์ “ย้องไห้ทะมาย”มือเล็กพยายามเช็ดน้ำตาบนแก้มนวล เด็กชายเบะปากอยากจะร้องไห้ตามเมื่อเห็นน้ำตาของแม่“แม่เปล่าจ้ะ”“เด็กดี ต้อมม่ายโกหกน้า”ใบบัวหลุดหัวเราะกับคำพูดคำจาของลูกน้อย คชสารอายุเกือบสองขวบ อยู่ในวัยกำลังพูดกำลังจำ ไม่ว่าจะสอนอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง“แม่คิดถึงพ่อ”"เดี๋ยวพ่อกาบมา" เด็กน้อยพูดตามที่แม่บอก เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว แม่ใบบัวพร่ำบอกแบบนี้มาตลอด“ใช่จ้ะ เดี๋ยวพ่อก็กลับมาแล้ว”..หนึ่งปีต่อมาเวลาเดินไวจนน่าใจหาย ทว่ามันกลับยาวนานในความรู้สึกของทั้งคนที่รอ และคนที่ถูกคุมขัง ราชันอดีตจอมโจรนั่งเหม่อมองท้องฟ้าและนกที่บินไปมาด้วยความริษยา มันดูเป็นอิสระและมีความสุขกับการโบยบิน ต่างจากตัวเขาที่ต้องถูกจองจำในเรือนจำที่มีผู้คุมมากมายเขาคิดถึงใบบัว คิดถึงลูกชาย ไม่รู้ว่ายามนี้เมียรักจะทำอะไรอยู่ราชันไม่ได้พบใบบัวบ่อยเท่าไหร่นัก เพราะเขาถูกคุมขังที่เมืองหลวง ใบบัวที่อยู่ตอนเหนือของประเทศไม่สะดวกเดินทางบ่อย ๆ แต่ถึงอย่างนั้นเมียรักก็มักจะนั่งรถไฟพาลูกมาเยี่ยมหาเดือนละครั้งเป็นอย่างน้อย รวมถึงส่งจดหมายมาหาอาทิตย์ละครั้งไม่เคยข
“พี่ราชันเองก็มีลูก ย่อมต้องเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อแม่” เสียงสั่นเครือทั้งอ้อนวอนทั้งตำหนิอยู่ในที “เราไม่อาจอยู่แบบบ้านป่าเมืองเถื่อนได้ ลูกหลานเราต้องได้เรียน ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ”ช่วงเกือบสองปีที่ผ่านมาหลังจากเปลี่ยนที่ตั้งของหมู่บ้าน ราชันก็ตัดสินใจยกเลิกวิถีชีวิตแบบโจร เขาและชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างคนทั่วไป ปลูกข้าวปลูกผักเลี้ยงสัตว์ขายหารายได้เข้าหมู่บ้าน มีการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ไปมาหาสู่กัน หลายคนพบรักกับคนข้างนอกและพากลับมาสร้างครอบครัว จากที่มีชาวบ้านไม่ถึงร้อยคน วันนี้มีผู้อาศัยราวสี่สิบครัวเรือนหรือเกือบสองร้อยชีวิตแล้วทว่า หมู่บ้านที่เริ่มขยายใหญ่เป็นหมู่บ้านที่ยังไม่ได้รับการจัดตั้งตามกฏหมาย สวัสดิการจากรัฐยังเข้าไม่ถึง และหากยังไม่รีบจัดตั้งหมู่บ้านให้ถูกต้อง วันข้างหน้าพวกเขาอาจจะถูกไล่ที่โดยไม่เป็นธรรม นั่นคือสาเหตุที่พักนี้ราชันมักจะได้ยินประโยคพวกนี้จากชาวบ้านเสมอ และส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้มาอยู่ใหม่ที่ต้องการความเจริญมากกว่าวิถีเดิม ๆ ที่ไม่ต่างอะไรจากคนป่า“หากยื่นเรื่อง อดีตที่ฉันทำไว้คงถูกขุด”นี่เป็นเรื่องเดียวที่ทำให้ราชันยังคงลังเล หากจะจัดตั้งหมู่บ้านเรื่อ
ย่างเข้าเดือนที่เก้า ใบบัวมีอาการปวดเมื่อยมากขึ้นเพราะท้องที่ขยายใหญ่ เดิมทีร่างกายของเธอไม่ได้ผอมแห้งแต่ก็นับว่าเป็นผู้หญิงตัวเล็ก เมื่อต้องมาโอบอุ้มท้องขนาดใหญ่จึงรู้สึกเหนื่อยง่าย ปวดเนื้อปวดตัวเป็นประจำราชันคอยดูแลเมียรักอย่างดี เขาเปลี่ยนที่นอนให้เมียใหม่ ซื้อเบาะนั่งนุ่ม ๆ มาให้เมียนั่ง คอยบีบนวดไม่ห่าง ทำหน้าที่ผัวที่ดีไม่มีขาดตกบกพร่อง เมียอยากได้อะไรราชันหามาให้ทุกอย่าง ใคร ๆ ก็บอกว่าใบบัวโชคดีที่ได้ผัวเข้าใจคนท้องอย่างราชันแต่ราชันกลับเถียงทุกครั้งว่าเป็นตัวเขาต่างหากที่โชคดี ใบบัวเสียสละเหลือเกิน ชายหนุ่มเห็นท้องที่ใหญ่ขนาดนี้ก็ได้แต่คิดว่าใบบัวหายใจออกหรือไม่ นอนหลับสนิทบ้างหรือเปล่า จะหนักแค่ไหนที่ต้องอุ้มเด็กคนหนึ่งไว้ตลอดเวลาก่อนท้องใบบัวจะเข้านอนทีหลังและตื่นก่อนราชันเสมอ แต่หลังจากเข้าเดือนที่เจ็ดใบบัวก็นอนมากขึ้น เธอเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำและตื่นสาย หน้าที่ภรรยาไม่สามารถทำได้อีกต่อไป แต่แทนที่ราชันจะรู้สึกไม่พอใจ เขากลับยินดีกินอาหารที่ไม่ถูกปากเพื่อให้เมียได้นอนพักผ่อนนานขึ้นกว่าเดิม“พี่รักใบบัวเหลือเกิน”ราชันจุมพิตปรางนวลเนียน นับวันความรักของเขายิ่งมากล้น ไม่มีท
“ค่อย ๆ นะ ค่อย ๆ เดินจ้ะใบบัว ไม่ต้องรีบ”ทันทีที่ร่างอุ้ยอ้ายปรากฎตัวสองก็รีบปรี่เข้าไปดูแลอย่างรวดเร็ว ทว่าใบบัวกลับส่ายหน้าเบา ๆ แล้วชี้ไปด้านหลัง“พี่สองช่วยไปดูพี่ราชันหน่อยได้ไหมจ๊ะ ตั้งแต่เช้ายังอ้วกไม่หยุดเลย”“ห้าเดือนกว่าแล้วนา ทำไมถึงยังแพ้หนักแบบนี้”ใบบัวตั้งท้องได้ห้าเดือนกว่าแล้ว ท้องสาวขยายใหญ่จนเริ่มเดินลำบาก ปกติในเวลานี้อาการแพ้ท้องจะเริ่มหายไป แต่ราชันที่รับหน้าที่แพ้ท้องแทนเมียกลับยังมีอาการเหมือนเดิมไม่ลดน้อยลงถ้าบอกว่าลูกแกล้ง ลูกคงแค้นมากจริง ๆ“อย่างนั้นพี่ไปดูพี่ราชันก่อนแล้วกัน”“จ้ะ”“ไม่ต้อง” พูดถึงราชัน ราชันก็มา ร่างกำยำยืนใช้สองมือค้ำยันกรอบประตูด้วยท่าทางโรยแรง “มึงดูใบบัวไปให้ดี อย่าให้สะดุดเชียว”“พี่สองไปดูแลพี่ราชันดีกว่า ใบบัวไม่เป็นอะไร”“สอง มึงดูแลใบบัวนั่นแหละ กูชินแล้ว”“แต่พี่ราชันหน้าซีดมากนะจ๊ะ”“พี่ไม่เป็นอะไรเลยใบบัว ห่วงตัวเองเถิด ถ้าใบบัวเป็นอะไรพี่คงขาดใจตาย”“เอ่อ..”สองที่เป็นคนกลางทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนมองสองผัวเมียที่ต่างคนต่างห่วงหากันจนโยนให้เขาไปดูแลอีกฝ่ายตาปริบ ๆ“อ่า เอาแบบนี้ดีกว่า ฉันดูแลพี่ราชัน ส่วนแม่มะลิก็ดูแลใบบัว”