ตอนนี้ถึงคราวที่แฟรงค์คลินต้องแปลกใจบ้าง “ไม่มีทาง วิคเตอร์ นี่นายรู้จักเขาอย่างงั้นเหรอ? เขาเป็นคนไม่มีอะไรเลยนอกจากเป็นขยะไร้ค่า และเขาก็ไม่มีอะไรดีสักอย่างนอกจากเทคนิคศิลปะการต่อสู้ที่น่าสมเพช นายแน่ใจเหรอว่าใช่คนเดียวกัน?”วิคเตอร์ขมวดคิ้ว ขณะที่พยายามนึกว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน แต่แม้ว่าเวลาจะผ่านไปครู่หนึ่งแล้ว เขาก็ยังคิดไม่ออกสักที เขาส่ายหัวพลางพูดว่า “ฉันจำไม่ได้ ว่าฉันเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน ตอนนี้ที่ฉันรู้ก็มีแค่นี้แหละ”“มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ๆ คนไร้ค่าอย่างเขาจะสามารถดึงดูดความสนใจของนายได้ยังไง?” แฟรงค์คลินหัวเราะออกมาเบา ๆความสนใจของวิคเตอร์ทำให้เขารู้สึกโกรธ เมื่อเขาสังเกตเห็นท่าทางที่ไม่พอใจของแฟรงค์คลิน เขาจึงเอ่ยถามพี่ชายของเขาว่า “นิสัยใจคอของคนลาร์สันมันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ แฟรงค์คลิน? ฉันไม่เคยเห็นพี่โกรธเคืองกับเด็กคนนี้มาก่อน”"ฮึ่ม!" แฟรงค์คลินรู้สึกว่าเขากำลังโกรธเกรี้ยวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อพวกเขาได้พูดถึงชายที่เป็นตัวปัญหาคนนั้น เขาดึงแขนเสื้อของเขาขึ้น และตั้งท่าต่อสู้ขึ้นมาเพื่อดับความโกรธที่มันกำลังเดือดพล่านอยู่ภายในตัวเขา “เขาไม่ได้
เมื่อเห็นว่าอเล็กซานดรายังไม่ยอมหยุดเร้าหรือง่าย ๆ เซนจึงรีบตัดบทว่า “เอาล่ะเราถึงแล้ว ได้เวลากลับห้องพักโรงแรมแล้ว”อเล็กซานดราไม่ชอบความคิดที่จะต้องแยกจากกันในตอนนี้ เธอทักท้วงขึ้นมาด้วยความดื้อรั้น “แล้วเธอล่ะ? เธอเพิ่งจะหย่ากับภรรยามาแล้วเธอจะไปอยู่ที่ไหน?”“ฉันมีที่ไปเยอะแยะน่า เยอะจนฉันแทบจะเลือกไม่ถูกเลย” เซนยิ้มพลางบอกแท็กซี่ให้ออกรถขณะที่อเล็กซานดรามองดูเขากลับไป เธอกำหมัดเอาไว้แน่นและขยี้จมูกเพื่อแสดงความมุ่งมั่นของเธอ “ก็ได้ ไม่ต้องบอกฉันก็ได้ ยังไงสักวันฉันจะต้องรู้เรื่องราวของเธอให้ได้”ไนท์1998 เป็นบาร์ลับที่อยู่ในตรอก ที่มีคนเข้ามาใช้บริการไม่เกินสิบคน เมื่อเซนเข้ามาในร้านเขาก็รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก บนเวทีไม่มีนักเต้นที่เซ็กซี่แม้แต่คนเดียว มีเพียงชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะมีอารมณ์อ่อนไหวกำลังร้องเพลงเศร้าอยู่ธุรกิจบาร์ถือว่าเป็นการสูญเสียระยะยาว ทุกคนสามารถเห็นได้ว่ามันถึงวาระที่ธุรกิจนี้ควรจะต้องปิดตัวลงได้แล้ว แต่ทว่าบาร์แห่งนี้ก็ยังคงเปิดให้ใช้บริการอยู่หลังจากผ่านมาตั้งเจ็ดถึงแปดปี มันขาดทุนมากมายถึงหลายแสนดอลลาร์ต่อปี แต่ยังไงมันก็คือธุรกิจอยู่ดีเหล่า
หลังจากที่เขาผล็อยหลับไป ลูกค้าในบาร์ก็ลุกขึ้นทีละคนพลางก้มโค้งตัวลงคับนับต่อหน้าเซนที่ยังคงนอนแผ่อยู่บนโซฟาในขณะที่หลับสนิท จากนั้นพวกเขาก็เริ่มลงมือ คนหนึ่งเดินไปปิดประตู คนหนึ่งห่มผ้าให้กับเซน และอีกคนกำลังออกโทรไปหาใครบางคน “สวัสดีครับบอส ผมยินดีที่จะแจ้งให้บอสทราบว่านายท่านได้กลับมาแล้ว”บาร์ถูกปิดลงภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที แสงนีออนที่ส่องประกายถูกปรับให้หรี่ลง และชายวัยกลางคนที่ร้องเพลงอยู่ก็เดินลงมาจากเวที เขาเดินไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าอาจมีเสียงไปปลุกเซนให้ตื่น แม้ว่ามันอาจจะดูเป็นไปไม่ได้ก็ตาม ใครก็ตามที่ดื่มแซฟไฟร์แฟนธ่อมเข้าไปร่างกายจะรู้สึกหนาวเย็นไปชั่วขณะ พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาแม้ว่าคุณจะตั้งการแสดงโชว์ดอกไม้ไฟไว้ข้าง ๆ พวกเขา ทุกคนต่างถือแนวคิดนี้ไว้ในใจเป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็ยังคงมั่นใจว่าพวกเขาอ่อนโยนและสุขุมรอบคอบขณะที่ทำต่อไป เพราะว่ามันคือสัญลักษณ์ของพวกเขาที่ทำไว้เพื่อเซนประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้หญิงรูปร่างสูงสวมเสื้อกันฝนคนหนึ่งเดินเข้ามาในบาร์ เธอมีออร่าของผู้สั่งการอย่างเหลือเชื่อ แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง แต่เธอก็สูงเกือบ 6 ฟุต เธอเซ็กซี่ขยี้ใจสุด ๆ
ภาพที่น่ารื่นรมย์เหล่านั้นได้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ราวกับกระจก ก่อนจะสลายหายไปเป็นฝุ่นผง เขาเฝ้าดูคุณปู่ของเขาจากอาการโคม่า และทุกคนในครอบครัวต่างก็สงสัยว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังของอาการป่วยในครั้งนี้ ไม่ว่าเขาจะพยายามอธิบายมากแค่ไหน ไม่ว่าเขาจะดิ้นรนหรืออ้อนวอนสักเท่าไหร่ก็ไม่มีใครเชื่อเขาเลยสักคน เขาคุกเข่าลงต่อหน้าของทุกคนและถูกทุบตีจนฟกช้ำไปทั้งตัว ขณะที่พวกเขาพากันสาปแช่งเขาราวกับว่าเขาเป็นเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ ในที่สุดเขาก็ถูกเนรเทศให้ออกจากตระกูลลาร์สัน เขากลายเป็นคนไร้บ้านและเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการเขาแต่งงานเขามาในครอบครัวคาร์เตอร์ เพื่อหนีจากความโหดเหี้ยมของตระกูลลาร์สัน เขากลายเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว และเป็นคนที่ต้องซ่อนตัวจากโลกใบนี้เพื่อเตรียมการกลับมาที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมเขาคิดที่จะออกไปจากเมืองวอลซ์แห่งนี้ แต่ว่าซีดาร์นกลับไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ซีดาร์นรู้ดีถึงความสามารถของเขา และเขาจะอยู่อย่างสงบสุขได้ก็ต่อเมื่อตระกูลลาร์สันจับตาเฝ้าดูเซนให้อยู่ในสายตาต่อไปโชคดีที่ปู่ของเขาฟื้นคืนสติได้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลง เขาลบล้างชื่อของเซนออกจากมลทินทั้งหมด และทิ้งทรัพย์สินท
เซนดึงลูกกลิ้งบานประตูขึ้น ก่อนจะเดินออกไปจากบาร์ แสงแดดอบอุ่นกำลังสาดส่องลงมาอย่างร่าเริง เพื่อต้อนรับการกลับมาของเขาผู้หญิงคนนั้นเฝ้ามองดูเขาเดินจากไป ขณะที่ใจหนึ่งก็คิดว่าควรจะตามเขาออกไป แต่ทว่าเธอก็พยายามหยุดตัวเองไว้ได้ในที่สุด เธอรู้ว่าเซนเป็นคนอย่างไร ไม่มีความพยายามใด ๆ ที่จะโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนการตัดสินใจของเขาได้ และมันก็ไม่ช่วยอะไรนอกจากจะทำให้เขารู้สึกรำคาญมากขึ้นไปอีก เธอจึงเรียกคนของเธอให้กลับมาหาที่บาร์หลังจากที่ได้นอนหลับไปถึงสิบแปดชั่วโมงแล้ว เซนก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนใหม่ที่สดชื่นและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใด ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิตของเขาแล้ว เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะจมปลักอยู่กับความเวทนาของตนเอง การหย่าร้างกับเฟย์ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดก็จริง แต่มันคงต้องใช้เวลามากกว่านั้น ถ้าจะล้มเขาลงและกักขังให้เขาอยู่ที่นั่นตลอดไปตอนนี้เขาได้นอนหลับเต็มอิ่มและฟื้นตัวขึ้นมาแล้ว มันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะใช้ชีวิตต่อไป เพราะยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังรอการกลับมาของเซน หลังจากที่ออกมาจากไนท์1998 เขาก็ไปทำงานที่บริษัทไวโอเล็ต วิชั่น ทันที เขารู้สึกราวกับว่าทุกอย่างได้กลับมาเ
“วิลเลียมเขาเป็นเด็กดี… เขาเฉลียวฉลาดและสุภาพอ่อนโยน และเขาก็เป็นคนมีความสามารถ สิ่งสำคัญคือชาติตระกูลทางครอบครัวของเขาก็เท่าเทียมกับเรา เขามีบุคลิกภาพที่ค่อนข้างดี ลูกจะมีความสุขถ้าลูกได้แต่งงานกับเขานะ” ราเชลกล่าวอย่างใจเย็นอเล็กซานดราตะคอกกลับด้วยความดูถูก “โกหก! เซนเคยบอกกับหนูว่าวิลเลียมเป็นแค่คนขี้ขลาดคนหนึ่งเท่านั้น เขาเป็นเสือผู้หญิง ใครจะรู้ว่าเขามีผู้หญิงที่คบหาไว้เล่น ๆ อีกกี่คน? เขาก็แค่ปิดบังเรื่องพวกนี้เก่งเท่านั้นแหละ และพ่อกับแม่ก็ไม่มีทางจับเขาได้หรอก! ถ้าหนูแต่งงานกับเขาไปละก็ ชีวิตของหนูก็คงจะเหมือนตกนรกทั้งเป็น ชีวิตของหนูคงได้จบสิ้นลงแค่นี้แน่ ๆ”วิคเตอร์และราเชลสบสายตากันอีกครั้งก่อนจะเอ่ยถามต่อว่า “อเล็กซานดรา ไหนลูกลองบอกพวกเราทีสิ ว่าเซนคนนี้มีความสำคัญกับลูกยังไง?”อเล็กซานดรากลอกตามองบนพลางตอกกลับ “ขอร้องเถอะแม่ เลิกเสแสร้งสักที! ลุงแฟรงค์คลินคงบอกพ่อกับแม่ไปหมดทุกอย่างแล้ว!”“เอ๊ะ นังเด็กเหลือขอคนนี้ แฟรงค์คลินเขาเป็นลุงของลูกนะ ลูกพูดถึงเขาแบบนั้นได้ยังไง?” วิคเตอร์ทำหน้าบึ้งตึง“ก็เขาเป็นคนไม่มีเหตุผล พ่อกับแม่ไม่เห็นว่าคืนนั้นเขาทำตัวอุกอาจขนาดไหน ถ
เขาคนนั้นเป็นพ่อของวิลเลียมนั้นเอง โทนี่ บราวน์ ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจเป็นอย่างดี เขามีทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า สามพันล้านดอลลาร์ และถือว่าเขาเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ไม่ว่าจะเป็นสถานะ กลยุทธ์หรืออำนาจ เขาเป็นตัวการสำคัญคนหนึ่งเลยที่ต้องนึกถึงวิลเลียมเป็นลูกชายคนเดียวของโทนี่ ซึ่งนั้นหมายความว่าเขาเลี้ยงลูกมาอย่างตามใจตั้งแต่เกิด เขาปรนเปรอและประคบประหงมลูกชายคนเดียวของเขาอย่างสุดความสามารถ ดังนั้นเมื่อลูกชายสุดที่รักของเขาถูกทุบตีจนปางตาย มันจึงไปจุดประกายความโกรธเกรี้ยวในตัวของเขาขึ้นมา! เขารู้สึกโกรธมากเมื่อได้ยินข่าวนี้ แต่ตอนนี้เขาได้มาเห็นบาดแผลที่เกิดขึ้นด้วยตาทั้งสองข้างของเขาเองแล้ว มันจึงทำให้เขาแทบจะเป็นบ้า!มันดูสมเหตุสมผลที่สุด การเตะของเซนนั้นทรงพลังมาก และก้อนหินที่ลอยไปโดนหลังของวิลเลียมก็ใหญ่พอ ๆ เท่ากับกำปั้น บาดแผลที่คล้ายกับรอยกระสุนปืน! โชคดีที่วิลเลียมยังไม่ตายที่นั่นในตอนนั้นขณะที่เขากำลังเข้ารับการผ่าตัด วิลเลียมก็ถูกห่อตัวเหมือนมัมมี่ ชีพจรของเขาเริ่มอ่อนแรง ราวกับแสงเทียนที่กำลังริบหรี่ท่ามกลางสายลม และมันก็สามารถถูกเป่าให้ดับลงได้ทุกเมื่อเ
เซน ลาร์สัน กำลังซักผ้าให้กับครอบครัว แต่แล้ว รูบี้ ลูอิส แม่ยายของเขาก็โยนผ้าอีกชิ้นใส่หน้าของเขา ก่อนที่เธอจะสั่งอย่างหยิ่งผยองไปว่า “เซน ซักผ้าชิ้นนี้ของฉันก่อนนะ”ริมฝีปากของเซนกระตุก เขารู้สึกว่าแม่ยายของเขาทำกับเขาแย่มากขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังทำให้ขีดจำกัดของความอดทนของเขาค่อย ๆ หมดลง เขาพูดกับเธอไปว่า “คุณแม่ครับ ครั้งต่อไปที่คุณต้องการให้ผมช่วยซัก ช่วยใส่ผ้าในลงตะกร้าได้ไหมครับ และอย่าโยนใส่หน้าผมอีก ยังไงผมก็ยังคงเป็นลูกเขยของคุณอยู่นะครับ”มันรู้สึกแย่มากที่มีเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งคลุมอยู่บนศีรษะของเขาแบบนั้นแม่ยายของเขาละเลงตบเขาไปทั่วศรีษะ “ซักผ้าไปตามที่ฉันบอก หยุดพล่ามได้แล้ว ไม่งั้นครั้งหน้าฉันจะยัดมันใส่ปากนาย นายคิดว่านายทำดีพอถึงมีสิทธิ์มาบ่นได้อย่างนั้นหรอ? ฉันจะบอกอะไรนายให้นะ วันนี้อย่าคิดว่าจะได้กินข้าวเลย ถ้านายยังทำความสะอาดไม่เสร็จเรียบร้อย!”เหมือนเธอจะยังระบายความโกรธออกมาไม่เต็มที่ เธอจึงตบศีรษะของเขาอีกครั้งร่างกายของเซนสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ แม่ยายของเขาพูดอย่างไม่ใส่ใจต่อไปอีกว่า “อะไร? แค่นี้ก็ทนไม่ได้หรอ? ทำไม อยากจะตบฉันกลับหรือไง? ลองสิ ลองตบฉันกลับ