8 Mystery Box

8

Mystery Box

         ขณะที่คนดูกำลังลุ้นอยู่กับการโต้ตอบกันระหว่างจักรพรรดิภาพยนตร์และเจ้าแม่ดราม่า รอดูว่าก้ามปูจะตอกหน้าชายหนุ่มกลับไปยังไง เสียงประตูไม้บานยักษ์ที่ทางเข้าบ้านซึ่งถูกเปิดออกก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนไปเสียก่อน

         เรือนร่างสูงโปร่งของนักแสดงตลกชื่อดังฉายา เจ้าแม่วาไรตี้ อย่างคะนิ้ง เดินเข้ามายังบริเวณที่พวกเขาทำกิจกรรมด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม เสื้อผ้าที่เธอใส่ก็สมกับบุคลิกของเธอ สีสันช่างโดดเด่นและสไตล์ก็ช่างเตะตาเสียเหลือเกิน แต่ก็ว่าไม่ได้...เพราะมันเข้ากับตัวเธอได้ดีมาก

         “โอ้ จับคู่กันหมดแล้วเหรอคะ สงสัยว่าฉันจะมาช้าไป”

         ทุกคนมองไปทางโปรดิวเซอร์อย่างพร้อมเพรียงกันอย่างต้องการคำตอบว่าทำไมหญิงสาวจึงมาอยู่ที่นี่ได้

         “เซอร์ไพรส์~ ขอต้อนรับผู้ร่วมรายการคนใหม่ของรายการMelt Your Heart คุณคะนิ้งค่าาา” เป็นผู้ช่วยที่ช่วยเฉลย

         [หา! พี่คะนิ้งเนี่ยนะจะมารายการเดต โอเอ็มจีมาก]

         [เอาแล้วๆ ชายสามหญิงสี่ ใครจะกลายเป็นหมาหัวเน่ากัน]

         [กรี๊ดดด พี่คะนิ้งคนสวยคนตลก คิดถึงที่ซู้ดดด]

         [สงสัยรายการจะกริบไปหน่อย ก็เลยต้องเชิญคนเล่นมุกตลกเก่งๆ มาร่วมด้วย]

         ได้เห็นปฏิกิริยาแปลกใจของทุกคน ก้ามปูก็เดาได้ว่าไม่มีใครรู้เรื่องนี้มาก่อน แม้แต่เฟรินก็ยังแอบจิกเล็บเข้าที่ฝ่ามือเพราะรู้สึกได้ถึงตัวปัญหา

         ฉายาเจ้าแม่วาไรตี้ที่คะนิ้งได้มานั้นไม่เกินจริง ด้วยความที่เธอเล่นเกมเป็น รู้จักรุกรู้จักถอย รู้จักพูดคุยสร้างบรรยากาศสร้างสีสันให้กับทุกรายการที่ไปออก ทำให้เธอกลายเป็นดาราคิวทองที่รายการไหนได้ตัวเธอไปย่อมกลายเป็นรายการดังขึ้นมาทันที

         คะนิ้งไม่เคยแย่งซีนใคร แต่การกระทำอันน่าสนใจหลายๆ อย่างของเธอก็เรียกกระแสและความสนใจของคนดูได้เป็นอย่างดี มีคนอิจฉาบ้าง แต่ก็ทำได้เพียงนินทาในที่มืด เพราะไม่สามารถกลั่นแกล้งเธอได้อย่างออกนอกหน้า เนื่องจากคะนิ้งคอยส่งบทให้คนอื่นได้อย่างถูกจังหวะ ไม่เคยคิดที่จะแย่งแสงผู้เข้าร่วมรายการแต่อย่างใด

         “ขอจบกิจกรรมสปีดเดตติ้งเพียงเท่านี้ ให้ทุกคนได้พักได้ทักทายกันก่อน เดี๋ยวจะมีกิจกรรมถัดไปที่นี่ในอีกสิบนาทีค่ะ”

         เฟรินที่นั่งโต๊ะอยู่กับปันปัน เป็นคนลุกเดินออกไปเข้าห้องน้ำเป็นคนแรก ส่วนภามเดินเข้าไปในห้องครัว ในขณะที่ก้ามปูเดินเข้าไปทักทายคนที่มาใหม่

         “ได้ยินชื่อเสียงมานาน ยินดีที่ได้เจอนะคะ” กลับเป็นคะนิ้งที่เอ่ยทักเธอก่อน

         “แปลกมาก ทำไมเราไม่เคยได้ร่วมงานกันเลย ทั้งที่ฉันก็ออกจะเข้าร่วมพวกรายการทอล์คโชว์รายการวาไรตี้เสียบ่อย”

         “นั่นสิ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะ” คะนิ้งว่าก่อนจะหันไปหาปันปันที่เดินมานั่งที่โซฟา “สวัสดีค่ะคุณปันปัน”

         “รู้จักฉันด้วยเหรอคะ” ปันปันชี้ที่ตัวเองอย่างงงๆ

         “แหม ใครจะไม่รู้จักซูเปอร์โมเดลคนดังกันล่ะ” คะนิ้งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร สายตาของเธอมองเรือนร่างของนางแบบสาวด้วยความชื่นชม...และชื่นชอบ

         “เอ่อ ค่ะ” ปันปันได้แต่ยิ้มให้อย่างทำอะไรไม่ถูก

         คะนิ้งรีบควงแขนก้ามปูให้นั่งลงข้างกันอย่างสนิทสนมทันที เพิ่งได้เจอกันไม่กี่นาทีก็จริง แต่เธอถือว่าเมื่อถูกชะตากันแล้วก็ถือว่าสนิทกันนั่นแหละ

         “ฉันรู้ว่าเธอไม่ถูกกับแม่ทัพ ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่เข้าข้างเขาเด็ดขาด”

         “ให้ฉันไม่ถูกแค่คนเดียวก็พอ เธอไม่ต้องมาลำบากด้วยหรอก มารายการเดตทั้งที สนุกให้เต็มที่เถอะ อย่ามายึดติดกับเรื่องของฉันเลย”

         “เอาน่า แม่ทัพไม่ใช่เป้าหมายของฉันอยู่แล้ว”

         “หืม มีเป้าหมายตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลย ใครกัน?”

         “ไม่บอก ปล่อยให้งง” คะนิ้งหัวเราะคิกคัก ก่อนจะหันไปดึงปันปันให้เข้ามามีส่วนร่วมในวงสนทนาด้วย

         สามสาวพูดคุยกันกะหนุงกะหนิงไม่ปล่อยให้หนุ่มๆ ได้มีโอกาสเข้ามาแทรก จนโปรดิวเซอร์เริ่มปวดหัว ต้องรีบประกาศภารกิจต่อไปทันที

         ภารกิจนี้มีชื่อว่า Mystery Box สกินชิฟ ผู้ร่วมรายการจะต้องจับฉลากว่าจะได้สกินชิฟแบบไหนกับคู่ของตน โดยผู้ร่วมรายการหนึ่งคนจะได้สกินชิฟกับคนอีกสองคนแล้วแต่ว่าจะจับฉลากได้ใคร และท่าทางในการสกินชิฟก็จะแตกต่างกันไป

         [ฉันขอให้น้องอี้เฉินได้กอดก้ามปู]

         [ในกล่องจะมีฉลากแบบไหนบ้างนะ อยากรู้จัง จะมีให้นอนกอดกันมั้ย]

         [คงไม่มีจูบหรอกใช่มั้ย? ฉันไม่ยอมให้แม่ทัพจูบคนอื่นนอกจากในหนังนะ!]

         [ได้เริ่มใกล้ชิดกันสักที รอลุ้นอยู่ตั้งนาน]

         [ทีนี้แหละ ฉันจะได้รู้สักทีว่าควรชิปใคร!]

         เมื่อทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตา การที่ก้ามปูจับฉลากได้ชื่อของแม่ทัพ เธอจึงรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม

         ก็เธอน่ะ เป็นคนดวงซวยมาแต่ไหนแต่ไร เล่นให้จับฉลากกันอย่างนี้ก็ซวยหมดสิ ฮึ่ย!

         “มีกฎให้ชาเลนจ์ขอเปลี่ยนคู่ไหมคะ” ก้ามปูยกมือถามทีมงาน

         “คุณได้ชื่อใครล่ะ?” โปรดิวเซอร์ถาม

         “จะใครซะอีกละคะ” หญิงสาวทำหน้าเซ็ง สายตามองไปยังคนที่ไม่ถูกกัน

         “งั้นก็ชาเลนจ์ไม่ได้ครับ จับแล้วจับเลย ห้ามแลกกันโดยเด็ดขาด”

         ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่รู้สึกว่าโปรดิวเซอร์จะอยากให้เธอได้ทำกิจกรรมใกล้ชิดแม่ทัพเสียเหลือเกิน ทั้งที่ตอนแรกมีแววว่าเขาจะอนุญาตให้ชาเลนจ์แล้วแท้ๆ

         “แต่การชาเลนจ์จะทำให้ทุกอย่างสนุกขึ้นนะครับ” อี้เฉินรีบสนับสนุนหญิงสาว เพราะเขาอยากเป็นคนเลือกคู่ของตัวเอง

         แต๊ดดด!

         คราวนี้การปฏิเสธมาในรูปแบบของเสียงสัญญาณแทน เหล่าผู้ร่วมรายการจึงได้แต่จำยอม หันไปจับฉลากท่าทางที่จะได้กันต่อ และผลก็ปรากฏว่า...

         “รีบทำให้มันจบๆ ไปเถอะ”

         ก้ามปูบอกกับแม่ทัพ ท่าที่เธอจับฉลากได้คือ...

         “อะแฮ่มๆ ถึงจะจับได้ท่าเบสิก แต่ไม่มีอะไรที่จะเบสิก คนที่จับฉลากได้ท่าจับมือ จะต้องจับมือกันตลอดเวลาจนกว่าจะกินอาหารกลางวันเสร็จ ส่วนคนที่ได้ท่าควงแขน จะต้องควงแขนกันเป็นเวลาสิบนาที”

         คนที่รู้สึกว่าตัวเองโชคดีขึ้นมาอย่างก้ามปูเริ่มเซ็งกับชีวิต... โปรดิวเซอร์ตั้งใจจะแกล้งกันชัดๆ

         “ถ้าอย่างนั้นคนที่ได้นั่งตัก อุ้ม กับกอดก็ควรจะต้องมีกำหนดเวลาหน่อยมั้ยครับ” ภามถาม เขาจับได้นั่งตักกับคะนิ้ง

         “สองอย่างนั้นต้องสัมผัสกันเป็นเวลาสามนาที”

         หลังจากนั้นคนที่ได้เริ่มก่อนก็คือคนที่จับฉลากได้ท่าทางนั่งตักอย่างภามที่จับได้คะนิ้ง

         “สองคนนี้นี่มันยังไงกันแน่นะ คะนิ้งดูเขินเชียว” ปันปันแซวออกมาเสียงดัง

         “ไม่ได้เขินสักหน่อย” คะนิ้งโต้กลับ เธอนั่งอยู่บนตักของภามอย่างเป็นธรรมชาติ เอนตัวพิงหน้าอกชายหนุ่มพอประมาณ เรียกเสียงกรีดร้องจากคนดูได้เป็นอย่างดี

         ต่อมาเป็นการอุ้มของแม่ทัพที่จับได้ภาม แม่ทัพเป็นคนขออุ้มเอง ซึ่งภามก็ยินยอมอย่างง่ายดาย จึงปรากฏออกมาเป็นภาพของชายหนุ่มที่แสดงความแข็งแกร่งโดยการอุ้มผู้ชายอีกคนขึ้นมาโดยสีหน้าไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกหนักเลยสักนิด

         เส้นเลือดที่แขนซึ่งปูดโปนออกมาจากการใช้แรงถูกตากล้องซูมเข้าไป ทำให้คนดูพากันแดดิ้นเพราะอยากเป็นคนที่อยู่ในอ้อมแขนนั้น

         [แม่จ๋า หนูอยากเป็นภาม]

         [อยากเป็นทั้งภาม อยากเป็นทั้งแม่ทัพเลยอ้าาา]

         [ถ้าเป็นฉัน ฉันจะยอมเป็นคนอุ้มแม่ทัพเลยเอ้า ขออุ้มสักสิบนาทีไปเลย]

         [คนข้างบนน่ะได้ข่าวว่าแค่ยกข้าวสารห้ากิโลยังไม่ไหวเลยนี่]

         สามนาทีดูเหมือนจะยาวสำหรับคนที่ต้องอุ้มที่มีน้ำหนักใกล้เคียงกัน แต่สำหรับจักรพรรดิภาพยนตร์หนุ่มที่ฝึกฝนร่างกายมาเป็นอย่างดี แสดงฉากแอคชันด้วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแล้ว เปรียบเสมือนชั่วเวลาจิบชาเพียงเท่านั้น

         แต่การที่ภามเอาแขนมาโอบรอบคอเขาไว้ แถมยังซบหน้าลงที่แผงอกไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม มันทำให้เขารู้สึกขยะแขยง

         “เอามือออกไปซะ” สั่งด้วยเสียงแข็งและนัยน์ตาดุ

         “ขอโทษที เผลอตัวไปหน่อย” ภามดึงมือตัวเองกลับมา พยายามอยู่นิ่งๆ ทั้งที่ไม่ชิน

         จบสามนาทีก็ตามด้วยการกอดของอี้เฉินกับเฟริน จูบหน้าผากของคะนิ้งกับปันปัน และหอมแก้มของเฟรินกับก้ามปู

         พอการสัมผัสที่น่าลุ้นที่สุดดันไปตกอยู่กับคู่ของสาวๆ คนดูก็เลยพากันผิดหวังไปตามๆ กัน แต่ก็มีบางคนที่เริ่มหน้ามืดตามัวจิ้นคู่ของสาวๆ เพื่อสนองนี้ดตัวเอง

         [ตอนแรกฉันคิดว่าเฟรินดูไม่ค่อยถูกกับก้ามปู แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว สองคนนี้ดูเข้ากันมาก]

         [สาวสวยสองคนหอมแก้มกันจูบหน้าผากกัน มันฟินอย่างนี้นี่เอง]

         [กรี๊ดดด สาววายอย่างฉันฟินมากกก]

         สุดท้ายก็ปิดด้วยคู่ของก้ามปูกับแม่ทัพที่ต้องจับมือกันไปกินข้าว และปันปันกับอี้เฉินที่ต้องควงแขนกันไปอีกสิบนาทีก็เลยตกลงว่าจะไปกินข้าวเช่นเดียวกัน

         “ล้างมือมาหรือยัง”

         “เพิ่งเอามือล้วงก้นมาพอดี”

         [555+ ไม่รักษาภาพพจน์เลยลูกชายฉัน]

         [ฉันไม่เคยได้รู้จักนิสัยของแม่ทัพเลย เห็นแต่ผลงานในหนัง ไม่นึกว่าตัวจริงจะเป็นคนตลกได้ขนาดนี้]

         [ฮ่าๆๆ ทำเอาก้ามปูหน้าหงายไปเลย]

         [เจอคู่ปรับตัวฉกาจแล้วนะน้องก้ามปู]

         ดาราสาวยื่นมือไปให้ชายหนุ่มจับอย่างเสียไม่ได้ แต่ยังไม่ทันจะได้บ่นอะไร แม่ทัพก็กระชับมือเธอเสียแน่น ลากตัวเธอไปทางโต๊ะกินข้าวที่มีอาหารจากทีมงานจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย

         หากถามว่าคู่ไหนที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในตอนนี้ก็เห็นจะเป็นคู่กัดคู่นี้นี่แหละ ก่อนหน้านี้อาจมีเพียงคนครึ่งประเทศเท่านั้นที่รู้ว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน แต่เมื่อทั้งคู่ได้มาออกรายการร่วมกัน ความเป็นปรปักษ์ที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ทำให้คนค่อนประเทศได้รับรู้ และแสดงความสนใจว่าคู่นี้จะลงเอยกันยังไง

         จะระเบิดลง มีคนหนีออกไปจากรายการก่อนมั้ย หรือว่าจะมีผีผลักจนรักกันได้?