Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-07-28 20:38:33

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนนิ่ง ฟาหยางหัวเราะในลำคอ ยอมปล่อยมือออกก่อนจะเปลี่ยนเป็นยืนกอดอกเพื่อดูสีหน้าอีกคนให้เต็มตา

เยว่ซินกัดริมฝีปากอย่างลืมตัว หัวสมองประมวลผลอย่างหนักว่าเธอควรทำอย่างไรดี

หรือจะขอร้องให้ หยวน อี้ ไปส่งเธอ?

เช่นนั้นไม่ได้ หลายคนในนี้คงจะเอาไปนินทากันปากต่อปาก พาลให้คุณอี้ได้รับผลกระทบเสียเปล่าๆ แล้วถ้าเป็นกับฟาหยางล่ะ?

เธอแน่ใจดีว่าไม่มีใครกล้าเอาเรื่องนี้ไปนินทาหากคนที่เธอจะขอกลับด้วยเป็นฟาหยาง แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก เพราะเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนที่จะทำให้เธอกลายเป็นคนเสียสติในอนาคตนี่นา!

หลังจากยืนคิดได้ชั่วครู่ เยว่ซินถึงรู้ว่าตนไม่มีทางออก ที่นี่คือคฤหาสน์ตระกูลหยวนซึ่งห่างไกลจากในเมืองที่มีรถสาธารณะมากนัก

"ต้องรบกวนคุณหยางแล้ว" หญิงสาวตอบพลางก้มหน้า จนปัญญาแล้วจริงๆ จางลี่ไม่น่ามาทิ้งกันเลย!

"หึ" ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของฟาหยางแล้ว เยว่ซินถึงกลับต้องเบือนหน้าหนี

สัญญาเลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะยุ่งเกี่ยวกับเขา!

"อาโป...พาแขกของฉันไปที่รถที" ได้ยินคำสั่งเช่นนั้น ลูกน้องคนสนิทข้างกายโค้งให้นายตนเอง ก่อนจะเดินมาผายมือแก่คุณหนูตระกูลหลี่คนงาม

"เชิญครับคุณเยว่" เยว่ซินพยักหน้า เดินตามคนที่มีนามว่าอาโปไปยังที่รถ ส่วนฟาหยางก็เดินไปอีกฝั่ง คาดว่าคงจะไปบอกลาผู้นำหยวน

เยว่ซินเดินฝ่าฝูงชนออกมา แน่นอนว่ามีหลายสายตาจับจ้องเธอไม่ขาดช่วง ถึงแม้คนเหล่านั้นอยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ได้เพราะได้ฟังกิตติศัพท์ของเยว่ซินมามากจึงคร้านจะหาเหาใส่หัว ไหนจะมีบอดี้การ์ดของคุณฟาหยางประกบข้างอยู่ยิ่งไม่ควรเอ่ยปากอะไรทั้งนั้น

เมื่อขึ้นรถเยว่ซินถึงได้หายใจโล่ง ฝั่งลูกน้องนามว่าอาโปเปิดเครื่องยนต์และแอร์ไว้แล้วยืนรอเจ้านายตัวเองอยู่นอกรถ ไม่กี่นาทีต่อมาฟาหยางก็เดินออกมาพร้อมกับสูทตัวนอกที่โดนถอดออกและพาดแขนเอาไว้

เยว่ซินสะดุ้งโหยงยามที่ฟาหยางเปิดประตูและเข้ามานั่งอยู่ข้างกันในเบาะหลัง เธอนึกว่าเขาจะนั่งข้างหน้าเสียอีก

อาโปไม่ได้เข้ามาในทันที ในรถตอนนี้จึงมีเพียงแค่ฟาหยางและเยว่ซินสองต่อสองเท่านั้น

"เป็นอะไรไปล่ะ...ปกติต้องปากจ้อพูดไม่หยุดไม่ใช่หรือ" เสียงทุ้มเอ่ยถามทำให้เยว่ซินต้องหันหน้าไปมอง และนั่นก็ทำให้เธอได้เห็นฟาหยางในระยะใกล้ ชายหนุ่มพิงแขนข้างซ้ายไปกับประตูรถ ดวงตาคมจดจ้องมายังเธอแบบไม่ปิดบัง

"ฉัน...ฉันก็แค่เหนื่อยน่ะค่ะ" ตอบแบบอ้อมแอ้มก่อนจะดึงสายตากลับ เยว่ซินตอนนี้ขยับตัวได้ยากเย็นนัก

"เพิ่งรู้ว่าคนแบบคุณหนูเยว่เหนื่อยเป็นด้วย ฉันเห็นว่าตอนกลั่นแกล้งคนอื่นไม่เห็นเป็นเช่นนี้" เยว่ซินเม้มปาก มันใช่เรื่องที่ควรจะมาพูดตอนนี้ไหมคะพ่อพระเอก!

"แหะๆ" เหมือนหญิงสาวเกร็งจนไม่เป็นตัวเอง เยว่ซินหัวเราะแห้งๆแต่กลับทำให้ฟาหยางหลุดหัวเราะออกมา

"ให้ตายเถอะเยว่ซิน...เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่" คำถามมาพร้อมกับมือหนาที่ช้อนเอาผมของเยว่ซินไว้ ฟาหยางพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าแล้วตาเป็นประกายวับ เพิ่งเคยเห็นเยว่ซินผู้นั้นนิ่งเรียบร้อยแบบนี้ชักน่าสนใจขึ้นแล้วสิ

"คะ..คุณฟาหยาง" เยว่ซินพยายามจะดึงผมตัวเองกลับแต่ไม่เป็นผล เพราะฟาหยางกอบกุมเอาไว้แล้วม้วนเล่นเพลินๆ

"ออกรถ อาโป" เสียงเข้มเอ่ยสั่งเมื่อลูกน้องคนสนิทเข้ามานั่งประจำที่ แต่ถึงแบบนั้นฟาหยางก็ยังคงม้วนผมอีกฝ่ายเล่นเหมือนเดิมจนเยว่ซินยอมแพ้นั่งนิ่งๆ

"ผมต้องส่งคุณหนูเยว่ที่ไหนครับ" อาโปหันมาถามหลังจากขับออกจากคฤหาสน์หยวนมาได้สักพัก ส่วนเยว่ซินที่บัดนี้สติกระจัดกระจายจำต้องเค้นความทรงจำตัวเองให้ได้มากที่สุด

เธอดันจำทางไม่ได้ซะด้วยสิ!

"ไปที่คฤหาสน์ฉัน" แต่เมื่อเยว่ซินกำลังจะตอบพิกัดจำต้องชะงักเมื่อคนข้างกายดันเอ่ยพูดขึ้นเสียก่อน หญิงสาวหันกลับมาหาฟาหยางแล้วรีบปฏิเสธทันควัน

"คุณหยางคะ...คือว่าฉันไม่ได้มีธุระอะไรที่ตระกูลหยาง" ชายหนุ่มช้อนตามองแล้วกระตุกยิ้ม

"ไหนก่อนหน้านี้อยากเข้าให้ได้นักหนาไม่ใช่หรือ...คราวนี้ก็ได้ไปแล้วนี่" เยว่ซินคิดคำในหัวเป็นพันๆคำเพื่อจะโต้แย้งแต่พูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆจนฟาหยางหัวเราะอีกครั้ง

ด้านอาโปที่เห็นเจ้านายหัวเราะได้แต่ฉงนอยู่ในใจ...ปกตินายท่านของตนเองไม่เคยมีรอยยิ้มหรือเสียงหัวเราะเลยยามที่ได้อยู่กับเยว่ซินผู้นี้

"ฉันว่าแบบนี้ไม่ดีมั้งคะ" หญิงสาวพูดเสียงกระท่อนกระแท่น ทำไมยิ่งเธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา เขาถึงยิ่งได้หาเรื่องให้เธอด้วยเนี่ย!

"ห่างเหินจังเลยนะคุณหนูเยว่..หรือตอนนี้หันไปสนใจคนอื่นเสียแล้ว?" ครั้นได้ยินคำถามทั้งคนโดนถามและอาโปถึงกับขมวดคิ้วน้อยๆ

รูปแบบคำถามช่างดูเหมือนคนน้อยใจ...แต่เชื่อเถอะว่าฟาหยางคนนี้น่ะก็แค่อยากจะถามแหย่เธอเล่น

เยว่ซินคนนี้เอาหัวเป็นประกัน!

"ไม่ดีเหรอคะ...ปกติคุณก็รำคาญฉันอยู่แล้ว" พอได้ยินคำตอบ ฟาหยางยกยิ้ม แววตาฉายแววสนุกขึ้นก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบเช่นเดิม

"ก็ถูกของคุณหนูเยว่"

"..."

"แต่รู้อะไรไหม...ฉันน่ะไม่ชอบให้ใครเมินกันง่ายๆหรอกนะ" ดวงตาสีรัตติกาลเข้มขึ้นทำเอาคนมองหายใจติดขัดชั่วครู่

"โดยเฉพาะคุณหนูหลี่ เยว่ซิน อยู่ๆมาทำเช่นนี้ไม่หักหน้ากันเกินไปหรือ?" เยว่ซินอยากจะทึ้งหัวตัวเอง ดูเหมือนเส้นทางการรอดชีวิตของเธอนั้นช่างยากเย็นยิ่งนัก

"คุณฟาหยางคิดมากไปแล้ว" เยว่ซินพูดยิ้มๆ แม้ในใจจะร้องไห้อยู่ก็ตามที

"งั้นการไปพักที่คฤหาสน์ตระกูลหยางในฐานะแขกก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม" เมื่อโดนยิงคำถามมาเช่นนั้น เยว่ซินจึงไม่มีทางเลือกยอมพนักหน้าในที่สุด

"เป็นเกียรติที่ได้เป็นแขกค่ะ" เธอรู้ดีว่าไม่ควรขัดใจมาเฟียตระกูลใหญ่คนนี้เด็ดขาด ยังไงซะ พักที่คฤหาสน์นั่นสักคืนก็คงไม่เป็นไรล่ะมั้ง...

คฤหาสน์ตระกูลหยางกว้างใหญ่ตามที่คิด แค่บริเวณทางเข้าก็กินพื้นที่หลายร้อยไร่ ทำเอาเยว่ซินเบิกตาโตด้วยความตื่นเต้น ในชีวิตจริงของเธอได้อยู่บ้านหลังใหญ่ก็จริง หากแต่นี่มันก็ใหญ่กว่าบ้านของเธอหลายสิบเท่า

ภายในตกแต่งด้วยทองคำเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะกำแพงหรือประตูก็จะประดับด้วยทองคำทั้งสิ้น

ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาอะไรเช่นนี้

เยว่ซินสำรวจด้วยสายตามูลค่าคฤหาสน์หลังนี้คงหลายหมื่นล้านหยวนเป็นแน่

"จัดห้องให้คุณหนูเยว่ด้วย" สุรเสียงเอ่ยสั่งสาวใช้ที่เดินมารอรับคำสั่ง เธอโค้งให้ก่อนจะขอตัวออกไปแม้ในใจจะนึกสงสัยนัก เธอจำได้ว่าเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาขอเข้าพบคุณฟาหยางที่คฤหาสน์หลายหน แต่ก็โดนปฏิเสธทุกรอบเช่นเดียวกัน

แล้วทำไมจู่ๆวันนี้ถึงได้มาพักที่นี่กันนะ?

และถึงแม้ว่าใคร่รู้ขนาดไหน สาวใช้อย่างเธอก็ไม่มีสิทธิ์ล่วงรู้เรื่องของเจ้านายอยู่ดี

"ต้องลำบากคุณซะแล้ว" เยว่ซินพูดเมื่อทั่วบริเวณมีแค่เธอและฟาหยางเท่านั้น

"คิดจะเรียกคุณไปตลอดจริงๆหรือ" ฟาหยางยิ้มร้าย...ขนาดเขาเองตอนนี้ก็ยังสงสัย ว่าทำไมถึงได้จุ้นจ้านกับผู้หญิงคนนี้นัก ทั้งๆที่ไม่ได้รู้สึกชอบสักนิด ติดที่รำคาญเสียด้วยซ้ำ

"ถ้าคุณ...เอ่อ...หมายถึงให้ฉันเรียกอย่างสนิทสนมเช่นนั้นคงไม่ดีนัก" เยว่ซินตอบอย่างเกร็งๆ ได้โปรดอย่าคิดจะตีสนิทกันไปมากกว่านี้เลย เธอปวดหัวจะแย่

"แปลกดี...ตอนที่ฉันไม่อนุญาตกลับดื้อดึง...ครั้นตอนที่ต้องการให้เรียกกลับปฏิเสธ" จะว่าไปมันก็ดูน่าพิลึกอย่างที่เขาว่าจริงๆ

"ให้ถือซะว่าฉันเป็นเยว่ซินคนใหม่แล้วกันค่ะ"

"เยว่ซินคนใหม่งั้นหรือ" ชายหนุ่มทวนคำ จ้องมองใบหน้าหวานอย่างสนใจ

ได้โปรด อย่ามองเธอเช่นนั้นเลย เยว่ซินภาวนาในใจ

"ห้องพักคุณหนูเยว่เรียบร้อยแล้วค่ะ" ราวกับฟ้ามาโปรด สาวใช้เดินมาแจ้งด้วยท่าทีสุภาพ

"ฉันขอตัวนะคะ อยากอาบน้ำจะแย่" พอพูดถึงอาบน้ำเธอถึงนึกขึ้นได้

"ไม่ทราบว่าเสื้อผ้า..."

"ด้านบนมีทุกอย่างพร้อมให้เธอแล้ว...ตามสบายนะคุณหนูเยว่" แม้จะสงสัยว่าทำไมในห้องพักของแขกถึงต้องมีเสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ด้วย แต่เยว่ซินก็ไม่ได้เอ่ยถาม เพียงแค่โค้งให้เจ้าของบ้านแล้วเดินตามสาวใช้ไปเงียบๆเท่านั้น

ทันทีที่เยว่ซินเดินไปจนลับสายตา แววตาฟาหยางกลับมานิ่งสงบเช่นเคย มือหนาประดับรอยสักยกซิการ์ขึ้นสูบเงียบๆ ประมุขตระกูลหยางปล่อยให้เรื่องราวในหัวดำเนินไปก่อนที่อาโปจะเดินเข้ามาแล้วโค้งให้กับตน

"หยวน อี้สอบถามกับลูกน้องจริงๆครับว่าคุณหนูเยว่กลับกับใคร" มุมปากกระตุกยิ้มทำเอาลูกน้องเสียวสันหลังวาบ เวลานี้ฟาหยางดูร้ายกาจเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก

"ดูแลเยว่ซินให้ดี...ฉันไม่ยอมให้ความสนใจของเธอไปตกที่หยวน อี้เด็ดขาด"

"..."

"ในเมื่อกล้าเข้ามาในชีวิตฉันแล้ว อย่าคิดว่าจะได้ออกไปง่ายๆเลย คุณหนูเยว่"

เยว่ซินรู้สึกสบายตัวขึ้นมากยามที่ได้ถอดชุดหนักๆและแช่น้ำผ่อนคลาย ภายในห้องทั้งกว้างและหรูหรากว่าห้องที่เธอพักมากนัก เฟอร์นิเจอร์ยังคงคอนเซ็ปท์จนเยว่ซินนึกในใจว่าฟาหยางไม่กลัวแขกขโมยไปขายหรือ?

ครานี้เธอหยุดนั่งลงบนโซฟาภายในห้อง ลองนึกย้อนถึงเนื้อเรื่องในนิยายมันมีฉากนี้ด้วยหรือ?

ใช่...เหมือนมันจะเปลี่ยนแปลงไปตั้งแต่ที่ได้คุยกับฟาหยาง เพราะในนิยายคนที่เป็นฝ่ายเข้าไปหาเป็นเยว่ซินเอง แล้วไหนจะโดนชายหนุ่มทำให้เสียหน้ากลางงานอีก

แต่นี่มันกลับตาลปัตร...ฟาหยางเป็นคนเข้ามาหาก่อนแถมยังชวนเธอให้เป็นแขกมาพักที่นี่เสียอีก

ช่างเป็นเรื่องบ้าบอเสียจริง...

เยว่ซินหยุดความคิด ตัดสินใจออกมาเปิดประตูดูว่าด้านนอกมีใครอยู่หรือไม่ ตอนนี้เธอหิวมากจริงๆ เพราะในงานได้กินแค่เล็กน้อยเอง

เหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ เยว่ซินเดินลงไปยังห้องครัว ที่เธอรู้ได้เพราะในนิยายนั้นมีหลายฉากนักที่เกิดขึ้นที่คฤหาสน์ฟาหยาง มือเรียวเปิดหาของกินง่ายๆในตู้เย็น ฟาหยางคงไม่ใจร้ายใช่ไหม ถ้าเธอจะขอขโมยเสียหน่อย

แต่แล้วหญิงสาวก็ต้องชะงัก เมื่อกลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างลอยมาจากทางด้านหลังของเธอ

เยว่ซินหันกลับไปมองแล้วก็ต้องตกใจเพราะฟาหยางกำลังยืนพิงกำแพงสูบซิการ์มองเธออยู่ ชายหนุ่มยังคงอยู่ในชุดที่ใส่ไปงานเมื่อครู่ หากแต่เสื้อเชิ้ตนั้นแขนเสื้อถูกถกขึ้นถึงข้อศอก กระดุมเสื้อโดนปลดลงสองสามเม็ดเผยให้เห็นแผงอกแข็งแกร่งที่เยว่ซินเผลอกลืนน้ำลาย

"คุณฟาหยาง" ชายหนุ่มยกยิ้มเมื่อเห็นท่าทางราวกับกระต่ายน้อยโดนจับได้ว่าขโมยแครอท

"อือ"

"ยังไม่ขึ้นไปพักผ่อนอีกหรือคะ" เยว่ซินถามแบบใจดีสู้เสือ

"ถ้าขึ้นไปก็คงไม่เห็นว่ามีกระต่ายน้อยมาขโมยอาหารจริงไหม" กระต่ายน้อยอะไรกันเล่า! เยว่ซินกล่าวแย้งในใจ

"หิว?" ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม

"อ่า...ค่ะ ขอยืมใช้ห้องครัวและของสดหน่อยนะคะ"

"คุณหนูเยว่ทำอะหารเป็นด้วยหรือ" ฟาหยางขยับเท้าเข้ามาใกล้ โชคดีที่มีเคาน์เตอร์ครัวขวางกั้นอยู่เยว่ซินจึงไม่ได้อึดอัดมากนัก

"ก็พอทำเป็นค่ะ" ตอบแบบอ้อมแอ้ม ในชีวิตจริงเยว่ซินเรียกได้ว่าทำอาหารคล่องเลยทีเดียว

"งั้นถ้าฉันจะขอฝากท้องสักมื้อก็คงไม่เป็นไรใช่ไหม"

"ฝากท้องอะไรกันคะ วัตถุดิบก็ของคุณหยางทั้งนั้น" ฟาหยางที่ได้ยินคำตอบแล้วหัวเราะเบาๆ เยว่ซินตอนนี้ช่างน่าสนใจจริงๆ

"งั้น ฉันจะทำซุปใสแล้วกันนะคะ เวลานี้ควรกินอะไรที่ย่อยง่ายๆ" เห็นท่าทางราวกับแม่ครัวของเยว่ซินแล้วฟาหยางต้องทิ้งสายตาไว้ แม้กระทั่งหญิงสาวตอนอยู่ในชุดนอนก็น่ามองยิ่งนัก

ฟาหยางไม่ได้เข้าไปรบกวนคนตัวบางอีก เขาแค่ยืนมองเงียบๆคอยเก็บรายละเอียดต่างๆไว้ในหัว มองดูคุณหนูตระกูลหลี่หยิบนู่นจับนี่อย่างคล่องมือ

ใช้เวลาไม่นานซุปใสที่มีเนื้อสัตว์และเครื่องเทศกลิ่นหอมต่างๆก็เสร็จ เยว่ซินเม้มริมฝีปากตนเองยามที่เห็นว่าฟาหยางมองอาหารอย่างสนใจ

"เพิ่งรู้ว่าคุณหนูเยว่ทำอาหารเก่งขนาดนี้"

"อาจจะไม่ถูกปากเท่าแม่ครัวของตระกูลหยางนะคะ" ฟาหยางส่ายหน้า หัวเราะเบาๆ

ทั้งสองเริ่มรับประทานอาหารโดยไม่ได้พูดคุยกันอีก กิริยาท่าทางของฟาหยางนั้นสมกับเป็นผู้ดีปกครองแผ่นดินจีนและฮ่องกง

ใช้เวลาไม่นานในการทานอาหารเสร็จ เยว่ซินจัดการทำความสะอาดด้วยความเคยชิน แต่กลับสร้างความแปลกใจให้แก่ฟาหยางอย่างมาก

"ไม่กลัวสกปรกหรือคุณหนูเยว่"

"คะ?"เยว่ซินเอียงคอ ช้อนตามองคนตัวสูงกว่า

"ปกติคุณหนูเยว่ไม่ใช่คนแบบนี้นี่" หญิงสาวหัวเราะ มือเรียวคว้าผ้ามาเช็ดมือหลังจากทำความสะอาดเสร็จ

"ฉันบอกแล้วไงคะว่านี่คือเยว่ซินคนใหม่"เยว่ซินหันกลับมาหาฟาหยางเต็มตัว

"ก่อนหน้านี้ฉันคงทำคุณลำบากใจไว้มาก" ชายหนุ่มจดจ้องดวงตาคู่สวย ในนั้นเต็มไปด้วยความจริงจัง

"หลังจากนี้ฉันจะไม่ทำตัวให้คุณรำคาญอีก" เยว่ซินเอ่ยพูด เธอคิดว่าหลังจากนี้จะตัดขาดกับเหล่าตัวเอกได้และจุดจบชีวิตเธอจะไม่กลายเป็นเช่นในนิยายอีก!

"เยว่ซิน" ราวกับเผลอตัว ฟาหยางเอ่ยชื่ออีกคนเสียงเบา ส่วนเยว่ซินพอได้พูดสิ่งในใจออกไปจึงเตรียมตัวกลับขึ้นห้องเพื่อไปพักผ่อน

ลับหลังหญิงสาว สายตาดุดันกลับมาเข้มขึ้น สีหน้าของฟาหยางตอนนี้หากเหล่าลูกน้องมาเห็นเข้าคงจะเข่าอ่อนกันเป็นแน่

"ไม่มีทางหรอกอาเยว่...ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไป"
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 139

    "หอมด้วย" ยังชมอยู่ไม่ขาดปาก เยว่ซินพูดขอบคุณเสียงเบาก่อนจะกล่าวชมเขาไม่ต่างกัน ผลัดกันหอมผลัดกันจูบอยู่สักพักถึงได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายจากชั้นล่าง "เอาอีกแล้วเจ้าพวกลูกลิง" ฟาหยางผละตัวออกพลางเสยผมตัวเองลวก ๆ เยว่ซินที่ได้ยินเช่นนั้นหลุดหัวเราะก่อนจะเดินตามสามีตัวเองไปชั้นล่างเพื่อไปหาเจ้าลูกลิ

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 138

    "ได้ เหล่ากงรอเธอเป็นกวางเสียก่อน" "..." "ถึงตอนนั้นแล้วจะเอาให้ขู่ไม่ออกเลย" คนฟังได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ แค่คิดถึงชุดที่ทั้งฟาหยางและเจ้าแฝดเลือกกันให้เมื่อคืนนี้ก็รู้สึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อย "ส่วนของขวัญที่อาซินถาม..." หัวข้อสนทนาก่อนหน้านี้ที่ข้ามไปถูกดึงกลับมาพูดอีกครั้ง คราวนี้ฟาหยางก็ถอดเสื้อ

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 137

    "ปะป๊าไม่กินผัก" "หม่าม๊าดุเลย" แล้วก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักดังตามหลัง เจ้าเด็กแสบทั้งสองดูจะชอบใจที่ได้แกล้งปะป๊าของตัวเอง ผ่านไปสักพักกว่ามื้อค่ำจะเสร็จสิ้น เยว่ซินพาอาเฟยหลงและอาเฟิ่งไปอาบน้ำส่วนฟาหยางก็เคลียร์เอกสารอีกเล็กน้อย กลับมาที่ห้องนอนก็เห็นว่าทั้งสามคนอยู่ในชุดนอนแบบเดียวกันเสียแล้

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 136

    ยี่สิบสี่ธันวาคมคือวันที่คฤหาสน์ตระกูลหยางดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ ได้ยินเสียงถกเถียงของทายาทตระกูลใหญ่ที่หน้าตาเหมือนกันทุกประการพูดแข่งกันราวกับพูดกับกระจก "เฟิ่งบอกว่าจะให้หม่าม๊าใส่ตัวนี้" "ก็เฮียบอกว่าตัวนี้ไงอาเฟิ่ง" เด็กชายวัยกำลังย่างเข้าหกขวบยื้อแย่งชุดคลุมสีแดงที่ทางห้องเสื้อส่งมาให้นายห

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 135

    เสื้อยืดกับฟาหยางคือสิ่งต้องห้ามกันจริง ๆ ! อยู่ทักทายและเล่นกับสองเฟยได้ครู่หนึ่งคุณหนูตระกูลจางก็ต้องขอตัวกลับ คราวนี้ก็ได้เวลาที่เยว่ซินต้องเข้าครัวทำอาหารและขนมสำหรับมื้อเย็นในวันนี้ ผ้ากันเปื้อนสีชมพูถูกหยิบยกขึ้นมาสวมดูแล้วน่ารักจนคนมองอดใจไม่ไหวเอ่ยปากชมกันเสียทุกคน "คุณหนูเยว่สวมแล้วน่า

  • เมื่อเธอหลุดเข้ามาในนิยายรัก แต่ดันเป็นนางร้าย   บทที่ 134

    "หม่าม๊า เฟิ่งหยิบลูกบอลไม่ถึงครับ" เป็นเฟยเฟิ่งที่กลับเข้ามาเพื่อจะหยิบของเล่นแต่เอื้อมไม่ถึง เหล่าลูกน้องตอนนี้ก็ไม่มีคนอยู่ถึงได้ตะโกนเรียกหม่าม๊าตัวเองเสียงดัง “คุณหยาง ปะ…ปล่อยซินก่อนค่ะ” ได้ยินเสียงฟาหยางจิ๊ปากแผ่วเบา เขายอมปล่อยเยว่ซินให้ปีนลงจากตักได้ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินออกจากห้องไปหาลูกชา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status