“พี่ณีครับผมมีเรื่องอยากปรึกษา” เอกอาทิตย์พูดกับหัวหน้าพยาบาลเมื่อเดินออกมาจากห้องพักของอัญชิสา
“เรื่องอัญใช่ไหม”
“ครับพี่ณี ผมอยากชวนพี่ไปคุยกับอาจารย์หมอหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้สิคะหมอซันพี่เองก็อยากถามถึงอาการของอัญอยู่เหมือนกัน”
“ฉันไปด้วยนะ”
“นายจะไปทำไม”
“ก็ไปในฐานะนายจ้างของอัญไงล่ะ”
ทั้งสามคนเดินไปยังห้องพักของอาจารย์หมอสุชาติ
ธีรกานต์เคาะประตูเมื่อได้ยินเสียงอาจารย์หมอสุชาติอนุญาตก็รีบเปิดประตูเข้าไป
“นี่จะมาคุยเรื่องคนไข้กับผมทั้งสามคนเลยเหรอ”
“ครับอาจารย์ ผมจะถามอาจารย์ว่าอาการที่คุณอัญเขาเป็นอยู่มีโอกาสจะหายไหม”
“โอกาสหายนะมีแต่ต้องใช้เวลาหน่อยน่ะ”
“นานไหมคะหมอ”
“บางทีอาจจะแค่วันสองวันหรือไม่ก็นานเป็นสัปดาห์ก็ได้”
“แล้วเป็นไปได้ไหมครับที่เธอจะจำอะไรไม่ได้เลย”
“เป็นไปได้ยากนะหมอซันเพราะผลซีทีสแกนไม่มีรอยโรคหรือเลือดออกตรงไหนเลย มันอาจจะเป็นแค่อาการวิตกกังวลหลังเกิดอุบัติเหตุหรือสมองอาจจะได้รับความกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อยแต่ผมว่าไม่นานเธอก็น่าจะกลับมาจำทุกอย่างได้” อาจารย์หมอบอกไปตามความจริง
“ได้ยินอาจารย์หมอพูดแบบนี้ณีก็โล่งใจหน่อยค่ะ แล้วแบบนี้จะต้องอยู่โรงพยาบาลนานไหมคะ”
“ผมขอสังเกตอาการสักสองสามวันก่อนนะ จากนั้นก็น่าจะกลับบ้านได้ ส่วนเรื่องกระดูกที่ร้าว เมื่อเช้าผมคุยกับหมอแผนกออร์โธฯ แล้วเขาบอกว่าไม่เป็นปัญหาอะไรแค่ใส่เฝือกอ่อนไว้แต่ห้ามคนไข้ลงน้ำหนักจนกว่าจะหายส่วนใหญ่ก็ไม่เกินสามเดือน”
“อาจารย์ครับถ้าเกิดว่าเธอหายเป็นปกติแล้วเรื่องราวระหว่างช่วงนี้เธอจะยังจำได้ไหม”
“ส่วนใหญ่คนไข้ก็จดจำได้ทั้งหมดนะ แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่คนไข้แต่ละคนด้วย ทางที่ดีช่วงนี้เราก็ค่อยๆ บอกข้อมูลของเธอไปทีละนิดถ้าเห็นว่าเธอเริ่มปวดหัวก็ให้เปลี่ยนเรื่องพูด”
“ค่ะ อาจารย์ณีกับน้องในแผนกจะมาพยายามมาคุยกับเธอบ่อยๆ ”
“ผมได้ยินบอกว่าเธออยู่คนเดียวที่หอพักโรงพยาบาลแล้วแบบนี้ถ้าออกโรงพยาบาลไปใครจะเป็นคนดูแลล่ะ”
“ผมคิดว่าจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านครับอาจารย์”
“แต่หมอซันก็ต้องมาทำงานทุกวันนะแล้วตอนกลางวันล่ะ”
“คิดว่าจะจ้างพยาบาลพิเศษไปคอยดูแลเธอแล้วก็น่าจะหาเด็กรับใช้สักคนครับ”
“เรื่องเด็กรับใช้ไม่ต้องห่วงหรอกเดี๋ยวให้เด็กรับใช้ที่บ้านของแม่ฉันไปช่วยดูก็ได้บ้านของนายกับบ้านของฉันก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรหรอกกานต์ฉันว่าฉันหาเองได้”
“แต่คนที่ไว้ใจมันหายากนะ เอาเถอะน่าเด็กที่บ้านฉันเยอะแยะให้ไปช่วยงานที่บ้านนายสักคนก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอก แล้วอัญเขาก็เป็นลูกน้องของฉันนะ ฉันก็อยากจะมีส่วนช่วยดูแลเธอบ้าง”
“ส่วนเรื่องพยาบาลเดี๋ยวพี่จะหาพยาบาลที่ไว้ใจให้ดีไหมคะ”
“ขอบคุณครับพี่ณี”
“วางแผนกันแบบนี้ถามคนไข้แล้วใช่ไหม”
“ยังเลยครับอาจารย์ ผมไม่รู้จะพูดยังไงให้อัญยอมไปอยู่กับผม”
“ปกติแล้วคนไข้ที่จำอะไรไม่ได้ค่อนข้างจะไว้ใจคนยาก การจะพาเธอไปอยู่ในสถานที่แปลกใหม่หรือไปอยู่บ้านผู้ชายมันก็ยากนะ” อาจารย์หมอบอกตามประสบการณ์ที่ตนเองเคยเจอมา
“ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่ครับถ้าเกิดผมบอกว่าผมกับเธอเป็นแฟนกันเธอจะยอมไปที่บ้านของผมไหม”
“นายคิดอะไรของนายอยู่ซัน ถ้าเกิดเธอจำทุกอย่างได้ขึ้นมานายไม่กลัวเธอโกรธเหรอ”
"ฉันไม่รู้จะเอาวิธีไหนชวนเธอไปอยู่ที่บ้าน พี่ณีว่ายังไงครับ”
“พี่ว่าข้อเสนอของหมอซันก็น่าสนใจดีนะ”
“แล้วคุณอัญเขามีแฟนหรือเปล่าครับ” หมอธีรกานต์ถามหัวหน้าแผนกผู้ป่วยนอก
“เท่าที่พี่รู้อัญฉันไม่มีแฟนนะคะ”
“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้แล้วกันเราจะบอกเธอไปแบบนี้แหละให้เธอเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะไปอยู่กับผมที่บ้านหรือเปล่า แต่ถ้าได้พี่ณีช่วยพูดก็ว่าอัญเธอน่าจะเชื่อนะ”
“เดี๋ยวตอนเย็นพี่ว่าจะขึ้นมาคุยกับอัญ บางทีถึงตอนนั้นอัญเขาอาจจะจำเรื่องทุกอย่างหมดแล้วก็ได้”
“เรื่องนี้ผมรบกวนพี่บอกคนที่จะขึ้นไปเยี่ยมอัญด้วยนะครับ เรื่องที่ผมชวนอัญไปอยู่ที่บ้าน”
“พี่จะกำชับเด็กในแผนกให้บอกว่าหมอซันกับอัญกำลังคบกันอยู่ตกลงตามนี้นะคะ”
“ขอบคุณครับพี่ณี”
“หมอซันคิดดีแล้วใช่ไหม”
“ครับอาจารย์” เอกอาทิตย์ตอบอาจารย์หมอจากนั้นทั้งสามคนก็พากันออกมานอกห้อง
ศิราณีขอตัวไปทำงานต่อขณะที่หมอเอกอาทิตย์เติมตามหมอธีรกานต์ไปที้หองทำงานของเขา
“ฉันว่ามันมากเกินไปหรือเปล่าที่จะพาเธอไปอยู่ที่บ้าน แค่ให้เธอนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่และจ้างพยาบาลดูแลก็น่าจะพอแล้วนะ”
“ถ้าเป็นนายป่วยแล้วให้อยู่ในโรงพยาบาลตลอดเวลานายจะเบื่อไหม”
“มันก็คงต้องเบื่อแต่ในเมื่อมันไม่มีทางเลือกก็คงต้องเป็นอย่างนั้น นอกเสียจากว่านายคิดอะไรกับเธอ” ธีรกานต์มองหน้าเพื่อนอย่างต้องการคำตอบและเมื่อเห็นเอกอาทิตย์หลบสายตาเขาก็เข้าใจทันทีว่าตอนนี้เพื่อนของตนรู้สึกยังไงกับพยาบาลสาวคนนั้น
“นายกำลังชอบเธอใช่ไหม”
“ไม่ใช่กำลังชอบแต่ฉันชอบเธอมานานแล้ว เพียงแต่ไม่มีโอกาสคุยกับเธอ”
“แต่นายก็เจอเธอมานานหลายเดือนแล้ว”
“ฉันย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ได้เกือบสี่เดือนก็เท่ากับระยะเวลาที่ฉันรู้จักกับเธอนั่นแหละ แต่เราไม่ค่อยได้คุยกันตามลำพังเลยทุกวันเจอกันก็เหมือนเพื่อนร่วมงานคนอื่น”
“ถ้าเธอจำเรื่องทุกอย่างได้นายจะทำยังไง”
“ฉันยังไม่คิดตอนนี้เราต้องแก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อนถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที”
“นายไม่กลัวเธอจะโกรธเหรอ”
“มันก็เป็นสิทธิ์ของเธอนะถ้าเธอจะโกรธแต่ตอนนี้สิ่งที่ฉันทำได้ก็คือรับเธอไปดูแลอย่างดีที่สุด มันเป็นความผิดของฉันเองด้วยที่ขับรถประมาท”
“นายพูดเหมือนจะรับผิดชอบทั้งชีวิตเลยนะ”
“มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ แต่ถ้าหากคุณอัญเขาเต็มใจให้ฉันรับผิดชอบมันก็โอเคนะ”
“ฉันขอถามอีกอย่าง ถ้าหากว่าเธอจำอะไรไม่ได้ตลอดล่ะ นายจะทำยังไง”
“ก็ดีนะสิฉันจะได้เป็นความทรงจำเดียวของเธอ”
“นายท่าจะบ้าแล้วนะ คิดอะไรแปลกๆ”
“ไม่แปลกหรอก คนเรามันก็ต้องทำอะไรเพื่อตัวเองกันบ้าง ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะ”
ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นในคืนนั้นหมอโสรยาก็รีบย้ายออกจากบ้านของเอกอาทิตย์เพราะหญิงสาวไม่อยากสู้หน้าเจ้าของบ้านและแฟนของเขาเรื่องนี้เอกอาทิตย์ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเลยแม้กระทั่งชัยภัทรซึ่งพอจะระแคะระคายเรื่องนี้ตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ แต่เรื่องทุกอย่างมันกลับไม่เป็นความลับเพราะเพื่อนของโสรยาเอาเรื่องนี้ไปพูดในกลุ่มหมอด้วยกันข่าวแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วโสรยาทั้งอายและรู้สึกเสียหน้ามากละมีคนรู้เรื่องและหญิงสาวก็ทนอยู่กับสายตาและคำนินทาของคนอื่นไม่ได้สุดท้ายเธอก็เลยลาออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับไปทำงานที่อเมริกาก่อนเดินทางคุณหมอสาวแวะมาหาเอกอาทิตย์และอัญชิสาที่บ้านเพื่อขอโทษกับเรื่องที่เธอทำขึ้น“กิ๊กขอโทษทั้งพี่ซันและก็อัญนะคะ”“ไม่เป็นไรเรื่องมันผ่านแล้ว แต่พี่หวังว่ากิ๊กจะไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ ถ้าทุกอย่างมันไม่ได้เกิดจากความรักมันก็ไม่มีความสุขหรอก” เอกอาทิตย์สอนรุ่นน้อง“กิ๊กอิจฉาอัญนะคะที่มีคนรักดีๆ อย่างพี่ซัน”“หมอกิ๊กเป็นคนสวยและเก่งอัญเชื่อว่าจะต้องได้เจอผู้ชายดีเข้ามาแน่ๆ ค่ะ”“กิ๊กขอพักเรื่องนี้ไปก่อนดีกว่าค่ะ แค่นี้ก็อายจนไม่กล้าจะสู้หน้าใครแล้ว”“พี่ว่าอีกหน่อยคนก็ลืม”“กิ๊กว่
เอกอาทิตย์พลิกให้หญิงสาวอยู่ด้านล่าง ก่อนจะส่งลิ้นร้อนเข้าไปดูดซับความหวาน จูบของเขายังคงรุนแรงและเร่าร้อนจนอัญชิสาครางประท้วงเมื่อเริ่มจะขาดอากาศหายใจ“อื้อ.....”คุณหมอหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมายจากปากอิ่มที่เริ่มจะบวมช้ำเพราะแรงจูบที่หนักหน่วง เขาเลื่อนริมฝีปากลากไล้ไปตามลำคอ ก่อนจะดูดแรงจนเป็นรอยแดง สองมือก็กอบกุมความทรวงอกขนาดเหมาะมือบีบขย้ำจนความนุ่มหยุ่นแทบปริ ก่อนจะรวบเม็ดเชอร์รี่เข้าปากดูดแรงสลับสองข้างอย่างไม่เมามันปลายลิ้นสะบัดที่ยอดถันสร้างความเสียวจนอัญชิสาดิ้นพล่าน เธอร้องครางแทบไม่เป็นภาษา ทุกจังหวะที่แก่นกายขยับเข้าออก สะโพกงอนงามก็แอ่นรับทุกแรงกระแทกกระทั้นไปตามอารมณ์ปรารถนา“หมอซันขา.....อัญไม่ไหวแล้ว”หญิงสาวกำลังไปถึงขอบสวรรค์อีกครั้ง ชายหนุ่มเร่งจังหวะตอกอัดจนเสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง ร่างบางแอ่นหยัด สองมือครูดไปตามแผ่นหลังเพื่อระบายอารมณ์ เสียงกรีดร้องเรียกชื่อเขาดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมแรงตอดรัดถี่รัวและน้ำหวานไหลอาบไปทั่วท่อนเอ็นเพิ่มความเสียวให้กับเอกอาทิตย์อีกไม่น้อย“อัญ นานหน่อยนะ ผมยังไม่อยากเสร็จ”เอกอาทิตย์บอกความต้องการไปตามตรง เขาไม่อาจยับยั้งความต้องการ
“พี่คิดว่ากิ๊กไม่จำเป็นต้องช่วยพี่เพราะคนที่จะช่วยเรื่องนี้ได้น่าจะเป็นอัญมากกว่า”“อัญเขาจะมาช่วยพี่ได้ยังไงล่ะคะ ในเมื่อเขาอยู่ที่บ้าน”“พี่ว่ากิ๊กเข้าใจผิดแล้วแหละ” ชายหนุ่มพูดแล้วหันไปมองคนรักที่ยืนกอดอกดูแฟนของตัวเองยืนคลอเคลียกับโสรยาอยู่บริเวณหน้าห้อง“กลับมาแล้วเหรอคะหมอซัน”“ครับ”“หมอซันเป็นอะไรคะหมอกิ๊ก” อัญชิสามองคนรักที่หน้าแดงก่ำสีหน้าและแววตาเหมือนคนกำลังทรมานกับอะไรสักอย่าง“กิ๊กก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้ายังไงก็คุยกันเองแล้วกันนะคะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไปจากห้องทันทีผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ เอกอาทิตย์รู้ว่าอาการที่เป็นอยู่ต้องทำยังไงถึงจะหายแต่เขาไม่อยากเอาอารมณ์นั้นมาลงกับอัญชิสา เขาอยากระบายความอัดอั้นออกมาก่อนเพราะกลัวว่าคนรักจะรับไม่ไหวถ้าเขาจะนอนกับเธอตอนนี้อัญชิสามองตามหลังอย่างไม่เข้าใจหญิงสาวไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรแต่ดูแล้วเหมือนจะอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วเธอก็ได้ยินเสียงของเขาดังมาจากห้องน้ำ หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปตามเสียงด้วยความเป็นห่วง เธอรู้สึกกว่าคนรักแปลกไปมากเพราะเสื้อผ้าของเขาถอดแล้วทิ้งลงบนพื้นซึ่งไม่ใช่นิสัยของเอกอาทิตย์ยามปกติเลยเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องน
งานเลี้ยงจัดขึ้นที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ในวันนี้มีหมอที่จบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันมาร่วมงานค่อยข้างมาก มีทั้งรุ่นพี่ที่จบมานานและตอนนี้ลาออกมาพักผ่อนอยู่กับบ้านแล้วกับรุ่นน้องที่เพิ่งเรียนจบกลับมา เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ไปทั่วห้องของโรงแรมเอกอาทิตย์นั่งคุยกับเพื่อนสนิทสามคนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคนที่ภรรยาเปิดร้านรับจัดงานแต่งงาน“ฉันนึกว่าวันนี้นายจะพาว่าที่ภรรยามาเปิดตัวเสียอีกนะซัน”“ตอนแรกก็คิดจะพามาด้วย แต่กลัวอัญจะอึดอัดน่ะ”“ฉันว่าดีแล้วที่นายไม่พาเธอมาด้วย เมียฉันเคยบอกว่าเธอรู้สึกอึดอัดมาก เวลาที่พวกเรารวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่แบบนี้แต่ถ้าไปกันเฉพาะเพื่อนกลุ่มของพวกเราเหมือนตอนไปเจอกันที่ภูเก็ตแบบนั้นเธอจะรู้สึกสนุกและสบายใจมากกว่า” เพื่อนสนิทคนหนึ่งพูดขึ้นเอกอาทิตย์นั่งคุยกับเพื่อนจนกระทั่งงานเลี่ยงเลิกพวกเขาสี่คนก็พากันไปนั่งดื่มที่ผับชั้นใต้ดินของโรงแรมและบังเอิญมากที่โสรยากับเพื่อนอีกสองคนก็มาที่นั่นด้วยพวกเธอมากันแค่สามคนเมื่อเห็นหมอรุ่นพี่นั่งอยู่ก่อนแล้วโสรยาและเพื่อนจึงเข้ามาขอนั่งด้วย หญิงสาวพยายามชวนเอกอาทิตย์ให้ดื่มมากกว่าทุกคนจนชายหนุ่มรู้สึกถึงความผิด
เช้านี้โสรยาตื่นนอนเร็วกว่าปกติเพราะจะออกมาทำอาหารเช้าให้กับหมอเอกอาทิตย์ พอออกมาจากห้องนอนก็ส่งยิ้มทักทายเจ้าของบ้านที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก“พี่ซันตื่นเช้าจังนะคะ”“กิ๊กก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะครับ”“ก็กิ๊กจะรับมาทำอาหารเช้าให้พี่ซันนี่คะ กิ๊กจำได้ว่าแต่ก่อนพี่ชอบกินขนมปังปิ้งกับไข่ดาวแบบไม่สุก เดี๋ยวกิ๊กจะทำให้นะคะ”“ขอบคุณนะครับที่จำได้ว่าพี่ชอบกินอะไร แต่กิ๊กไม่ต้องทำเผื่อพี่หรอกนะ”“ทำไมล่ะคะ”“พี่ว่าจะไปหาข้าวกินที่โรงพยาบาลน่ะ”“จะไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ เช้าไปหรือเปล่า”“ไม่หรอกครับวันนี้พี่ต้องราวน์คนไข้หลายคนน่ะ ขอตัวก่อนนะอัญลงมาพอดีเลย” เขายิ้มให้กับคนรักที่เดินลงมาจากชั้นสองพอดี“รออัญนานไหมคะ”“ไม่นานครับ ไปกันเลยนะ”“ได้ค่ะ”“พี่ซันคะ พี่ไปก่อนแบบนี้กิ๊กจะไปทำงานยังไงคะกิ๊กไม่มีรถนะคะ” โสรยาคิดว่าถ้าเธอไม่มีรถใช้แล้วในทุกวันจะได้ไปทำงานและกลับบ้านพร้อมกับเอกอาทิตย์เธอจึงบอกเขาว่ารถมีปัญหาทั้งที่จริงแล้วเธอให้เพื่อนมาเอารถของตนเองไปใช้“พี่คิดว่าคนเก่งอย่างกิ๊กก็น่าจะหาทางไปทำงานได้นะ แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็บอกผักบุ้งเรียกรถให้ก็ได้ พี่ขอตัวไปก่อนนะ” เขาพอจะเดาออกว่า
“อัญเป็นยังไงบ้าง” อังคณารีบเข้ามาทักทายเพื่อนรักเพราะไม่ได้เจอกันมาหลายวัน“อัญสบายดี อุ๋มล่ะหยุดตั้งหลายวันไปเที่ยวไหนมาล่ะ”“กลับบ้านมาจ้ะ”“บ้านที่อุทัยเหรอ”“อือ มีขนมมาฝากด้วยนะ อยู่ในตู้เย็นอุ๋มเขียนชื่อไว้ให้แล้วว่ามีของใครบ้าง”“ขอบใจจ้ะ”“อุ๋มได้ยินมาว่าหมอกิ๊กจากแผนกเด็กขอไปอยู่ที่บ้านหมอซันเหรอ”“รู้ได้ยังไง”“เมื่อกี้อุ๋มไปเอาแฟ้มที่แผนกเด็กมาน่ะ แล้วได้ยินหมอคุยโทรศัพท์กับเพื่อน”“ได้ยินหรือแอบฟังล่ะ” อัญชิสาถามเพื่อนอย่างรู้ทัน“ตอนแรกก็แค่ได้ยินแต่ พอได้ยินชื่อหมอซันก็เลยแอบฟัง”“หมอกิ๊กเธอว่ายังไงบ้าง”“ได้ยินเธอบอกเพื่อนว่าเหลืออีกสี่วันที่จะอยู่บ้านหมอซัน เธอต้องรีบทำให้สำเร็จ แต่อุ๋มไม่เข้าใจความหมายเลย หมอกิ๊กเธอคิดจะทำอะไรกันแน่นะ”แล้วอัญชิสาก็เล่าเรื่องที่หมอโสรยาเคยชอบหมอเอกอาทิตย์มาก่อนให้กับอังคณาฟัง“นั่นไงอุ๋มว่าแล้ว คนเราจะไปขออยู่บ้านคนอื่นได้ยังไงถ้าไม่มีอะไรแอบแฝง พยาบาลที่แผนกเด็กบอกว่าหมอกิ๊กนะชอบหมอซัน มากที่เธอย้ายมาทำงานที่นี่ก็เพราะอยากจะใกล้ชิดกับหมอซันอีกครั้ง อัญต้องระวังดีๆ นะอย่าให้หมอซันกับหมอกิ๊กอยู่ตามลำพังสองคนเด็ดขาด”“เรามองหมอกิ๊กในแง