/ แฟนตาซี / เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ / บทที่ 4 เด็กหญิงประหลาดกับหมายักษ์

공유

บทที่ 4 เด็กหญิงประหลาดกับหมายักษ์

last update 최신 업데이트: 2025-02-19 09:57:43

ณ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่อยู่ห่างไกลกับเมืองใหญ่พอสมควร เป็นเพียงแค่หมู่บ้านชายป่าที่มีประชากรรวมกันเพียงแค่ไม่ถึงร้อยครัวเรือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วผู้คนนั้นจะอาศัยขึ้นไปหาของป่าที่ทิวเขาไกลออกไปหลายสิบลี้ เพราะว่าดินแดนแถบนี้ไปนั้นค่อนข้างแห้งแล้งและมีดินที่ไม่อุดมสมบูรณ์เท่าไรนัก ทำให้ไม่ค่อยเหมาะแก่การเพาะปลูกหัวเผือกหัวมันเท่าไรนัก ความเป็นอยู่ของผู้คนจึงลำบากมากพอตัวเลยทีเดียว

ถึงทิวเขาไกลออกไปหรือถ้าออกจากที่ดินผืนนี้ไปจะสามารถที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ แต่ด้วยสำหรับพวกเขาทั้งหมดที่ดินผืนนี้เป็นที่ที่พวกเขาทุกคนอาศัยอยู่กันมาหลายชั่วอายุคน แม้ว่าจะไม่มีอะไรโดดเด่นมากมาย แต่พวกเขาก็สามารถมีชีวิตอยู่รอดปลอดภัยมาอย่างยาวนาน 

หากไม่ใช่เพราะเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาก็คงไม่ต้องลำบากเช่นนี้

ยังไม่รวมถึงเหล่าชายฉกรรจ์อีกหลายคนที่ต้องไปทิ้งชีวิตเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวแล้วด้วย สิริรวมแล้วสถานการณ์ของหมู่บ้านที่สุขสงบเช่นนี้ก็เริ่มจะไม่คอยดีมากนัก

จนกระทั่ง...

เมื่อราวๆ หนึ่งเดือนก่อนหรือนานกว่านั้น เริ่มมีผู้คนที่เดินขึ้นไปตามลำธารที่แห้งขอด ก็เริ่มพบเจอกับเด็กผู้หญิงมอมแมมตัวเล็กๆ ที่มาพร้อมกับหมาตัวเขื่องพันธุ์ไหนสักพันธุ์ที่พวกเขาไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน กำลังวุ่นอยู่กับการทำบางสิ่งบางอย่าง

ในคราแรกทั้งคู่นั้นต่างก็เป็นที่หวาดกลัวของคนในหมู่บ้าน แต่ยิ่งนานวันก็ความกลัวที่มีต่อเด็กน้อยก็ค่อยๆ จางหายไป จะเหลือก็แค่ความยำเกรงที่มีให้แก่เจ้าหมาขนฟูจนปิดบังแม้แต่ดวงตา จนไม่สามารถบ่งบอกถึงอารมณ์ของมันได้เลย จะมีก็แต่ตอนที่มันแยกเขี้ยวเท่านั้นที่พวกเขารู้ว่าอีกฝ่ายเริ่มไม่เป็นมิตรแล้ว

ส่วนสิ่งที่ทำให้เด็กหญิงค่อยๆ สนิทชิดเชื้อกับผู้คนในหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว ก็เป็นเพราะในทุกๆ ครั้งที่นางพบเจอผู้คน นางก็จะมาพยายามมาพูดคุยไว้วานให้ทำบางสิ่งบางอย่างให้แก่นาง โดยแลกกับอาหาร

อาหาร...

ใช่แล้ว!

มันคือสิ่งที่ผู้คนในหมู่บ้านนี้ขาดแคลนมากที่สุด ทำให้แม้จะหวาดกลัวหรือหวั่นเกรงเพียงใด แต่เพียงแค่ไม่นานแทบจะทุกครัวเรือนในหมู่บ้านจะวนเวียนมายังที่ที่เด็กหญิงกับหมาตัวเขื่องอาศัยอยู่

เคยมีอันธพาลในหมู่บ้านพยายามที่จะเข้าไปปล้นเอาอาหารจากเด็กหญิง เพราะคิดว่านางต้องมีสมบัติบางอย่างที่สามารถเก็บอาหารได้มากมาย

แต่สุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการที่พวกมันทุกคนต้องเอาชีวิตมาทิ้งภายใต้คมเขี้ยวของเจ้าหมายักษ์ที่สูงเกือบสองเมตร

แน่นอนว่าเมื่อมีคนตายย่อมมีคนกล่าวโทษต่อเด็กหญิงเป็นธรรมดา แต่นางก็พูดไปตามตรงว่าถ้าหากคนพวกนั้นไม่พยายามปล้นทำร้ายนาง เรื่องราวมันก็คงไม่จบลงแบบนี้ 

จบลงตรงที่ผู้คนที่เป็นปฏิปักษ์ต่อนางไม่สามารถรับสิ่งใดๆ จากนางได้เลย แตกต่างจากเด็กๆ ในหมู่บ้านที่มักจะแวะเวียนมาเที่ยวเล่นที่นี่เป็นประจำ แล้วได้กินทั้งขนมทั้งน้ำหวานทั้งของแปลกๆ มากมายที่พวกเขาไม่เคยได้พบได้เห็นมันมาก่อนทั้งชีวิต

และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของตำนานของเด็กหญิงผู้ใจดีกับหมายักษ์ของหมู่บ้านแห่งนี้ จนถึงขั้นมีบางคนสรรเสริญนางว่าเปรียบได้ดั่งเทพเซียน หรือแม้แต่ของขวัญที่สวรรค์ประทานมาให้กับพวกเขาที่อดทนไม่ทอดทิ้งบ้านเกิด

และแน่นอนว่าเย่หัวไม่เคยรับรู้และต่อให้รู้นางก็ไม่คิดที่จะสนใจมันเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากเช้าวันนี้นางตื่นแต่เช้าล้างหน้าบ้วนปากแล้วออกจากเรือนมามองทุกสิ่งทุกอย่างของนาง ที่ถูกสร้างขึ้นในตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา

“เดือนเดียว...” เสียงหวานใสรำพึงเบาๆ ออกมาในขณะที่มองทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัว “ยังไงก็เถอะเหลือจะเชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นในระยะเวลาแค่เดือนกว่าๆ ความแตกต่างของเวลามันยากจริงๆ ให้ตาย ไม่ชินสักที”

เพียงแค่ระยะเวลาแค่เดือนเดียวจากไม่มีอะไรเลยสักอย่างเดียว เย่หัวก็สามารถใช้อาหารที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดนี้เอง สร้างบ้านขึ้นมาได้หลังหนึ่ง ด้วยเรี่ยวแรงของผู้คนมากหน้าหลายตา ที่แลกมาด้วยอาหารมากมายหลายร้อยจานชามที่เอาออกมาจากตู้เย็นของเจ้าเพื่อนเก่าเจ้าปัญหา

จนสามารถสร้างบ้านหลังไม่ใหญ่ไม่เล็กที่สร้างด้วยหินดินไม้ผสมเข้าด้วยกันแล้วมุงด้วยหญ้า พร้อมๆกับพื้นที่รอบๆ บ้านที่นางให้คนช่วยยกร่องที่ดินเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

“ตอนนี้มีบ้านแล้ว มีอาหารไม่จำกัด แล้วหลังจากนี้นอกจากทำสวนทำไร่แล้วจะทำอะไรต่อไปดี...” พูดแล้วก็หันไปหาเจ้าเพื่อนเก่าในร่างใหม่ “ว่าไงสังเอาไงต่อดี”

“...” หมาตัวเขื่องเพียงแค่หันมามองเด็กหญิงร่างเล็กแค่ชั่วครู่ก่อนที่จะหมอบลงนอนตามเดิม

หะหะ

“สงสัยใกล้บ้าเต็มทีแล้วถึงได้คุยกับหมา” เด็กหญิงหัวเราะกับตัวเองเบาๆ นึกย้อนกลับไปในตอนแรกที่ตื่นมาเห็นหมาทิเบตันตัวใหญ่ยักษ์เมื่อเทียบกับร่างของเด็กแบบขวบอย่างนาง ในตอนแรกก็ตกใจไม่คิดว่ามันจะตัวโตขนาดนั้นในตอนที่อ่านจดหมาย แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ทำร้ายนางแถมยังเชื่อเสียยิ่งกว่าเชื่อเท่านั้นนางก็พอจะโล่งใจได้เปราะหนึ่ง

และเจ้า “สัง” ที่ตั้งตามชื่อเดิมของของเพื่อนเก่าสมัยนางยังสาวนี่เองก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางสามารถปรับตัวเข้ากับโลกนี้ได้เร็วขึ้น

ที่สำคัญที่สุดก็คือมันคอยช่วยปกป้องนางเสมอ หรือแม้แต่เล่นกับเด็กๆ ที่มาอยู่เป็นเพื่อนนางอย่างไม่เกี่ยงงอน 

“เอาเถอะ อย่างน้อยจากที่ไม่มีอะไรเลยก็ค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้ว เดี๋ยวค่อยกว่ากันอีกทีก็แล้วกัน”

......................

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)

    บทที่ 84 แปดเซียนสองเทวะหนึ่งอรหันต์(1)จากแสงของดวงตะวันที่เริ่มอ่อนแรงลงในยามโพล้เพล้ เปลี่ยนเป็นแสงสว่างที่สาดกระทบลงมาทั่วหุบเขาในเสี้ยวพริบตา ทำให้ชาวบ้านทุกคนตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปโดยเฉพาะความรู้สึกเคารพ นอบน้อม และหวั่นเกรงต่อแสงสว่างเหล่านั้น แม้ว่าพวกเขาทุกคนจะไม่สามารถมองเห็นต้นเหตุของแสงสว่างเหล่านั้นได้ แต่ว่าความรู้สึกของพวกเขาทุกคน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยและในเวลาเดียวกัน สายตาของทุกคนก็หันมองไปทางนางเซียนน้อยของพวกเขา ผู้ซึ่งนำพาแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์สงบร่มเย็นมายังหุบเขาแห่งนี้ ที่ตอนนี้แม้แต่ตัวนางเองก็ยังมองไปยังฟากฟ้าไม่แตกต่างจากทุกคน...ส่วนที่แตกต่างกันนั้นก็คงจะเป็นภาพ ที่ปรากฏอยู่ในดวงตาของเยว่หัวนั้น มันเป็นกลุ่มก้อนรูปร่างคล้ายคลึงกับมนุษย์โปร่งใส แต่มีขนาดและสีสันต์ที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ตัวเล็กๆ กว่าปลายเข็ม ไปจนกระทั่งตัวโตจนสูงกว่ายอดเขาที่สูงที่สุดด้วยซ้ำ...“ไม่อยากจะเชื่อ ตกลงว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่...”เยว่หัวมองไปยังภาพที่ปรากฏตรงหน้าของนาง ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ยังไม่ทันที่นางจะได้คิดไปไกลเกินกว่านั้น

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์

    บทนำเล่มสาม ดินแดนแห่งชีวิต...หุบเขาธิดาสวรรค์อีกไม่นานหลังจากนี้...ดินแดนแห่งนี้จะเป็นที่กล่าวถึงของผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ที่เคยเป็นดินแดนแห่งความตายดินแดนแห่งนี้ที่ผู้คนเคยหลีกหนีดินแดนแห่งนี้ที่เคยถูกทอดทิ้งโดยผู้คนมากมายดินแดนแห่งนี้ ที่แทบจะไม่เหลือใครในอีกไม่กี่ปีต่อมา ถ้าหากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆดินแดนแห่งนี้ ที่ผู้คนภายนอกส่วนใหญ่ต่างมองว่า มันคือดินแดนที่ตายไปแล้วดินแดนแห่งนี้คือหุบเขาที่มีเพียงแค่ความแห้งแล้ง ที่มีเพียงแค่ซากแห่งชีวิต ที่ค่อยๆ แห้งเหือดลงไปในทุกทุกขณะมันคือดินแดนแห่งความสิ้นหวัง ที่ไม่มีใครอยากจะไปเข้าใกล้มัน เพราะไม่ว่าจะเป็นพื้นดินที่แห้งแล้ง ไม่ว่าจะเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยสัตว์อสูร แล้วยังมีความลับต่างๆมากมาย ที่เคยพรากชีวิตผู้คนไปนับไม่ถ้วนในตลอดระยะเวลา 10 ปี จนทำให้ภูเขาแห่งนี้ เป็นที่ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกไปโดยสมบูรณ์ เพราะว่าแม้แต่คนภายในเองก็ยังพยายามที่จะหลีกหนี พวกเขาพยายามที่จะกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดออกมาจากดินแทนแห่งนั้น…แต่อยู่มาวันหนึ่ง...ดินแดนที่เคยไร้ซึ่งชีวิตและความหวัง ก็ได้เกิดปรากฏการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน จนผู้คนที่พบ

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)

    บทที่ 82 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (2)“…!!”ในทันทีที่ชาได้สติขึ้นมา มองไปยังใบหน้าของพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างออก ปากอ้าหุบอ้าหุบพะงาบพะงาบราวกับต้องการจะพูดบางสิ่งบางอย่างออกไป แต่เขารู้ดีว่าความหวังของเขามันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ต่อให้ใบหน้านั้นจักคุ้นเคยและคล้ายคลึงกับคนที่เขาเฝ้าตามหามาช่วยชีวิตสักแค่ไหน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่ใครสักคนหนึ่งจะมีใบหน้าเหมือนอีกคน ขนาดนี้จะเป็นคนคนเดียวกัน...‘บางทีอาจเป็นข้าเองที่จำผิด...’เขาพยายามปลอบใจตัวเอง แล้วดึงสติกลับมาในเหตุการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และเขาจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว…“พระคุณเจ้าขอรับ...”“เรารู้ว่าเจ้ามหาเราทำไม พูดออกมาเถิดเพราะว่าเจ้าคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าเรานั้นสามารถทำอะไรได้หรือไม่ได้”สิ่งที่พระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์นั้นกล่าวออกมานั้นไม่ผิดเลย สำหรับคนที่เคยเข้าเฝ้าพระปัจเจกพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้ามาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน สำหรับเขาที่มีชีวิตอยู่มานานมากขนาดนั้น มีหรือที่เขาจะไม่รู้ในข้อนี้เพราะว่าสำหรับพระที่บรรลุอรหันต์แล้ว

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)

    บทที่ 81 บทพิเศษ “เราไม่ลงนะรกแล้วผู้ใดจักลงนรก” (1)#บทนี้เป็น บท ย่อยแยกอีกบทหนึ่งนะครับ#ย้อนกลับไปในตอนก่อนที่เขาจะมอบระฆังธรรมให้กับเพื่อน ในขณะนั้นชาได้สังเกตเห็น ถึงความตั้งใจที่จะสั่งสอนธรรมะของเพื่อน แต่ด้วยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การที่นางไม่สามารถจดจำข้อธรรมใดๆ ได้มากนักก็ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเนื่องจากว่าการที่เขาได้ทำการล้วงเอาจิตของนางขึ้นมาจากนรกนั้น มันเป็นเรื่องที่ทำการฝืนชะตากรรมของคนคนหนึ่ง และการที่เขา เรียกดวงจิตเดิมของนางที่ควรจะแตกดับไปนานแล้ว ตลอดไปจนถึง สัญญาสังขารและวิญญาณแต่เดิมของนาง ในภพแรกที่พวกเขาทั้ง 2 คนได้เจอกันโดยวิธีการเปิดพระธรรมคำสั่งสอนจากระฆังธรรม ให้ดวงจิตที่แตกสลายของนางได้ฟังซ้ำไปซ้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า ยาวนานนับหมื่นปีกว่าที่ดวงจิตของนางจะสามารถเรียกสติกลับคืนมาได้อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เหล่าสัตว์นรกบางส่วนที่พอมีฤทธิ์สามารถแทรกออกมายังบนโลกอีกครั้ง...และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมจู่ๆ นางถึงเหมือนกับว่า สามารถอธิบายข้อธรรมคำสั่งสอนทั้งหลาย ออกมาได้ราวกับเคยศึกษามันมาอย่างถ่องแท้ ทั้งๆ ที่ตัวนางแทบจะไม่เคยศึกษาเรื่องราวในแน

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   คุยกันแบบจริงจังก่อนขึ้นเล่มสาม(เนื้อเรื่องที่แท้จริง)

    ก่อนอื่นเลยที่สำคัญที่สุดต้องขอบคุณมากๆ เลยนะครับ ที่ติดตามกันมาจนถึงตอนนี้(น่าจะเหลือไม่ถึง1/10ของคนที่หลงเข้ามาที่จะเดินมาจนถึงจุดนี้) ดีใจที่เดินทางมาด้วยกันจนถึงจุถดเริ่มต้นที่แท้จริงของนิยายเรื่องนี้ครับใช่แล้วครับ…ตั้งแต่บทนำมาจนถึงตอนนี้เพิ่งจะเป็นส่วนที่ปูจุดเริ่มต้นของ เย่หัว-เยว่หัว ให้ทุกคนได้รู้จักตัวตนและสภาพแวดล้อมของนาง โลกที่นางอยู่ ผู้คน สังคม รายละเอียดที่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาหลัก และเหตุผลของการกระทำต่างๆ ที่นางจะทำต่อจากนี้ไป จนบางครั้งอาจจะเป็นการกระทำที่ “โหดเหี้ยม” แบบไร้เหตุผลเลยก็มี เล่ม1-2จะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวในส่วนของ “บทนำ” แต่หลังจากเล่ม 3 เป็นต้นไปก็จะเข้าสู่ปฐมบทที่แท้จริง ตามชื่อบทของบทนี้ครับ เราจะคุยกันแบบจริงจังกับเนื้อเรื่องที่แท้จริงกันครับ อย่างแรกเลยก็คือหลังจากนี้จะต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งความแฟนตาซีที่แท้จริง ของแม่ครัวตัวจิ๋วที่รักในการทำอาหารให้ผู้คนได้ลิ้มรส เป็นหนึ่งในความสุขของนาง และเป็นสิ่งสำคัญที่จะคอยยึดเหนี่ยวตัวนางเอาไว้ ส่วนยึดนางจากอะไรนั้นต้องไปติดตามในเนื้อเรื่องครับอย่างที่สองก็คือเรื่องของความแฟนตาซีและโลกในจินตนาการที

  • เยว่หัว แม่ครัวจิ๋วแสบสะท้านภพ   บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)

    บทที่ 80 เลี้ยงส่ง(จบ)หลังจากที่เยว่หัวสามารถเรียกสติของผู้คนกลับมาได้อีกครั้ง ตลอดช่วงเช้าไปจนถึงเที่ยง นางก็ทำการจัดแจงแบ่งกลุ่มคนออกเป็นกลุ่มๆ โดยที่ไม่ลืมนำวัตถุดิบจำนวนมากออกมา แล้วจัดแจ้งเตรียมการฝึกซ้อมทั้งหมด กว่าที่ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ปาเข้าไปจนถึงช่วงเที่ยงแล้วซึ่งในระหว่างที่ทำการฝึกซ้อมปรุงอาหารชนิดต่างๆ นั่นเอง เหล่าแม่บ้านและเด็กๆทุกคนต่างก็ได้ลองชิมอาหารกันอย่างเต็มอิ่ม และเมื่อเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ทุกคนเลยหยุดพักกันในตอนเที่ยงพอดิบพอดี และถือเป็นการพักท้องอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้ทุกคนแทบจะท้องแตกเสียแล้วส่วนฝั่งของจางหลงที่เป็นฝ่ายจัดเตรียมสถานที่ ซึ่งพวกเขาทุกคนก็ทำเต็มที่ในหน้าที่ของตนเอง แต่ด้วยข้อจำกัดของหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง โดยเฉพาะเวลาที่มีอยู่เพียงแค่ไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น พวกเขาจึงตกลงกันใหม่ว่า จะจัดเป็นโต๊ะไม้ยาวๆ ขนาด 6 ถึง 8ที่ แทนที่แผนการจะทำโต๊ะชุดวงกลม และโต๊ะทั้งหมดจะหันหน้าเข้าหาเวที ด้านเดียว ส่วนตัวเวทีเองก็จะสร้างขึ้นมา โดยการขุดดินมาถมเป็นเนินสูงขึ้นประมาณหัวเข่า ใช้ดินเหนียวในการป้ายโดยรอบเพื่อไม่ให้หน้าดินพัง

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status