เขาไม่ได้พูดอะไร แค่เพียงยกรายงานการประชุมนั้นออกอ่านผ่านๆ “ ตอนนี้คุณได้พบกับพาทิศอยู่ไหม ” อยู่ๆเขาก็เอ่ยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยสักนิดขึ้นมา “ ก็พบบ้างค่ะ ” เมื่อได้ยินคำตอบจากเลขาสาว กรามแกร่งของเจ้านายหนุ่มก็ขบเข้าหากันแน่น รู้ก็รู้ว่าเขามีเมียแล้วยังไปนัดพบกันอีกหรือ ไม่รู้จักศีลธรรมบ้างเลยหรือไง
เขาครุ่นคิดและจ้องมองใบหน้าที่สวยงามของเลขาใหม่ของเขา แล้วก็เลยเหลือบตามองเรือนร่างของเธอ แล้วก็กลืนน้ำลายเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมาก และรูปร่างก็ดีอีกด้วย ไม่ได้ผอมบางจนเหมือนนางแบบจนเกินไป หุ่่นกำลังดี เขาชอบผู้หญิงหุ่นแบบนี้เพราะเต็มไม้เต็มมือดีไม่ผอมบางจนเกินไปนัก อยู่ๆความคิดเช่นนี้ก็ผุดขึ้น และทำให้ท่านประธานหนุ่มรีบสลัดมันออกไปจากความคิดทันที
เขาเองก็ไม่รู้ว่เขาเกิดบ้าอะไร ตั้งแต่พบหน้าหล่อนในครั้งนั้นแล้ว เขามักจะแว๊บไปคิดถึงหล่อนอยู่บ่อยๆ เหมือนเขาเกิดติดใจหล่อนขึ้นมา ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแพศยา แย่งสามีของน้องสาวตนเอง และเขาก็ไม่รู่้อีกด้วยว่าหล่อนกับเจ้าพาทิศนั่นมันไปถึงไหนๆ กันแล้ว
ทั้งๆที่เขาเองก็มีผู้หญิงไม่ได้ขาด แต่คงจะเป็นเพราะหล่อนคือสเปคของเขา สวย เย้ายวนและที่สำคัญรูปร่างดีมาก แม้สำหรับคนอื่นอาจจะบอกว่าอวบไปนิด แต่เขาชอบหุ่นแบบนี้ จึงคิดว่ากำลังดี ขณะที่ท่านประธานหนุ่มจ้องมองเรือนร่างของลินดาและกำลังคิดเรื่อยเปื่อยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเลยสักนิด เสียงกระแอมจากเลขาสาวก็ดังขึ้น
ทำให้ท่านประธานหนุ่มได้สติขึ้นมา “ ท่านประธานมีอะไรจะสั่งงานดิฉันอีกหรือไม่คะ ดิฉันจะได้ออกไปทำงานข้างนอก ” ลินดาเอ่ยขัดขึ้นเพราะเห็นเขาเอาแต่จ้องมองหล่อนไม่คลาดสายตา แต่ก็ไม่พูดอะไรสักที แถมตาคู่คมของเขามันมีประกายอะไรบางอย่างที่ลินดารู้สึกไม่ไว้วางใจเลยสักนิด
“ เย็นนี้ไปพบลูกค้ากับผม ผมนัดลูกค้ากินอาหารค่ำกัน และคุณต้องไปด้วย ” ลินดารับคำเขา เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่เลขากับเจ้านายต้องไปกิินอาหารกับลูกค้า บางครั้งก็ต้องไปงานเลี้ยงตอนกลางคืนกับเจ้านายด้วย ซึ่งลินดาก็เห็นเป็นปกติเพราะเธอก็เคยติดตามคุณสมพงษ์ไปในบางครั้ง แต่ก็ไม่ได้บ่อยนัก สำหรับงานเลี้ยงตอนกลางคืน เพราะดีน่าเป็นบริษัทขนาดเล็ก มีลูกค้าเป็นทั้งรายย่อยและกิจการขนาดเล็กเป็นส่วนมากไม่ใช่บริษัทใหญ่ๆ จึงไม่ค่อยมีงานเลี้ยงพบปะกันตอนกลางคืนบ่อยนัก
หลังเลิกงานลินดาเดินตามบอสคนใหม่ของตนเองไปขึ้นรถเบนซ์รุ่นใหม่ล่าสุดของเขาที่หน้าตึก คนขับรถขับรถของเจ้านายขับมาจอดรอเอาไว้แล้ว แต่วันนี้กลับเขาที่ขึ้นไปขับรถคันนี้ด้วยตนเอง ลินดาชะงักไปครู่หนึ่ง แต่เมื่อเจ้านายเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งแล้วเธอจึงได้เปิดประตูรถด้านของตนเองแล้วก้าวเข้าไปนั่งเคียงข้างเขา เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอกกับบอสใหญ่
ตอนที่เดินมาตามหลังเขามาขึ้นรถก็มีสายตาของพนักงานหลายคู่มองตามเลขาคนใหม่ของบอสใหญ่ไป เพราะอยู่ๆเธอก็เป็นม้ามืดมาแย่งตำแหน่งสำคัญขนาดนี้ไป ทั้งๆที่ในสำนักงานมีพนักงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งเลขาชั่วคราวของท่านประธานใหญ่มากมาย แต่เขากลับไม่เลือกมาสักคน กลับไปเรียกเลขาเล็กๆของบริษัทที่เขาพึ่งจะซื้อกิจการมาได้เพียงไม่กี่วันมาเป็นเลขาชั่วคราวของเขา
ถึงแม้จะพากันแปลกใจและซุบซิบกันเบาๆ ในออฟฟิศ แต่ก็มิมีใครหาญกล้าไปสอบถามบอสใหญ่ตรงๆถึงเหตุผลที่เขาเลือกผู้หญิงสวยคนนั้นที่ก็ต่่างยอมรับว่าหล่อนสวย สวยพอที่จะตกเป็นเป้าสายตาของผู่้ชายในสำนักงานนี้หลายๆคน แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าไปจีบเพราะต้องรอดูท่าทีของเจ้านายใหญ่ก่อน
ว่าเขาเลือกเลขาคนนี้เพราะอะไร เพราะทำงานเก่งหรือว่าเพราะว่าสวยถูกใจ แต่จะว่าไปปกติแล้ว บอสใหญ่ก็ไม่เคยเป็นสมภารกินไก่วัดมาก่อน เขาไม่เคยเสียชื่อเรื่องนี้ เพราะผู้หญิงของบอสส่วนมากจะสวยๆ ทั้งนั้น และบางคนก็มีชื่อเสียงอีกด้วย แต่ก็ควงกันเพียงไม่นานก็เลิกรากัน และบอสก็เปลี่ยนผู้หญิงคนใหม่มาควงอีก พวกเขาเห็นกันจนชินแล้ว เขาไม่เคยมีแฟนเป็นตัวตน มีเพียงคู่ควงที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆเท่านั้น
บอสหนุ่มขับรถพาเลขาสาวไปถึงร้านอาหารกึ่งผับชื่อดังแห่งหนึ่ง ลินดากวาดตามอง แต่ก็ไม่แปลกเขาอาจจะนัดดื่มกับลูกค้าก็เป็นได้ เมื่อล็อครถแล้ว ลินดาก็เดินตามเจ้านายหนุ่มเข้าไปในร้านอาหารกึ่งผับแห่งนั้น พนักงานพาพวกเขาไปยังห้องวีไอพี ที่เจ้านายหนุ่มคงจะมาบ่อยเพราะพนักงานต้อนรับจำเขาได้ และก็เดินกันขึ้นไปบนชั้นสอง เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว “ ต้องขอโทษด้วยนะครับ รถติดมากไปหน่อย ผมเลยมาช้าไปนิด ” ท่านประธานหนุ่มออกตัวกับชายคนนั้น ลินดาคิดว่าคงจะเป็นลูกค้า
หลังจากทั้งสองสนทนากันด้วยเรื่องธุรกิจส่วนลินดาก็คอยบันทึกสิ่งที่สำคัญเอาไว้อย่างละเอียด จนเมื่อการพูดคุยตกลงเกี่ยวกับธุรกิจนั้นเสร็จสิ้นลงแล้ว ลูกค้าชายคนนั้นก็ขอตัวกลับไปก่อน เพราะเขาบอกว่านัดกับเพื่อนเอาไว้อีกร้านหนึ่ง ส่วนบอสของลินดายังไม่มีทีท่าว่าจะกลับ
ลินดาจึงได้ถามขึ้น “ บอสคะ ถ้าดาจะขอตัวกลับก่อนจะได้หรือเปล่าคะ ตอนนี้ยังไม่ดึกนะ ดาคงจะกลับเองได้ หากว่าบอสไม่มีอะไรจะใช้ดาแล้ว ” ใบหน้าหล่อคมคายที่กำลังยกแก้ววิสกี้ขึ้นจิบ พยักหน้าช้า ๆ เอาละคุณดื่มไวน์แก้วนี้ให้หมดก่อนนะ แล้วก็ค่อยไป เสียดายของมันราคาแพงมากนะ แต่ผมดื่มวิสกี้ไปแล้ว ไม่อยากดื่มหลายอย่างเกินไป " ลินดาเห็นว่าแค่ไวน์แก้วเดียวคงไม่เป็นไร หล่อนเองก็จิบไปแก้วหนึ่งแล้ว ส่วนแก้วนี้พนักงานเสิร์ฟเพิ่งจะรินให้ใหม่ก่อนที่ลูกค้าจะขอตัวกลับไปนี่เอง
หล่อนจึงยกขึ้นจิบช้าๆ แล้วในที่สุดก็ยกแก้วดื่มจนหมด เพื่อจะได้รีบกลับห้องเร็ว ๆ วันนี้เธอเหนื่อยเหลือเกิน แม้ว่ามันจะเป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์แต่เธอเกร็งเพราะทำงานกับเขาเป็นวันแรก ไม่แน่ใจในทีท่าของเขา แถมยังต้องออกมาพบลูกค้ากับเขาอีกด้วย ทำให้เหนื่อยกว่าปกติ ขณะที่ลินดาหันไปรวบกระเป๋าถือของเธอเพื่อจะได้ลุกขึ้นจากโซฟาที่เธอนั่งอยู่ข้างเจ้านายหนุ่มคนใหม่อยู่ๆ เธอก็วูบหมดสติไปทันที
และเมื่อรู้ตัวอีกที เธอรู้สึกเหมือนกับว่ามือคู่หนึ่งกำลังบีบเค้นอกอวบใหญ่ของเธออยู่ แล้วฟอนเฟ้นมันเบาๆ สลับกับสะกิดที่ยอดอกของหล่อนไปมาทั้งยังบีบบี้มันอย่างหมั่นเขี้ยว “ อ๊า อ๊าา อ๊ายย อ๊าา ” ลินดารู้สึกได้ว่าเธอคราง เธอหยุดตัวเองเอาไว้ทันทีที่ตั้งสติได้ เธอนอนนิ่งเพื่อตั้งสติให้ตื่นเต็มตา ปากอิ่มของเธอครางเบา ๆ ออกมา เพราะเหมือนกับร่างกายมันร้อนรุ่มและรู้สึกเสียวซ่านอย่างบอกไม่ถูก
“ ว๊าย อะไรกัน เกิดอะไรขึ้น ” หล่อนหันหลังกลับมามองร่างล่ำสันที่ซ้อนอยู่ด้านหลังของเธอและก็เป็นเจ้าของมือคู่ที่กำลังฟอนเฟ้นอกอวบหยุ่นของเธออย่างเมามันอีกด้วย
เมื่อลินดาหันกลับมาก็พบเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาคมคายของบอสหมาดๆ “ คุณธนาคิม คุณกำลังทำอะไร อ๊ายย ปล่อยฉันนะ คนบ้า อย่านะ อย่า " ลินดาพยายามดิ้นหนีออกจากอ้อมแขนที่โอบรอบตัวเธอเอาไว้ ขณะที่มือหนาก็ฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของเธอไปมา และที่สำคัญเมื่อก้มลงมองอย่างชัดเจน เสื้อผ้าของเธอไม่มีติดร่างกายเลยสักชิ้นเดียว
ร่างอวบผุดลุกขึ้นทันที เธอพยายามจะกระเถิบตัวลงจากเตียงหลังใหญ่นั้น ที่ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่ แต่มีหรือที่เจ้านายหนุ่มที่ตอนนี้พรักพร้อมเต็มที่แล้ว จะยอมปล่อยเหยื่อสาวเนื้อหวานเช่นนี้หลุดมือของเขาไปหรอก มือหนาคว้าร่างอวบอัดของเลขาสาวเอาไว้ แล้วกระชากกลับเข้าประชิดอกกว้างทันที ร่างอวบอัดของลินดาปลิวติดมือของเขามาซุกอกกว้างในทันที
จนเมื่อร่างอวบอัดของเลขาสาวแทบจะขาดอากาศหายใจ เขาจึงยอมปล่อยปากหล่อนเป็นอิสระ แล้วก็ไล้เลียใบหน้าหวานจนทั่ว ทั้งจูบทั้งหอมและไล้เลียจนไม่มีพื้นที่ใดว่างเว้นไปจากลิ้นสากที่ร้อนรุ่มของเขาไปได้ เขาไล้เลีย และสลับกับขบเม้มทำรอยรักเอาไว้จนทั่วซอกคอระหงของเลขาสาว เพื่อจะแสดงให้ผู้ชายอื่นได้เห็นว่าหล่อนมีเจ้าของแล้ว และไล้เลียใบหูเล็กของหล่อนต่ออย่างเมามันจนเลขาสาวครวญครางอย่างทนไม่ไหว หล่อนดิ้นส่ายไปมาเพราะความเสียวซ่านที่เริ่มจะทวีขึ้นทุกทีเมื่อทำรอยรักไว้จนพอใจแล้ว ก็ไล้เลียเนินอกอวบใหญ่ที่ขาวผ่องของหล่อนต่อ แสงสลัวลางๆ ในห้องนอนนี้สว่างพอที่จะทำให้เขาเห็นร่างอวบอิ่มขาวผ่องที่ผ้าผ่อนหลุดลุ่ยไปด้วยน้ำมือของเขา เรือนร่างงามเปลือยเปล่า เจ้านายหนุ่มอยากจะจ้องมองเรือนร่างงามที่เขาแสนจะปรารถนา และมันอยู่ในใจของเขามานับจากได้พบกับหล่อน แม้จะหักห้ามใจว่าหล่อนคือผู้หญิงแพศยาที่คิดแย่งสามีของน้องสาวของเขา ไม่รู้จักศีลธรรม และไม่ใช่ผู้หญิงที่ควรปรารถนา แต่เขาก็อดใจไม่ได้ จนถึงขนาดลงทุนซื้อบริษัทเล็กๆที่หล่อนทำงานอยู่ ใช่เขาช่วยน้ำหวานเพื่อจะกันผู้หญิงคนนี้ออกไปจากครอบครัวของน้องสาวข
เธอเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อคมของเขาที่ตอนนี้ดวงตาเฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวนั้นมองมาที่เธอด้วยประกายหวานฉ่ำยิ่งนัก อย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่คิดว่าท่านประธานใหญ่ที่ท่าทางเย่อหยิ่งทะนงตนอย่างเขาจะใช้ดวงตาเช่นนี้จ้องมองเธอด้วยซ้ำ มันเกิดอะไรขึ้นกัน แต่ว่าเธอไม่มีทางจะยอมเสียซิงให้กับเขาอย่างแน่นอน เรื่องอะไรกัน คนบ้าตัณหา ฉันจะแจ้งความ ลินดาคิด “ คุณธนาคิม คุณทำอะไรฉัน คุณจะบ้าไปแล้วหรือ ผู้ชายอย่างคุณมีผู้หญิงให้เลือกมากมาย จะมาปล้ำฉันทำไมกัน “ แขนล่ำสันดังคีมเหล็กที่โอบร่างอวบของลินดาเอาไว้จนแนบอกแกร่งที่เธอรู้สึกได้ว่าเขาไม่ได้สวมทั้งเสื้อและกางเกง ลินดาเมื่อคิดได้ก็เหลือบตาลงมองด้านล่างและก็ตาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ ” อ๊ายยย ตาบ้า ตาคนโรคจิต ตาคนหื่นกาม ถอดเสื้อผ้าทำไม ถอดทั้งของคุณของฉันเลย คนบ้า ฉันจะแจ้งความ " ลินดาหันไปตวาดเขา ตอนนี้เธอไม่กลัวเขาแล้ว ไล่ออกก็ไล่ออกสิ เจ้านายบ้ากามอย่างนี้คงจะอยู่ด้วยไม่ได้แล้ว “ ไม่มีทางหรอกลินดาคนสวย เธอเป็นเมียของฉันแล้ว ไม่เห็นหรือไง เสื้อผ้าเราก็ไม่ได้ใส่กันทั้งคู่ เธอกับฉันเรากลายเป็นผัวเมียกันแล้ว และเธอก็รู้ว่าฉันรวย
เขาไม่ได้พูดอะไร แค่เพียงยกรายงานการประชุมนั้นออกอ่านผ่านๆ “ ตอนนี้คุณได้พบกับพาทิศอยู่ไหม ” อยู่ๆเขาก็เอ่ยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงานเลยสักนิดขึ้นมา “ ก็พบบ้างค่ะ ” เมื่อได้ยินคำตอบจากเลขาสาว กรามแกร่งของเจ้านายหนุ่มก็ขบเข้าหากันแน่น รู้ก็รู้ว่าเขามีเมียแล้วยังไปนัดพบกันอีกหรือ ไม่รู้จักศีลธรรมบ้างเลยหรือไง เขาครุ่นคิดและจ้องมองใบหน้าที่สวยงามของเลขาใหม่ของเขา แล้วก็เลยเหลือบตามองเรือนร่างของเธอ แล้วก็กลืนน้ำลายเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสวยมาก และรูปร่างก็ดีอีกด้วย ไม่ได้ผอมบางจนเหมือนนางแบบจนเกินไป หุ่่นกำลังดี เขาชอบผู้หญิงหุ่นแบบนี้เพราะเต็มไม้เต็มมือดีไม่ผอมบางจนเกินไปนัก อยู่ๆความคิดเช่นนี้ก็ผุดขึ้น และทำให้ท่านประธานหนุ่มรีบสลัดมันออกไปจากความคิดทันที เขาเองก็ไม่รู้ว่เขาเกิดบ้าอะไร ตั้งแต่พบหน้าหล่อนในครั้งนั้นแล้ว เขามักจะแว๊บไปคิดถึงหล่อนอยู่บ่อยๆ เหมือนเขาเกิดติดใจหล่อนขึ้นมา ทั้งๆที่เขาเองก็รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงแพศยา แย่งสามีของน้องสาวตนเอง และเขาก็ไม่รู่้อีกด้วยว่าหล่อนกับเจ้าพาทิศนั่นมันไปถึงไหนๆ กันแล้ว ทั้งๆที่เขาเองก็มีผู้หญิงไม่ได้ขาด แต่คงจะเป็นเพราะหล
เมื่อร่างงามของลินดาเดินย่างเท้าเข้าไปในห้องทำงานที่ใหญ่โตโออ่าและเช่นเดียวกับตัวอาคารสูงใหญ่หลังนี้ เธอจ้องมองร่างสูงใหญ่ที่ใบหน้าหล่อสะดุดตา ท่านประธานเครือพีพีไอกรุ๊ปนั้นยังหนุ่มมากและก็หล่อมากอีกด้วย และแล้วดวงตาของเลขาสาวก็เบิกกว้าง เขา… รู้สึกว่าเขาเคยแนะนำตัวกับเธอว่าชื่อธนาคิม ใช่แล้ว คือคนที่เคยนัดพบเธอที่ร้านอาหารเพื่อเสนอเงินฟาดหัวเธอให้ไปให้พ้นจากอดีตน้องเขยของเขา ใช่แล้ว เธอจำเขาได้แล้ว ใบหน้าหล่อคมคายของธนาคิม เอื้ออังกูร ประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ใช้ดวงตาคมกริบจ้องมองหน้าหวานของเลขาสาวตัวปัญหานิ่ง และมันดูข่มขวัญไม่น้อยเลย “ มาแล้วหรือ คุณเลขาฯ นั่งก่อนสิ ผมมีอะไรจะพูดกับคุณ ” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แสดงอำนาจ ลินดารู้สึกว่าขาตนเองนั้นสั่นเล็กน้อยยิ่งได้รู้ว่าท่านประธานที่ต้องการพบเธอคือเขา ความไม่สบายใจเล็กๆก็ก่อเกิดขึ้นทันที เธอเดินไปเลื่อนเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาแล้วนั่งลงแต่โดยดี เพราะอย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขาคือเจ้าของบริษัทและเธอก็คือลูกจ้างของเขาไปโดยปริยาย“ เอาละ คุณคงจะรู้เรื่องการควบรวมบริษัทแล้ว ” เขายกแฟ้มบางๆ ขึ้นกางอ่านมันต่อหน้าของเธอ “ ผมคิดว่าเงินเดื
ทันทีที่ลินดาเพิ่งมาทรุดนั่งลงที่เก้าอี้ประจำของเธอ ที่อยู่หน้าห้องประธานบริษัทที่เป็นเจ้านายเก่า หลังจากเธอลุกขึ้นไปชงกาแฟเมื่อครู่ เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น และหลังจากวางหูลงแล้ว ลินดาก็จำต้องหยิบกระจกส่องหน้าบานเล็กมาสำรวจตัวเองเล็กน้อยแล้วก็เติมเครื่องสำอางค์ที่ใบหน้านิดหน่อยเพื่อไม่ให้ซีดเซียวจนเกินไป เพราะเธอจะต้องรีบไปที่สำนักงานใหญ่ในตอนนี้เลย ตามคำสั่งด่วนจากในโทรศัพท์เมื่อครู่ลินดาเรียกแกร๊ปเพื่อมุ่งหน้าไปที่อาคารหลังใหญ่ที่เป็นที่ตั้งของบมจ.พีพีไอกรุ๊ป ริมถนนสุขุมวิทที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทลูกอีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือบ.ดีน่าคอสเมติคที่เธอกำลังทำงานอยู่นี้ด้วย เพื่อไปพบท่านประธานบริษัทที่เพิ่งจะเข้าซื้อกิจการของดีน่ากรุ๊ปที่เป็นบริษัทอาหารเสริมและเครื่องสำอางค์ขนาดเล็กที่บริหารงานโดยคุณสมพงษ์อดีตเจ้านายของลินดา เพราะเมื่อวานเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เขามาทำงาน เขาตัดสินใจขายกิจการให้กับเครือพีพีไอกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทเล็กบริษัทน้อยมากมายอยู่ในเครือ มีการลงทุนในหลากหลายธุรกิจ และดีน่าก็เพิ่งจะได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครือพีพีไอเมื่อไม่ก