MasukChapter 7
@มหาลัยเอกชน_บีน่าเลดี้
"เป็นอะไร?" รันเวย์เอ่ยถามคนตัวเล็ก เมื่อเขาจอดรถอยู่หน้าคณะได้สักพักแล้ว แต่หญิงสาวไม่แม้แต่จะขยับตัวลงจากรถสักที
"เฮ้อ..." แพรดาวปรายตามองกระโปรงนักศึกษาของตัวเอง และกระแทกหลังบางพิงไปที่เบาะรถอย่างแรง เพราะแทนที่วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก แล้วเธอจะได้เฉิดฉายเป็นเฟรชชีสุดฮอต แต่กลับมาตกม้าตายแต่งตัวเป็นยายป้าเฉิ่มเชยแบบนี้ เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเขาจะต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเธอด้วย
"มันเป็นอะไรนักหนากับกระโปรงเนี่ย?" รันเวย์เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม เพราะเขาก็มองว่าเธอใส่กระโปรงตัวยาว มันยังดูน่ามองกว่าใส่กระโปรงสั้นรัดรูปกว่าเยอะเลย
"ไม่มั่นใจ..." แพรดาวตอบน้ำเสียงแผ่วเบา น้ำตาพานจะไหลออกมาให้ได้ เมื่อเธอแต่งตัวไม่เป็นตัวของตัวเอง
"เธอมาเรียนหรือมาเดินแบบกันแน่แพรดาว แต่งตัวแบบไหนมันก็เรียนได้ทั้งนั้น"
"คนไม่เข้าใจแฟชั่นผู้หญิงแบบเฮียจะเข้าใจอะไร" รันเวย์ชะงักนิ่งไปกับคำพูดของคนตัวเล็กเพียงวินาที จนชายหนุ่มอยากหาอะไรมาอุดปากเล็กให้หายปากดีไปซะที ใครต่อใครน่ะว่าเธอน่ารักอย่างนู้นอย่างนี้ แต่ทำไมเวลาเธออยู่กับเขาทีไร เธอกลับกลายเป็นเด็กดื้อแสนซนที่เขาอยากจะกำราบให้อยู่หมัดซะจริงๆ
“แฟชั่นกับอยากโชว์ เธอต้องแยกมันให้ออกนะแพรดาว”
“ถึงหนูจะอยากโชว์ นี่มันก็ร่างกายของหนู” แพรดาวเอ่ยพูดขึ้นอย่างไม่ยอมแพ้
"เดี๋ยวเธอก็ได้รู้ ว่าร่างกายของเธอเป็นของใคร? เอาตารางเรียนมาดูดิ๊ อย่ามาทำตัวเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ"
"จิ๊! ยุ่ง..."
"แพรดาว..."
"ทำไมเฮียชอบบังคับหนู ทำไมเฮียถึงชอบดุหนูจังเลย" คนตัวเล็กกะพริบตาปริบๆ แสร้งบีบน้ำตา เพื่อให้ผู้ชายร้ายกาจอย่างเขาเห็นใจ แต่วิธีของเธอก็ได้ผลไม่ใช่น้อย เพราะเขาแอบหวั่นไหวเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำตาเธอคลอเบ้า
"ก็เธอมันดื้อ"
"เปิดตารางเรียนดูสิ เรียนวันไหน? ห้องไหนบ้าง?"
“นี่ค่ะ อยากดูนัก เฮียก็เอาไปดูเองเลย" แพรดาวเปิดตารางเรียนและยื่นมือถือไปให้รันเวย์ และได้แต่คิดในใจว่าถ้าเขาอยากดูก็เชิญดูให้พอ
และเมื่อเขารับมือถือมาจากหญิงสาว ชายหนุ่มก็เลื่อนดูตารางเรียนของเธอด้วยความสนใจ เขาแคปหน้าจอและแอดไลน์เธอส่งให้เขาทางแชตไลน์ทันที
"ลงไปเรียนได้แล้ว วันนี้ไม่น่าจะมีอะไรมากหรอก อาจารย์คงแค่แนะแนวรายวิชาก็เท่านั้น" รันเวย์เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง และนี่คงเป็นครั้งแรกละมั้งตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศที่เขาไม่พูดจากวนโมโหเธอ
"วันนี้ไม่อยากเรียนแล้ว" แพรดาวเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง และไม่ยอมลงจากรถ
"ทำไมถึงดื้อจังวะ" เมื่อรันเวย์พูดจบประโยค เขาก็เปิดประตูลงจากรถและเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งที่หญิงสาวนั่งทันที
"ลงมา...อย่าให้ต้องพูดซ้ำ"
"หนูไม่ลง!"
"อยากให้ฉันอุ้มไปส่งที่ห้องเรียนใช่ไหมวะ?" เมื่อรันเวย์พูดจบประโยค เขาก็โน้มตัวเข้าไปช้อนตัวเพื่อจะอุ้มคนตัวเล็กทันที
"ว้ายยย...ปล่อยเลยๆ หนูลงเองได้เฮีย..."
"ดื้อชะมัด..."
เมื่อแพรดาวลงจากรถ เธอก็ก้มมองกระโปรงตัวยาว และถอนหายใจออกมาครั้งแล้วครั้งแล้วอย่างเบื่อหน่าย เนี่ยถ้าการถอนหายใจมากๆ แล้วทำให้อายุสั้น เธอคงตายไปแล้วแน่ๆ จากนั้นเธอก็ถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะก้าวขาเรียวเดินออกจากตรงนั้นทันที แต่เธอกลับต้องหยุดชะงักและหันกลับไปมองผู้ชายร้ายกาจอีกครั้ง เมื่อก้าวขาได้เพียงแค่สองก้าว
"เด็กอะไรวะไม่มีมารยาท ขอบคุณสักคำก็ไม่มี"
"แล้วใครใช้ให้เฮียมาส่งเล่า" แพรดาวบ่นพึมพำ ก่อนจะยกมือไหว้และย่อตัวลงอย่างมีจริต
"ขอบคุณนะคะพี่ชาย" แพรดาวพูดเน้นย้ำคำว่าพี่ชายชัดๆ
"ยัยแพร!"
ตึก! ตึก!
เสียงส้นสูงกระทบพื้น เมื่อมีหญิงสาวนักศึกษาคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาแพรดาวด้วยความดีใจ และเอ่ยเรียกแพรดาวเสียงดัง
"อ้าว...ยัยมัดหมี่ แกมาถึงนานหรือยัง?" แพรดาวยิ้มกว้างให้เพื่อนสนิทของเธอเพียงคนเดียวที่เลือกเรียนมหาลัยเอกชนแห่งนี้ด้วยกัน
"พึ่งมาถึง แล้วนี่ใครง่ะ แฟนแกเหรอยัยแพร?" มัดหมี่เอ่ยถามแพรดาว ก่อนจะบิดซ้ายบิดขวาอย่างเขินอาย เมื่อหันไปสบตากับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาราวกับบอยแบนด์เกาหลี เขาสวมเสื้อช็อปวิศวะ โดยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงยืนอยู่ข้างๆ เพื่อนสาวของเธอ มัดหมี่ได้แต่คิดในใจว่าผู้ชายคนนี้กร้าวใจเธอเหลือเกิน หล่อ นิ่ง ดุดัน ดูแบดบอย คนอะไรดูหล่อเท่ที่สุดเลย
"แฟนบ้าบออะไรของแก นี่เฮียเวย์ เป็นพี่ชายของฉันเอง" แพรดาวรีบเอ่ยปฏิเสธทันที เพราะเธอไม่ได้คิดอะไรกับรันเวย์เกินไปกว่าพี่ชายเลยสักนิด
"เหอะ!" เสียงเค้นหัวเราะดังขึ้นอย่างไม่ชอบใจนัก
“สวัสดีค่ะ...เฮียเวย์ ชื่อก็หล่อ คนก็หล่อมากเลยนะคะ คิกๆ” มัดหมี่ยกมือไหว้รันเวย์ด้วยท่าทางประหม่า มัดหมี่มักจะเสียอาการทุกครั้งเมื่อเจอผู้ชายหล่อๆ
“หวัดดีครับน้อง...เรียกพี่ว่า พี่เวย์ก็ได้ ไม่ต้องเรียกเฮียตามยัยเด็กดื้อหรอก” รันเวย์พยักหน้าและยิ้มบางให้มัดหมี่ และที่เขาบอกมัดหมี่แบบนี้ เพราะเขาต้องการให้ยัยเด็กดื้อที่ยืนทำหน้ามุ่ยข้างๆ เขา เรียกเขาว่าเฮียเพียงคนเดียว...
“ชิ! ทีกับเราไม่เคยพูดดีแบบนี้หรอก” แพรดาวเบ้ปากเล็กน้อย เมื่อเห็นรันเวย์เอ่ยพูดกับเพื่อนรักของเธอด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“งุ้ย...เขินอะ คนหล่อยิ้มให้ด้วย” มัดหมี่บิดซ้ายบิดขวาด้วยความเขินอาย
“บ้าผู้ชาย” แพรดาวพูดด้วยความหมั่นไส้เพื่อนรักของเธอ
"ชิ! ว่าแต่...แกไม่มีพี่ชายไม่ใช่เหรอยัยแพร? แฟนก็บอกแฟน อย่ามาโกหกฉันไปหน่อยเลย" มัดหมี่เลิกคิ้วถามแพรดาวอย่างจับผิด เพราะตั้งแต่เรียนด้วยกันมา เธอรู้แค่ว่าแพรดาวมีแค่น้องชายและน้องสาวที่เป็นฝาแฝดกันเท่านั้น
"พี่ชายไม่แท้น่ะ แกเข้าใจไหมยัยมัด?"
"อ๋อๆ พี่ชายไม่แท้งั้นเหรอ?” มัดหมี่พยักหน้าเหมือนเข้าใจ จากนั้นเธอก็เอ่ยถามแพรดาวในสิ่งที่เธอสงสัยอีกเรื่อง
“เออ...แล้วแกคิดยังไงเนี่ย ถึงได้แต่งตัวเรียบร้อยแบบนี้ มันดูไม่ใช่แกเลยนะโว้ย...แพรดาว คิกๆ" มัดหมี่มองแพรดาวอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะไม่คิดว่าคนที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่แบบแพรดาว จะเลือกสวมกระโปรงยาวเกือบลากพื้นแบบนี้ แต่ถึงแพรดาวจะแต่งแบบไหน มันก็ไม่ได้ทำให้ความสวยของแพรดาวลดน้อยลงไปเลย แต่กลับกันมันทำให้แพรดาวดูสวยน่ารักเรียบร้อยไปอีกแบบ
"หมากัดกระโปรงวันเปิดเทอมน่ะสิ"
“พูดไปเรื่อย กระโปรงแกมีแต่ตัวสั้นๆ หมาที่ไหนมันจะกระโดดกัดถึงยะ” มัดหมี่แอบหัวเราะกับคำพูดของเพื่อนรัก โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเพื่อนของเธอกำลังประชดใครบางคนอยู่
“ประชดย่ะ”
“อะไรของแกเนี่ย งง” มัดหมี่ยกมือเกาศีรษะตัวเองอย่างงุนงง
"เฮ้อ...แกเนี่ยจริงๆ เลย งั้นไปเข้าเรียนก่อนเถอะ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง” แพรดาวดึงมัดหมี่เดินเข้าไปตัวอาคารของคณะ โดยที่มีสายตาคมกริบมองตามเธออยู่สักพัก ก่อนที่เขาจะขับรถไปที่คณะของเขา
พลั่ก!
“โอ๊ย!” ในขณะที่แพรดาวและมัดหมี่กอดคอกันเดินเข้าห้องเรียนคาบแรก จู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้มาเดินชนเธอทั้งสองคนอย่างแรง จนแพรดาวและมัดหมี่ผละออกจากกันไปคนละทิศละทาง
ตอนพิเศษ 5@บ้านรันเวย์“ป๊าขา ป๊าหลงรักคุณแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” เพลงเอ่ยถามคุณพ่อของเธอด้วยความอยากรู้ตามประสาเด็ก โดยที่เธอกำลังนอนอยู่ตรงกลางบนที่นอนขนาดใหญ่ ส่วนรันเวย์และแพรดาวนอนขนาบข้างลูกของเขา“ป๊ารักแม่ของหนูตั้งแต่แม่ของหนูอายุสามขวบ แต่แม่ของหนูวิ่งหนีป๊าตลอดเลย ป๊าก็วิ่งหอมแก้มแม่ของหนูทุกครั้งที่เห็นหน้า ส่วนแม่ของหนูก็วิ่งร้องไห้ไปฟ้องคุณตาของหนู แล้วแม่ของหนูก็ชอบพูดกับป๊าว่า หนูไม่ชอบพี่เวย์” รันเวย์เอ่ยเล่าเรื่องวัยเด็กให้ลูกสาวของเขาฟัง ก่อนจะเหล่ตามองแพรดาวที่มองเขาอยู่ด้วยสีหน้ายิ้มๆ“โอ๋ๆ หนูสงสารปะป๊าจังเลย โดนคุณแม่ปฏิเสธตั้งแต่เด็ก” เพลงยกแขนเล็กเข้าไปโอบกอดคุณพ่อของเธอเพื่อปลอบใจ“หนูเหมือนปะป๊าเลยที่มีความรักตั้งแต่เด็ก แต่หนูดีหน่อยที่พี่ไบร์ทก็รักหนู หนูเลยไม่ได้กินแห้วเหมือนปะป๊า” เพลงเอ่ยพูดกับคุณพ่อของเธอราวกับผู้ใหญ่ปรับทุกข์กัน“เพลงแก่แดดจัง” เพ้นท์เอ่ยขึ้น“เพ้นท์จะไปเข้าใจอะไรล่ะ ในเมื่อเพ้นท์ยังไม่มีความรัก” เพลงเอ่ยขึ้น“โอ๊ยยย...ปวดหัวกับความรักของลูกสาวป๊าจังเลย” รันเวย์เอ่ยพูดอย่างมันเขี้ยว ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่เอวน้อยของเพลง“อ๊ายยยย ฮ่าๆๆ
ตอนพิเศษ 4@บ้านบิ๊กบอส“พี่ไบร์ทขา” เด็กหญิงเพลงวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้าไปหาเด็กชายไบรตันด้วยความดีใจ จนรันเวย์ต้องส่ายหัวเบาๆ ให้กับความดื้อรั้นของลูกสาวเขา“น้องเพลง” เด็กชายไบรตันรีบลงจากโซฟา และวิ่งเข้าไปโอบกอดเด็กหญิงตัวน้อยของเขาด้วยความคิดถึง“ฟอด! คิดถึงน้องเพลงจังเลย” เด็กชายไบรตันหอมแก้มนิ่มของเด็กหญิงตัวน้อยฟอดหนึ่ง“ดูลูกชายมึงนะไอ้บอส ดูลูกชายมึงทำ” รันเวย์เอ่ยพูดเสียงเข้มกับเพื่อนของเขา“ฮ่าๆ เด็กๆ มันเอ็นดูกัน มึงเก่งมากนักก็ไปห้ามลูกสาวของมึงสิ” บิ๊กบอสเอ่ยพูดยิ้มๆ“เพื่อนหนูไปไหนอะพี่บอส” แพรดาวเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทของเธอ“ออกไปทำธุระกับคุณแม่ตั้งแต่เช้าเลยน้องแพร เพื่อนของน้องทิ้งให้พี่อยู่เฝ้าบ้านกับเจ้าแสบไบรตันกันสองคน” บิ๊กบอสเอ่ยนินทาเมียของเขาให้เพื่อนสนิทของเมียฟัง“หนูอัดคลิปเสียงไว้แล้ว เรื่องนี้ต้องถึงหูเพื่อนของหนู คิกๆ” แพรดาวชูมือถือขึ้น แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ให้บิ๊กบอส“เมียมึงนี่แสบมากไอ้เวย์” บิ๊กบอสเอ่ยพูดกับรันเวย์“หึๆ เพราะแสบแบบนี้ไง ถึงได้โดนกูปราบบนเตียงบ่อยๆ” รันเวย์เอ่ยพูด ก่อนจะหันไปมองหน้าแพรดาวยิ้มๆ“ก็มึงมันชอบปราบเด็กพยศอยู่แล้วนี่หว่า” บิ๊กบอสเอ่ยพู
ตอนพิเศษ 3“ลูกชายจงมา ลูกชายจงมา” ร่างแกร่งหมุนเอวสอบบดขยี้ร่องแคบ ก่อนจะถอดลำแกร่งออกจากร่องแคบ“ลุกขึ้นไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ จะได้ลงไปหาลูก”“งั้นไปอาบพร้อมกัน” ชายหนุ่มหยัดตัวขึ้น ก่อนจะอุ้มร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไป“อ๊ายยย เฮียพอแล้ว” ร่างบางเปล่งเสียงร้องลั่นอยู่ในห้องน้ำ เมื่อเขาจับเธอหันหน้าเข้ากำแพงห้องน้ำ“อีกรอบนะเด็กดี เฮียยังอยากอยู่เลย ไหนๆ ลูกก็เปิดโอกาสให้เราแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะดันแก่นกายเข้าร่องแคบอีกครั้ง“อื้อ~” ศึกรักเริ่มบรรเลงขึ้นมาอีกครั้งด้วยความโหยหา เขาและเธอเปล่งเสียงครางระงมภายในห้องน้ำด้วยความเสียวซ่าน จนตอนนี้ภายในห้องน้ำตลบอบอวลด้วยกลิ่นอายไฟเสน่หาที่เร่าร้อนวันต่อมา... “พากันแต่งตัวอะไรแบบนี้วะเนี่ย” รันเวย์ที่นั่งรอเมียและลูกของเขาอยู่ที่ห้องรับแขก ต้องขมวดคิ้วจนเป็นปม เมื่อเห็นสามแม่ลูกใส่ชุดธีมเดียวกัน ซึ่งกระโปรงแต่ละคนทำเอาเขาแทบกุมขมับ เพราะแต่ละคนสวมใส่กระโปรงสั้นจิ๋วเลยทีเดียว“ปะป๊า ทำไมต้องทำเสียงดุด้วย” เพลงวิ่งเข้าไปโอบกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธออย่างเอาใจ“ไม่เสียงดังนะคะคุณพ่อ หนูกลัว” เพ้นท์เข้าไปกอดขาแกร่งคุณพ่อของเธอ
ตอนพิเศษ 2แกร๊ก~"..." แพรดาวเมื่อเห็นสามีของเธอเปิดประตูเข้ามา เธอก็หยัดลุกขึ้นจะเดินหนี"จะหนีไปไหนครับเด็กดี ไม่คิดถึงเฮียเหรอ" รันเวย์เข้าไปโอบกอดแพรดาวไว้แน่นด้วยความคิดถึง จากนั้นเขาก็สูดดมผมสลวยและซุกไซ้ซอกคอของเธออย่างหื่นกระหาย"ปล่อยเลยนะคนใจร้าย ฮึก~" แพรดาวดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนแกร่ง ก่อนที่น้ำตาของเธอจะรินไหลออกมาด้วยความน้อยใจ"อย่าโกรธเฮียเลยนะที่รัก เฮียไม่ได้ตั้งใจจะไปญี่ปุ่นนานถึงหนึ่งอาทิตย์เลยนะ พอดีงานที่นั่นมีปัญหาจริงๆ" รันเวย์เอาปลายคางเกยไว้ที่ไหล่มน และเอ่ยบอกเธอด้วยน้ำเสียงกระเส่าที่กกหูเล็ก"เฮียรู้ไหมว่าคนที่นับวันรอเฮียกลับมา มันคิดถึงเฮียมากขนาดไหน" แพรดาวเอ่ยพูดด้วยริมฝีปากสั่นระริก เพราะถึงเธอจะมีลูกแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังติดเขาเหมือนเดิม อยากอยู่ใกล้เขา อยากเจอหน้าเขาทุกวัน"เฮียก็คิดถึงหนูที่สุด หนูใจร้ายมากเลยนะ ไม่ยอมรับโทรศัพท์เฮียเลย""ก็เฮียใจร้ายกับหนูก่อนหนิ" แพรดาวยู่ปากพูดอย่างเง้างอน"งั้นเฮียขอไถ่โทษกับหนูบนเตียงนะที่รัก" รันเวย์เอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะอุ้มภรรยาสาววางไว้บนเตียงอย่างเบามือ"เฮีย..." ปากเล็กเอ่ยเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสีย
ตอนพิเศษ 1เจ็ดปีต่อมา...รถสปอร์ตหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่ลานจอดรถบ้านหลังใหญ่ จากนั้นเขาก็หันไปหยิบตุ๊กตาหมีสองตัวกับดอกกุหลาบสีแดงสดช่อใหญ่มาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง นักธุรกิจหนุ่มหล่อลงจากรถและเดินเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มแห่งความคิดถึง เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาไม่ได้เจอลูกสาวตัวน้อยและภรรยาสุดที่รักของเขาเลย เพราะเขาติดงานสำคัญที่ญี่ปุ่น"น้องเพ้นท์ น้องเพลง ปะป๊ากลับมาแล้วครับ" รันเวย์เอ่ยบอกลูกสาวฝาแฝดของเขาด้วยรอยยิ้มเมื่อแพรดาวเห็นสามีของเธอเดินเข้ามาในบ้าน เธอก็กระซิบบอกอะไรบางอย่างกับลูกสาวตัวน้อยของเธอทั้งสองคน ก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นและเดินขึ้นห้องส่วนตัวไปอย่างเง้างอน"อ้าว...หนูจะเดินหนีเฮียไปไหนครับ" รันเวย์เอ่ยถามแพรดาวหน้าตาตื่น เมื่อเห็นภรรยาตัวน้อยของเขาเดินหนีขึ้นห้องไป"ห้ามรบกวนคุณแม่นะคะ ปะป๊า" เพ้นท์และเพลงเด็กน้อยฝาแฝดหน้าตาจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตากางแขนเรียวเล็กสุดแขน เพื่อกั้นขวางไม่ให้คุณพ่อของพวกเธอตามคุณแม่ของพวกเธอขึ้นห้องไปได้"ปะป๊าใจร้าย ทิ้งหนูกับคุณแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ชิ! หนูงอนป๊าแล้ว" เสียงเล็กของเพลงเอ่ยต่อว่าคุณพ่อของเธอ ก่อนจะทำแก้มป่องเบือนหน้าหนีคุณพ
The endรุ่งเช้า6.00 น.เมื่อรันเวย์ออกมาจากเต็นท์พร้อมแพรดาว เขาก็เลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นไรเฟิลณิชา คิมหันต์นั่งผิงไฟอยู่หน้าเต็นท์ มิหนำซ้ำหน้าตาของทั้งสามคนยังดูอิดโรยราวกับคนไม่ได้นอน“ตื่นเช้าจังวะ” รันเวย์เอ่ยถามเพื่อนของเขา“กูยังไม่ได้นอนเลย มึงเห็นขอบตาพวกกูไหมเนี่ย? จะเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว” ไรเฟิลเอ่ยตอบรันเวย์ด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์นัก“ครางห่าอะไรขนาดนั้นวะ กูไม่น่าหลวมตัวมาเที่ยวกับพวกมึงเลย” คิมหันต์เอ่ยพูดประชดรันเวย์ ก่อนจะมองไปอีกเต็นท์ที่ยังไม่ออกมา“หาววว ตื่นก็ดีแล้ว ฉันจะได้นอนบ้าง” ณิชาปิดปากหาวหวอดๆ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าเต็นท์ของเธอ“ไม่ไปดูทะเลหมอกเหรอวะณิชา” รันเวย์เอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นณิชากำลังจะเข้าไปในเต็นท์ของเธอ“ไม่ล่ะ ฉันนั่งดูดาวตกทั้งคืนแล้ว ขอนอนก่อนนะ ง่วง”“ไอ้เชี่ยเอ๊ย! กูก็นึกว่ามาทริปม่อนแจ่มมาดูทะเลหมอก ที่ไหนได้กูมาทริปแข่งกันเย็Xไอ้ฉิบหาย ฟังเสียงครางจนอารมณ์ค้างเลยกู” ไรเฟิลเอ่ยจบ เขาก็เข้าไปเต็นท์ของเขาทันที“กูนอนละ เชิญดูทะเลหมอกให้สมใจ” คิมหันต์เอ่ยพูด ก่อนจะยกมือปิดปากหาวแล้วเข้าเต็นท์ไปอีกคน“เฮียครางเสียงดัง จนรบกวนพวกพี่ๆ เขาเลยนะ” แพ







