หญิงสาวอมยิ้มแก้มแทบปริเมื่อชายหนุ่มยอมตามใจตนเองโดยไม่แสดงความหงุดหงิดทางสีหน้าและแววตาออกมาให้เธอได้เห็นซึ่งจะทำให้เธอมีความสุขมากเป็นพิเศษ
“มาค่ะ แบ่งถุงมาให้ฟ้าช่วยถือบ้างดีกว่า ติณณ์ถือคนเดียวมาตั้งนานแล้ว” แบมือออกเพื่อจะแบ่งเบาถุงในมือชายหนุ่มที่เป็นของเธอทั้งหมดมาช่วยถือบ้าง “ถ้าไม่ไหวแล้วผมจะบอกแล้วกัน ตอนนี้คุณหนูเดินสบายๆ ไปก่อนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะถือไม่ไหว ของแค่นี้ผมถือได้สบายมาก หนักกว่านี้ก็เคยถือเคยแบกมาแล้ว” เขาไม่ได้จะอวดอ้างแต่มันคือเรื่องจริง “รู้ค่ะว่าเคยแบก หาม สารพัดสิ่งของหนักๆ มาแล้ว แต่ถ้าไม่ไหวต้องบอกเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ฟ้าช่วยติณณ์ถือได้สบายมาก จริงๆ นะคะ” เธอไม่ได้รักสบายอยากเดินตัวปลิวชิวไปเรื่อยหรืออยากกินกำลังเขาอยู่ฝ่ายเดียว เพียงแค่ติณณ์เอ่ยปากเธอก็ยินดีช่วยด้วยความเต็มใจ เพราะของทุกอย่างในมือของชายหนุ่มมันเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แล้วเหตุใดเธอจึงต้องการจะเห็นแก่ตัวเพื่อเอารัดเอาเปรียบสุภาพบุรุษร่างใหญ่ ความสูงประดุจเสาไฟสำหรับเธอแตะอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตรด้วยเล่า แต่ก็นะ ลึกๆ แล้วก็แอบมีความหมั่นไส้ปะปนอยู่เหมือนกัน แต่ความปลื้มปริ่ม และอิ่มอกอิ่มใจมันมีมากกว่า “ครับ” “ตอนพูดง่ายๆ เนี่ย ติณณ์น่ารักที่สุดเลยรู้ไหมคะ ฟ้าชอบมาก” อิงฟ้ากล่าวชม พลางยิ้มหวาน ยกมือขึ้นหยิกแก้มสากระคายของคนน่าเอ็นดู เปล่งเสียงหัวเราะสดใสออกมา เมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดหน่อยๆ ทำหน้ายุ่งนิดๆ แล้วเปลี่ยนมาจูงข้อมือใหญ่ให้เดินเคียงคู่ไปด้วยกัน เธอไม่อยากเป็นผู้นำ แต่อยากให้เขาก้าวไปพร้อมกันกับเธอมากกว่า มันดีต่อใจกว่ากันเยอะ ชายหนุ่มหลุบสายตาลงมองมือน้อยที่กำข้อมือเขาเอาไว้ แนบแน่นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ยอมเดินตามแรงจูงของคนตัวเล็กไปโดยไม่ได้พูดหรือขัดอะไรให้บรรยากาศมันขุ่นมัว ถูกพาเข้าร้านไหนเขาก็อดทนรออย่างใจเย็น และเมื่อถึงวินาทีที่เริ่มตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้คุณหนูอิงฟ้าจะอ้อนให้ช่วยเลือกว่าตัวไหนเหมาะ สีไหนสวยกว่ากัน และไม่จบเพียงแค่นั้น บางครั้งที่เขาชี้นิ้วเลือกให้หลังจากพิจารณาดีแล้ว คนที่มาขอความช่วยเหลือเรื่องการตัดสินใจกลับไม่เอา เลือกตัวที่ตรงข้ามแทน เหมือนในตอนนี้ที่เขาต้องทำหน้าที่แสกนให้อีกครั้ง “ติณณ์ว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ สวยไหม แล้วสีไหนที่เหมาะกับฟ้ามากกว่ากัน ระหว่างสีครีม มัสตาร์ด โอลด์โรส และสีน้ำตาล” อิงฟ้าเอียงคอชูทั้งสองชุดที่อยู่ในมือ และบุ้ยหน้าไปทางที่พนักงานสาวรูปร่างท้วมช่วยเธอถืออีกสองชุด เพื่อให้ชายหนุ่มช่วยพิจารณาอีกแรง เพราะเธอไม่สามารถตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเอง ประเภทว่ารักพี่แต่ก็เสียดายน้อง ถ้าจะเอาทุกสีทุกตัวก็ได้ แต่ยังไม่อยากตัดสินใจอย่างนั้น อยากฟังความคิดเห็นของติณณ์ก่อน ขาสวยขยับเท้าก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าโซฟาที่ชายหนุ่มนั่งรออยู่เงียบๆ กลายเป็นว่าตอนนี้เธอยืนแทรกกลางอยู่ระหว่างท่อนขาแข็งแรงทั้งสองข้าง “ผมว่ามันโป๊เกินไป ตัวที่สวย และเรียบร้อยกว่านี้มีนะครับลองไปเลือกดูใหม่สิครับ” กายหนาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเรียวขาขาวแนบชิดกับท่อนขาตนเอง พลางมองชุดสวยสลับกับเรือนร่างกลมกลึงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ทว่าภายในใจมันกำลังหงุดหงิด อย่าว่าแต่ชุดที่ให้เขาช่วยเลือกเลย ณ ตอนนี้อิงฟ้าก็แต่งตัวไม่มิดชิด ทั้งบนทั้งล่างเลย เปิดเผยเนื้อตัวมันเข้าไป ไม่รู้จะโชว์ใครนักหนา รูปร่าง หน้าตาก็เป็นจุดสนใจมากพอแล้ว บวกการแต่งกายเข้าไปด้วยยิ่งเรียกสายตาทุกเพศทุกวัย ระหว่างทางที่เดินแทบไม่มีใครเลยที่ไม่เหลียวมอง โดยเฉพาะผู้ชาย เกิดมาสวยไม่ใช่เรื่องผิด แต่การแต่งกายที่โชว์มากไปในที่สาธารณะ เขาว่ามันไม่โอเค การที่เราต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครก็ไม่รู้ มันดีที่ไหน “โธ่ อย่ามองว่ามันโป๊สิคะ แค่คอมันแหลมลึก ช่วงขาแหวกสูงไปหน่อยเท่านั้นเอง และมันเป็นแฟชั่นค่ะติณณ์ขา ที่สำคัญคือฟ้าชอบมันมากด้วย ดูสิคะ ดีไซน์สวยจะตาย” เธอไม่รู้หรอกว่าความสวยที่เธอเห็นเขาจะเห็นถึงมันไหม แต่ก็ดีใจที่เขาให้ความสำคัญเรื่องโป๊หรือไม่โป๊ตลอดเมื่อเธอให้เขาได้มีส่วนร่วม และนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เฉยชากับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรง แต่เธอก็ยังคงเป็นเธอ อยากได้แล้วก็ตัดใจที่จะปล่อยมันไปไม่ได้ “เอาเป็นว่าฉันเอาครบทุกสีเลยแล้วกัน เพราะตัดสินใจที่จะเลือกเพียงชุดเดียวไม่ได้ คิดเงินได้เลยค่ะ ฉันเอาแค่นี้แหละ” หันไปบอกพนักงานที่คอยดูแล และส่งชุดที่ถืออยู่ให้พนักงานเพื่อทำการคิดเงิน ก่อนจะทรุดกายลงนั่งข้างร่างสูงที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเธอสักเท่าไหร่ จากที่ว่าจะไม่เอาทุกสีแล้วนะ แต่เป็นเพราะติณณ์นั่นแหละ นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังเป็นแรงผลักดันการตัดสินใจของเธอ “ถ้าจะตัดสินใจอย่างนี้จะถามความคิดเห็นทำไม” “หือ ติณณ์กำลังงอนฟ้าเหรอคะ ที่ฟ้าไม่ยอมเลือกชุดใหม่ที่เรียบร้อยกว่านี้น่ะ” อิงฟ้าเบียดกระแซะร่างกายกำยำ เกาะแขนแกร่ง แล้วเปลี่ยนเป็นสอดแขนกอดเอาไว้แน่น พลางถูแก้มกับแขนแกร่งเป็นลูกแมวน้อยคลอเคลียเจ้าของ เขางอนไหมไม่แน่ใจหรอก เธอตีขลุม เดาเอาเอง เพราะเขาพูดให้คิดนี่นา ถึงหน้าจะนิ่งไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ยังดีต่อใจเธออยู่ดี “เปล่า” เสียงทุ้มห้าวตอบสั้นๆ ปรายตามองคนช่างประจบ “เปล่าก็เปล่า” อิงฟ้ายิ้มใส่นัยน์ตาคนที่แสดงท่าทางปั้นปึ่งอย่างชอบใจ และยกมือขึ้นบีบคางบึกบึน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ปัดป้องแต่อย่างใด หยอกล้อเขาเล่นกระทั่งพนักงานนำถุงเสื้อผ้ามาให้พร้อมใบเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยถึงได้พาติณณ์ออกจากร้าน“หอมจัง”“ทำไมไม่นอนต่อล่ะคะ รีบลุกมาทำไม” อิงฟ้าหันมามองแวบหนึ่ง“ไว้รอนอนพร้อมกัน พี่อยากนอนกอดเมีย ไม่อยากนอนคนเดียว”ร่างสูงเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ตรงโต๊ะกินข้าว เท้าคางมองแม่ครัวคนสวยที่หันหลังให้เขาอย่างชื่นชมปนหลงใหล ต้นคอขาวมีรอยแดงสลับแซม สะโพกหนั่นแน่น บั้นท้ายกลมกลึง กระทั่งเรียวขา ทุกส่วนมันดูเซ็กซี่ไปหมดอิงฟ้าอมยิ้ม วันไหนที่เธอมาค้างคืนด้วยเขาจะอ้อนเป็นพิเศษ อาทิตย์หนึ่งก็สามวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แต่ใช่ว่าระหว่างนั้นติณณ์จะยอมทน มีโอกาสเป็นต้องหาเรื่องเปลื้องผ้า อีกไม่กี่เดือนเราสองคนจะแต่งงานกันแล้วด้วย คุณพ่อท่านเลยทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ไม่ว่าไม่บ่นเรื่องที่เธอมานอนที่นี่“จะกินอะไรก่อนดีคะ ไข่ลวก หรือข้าวผัด”“ฟ้าทำพี่หมดแรง เอาไข่ลวกมาก่อนเลยดีกว่า”“ติณณ์ทำตัวเองมากกว่า ฟ้าห้ามแล้ว เอาแค่สามฟองพอนะคะ ห้ามันมากไป ไม่กินก็คึกจะแย่” เดินเหินยังขัดๆ อยู่เลย คิดแล้วก็เขิน ห้ามเขาไม่เคยได้เลยสักครั้ง“รักมากก็คึกมากเป็นธรรมดา” เขารวบเอวสาวเสิร์ฟแสนสวยมากอด มาหอม และยอดอกที่ดุนดันเสื้ออยู่มันทำให้เขาอยากเปลี่ยนมาดื่มนมสดจากเต้าแทนกินอย่างอื่น“ค่ะ ธรรมดาก็ธรรมดา และฟ้
อิงฟ้าเริ่มเข้าไปเรียนรู้งานภายในออฟฟิศบ้างแล้ว โดยมีพ่อเลี้ยงเติมเต็มคอยกำกับดูแล การคบหาฉันท์คนรักระหว่างเธอกับติณณ์ก็รับรู้กันทั่วทั้งไร่ ควงกันไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผยเพื่อนพ้องที่ทราบข่าวต่างยินดี และในวันนี้เป็นวันหยุด ไม่ต้องทำงาน เธอกับติณณ์จึงใช้เวลาร่วมกันบนเตียงนานกว่าปกติ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของเมื่อวานมาจนถึงตอนสายโด่งของวันนี้ ยังไม่ได้ลุกไปไหน สภาพเตียงจึงดูไม่จืดเลยสักนิด“ที่รักขา”“หืม...” เสียงทุ้มติดยานคางขานรับในลำคอเบาๆ ตายังไม่ยอมลืม แก้มสากแนบซบอยู่กับอกอวบที่เต็มไปด้วยรอยแดงที่เกิดจากการดูดเม้ม ริมฝีปากอยู่ใกล้หัวนมสีชมพูอ่อนใส ที่ปลายยอดสั่นระริกยามต้องลมหายใจอุ่นๆ และครึ่งตัวของเขาเกยอยู่บนกายอวบอิ่ม เพราะทั้งแขน ทั้งขาก่ายพาด “ฟ้าหิวข้าวค่ะ ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวมานอนให้กอดต่อ ตอนนี้ขอไปจัดการเอาอะไรใส่กระเพาะให้อิ่มก่อน” ท้องเธอร้องประท้วงมาสักพักใหญ่แล้ว หลังจากสูญเสียพลังงานไปมากโข แต่ติดตรงที่ไปไหนไม่ได้ เพราะคุณยักษ์ที่รักของเธอไม่ยอมคลายอ้อมแขนที่รัดเธอเอาไว้เสียแน่นหนาสักที“งั้นฝากทำไข่ลวกให้พี่กินสักห้าฟองนะครับ ฟื้นกำลังหน่อย” แนบปากจูบทรวงอกเต่งตึง
หลังกินข้าวเช้าด้วยกันแล้ว ทุกคนต่างก็เตรียมแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตัวเอง เธอก็ขอตามติณณ์เข้าไร่ด้วย เพราะตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่มีโอกาสได้ออกไปไหนเลย ออฟฟิศก็ยังไม่ได้เข้าไปเรียนรู้งาน แต่งกายทะมัดทะแมงตามที่เขาต้องการเป๊ะ พ่อคุณทูนหัวก็ยอมพามา เธอเลือกใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อนพับแขนถึงข้อศอกแบบพอดีตัว ชายเสื้อทับด้วยกางเกงยีนส์ขายาวสีเข้ม และรองเท้าผ้าใบ เดินเหินจะได้สะดวก บนศีรษะสวมหมวกปีกกว้างป้องกันแสงแดด ตามที่คนบงการสั่ง ทั้งที่มันยังรำไร ยังไม่ส่องแสงแผ่ความร้อนระอุลงมา เขาใส่ใจเธอทุกเรื่อง เวลาทำงานเขาก็จริงจัง แต่ก็คอยมองมาที่เธออยู่ตลอด ชี้นิ่วสั่งแล้วยังลงมือทำด้วย ส่วนเธอได้แต่นั่งมองอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมาให้ผู้คนได้อาศัยหลบความร้อนกับคนงานหญิงอีกสองคนที่มานั่งคุยเป็นเพื่อน“นายติณณ์ไม่ปล่อยให้คุณหนูคลาดสายตาเลยนะคะ”“นั่นสิคะ ปกติเวลานายติณณ์ทำงานจะไม่สนใจสิ่งรอบตัว ตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างเดียว มีวันนี้นี่แหละค่ะ ที่แตกต่างไปจากทุกวัน คงเป็นเพราะคุณหนูอิงฟ้ามาด้วยแน่ๆ เลยค่ะ จิตใจนายเลยอยู่ไม่ค่อยสุขเท่าที่ควร” พูดจบก็พากันหัวเราะคิกอิ
“ติณณ์คงไม่กล้าเกลียดผู้มีพระคุณหรอกค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่ให้โอกาสติณณ์จริงก็เท่ากับว่าลูกในท้องของฟ้า ซึ่งก็คือหลานแท้ๆ เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณพ่อกับพี่เต็มจะขาดพ่อนะคะ ฟ้ายอมไม่ได้หรอกค่ะ ฟ้าอยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยไม่ขาดใครสักคน คุณพ่อต้องให้ติณณ์รับผิดชอบฟ้านะคะ” เสียงอ่อนในประโยคสุดท้าย พลางตีหน้าเศร้า แอบไขว้นิ้วชี้กับนิ้วนางที่ข้างลำตัว กล่าวขอโทษขอโพยที่พูดปดอยู่ในใจถ้าน้อยหน่าไม่ขึ้นไปบอกว่าติณณ์มาเธอก็คงไม่ได้ลงมาเจอสถานการณ์ที่เรียกได้ว่าค่อนข้างตึงเครียด ติณณ์ไม่ได้เกริ่นกับเธอว่าเขาจะเข้ามาคุยกับคุณพ่อในเช้าวันนี้ ต้องการจะเซอร์ไพรส์หรืออะไรไม่รู้ แต่ที่เธอรู้คือเขามีความเป็นลูกผู้ชายสูงมาก อาจมากกว่ามนุษย์เพศชายทั่วไปด้วยซ้ำ เลยคิดจัดการปัญหาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องในขณะที่ยังไม่เรียบร้อย แต่มันไม่ทันแล้วไง เธอยื่นมือเข้ามายุ่งเต็มรูปแบบแล้วเงียบเป็นเป่าสาก ไร้ซึ่งเสียงพูดคุย สายตาสามคู่ของผู้ชายสามคน และต่างสถานะพุ่งตรงมายังสาวสวยเพียงหนึ่งเดียวที่เดินลูบท้องเข้ามาสยบทุกความเคลื่อนไหวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เรือนกายอวบอิ่มยังคงอย
“ผมรักลูกสาวของพ่อเลี้ยงครับ...ผมรักคุณหนูอิงฟ้า” เสียงทุ้มห้าวกล่าวอย่างหนักแน่นทุกถ้อยคำ อีกทั้งสีหน้า และแววตาก็แสดงออกอย่างชัดเจนว่าที่ลั่นวาจาออกมานั้นมันมาจากส่วนลึกภายในใจจิตใจ หาใช่เพียงลมปาก“หือ จะไม่พูดเกริ่นนำอะไรกับลุงสักนิดเลยเหรอเจ้าติณณ์” คิ้วสีดอกเลาเช่นเดียวกับสีผมของพ่อเลี้ยงทวีศักดิ์ขมวดกันจนยุ่ง รอยย่นตามกาลเวลาปรากฏชัดเจน สายตาคมกริบของคนสูงวัยจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าคร้ามคมติดนิ่งของชายหนุ่มผู้เปรียบเสมือนบุตรชายอีกคนอย่างพิจารณา แววตาเด็ดเดี่ยว แต่แฝงความกังวลเล็กๆ ที่จับสังเกตได้ แผ่นหลังตั้งตรง อกผาย ไหล่ผึ่ง สองมือวางไว้บนหน้าขา การวางตัวดูสุภาพกว่าปกติ เด็กรับใช้ที่ไปตาม บอกนายติณณ์มาขอพบ ก็คิดอยู่ว่าคงต้องเป็นเรื่องอะไรสำคัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาในเวลานี้แน่ แล้วก็จริงดังที่คาดเดาเอาไว้ มันสำคัญจริงๆ และมันไม่ใช่เรื่องงานด้วยสิ พอเจอหน้ากัน ยังไม่ทันได้กล่าวทักทายอะไรให้มากความก็มาสารภาพว่ารักยายฟ้า ทำเอาประหลาดใจแต่หัววันจริงๆ“ผมไม่รู้ว่าควรจะเกริ่นนำยังไงในเรื่องนี้ดี ผมเลยเลือกที่จะกราบเรียนตามตรง และผมขอยืนยันอีกครั้งว่าผมรักเธอครับ” เขาไม่ใช่คนมีวาทศิลป์ใ
“ฟ้าไม่เคยคิดรังเกียจติณณ์เลยสักนิด ไม่เคยเลยจริงๆ” ต่อให้ร่างกายเขาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนมากกว่านี้เธอก็จะกอดเขาไว้แน่นๆ ด้วยความรักทั้งหมดที่มีริมฝีปากหนาคลี่ยิ้มกว้างเมื่อถูกจู่โจมด้วยปากบวมช้ำ พลางช้อนใต้สะโพกยกร่างอวบอิ่มขึ้นจนตัวลอย หมุนตัวเป็นวงกลมไปหนึ่งรอบ เรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากอิงฟ้า เมื่อหยุดหน้าผากมนก็แนบลงมาชิดติดกัน“อยากไปส่งถึงในห้องนอนแต่ไปส่งไม่ได้ อยากนอนกอดด้วย”“โธ่ อย่าทำเสียงเศร้าและทำหน้าหงอยแบบนี้สิคะที่รักขา เดี๋ยวฟ้าก็บังคับตัวเองไม่ได้ เผลอลากแขนติณณ์ติดมือขึ้นห้องไปนอนกอดแทนหมอนข้างหรอกค่ะ” มือบางลูบแก้มสาก มุมปากยกยิ้มสวยเก๋ ตั้งแต่สารภาพความในใจกับเธอ เขาก็ไม่ใช่ติณณ์คนเดิมอย่างที่แล้วมา มีมุมหื่น มีมุมอ้อน มีมุมน่ารักให้ได้เห็น เจอโหมดนี้ของเขาเข้าไป ทำเอาอิงฟ้าคนนี้ใจเปราะบางหมดแล้ว และยิ่งมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งที่มากกว่าแฟนกันแบบใสๆ เดินจับมือถือแขนกันธรรมดาติณณ์ยิ่งแสดงออกถึงความต้องการในตัวเธอผ่านทั้งการกระทำและคำพูดที่เป็นเครื่องยืนยันว่าเขารักเธอมากเพียงใด“แล้วจะช้าอยู่ทำไม ลากพี่ไปเลยสิ อยากนอนให้ฟ้ากอดจะแย่”“เอ...ติณณ์คนหวงตัวหายไปตั้งแต่ตอนไ