ดวงตาสวยหลับพริ้ม แพขนตายาวชุ่มไปด้วยหยาดน้ำ เจ้าของร่างเพรียวบางที่มีนามชื่อ 'เยว่ซิน' กำลังกรีดร้องกับตนเองในใจ
เธอนอนนิ่งเป็นผักเปื่อยเช่นนี้มาได้ราวๆห้าชั่วโมงแล้ว เมื่อตอนนี้เธอกำลังค้นพบว่าตัวเองได้หลุดเข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เธอกำลังอ่าน!
ใช่...โคตรจะแฟนตาซีเลย
เดิมทีเยว่ซินนั้นเป็นลูกของเจ้าสัวที่มีอำนาจคับคั่งในโลกปัจจุบัน เป็นลูกสาวเจ้าสัวที่มีแต่คนชื่นชมเอ็นดู มิหนำซ้ำยังมีผู้ชายมากหน้าหลายตามาขายขนมจีบไม่หวาดไม่ไหว
แต่ร่างที่เธอได้เข้ามาอยู่ในนิยายนั้นกลับช่างแตกต่างราวฟ้ากับเหว!
'เยว่ซิน'อีกคนนึงที่กำลังจะกล่าวถึงคือ นางร้ายในนิยายรักที่เธอเพิ่งจะอ่านหน้าสุดท้ายจบไปหมาดๆ ชีวิตของเยว่ซินในนิยายนั้นช่างน่าเวทนายิ่ง เป็นหญิงสาวรูปร่างสวยใบหน้าจัดได้ว่าหากแต่งแต้มดีๆย่อมจะมีชีวิตที่เพอร์เฟค หากแต่นิสัยร้ายกาจเอาแต่ใจ ติดทำตัวเป็นคุณหนูจนพ่อของตนเองขับไสให้ออกจากตระกูลมาลองใช้ชีวิตด้วยตนเอง
มิหนำซ้ำยังไปหมายปองชายหนุ่มมาเฟียตระกูลใหญ่ ที่มีอำนาจปกครองทั้งเมืองจีนและฮ่องกง ติดอันดับชายหนุ่มที่มีคนหมายปองจะแต่งงานด้วยมากที่สุด และนั่นคือพระเอกของเรื่องนี้อย่างไร!
เขาคนนั้นมีนามว่า 'ฟาหยาง' ใบหน้าราวฟ้าประทาน รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเป็นหนุ่มสุขภาพดี ติดที่นิสัยเย็นชา แววตาเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ ไม่สนใจผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น แต่แล้วเขาคนนั้นก็ได้พบกับ'อาจู' หญิงสาวจิตใจดีที่โดนทาบทามให้หมั้นหมายกัน แม้ตอนแรกชายหนุ่มจะปฏิเสธเสียงแข็ง หัวชนฝา แต่ด้วยความดีที่หญิงสาวปฏิบัติกับตนเองก็ทำให้ฟาหยางตกหลุมรักในที่สุด แต่เยว่ซินในนิยายไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น ทั้งขัดขวาง กีดกัน สร้างเรื่องราวรอยร้าวมากมายให้กับนางเอกผู้บอบบาง จนสุดท้ายฟาหยางทนไม่ไหว จัดการสั่งสอนนางร้ายผู้นี้จนต้องกลายเป็นคนเสียสติ
เยว่ซินถอนหายใจ หลังจากที่นอนนิ่งอยู่อย่างนี้หลายชั่วโมงก็รับรู้ว่าควรลุกขึ้นไปหาอะไรกิน ล้างหน้าล้างตาแล้วเริ่มจัดการวางแผนชีวิตตัวเองใหม่
ไหนๆก็หลุดเข้ามาทั้งที ลองใช้ชีวิตดูสักหน่อยจะเป็นไรไป!
ในห้องพักคับแคบไร้ของสด เยว่ซินถอนหายใจอีกครั้ง โชคยังดีที่ในกระเป๋าพอมีเงินเหลือ งั้นเธอลงไปหาอะไรทานที่ร้านข้างนอกดูแล้วกัน
อ้างอิงจากในนิยาย แม้ว่าเยว่ซินคนนั้นจะโดนพ่อขับไสออกจากตระกูล หากแต่ห้องพักที่อยู่ก็ไม่ได้ยากแค้นขนาดนั้น รถยนต์ก็ยังพอมีให้ขับ นั่นเท่ากับว่าเธอยังไม่สิ้นหวังไปเสียทีเดียว
เยว่ซินจัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุด เนื่องจากในชีวิตจริงของเธอนั้นไม่ค่อยแต่งหน้าจัดนัก ครานี้เธอจึงแค่ปัดแป้งทาลิปบางๆแล้วเตรียมตัวออกไปหาอะไรทาน
แม้ว่าในนิยายนั้นผู้หญิงคนนี้จะร้ายกาจและมีหลายคนเกลียดชังเธอ แต่ก็ต้องยอมรับว่าหญิงสาวมีโชคด้านรูปร่างหน้าตายิ่งนัก ผิวที่ขาวราวกับหิมะ และนิ้วเรียวสวยทำให้คนที่เพิ่งหลุดเข้ามาอิจฉาน้อยๆ
"เอาล่ะ...เป็นไงเป็นกัน!" เยว่ซินพูดกับตนเองพร้อมกับตีที่แก้มเบาๆ ถ้าในนิยายเธอต้องกลายเป็นคนเสียสติเพราะการกระทำเป็นนางร้ายของตนเองที่ทำต่อพระเอกและนางเอก งั้นในชาตินี้เธอจะเปลี่ยนแปลงใหม่
พระเอกกับนางเอกงั้นหรือ...
ถ้าเธอไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาซะอย่าง เธอก็จะไม่มีจุดจบน่าเวทนาแบบนั้นแล้วนี่ เยว่ซินพูดและพยักหน้ากับตนเอง
เธอจะใช้ชีวิตใหม่และจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกตัวเอกเด็ดขาด!
ฮ่าฮ่าฮ่า แค่นี้ก็รอดแล้ว เยว่ซินเอ๋ย...
หากแต่จะให้พูดตามตรงก็บอกเลยว่าเธอคิดพลาด! เยว่ซินลืมไปได้อย่างไรนะว่า 'อาจู' ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่องนั้น จิตใจดีแค่นั้น หล่อนเป็นห่วงและชอบทำตัวตามติดเยว่ซินที่เป็นนางร้ายซึ่งทั้งสองคนมีศักดิ์คลับคล้ายดั่งญาติกัน
"อาจูเป็นห่วงค่ะ กลัวว่าพี่จะเหงาที่ออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว เลยจะไปเป็นเพื่อนด้วย" เพราะด้วยสาเหตุนี้ เยว่ซินในนิยายที่เป็นนางร้ายถึงได้ใช้ความดีของอาจูคอยกลั่นแกล้งนางสารพัด พอโดนจับได้ก็บีบน้ำตาเข้าหน่อย นางเอกของเราก็จิตใจอ่อนโยนพร้อมให้อภัยได้ทุกเมื่อ
แต่ไม่ใช่กับพระเอกของเรื่องนี้...ในตอนใกล้จบนั้นเยว่ซินในนิยายได้ทำเรื่องที่เลวร้ายอย่างยิ่งโดยการจ้างผู้ชายหลายคนจับตัวอาจูไปแล้ววางแผนให้ข่มขืน แต่ฟาหยางกลับมาช่วยไว้ทัน สุดท้ายเขาที่ทนไม่ไหวก็ต้องสั่งสอนจนเธอต้องกลายเป็นคนเสียสติในที่สุด
"วันนี้พี่อยากกินข้าวคนเดียวน่ะ...อาจูคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าพี่จะไม่ให้ไปด้วย" ฝั่งอาจูที่ได้ยินแบบนั้นหน้าถอดสี เม้มริมฝีปากตัวเองแน่นและก้มหน้าลงราวกับรู้สึกผิด
"เพราะเรื่องที่พี่ฟาหยางดุพี่เยว่ซินวันก่อนใช่ไหมคะ...อาจูจะให้พี่ฟามาขอโทษค่ะ!" หญิงสาวพูดอย่างกระตือรือร้น หากแต่คนได้ฟังกลับหน้าถอดสี
"ไม่ๆๆ ไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นหรอก...น้องอย่าทำแบบนั้นเลย" เยว่ซินหน้าซีด เธออุตส่าห์จะหลีกเลี่ยงการพบกับตัวเอกทั้งหลาย หากแต่สาวน้อยตรงหน้าจะลากให้มาพัวพันเสียได้
ส่วนเรื่องที่หญิงสาวพูดมานั้น จากที่เยว่ซินลองนึกในนิยาย คลับคล้ายคลับคลาว่าจะมีฉากที่เธอได้เจอกับฟาหยางด้วยความบังเอิญ เธอเลยตัดสินใจเข้าไปทักทายหากแต่กลับโดนชายคนนั้นต่อว่าเหน็บแนม
"งั้นอาจูคงทำตัวน่ารำคาญใส่พี่อีกแล้ว...ขอโทษด้วยนะคะที่อาจูจุ้นจ้านไปหน่อย" ฝั่งนางเอกตัวน้อยเอ่ยพูดด้วยแววตาสั่นระริก กุมมือของตัวเองไว้จนดูน่าสงสาร
"เอ่อ..." ฝั่งเยว่ซินที่บัดนี้ไม่ใช่คนเดิมแล้วได้แต่นึกปลงตกกับตนเอง ทำไมเธอต้องมาเจอกับนางเอกตั้งแต่ออกมาจากห้องเลยล่ะเนี่ย
"อาจูขอโทษที่ทำตัววุ่นวายกับพี่บ่อยๆ"
"..."
"พี่อย่าทำร้ายอาจูเลยนะคะ" ห๊าาา ครั้นได้ยินอีกฝ่ายพูดแบบนั้นกับตนเอง เยว่ซินถึงกับกุมขมับ โชคดีที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคนนัก ไม่เช่นนั้นเธอคงได้โดนลากไปสถานีตำรวจเป็นแน่
"ไม่...ไม่สิ" เยว่ซินตอบอย่างละล่ำละลัก มือไม้ปัดไปมาต้องการปฏิเสธ
"งั้นอาจูไม่กวนพี่แล้วก็ได้ค่ะ" เยว่ซินมองเด็กน้อยตรงหน้าแล้วถอนหายใจ
สมกับเป็นนางเอกจริงๆ ทั้งหน้าตาและนิสัยล้วนดีเลิศไปเสียทุกอย่าง
เยว่ซินไม่ได้เอ่ยตอบอะไร นั่นคงทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดคิดว่าเธอไม่อยากเสวนาด้วย จึงรีบถอยแล้วเดินจากไป ทิ้งให้คนที่กำลังเหม่อลอยชื่นชมอาจูในใจหลุดออกจากภวังค์แล้วก่นด่าตัวเองอยู่คนเดียว
นี่เธอไปทำให้นางเอกเสียใจงั้นเร๊าะ!? แล้วชาตินี้จะหลุดพ้นเงื้อมมือพระเอกสุดหล่อคนนั้นได้ไหมนะ ถ้าอาจูยังคอยมายุ่งกับเธอแบบนี้
ขอร้องเถอะตัวเอกทั้งหลาย อย่าได้มายุ่งกับเยว่ซินคนนี้เลย เธอไม่อยากเป็นคนเสียสติ!
อีกด้านในตึกสูงกว่า30ชั้น 'ฟาหยาง' ผู้นั้นกำลังนั่งจิบน้ำชาหาได้สนใจเรื่องอื่น มือหนาประดับรอยสักประจำตระกูลเต็มหลังมือดูน่าเกรงขาม ดวงตาคมทอดมองลงไปยังด้านล่างที่อยู่สูงนัก
เขาชินชากับความสูงนี้
"คุณหยางครับ..." เสียงของลูกน้องด้านหลังดึงความสนใจชั่วครู่ ชายคนนั้นวางแฟ้มเอกสารลงด้วยความนอบน้อมก่อนจะเอ่ยพูด
"ข้อมูลตระกูลหยวนครับ" ฟาหยางพยักหน้า ปรายตามองชั่วครู่ก่อนจะหันมาจิบชาต่อ
"ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านจะให้คุณหนูจูเข้าพบหรือไม่ครับ" คุณหนูจูหรืออาจูผู้นั้นถูกทาบทามให้เป็นคู่หมั้นเขา แต่เขาสนใจที่ไหนกัน?
"ถ้าเธออยากเข้ามาก็ให้มาแต่ฝากบอกไว้ก่อนว่าฉันมีงานเยอะ คงจะคุยด้วยไม่ได้" ชายมีศักดิ์เป็นลูกน้องโค้งรับก่อนจะขอตัวออกจากห้องไป
พวกเขารู้ดีว่าเจ้านายของตนไม่ชอบสุงสิงกับผู้หญิงคนไหน ที่ยอมให้เข้ามาวุ่นวายได้นั้นคงเพราะไม่อยากรำคาญพ่อของตนเอง
ฟาหยางกลับมาสนใจที่เอกสาร ยกขึ้นเปิดมันเพียงชั่วครู่ก่อนจะต้องขมวดคิ้ว
ตระกูลหยวนเกี่ยวอะไรกับตระกูลหลี่...
ซึ่งตระกูลหลี่ที่กล่าวถึงนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน... หลี่ เยว่ซิน... ยัยผู้หญิงน่ารำคาญคนนั้นไง
ฟาหยางกวาดสายตาอ่าน มุมปากกระตุกยิ้มเล็กน้อย
"พอโดนพ่อขับไสเลยหาที่เกาะใหม่งั้นหรือ" แววตาเย็นชาดูสนุกสนานขึ้นเล็กน้อย เหมือนว่าเขาจะเจอเรื่องดีๆไปหาเรื่องปั่นหัวยัยคนนั้นเสียแล้ว
ความจริงเขาก็ไม่ชอบจุ้นจ้านรำคาญกับใคร...แต่ใครใช้ให้เยว่ซินคนนั้นมาลองดีโอ้อวดใส่ตนนักเล่า
มันก็ต้องมีสั่งสอนกันบ้างนั่นแหละ...
ความคิดเห็น