เมื่อร่างงามของลินดาเดินย่างเท้าเข้าไปในห้องทำงานที่ใหญ่โตโออ่าและเช่นเดียวกับตัวอาคารสูงใหญ่หลังนี้ เธอจ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ใบหน้าหล่อสะดุดตา ท่านประธานเครือพีพีไอกรุ๊ปนั้นยังหนุ่มมากและก็หล่อมากอีกด้วย และแล้วดวงตาของเลขาสาวก็เบิกกว้าง เขา… รู้สึกว่าเขาเคยแนะนำตัวกับเธอว่าชื่อธนาคิม ใช่แล้ว คือคนที่เคยนัดพบเธอที่ร้านอาหารเพื่อเสนอเงินฟาดหัวเธอให้ไปให้พ้นจากอดีตน้องเขยของเขา ใช่แล้ว เธอจำเขาได้แล้ว
ใบหน้าหล่อคมคายของธนาคิม เอื้ออังกูร ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ใช้ดวงตาคมกริบจ้องมองหน้าหวานของเลขาสาวตัวปัญหานิ่ง และมันดูข่มขวัญไม่น้อยเลย “ มาแล้วหรือ คุณเลขาฯ นั่งก่อนสิ ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงอำนาจ ลินดารู้สึกว่าขาตนเองนั้นสั่นเล็กน้อยยิ่งได้รู้ว่าท่านประธานที่ต้องการพบเธอคือเขา ความไม่สบายใจเล็กๆก็ก่อเกิดขึ้นทันที เธอเดินไปเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงแต่โดยดี เพราะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาคือเจ้าของบริษัทและเธอก็คือลูกจ้างของเขาไปโดยปริยาย
“ เอาละ คุณคงจะรู้เรื่องการควบรวมบริษัทแล้ว ” เขายกแฟ้มบางๆ ขึ้นกางอ่านมันต่อหน้าของเธอ “ ผมคิดว่าเงินเดือนของคุณในตำแหน่งเลขาสูงเอาการนะ สำหรับบริษัทเล็กๆอย่างเช่นดีน่า นายเก่าของคุณนี่ใจดีมากนะ ” จากที่เขาพูดทำให้เธอรู้ว่าแฟ้มบาง ๆ ที่เขากำลังอ่านนั้นมันคือแฟ้มประวัติของเธอ และเธอเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าที่เขาเรียกเธอมาวันนี้ด้วยเรื่องอะไรกันแน่ หรือว่าเขาไม่ได้ต้องการถามเธอเรื่องงาน แต่ต้องการไล่เธอออก หัวใจของลินดาหล่นวูบไปทันที แต่ก็ยังฝืนทำใบหน้าเรียบเฉย เพราะถึงแม้เขาไล่เธอออกเธอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี
เพราะตอนนี้เธอรู้แล้วว่าท่านประธานบริษัทพีพีไอกรุ๊บที่เพิ่งจะซื้อกิจการของดีน่าคอสเมติคไปคือเขาพี่ชายของผู้หญิงที่เป็นภรรยาของพาทิศ เพื่อนสนิทของเธอ ตอนนี้พวกเขาแยกกันอยู่และกำลังจะหย่าขาดจากกัน หลังจากที่ถูกน้ำหวานภรรยาเก่าของเขาเข้าใจผิดว่าพาทิศกับเธอมีอะไรกัน และลอบเป็นชู้กันลับหลัง โดยไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ ของสาม่ีและลินดาเลยสักนิด ทั้งๆที่ลินดากับอีตาพาทิศเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ประถมแล้ว และเจ้าหมอนี่ก็อ่อนไหวเหลือเกิน
เวลามีปัญหาอะไรก็มักจะนึกถึงเธอและมาปรึกษาปัญหากับเธอตลอดมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว แม้แต่เรื่องที่แยกกันอยู่กับภรรยาก็ตาม แต่พาทิศเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว เขากับเธอเป็นเพื่อนสนิทกันและเขาก็มักจะปรึกษาเรื่องราวต่างๆกับเธอ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานมาตลอดตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ และนั่นทำลินดาถูกมองด้วยสายตาเหมือนไม่พอใจเธอนัก ทั้งน้ำหวานน้องสาวและท่านประธานบริษัทหนุ่มใหญ่ที่ก็หล่อและแสนจะเพอร์เฟคคนนี้
ที่จริงลินดาคิดว่าเขาหล่อมากนะ หล่อจนสาวๆต้องกรี๊ดเขาอย่างแน่นอน และหากมีการจัดอันดับหนุ่มฮอต เขาจะต้องติดหนึ่งในสิบอย่างแน่นอน ทั้งหล่อเหลือร้ายและที่สำคัญรวยมากๆ รวยจนแม้แต่จะไปจีบดาราดังๆ ก็คงจะง่ายดายและในที่่สุดเขาก็คงจะจีบได้สำเร็จในเวลาอันรวดเร็ว ลินดาแอบคิดทั้งๆที่ตอนนี้เรื่องของตนเองยังเอาไม่รอด ยังกล้าไปครุ่นคิดเรื่องของคนอื่นได้อีกนะ ลินดาตำหนิตนเองในใจ
อย่าว่าแต่เรื่องแฟ้มประวัติของเธอที่ท่านประธานหนุ่มหล่อแสร้งทำเป็นกางอ่านมันต่อหน้าของเธอเลย แต่เขารู้แทบทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะเขาให้นักสืบไปสืบเรื่องทุกอย่างของลินดาจนรู้แทบทุกอย่างในชีวิตของเธอ เขาตั้งใจที่จะซื้อกิจการของบริษัทดีน่ากรุ๊ปที่เป็นบริษัทขนาดเล็กเพื่อจะได้เป็นเจ้านายโดยตรงของเธอ หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือเจ้านายของเจ้านายและของเจ้านายอีกที ฯลฯ
เขาทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อน้ำหวานน้องสาวของเขา ที่ร่างกายไม่ค่อยจะแข็งแรงมาตั้งแต่เด็ก และต้องการให้น้ำหวานได้คืนดีกับพาทิศสามีที่เธอรักมาก เขามีน้องสาวแค่เพียงคนเดียว สิ่งใดที่เขาทำเพื่อน้ำหวานได้เขาก็จะทำ เพราะพวกเขาเหลือกันแค่เพียงสองพี่น้องเท่านั้น
ส่วนพ่อกับแม่ของเขาเสียไปตั้งแต่ทั้งสองคนยังเล็ก ทิ้งให้พวกเขาอยู่ในความดูแลของป้าของเขา เมื่อน้องสาวอยากจะได้สามีคืนมา เขาก็ย่อมจะทำเพื่อให้น้องสาวเขาสมหวังโดยไม่สนวิธีการใดๆ แต่ในเมื่อเคยใช้เงินฟาดหัวแล้วไม่สำเร็จ เขาก็จะตัดท่อน้ำเลี้ยงของผู้หญิงคนนี้เสีย หรือไม่ก็เป็นท่อน้ำเลี้ยงให้หล่อนเสียเอง และย้ายหล่อนมาไว้ที่นี่มาอยู่ในสายตาของเขา ให้เขาได้จับตามองหล่อนเอาไว้อย่างใกล้ชิด และแยกหล่อนเอาไว้ให้ห่างจากน้องเขยของเขาให้มากที่สุด
“ เอาละ ผมสัญญากับคุณสมพงษ์เอาไว้ว่าจะไม่ไล่พนักงานของเขาออกเลยแม้แต่คนเดียว เพราะฉะนั้นแม้ว่าผมอยากจะไล่คุณออกมากแค่ไหนก็คงจะทำอย่างที่ต้องการไม่ได้ เพราะฉะนั้น คุณย้ายมาทำงานแทนเลขาของผม เพราะคุณเจนจิราไม่สบาย เธอจะลาไปผ่าตัดและคงจะต้องพักฟื้นอีกหลายเดือน มันพอดีกับที่ผมต้องการคนมาทำงานแทนเธอ ”
ลินดาได้ยินก็รู้สึกไม่สบายใจเลยสักนิด เธอไม่อยากมาทำงานกับคนที่ดูเหมือนไม่ชอบเธอนัก แต่เธอจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน เพราะตอนนี้เขาคือเจ้านายและอย่างที่เขาพูด เขาคือเจ้านายของเจ้านายเลยด้วยซ้ำ แล้วจะให้เธอทำอย่างไรได้อีก เขาสามารถออกปากไล่เธอออกแล้วแล้วก็ให้เงินเดือนล่วงหน้าตามกฏหมาย แล้วเธอจะทำอะไรได้ จะไปร้องแร่แห่กระเฌอก็ไม่มีประโยชน์อันใด และที่สำคัญลินดาเสียดายเงินเดือนของเธอที่ได้รับจำนวนสูงพอสมควรสำหรับตำแหน่งเลขาประธานบริษัทขนาดเล็ก หากเธอไปเริ่มต้นใหม่เงินเดือนก็คงจะไม่ได้เท่านี้ เธอไม่อยากจะเสี่ยง
เธอจำต้องเก็บข้าวของแล้วย้ายไปทำงานที่สำนักงานใหญ่ เพราะเป็นคำสั่งของนายเหนือหัวนั่น เมื่อไปถึงก็พบเข้ากับเลขาคนเมื่อวานนี้ “ มาพอดีเลยค่ะ พี่กำลังรอคุณอยู่ทีเดียว พอดีพี่มีผ่าตัดเนื้องอกและคงจะต้องลาหยุดอีกหลายเดือน เลยต้องมีคนมาทำงานแทน พอดีบอสต้องการคุณเพราะเคยทำงานเลขามาก่อน เอาละพี่จะบอกรายละเอียดที่จำเป็นกับคุณ แต่มีอะไรหลังจากนี้ที่คุณไม่เข้าใจก็ไลน์มาหาพี่ได้นะคะ พี่ชื่อเจนจิราค่ะ ลืมแนะนำตัวไป อ้อ..เรียกพี่เจนก็ได้ค่ะ ส่วนน้องชื่อลินดา มีชื่อเล่นไหมคะ ” เลขาสาววัยน่าจะประมาณสามสิบกว่าทักทายอย่างอารมณ์ดี ดูเป็นคนมนุษยสัมพันธ์ดีไม่น้อย
“ เรียกดาก็ได้ค่ะ ” เลขาวัยมากกว่าพยักหน้ารับ แล้วก็ลงมืออธิบายงานบางอย่างที่คิดว่าลินดาอาจจะไม่รู้มันมีรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างกัน เพราะลินดาจะต้องมาเป็นเลขาของท่านประธานใหญ่ของเครือพีพีไอกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่โตมาก ถ้าเทียบกับดีน่าคอสเมติคที่ทำงานเก่าของเธอ
เมื่ออธิบายรายละเอียดบางอย่าง บอกเล่าคร่าวๆ เรื่องเจ้านายที่มักจะชอบอะไรบ้างหรือไม่ชอบอะไร แล้วบอกว่าสิ่งที่ลินดาต้องใช้งานเป็นประจำอยู่ที่ใดบ้างแล้ว ทั้งสองแลกไลน์กัน เพื่อที่ลินดาจะได้เอาไว้สอบถามบางอย่างที่หล่อนไม่รู้ เมื่อคิดว่าสอนงานลินดาไปมากพอสมควรแล้ว เลขารุ่นพี่ก็พาลินดาเข้าไปรายงานตัวกับบอสใหญ่ เขาหันมามองเล็กน้อย พยักหน้ารับ แล้วก็ก้มหน้ากับคอมฯของเขาต่อไป เหมือนการมาของลินดาไม่ได้สำคัญอะไร แต่มันก็ควรเป็นเช่นนั้นไม่ใชหรือ ลินดาครุ่นคิดแล้วสลัดความสงสัยเล็กๆน้อยๆออกไปเสีย
เจนจิราพาลินดาออกมานั่งทำงานอยู่กับเธอที่ด้านนอก ตอนกลางวันทั้งสองลงไปทานอาหารในห้องอาหารของพนักงาน เมื่อเสร็จแล้วก็มานั่งทำงานกันต่อ ส่วนเจนจิราก็มีต้องเข้าไปในห้องทำงานของบอสใหญ่ในบางครั้เง ส่วนลินดานั่งทำงานของตนเองต่อไป จนใกล้ถึงเวลาเลิกงาน เจนจิราคิดว่าลินดาเคยเป็นเลขามาถึงห้าปีย่อมต้องทำงานนี้ได้อย่างสบาย จึงวางใจมากและสบายใจที่ได้มีคนมาทำงานแทนระหว่างที่เธอลาป่วยนานหลายเดือนนี้
ลินดาแม้ไม่อยากจะมาทำงานกับบอสหนุ่มคนนี้เลยสักนิดในวันต่อมา เพราะวันนี้เธอจะต้องเผชิญกับเขาตามลำพังแล้ว เพราะเลขารุ่นพี่นั้นมาทำงานเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก จึงคิดเสียว่าอย่างน้อยที่สุด ดีกว่าตกงานไปโดยไม่ได้อะไรเลย
และจะต้องออกไปเตะฝุ่นอีกนานแค่ไหนก็ยังไม่รู้ กว่าจะได้งานที่เงินเดือนที่พอรับได้ ที่พอผ่อนคอนโด ค่าบัตรเครดิต และเงินที่ส่งให้แม่ที่ต่างจังหวัดทุกๆเดือนอีกด้วย เธอมีภาระที่ต้องรับผิดชอบ ตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตกงานยังไม่ได้ สู้ๆ ลินดา เธอต้องสู้นะ ลินดาบอกตนเอง ขณะที่ก้าวเข้าไปในห้องท่านประธานที่จ้องมองเธอตาเขม็งและแน่นอนไม่มีความเป็นมิตรเลยสักนิด เพื่อจะวางเอกสารรายงานการประชุมที่เธอเพิ่งจะทำเสร็จต่อจากเลขารุ่นพี่แล้ววางลงตรงหน้าของบอสคนใหม่ของเธอ
จนเมื่อร่างอวบอัดของเลขาสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ เขาจึงยอมปล่อยปากหล่อนเป็นอิสระ แล้วก็ไล้เลียใบหน้าหวานจนทั่ว ทั้งจูบทั้งหอมและไล้เลียจนไม่มีพื้นที่ใดว่างเว้นไปจากลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของเขาไปได้ เขาไล้เลีย และสลับกับขบเม้มทำรอยรักเอาไว้จนทั่วซอกคอระหงของเลขาสาว เพื่อจะแสดงให้ผู้ชายอื่นได้เห็นว่าหล่อนมีเจ้าของแล้ว และไล้เลียใบหูเล็กของหล่อนต่ออย่างเมามันจนเลขาสาวครวญครางอย่างทนไม่ไหว หล่อนดิ้นส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่เริ่มจะทวีขึ้นทุกทีเมื่อทำรอยรักไว้จนพอใจแล้ว ก็ไล้เลียเนินอกอวบใหญ่ที่ขาวผ่องของหล่อนต่อ แสงสลัวลางๆ ในห้องนอนนี้สว่างพอที่จะทำให้เขาเห็นร่างอวบอิ่มขาวผ่องที่ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยไปด้วยน้ำมือของเขา เรือนร่างงามเปลือยเปล่า เจ้านายหนุ่มอยากจะจ้องมองเรือนร่างงามที่เขาแสนจะปรารถนา และมันอยู่ในใจของเขามานับจากได้พบกับหล่อน แม้จะหักห้ามใจว่าหล่อนคือผู้หญิงแพศยาที่คิดแย่งสามีของน้องสาวของเขา ไม่รู้จักศีลธรรม และไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรปรารถนา แต่เขาก็อดใจไม่ได้ จนถึงขนาดลงทุนซื้อบริษัทเล็กๆที่หล่อนทำงานอยู่ ใช่เขาช่วยน้ำหวานเพื่อจะกันผู้หญิงคนนี้ออกไปจากครอบครัวของน้องสาวข
เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อคมของเขาที่ตอนนี้ดวงตาเฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวนั้นมองมาที่เธอด้วยประกายหวานฉ่ำยิ่งนัก อย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่คิดว่าท่านประธานใหญ่ที่ท่าทางเย่อหยิ่งทะนงตนอย่างเขาจะใช้ดวงตาเช่นนี้จ้องมองเธอด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่ว่าเธอไม่มีทางจะยอมเสียซิงให้กับเขาอย่างแน่นอน เรื่องอะไรกัน คนบ้าตัณหา ฉันจะแจ้งความ ลินดาคิด “ คุณธนาคิม คุณทำอะไรฉัน คุณจะบ้าไปแล้วหรือ ผู้ชายอย่างคุณมีผู้หญิงให้เลือกมากมาย จะมาปล้ำฉันทำไมกัน “ แขนล่ำสันดังคีมเหล็กที่โอบร่างอวบของลินดาเอาไว้จนแนบอกแกร่งที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้สวมทั้งเสื้อและกางเกง ลินดาเมื่อคิดได้ก็เหลือบตาลงมองด้านล่างและก็ตาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ” อ๊ายยย ตาบ้า ตาคนโรคจิต ตาคนหื่นกาม ถอดเสื้อผ้าทำไม ถอดทั้งของคุณของฉันเลย คนบ้า ฉันจะแจ้งความ " ลินดาหันไปตวาดเขา ตอนนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ไล่ออกก็ไล่ออกสิ เจ้านายบ้ากามอย่างนี้คงจะอยู่ด้วยไม่ได้แล้ว “ ไม่มีทางหรอกลินดาคนสวย เธอเป็นเมียของฉันแล้ว ไม่เห็นหรือไง เสื้อผ้าเราก็ไม่ได้ใส่กันทั้งคู่ เธอกับฉันเรากลายเป็นผัวเมียกันแล้ว และเธอก็รู้ว่าฉันรวย
เขาไม่ได้พูดอะไร แค่เพียงยกรายงานการประชุมนั้นออกอ่านผ่านๆ “ ตอนนี้คุณได้พบกับพาทิศอยู่ไหม ” อยู่ๆเขาก็เอ่ยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยสักนิดขึ้นมา “ ก็พบบ้างค่ะ ” เมื่อได้ยินคำตอบจากเลขาสาว กรามแกร่งของเจ้านายหนุ่มก็ขบเข้าหากันแน่น รู้ก็รู้ว่าเขามีเมียแล้วยังไปนัดพบกันอีกหรือ ไม่รู้จักศีลธรรมบ้างเลยหรือไง เขาครุ่นคิดและจ้องมองใบหน้าที่สวยงามของเลขาใหม่ของเขา แล้วก็เลยเหลือบตามองเรือนร่างของเธอ แล้วก็กลืนน้ำลายเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมาก และรูปร่างก็ดีอีกด้วย ไม่ได้ผอมบางจนเหมือนนางแบบจนเกินไป หุ่่นกำลังดี เขาชอบผู้หญิงหุ่นแบบนี้เพราะเต็มไม้เต็มมือดีไม่ผอมบางจนเกินไปนัก อยู่ๆความคิดเช่นนี้ก็ผุดขึ้น และทำให้ท่านประธานหนุ่มรีบสลัดมันออกไปจากความคิดทันที เขาเองก็ไม่รู้ว่เขาเกิดบ้าอะไร ตั้งแต่พบหน้าหล่อนในครั้งนั้นแล้ว เขามักจะแว๊บไปคิดถึงหล่อนอยู่บ่อยๆ เหมือนเขาเกิดติดใจหล่อนขึ้นมา ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแพศยา แย่งสามีของน้องสาวตนเอง และเขาก็ไม่รู่้อีกด้วยว่าหล่อนกับเจ้าพาทิศนั่นมันไปถึงไหนๆ กันแล้ว ทั้งๆที่เขาเองก็มีผู้หญิงไม่ได้ขาด แต่คงจะเป็นเพราะหล
เมื่อร่างงามของลินดาเดินย่างเท้าเข้าไปในห้องทำงานที่ใหญ่โตโออ่าและเช่นเดียวกับตัวอาคารสูงใหญ่หลังนี้ เธอจ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ใบหน้าหล่อสะดุดตา ท่านประธานเครือพีพีไอกรุ๊ปนั้นยังหนุ่มมากและก็หล่อมากอีกด้วย และแล้วดวงตาของเลขาสาวก็เบิกกว้าง เขา… รู้สึกว่าเขาเคยแนะนำตัวกับเธอว่าชื่อธนาคิม ใช่แล้ว คือคนที่เคยนัดพบเธอที่ร้านอาหารเพื่อเสนอเงินฟาดหัวเธอให้ไปให้พ้นจากอดีตน้องเขยของเขา ใช่แล้ว เธอจำเขาได้แล้ว ใบหน้าหล่อคมคายของธนาคิม เอื้ออังกูร ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ใช้ดวงตาคมกริบจ้องมองหน้าหวานของเลขาสาวตัวปัญหานิ่ง และมันดูข่มขวัญไม่น้อยเลย “ มาแล้วหรือ คุณเลขาฯ นั่งก่อนสิ ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงอำนาจ ลินดารู้สึกว่าขาตนเองนั้นสั่นเล็กน้อยยิ่งได้รู้ว่าท่านประธานที่ต้องการพบเธอคือเขา ความไม่สบายใจเล็กๆก็ก่อเกิดขึ้นทันที เธอเดินไปเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงแต่โดยดี เพราะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาคือเจ้าของบริษัทและเธอก็คือลูกจ้างของเขาไปโดยปริยาย“ เอาละ คุณคงจะรู้เรื่องการควบรวมบริษัทแล้ว ” เขายกแฟ้มบางๆ ขึ้นกางอ่านมันต่อหน้าของเธอ “ ผมคิดว่าเงินเดื
ทันทีที่ลินดาเพิ่งมาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของเธอ ที่อยู่หน้าห้องประธานบริษัทที่เป็นเจ้านายเก่า หลังจากเธอลุกขึ้นไปชงกาแฟเมื่อครู่ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น และหลังจากวางหูลงแล้ว ลินดาก็จำต้องหยิบกระจกส่องหน้าบานเล็กมาสำรวจตัวเองเล็กน้อยแล้วก็เติมเครื่องสำอางค์ที่ใบหน้านิดหน่อยเพื่อไม่ให้ซีดเซียวจนเกินไป เพราะเธอจะต้องรีบไปที่สำนักงานใหญ่ในตอนนี้เลย ตามคำสั่งด่วนจากในโทรศัพท์เมื่อครู่ลินดาเรียกแกร๊ปเพื่อมุ่งหน้าไปที่อาคารหลังใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของบมจ.พีพีไอกรุ๊ป ริมถนนสุขุมวิทที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทลูกอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือบ.ดีน่าคอสเมติคที่เธอกำลังทำงานอยู่นี้ด้วย เพื่อไปพบท่านประธานบริษัทที่เพิ่งจะเข้าซื้อกิจการของดีน่ากรุ๊ปที่เป็นบริษัทอาหารเสริมและเครื่องสำอางค์ขนาดเล็กที่บริหารงานโดยคุณสมพงษ์อดีตเจ้านายของลินดา เพราะเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เขามาทำงาน เขาตัดสินใจขายกิจการให้กับเครือพีพีไอกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทเล็กบริษัทน้อยมากมายอยู่ในเครือ มีการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ และดีน่าก็เพิ่งจะได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครือพีพีไอเมื่อไม่ก