9 สคริปต์ใหม่

9

สคริปต์ใหม่

         บันทึกการถ่ายทอดสดทั้งสองวันถูกนำมาตัดต่อและออกอากาศในเทปแรก นอกเหนือจากกิจกรรมและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมีการสัมภาษณ์เดี่ยวในช่วงท้ายเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

         ส่วนการสัมภาษณ์ก่อนการเข้าร่วมรายการในวันแรกยังไม่ถูกเผยแพร่ออกมา

         “หากเทปหน้ามีการเลือกคู่ คุณคิดว่าอยากคู่กับใคร”

         “เลือกยากจังเลยค่ะ ก็คงจะเป็นน้องอี้เฉินละมั้งคะ” ก้ามปูตอบ

         “อยากคู่กับพี่แม่ทัพค่ะ แต่ไม่รู้ว่าใจเราจะตรงกันมั้ย” เฟรินให้สัมภาษณ์

         “เหตุการณ์ไหนที่คุณประทับใจมากที่สุด”

         “จริงๆ ก็ประทับใจมากทุกช่วงเลยนะคะ แต่ถ้าประทับใจที่สุดเห็นจะเป็นตอนที่ได้เห็นคนที่ไม่ถูกกันยอมทำตามกติกาของเกมละมั้งคะ” ปันปันแอบแซวก้ามปูเข้าให้

         “ตอนที่ได้อยู่กับพี่ก้ามปูครับ” เป็นคำตอบอันชัดเจนยิ่งจากโปรเพลย์เยอร์หนุ่ม

         “ตอนที่จับมือกินข้าว คุณรู้สึกยังไงบ้าง”

         ก้ามปูนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาอัปยศซึ่งกินเวลายาวนานที่สุดในชีวิตของเธอแล้วก็ได้แต่ทำหน้าเหม็นเบื่อ “รู้สึกไม่เจริญอาหารค่ะ”

         หญิงสาวมีประสบการณ์เดตกับผู้ชายมาในระดับหนึ่งแล้ว การจับมือไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวใดๆ เลยสักกระผีก ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างราบรื่นถ้าไม่มีการกลั่นแกล้งกันเกิดขึ้น

         เพราะไม่เคยคิดที่จะเฉียดกายเข้าใกล้กันมาก่อน จึงไม่เคยถูกชายหนุ่มกลั่นแกล้งกันซึ่งๆ หน้า

         ตอนกินข้าวเที่ยง ด้วยความที่แม่ทัพถนัดซ้าย ส่วนเธอถนัดขวา การใช้มือเพียงข้างเดียวในการกินข้าวจึงไม่ได้ลำบากอะไร แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เธอเกือบระเบิดกลางรายการมันเริ่มขึ้นเมื่อแม่ทัพดึงมือของเธอขึ้นไปวางบนโต๊ะตอนที่มืออีกข้างของเธอกำลังตักซุปเข้าปาก!

         ซุปก็หกราดตัวเธอเหมือนเด็กๆ น่ะสิ! แถมหมอนั่นยังแกล้งเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดให้จนเธอต้องกระโดดหนี เผลอตัวปล่อยมือออก สุดท้ายก็เลยต้องโดนทำโทษให้ต้องจับมือต่อไปอีกครึ่งชั่วโมงจนรายการจบลงนั่นแหละ

         “ไม่รู้สึกสปาร์คกันบ้างเลยเหรอคะ จับมือกันเกือบชั่วโมงแน่ะ”

         “รู้สึกเมื่อยมือเสียมากกว่าค่ะ คงไม่มีใครอยากจะจับของแสลงนานขนาดนั้นหรอกมั้งคะ ฉันทนได้ขนาดนี้ก็บุญแค่ไหนแล้ว แนะนำเหล่าแฟนคลับอย่าได้จับคู่ฉันกับคนคนนั้นเลยนะคะ”

         ส่วนทางฝ่ายแม่ทัพก็ให้สัมภาษณ์ว่า “อืม ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่สบายมือเท่าไหร่ครับ เหมือนจับกระสอบป่านอยู่”

         ...

         “หนอย นายนี่หาว่าฉันมือสากเหรอ เลวมาก!”

         ก้ามปูที่นั่งดูรายการอยู่ในคอนโดของตัวเองโวยวายออกมาดังลั่น ปรี๊ดแตกจนต้องหยิบหมอนมาต่อยโดยนึกถึงหน้าของอีกฝ่ายไว้

         “ใจเย็นๆ น่า ก็แค่ผู้ชายปากหมา” ลินปลอบ ด้วยความที่เธอเป็นผู้จัดการให้กับก้ามปู จึงรับรู้ถึงความไม่ถูกกันของทั้งคู่อย่างชัดเจน

         “คอยดูนะ เทปหน้าปูจะทำให้ไอ้นั่นขอถอนตัวออกจากรายการให้ได้!”

         ลินเลิกสนใจคนที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ ก่อนจะรายงานผลการสำรวจออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

         “ซีนที่คนดูชอบใจจนตัดต่อออกมาเป็นคลิปมากที่สุดเห็นจะเป็นซีนที่ทีมทำความสะอาดของเธอต้องทำท่าทางตามการ์ดภารกิจ รองลงมาก็เป็นตอนกินข้าวในวันที่สอง”

         “คนดูนี่ก็นะ ชอบแต่อะไรที่มันไม่จริง”

         เธออยากจะลบภาพของความอัปยศทั้งหลายแหล่นี้ทิ้งไปเสียให้หมด

         “ที่พี่มาหาเธอในวันนี้ก็เพราะเพิ่งไปคุยกับโปรดิวเซอร์มา เขาชอบใจกับผลตอบรับเหล่านี้มาก ก็เลยอยากเปลี่ยนแปลงภาพรวมของสคริปต์นิดหน่อย และนี่คือสคริปต์ของเทปหน้า” ผู้จัดการสาวยื่นกระดาษเอสี่ที่มีจำนวนแผ่นเท่าคราวก่อนมาให้

         ใบสคริปต์ยังบอกให้เธอทำตัวเป็นตัวของตัวเองเช่นเดิม คอยเป็นตัวตั้งตัวตีในการทักท้วงโปรดิวเซอร์ สร้างสัมพันธ์อันดีกับอี้เฉิน ไม่ต้องเลือกชายหนุ่มที่ได้รับความสนใจน้อยที่สุดอีก และเพิ่มโมเม้นต์กับแม่ทัพให้เยอะๆ ห้ามทะเลาะกัน!

         “นี่มันหมายความว่ายังไงกันคะ!?”

         “เรื่องนี้แหละที่ทำให้พี่ต้องมาอธิบายกับเธอ ทางรายการได้ข้อสรุปมาแล้วว่าอยากให้พวกเธอเป็นคู่เดตกัน”

         อารมณ์เสียยังไม่ทันหาย พอมาเจอเรื่องบ้าๆ แบบนี้อีก เส้นเลือดบนขมับของก้ามปูก็เต้นตุบๆ รู้สึกอยากฆ่าคนขึ้นมาเสียถนัด

         “ขอเบอร์โปรดิวเซอร์หน่อยค่ะ”

         “จะลองดูก็ได้ แต่พี่คิดว่าเขาคงไม่ยอมหรอกนะ” ลินกดโทรออกบนมือถือของตัวเอง ก่อนจะยื่นให้กับดาราสาว

         ‘ครับ คุณลิน’

         “ก้ามปูเองนะคะคุณโปรดิวเซอร์ พอดีอยากจะขอให้เปลี่ยนสคริปต์น่ะค่ะ”

         ‘เรื่องคู่เดตของคุณสินะ’

         “ค่ะ”

         ‘ผมคงทำให้ไม่ได้หรอก เรื่องนี้เป็นคำสั่งจากเบื้องบน และนายทุนรวมถึงสปอนเซอร์ทุกคนต่างก็เห็นดีเห็นงามกันด้วยหมด แม้แต่ผมก็ยังเห็นด้วยเลย ถ้าคุณทั้งสองคนได้เดตกันรับรองว่าจะต้องดังเปรี้ยงปร้างไปยิ่งกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน ไม่แน่นะ กระแสอาจจะดังไปถึงต่างประเทศเลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ก็เริ่มมีแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างประเทศหลายเจ้ามาขอซื้อลิขสิทธิ์ไปเผยแพร่แล้ว’

         “แต่ทุกคนก็รู้นี่คะว่าเรื่องที่ปูไม่ถูกกับเขามันร้ายแรงขนาดไหน ไม่ใช่เพียงปูที่ไม่เห็นด้วย ทางครอบครัวของปูก็คงไม่เห็นด้วยและไม่อนุญาตเช่นกันค่ะ”

         ‘ครอบครัวพวกคุณทำธุรกิจคล้ายกัน เป็นคู่แข่งกันก็จริง แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวรุ่นลูกอย่างพวกคุณนี่ เอาเป็นว่าถ้าทางฝั่งแม่ทัพก็ไม่ยอมเหมือนกัน ผมถึงจะยอมเปลี่ยนสคริปต์ให้’

         “ปูมั่นใจค่ะว่าเขาต้องไม่ยอม”

         ‘คุณก็ลองคุยกับเขาดูแล้วกัน’

         หลังจากโปรดิวเซอร์วางสายไปแล้ว หญิงสาวก็หันไปหยิบมือถือของตัวเองมากดหาเบอร์โทรของคนที่กำลังมีประเด็นปัญหาด้วย

         แต่เธอดันลืมไปว่าตัวเองไม่มีช่องทางติดต่อกับเขา และไม่เคยมี

         “พี่ลินพอจะมีเบอร์ของหมอนั่นไหมคะ”

         หมอนั่น ตานั่น ไอ้นั่น คือคีเวิร์ดที่ผู้จัดการสาวสามารถเข้าใจได้โดยปริยายว่าหมายถึงแม่ทัพ เธอกดโทรออกและยื่นมือถือของตัวเองให้อีกครั้ง

         “นายรู้เรื่องสคริปต์รายการครั้งหน้าแล้วหรือยัง... นั่นแหละ นายก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ ช่วยโทรไปบอกโปรดิวเซอร์ที เขาจะได้ยกเลิก... อะไรนะ!?... ได้ยังไงกัน นายจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะ... ฉันไม่มีทางเจอนายเด็ดขาด จะบ้าเหรอ... อ้าวเฮ้ย วางสายกันดื้อๆ อย่างนี้เลยเรอะ!”

         ลินที่ได้ยินบทสนทนาจากทางฝั่งก้ามปูเพียงคนเดียวก็พอจะคาดเดาได้ว่าหญิงสาวไม่สมปรารถนา

         “หมอนั่นมันกวนประสาทจริงๆ เลยพี่ ในเมื่อเกลียดขี้หน้ากันขนาดนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ยอม” หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปดพลางลุกขึ้นยืน

         “แล้วนั่นเธอจะไปไหนล่ะ?” ลินถามเมื่อเห็นว่าก้ามปูเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง

         “ไปเปลี่ยนชุดน่ะสิ หมอนั่นบอกให้ไปเจอกันต่อหน้า ไม่งั้นเขาก็จะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามสคริปต์” เธอถอนหายใจ “จริงๆ เล้ยยย เขาต้องไม่อยากให้ปูสมหวังง่ายๆ แน่ๆ สงสัยจะวางแผนแกล้งปูในรายการไว้อยู่แหง”

         เวลาห้าโมงเย็น ณ บาร์แห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรม

         เพราะเป็นเวลาที่บาร์เพิ่งเปิด จึงยังไม่มีแขกคนใดเข้ามาใช้บริการ มีเพียงร่างสวยสง่าของหญิงสาวออร่าจับที่ใส่แว่นกันแดดและมาสก์ปิดปากเดินตรงเข้าไปหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่เท่านั้น

         ถึงแม้ทั้งคู่จะปกปิดหน้าตาตัวเองไว้ แต่ออร่าที่แผ่ออกมาก็ทำให้พนักงานสามารถเดาได้อย่างง่ายดายว่าคนทั้งสองย่อมเป็นคนดัง

         “ฉันมาแล้ว นายจะโทรหาโปรดิวเซอร์ได้หรือยัง” ก้ามปูนั่งลงบนเก้าอี้หน้าบาร์ ถอดมาสก์ออกเผยให้เห็นริมฝีปากที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีพีชสวย ท่าทางการนั่งไขว่ห้างและการแต่งกายนุ่งน้อยห่มน้อยด้วยชุดแบรนด์หรูของเธอส่งให้ภาพลักษณ์ดูเป็นนางพญา สมกับที่เล่นเป็นนางเอกมาหลายเรื่อง

         “ใจเย็นก่อนสิ ดื่มอะไรคลายร้อนก่อน”

         ห้าโมงเย็นของกรุงเทพมหานครเป็นเวลาที่อากาศยังร้อนอยู่ ร่มเงาของต้นไม้ทรงพุ่มและไม้ดอกที่ประดับประดาอยู่รอบบาร์แบบโอเพ่นแอร์ช่วยคลายร้อนได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น

         “เอา Sex on the beach หนึ่งที่ค่ะ” ดาราสาวหันไปสั่งเครื่องดื่มกับบาเทนเดอร์ที่พยายามเก็บรอยยิ้มตื่นเต้นที่ได้เห็นดาราดังไว้อย่างเป็นมืออาชีพ

         เมื่อเขานำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องดื่มแก้วที่สองของชายหนุ่ม เธอก็เลยส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เสียหนึ่งที เรียกความขวยเขินจากบาร์เทนเดอร์หนุ่มได้หนึ่งกรุบ

         นับว่าเสน่ห์ของเธอยังดีอยู่ ไม่ได้บริหารเสียนานตั้งแต่เจอเหตุการณ์ที่โรงแรมในวันนั้น

         หันกลับมาหาคู่สนทนาก็เห็นว่าเขากำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาแปลกๆ

         “อ่อยเก่งขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่จะหลอกพวกพระเอกได้”

         “ช่วยไม่ได้ ก็คนมันสวยและมีเสน่ห์ขนาดนี้” ก้ามปูเลื่อนแว่นกันแดดขึ้นไปไว้บนหัว ก่อนจะสะบัดผมยาวพลิ้วสลวยสวยเก๋โชว์ไปหนึ่งที ริมฝีปากสีพีชเหยียดยิ้ม

         “อืม ก็สวยจริงๆ นั่นแหละ”

         สายตาแผดเผากับคำชมที่ดูไม่เหมือนปกติของชายหนุ่มไม่ทำให้เธอรู้สึกเขินแต่อย่างใด... กลับต้องขยับกายอย่างอึดอัดเพราะไม่ชินและมั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องวางแผนอะไรอยู่แน่

         “ทำไมนายถึงเข้าร่วมรายการ Melt Your Heart ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าฉันจะไปออกล่ะ” ดาราสาวถามสิ่งที่ติดอยู่ในใจเธอนานสองนานออกมา

         “เธอไม่สงสัยบ้างหรือไงว่าใครคือคนที่ทำให้เกิดเรื่องในวันนั้น”

         “สงสัยและก็ตามสืบอยู่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรายการนี้ด้วย”

         “ไม่เกี่ยว แต่อยากพูด”

         ก้ามปูเริ่มเดือดปุดๆ “ไอ้บ้า เมื่อไหร่จะเลิกกวนประสาทสักที”

         “หึหึ ชนแก้วกันหน่อยสิ” แม่ทัพหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะยื่นแก้วบรั่นดีของตัวเองมาตรงหน้า

         “ไม่ จนกว่านายจะยอมโทรคุยเรื่องสคริปต์กับโปรดิวเซอร์” เธอกอดอก

         “เฮ้อ... ใจร้อนจริงๆ เล้ย ไม่สมกับเป็นนางเอกเลยสักนิด”

         “นั่นมันก็แค่บทบาทบทบาทหนึ่ง ตัวจริงฉันร้ายได้ยิ่งกว่านางร้ายเสียอีก ใครดีมาดีตอบ ใครร้ายมาร้ายตอบ” เน้นย้ำประโยคสุดท้ายพร้อมกับจ้องหน้าชายหนุ่มเขม็ง

         “ฉันไม่คิดจะปฏิเสธโปรดิวเซอร์หรอกนะ” ในที่สุดแม่ทัพก็เผยเจตนาออกมา

         “ทำไม?”

         “ฉันอยากให้เราได้ลองเดตกันดู”

         !!?