Masuk“ฮ้าววว” พุฒิที่เพิ่งเปิดประตูเดินอ้าปากหาวออกมาตาก็มองซ้ายมองขวาเหมือนจะหาใครสักคน
“ตื่นแล้วหรอ” ส้มโอถามพี่ชายเสียงกระแทกกระทั้นนึกโมโหแทนเพื่อนจับใจไอ้พี่บ้านี่ก็เหลือเกินจริงๆนะ!
“อืม..เป็นอะไรหน้าบูดบึ้งแต่เช้าเนี่ยแล้วนี่...หนูจี๊ดไปไหนล่ะ?” ถามพลางมองหาแม่คนเนื้อหอมที่ได้กอดมาทั้งคืน
“กลับไปแล้ว!”
“ห๊ะ...กลับไปแล้วกลับยังไงแล้วกลับไหวหรอ?” ถามอย่างไม่สะทกสะท้านว่าเมื่อคืนตัวเองทำอะไรลงไปบ้างแล้วก็ทำให้ส้มโอชักของขึ้น
“หนูไปส่งเองแล้วทำไมจี๊ดต้องกลับไม่ไหวด้วยล่ะหรือพี่พุฒิไปทำอะไรมันเข้า!” ถามเสียงนิ่งตีหน้าขรึมใส่ผู้เป็นพี่
“คือ...ก็” คนพี่ทำเสียงอึกอักอยู่สักครู่ก่อนจะก้มหน้านิ่ง
“ก็อะไร?ก็คิดว่าไอ้หนูจี๊ดมันเป็นอีพี่ปรางว่างั้น” ส้มโอขึ้นเสียงใส่พี่ชายอย่างหัวเสีย หึ้ยยย!ไอ้พี่บ้า!
“ไม่ใช่อย่างนั้น...”
“แล้วอย่างไหนที่แน่ๆพี่พลาดแล้วล่ะที่นอนกับไอ้หนูจี๊ดแล้วเสือกครางเรียกชื่ออีพี่ปรางมันน่ะ!” ส้มโอตะคอกใส่อีกรอบ
“ส้มโอใจเย็นๆก่อนนะ” ทอยพยายามปลอบประโลมเมียหมาดๆของเขา ดูท่าทางเธอเองก็จะร้กเพื่อนมากเหมือนกัน หากวันนึงเขาเกิดทำอะไรพลาดไปรับรองได้เลยว่า...
มึงตายแน่ๆไอ้ทอย!
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เต็มใจอยู่ใต้อาณัติของผู้เป็นเมียแยู่ดี แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้เป็นทางการก็ตามเชื่อว่าอีกไม่นานคงใช่
แม้จะโมโหมากแค่ไหนส้มโอก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะหลังจากนั้นอีกไม่กี่วันหนูจี๊ดย้ายไปอยู่บ้านปู่กับย่าที่ต่างจังหวัดโดยไม่มีกำหนดกลับไม่ว่าเธอจะติดต่อทางไหนก็ไม่สามารถติดต่อหนูจี๊ดได้เลย
พุฒิเองก็กระวนกระวายแม้ว่าคืนนั้นอาจจะทำอะไรลงไปไม่รู้ตัวก็ตาม แต่เขาจำได้ว่ากำลังอยู่กับใคร รู้สึกผิดมากที่ทำร้ายจิตใจคนที่แอบมีใจให้เขามานานอย่างหนูจี๊ดให้ต้องเจ็บปวดมากขนาดนี้ เขาเทียวไปมาอยู่ที่บ้านหลายครั้งก็ยังไม่ได้ข่าวคราวของหนูจี๊ดเลย
ส่วนส้มโอตอนนี้กลายเป็นคู่หมั้นคู่หมายของทอยอย่างเต็มตัวเพราะชายหนุ่มพาผู้ใหญ่มาสู่ขอหมั้นไว้ก่อน หลังเขาเรียนจบก็มาแต่งทันที วันหมั้นพวกเขาก็ไม่ได้จัดพิธีใหญ่โตมากมายแค่เชิญญาติพี่น้องมาเป็นสักขีพยานพร้อมของหมั้นที่อลังการยิ่งใหญ่เชียวล่ะ
ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายต่างรับรู้ว่าทั้งคู่แอบชิงสุกก่อนห่ามกันไปแล้วก็เลยปล่อยเลยตามเลย บางทีทอยก็มานอนค้างที่บ้านส้มโอหรือบางทีส้มโอก็ไปอยู่บ้านทอยสลับกันไป
สองเดือนต่อมาส้มโอได้ข่าวว่าหนูจี๊ดกับมาอยู่บ้านแล้วพร้อมกับมีข่าวว่า...หนูจี๊ดท้อง!!!
ชาวบ้านต่างเล่าลือกันไปหาว่าหญิงสาวใจแตกบ้างล่ะ ท้องไม่มีพ่อบ้างล่ะน่าตบให้ปากฉีกเสียจริงพวกรู้ไม่จริงแล้วชอบเม้าส์เนี่ย
ใครบอกว่าเพื่อนเธอท้องไม่มีพ่อก็พี่ชายเธอไงพ่อของลูกอย่างไม่ต้องสงสัยเลยล่ะ
ตายแล้วเธอจะได้เป็นอาแล้วหรือนี่!
ตื่นเต้นจัง...
ส่วนของเธอไม่มีทางแน่ๆในเร็วๆนี้เพราะส้มโอกินยาคุม ถึงแม้จะหมั้นไปแล้วแต่ก็ยังไม่อยากปล่อยให้ตัวเองท้องก่อนแต่งอยู่ดี
. .ที่บ้านหนูจี๊ด
“ตอบมาว่าแกท้องจริงๆรึเปล่าหนูจี๊ด!” เสียงคนดังเอ็ดตะโรโททั่งลั่นบ้านทันทีที่สองพี่น้องขี่รถเครื่องไปจอดหน้าบ้านของหนูจี๊ด
“หนะ..หนูฮะ..ฮึ่กๆ” เสียงสะอื้นไห้ดังอย่างต่อเนื่อง
“ฮึ๊ยยย!อีลูกไม่รักดีทำพ่อแม่ขายหน้าตลอด!” ผู้เป็นพ่อเงื้อง้ามือทำท่าจะตบหนูจี๊ด ในขณะที่พุฒิใจหายวาบยามได้เห็นดวงหน้าหมองสะอื้นไห้
“หยุดเถอะครับลุงหนอม..น้องท้องกับผมเอง!” พุฒิยืดอกตอบรับโดยไม่สนว่าจะโดนอะไรจากว่าที่พ่อตาบ้าง
“พะ..พี่พุฒิ”
“หมายความว่ายังไง?”
“ก็หมายความว่าลูกในท้องหนูจี๊ดก็คือลูกของผมเอง” จบคำพูดหลายคนก็นิ่งกันไปสักครู่ใหญ่
“จริงหรือเปล่าพ่อพุฒิ” แม่หนูจี๊ดเป็นคนถามกลับสีหน้าไม่แน่ใจ
“จริงครับ ผม...จะรับผิดชอบทุกอย่างเอง” อีกไม่กี่เดือนพุฒิก็ใกล้จะเรียนจบแล้ว เงินเก็บจากการทำงานพิเศษก็พอมีอยู่บ้าง ถ้าไม่พอก็ขอยืมว่าที่น้องเขยก่อนก็แล้วกัน...
สองบ้านเลยมาตกลงหารือเรื่องงานแต่งของหนูจี๊ดกับพุฒิที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ พ่อกับแม่ของหนูจี๊ดไปหาฤกษ์มาแล้วคืออีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ส้มโอตื่นเต้นแทนเพื่อนที่กำลังจะมีครอบครัวกับคนที่เฝ้ามองมาหลายปี สุดท้ายถ้าคู่กันแล้วยังไงวันนึงก็ต้องหวนมาเจอกันอยู่ดีเหมือนคู่เธอที่ปุ๊บปั๊บมาเจอกันสปาร์คกันทันทีแม้ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไงแต่วันนี้เธอก็ทำทุกวันให้ดีเต็มที่ที่สุดแล้ว
. . วันงานแต่งหนูจี๊ดกับพุฒิคู่บ่าวสาวอยู่ในชุดไทยทั้งสวยและหล่อดูเหมาะสมกันมากติดนิดเดียวก็ตรงที่เจ้าสาวพุงป่องหน่อยๆเพราะตอนนี้ท้องได้สามเดือนกว่าเกือบสี่เดือนแล้วแต่ก็ทำให้เจ้าบ่าวหลงทั้งแม่ทั้งลูกเชียวล่ะไม่ว่าหนูจี๊ดจะเดินจะก้าวไปทางไหนเป็นต้องได้เห็นเจ้าบ่าวสุดหล่อคอยตามประกบไม่ได้ห่าง นี่เป็นอีกหนึ่งความฝันที่หนูจี๊ดเองก็ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นความจริงได้ ผู้ชายที่อยู่ในใจมาแสนนานกลับกลายมาเป็นสามีและพ่อของลูกแถมยังเลิกเที่ยวเตร่งดกินเหล้าสูบบุหรี่เพื่อเธออีกต่างหาก
ขณะกำลังต้อนรับแขกกันอยู่ก็มีหญิงสาวรูปร่างอรชรในชุดสีดำเดินเข้ามาในงานเล่นเอาทุกคนมองตาค้างและแช่งชักหักกระดูกเจ้าตัวเมื่อเธอดันใส่ชุดสีดำมางานมงคลแบบนี้...
“พี่ปรางมาทำไมไม่ทราบ!” ส้มโอปราดดักหน้าผู้หญิงที่เป็นฝ่ายทิ้งพี่ชายเธอก่อนแล้วยังมีหน้ามาป่วนงานคนอื่นเค้าอีก
“พี่ก็แค่อยากมาอวยพรให้อดีตสามีของพี่ก็แค่นั้น” ปรางแฟนเก่าของพุฒิตอบกลับไม่สะทกสะท้าน
“อย่างพี่ใช้คำว่าอดีตสามีกับพี่พุฒิไม่ได้หรอกเรียกว่าแค่คู่นอนคงจะพอใช้ได้อยู่!” ส้มโอตอกกลับจนปรางกำมือแน่นด้วยความโมโห
“ช่างเถอะ!มาวันนี้ปรางแค่อยากมาบอกพุฒิว่าปราง...ท้อง!!!” พูดจบเธอก็หยิบใบตรวจการตั้งครรภ์มาให้พุฒิดู
“ท้องกับใครหรอ?” ประโยคนี้เป็นเสียงของพุฒิที่ถามขึ้น
“ทำไมพูดแบบนี้เราก็ท้องกับพุฒิไง”
“เราป้องกันตลอดไม่มีทางที่เธอจะท้องแน่ๆ”
“พี่ปรางออกไปเถอะถ้าหากว่ามั่วเสียจนหาพ่อของลูกไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นใครก็เอาไว้ไปตรวจหาดีเอ็นเอก็แล้วกันแต่ที่แน่ๆส้มโอว่าไม่ใช่ลูกพี่พุฒิแน่” เสียงส้มโอที่พูดดังขึ้นๆทำให้ปรางนึกอายจนต้องรีบเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปทันที
“ที่รักทำไมตัวเองโหดนักอ่ะอย่างนี้เค้าก็แย่ดิ” เสียงทอยกระซิบกระซาบข้างหูส้มโอเบาๆ สายตาคมกวาดมองร่างอรชรของคู่หมั้นอย่างภูมิใจทั้งร้ายและดุนี่สิเมียเขา...
“ตัวเองก็ระวังตัวเอาไว้เถอะอย่าให้เค้ารู้แล้วกันถ้านอกใจเค้าเมื่อไหร่เค้าเอาตัวตายแน่!” ส้มโอกระซิบเสียงดุใส่คู่หมั้นหนุ่มแกมขู่
“งั้นเอาเค้าตอนนี้เลยได้ไหมอ่ะเห็นตัวเองใส่ชุดนี้แล้วเขา...อยาก” พูดแล้วก็กลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆร่างบางในชุดเดรสกระโปรงสั้นสีหวาน
“ตัวเองบ้า!มาหย่งมาอยากอะไรตอนนี้เล่า” ส้มโอตีไหล่คู่หมั้นตัวเองเบาๆก่อนจะเดินหนีออกมา
“อ้าวตัวเองจะไปไหนอ่ะ” ทอยเดินตามมาถามคนที่เดินจ้ำเอาๆไปที่รถ
“ก็...กลับบ้านไงล่ะอยากไม่ใช่หรอไปสิ!” ส้มโอกระซิบเสียงเบาหวิวใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อไปหมด
“โอ๊ย...แม่เสือสาวของพี่แต่งงานกันตอนนี้เลยไหมไม่อยากอยู่ห่างกันแล้วนะเนี่ย” กระโจนมาขึ้นรถด้านคนขับเสร็จก็เตรียมขับออกไป
“ปกติก็อยู่ด้วยกันเกือบทุกวันล่ะไม่ใช่” ส้มโอถามคนหื่นที่เอาแต่ใจให้เธอตามไปเฝ้าทุกคืนสลับวันกันนอนบ้านโน้นบ้างบ้านนี้บ้าง
“หึหึ...ก็เค้าแค่อยากประกาศให้ใครๆรู้ว่าเนี่ย..คนนี้เมียเค้า” ทอยหัวเราะหึหึในลำคอก่อนจะเหยียบคันเร่งตรงดิ่งมาที่บ้านของคู่หมั้นสาวทันที นาทีนี้บางอย่างมันคับแน่นอึดอัดไปหมดจนต้องออกจากงานมากลางคันเพื่อบรรเทาอาการอีึดอัดนี้
โชคดีที่ทุกคนไปอยู่บ้านของเจ้าสาวกันหมด ดังนั้นทางสะดวกที่สุดแล้วในตอนนี้
“อ๊าาาา..พะพี่ทอยขาแรงอีกค่ะแรงอีกซี๊ดด~หนูเสียว” เสียงครางกระเส่าของส้มโอดังลอดออกมาจากประตูห้องเมื่อร่างหนาถาโถมบดสะโพกโยกคลึงท่อนเอ็นใส่ร่องเสียวของเธอไม่หยุด
ตั่บ ตั่บ ตั่บ
“แรงๆแบบนี้เลยนะอาาาห์ตอดแน่นจังร่องหนูรัดพี่แน่นดีเหลือเกินที่รักซี๊ดดด” เสียงทุ้มคำรามครางแหบกระเส่าเมื่อความคับแน่นรัดรึงท่อนเอ็นจนเสียวแปลบไปหมด
“พี่ทอยขา...หนะ..หนูรักพี่ทอยซี๊ดดอาาาห์”
“พี่ก็รักหนู...รักที่สุด” ขย่มสะโพกโหมใส่คนตัวบางอย่างหนักหน่วงทั้งดุดันและเร่าร้อนจนส้มโอร้องครวญครางคอแทบแตกกว่าเค้าจะปล่อยให้กลับไปงานแต่งได้
. . หนึ่งปีต่อมาพุฒิกับหนูจี๊ดคลอดลูกคนแรกได้ลูกสาวหน้าตาหน้ารักและกำลังมีคนที่สองตามมาทั้งคู่เปิดร้านถ่ายรูปสตูดิโอขนาดใหญ่ในหมู่บ้านมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการไม่ขาดสาย หนูจี๊ดไม่ต้องทำอะไรแค่เลี้ยงลูกอยู่บ้านกับพี่เลี้ยงอีกคนคอบปรนนิบัติสามีอย่างเดียวส่วนส้มโอกับทอยก็แต่งงานกันแล้วทั้งคู่ย้ายออกมาปลูกบ้านอยู่ด้วยกันสองคนผัวเมียตามประสาข้าวใหม่ปลามันที่ยังหวานอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่ง...
“พี่ทอยออกไปนะอย่ามาใกล้เค้า!” เสียงตวาดแว้ดๆดังขึ้นในห้องนอนของทั้งคู่
“ตัวเองเป็นอะไรเค้าทำอะไรให้ไม่พอใจบอกมาสิไล่กันแบบนี้เค้าเสียใจนะ!” เสียงทุ้มเอ่ยตัดพ้อเมียเบาหวิวอยู่ดีๆน้ำตาก็จะล่วงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิตแค่เมียขึ้นเสียงใส่แค่นี้
“ก็อยะ..อย่ามาใกล้เค้าสิฮึ่ก...” ทอยพยายามเดินเข้าไปหาส้มโอแต่พอไปถึงตัวหญิงสาวก็ปรี่ออกมาวิ่งหนีไปเข้าห้องย้ำแทนสักพักเสียงอาเจียนก็ดังลั่นห้อง
“ฮือๆที่รักช่วยเค้าด้วยเค้าลุกไม่ไหว” เสียงส้มโอตะโกนเรียกู้เป็นสามีให้เข้ามาช่วย
ทอยเดินเข้าไปอย่างงงๆก่อนจะช้อนร่างบอบบางของเมียขึ้นมาแนบอกแล้วพาเดินลิ่วๆไปขึ้นรถ
“ปะ..ไปไหน”
“ไปหาหมอ”
“ไปทำไม”
“ไปฝากท้อง”
“ห๊ะ...ท้องได้ไง” ก็กินยาคุมอยู่
“ตัวเองไม่ได้กินยาคุมตัวเองกินวิตามินซีเสริมอาหารไป” ทอยตอบแล้วเตรียมรอรับโทษจากผู้เป็นเมียและกำลังจะเป็นแม่ของลูก
ที่รู้เพราะเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับแพ้ท้องมาจากพุฒิมาก่อน ทำให้เขาเดาได้ไม่ยากว่าน้ำยาเขาแผลงฤทธิ์ขึ้นมาแล้ว
“ไอ้พี่ทอยยย...ฮึ่ยยย” เมียเขาหันมาเรียกแล้วก็นิ่งไป
“อย่าโกรธเค้าเลยนะที่รักถ้าจะโกรธไปโกรธไอ้พุฒินู่นที่มันอยากมาสบประมาทเค้าเองว่าเค้าไม่มีน้ำยาสู้มันไม่ได้อ่ะ”
“ก็เลยสลับยาคุมเค้าว่างั้น”
“แหะๆจ้า”
“คนบ้า”
จะด่าไปก็เท่านั้นในเมื่อลูกน่าจะอยากมาอยู่ด้วยแล้วนั่นแหละเจ้าเล่ห์นักนะคุณสามีของเธอเนี่ยเนียนเหลือเกินปล่อยให้เธอกินวิตามินมาได้ตั้งนาน
ผลปรากฎว่าส้มโอตั้งท้องจริงๆได้สามสัปดาห์แล้วเล่นเอาคนเป็นพ่อดีใจจนต้องโทรไปคุยโวกับพี่เมียตัวเองว่าเขาไม่ได้ไร้น้ำยาอย่างที่มันว่าแล้ว ตอนนี้เค้าสามารถทำให้เมียท้องป่องได้แล้ว
ตอนที่เคยเห็นพี่พุฒิเห่อลูกเห่อแม่ของลูกส้มโอก็ว่าเยอะแล้วนะ แต่พอมาเจอกับตัวเองก็แทบจะบ้าตาย ทอยไม่ยอมให้เธอกระดุกกระดิกไปไหนทำอะไรเลยแทบจะอุ้มเธอไปทุกที่จนเธอรู้สึกจะเป็นง่อยไปแล้วเนี่ย เอะอะก็ห่วงกลัวกระทบกระเทือนถึงลูกนั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ แต่พอตกกระคืนไม่ยักจะกลัวว่าไอ้นั่นของเขามันจะทิ่มหัวลูกบ้าง เอะอะก็ต่อแขนต่อขาให้ลูกท่าเดียว
แต่ก็ไม่ได้ทำให้ส้มโอหนักใจอะไรมากเพราะทุกอย่างที่เขาทำนั่นแปลว่าเขารักเธอมากเช่นกัน ลิ้นกับฟันย่อมกระทบกันบ้างเป็นธรรมดาอยู่ที่ว่าเราจะปรับตัวได้มากน้อยแค่ไหนเท่านั้น
“ตัวเองพอคนนี้คลอดเราอาต่ออีกคนเลยนะ”
“ที่รักตอนนี้ลูกเพิ่งสี่เดือนใจเย็นๆนะ”
เสียงเถียงกันบ้างคุยกันงุ๊งงิ๊งๆประเดี๋ยวกลายเป็นเสียงครวญครางในยามค่ำคืนก็ดังขึ้นและมันจะเป็นอย่างนี้ในทุกๆวัน
. . The End.วันต่อมาผมก็พาพี่ปรางกลับบ้านที่มีลูกชายเธอและเพื่อนสนิทผมนั่งหน้าบอกบุญไม่รับรออยู่ก่อนแล้ว“แม่ไปไหนมาทำไมไม่กลับบ้านแล้วนี่ไปไหนกันมา”เมื่อมาถึงคิวก็เดินดุ่มๆเข้ามาถามสีหน้าและแววตาเกรี้ยวกราดสุดฤทธิ์คนเป็นแม่ได้แต่ก้มหน้านิ่งเพราะรู้ว่าตัวเองผิดจริงๆ“ว่าไงไอ้โจ้มึงพาแม่กูไปไหนมาทั้งคืนทำไมถึงเพิ่งกลับมากันป่านนี้”“คือ..ว่าไอ้คิวมึงฟังกูพูดก่อนนะคือ..” ผมเองก็ยังหวาดๆกับสีหน้าเกรี้ยวกราดของมันจนถึงขั้นตัวลีบเลยทีเดียว“ฟังเหี้ยอะไร!มึงพาแม่กูหายไปทั้งคืนเนี่ยนะไอ้สัสโจ้” ไอ้คิวตะคอกใส่ผมเสียงดีังลั่น“คิวใจเย็นๆก่อนนะลูกค่อยๆพูดกันก็ได้” พี่ปรางพยายามปลอบไอ้คิวเสียงอ่อนพลางลูบหลังมันเบาๆ“งั้นแม่ก็บอกมาดิว่าหายไปไหนกับมันมาทั้งคืน” ไอ้คิวตะคอกใส่พี่ปรางจนหน้าเสีย“ไอ้สัสคิวมึงอย่าตะคอกใส่แม่มึงแบบนั้นสิวะ” พอเห็นเมียผมหน้าเสียแบบนั้นก็อดสงสารไม่ได้“อย่าเสือกนี่แม่กู!”“แม่มึงแต่เมียกู!”“ไอ้สัสโจ้!”ผลั๊ว!เสียงหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่ตรงปากและจมูกผมพอดีจนมึนไปชั่วครู่สักพักลิ่มเลือดก็ไหลออกมาจากมุมปากผมเล็กน้อย“ว๊าย!อย่านะลูกหยุดๆ” พี่ปรางร้องไห้เสียงดังพยายามรั้งแขนไอ้คิวไม่ให
บันทึกพิเศษปรางในความเย็นเยียบที่ได้รับทำให้ฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านวาบไปทั่วทั้งร่างกายรับรู้ว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆแต่ทว่า...ผ้าห่มไปไหน?รู้สึกได้ว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าซึ่งนั่นเป็นปกติเวลาที่ฉันเข้านอนจะชอบโนบราและแก้ผ้านอนเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมคืนนี้มันหนาวผิดปกติกันนะแม้จะแปลกใจแต่มือฉันก็ปัดป่ายควานหาผ้าห่มที่คาดว่าตัวเองน่าจะถีบออกจากตัวไปอยู่มุมไหนสักที่นั่นแหละ คลำหาไปได้สักพักก็รู้สึกว่าตัวเองไปคว้าหมับเข้ากับอะไรสักอย่างที่มัน ‘ร้อนผ่าว’ และนุ่มนิ่มมือ เมื่อเห็นว่าเออจับแล้วมันก็อุ่นดีฉันก็เลยจับๆขยำๆไปเรื่อยๆสักพักอ้าวเห้ย!ทำไมมันใหญ่ขึ้นวะ?แถมมันยังแข็งและร้อนราวกับอังไฟมา รูปร่างลักษณะมันคลับคล้ายคลับคลาเหมือนกับ....ไอ้นั่นของผู้ชาย!แม้จะไม่อยากลืมตาตื่นสักเท่าไหร่แต่ความสงสัยก็ทำให้ฉันต้องตื่นลืมตามองสิ่งที่อยู่ในมือ แต่แวบแรกเลยทีเห็นคือแผงอกแกร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามลากสายตาลงมาก็หน้าท้องหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ขยำเล่นดีจังถัดมาก็เออ!นั่นแหละฉันกำลังจับไอ้นั่นของเพื่อนลูกชายอยู่ แถมไม่ได้จับธรรมดานะทั้งลูบคลึงขยำชักรูดชักลงอีกต่างหาก ให้ตายเถอะนี่เธ
โรมแรมม่านรูดไม่ไกลจากห้างดังเสียงปิดประตูรถดังปังทันทีที่เด็กรับรถรูดม่านมาปิดไว้ผมยื่นเงินค่าห้องให้เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันกับผมพร้อมทั้งทิปแล้วดึงมือพี่ปรางลากเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็วเมื่อครู่แม้จะปลดปล่อยไปแล้วครั้งนึงแต่ทว่าตรงหน้าขาผมยังแข็งปึ๋งผงาดทิ่มเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้ได้เห็น ปวดไปหมดสงสัยมันอยากจะทลวงเข้าไปในช่องแคบอีกครั้งเสียแล้ว“อ๊ะ..เบาๆ หน่อยสิชั้นเจ็บนะ” พี่ปรางดุเบาๆ ในตอนที่ถูกผมดันร่างเธอเข้ากับพื้นผนังเย็นเยียบอย่างแรง“ขอโทษ...ผมทนไม่ไหวต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้กระแทกพี่ตอนนี้” ผมงึมงำเบาๆ ขณะริมฝีปากไล่ขบเม้มซอกคอเนียนหอมละมุน“ซี๊ดดดดด~~บ้าเวอร์ไปล่ะไปอดอยากจากไหนมาห๊ะ...”“ฮื้มม~ตัวพี่หอมจัง...พี่ไม่รู้หรอที่จริงผมอยากแล้วก็แข็งตั้งแต่เห็นพี่ที่สระว่ายน้ำแล้ว” เสียงผมสั่นกระเส่าอยากไม่อาจห้ามได้ ยิ่งได้กลิ่นหอมอ่อนลอยมามังกรยักษ์ก็อยากโผล่หัวมาทักทายเหยื่อสาวเสียแล้ว“หมายความว่าเมื่อคืนเธอแอบดูพี่ที่สระด้วยหรอ” พี่ปรางดันหน้าผมออกจากเนินอกเธอแล้วถามเสียงเข้ม“อื้ม..ก็เมื่อคืนผมนอนไม่หลับกะว่าจะไปเดินเล่นเฉยๆ ใครจะไปรู้ว่าจะได้เจอเงือกสาวแสนสวยใส่บิกินี่
คืนนั้นหลังจากถูไถแค่ภายนอกจนเสร็จสมอารมณ์หมายด้วยกันทั้งคู่ดึกๆช่วงตีสี่กว่าๆผมก็ย่องออกมานอนที่ห้องของตัวเองที่ไอ้คิวมันจัดไว้ให้แล้วหลับต่อไปยันสายตรู่ทั้งผมทั้งไอ้คิวต่างตื่นสายด้วยกันทั้งคู่โชคดีที่วันนี้เป็นวันเสาร์เราไม่ต้องรีบตื่นไปเรียน ส่วนแม่ไอ้คิวผมยังไม่เห็นเลยนะสงสัยจะเขิน“ไงมึงหลับสบายดีไหมบ้านกู” เสียงไอ้คิวถามพลางยิ้มอารมณ์ดี แน่ล่ะสิเมาหลับไปตั้งแต่หัวค่ำละมั้ง“อืม..ดีมากกูหลับสนิทเลย” เสียไปตั้งหลายน้ำจะไม่หลับได้ยังไง!“มากินข้าวก่อนนี่แม่กูทำข้าวต้มปลาไว้ให้มึงจะเอากาแฟไหมกูจะได้ให้พี่สมพรไปชงมาให้”“เออเอาก็ได้” ผมพยักหน้ารับรู้สึกอยากได้คาเฟอีนเข้ามาในร่างกายเหมือนกันเพราะเช้านี้รู้สึกไร้เรี่ยวแรงจริงๆฝีมือทำกับข้าวของแม่ไอ้คิวก็อร่อยดีนะ ส่วนคนทำไม่รู้หนีหายไปไหนแล้วผมมองๆหาก็ไม่ยักจะเห็นเลย“เออแล้วนี่แม่มึงไปไหนหรอวะ”“ไม่รู้เหมือนกันว่ะสงสัยอยู่บนห้องมั้งว่าแต่มึงเถอะวันนี้จะไปไหนต่อเปล่า”“ไม่รู้ว่ะเบื่อๆคงนอนอยู่บ้านแหละกูขี้เกียจออก”“ไปดูหนังกับกูไหมล่ะพอดีกูชวนแม่ไปดูหนังรอบบ่ายมึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิไปกับแม่สองคนกูอาย” ไอ้คิวมันบอกในขณะที่ผมนึกขำ
หญิงสาวผมเผ้าหลุดรุ่ยเนื้อตัวเปลือยเปล่ามองหนุ่มรุ่นลูกตาปรอยเนื้อตัวสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอนขอให้เด็กหนุ่มช่วยเติมเต็มสิ่งที่เธอขาดหายไปหลายสิบปีให้หน่อย เด็กหนุ่มหลุบตามองริมฝีปากอิ่มเอิ่มที่แย้มออกดูเย้ายวนชวนให้คลุกเคล้าดื่มด่ำความหวานหอมในโพลงปากนุ่มเหลือเกิน“อื้อออออออ” เสียงหวานครางกระเส่าในลำคอเมื่อถูกเด็กหนุ่มบดจูบอย่างดูดดื่ม เรียวลิ้นอุ่นชื้นพลิกไล้ไปตามไรฟันขาวสะอาดเลาะเล็มน้ำหวานตามโพลงปากด้านในจนน้ำลายของทั้งสองคนไหลย้อยออกมาตามมุมปาก“ชอบไหม?ชอบให้ผมสัมผัสแบบนี้ไหมครับ” เสียงทุ้มแหบพร่าของเพื่อนลูกดังขึ้นอีกครั้งที่ข้างใบหูพร้อมกับลมร้อนที่เขาเป่าใส่อย่างยั่วเย้าหลังจากที่เขาละริมฝีปากออกปล่อยให้เธอได้หายใจหายคอออกบ้างหลังจากที่ถูกจูบดูดวิญญานเข้าไปหลายนาทีจากนั้นก็ลากริมฝีปากลงมายังซอกคอขาวเนียนดูดกลืนผิวเนื้ออ่อนหอมละมุนจนมันขึ้นสีคล้ำเป็นจ้ำแล้วก็ลากลงมาไซร์เนินอกอวบอิ่มเบียดชิดชูชันตั้งตะหง่านอีกครั้ง“อื้มมมมม” มีเพียงเสียงครางอื้ออึงไม่ได้สรรพ์ดังตอบรับการกระทำแค่นั้น นาทีนี้หัวสมองเธอว่างเปล่าไปหมดครุ่นคิดอะไรไม่ออกแม้แต่นิด“แม่ครับ...ผมขอเลียหน่อยนะครับ” คำพูด
ร่างขาวโพลนในชุดบิกินี่ตัวจิ๋วที่กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในสระท่ามกลางไฟที่สาดส่องพอให้เห็นสลัวๆชวนให้ผมนึกจินตนาการถึงนางเงือกแสนสวยที่แหวกว่ายวนไปมาขาเรียวขาวได้รูปไร้ไขมันปะปนที่กำลังตีขาบนน้ำก็ดูน่าหลงใหลชวนให้นึกถึงเวลาที่ขาเรียวงามสองข้างมาพาดบนบ่ากว้างของผมมันคงให้ความรู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียวบิกินี่สีแดงสดช่างขับผิวของแม่ไอ้คิวได้ดีเหลือเกินเพราะเมื่อมันทาบลงบนร่างอรชรยิ่งทำให้ตัดกับสีผิวขาวผ่องไปทั้งตัวจริงๆ สายเส้นเล็กๆที่เกาะต้นคอเนียนนั่นดูเกะกะตาดีเหลือเกินเห็นแล้วผมอยากกระตุกมันออกทิ้งไปไม่นานเหมือนว่าแม่ไอ้คิวคงจะว่ายน้ำจนเหนื่อยแล้วมั้ง ร่างบอบบางของเธอจึงเดินขึ้นมานั่งบนขอบสระ หลังจากนั้นเธอก็ทำในสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่าจะได้มาเจอวันนี้นั่นก็คือแม่ไอ้คิวปลดบิกินี่ทั้งท่อนบนและท่อนล่างออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่าท้าสายลมจากนั้นก็หยิบเสื้อคลุมมาสวมช้าๆราวกับว่าไม่ได้รู้สึกอะไรที่อยู่ๆก็แก้ผ้าท้าลมหนาวเช่นนี้ขนผมลุกซู่หอบหายใจรัวเลยล่ะรู้สึกว่าหัวใจทำงานหนักมากเวลานี้ ไม่ใช่แต่ขนนะที่ลุก ‘อย่างอื่น’ ผมก็ลุกเช่นกัน‘ให้ตายเถอะนี่แม่เพื่อนนะไอ้โจ้ท่องไว้แม่เพื่อน...แม่เพื่







