Share

Episode-09 รักษาสิทธิ์

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-17 15:18:28

เช้าอีกวันฉันมาเรียนตามปกติพร้อมกับหัวใจที่ห่อเหี่ยว ถามว่าอกหักเหรอก็ไม่ใช่ ไม่รู้ซึมอะไรเหมือนกัน วันนี้ดันมาเช้ากว่าทุกวันอีกด้วยค่ะ เนื่องจากพ่อกับแม่ไปทำงานเร็วฉันเลยต้องเร็วตามไปด้วย 

เหลือบดูนาฬิกาเพิ่งจะหกโมงครึ่งเอง พวกมันก็ยังไม่มีใครมาหรอก ฉันเลยเลือกที่จะมานั่งรอในโรงอาหารแทน แต่แค่ไม่นานที่นั่งตรงข้ามกลับมีใครบางคนมานั่งด้วย

“ไงเรา มาแต่เช้าเลยนะ”

“พี่ริวก็มาเช้าเหมือนกันนะคะ” 

“ปกติของพี่ครับ เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษแทนเกตุด้วยนะ”

“...” 

ใจจริงฉันอยากจะถามออกไปตรง ๆ เลยด้วยซ้ำว่าระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์กันหรือเปล่า ถึงฉันจะไม่ถูกชะตากับพี่เกตุเท่าไหร่แต่ผู้หญิงเหมือนกันมันดูออกค่ะว่าเขารู้สึกกับพี่ทิวมากแค่ไหน

“มันไม่ใช่แบบที่เราคิดหรอกนะ” พี่ริวพูดดักทางฉันก่อนเลยค่ะ 

“พี่รู้เหรอว่าหนูคิดอะไร”

“พี่เป็นผู้ชายนะ ... เหมือนกับไอ้ทิวนั่นแหละ”

“หนู...”

“ไอ้ริว! ไปยุ่งกับน้องอ้วนของไอ้ทิวมันทำไมเดี๋ยวมันก็เตะปากมึงหรอก”

“หุบปากไอ้เต้กูว่าไอ้ทิวมันจะเตะปากมึงมากกว่านะ”

“ฮ่า ๆ” 

“ไม่ต้องไปสนใจมัน สนแค่ไอ้ทิวคนเดียวก็พอครับ”

“เกี่ยวอะไรกันล่ะคะ”

“พี่รู้ว่าเราเข้าใจ” ฉันเข้าใจแล้วยังไง ความชัดเจนของฉันคือแอบชอบเขามาโดยตลอดข้อนี้ฉันรู้ตัวเองดีค่ะ แต่กับพี่ทิวฉันไม่รู้เลย และไม่อยากคิดไปเองด้วย “ไว้รอฟังจากปากมันเองดีกว่านะ พี่ไปก่อน”

“ค่ะ” ฉีกยิ้มตามมารยาท 

สรุปว่าฉันต้องรอความชัดเจนงั้นเหรอ หรือว่าความจริงแล้วฉันควรแอบชอบเขาแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ

ครืด ... ครืด ...

มือถือฉันมีสายเรียกเข้าค่ะ แต่ว่าเป็นเบอร์แปลก

“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบ “ไม่พูดวางนะ”

(หวัดดี) เป็นเสียงผู้ชายค่ะ

“เอ่อ ... นั่นใครเหรอคะ”

(คิดว่าจะไม่รับสายซะแล้ว เราต้นไง ที่ขอเบอร์เธอจากเพื่อนอะ)

“อ๋อ! เรานึกออกแล้ว”

(แนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะ เราชื่อต้น เป็นคนไม่หล่อแต่จริงใจมาก อยากทำความรู้จักกับเธอ) เป็นการแนะนำตัวที่ทำให้ฉันอยากคุยต่อด้วยจริงค่ะ น้ำเสียงมันบ่งบอกให้รู้ว่าเป็นคนอารมณ์ดีและคุยเก่งมากด้วย

“เราชื่อน้ำตาล เรียกน้ำหรือตาลก็ได้ แล้วแต่”

(ต้นรู้แล้วแหละไอ้จูนมันบอก)  โอ้โห... มีการตีสนิทกันก่อนด้วย

ต้นเป็นคนที่คุยสนุกมากคือมันสามารถพูดออกมาให้คนฟังอย่างฉันคล้อยตามได้เลยทีเดียว แต่ไม่ได้กระหนุงกระหนิงอะไรกันนะคะแค่แลกเปลี่ยนเรื่องคุยกันเฉย ๆ ต้นเป็นพี่ฉันหนึ่งปี แต่นางเข้าเรียนช้าก็เลยได้อยู่รุ่นเดียวกับฉัน

(เดี๋ยวกลางวันโทรไปใหม่นะ เราเข้าโรงเรียนก่อน)

“โอเค”

“อะแฮ่ม! หมูเอ็งว่าเราสองคนตาฝาดไหม?”

“ไม่เลยเพื่อนข้าก็เห็นเหมือนกัน” ไม่รู้ว่ามันสองคนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีมันก็อยู่ตรงนี้แล้ว

“ไอ้ต้นใช่ปะ”

“อืม”

“มึงอย่าทำหน้าเครียดดิวะ มึงเองก็ยังโสดรักษาสิทธิ์ตัวเองหน่อย ก็แค่เพื่อนคุยเอง มันโทรมาก็รับขี้เกียจคุยก็ไม่ต้องรับ” ที่ไอ้จูนพูดมันก็ถูกค่ะ ก็แค่เพื่อนคุยไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ “ไว้รอพี่ทิวแสดงความชัดเจนให้เห็นก่อนแล้วกันนะ”  

พอถึงเวลาเข้าแถว เราสามคนก็เดินไปหน้าเสาธงตามปกติ ที่ผิดปกติคือสายตาหลายคู่ที่มองมาทางฉันก่อนจะหันไปซุบซิบกับกลุ่มเพื่อนตัวเองกันต่อ 

“ไม่พ้นเรื่องเมื่อวานสินะ”

“ช่างแม่งมันเหอะ คนร้อยคนจะให้เข้าใจเราทั้งหมดคงเป็นไปไม่ได้” ไอ้จูนมันตบบ่าเป็นเชิงให้กำลังใจฉัน

วันนี้ไม่เห็นพี่ทิวเลยค่ะ ไม่รู้ว่ามาสายหรือขาดเรียน พอเข้าแถวเสร็จก็แยกย้ายกันเข้าห้องพบครูที่ปรึกษา

“น้ำตาลเมื่อวานมีเรื่องอะไรกันวะ” ไอ้พลอยเอ่ยถาม

“ไม่รู้ดิ บอกไม่ถูกเหมือนกัน” พูดไปตามความจริง ไม่รู้ว่าควรตั้งชื่อเหตุการณ์เมื่อวานว่ายังไง ก็คงต้องปล่อยไปตามความเข้าใจของคนนั่นแหละ

“ไม่รู้ดิ! ตอบอย่างกับนางเอก คิดว่าตัวเองสวยมากมั้ง” ไอ้น้องกระแนะกระแหนขึ้น ไม่รู้ว่าไม่พอใจอะไร

“ก็สวยนะถ้าเทียบกับเมื่อก่อน” ฉันก็ปากดีกลับไปเหมือนกัน

“สวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเป็นของตัวเองด้วย”

“มีอะไรเป็นของตัวเองวะ มึงพูดให้เคลียร์ดิ” ไอ้จูนพูดแทรกขึ้นมาก่อนจะหยุดยืนข้างฉัน “กูเห็นทุกคนเป็นเพื่อนเหมือนกันหมด แต่กูรู้สึกว่าบางเรื่องมึงก็เหน็บแนมมันบ่อยเกินไปนะ ถ้าที่มึงพูดหมายถึงไอ้พี่ทิวกูบอกเลยว่าเขาชอบมัน”

“คิดเองเออเองหรือเปล่า พี่เขาไม่เห็นจะเคยพูดเลย แล้วเนี่ยปากมึงบอกว่าเห็นกูเป็นเพื่อนเท่าที่เห็นกูว่ามึงลำเอียงนะ”

“บางเรื่องไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดหรอก เขาบอกผ่านการกระทำเว้ย” 

หลังจากนั้นจูนมันก็แยกตัวไปนั่งคนเดียวหลังห้อง ฉันรู้ว่ามันกำลังระงับอารมณ์ตัวเองอยู่

“ใจเย็น ๆ เป็นเพื่อนกันอย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะ”แอมพูดขึ้นหลังจากที่เงียบอยู่นาน ฉันได้แต่ถอนหายใจออกมาไม่คิดมาก่อนเลยว่าเรื่องแบบนี้จะทำให้ตัวเองต้องคิดมากและทุกข์ใจขนาดนี้

“จูน...”

“กูไม่เป็นไร”

“กูขอโทษ”

“มึงไม่ต้องขอโทษ กูไม่ได้โกรธหรือรู้สึกไม่ดีอะไรทั้งนั้นแหละ แต่กูแค่ไม่ชอบคนนิสัยแบบนี้ ผิดถูกก็ว่ากันไปดิวะ ไอ้น้องหลายครั้งละ เหมือนจะดีแต่ก็ได้แค่เหมือนทั้งที่พวกเราก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งสามปี กูว่านะมันชอบพี่ทิวแน่นอน”

“...”  

“แล้วพูดถึงไอ้ห่านี่ กูอยากให้มึงเปิดใจกับคนอื่นบ้างนะ คนเหี้ยไรนิ่งฉิบหาย ทำอะไรไม่ชัดเจนสักอย่าง จะจีบก็ไม่จีบ กูว่าจะไม่พูดแล้วเชียว” มันไม่ได้กำลังด่าหรอกแต่มันพูดด้วยความหวังดีต่างหาก ฉันเองก็ไม่อยากตัดโอกาสกับตัวเองเหมือนกัน อีกเดี๋ยวพวกเราก็แยกย้ายกันไปตามความฝันของตัวเองอยู่แล้ว ยังต้องเจอผู้คนอีกมากมาย ทุกอย่างก็คงยุติลงเท่านี้แล้วเหลือไว้เพียงความทรงจำเท่านั้นแหละมั้ง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-52 ตอนพิเศษ ชีวิตหลังแต่งงาน

    ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ทอฝันเลี้ยงง่ายไม่อ้อนเลย ตอนนี้เพิ่งสิบเดือนเริ่มเกาะยืนแล้ว ดูท่าทางอีกไม่นานคงวิ่งจับไม่ไหวแน่นอน“คนสวย แม่ไปทำงานแล้วนะคะ หนูอย่างอแงกับพ่อนะ” พูดจบก็ก้มไปฟัดแก้มลูกสาวจนหนำใจเลยทีเดียว “หอมแต่ลูก ไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ”“ไม่ค่ะ!” ปากบอกปฏิเสธแต่ก็หอมครับ ว่านอนสอนง่ายจะตาย วันนี้เป็นวันหยุดผม หลังจากส่งน้องเสร็จก็แวะมาบ้านไอ้ริวต่อเลย รับปากมันไว้ว่าจะเข้ามาไง “เมื่อก่อนพกเมีย เดี๋ยวนี้พกลูก” ไอ้แบคเอ่ยแซวทันทีที่เห็นผมกับน้องทอฝัน“แล้วมึงเมื่อไหร่จะมี”“ทักได้เจ็บใจมาก” มันอยากมีครับ แต่ไอ้เกตุไม่ท้องสักที “น้ำยาไม่ดีก็แบบนี้แหละ”“ขยี้กันเข้าไป ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”... : ฮ่า ๆ“ไอ้ริว แล้วลูกมึงไปไหน”“อยู่ในเปลโน่น สองขวบกว่าแล้วยังติดเปลอยู่เลย ไปโรงเรียนกูว่าร้องตาย” น้ำเสียงมันเหมือนสิ้นหวังมากเลย“เอาน่ะค่อย ๆ ฝึกให้นอนพื้นทีหลังก็ได้”“ไม่หรอก ลูกกูอารมณ์แปรปรวนเก่งมาก แต่ไม่ซนนะ”“เป็นยังไงวะอารมณ์แปรปรวน”“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ร้อง ๆ อยู่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะได้อีกด้วย บางวันเดาอารมณ์ไม่ถูกเลย”“ไม่ลองปรึกษาหมอวะน่าจะช่วยได้

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/2 บทส่งท้าย

    หลายเดือนผ่านไปใกล้ได้เห็นหน้ากันแล้วครับ แอบกระซิบหน่อยว่าท้องใหญ่มาก และด้วยขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เกินตัวจึงมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของน้องพอสมควร เหนื่อยง่ายทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อน “หนูลาคลอดเมื่อไหร่”“ยังเลยค่ะ หนูว่าจะทำจนคลอดเลย”“ว่าไงนะ” ไม่ได้หูฝาดไปแน่ ๆ ครับ“หมายถึงทำจนเจ็บท้องใกล้คลอดเลยค่ะ ลาได้เก้าสิบวันหนูอยากอยู่กับลูกนาน ๆ นี่ถ้าลาล่วงหน้าเป็นเดือนกลัวได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อย” เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่เห่อลูก“เข้าใจ แต่พี่อยากให้พักเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ”“แต่หนู...”“คุณแม่ดื้อเหรอครับ?”“ก็ได้ค่ะ” กำหนดคลอดเดือนหน้าแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนครับพวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่แล้วและรับแม่กับยายมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวไง ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผิดที่ผิดทางแล้วยายผมจะเหงา เพราะเพื่อนบ้านก็มีคุณตาคุณยายอายุไล่เลี่ยกัน คุยกันถูกคอประหนึ่งว่ารู้จักมานานแรมปี“พี่ทิว”“ครับ?”“หนูอยากกินไข่ปลาทอด” ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเชียว“มันหาซื้อได้ที่ไหน” ไข่ปลาน่ะรู้จักครับ แต่มันไม่ได้ม

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/1 บทส่งท้าย

    บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะดี... ตอนแรกตั้งใจจะเชิญแค่ญาติคนสนิทแต่ตากับยายคัดค้านค่ะ ให้เหตุผลว่าแม่เป็นลูกคนเล็กญาติทางนั้นก็สำคัญ ญาติทางนี้ก็สำคัญ ป้าบ้านนั้น น้าบ้านนี้ เยอะแยะไปหมด เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีคนรู้จักนับถือเยอะก็อย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรเอาที่ตากับยายสบายใจเลย พี่แบคกับพี่เต้อาสาเป็นพิธีกรให้ และไม่วายถูกตั้งคำถามประหลาด ๆ ตามเคย“เจ้าบ่าวครับ เห็นคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นไหมครับ?” พี่แบคเอ่ยพลางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่ทิวนั่นแหละค่ะ“เห็นครับ”“สวยไหม?”“สวย”“คุณ! นี่งานมงคลของคุณนะครับ คุณกล้าชมผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าภรรยาเชียวเหรอ” คำถามกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มองแล้วเห็นว่าเป็นคนสวยปกติก็คือเป็นคนสวยเท่านั้นเอง กลับกันถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เราชอบต่อให้หน้าตาธรรมดายังไงในสายตาเราเขาก็สวยที่สุดอยู่ดี” ประโยคหลังพี่ทิวหันมาพูดกับฉันทำเอาผู้คนในงานเอ่ยแซวเสียงดังไปทั่วบริเวณ“เจ้าสาวครับ”“ค่ะ”“คุณผู้ชายโต๊ะนั้นหล่อไหมครับ”“หล่อค่ะ”“แล้วระหว่างทางนั้นกับทางนี้ ใครหล

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-50 ครอบครัวของเรา

    ก่อนหน้านี้ประจำเดือนฉันมาสามวันค่ะ ปกติจะห้าหรือไม่ก็เจ็ดวัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นคนมีรอบเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละเลิกงานฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วยห้าอัน อันละยี่ห้อไปเลยค่ะ มาถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก็ตรวจเลย คุณหมอแนะนำมาว่าควรเป็นฉี่แรกของวันเพื่อผลที่แม่นยำ แต่มันตื่นเต้นไงอยากรู้จึงลองตรวจดูก่อนในความคิดฉันถ้าท้องจริงตรวจตอนไหนคงขึ้นสองขีดเหมือนกัน อันนี้คิดเอาเองนะคะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะจุ่มที่ตรวจลงไป ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ วินาทีที่แถบสีชมพูเริ่มเห็นชัดขึ้น ...“สะ สองขีด” เหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขีดที่สองมันจางมากแต่มองผ่าน ๆ ก็คือเห็นว่าเป็นสองขีด ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะคะแค่ไม่คิดว่าจะมาเร็วแบบนี้ฉันเพิ่งหยุดกินยาคุมเมื่อสองเดือนก่อนเอง ใครจะคิดว่าจะติดรวดเร็วทันใจขนาดนี้ล่ะ แล้วต้องทำยังไงต่อต้องบอกใครเป็นคนแรก?เช้าอีกวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว ใช่ค่ะ! หิวจริง ๆ ลืมตามาก็อยากกินข้าวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาข้างนอกเห็นแม่ทำกับข้าวอยู่ก่อนแล้ว“วันนี้ไม่ไปใส่บาตรเหรอ” “หนูตื่นสายเลยไม่ได้ไป แม่...”“ว่า?”“...”“เรียกแล้วไม่พูดนะ” พูด

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-49 การเดินทางของเราสองคน

    หลังจากทริปทะเลจบลงพวกเราก็กลับสู่บทบาทหน้าที่ตัวเองกันอีกครั้ง แอบเขินไปหลายวันเลยเรื่องที่เข้าใจผิด อย่างที่บอกเป็นใครก็ต้องคิดจริงไหม? ส่วนไอ้อาการหน้ามืดโลกหมุนของฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว พี่ทิวดูแลดียิ่งกว่าหมอซะอีก“พอแล้วมั้งคะ” ถึงกับต้องเอ่ยปรามขึ้นเมื่อเห็นเขาหยิบผลไม้ใส่รถเข็นจนเยอะแยะไปหมด“อันนี้มีประโยชน์”“รู้... แต่หนูไม่ชอบนี่แค่อันนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ” ฉันว่าพลางชี้มือไปที่กล่องสตอวเบอร์รี่“ครับ ซื้อเข้าห้องไปเลยแล้วกันเผื่อพรุ่งนี้พี่เลิกดึก”“โอเคค่ะ”ทุกครั้งที่เงินเดือนออกเราจะซื้อของเติมตู้เย็นเสมอ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในส่วนเฉพาะของสดประมาณสองพันบาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกสองพันบาท จิปาถะยิบย่อยรวมทั้งหมดแล้วประมาณห้าพันอันนี้ฉันคำนวณเองนะ ส่วนค่าน้ำมันรถหรือของที่จำเป็นอื่น ๆ ยังไม่ได้คิดค่ะ ที่กล่าวมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ทิวทั้งหมดฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องในครัวฉันรับผิดชอบเองได้แต่เขาไม่ยอมและให้เหตุผลว่าผู้นำครอบครัวเขาไม่มาแบ่งจ่ายกันหรอก ในเมื่อค้านอะไรไม่ได้ก็เลยใช้วิธีแยกซื้อต่างหากโดยที่พี่ทิวไม่รู้ ตั้งแต่คบกันมาสาบานได้ว่าฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเ

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-48 มากกว่ารัก

    หมดกันเซอร์ไพรส์ของผม แอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยทำน้องร้องไห้ไปหลายวันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่ตั้งใจจริง ๆ คือบ้านต่างหากที่ดินตรงนั้นผมซื้อมันตั้งแต่ก่อนไปญี่ปุ่นหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้บอกน้องเพราะตั้งใจจะปลูกบ้านก่อน บวชแล้วค่อยแต่งไง แต่มันผิดแผนนิดหน่อย ปิดมาได้ตั้งนานดันมาตกม้าตายตอนบ้านเสร็จซะงั้น ครืด...ครืด…“ว่าไง”(จะเพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่ากูจะได้บอกช่างถูก)“แก้ตรงสีไม่เสมออย่างเดียวก็พอ”(เออ ผัวกูถามว่ามึงจะเข้ามาดูไหม)“เข้าแหละ น่าจะพรุ่งนี้บ่าย”(กูถามจริงแฟนมึงไม่สงสัยบ้างเหรอ ถ้าเป็นกูคงจับได้ตั้งแต่ผัวกลับบ้านไม่ตรงเวลาละ)“จะเหลือเหรอ”(ฮ่า ๆ กูว่าแล้วเซอร์ไพรส์ไม่เคยสำเร็จ แล้วเขาว่าไง)“เปล่าหรอก เข้าใจผิดนิดหน่อย”(ไม่ใช่คิดว่ากูเป็นกิ๊กมึงหรอกนะ)“ประมาณนั้น”(ฉิบหาย!)“เกือบได้ฉิบหายจริง ๆ แต่ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้กูพาไปด้วยเลย ไหน ๆ ก็รู้แล้วนี่”(เออ ไว้เจอกัน)ลูกหว้าเป็นเพื่อนร่วมงานครับ เราอยู่ทีมเดียวกันแต่คนละฝ่าย รู้จักกันตั้งแต่ฝึกงานไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ส่วนที่น้องคิดไปไกลคงเป็นเพราะพฤติกรรมของผมมากว่า เรื่องนี้แม่กับยายก็รู้นะครั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status