ภาค เศรษฐกร นักธุรกิจหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบสองกะรัต ชายหนุ่มหล่อจัด โคตรรวย และก็โสดสนิท เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูล เศรษฐกร มหาเศรษฐีหมื่นล้านที่ถูกทั่วโลกจับตามอง และเขาก็คือผู้ชายในฝันของผู้หญิงมากมาย แต่ภาคกลับไม่ยอมมีภรรยาเป็นตัวเป็นตน เขาคบหากับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทั้งนางงาม นางเอก นางแบบ ไม่ว่าจะภายในประเทศไทยหรือต่างประเทศ เขาก็สอยลงมาขย่มบนเตียงแทบหมดทั้งวงการ แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่คิดจะลงหลักปักฐานกับใครจริงๆ จังๆ เสียที
เหตุผลของเขาคือความลับ...
ใช่ มันคือความลับที่ไม่มีใครล่วงรู้ แม้แต่เลขาหน้าห้องที่ทำงานรับใช้เขามาเป็นเวลานานหลายปีเช่นหล่อนก็ตาม
กนกแก้ว รื่นเริง หรือที่ ภาค มักจะเรียกติดปากว่า ‘แก้ว’ หล่อนทำงานที่บริษัทของภาคมาตั้งแต่เรียนจบมาใหม่ๆ จนตอนนี้อายุอานามของหล่อนก็เกือบจะยี่สิบแปดปีบริบูรณ์แล้ว
หล่อนรู้ใจภาคทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องรสนิยมทางเพศของเขา ภาคชอบผู้หญิงเปรี๊ยวจี๊ดเข็ดฟัน ชอบผู้หญิงลีลาเด็ด และชอบผู้หญิงนมใหญ่ ซึ่งหล่อนก็เป็นคนทำหน้าที่คัดกรองผู้หญิงในแบบที่เจ้านายชอบ และจัดส่งให้ถึงเตียงของเจ้านายในทุกค่ำคืน หรือทุกเวลาที่ภาคต้องการ
แต่ใครจะรู้บ้างเล่าว่า ภายใต้แว่นหนา และการแต่งตัวแสนเชยของหล่อน ได้ซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้ ความลับที่จะเป็นความลับไปตลอดกาล
หล่อนแอบรักภาค...
ใช่... หล่อนรักเขา แต่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่มีทางรักเลขาเฉิ่มเชยเช่นหล่อน
หล่อนไม่ได้อยู่ในสายตาของภาคเลย เขาไม่เคยมองหล่อนแบบที่ผู้ชายมองผู้หญิง หล่อนเป็นแค่เพียงทาสที่ทำงานได้อย่างรู้ใจเขาเท่านั้น แต่หล่อนก็อดทน อดทนที่จะมองเขาขึ้นเตียงกับผู้หญิงคนอื่น เพียงเพราะว่าไม่ต้องการอยู่ห่างจากเขานั่นเอง
“คิดอะไรอยู่หรือแก้ว”
ภาคยืนกอดอกมองเลขาสาวที่ทำงานกันมานานจนรู้ใจกันทุกอย่าง หรือจะให้พูดตรงๆ ก็คือกนกแก้วรู้จักเขา มากกว่าที่เขารู้จักตัวเองเสียอีก
เขายังจำวันแรกที่ได้ร่วมงานกับแม่สาวแว่นหนา ชอบแต่งตัวเหมือนครูอนุบาลอย่างกนกแก้วได้เป็นอย่างดี หล่อนมาสัมภาษณ์งาน แต่กลับทำกาแฟหกใส่เขาเสียอย่างนั้น เขาควรจะไล่หล่อนออกไปซะ และรับคนอื่นมาทำงานแทน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เขาถึงเลือกหล่อน และการเลือกในครั้งนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาผิดหวังเลยสักนิด เพราะกนกแก้วทำหน้าที่เลขาหน้าห้องได้เป็นอย่างดี แม้ว่าหล่อนจะไม่ได้เซ็กซี่ในแบบที่เขาต้องการจากเลขาก็ตาม
หล่อนทำงานเก่ง ละเอียด รอบคอบทุกอย่าง และบางครั้งก็ช่วยเขาแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างดีเยี่ยม เพราะแบบนี้ไงเขาถึงไม่ยอมให้หล่อนจากไปไหน ผูกมัดหล่อนเอาไว้ด้วยเงินเดือนก้อนโต แต่นั่นไม่ใช่งานเดียวที่หล่อนทำได้ดีหรอก เพราะกนกแก้วยังทำหน้าที่สับรางผู้หญิงที่จะขึ้นเตียงให้กับเขาได้อย่างดีไม่แพ้กัน หล่อนคัดเลือกผู้หญิงได้ตรงสเป็คเขาที่สุด
“เอ่อ... บอส...”
หญิงสาวตื่นจากภวังค์ เมื่อเสียงของเจ้านายที่ตนเองคิดถึงอยู่ทุกขณะจิตดังขึ้น หล่อนหันไปมองเขา ก็พบว่าเขายืนหล่อลากไส้อยู่ไม่ไกลนัก ดวงตาสีดำขลับจ้องมองมาที่หล่อน และอมยิ้ม
“ทำไมต้องทำหน้าตกใจด้วยล่ะครับ หรือว่ากำลังคิดถึงแฟนอยู่”
เขาเดินเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น และก็ทำให้หัวใจของหล่อนแรงระรัว แต่ก็จำต้องกลบเกลื่อนเอาไว้ ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก
“แก้ว... ยังไม่มีแฟนหรอกค่ะบอส”
“ไม่น่าเชื่อนะ คุณอายุยี่สิบเจ็ดแล้วนะแก้ว อีกไม่กี่เดือนก็จะยี่สิบแปด นี่ไม่คิดจะมีครอบครัวเลยหรือ”
หล่อนฝืนยิ้มบางๆ
“แก้วคงยังไม่เจอคนที่ชอบน่ะค่ะ”
เขาพยักหน้ารับน้อยๆ กอดอกมองหล่อนไม่วางตา
“งั้นก็คงเหมือนผมนั่นแหละ เพราะที่ผมยังไม่แต่งงาน ก็เพราะยังไม่เจอผู้หญิงที่ใช่เช่นกัน”
“แต่บอสก็นอนกับผู้หญิงมากมาย...”
“นั่นเป็นเพราะร่างกายของผมต้องการปลดปล่อย”
เขาหัวเราะร่วน ราวกับว่าหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่นั้นคือความขบขัน แต่หล่อนขันไม่ออกจริงๆ
“แก้วทราบค่ะ”
เขายิ้มอีก ยิ้มหล่อกระชากใจแบบสุด แต่หล่อนก็ทำได้แค่มอง แต่ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง
“จำงานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ได้ใช่ไหมครับแก้ว”
“เอ่อ จำได้ค่ะ”
เขายิ้มอีกแล้ว
“ผมต้องการนางแบบคนนั้นนะ ติดต่อให้ผมสองวันสองคืน ผมจ่ายไม่อั๋น”
หล่อนเจ็บลึกแบบนี้ทุกครั้งที่รู้ว่าเขาจะนอนกับใคร แต่ก็จำต้องยิ้มทำตามหน้าที่
“แก้วติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัวของเธอแล้วค่ะ แล้วเธอก็รับปากจะมาร่วมงานแล้วด้วยค่ะ”
“ดีมาก คุณนี้เป็นเลขาที่สุดยอดที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมาก่อนเลยนะแก้ว”
“ขอบคุณค่ะบอส”
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 29.อวสาน“ไม่นะคะ พราวต้องกลับบ้าน!”“ไม่ให้กลับ”เขาตอบทันควัน ไม่มีแม้แต่จังหวะลังเล เสียงนั้นหนักแน่นแบบที่หล่อนรู้เลยว่า... ไม่มีทางได้ลงจากอ้อมแขนง่ายๆ แน่“แต่พราวโทรบอกคนขับรถให้มารับแล้วนะคะ”“เดี๋ยวมาไม่เจอพราว เขาก็กลับไปเองแหละ”เขาพูดนิ่งๆ พร้อมยักคิ้วนิดๆ ท่าทางสบายใจเกินเบอร์ ขณะอุ้มหล่อนเดินตรงไปตามทางเดินยาวด้านหลังของตัวคฤหาสน์ ซึ่งมันมีทางเชื่อมขึ้นสู่ห้องนอนชั้นสองอีกทาง“แต่ว่า...”“ไม่มีแต่”หนุ่มหล่อก้มหน้าลงเล็กน้อย กระซิบชิดใบหูของหล่อน เสียงนั้นนุ่ม ลึก และเต็มไปด้วยแรงปรารถนา“ฉันอยากเป็นทาสสวาทของเธอใจจะขาดอยู่แล้ว พราว...”แก้มนวลของพราวพิลาศแดงดระเรื่อ ยิ่งสบตากับเขาในระยะใกล้แบบนี้ แถมใบหน้ายังคงอยู่ใกล้กันมากแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งหวั่นไหวลมหายใจอุ่นๆ ของเขาแนบใกล้จนหล่อนรู้สึกได้ถึงแรงเต้นของหัวใจตนเอง“แต่... พราวอาย...”“ไม่มีอะไรต้องอายเลย”เขาพูดเบา แต่น้ำเสียงมั่นคง“เรารักกัน... และเราก็กำลังจะแสดงความรักกัน...”“แต่ว่า... เราเพิ่งทำไปเมื่อวานเองนะคะ...”“กับเธอ... กี่ครั้งก็ไม่พอหรอกนะ พราว...”เขาพูดเสียงแหบต่ำ และเต็มไปด้
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 28.“ถ้าคุณจะบอกว่าเกลียดพราว... ไม่ต้องพูดแล้วค่ะ เพราะพราวรู้ดี”เสียงหล่อนสั่น ดวงตาแดงรื้น น้ำตาเริ่มเอ่อล้นโดยที่เจ้าตัวก็พยายามจะกลั้นไว้สุดแรง“ฉันไม่ได้เกลียดเธอ...”เขาก้าวเข้าหา ยื่นมือออกไปจะกอด แต่หล่อนถอยหนี“งั้นก็คงขยะแขยงมั้งคะ”“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก ฉันน่ะ...”เขาเงยหน้าขึ้น สบตาหล่อนอย่างไม่หลบสายตาอีก“ฉัน... อยากให้เธอกลับมา... อยู่กับฉัน...”“พราว... ไม่กลับไปแล้วค่ะ”หล่อนเม้มปากแน่น หันหลังจะเดินหนี แต่เขาไวกว่า ก้าวเข้ามารวบตัวหล่อนเข้าไปกอดแน่น จนแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน“กลับมาอยู่กับฉันนะ พราว... ฉันรักเธอ”เสียงกระซิบบอกที่ข้างหูหล่อน ทำให้ร่างบางนิ่งงัน เหมือนถูกตรึงไว้กับอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นหนา“คุณช้างว่าอะไรนะคะ...”“ฉันรักเธอ พราวพิลาศ ฉันรักเธอจริงๆ”พราวพิลาศตัวแข็งทื่อ สมองขาวโพลนไปชั่วขณะ“รัก...? คุณช้างรักพราวเหรอคะ?”“ใช่ ฉันรักเธอ รักจนไม่อาจทนเห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว”เขาหวังว่าหล่อนจะเชื่อ หวังว่าหล่อนจะเข้าใจ แต่กลับตรงกันข้าม หล่อนยิ่งดิ้นรน และหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา“คุณปู่ขอร้องให้คุณช้
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 27.“ครับ คุณปู่”“แกมีอะไรอยากพูดกับหนูพราวไม่ใช่เหรอ”ชยางกูรขยับริมฝีปากเล็กน้อย ราวกับจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับต้องกลืนคำเหล่านั้นลงคอไปพร้อมกับความกลัวที่บีบหัวใจเขาเลื่อนสายตาไปสบตากับหญิงสาวตรงหน้า... หญิงสาวที่เขาเคยผลักไสไล่ส่ง และกำลังจะเสียหล่อนไปตลอดกาล“ผม... ไม่มีครับ”เสียงเขาเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ทว่าในใจกลับตะโกนอยากพูดสิ่งที่ตรงกันข้ามออกไปจนแทบบ้า“เจ้าช้าง”เสียงของคุณปู่คราวนี้แข็งขึ้นเล็กน้อย คล้ายตำหนิ แต่ชยางกูรก็ยังคงนั่งก้มหน้านิ่ง กินข้าวนิ่งเฉย ไม่พูดไม่จาอะไรพราวพิลาศเห็นบรรยากาศค่อนข้างอึดอัด จึงคิดว่าเป็นเพราะตัวเอง ที่ทำให้ชยางกูรเงียบงันไม่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ดังนั้นหล่อนจึงเลือกที่จะปลีกตัว“หนูอิ่มแล้วค่ะคุณปู่”“อ้าว ทำไมอิ่มเร็วจังเลยหนูพราว หนูเพิ่งกินนิดเดียวเองนะ”“หนู... อิ่มจริงๆ ค่ะ”หล่อนยิ้มออกมา ทั้งที่รอยยิ้มนั้นช่างเจือจางและบิดเบี้ยว “ขอบคุณคุณปู่มากนะคะที่ชวนหนูมากินอาหารอร่อยๆ แบบนี้”หล่อนยังคงฝืนยิ้มต่อ แม้ว่าหัวใจจะเจ็บหนึบก็ตาม“ไว้วันหลัง หนูจะเชิญคุณปู่ไปทานข้าวบ้านหนูบ้างนะคะ หนูจะเข้าครัวเพื
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 26.คุณปู่พูดพร้อมส่ายหน้า แต่ในน้ำเสียงนั้นมีความรัก และความเอ็นดูที่ซ่อนอยู่ลึกๆ“คุณปู่ครับ...”ชยางกูรเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงระเรื่อ“ผมยอมให้คุณปู่ด่าไปทั้งชาติเลยครับ ขอแค่เพียง... คุณปู่ช่วยทำยังไงก็ได้ ให้ผมได้เมียกลับมาทีนะครับ... นะครับคุณปู่...”คุณปู่เงียบไปครู่หนึ่ง มองหลานชายที่เมื่อก่อนเคยยืนผงาดเหมือนราชสีห์ แต่ตอนนี้ห่อเหี่ยวราวหมาน้อยหลงทาง“เอางี้ เจ้าช้าง...”ชยางกูรเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง“ครับ! คุณปู่จะช่วยเหรอครับ!?”คุณปู่ยิ้มมุมปากนิดๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบ“ใช่”ชยางกูรแทบจะกระโดดกอดขาคุณปู่ทันทีเมื่อได้ยินคำตอบนั้น ใบหน้าที่ดูเหมือนจะไม่มีความหวังเมื่อครู่ กลับเปล่งประกายสดใส จนเกือบเห็นสายรุ้งพุ่งออกจากหัว“เย็นนี้...”คุณปู่พูดช้าๆ พลางยกถ้วยชาขึ้นจิบด้วยท่าทางสุขุม“ปู่จะนัดหนูพราวมากินข้าวเย็นที่บ้าน”“จริงเหรอครับ! ปู่สุดยอดมากเลยครับ!”ชยางกูรแทบจะลุกขึ้นเต้นระบำเสียให้ได้ แต่ไม่นานก็ชะงักไป“แล้ว... ผมต้องทำยังไงครับ”“ยังจะมาถามอีก...”คุณปู่วางถ้วยชาอย่างแผ่วเบา แล้วจ้องตาหลานชายนิ่ง“แกก็ต้องทำยังไงก็ได้
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 25.ชยางกูรจะก้าวตาม แต่กลับถูกปรัชญาขวางทางเอาไว้ “หลีกไป”น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเยือกเย็นจนน่าขนลุก ดวงตาเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ที่เก็บไว้ไม่อยู่“คุณพราวรักคุณก็จริง...”ปรัชญาพูดอย่างใจเย็น“แต่เธอก็สามารถหยุดรักคุณได้เหมือนกันครับ” ดวงตาของชยางกูรแข็งกร้าวขึ้นทันที“นี่คุณจะแย่งเมียผมให้ได้เลยใช่ไหมวะ!”“ผมไม่ได้จะแย่ง...”ปรัชญาตอบเรียบๆ ก่อนจะพูดต่อ“แต่ถ้าคุณพราวเลือกผม... ผมก็พร้อมจะดูแลเธอ ในแบบที่คุณไม่เคยทำครับ”ชยางกูรหน้าตึง ความอดกลั้นพังทลายหมัดของเขาเหวี่ยงออกไปอย่างรวดเร็ว แต่... ปรัชญาหลบได้อย่างฉิวเฉียดดวงตาทั้งคู่สบกันอีกครั้ง คราวนี้...มันไม่ใช่แค่ความไม่พอใจ แต่มันคือศึกระหว่างชายสองคนที่มีใจให้ผู้หญิงคนเดียวกัน“หยุดเดี๋ยวนี้นะคะ!”พราวพิลาศวิ่งกลับเข้ามา และดันอกของชยางกูรออกแรงพอควร“คุณช้าง อย่าทำตัวเป็นนักเลงแบบนี้ได้ไหมคะ!”เขาจ้องหน้าหล่อน ดวงตาทั้งโกรธ ทั้งปวดร้าว ก่อนจะหันหลังกลับไปขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรเสียงประตูปิดดัง ปัง! ก่อนที่รถหรูจะเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วและแรงเมื่ออยู่กันเพียงสองคน พราวพิลาศหันไปมองปรัช
เมียตีทะเบียนที่เขาไม่รัก 24.เขาหัวเราะอย่างพึงพอใจ ก่อนจะก้มลงดูดหัวนมของหล่อนอย่างเอาแต่ใจ“อู๊ยยยย คุณช้าง... อื้อ... อ๊า... อา...”“อยากให้ฉันหยุดเอาเธอไหม... อืมมม โอ้วววว หอยเธอนี่มันฟิตดีจัง... โอ้ววว...”“ไม่... อ๊า... อย่าหยุด... คุณช้าง... ซี๊ดดดด พราวเสียว อ๊า...”และสุดท้าย หล่อนก็ทำได้แค่เพียงปล่อยให้ไฟสวาทอันร้อนแรงของชยางกูรแผดเผาทั้งร่างกายและจิตวิญญาณอย่างเต็มใจ...แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้องนอน ชยางกูรขยับตัวเล็กน้อย เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ เปิดขึ้น ก่อนที่แขนแข็งแรงจะเหยียดออกไปราวกับจะโอบใครบางคนข้างกาย...ว่างเปล่า...ผ้าปูเตียงเย็นเฉียบ...พราวพิลาศ... ไม่อยู่แล้วเขาลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะพลิกกายขึ้นนั่ง ดวงตาคมหลุบลงมองผ้าปูเตียงยับยู่ที่ยังมีร่องรอยของการเคลื่อนไหวเมื่อชั่วโมงก่อนชยางกูรถอนหายใจเบาๆ ในความเงียบ พลางเอื้อมมือแตะที่นอนข้างตัวอย่างไม่รู้ตัวตรงที่ที่หล่อนเคยนอน...ตรงที่ที่หล่อนพูดคำว่า รักคุณ ออกมาในจังหวะที่หล่อนลืมตัว และคิดว่าเขาไม่ได้ยินแต่เขาได้ยิน...เขาได้ยินอย่างชัดเจน ได้ยินทุกลมหายใจที่สั่นไหว และแผ่วเบาของหล่อน... และเสียงน