Beranda / โรแมนติก / เมื่อรักออกเดินทาง / Episode-08 จุดเริ่มต้นที่ไม่เคยมี

Share

Episode-08 จุดเริ่มต้นที่ไม่เคยมี

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-17 15:16:33

หลังจากวันนั้นเวลาก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อย ๆ ฉันกับพี่ทิวแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลยด้วยซ้ำเพราะเขาติวหนังสือหนักมาก เรียนวิชาเพิ่มเติมเยอะแยะไปหมด เลิกเรียนไม่ตรงกัน แต่ก็ยังพอได้แอบมองตอนเข้าแถวอยู่บ้างแหละ

“แป๊บ ๆ ก็จะจบแล้วเศร้าจัง”

“บ่นไรหมู”

“เอ็งก็เป็นแบบนี้แหละน้ำตาล ทำเป็นเล่นตลอดเลย”

“แล้วจะเครียดให้ได้อะไร พูดอย่างกับจบไปแล้วจะไม่ได้เจอกันอีกอย่างนั้นแหละ”

“เวลาเดินโคตรเร็วเลยเนอะ” 

เวลาเดินเร็วอย่างมันว่านั่นแหละค่ะ สามปีเหมือนนานแต่พอเอาเข้าจริงมันแค่แป๊บเดียวเอง ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำด้วยซ้ำ

“บ่ายนี้แนะแนวว่ะ รวมกับพี่มอหก” 

“ไม่ได้เรียนหรอกเหรอ”

“สลับคาบไปไว้วันพรุ่งนี้แทน”

ตัดมาถึงคาบแนะแนวเลยแล้วกันนะคะ ก็มีการพูดเกี่ยวกับอาชีพ ความฝัน ความเป็นไปได้ รวมไปถึงสิ่งที่อยากเรียนก็ด้วย อาจารย์ท่านนี้ค่อนข้างที่จะผ่อนคลายค่ะ ไม่เข้มงวดจนบรรยากาศในห้องอึดอัด 

ระหว่างที่ฉันกำลังนั่งฟังอยู่มีก้อนกระดาษตกลงมาตรงหน้า ไม่รู้ว่าใครขว้างมาแต่ฉันก็เปิดอ่านนะ ขอเบอร์หน่อย อ่านแล้วก็ขยำมันวางไว้ที่เดิม

“อะไรวะ” ไอ้จูนค่ะ

“ไม่รู้ของใคร”

“กูดูเอง” ไม่พูดเปล่ามันยังอ่านแล้วตอบกลับไปอีกด้วย

“เขียนอะไรน่ะ”

“ถามใครครับ ปาให้แม่น ๆ หน่อย” ตอบเสร็จก็ปาไปหลังห้องที่พี่มอหกนั่งอยู่ เป็นทิศทางเดียวกับตอนที่ถูกปามาเช่นกันค่ะ

เลิกสนใจกระดาษนั่นแล้วอยู่กับความคิดตัวเองต่อ ในหัวของฉันตอนนี้มันว่างเปล่าไปหมด ไม่รู้แม้กระทั่งว่าจบมอสามแล้วจะเรียนต่ออะไร 

ปึก!

คราวนี้มันลงหัวฉันเต็ม ๆ เลยค่ะ เบือนหน้าไปมองก็ไม่มีใครสนใจนอกจากสายตาแสนจะเย็นชาของพี่ทิวที่กำลังจ้องมองฉันอยู่ 

“มานี่กูอ่านเอง” ไอ้จูนมันว่าก่อนจะหยิบก้อนกระดาษไปแต่ฉันกลับรั้งมันไว้ซะก่อน

“ช่างมันเหอะ ไร้สาระ”

“เอาตามนี้?”

“เออ” 

หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกจนกระทั่งหมดชั่วโมงและได้เวลากลับบ้าน           

“รอนี่นะกูไปเอารถก่อน”

“แล้วอ้อล่ะ”

“มันซ้อมเต้นเลิกสามทุ่ม เดี๋ยวอาจารย์ไปส่ง”

“โอเค”

ตกลงกับไอ้จูนเสร็จก็ออกมารอมันตรงหลังโรงเรียน เพราะมันเอารถไปจอดไว้อีกที่หนึ่ง บ้านฉันถึงก่อนบ้านมันค่ะจะบอกว่าเป็นทางผ่านก็ได้แหละ

“ทิวรอด้วยสิ เรียกไม่หันเลยนะ ไม่เห็นต้องเมินเกตุขนาดนี้”

“มีไร?”

“ทิว...”

“ถ้าไม่มีอะไรก็ขอตัว” พูดจบพี่ทิวก็เดินตรงมาทางฉันแล้วหยุดยืนตรงหน้า “รอใคร”

“ไอ้จูน”

“ขอบคุณที่ไม่ตอบอะไรในกระดาษแผ่นนั้น” ฉันมองหน้าพี่ทิวนิ่ง ๆ ก่อนจะตั้งคำถามออกไป

“ในนั้นมีอะไรเหรอคะ”

“เป็นเด็กเป็นเล็กไม่ต้องรู้หรอก” เขาว่ายิ้ม ๆ แต่มันกลับทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นไปอีก

ผลัก!

“อ๊ะ!”

“กูบอกมึงว่าไงอีเหี้ย!” พี่เกตุเดินเข้ามาผลักฉันเต็มแรงก่อนจะชี้หน้าและด่าทอออกมาอย่างไม่พอใจ

“กูเคยบอกแล้วใช่ไหม” พี่ทิวเอาตัวเองบังฉันไว้แล้วหันไปเผชิญหน้ากับพี่เกตุแทน น้ำเสียงและการพูดจาของเขาโคตรจะไร้เยื่อใยเลยค่ะ

“ทิวก็รู้ว่าเราคิดยังไง ตั้งสามปีมันไม่มีความหมายเลยเหรอวะ”

“อะไรที่กูไม่ได้สนใจมันไม่เคยมีความหมายทั้งนั้นแหละ มึงช่วยเลิกระรานคนอื่นจะได้ไหม ถ้ายังอยากเหลือคำว่าเพื่อนอยู่ช่วยกรุณาอย่าล้ำเส้นกูด้วย”

“กูถามจริง ๆ เหอะมึงมีหัวใจบ้างไหม ฮึก..มีความรู้สึกเหมือนกูบ้างไหม” 

“...” ทุกอย่างเกิดขึ้นท่ามกลางสายตาผู้คนมากมาย ความรู้สึกตอนนี้เหมือนฉันเป็นคนมาทีหลังแล้วทำให้เขาสองคนทะเลาะกันเลย

“เกิดอะไรขึ้นวะ” พี่ริววิ่งมาก่อนจะมองหน้าฉันกับพี่เกตุสลับกัน “กูบอกมึงกี่รอบแล้วเกตุ”

“ฮึก! ทำไมล่ะ ที่ผ่านมาพวกมึงก็รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับทิว แล้วทำไมมึงยังเข้าข้างมันอีก”

“เพราะมันไม่ได้รู้สึกอะไรกับมึงไงเกตุ ถ้ามึงไม่อยากเสียเพื่อนมึงอย่าเป็นแบบนี้ได้ไหม แล้วเนี่ยมึงมาโวยวายใส่น้องมันมันถูกเหรอวะ กูไม่ได้เข้าข้างไอ้ทิวแต่กูพูดตามความจริงมึงสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเพราะฉะนั้นมึงไม่มีสิทธิ์”

“แล้วมันมีสิทธิ์เหี้ยอะไร มันก็ไม่ได้เป็นอะไรเหมือนกัน”

“แต่ไอ้ทิวมันชอบน้อง มันไม่ได้ชอบมึง! เลิกบ้าสักที!!” พี่ริวตวาดออกไปอย่างเหลืออด 

ฉันได้ยินทุกอย่างชัดถ้อยชัดคำ มันจะดีกว่านี้หากว่าพี่ทิวเป็นคนพูดคำนั้นออกมาจากปากตัวเอง 

“ตาล! มึงทำอะไรเพื่อนกู” ไอ้จูนมาถึงมันก็ตั้งท่าจะเข้าไปหาพี่เกตุทันที

“มึงใจเย็น ๆ กูไม่เป็นอะไร”

“มึงก็เป็นแบบนี้แหละ ครั้งก่อนที่ห้องน้ำมึงคิดว่าไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นหรือไง” 

“เออมันจบไปแล้วเลิกพูดเหอะกลับบ้าน”

“เดี๋ยว! เรื่องที่ห้องน้ำหมายความว่ายังไง” พี่ทิวเอ่ยถามพลางมองหน้าฉันกับไอ้จูนหวังจะเอาคำตอบ

“จะหมายความว่ายังไงพี่สนใจด้วยเหรอวะ เอาเวลาถามเรื่องนี้ไปหาความมั่นใจหาความชัดเจนของตัวเองดีกว่านะ จะจีบก็จีบดิวะ กั๊กอยู่นั่นแหละ แล้วมึงอีกตัวหนึ่งถ้าไม่เลิกวุ่นวายกับเพื่อนกูนะ มึงเจอกูแน่!” ประโยคหลังไอ้จูนมันหันไปชี้หน้าพี่เกตุค่ะ หลังจากนั้นก็รั้งฉันขึ้นรถและมาส่งบ้านทันที 

“จูนมึงอย่าขับรถเร็ว กูกลัว” มันไม่ตอบแต่ความเร็วของรถก็ลดลงค่ะ จนกระทั่งถึงบ้านฉัน 

“โทษละกันที่กูพูดแรง ๆ ออกไปแบบนั้น”

“ไม่เป็นไร มึงก็ไม่ได้พูดอะไรผิดนี่”

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปความสัมพันธ์ของมึงกับเขาอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้”

“เพ้อเจ้อ ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปทั้งนั้นแหละ จุดเริ่มต้นมันยังไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ”

“มีอะไรโทรหากูละกัน” 

“อืม ขอบใจมาก ขับรถดี ๆ ”

คล้อยหลังไอ้จูนฉันก็กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง แต่ความจริงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมันก็ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว เพราะจุดเริ่มต้นของพวกเรามันไม่เคยมีด้วยซ้ำ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-52 ตอนพิเศษ ชีวิตหลังแต่งงาน

    ชีวิตหลังแต่งงานเป็นอะไรที่มีความสุขมาก ทอฝันเลี้ยงง่ายไม่อ้อนเลย ตอนนี้เพิ่งสิบเดือนเริ่มเกาะยืนแล้ว ดูท่าทางอีกไม่นานคงวิ่งจับไม่ไหวแน่นอน“คนสวย แม่ไปทำงานแล้วนะคะ หนูอย่างอแงกับพ่อนะ” พูดจบก็ก้มไปฟัดแก้มลูกสาวจนหนำใจเลยทีเดียว “หอมแต่ลูก ไม่หอมพ่อของลูกบ้างเหรอครับ”“ไม่ค่ะ!” ปากบอกปฏิเสธแต่ก็หอมครับ ว่านอนสอนง่ายจะตาย วันนี้เป็นวันหยุดผม หลังจากส่งน้องเสร็จก็แวะมาบ้านไอ้ริวต่อเลย รับปากมันไว้ว่าจะเข้ามาไง “เมื่อก่อนพกเมีย เดี๋ยวนี้พกลูก” ไอ้แบคเอ่ยแซวทันทีที่เห็นผมกับน้องทอฝัน“แล้วมึงเมื่อไหร่จะมี”“ทักได้เจ็บใจมาก” มันอยากมีครับ แต่ไอ้เกตุไม่ท้องสักที “น้ำยาไม่ดีก็แบบนี้แหละ”“ขยี้กันเข้าไป ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ”... : ฮ่า ๆ“ไอ้ริว แล้วลูกมึงไปไหน”“อยู่ในเปลโน่น สองขวบกว่าแล้วยังติดเปลอยู่เลย ไปโรงเรียนกูว่าร้องตาย” น้ำเสียงมันเหมือนสิ้นหวังมากเลย“เอาน่ะค่อย ๆ ฝึกให้นอนพื้นทีหลังก็ได้”“ไม่หรอก ลูกกูอารมณ์แปรปรวนเก่งมาก แต่ไม่ซนนะ”“เป็นยังไงวะอารมณ์แปรปรวน”“อยู่ดี ๆ ก็ร้องไห้ ร้อง ๆ อยู่ก็เปลี่ยนเป็นหัวเราะได้อีกด้วย บางวันเดาอารมณ์ไม่ถูกเลย”“ไม่ลองปรึกษาหมอวะน่าจะช่วยได้

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/2 บทส่งท้าย

    หลายเดือนผ่านไปใกล้ได้เห็นหน้ากันแล้วครับ แอบกระซิบหน่อยว่าท้องใหญ่มาก และด้วยขนาดหน้าท้องที่ใหญ่เกินตัวจึงมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของน้องพอสมควร เหนื่อยง่ายทำอะไรไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อน “หนูลาคลอดเมื่อไหร่”“ยังเลยค่ะ หนูว่าจะทำจนคลอดเลย”“ว่าไงนะ” ไม่ได้หูฝาดไปแน่ ๆ ครับ“หมายถึงทำจนเจ็บท้องใกล้คลอดเลยค่ะ ลาได้เก้าสิบวันหนูอยากอยู่กับลูกนาน ๆ นี่ถ้าลาล่วงหน้าเป็นเดือนกลัวได้ใช้เวลาอยู่กับลูกน้อย” เห็นไหมครับ ไม่ได้มีแค่ผมสักหน่อยที่เห่อลูก“เข้าใจ แต่พี่อยากให้พักเดินจะไม่ไหวอยู่แล้วนะ”“แต่หนู...”“คุณแม่ดื้อเหรอครับ?”“ก็ได้ค่ะ” กำหนดคลอดเดือนหน้าแต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะคาดเคลื่อนก็ได้ต้องเตรียมตัวเอาไว้ก่อนครับพวกเราย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านใหม่แล้วและรับแม่กับยายมาอยู่ด้วยชั่วคราวเพราะไม่อยากให้น้องอยู่คนเดียวไง ไม่ต้องห่วงนะครับว่าผิดที่ผิดทางแล้วยายผมจะเหงา เพราะเพื่อนบ้านก็มีคุณตาคุณยายอายุไล่เลี่ยกัน คุยกันถูกคอประหนึ่งว่ารู้จักมานานแรมปี“พี่ทิว”“ครับ?”“หนูอยากกินไข่ปลาทอด” ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเชียว“มันหาซื้อได้ที่ไหน” ไข่ปลาน่ะรู้จักครับ แต่มันไม่ได้ม

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-51/1 บทส่งท้าย

    บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ถ้าพ่ออยู่ตรงนี้ด้วยก็คงจะดี... ตอนแรกตั้งใจจะเชิญแค่ญาติคนสนิทแต่ตากับยายคัดค้านค่ะ ให้เหตุผลว่าแม่เป็นลูกคนเล็กญาติทางนั้นก็สำคัญ ญาติทางนี้ก็สำคัญ ป้าบ้านนั้น น้าบ้านนี้ เยอะแยะไปหมด เป็นคนเก่าคนแก่ที่มีคนรู้จักนับถือเยอะก็อย่างนี้แหละ ไม่เป็นไรเอาที่ตากับยายสบายใจเลย พี่แบคกับพี่เต้อาสาเป็นพิธีกรให้ และไม่วายถูกตั้งคำถามประหลาด ๆ ตามเคย“เจ้าบ่าวครับ เห็นคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นไหมครับ?” พี่แบคเอ่ยพลางชี้ไปที่คนกลุ่มหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่ทำงานของพี่ทิวนั่นแหละค่ะ“เห็นครับ”“สวยไหม?”“สวย”“คุณ! นี่งานมงคลของคุณนะครับ คุณกล้าชมผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าภรรยาเชียวเหรอ” คำถามกวนอารมณ์ถูกเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร มองแล้วเห็นว่าเป็นคนสวยปกติก็คือเป็นคนสวยเท่านั้นเอง กลับกันถ้าเราอยู่ใกล้คนที่เราชอบต่อให้หน้าตาธรรมดายังไงในสายตาเราเขาก็สวยที่สุดอยู่ดี” ประโยคหลังพี่ทิวหันมาพูดกับฉันทำเอาผู้คนในงานเอ่ยแซวเสียงดังไปทั่วบริเวณ“เจ้าสาวครับ”“ค่ะ”“คุณผู้ชายโต๊ะนั้นหล่อไหมครับ”“หล่อค่ะ”“แล้วระหว่างทางนั้นกับทางนี้ ใครหล

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-50 ครอบครัวของเรา

    ก่อนหน้านี้ประจำเดือนฉันมาสามวันค่ะ ปกติจะห้าหรือไม่ก็เจ็ดวัน แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะเป็นคนมีรอบเดือนไม่ปกติอยู่แล้ว แต่คราวนี้คงปล่อยผ่านไม่ได้แล้วแหละเลิกงานฉันซื้อที่ตรวจครรภ์มาด้วยห้าอัน อันละยี่ห้อไปเลยค่ะ มาถึงบ้านอาบน้ำเสร็จก็ตรวจเลย คุณหมอแนะนำมาว่าควรเป็นฉี่แรกของวันเพื่อผลที่แม่นยำ แต่มันตื่นเต้นไงอยากรู้จึงลองตรวจดูก่อนในความคิดฉันถ้าท้องจริงตรวจตอนไหนคงขึ้นสองขีดเหมือนกัน อันนี้คิดเอาเองนะคะลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะจุ่มที่ตรวจลงไป ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลยค่ะ วินาทีที่แถบสีชมพูเริ่มเห็นชัดขึ้น ...“สะ สองขีด” เหมือนหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขีดที่สองมันจางมากแต่มองผ่าน ๆ ก็คือเห็นว่าเป็นสองขีด ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจนะคะแค่ไม่คิดว่าจะมาเร็วแบบนี้ฉันเพิ่งหยุดกินยาคุมเมื่อสองเดือนก่อนเอง ใครจะคิดว่าจะติดรวดเร็วทันใจขนาดนี้ล่ะ แล้วต้องทำยังไงต่อต้องบอกใครเป็นคนแรก?เช้าอีกวัน ตื่นขึ้นมาพร้อมกับความหิว ใช่ค่ะ! หิวจริง ๆ ลืมตามาก็อยากกินข้าวเลย ทำธุระส่วนตัวเสร็จออกมาข้างนอกเห็นแม่ทำกับข้าวอยู่ก่อนแล้ว“วันนี้ไม่ไปใส่บาตรเหรอ” “หนูตื่นสายเลยไม่ได้ไป แม่...”“ว่า?”“...”“เรียกแล้วไม่พูดนะ” พูด

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-49 การเดินทางของเราสองคน

    หลังจากทริปทะเลจบลงพวกเราก็กลับสู่บทบาทหน้าที่ตัวเองกันอีกครั้ง แอบเขินไปหลายวันเลยเรื่องที่เข้าใจผิด อย่างที่บอกเป็นใครก็ต้องคิดจริงไหม? ส่วนไอ้อาการหน้ามืดโลกหมุนของฉันก็ดีขึ้นมากแล้ว พี่ทิวดูแลดียิ่งกว่าหมอซะอีก“พอแล้วมั้งคะ” ถึงกับต้องเอ่ยปรามขึ้นเมื่อเห็นเขาหยิบผลไม้ใส่รถเข็นจนเยอะแยะไปหมด“อันนี้มีประโยชน์”“รู้... แต่หนูไม่ชอบนี่แค่อันนี้อย่างเดียวก็พอค่ะ” ฉันว่าพลางชี้มือไปที่กล่องสตอวเบอร์รี่“ครับ ซื้อเข้าห้องไปเลยแล้วกันเผื่อพรุ่งนี้พี่เลิกดึก”“โอเคค่ะ”ทุกครั้งที่เงินเดือนออกเราจะซื้อของเติมตู้เย็นเสมอ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนในส่วนเฉพาะของสดประมาณสองพันบาท ค่าน้ำ ค่าไฟอีกสองพันบาท จิปาถะยิบย่อยรวมทั้งหมดแล้วประมาณห้าพันอันนี้ฉันคำนวณเองนะ ส่วนค่าน้ำมันรถหรือของที่จำเป็นอื่น ๆ ยังไม่ได้คิดค่ะ ที่กล่าวมานี้อยู่ในความรับผิดชอบของพี่ทิวทั้งหมดฉันเคยบอกแล้วว่าเรื่องในครัวฉันรับผิดชอบเองได้แต่เขาไม่ยอมและให้เหตุผลว่าผู้นำครอบครัวเขาไม่มาแบ่งจ่ายกันหรอก ในเมื่อค้านอะไรไม่ได้ก็เลยใช้วิธีแยกซื้อต่างหากโดยที่พี่ทิวไม่รู้ ตั้งแต่คบกันมาสาบานได้ว่าฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาเ

  • เมื่อรักออกเดินทาง   Episode-48 มากกว่ารัก

    หมดกันเซอร์ไพรส์ของผม แอบรู้สึกผิดเหมือนกันนะเนี่ยทำน้องร้องไห้ไปหลายวันเลย ผมไม่ได้ตั้งใจ ที่ตั้งใจจริง ๆ คือบ้านต่างหากที่ดินตรงนั้นผมซื้อมันตั้งแต่ก่อนไปญี่ปุ่นหลายเดือนแล้วแต่ไม่ได้บอกน้องเพราะตั้งใจจะปลูกบ้านก่อน บวชแล้วค่อยแต่งไง แต่มันผิดแผนนิดหน่อย ปิดมาได้ตั้งนานดันมาตกม้าตายตอนบ้านเสร็จซะงั้น ครืด...ครืด…“ว่าไง”(จะเพิ่มเติมตรงไหนอีกหรือเปล่ากูจะได้บอกช่างถูก)“แก้ตรงสีไม่เสมออย่างเดียวก็พอ”(เออ ผัวกูถามว่ามึงจะเข้ามาดูไหม)“เข้าแหละ น่าจะพรุ่งนี้บ่าย”(กูถามจริงแฟนมึงไม่สงสัยบ้างเหรอ ถ้าเป็นกูคงจับได้ตั้งแต่ผัวกลับบ้านไม่ตรงเวลาละ)“จะเหลือเหรอ”(ฮ่า ๆ กูว่าแล้วเซอร์ไพรส์ไม่เคยสำเร็จ แล้วเขาว่าไง)“เปล่าหรอก เข้าใจผิดนิดหน่อย”(ไม่ใช่คิดว่ากูเป็นกิ๊กมึงหรอกนะ)“ประมาณนั้น”(ฉิบหาย!)“เกือบได้ฉิบหายจริง ๆ แต่ตอนนี้คุยกันเข้าใจแล้ว ไว้พรุ่งนี้กูพาไปด้วยเลย ไหน ๆ ก็รู้แล้วนี่”(เออ ไว้เจอกัน)ลูกหว้าเป็นเพื่อนร่วมงานครับ เราอยู่ทีมเดียวกันแต่คนละฝ่าย รู้จักกันตั้งแต่ฝึกงานไม่มีอะไรมากไปกว่านี้เลย ส่วนที่น้องคิดไปไกลคงเป็นเพราะพฤติกรรมของผมมากว่า เรื่องนี้แม่กับยายก็รู้นะครั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status