หญิงสาวปั่นจักรยานกลับมาบ้านเช่า แม่ยังคงหลับพักผ่อนอยู่ นับวันร่างกายยิ่งดูอ่อนแอลงมาก รุ่งรวีกำลังเตรียมเครื่องผัดไทเพื่อไปขายที่ตลาด บัวชมพูล้างมือแล้วเข้าไปช่วยหั่นหัวปลีแช่น้ำเกลือไม่ให้ดำ เธอลอบมองไปยังเตียงที่แม่หลับอยู่แล้วเอียงตัวเข้าใกล้รุ่งรวี กระซิบพูดเสียงเบา
“น้ารวีค่ะ หนูมีเรื่องขอร้องให้น้าช่วย”
“เรื่องอะไร มีอะไรว่ามาได้เลย”
“เรื่องที่หนูบอกน้า น้าอย่าให้แม่รู้นะคะ”
คราวนี้รุ่งรวีนิ่งไปอึดใจก่อนพยักหน้ายอมรับ บัวชมพูสูดลมหายใจลึกแล้วค่อยพูดออกมา
“หนูจะไปทำงานพิเศษกับคุณใหญ่ค่ะ”
“งานพิเศษ? งานอะไร” ยิ่งไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยว ก็มีเรื่องให้เกี่ยวพัน “ถ้าเป็นห่วงเรื่องเงินก็ไม่ต้องคิดมาก น้ายังพอไหว หนูบัวต้องใช้เงินเท่าไหร่ น้าเอารถไปเข้าไฟแนลให้เอง”
บัวชมพูรู้สึกแสบจมูกขึ้นมา เธอไม่มีพ่อมาคอยใส่ใจ แต่กับรุ่งรวีแล้วราวกับคนในครอบครัวกันจริงๆ แม่ของเธอล้มป่วยก็ไม่เคยทอดทิ้ง คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ เธอที่เป็นลูกยังทำหน้าที่ลูกที่ดีไม่ได้เลย
“หนูรับปากคุณใหญ่ไปแล้วค่ะ”
“งานอะไร” รุ่งรวีถามเสียงเบา เห็นสีหน้าลำบากใจของลูกสาวของคนรักแล้วก็พูดไม่ออก “หนูบัวไม่ใช่เด็กเล็กๆ คิดอะไรเองได้แล้ว ตัดสินใจทำอะไรแล้วก็ทำเถอะ เราเป็นผู้หญิงยังไงก็เสียเปรียบผู้ชาย อะไรที่ป้องกันตัวเองได้ก็ต้องป้องกัน แต่ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก็ขอให้รู้ว่ายังมีน้ากับแม่อยู่ หนูไม่ได้ตัวคนเดียวในโลก จำเรื่องนี้ไว้ให้ดี”
น้ำใสๆ เอ่อคลอดวงตาขึ้นมา บัวชมพูถึงกับพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้ารับ ถึงแม้ชีวิตเธอจะพบเจอความยากลำบากมามาก เธอรู้ว่าแม่รู้สึกผิดและคิดว่าตัวเองเป็นต้นเหตุทำให้เธอต้องลำบาก แต่เธอก็เข้าใจเรื่องของผู้ใหญ่ หากให้แม่ต้องทนอยู่กับพ่อที่ไม่เหลือความรักใดๆ ให้แล้ว มีแต่จะเจ็บปวดยิ่งกว่าเก่า การเดินออกมาอย่างนี้นับว่าเป็นหนทางที่ดีแล้ว ส่วนเธอนั้น แค่มีคนที่เข้าใจและพร้อมเคียงข้างไม่ซ้ำเติม แค่นี้ก็นับว่าดีมากพอแล้ว
“ขอบคุณน้ารวีมากค่ะ”
“อย่าคิดมาก” อยากจะเอื้อมมือไปลูบผมปลอบโยน แต่มือก็ไม่ว่าง ทั้งสองมองตากันแล้วก็เข้าใจโดยไม่ต้องพูด ทำให้หัวเราะคิกคักออกมา
สารภีได้ยินเสียงหัวเราะจึงขยับตัวตื่น ยันกายลุกขึ้นมานั่งแล้วมองแผ่นหลังของลูกสาวและคนรักที่ยืนหั่นผักเตรียมของไปเปิดร้าน
“กลับมาแล้วเหรอลูกบัว”
“ค่ะแม่” บัวชมพูขานรับแล้วเดินไปล้างมือก่อนจะเดินไปหาแม่ ช่วยพยุ่งแม่ขึ้นมานั่งเอนหลังพิงหมอนใบใหญ่
“คุณใหญ่ว่าอะไรหรือเปล่าลูก”
บัวชมพูนิ่งไปเล็กน้อยแล้วส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้ “คุณใหญ่เห็นหนูทำงานดี พอดีที่บ้านมีจากกรุงเทพฯมาเยี่ยม เลยจะจ้างหนูไปทำงานที่บ้านคุณใหญ่เป็นแม่บ้านสักระยะหนึ่งค่ะ”
“จะดีเหรอลูก ทำงานแบบไปกลับแม่ก็เป็นห่วงมากพออยู่แล้ว ถ้าไปอยู่บ้านเขาเลย แม่ยิ่งเป็นห่วง”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณใหญ่ใจดีและเป็นผู้ใหญ่ ไม่ทำอะไรหนูหรอก” บัวชมพูหัวเราะคิกคัก นึกถึงสีหน้าอับจนหนทางจนต้องคว้าเธอมาเป็นเมียกำมะลอแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ
“รวีช่วยพูดกับหนูบัวหน่อยสิ” คนเป็นแม่อ่อนใจแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากรุ่งรวี
“โตแล้ว คิดเองได้แล้ว” รุ่งรวีเองแม้จะเป็นห่วง แต่กลัวว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ถ้าหนีเตลิดไปเลยควกู่ไม่กลับ เอาเถอะ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด
“ช่วงนี้หนูว่าง อีกเดี๋ยวก็คงได้กลับไปเรียนตามปกติแล้ว คงไม่ได้ช่วยแม่กับน้ารวี “สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ มีอะไรทำได้ก็ทำไปก่อน อีกอย่างไม่ใช่งานผิดกฎหมาย หนูไม่อายหรอกค่ะ”
“แต่ว่า...”
“จริงอย่างที่หนูบัวว่า เศรษฐกิจแบบนี้ขายของยาก คนตกงานเยอะ งานสุจริตก็ทำไปเถิด เป็นแม่บ้านไม่ได้น่าอายตรงไหนนี่”
สารภีอยากพูดเรื่องที่เธอกังวล แต่พอเห็นลูกสาวยืนยันอย่างนี้แล้วไม่กล้าพูดอะไรออกไป บัวชมพูเดินไปรินน้ำดื่มให้แม่เป็นจังหวะเดียวกับเสียงข้อความเข้ามา เธอกดดูแล้วเห็นยอดเงินเข้ามาจำนวนสามหมื่นบาท อันที่จริง เธอไม่คิดจะเรียกค่าตัวเยอะขนาดนี้ แต่ก็นั้นแหละ เธอไม่รู้ว่างานของเธอจะต้องทำอะไรบ้าง เธอตั้งใจจะไม่บอกเรื่องเงินนี้กับแม่และน้ารุ่งรวี เผื่อเกิดเรื่องที่เธอไม่คาดคิดจะได้ไม่ทำให้แม่กับน้ารุ่งรวีต้องลำบากใจ ครู่ต่อมาเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น บัวชมพูเดินหลบออกมาหน้าบ้านแล้วรับสาย
“สวัสดีค่ะ”
“อืม ฉันเอง”
“ค่ะ” เธอเบ้ปากใส่มือถือของตัวเอง
“โอนเงินแล้ว เช็กยอดด้วย”
“ได้รับเรียบร้อยค่ะ ขอบคุณค่ะ”
“พรุ่งนี้ห้าโมงเย็นมาหาที่บ้าน มาก่อนเวลานิดหนึ่งก็ดี เราต้องคุยรายละเอียดกัน”
“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วหนูต้องเอาเสื้อผ้าไปอยู่บ้านคุณใหญ่เลยไหมคะ”
“หา! ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
“ก็ดีค่ะ หนูไม่อยากเปลืองตัว”
“โหว! พูดอย่างกับจะมีใครอยากทำอะไรเธองั้นแหน่ะ!”
“ก็ไม่แน่นี่ค่ะ” เธอสูดลมหายใจลึก พยายามคุมน้ำเสียงไม่ให้ตื่นเต้นเกินไป เธอจะได้ใกล้ชิดผู้ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งนานนี่นะ
“หลงตัวเองมากไปแล้ว”
“หลวตัวเองก็ดีกว่าหลงคนอื่นนี่”
“เถียงคำไม่ตกฟากเลยจริงๆ!”
“ไม่ได้เถียงค่ะ แค่ให้เหตุผล คุณใหญ่เป็นผู้ใหญ่แล้วเรื่องแค่นี้แยกไม่ออกหรือคะ”
“โอเคๆ ยอมแล้ว” คราวนี้น้ำเสียงเขายอมแพ้แล้วจริงๆ “เอาเงินไปแล้วอย่าเชิดหนีไปไม่มาทำงานก็แล้วกัน ฉันรู้บ้านเธออยู่ที่ไหน แม่ของเธอ น้าสาวของเธออีก อย่าหวังว่าฉันจะปล่อยให้คนที่หักหลังฉันลอยนวล”
“แล้วถ้าคุณหักหลังคนอื่นจะทำไงคะ” เธอหลุดปากพูดไปแล้วรีบยกมือขึ้นปิดปาก ก็เพราะเขานอกใจคนรัก ชีวิตคู่ถึงต้องสิ้นสุด คนรักของตัวเองกลายเป็นภรรยาของคนอื่น
“พูดมาก!”
อลังการไม่เคยถูกใครต้อนจนมุมอย่างนี้มาก่อน ยัยเด็กนี้! พ่อแม่ไม่สั่งสอนไม่ให้เถียงกับผู้ใหญ่หรือไงนะ แต่...เอ่อ..พ่อไม่มีนี่ เอาล่ะ ช่างเถอะๆ เขาเป็นผู้ใหญ่จริงๆ ก็ไม่ควรถือสาเด็กรุ่นลูกรุ่นหลาน แค่กๆ ยัยเด็กบัวชมพูอะไรนั้นบอกว่าอายุเท่าไหร่กันนะ ยี่สิบเหรอ หน้าตาเหมือนเด็กมัธยม เดี๋ยวเจอหน้าต้องขอดูบัตรประชาชนให้แน่ใจแล้ว!
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว หนูขอตัวไปช่วยน้ารวีไปขายของนะคะ “อืม!”
บัวชมพูรอจนอีกฝ่ายตัดสัญญาโทรศัพท์ไปก่อน จึงเก็บมือถือของตน เธอถอนหายใจยาว ไม่คิดว่าตัวเองจะ “พูดมาก” แบบนี้เหมือนกัน ทำไงได้ พูดไปแล้วนี่ ถ้าปากดีได้ขนาดนี้แล้ว
หญิงสาวเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง มีแต่โคแก่เคี้ยวหญ้าอ่อน แต่เธอเป็นหญ้าอ่อนที่อยากอ่อยโคแก่ ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้จะลองจีบผู้ชายรุ่นพ่อดูสักครั้งดีไหม
“ก็ยังต้องรอดูนั้นแหละ ถ้าใช้วิธีของผมนะจบง่ายกว่านี้” ราชันยักไหล่ “ก็เดหลีเป็นคนดีนี่ค่ะ” ลลิน ได้ยินเสียงร้องกรี๊ดๆ ดังลั่นมาถึงด้านนอก คงขู่ให้กลัวได้อยู่บ้าง “คนห่วงหน้าตาอย่างเบลล่า คงไม่กล้าทำอะไรอีกแน่ๆ ค่ะ” “ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น เอาล่ะ กลับบ้านเราเถอะ” “อ้าว! แล้วไม่ไปเยี่ยมคุณยักษ์แล้วหรือคะ” “ไปทำไม เจ็บแค่นิดเดียวเอง ให้เมียมันดูแลเถอะ” หญิงสาวหัวเราะเสียงใส แสดงว่าที่นอนอยู่นั้นคงตั้งใจ ‘ออเซาะ’สินะ ราชันบีบปลายจมูกของคนรักอย่างหยอกล้อ ที่เขายอมมาช่วยก็เพราะเป็นห่วงเดหลีหรอก ไม่ใช่เพราะอยากมาช่วยเจ้ายักษ์ แต่เอาเถอะ ถึงตอนนี้แล้ว คงจัดการตัวเองได้แล้วล่ะ…………มังกรกัณฐ์ชะเง้อมองไปทางประตู เขารอให้คนรักกลับเข้ามาจะได้แกล้งเจ็บออดอ้อนให้สมใจอยาก แค่โดนรถเฉี่ยวนิดเดียว แต่เดหลีหวีดร้องอย่างกับเขาแขนขาขาดกระเด็น แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนั้นแล้ว เขาจึงสวมบทคนเจ็บให้เต็มที่“โตขนาดนี้แล้วยังเล่นเป็นเด็กอีก” คุณบุรินทร์อดดุหลานชายไม่ได้ ทีแรกได้ยินว่าประสบอุบัติเหตุก็นึกว่าอาการหนัก ยิ่งเห็นเดหลีร้องไห้ต
พนักงานในบริษัทต่างลอบมองหญิงสาว แต่เดหลีทำเป็นไม่ใส่ใจ เธอยังคงทำงานของเธอ พูดคุยกับทุกคนเช่นที่เคยผ่านมา ในเมื่อมังกรกัณฐ์ประกาศออกไปอย่างนั้นแล้ว เธอจะก้มหน้าอายอะไรอยู่ ฐานะชาติกำเนิดของเธอเปลี่ยนแปลงไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คือยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับมัน “นี่ๆ เลิกงานแล้วไปซื้อของกันนะ” มังกรกัณฐ์ทักเดหลี ท่าทางของเขาผ่อนคลายลงมาก คิดว่าต่อไปนี้คงไม่มีเรื่องอะไรมารบกวน ‘ชีวิตคู่’ ของเขาอีกแล้ว “ซื้ออะไรคะ” เธอถามสายตายังคงอยู่กับเอกสารตรงหน้า “แหวนไง” “แหวน?” คราวนี้หญิงสาวเงยหน้าขึ้น “แหวนอะไรคะ” มังกรกัณฐ์เบ้ปาก เดินมาจับมือซ้ายของหญิงสาวขึ้น “มือเธอยังไม่มีแหวนแต่งงานเลย” “แหวนแต่งงาน” ใบหน้าหวานขับสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันที “เพราะไม่ได้ใส่แหวนแต่งงานละมั้ง คนอื่นถึงไม่รู้ว่าเธอมีเจ้าของแล้ว” เขาหัวเราะออกมา “ถ้าอย่างนั้นคุณยักษ์ก็ต้องใส่ด้วย คนอื่นจะได้รู้ว่าคุณยักษ์มีเจ้าของแล้ว” เธอพูดใส่เขา แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มกว้าง “มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว” เขายกมือข้างซ้ายของเธอขึ้นมาจูบเบาๆ “เรื่องพิธีแต่งงาน ฉันพูดจริงนะ ฉันอยากจัดงานแต่งงาน อยากให้เธอสวมชุดเจ้าสาว” “ไ
“ก็ฉันหวงเธอ อยากให้เธอเป็นเมียฉัน เป็นแม่ของลูก เรื่องแค่นี้คิดไม่ได้จริงๆ เหรอเดหลี” เพราะปลดปล่อยไปแล้วรอบหนึ่ง รอบสองจึงยาวนานกว่าครั้งแรก เขาขยับตัวเปลี่ยนท่านจับหญิงสาวนอนตะแคงแล้วยกเรียวขาแยกออกสอดใส่จากด้านหลัง มือหนึ่งก็ขยี้จุดเสียวซ่าน อีกมือบีบเคล้นหน้าอกเพิ่มความเสียวกระสัน เขาฟังเสียงครางของหญิงสาวอย่างพอใจ แล้วกระซิบข้างหู “ฉันบอกแล้ว ต่อไปนี้เรื่องของเธอคือเรื่องของฉัน ไม่ว่าปัญหาอะไรของเธอ ที่ฉันพูดกับพ่อเธอวันนี้ก็พูดจากใจจริง ไม่ได้แค่พูดเอาใจใคร” “คุณยักษ์” เธอเอี้ยวหน้าหันมามองเขา วันนี้เธอรู้สึก “รัก” เขามากกว่าทุกวัน รักมากเสียจนอยากกักเก็บเขาไว้เป็นของเธอคนเดียว ไม่ว่าเขาจะทำไปเผื่อรักษาหน้าเขาเองหรือเพราะพูดด้วยความจริงใจ เธออยากรักษาห้วงเวลาพิเศษนี้ไว้ให้เนิ่นนาน “แล้วเลิกคิดเรื่องหย่าไปได้เลย” เขาขบติ่งหูของเธออย่างมันเขี้ยว “โอ๊ย เสียว ขอกระแทกแรงๆนะเมียจ๋า” “อะ..อะ ..อร๊ายยย” “โอ้วว” ชายหนุ่มปลดปล่อยอีกระลอกพร้อมหญิงสาวที่ไปถึงจุดสุดยอดอีกครา คราวนี้เขายอมถอนแก่นกายออกจากร่องรัก เขาโน้มหน้าลงจูบหน้าผากชื้นเหงื่อเบาๆ เขาลุกขึ้นจากเตียง ดึงผ้
“อย่างไรเราก็คนครอบครัวเดียวกัน หรือคุณอาคิดว่าคนอื่นจะดีกับคุณอาเท่ากับผมหรือเดหลีละครับ แต่ถ้าคุณอาไม่เห็นผมเป็นลูกเขยก็ไม่เป็นไร ผมส่งคุณอาให้เสี่ยศักดิ์ชัยดีไหมครับ ได้ยินว่าเสี่ยศักดิ์ชัยตามหาคุณอาอยู่เหมือนกัน” “ไม่ต้องๆ” พ่อของเดหลีรีบร้อนเอ่ยขึ้น เผลอมองไปทางด้านนอกซึ่งมีรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ และเหมือนคนในรถจะรู้ตัว รีบขับออกไปทันที ทำให้พ่อของเดหลีอึกอักทำอะไรไม่ถูก “เอาอย่างนี้นะครับ ประเดี๋ยวผมให้คุณปกรณ์มารับคุณอา หาที่พักสะดวกๆ เข้าโครงการบำบัดยาเสพติด ถ้าคุณอาเชื่อฟังดีๆ หนี้สินต่างๆ ผมเป็นลูกเขยจะจัดการให้เอง” รอยยิ้มของมังกรกัณฐ์เปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่กดดันอีกฝ่าย “แต่ถ้าคุณอาไม่ยินดี ผมคงไม่สามารถช่วยอะไรคุณอาได้ รวมทั้งเรื่องเสี่ยศักดิ์ชัยด้วย หรืออย่างน้อยก็เห็นแก่หน้าลูกสาวของคุณอา ทำตัวให้สมกับเป็นพ่อที่ดีสักครั้ง” คราวนี้ทำให้พ่อของเดหลีสงบลงไปได้ มังกรกัณฐ์ถอนหายใจเบาๆ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจะโทรหาปกรณ์ แต่คนทนายประจำตระกูลก้าวเท้ายาวๆ เข้ามาพอดี “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ” ปกรณ์ทักแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ เพรา
เขาไม่มีท่าทีจะก่อกวนในที่ทำงานอย่างที่เขาชอบขู่เอาไว้ ทำให้หญิงสาววางใจทำงานอย่างสบายใจ ส่วนเรื่องเสียงนินทานั้น เธอชินแล้ว แต่ก่อนที่จะมาอยู่ดูแลคุณลออ เธอเองเคยถูกเพื่อนร่วมชั้นเรียนไม่ชอบหน้า เบ้ปากมองบนใส่จนเคยชิน บางคนชอบพูดว่าเธอทำตัวเป็นลูกรักของครู-อาจารย์ แต่เธอเพียงแค่ต้องเรียนอย่างหนัก ไม่มีเงินไปลงเรียนพิเศษ และต้องหาทุนให้ตัวเองเรียน การเข้าหาอาจารย์เพื่อติดตามเรื่องขอทุนรวมทั้งหางานพิเศษทำ จึงเป็นเรื่องปกติสำหรับเธอ แต่ที่ไม่ปกติสำหรับเธอก็คือ ทุกวันทำงานหนักหัวหมุนแค่ไหน เรื่องบนเตียงของเขาไม่เคยหยุดพัก ไม่รู้เขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนมากมายขนาดนี้ ‘คนอะไรกินดุ กินจุ ตะกระตะกรามที่สุด!’ “เดหลี” “คะ” “เหม่ออะไร ฉันใช้งานเธอหนักไปเหรอ” มังกรกัณฐ์ถามแล้วดีดนิ้วใส่หน้าผากเธอเบาๆ “เก็บกระเป๋ากลับบ้านได้แล้ว จะหกโมงเย็นแล้ว” “ค่ะ” เดหลียกมือลูบหน้าผากตัวเอง เมื่อไม่มีคนอื่น เขาชอบแกล้งเธอแบบนี้ หญิงสาวปิดคอมพิวเตอร์แล้วหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ ทั้งสองเข้าไปในลิฟต์แล้ว มังกรกัณฐ์จึงเอ่ยถาม
เดหลีไปได้พูดอะไร คำพูดของเธอไม่มีความหมาย แต่ไหนแต่ไรก็เป็นเช่นนี้ เธอเป็นเพียงตัวแทนของลูกสาวที่จากไปแล้วของคุณลออ ท่านมักคิดถึงแต่เรื่องวัยเยาว์ของลูกสาวเสมอ “ได้เวลาพักผ่อนแล้วค่ะ” พยาบาลพิเศษเดินเข้ามาเรียกอย่างสุภาพ คุณลออพยักหน้ารับแต่ไม่ลืมลูบใบหน้าของหญิงสาว“แม่รักหนูนะลูก”‘หนูก็รักคุณท่านค่ะ’เดหลีได้แต่พูดในใจ พลางนึกถึงท่าทีของแม่ที่มีต่อเธอ เป็นเธอเองที่ยังทำใจยอมรับไม่ได้ อย่างที่ป้าคอยพูดกับเธอเสมอ ให้เธอให้อภัยแม่“ร่างกายแข็งแรงดีแล้วรึ” คุณบุรินทร์เอ่ยถามเมื่อคุณลออออกไปพร้อมพยาบาลพิเศษแล้ว“แข็งแรงดีแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงเบา นึกถึงเรื่องที่คุณบุรินทร์เอ่ยในโรงพยาบาล ให้เธอหย่ากับมังกรกัณฐ์ คงถึงเวลาที่เธอต้องทำตามคำสั่งของคุณบุรินทร์ เวลาของซินเดอเรลร่าหมดลงแล้วสินะ“หนู...”“คุณปู่ครับ”เดหลีสะดุ้งไม่คิดว่าจู่ๆ มังกรกัณฐ์จะเข้ามาแบบนี้ คุณบุรินทร์หรี่ตามองหลานชายที่เดินเร็วๆ เข้ามาคว้าข้อมือของหญิงสาวไว้“ผมมีงานค้างอยู่ ขอเอาตัวเดหลีไปก่อนนะครับ”“เออ อ้าว ...เฮ้อ” ยังไม่ทันได้พูดอะไร หลานตัวดีก็แทบลากเดหลีออกจากห้องไป ทั้งคู่เดินออกไปแล้วทิ้งไว้เพียงคนแก่นั