เจ้าสัวเดินนำหน้าบอดี้การ์ดนับสิบเข้ามาในบ้าน แม้จะอายุวัยกลางคนแล้ว แต่สง่าราศีก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย ยังคงแผ่รังสีน่าเกรงขามทรงอำนาจออกมา หน้าตาก็ยังคงหล่อเหลาคมคาย มาริษาวิ่งลงบันไดมาโผเข้าไปกอดเจ้าสัว
" ป๊า มาริคิดถึงที่สุดเลย "
มาริษากอดเจ้าสัวแน่นท่าทีแววตาและน้ำเสียงออดอ้อนสุดๆ พีรวิชเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาเขาพึ่งจะเคยเห็น ไม่คิดว่าคุณหนูเอาแต่ใจจะมีมุมนี้ด้วย
" ป๊าก็คิดถึงหนูเป็นยังไงบ้าง พีรวิชดูแลหนูดีไหม "
มาริษาปรายตาไปมองพีรวิชที่ยืนก้มหน้าอยู่ก่อนจะหันมาตอบเจ้าสัว
" ก็ ก็ดีค่ะ "
" ฮึ ฮึ ลูกสาวของฉันค่อนข้างเอาแต่ใจ ลำบากแกแล้วพีรวิช "
" ไม่เลยครับเจ้าสัว คุณหนูไม่ได้ทำอะไรให้ผมลำบาก แค่พาเธอไปช็อปปิ้งที่ห้างทุกวันแค่นั้นเอง "
" หือจริงรึ ไม่ได้ไปก่อเรื่องที่ไหนแน่นะ "
" แน่ครับ ไปเดินช็อปปิ้งไม่กี่ช.มก็กลับบ้านเลย "
เมื่อกินข้าวเสร็จเจ้าสัวก็พูดขึ้นมา เขาอยากให้มาริษาไปทำงานที่บริษัท เพราะเธอต้องสืบทอดต่อจากเขา เขารู้ตัวว่าเวลาของเขาเหลือน้อยเต็มที เขาไม่ได้ไปดูงานที่ต่างประเทศหรอกแต่อาการป่วยของเขามันทรุดลงจนต้องพักรักษาตัว เขาไม่ต้องการให้ใครรู้เพราะศัตรูรอบด้านจ้องจะเล่นงานเขาอยู่ โดยเฉพาะมาริษาที่เปรียบเสมือนหัวใจของเขา เขาจึงต้องให้พีรวิชที่เขามั่นใจว่าจะปกป้องดูแลเธอได้ให้คอยประกบเธอ
" ไหนๆก็กลับมาแล้ว ลูกก็เข้าไปช่วยพ่อทำงานที่บริษัทดีไหม เรียนรู้เอาไว้ อีกหน่อยลูกจะต้องขึ้นบริหารแทนพ่อ "
" ไม่เอาค่ะ มาริกลับมาพักผ่อนสมองเฉยๆ อยู่เที่ยวเล่นสักปี เดียวจะกลับไปเรียนต่อป.โท "
เจ้าสัวมีสีหน้าหนักใจ วันนึงเขาไม่อยู่เธอจะเป็นยังไง แล้วก็ตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญ
" ถ้าอย่างงั้นพรุ่งนี้ ตอนเย็นหนูไปกินข้าวเป็นเพื่อนป๊า ป๊านัดกับคุณทรงพลเอาไว้ อยากให้ลูกได้ทำความรู้จักกับลูกชายคุณทรงพล "
" ป๊าจะจับคู่ให้มาริหรอค่ะ ไม่เอามาริไม่ไป "
" แค่ไปทำความรู้จักกันเฉยๆถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องสานต่อ ป๊านัดเขาไว้แล้วอย่าทำให้ป๊าเสียหน้า "
" ก็ได้ค่ะ "
พีรวิชได้ยินว่ามาริษาจะไปดูตัว ใจของเขาก็วูบไหว รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีสิทธิ์แต่ก็คิดไปไกลเกินจะกลับตัวแล้ว เขาต้องทำยังไงถึงไม่เสียเธอไปให้คนอื่น พีรวิชยืนกลัดกลุ้มหน้าดำเคร่งเครียด
เดชาเห็นพีรวิชกระวนกระวายก็สะใจ ทุกคนแยกย้ายไปหมดแล้วแต่พีรวิชยังยืนนิ่งอยู่กับที่เหมือนหุ่นยนต์ เดชาเดินเข้ามากระซิบ
" สมน้ำหน้า ไม่รู้จักเจียมตัว "
แล้วสบตาเย้ยหยัน หัวเราะลั่นเดินออกไป พีรวิชกำหมัดแน่น นัยตาแดงกร่ำ
ภัตตาคารหรู
มาริษานั่งกินอาหารข้างๆเจ้าสัว ตรงข้ามเป็นทรงพลนักธุรกิจชื่อดังเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ ที่นั่งข้างๆคือภูริลูกชายคนเล็ก ที่ถึงแม้จะหล่อเหลาแต่เธอดูออกว่าเขาไม่ชอบผู้หญิง นี่คงจะถูกบังคับมาเหมือนกันสินะ พีรวิชยืนอยู่ไม่ไกลข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้สุดๆ ยิ่งเมื่อเห็นภูริตักอาหารให้มาริษาเเถมยังส่งยิ้มให้เธอ ชวนเธอคุยนู่นนี่ มันยิ่งทำให้เขาแทบอยากจะลุกไปกระชากเธอออกมาจากตรงนั้น แต่ติดตรงที่เขาทำไม่ได้
กลับจากร้านอาหาร มาริษาก็ยื่นคำขาดกับเจ้าสัว ว่าเธอจะไม่ไปดูตัวกับใครทั้งนั้น ห้ามบังคับเธอเด็ดขาด เพราะเธอจะเลือกสามีด้วยตัวเอง ไม่อย่างงั้นเธอก็จะหนีไปไกลๆไม่ให้ตามเธอเจอ พีรวิชแอบยิ้มที่คำพูดของเธอถูกใจเขานัก เจ้าสัวถอนหายใจอย่างแรงแต่ก็ยอมรับปาก
วันต่อมา มาริษากับพีรวิชไปกินอาหารในห้าง เมื่อออกจากร้านเธอมองไปร้านฝั่งตรงข้ามเป็นร้านไอศครีม เห็นผู้หญิงคนนั้นกับเด็กชายที่พีรวิชเคยอุ้มตอนที่เธอแอบตามไปดู ก็ยิ้มชั่วร้ายเดินเข้าไปในร้านไอศครีม พีรวิชไม่ทันสังเกตเห็นนลินดากับลูกอยู่ในร้าน จึงเดินตามมาริษาเข้าไป มาริษาจงใจนั่งโต๊ะใกล้ๆ2แม่ลูก ธามไทเห็นพีรวิชก็รีบลุกจากเก้าอี้วิ่งไปหา เกาะขายิ้มแฉ่งด้วยความดีใจ
" พ่อครับ "
พีรวิชตกใจหน้าซีด มองหน้าลูกชายสลับกับมาริษาก่อนจะหันไปมองโต๊ะข้างๆเห็นนลินดากับมุทิตานั่งมองอยู่
" พ่อครับอุ้มน้องธามหน่อย "
พีรวิชกระอักกระอ่วน ในสมองตีกันยุ่งไปหมดว่าจะทำยังไงดี ทั้งมาริษา นลินดา ต่างก็จ้องหน้าเขารอว่าเขาจะทำยังไง เขากลั้นใจตอบออกไป
" หนู ลุงไม่ใช่พ่อหนูหรอก หนูจำผิดแล้ว "
พีรวิชพูดไปก็เจ็บปวดใจไม่น้อย ยิ่งเห็นน้ำตาของลูก หัวใจของเขาก็ยิ่งบีบรัดแน่น
" พ่อครับ ทำไมพ่อพูดแบบนี้ พ่อไม่รักน้องธามแล้วเหรอ ฮือ ฮือ "
เมื่อถูกพ่อปฏิเสธเด็กน้อยก็ร้องไห้โฮ
นลินดากลั้นน้ำตาเอาไว้แทบไม่อยู่ รีบไปอุ้มลูกกลับมา มองหน้าเขาด้วยสายตาตัดพ้อ ก่อนจะสบตากับผู้หญิงที่เขามาด้วย เธอเห็นแววตาสมเพชเยาะเย้ยในดวงตาคู่นั้น ผู้หญิงคนนี้สินะ คุณหนูมาริษาลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัว ที่เขาไปรับที่สนามบินวันนั้น คนที่เขาต้องดูแลอารักขา24ช.ม จนมาวันเกิดลูกไม่ได้ และวันนี้เขากล้าปฏิเสธลูกอย่างหน้าด้านๆว่าไม่ใช่ลูกเขา
" ขอโทษด้วยค่ะที่ลูกชายเสียมารยาท พอดีว่าพ่อเขาพึ่งตายไปได้ไม่นาน เห็นคุณผู้ชายคนนี้หน้าคล้ายพ่อเขามาก เขาก็เลยคิดว่าเป็นพ่อ "
นลินดาพูดไปตาก็จ้องพีรวิชเขม็ง พีรวิชก้มหน้าไม่ยอมสบตา ลอบกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก
เธอพูดแค่นั้นก็อุ้มลูกหันหลัง เดินกลับไปที่โต๊ะ
" ไม่เป็นไรค่ะ เด็กที่ไม่มีพ่อก็เป็นแบบนี้แหละ คงขาดความอบอุ่น "
มาริษาหันมายิ้มให้ คำพูดเชือดเฉือนทำร้ายใจหาว่าลูกเธอไม่มีพ่อเหรอ ก็ไอ้ผู้ชายเฮงซวยที่นั่งอยู่ตรงนั้นไงพ่อของลูกเธอ แต่ก็นะเขาพูดเองว่าไม่ใช่ลูกเขานี่
มุทิตาทนไม่ไหวลุกจากโต๊ะจะเดินไปหาทั้งคู่ แต่นลินดารั้งแขนเอาไว้
" อย่ามิว ช่างเถอะ ฉันจะพาน้องธามไปรอที่รถ แกรีบไปจ่ายเงินเถอะ จะได้รีบกลับบ้านกัน "
" Ok แกพาน้องธามไปเถอะ จ่ายเงินเสร็จเดี๋ยวฉันรีบตามไป "
มุทิตาเดินไปจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ ก่อนออกจากร้านก็มอง2คนด้วยสายตารังเกียจ พีรวิชไม่กล้าสบตากลัวมุทิตาจะพูดความจริง พนักงานเดินมาพอดี ก็พูดกับพนักงาน
" นี่น้องว่าไหม ว่าคนบางคนมีการศึกษา ฐานะก็ร่ำรวย หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ แต่แปลกนะ หาผัวเองไม่ได้ต้องแย่งของคนอื่น "
พูดกับพนักงาน แต่ตาจ้องหน้ามาริษาเขม็ง แล้วก็หันไปมองหน้าพีรวิชที่ก้มหน้าแทบจะติดโต๊ะ
" หมามันยังรู้จักรักลูกของมัน แต่คนแท้ๆกับทิ้งลูก แบบนี้มันยิ่งกว่าเดรัจฉาน "
พูดจบก็เดินออกไป มาริษาไม่สนใจที่มุทิตาต่อว่า เธอไม่แคร์จะเอาซะอย่างจะทำไม แล้วก็ลุกขึ้นควงแขนพีรวิชออกไปจากร้าน ปล่อยให้พนักงานยืนงงอยู่ตรงนั้น
" นายครับได้ร่องรอยแล้วครับ เราพบรถตู้สีดำแบบเดียวกันกับภาพจากกล้องวงจรปิดในลานจอดรถที่ห้าง ถูกจอดทิ้งอยู่ท่าเรือ คาดว่ามันน่าจะพาคุณมาริขึ้นเรือไปครับพีรวิชรีบขึ้นรถขับมุ่งหน้าตรงไปท่าเรือทันที หลังจากที่ตามหามาริษามาทั้งวันภายในเรือสินค้ามาริษารู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ก้มลงไปดูตกใจสุดขีดเมื่อชายหัวโล้น กำลังตวัดลิ้นเลียร่องสวาทของเธอ" กรี๊ดดดด ไอ้บ้าออกไปนะ "มาริษาใช้มือดันหัวโล้นๆออกไปจากกลางหว่างขาของเธอ พิษณุลุกขึ้นแสยะยิ้ม ร่างกายเปลือยเปล่า ดุ้นดำๆยาวๆชี้โด่เด่ กระชากขามาริษาเข้าหาแล้วกดดุ้นลงร่องสวบ! อืมโคตรแน่น ตับ ตับ ตับ ตับพิษณุกระเด้าอย่างเมามัน " อ่า ลูกเจ้าสัวนี่มันเด็ดจริงๆโว้ย "" เด็ดอย่างนี้สิ ถึงจะขายได้ราคาดี "พิษณุใส่เสื้อผ้ากลับคืนหลังเสร็จกิจ" แก ไอ้โล้น แกหมายความว่ายังไง "" ก็หมายความว่ากูจะเอามึงไปขายหน่ะสิ แต่ก่อนขายมันก็ต้องทดลองสินค้าก่อน อย่าพูดมากเสียเวลา ลูกน้องกูอีกเป็น10 รออยู่ "มาริษาหน้าซีดเมื่อรู้ว่าถูกจับมาขาย แล้วยังจะให้พวกมันขืนใจอีก แล้วไอ้โล้นนี่มันบอกว่ายังมีรอข้างนอกอีกเป็น10 มันจะให้พวกนั้นมารุมเธอ
พีรวิชกลับถึงบ้านตอนตี1 เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศเพื่อเคลียร์ปัญหาสินค้ากับมิสเตอร์ลี พอหัวถึงหมอนก็หลับเลย ตื่นเช้ามาพบว่ามือถือแบตหมดจึงรีบชาร์จ เมื่อเปิดเครื่องก็เห็นเบอร์ของมุทิตาโทรมา เขารอสักพักให้ชาร์จไฟเข้าสักหน่อย แล้วรีบกดโทรกลับไปแต่รออยู่นานก็ไม่มีคนรับ จึงโทรหานลินดาก็ปรากฎว่าเธอปิดเครื่อง เขาจึงทำได้แต่ฝากข้อความไปหลังเสร็จงานศพ นลินดากับมุทิตากลับมาที่บ้านช่วยกันเก็บข้าวของ พวกเธอตัดสินใจจะไปจากที่นี่ หลังจากช่วยกันขนของขึ้นรถแล้ว มุทิตาก็ไปทำเรื่องย้ายออกและคืนกุญแจบ้าน ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป นลินดายังคงเหม่อลอยไม่พูดไม่จา หลายวันมานี้เธอแทบไม่ได้กินอะไร จนร่างกายซูบลงไปเยอะ พวกเธอย้ายไปอยู่ห้องเช่าเล็กๆราคาถูก พอดีมี2ห้องว่างติดกัน เลยแยกกันอยู่คนละห้อง เพื่อความเป็นส่วนตัว เพราะห้องแคบมาก อยู่2คนก็จะเบียดเสียดเกินไป พีรวิชขับรถมาหานลินดา เขาคิดว่าลูกคงออกจากร.พมาพักที่บ้านแล้ว แต่พอเขาเดินไปที่หน้าบ้าน ก็เจอกับป้ายประกาศให้เช่า " อ้าวพ่อหนุ่ม จะมากินข้าวแกงเรอะ เขาเลิกขายแล้วหล่ะ ย้ายออกไปแล้ว น่าเสียดายอร่อยด้วยถูกด้วย ป้าหน่ะลูกค้าประจำเลยนะ "" ป้าพอจะรู้ไหม
พีรวิชพามาริษาขึ้นไปบนห้องนอน ในใจก็คิดถึงลูกว่าจะเป็นยังไงบ้าง ไหนจะนลินดาเธอจะหยุดร้องไห้หรือยังนะ ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พีรวิชเปิดประตูก็พบเมฆา" คุณพีร์ครับ ตอนนี้การส่งออกมีปัญหาครับ ระบายสินค้าไม่ได้ ทางบริษัทต้นทางไม่สามารถรับสินค้าได้ตามกำหนดบอกให้เราต้องชดใช้ให้เร็วที่สุด ทางบริษัทย่อยโทรมาบอกเมื่อกี้ ผมโทรหาคุณพีร์แล้วแต่ไม่มีคนรับ เลยต้องมาที่นี่ครับ"พีรวิชนึกถึงมือถือขึ้นมาก็คิดได้ ว่าลืมทิ้งไว้ที่รถ เขารีบออกไปทันที แล้วตรงไปที่โรงงานscc ซึ่งเป็นโรงงานผลิตอาหารแช่แข็งส่งต่างประเทศ อีก1ธุรกิจในเครือของเจ้าสัว ที่ร.พ น้องธามยังคงอยู่ในห้องicu นลินดายังเฝ้าอยู่หน้าห้องไม่ไปไหน" ขิง แกกลับไปพักก่อนดีไหม เดี๋ยวฉันอยู่เฝ้าที่นี่เอง ถึงอยู่ต่อก็ทำอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้น้องธามยังอยู่ในห้องicu แกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ได้ ดูสิเสื้อแกมีแต่เลือด "" ไม่ ฉันไม่ไป ถ้าน้องธามตื่นขึ้นมาไม่เห็นฉันแล้วจะทำยังไง ฉันไม่ไปทั้งนั้นแหละ "นลินดาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สีหน้าอิดโรยแววตาเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง นลินดาไม่ยอมไปไหน ไม่กินข้าวกินน้ำ ไม่ว่ามุทิตาจะพูดยังไ
น้องธามถูกส่งเข้าห้องผ่าตัด กระสุนฝังที่ไหล่ นลินดายืนตัวสั่นร้องไห้โฮ มุทิตารีบตามมาหาที่ร.พ ก็ตรงเข้าไปกอดนลินดาเอาไว้ สักพักหมอเดินออกมา" คนไหนญาติน้องธามไทค่ะ "" ฉันค่ะ ฉันเป็นแม่น้อง น้องเป็นยังไงบ้างค่ะ"" เราได้ผ่าตัดเอากระสุนออกให้น้องแล้วน้องเสียเลือดมากต้องให้เลือด แต่เลือดของน้องเป็นกรุ๊ป AB negative เป็นเลือดกรุ๊ปพิเศษหายาก ทางร.พไม่มีเลือดกรุ๊ปนี้ พอจะมีคนรู้จักบริจาคไหมค่ะ "" ไอ้เลวพีร์ไงเลือดกรุ๊ปนี้ "มุทิตาบอกนลินดาก่อนจะหันไปพูดกับหมอ" พ่อของน้องเลือดกรุ๊ปนี้ค่ะ เดี๋ยวจะโทรตามให้มาเดี๋ยวนี้ "" ค่ะ ทางอย่างนั้นมาแล้วให้รีบติดต่อเจ้าหน้าที่นะคะ ช้าไม่ได้ตอนนี้น้องหมดสติอยู่ "มุทิตากดโทรออกหาพีรวิชทันที นลินดาลุ้นอยู่ข้างๆให้เขารีบรับสายไวๆ ความหวังของเธออยู่ที่เขาคนเดียว ถึงเราจะเลิกกันแล้วแต่น้องธามยังเป็นลูกของเขา เขายังเป็นพ่อของลูกคงไม่ใจดำขนาดนั้น มุทิตากดโทรออกหลายครั้งก็ไม่มีคนรับสาย" ติดไหม รับรึยัง เอามานี่ "นลินดาแย่งเอามือถือกดโทรหาพีรวิชเอง กดที่รอบกี่รอบก็ไม่มีคนรับสาย นลินดาทรุดตัวนั่งลงร้องไห้ ทำไมเขาถึงได้เลวขนาดนี้ ลูกกำลังจะตายแต่เขาก็ไม่สนใจ
สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันบนเตียงใหญ่ขนาดคิงไซร์ กวินทร์ซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นของมาริษา มือก็เลื่อนไปกุมโหนกนูนนิ้วชี้บดขยี้ติ่งเสียว" อาาอูย ซี๊ดดด พะ พอ ก่อนวิน "มาริษาผลักกวินทร์ออกตั้งแต่เมื่อเช้าจนถึงตอนนี้บ่ายสองเธอกับเขากระแทกกันบนเตียงไม่หยุด ตั้งแต่ที่พีรวิชจดทะเบียนสมรสกับเธอ เขาก็เอาแต่ทำหน้าซะกะตายเหม่อลอยบ่อยๆ เธออ่อยขนาดไหนเขาก็ไม่สนใจ จนเธออารมณ์ค้างต้องไปพึ่งดิลโด้ช่วยตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเมื่อเขาได้รับตำแหน่งประธานบริษัท เขาก็ยุ่งจนไม่มีเวลาให้เธอ บางวันก็กลับดึกบางวันก็ไม่กลับบ้านนอนค้างที่บริษัท เธอเหงาเธออยาก..... กวินทร์ที่เข้ามารับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดคนใหม่ดูแลเธอ ได้ยินเสียงเธอร้องจึงเปิดประตูเข้ามาเจอเธอนนอนแก้ผ้าใช้ดิลโด้เสียบคารูอยู่ เขายืนมองอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะรีบไปล็อคประตูแล้ว ดึงเอาดิลโด้เขวี้ยงทิ้งไป จัดการควักดุ้นใหญ่ยักษ์ของเขาออกมาเสียบแทน ตั้งแต่นั้นมากวินทร์ก็ปรนเปรอเธอมาตลอด ลีลาของเขามันถึงใจเธอจริงๆแบบที่พีรวิชเทียบไม่ติดเลย" ที่ฉันให้สืบไปถึงไหนแล้ว "" เป็นอย่างที่คุณมาริสงสัย คุณพีร์ไปจอดรถแอบดูเมียเก่าที่ร้านขายข้าวแกงทุกวัน "" ฮึ
พีรวิชตื่นขึ้นมาหันไปมองข้างกาย มีมาริษานอนหลับตาพริ้มกอดเขาอยู่ พีรวิชจับแขนเธอที่พาดเอวเขาออก เปิดผ้าห่มเดินเปลือยกายไปเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้น้ำไหลชะโลมจนเปียกโชกไปทั่วทั้งตัว ในหัวก็คิดว่าเขาทำถูกแล้วเหรอ เขาทิ้งนลินดากับลูกมาแต่งงานใหม่ ถ้าถามว่ายังรักนลินดาอยู่ไหมเขาก็ตอบว่ายังรัก ส่วนมาริษาเขารู้แค่ว่าเขาขาดเธอไม่ได้ โดยเฉพาะเซ็กซ์เธอตอบสนองเขาได้อย่างดีจนเขาเสพติดเธอไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดออกก็พบกับมาริษาที่เดินเปลือยเปล่าเข้ามาหาเขา คุกเข่าลงไปแล้วทำให้เขาต้องเสียน้ำไปอีกหลายรอบ" ขิง แกอย่าลืมสิว่าแกมีทะเบียนสมรสนะ ฟ้องพวกมันเลยไหม เอาให้มันออกข่าวดังไปเลยเป็นไง ลูกสาวเจ้าสัวคนดังแย่งผัวชาวบ้าน แกว่าดีไหม " มุทิตาแนะนำเพื่อน" ไม่ ไม่ดี ฉันไม่มีเงินเงินจ้างทนายหรอก ที่สำคัญเล่นงานคนรวยคนมีอิทธิพลไม่ใช่เรื่องง่ายดีไม่ดีพวกเราจะซวยกันหมด ฉันอยากอยู่อย่างสงบไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับใครทั้งนั้น "" เออฉันก็ลืมคิดไป ถึงต่อให้เราถูกยังไงก็สู้อำนาจเงินไม่ได้อยู่ดี ถึงจะออกข่าวไป แต่ทางนั้นก็คงใช้เงินใช้อำนาจปิดข่าว แล้วพวกเรา