“ไอ้หน้าตัวเมียนั่นมันคุยอะไรกับเธอน่ะพราว” ชื่นชบา หรือ ชบาแก้ว ฉายาของสาวอวบระยะสุดท้ายถามอย่างไม่พอใจที่เห็นวายุมาวอแวกับเพื่อนรักของตน
“ฉันว่า นายนั่นคิดจะกลับมาหายายพราวชัวร์เลย คงนึกเสียดายล่ะสิ คืนนี้เห็นยายพราวของเราสวย” นิ่ม เพื่อนสาวตัวผอมสูงโปร่งที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้นบ้าง
“เธออย่าไปหลงคารมเขาอีกนะพราว เธอก็รู้แล้วนี่นาว่าเขาเป็นคนยังไง”
ชื่นชบาพูดอย่างเป็นห่วงกลัวว่าพราวแสงแขจะหลงคารมของวายุ เพราะตอนนี้พวกเธอทั้งสามต่างรู้ซึ้งถึงสันดานที่แท้จริงของวายุแล้ว โดยเฉพาะพราวแสงแขซึ่งบัดนี้รู้ดีเลยทีเดียวว่าวายุนั้นร้ายกาจและเห็นเห็นแก่ตัวเพียงใด
“ฉันไม่มีความรักหรือหลงใหลในตัวเขาอีกแล้วล่ะฉันก็คนนะเจ็บแล้วก็จำ” พราวแสงแขยิ้มให้เพื่อนๆ
“ดีแล้วเพื่อนรัก ฉันดีใจนะที่เธอคิดได้แบบนี้ แต่คิดไปอีกทีก็นึกสมน้ำหน้ายายเมรี่เนอะที่เห็นก้อนกรวดเป็นเพชรไปเสียได้น่าเสียดาย สวย รวย แต่โง่” นิ่มเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจและนึกเคืองเมริสาอยู่
“เธอก็ว่าแรงไปยายนิ่ม ยังไงเมรี่เขาก็เคยเป็นเพื่อนเรา”
“นี่ยายชบาแก้ว เธอคิดเหรอว่ายายนั่นเขาคิดว่าเราเป็นเพื่อนเขาจริงๆ จะบอกอะไรให้นะ เหตุผลเดียวที่เขามาคบกับพวกเราเพราะผู้ชายและอิจฉายายพราว คิดดูนะ พราวน่ะทั้งสวย น่ารัก เรียนเก่ง ใครๆ ก็ชื่นชม เป็นดาวเด่นที่เจิดจรัสกว่านางที่แม้จะรวยแต่ไร้สมอง ไม่มีใครสนใจ ก็เลยมาคบกับพวกเราเพื่อให้คนอื่นสนใจนาง อีกอย่างเพราะนางจ้องอีตาวายุตาเป็นมัน ฉันดูออกตั้งแต่ก้าวแรกที่นางลดตัวมาคบกับพวกเราแล้ว ดอกฟ้าผู้สูงส่งลดตัวมาคบดอกหญ้าอย่างพวกเราใครเห็นก็ต้องนึกชื่นชม นางก็ได้ใจคนทั้งมหาวิทยาลัยไปเต็มๆ ก็เพราะพวกเรา ไหนจะดูงดงามเพียบพร้อมอีกต่างหาก ที่สำคัญนางก็แอบมาตีท้ายครัวเพื่อนรักอย่างยายพราว จบ มหากาพย์ดอกฟ้าผู้แสนงาม...” นิ่มพูดพลางทำมือทำไม้กรีดกรายประกอบคำพูด
“แหม.. มันก็จริง แต่ก็น่าจะเห็นแก่ยายพราวบ้าง...”
“ไม่เป็นไรหรอกชบาแก้ว ก็จริงอย่างยายนิ่มว่านั่นล่ะ อีกอย่างฉันก็รู้ตัวดีว่าหากไม่ติดว่าพ่อแม่ฉันกับพ่อแม่พี่วายุคบหากันมานานจนคิดหมั้นหมายเราไว้ตั้งแต่เด็กๆ พี่วายุเขาก็คงไม่สนใจฉันหรอก ในเมื่อเขาเป็นคนดัง เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัยที่ทั้งหล่อทั้งเก่ง ผู้หญิงทุกคนก็ต้องอยากได้เขาเป็นแฟน ฉันก็คิดฝันไปเองว่าทุกอย่างมันจะเป็นไปตามที่ผู้ใหญ่ตั้งความหวังไว้” พราวแสงแขยิ้มบางๆ ให้เพื่อนๆ
“ฉันดีใจนะที่เห็นเธอคิดได้แบบนี้น่ะพราว ฉันยังห่วงอยู่เลยว่าเธอจะทำใจไม่ได้...”
“ฉันทำใจได้แล้ว อย่าห่วงเลยฉันไม่มีวันกลับไปหาคนพวกนั้นหรอก เราเดินกันคนละทางแล้ว...”
พราวแสงแขบอกอย่างมั่นใจ โดยไม่รู้เลยว่าในอนาคตอันใกล้เธอจะต้องมาใช้ชีวิตวนๆ เวียนๆ อยู่ใกล้คนที่เธอพูดถึงอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง...
แมทธิวกัดกรามมกรอดเมื่อได้ยินเสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้นและภาพน้องสาวร้องไห้ฟูมฟายถึงปัญหาที่เธอได้พบเจอจากการกระทำของสามีและบุคคลที่เป็นมือที่สามผ่านช่องการการสื่อสารด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยซึ่งทุกวันนี้คนเราสามารถคุยกันผ่านโทรศัพท์พร้อมๆ กับการได้เห็นหน้าตาท่าทางกันได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส และมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดรวดร้าวของน้องสาวคนเดียวที่เขารักและถนอมเธอดังเจ้าหญิง...
“พี่แมทต้องช่วยเมรี่นะคะ พี่แมทต้องช่วยเมรี่... ฮือๆๆ” เมริสาร่ำไห้กับพี่ชายปริ่มจะขาดใจ บอกเล่าความเจ็บปวดและความไม่ซื่อสัตย์ของสามีให้พี่ชายได้รับรู้
“เขากลับไปหานังนั่น เขากลับไปหากัน กลับไปหาแฟนเก่าของเขา พวกมันหักหลังเมรี่พวกมันรวมหัวกันหลอกเมรี่ พวกมันสารเลวที่สุดเลย”
“เมรี่ไม่ต้องห่วง พี่จะช่วยจัดการเอง น้องอย่าคิดมากนะ นอนพักผ่อนซะ แล้วพี่จะรีบกลับไปจัดการคนที่ทำน้องพี่เจ็บปวดให้สาสมกับสิ่งที่มันทำ...” แมทธิวปลอบน้องสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง
“จริงๆ นะคะพี่แมท พี่แมทต้องมาหาเมรี่เร็วๆ นะคะ เมรี่ใจจะขาดแล้ว... ฮือออ...”
“จ้ะ เมรี่นอนเถอะนะน้องพี่ พักผ่อนเยอะๆ อย่าลืมว่าตอนนี้น้องไม่ไดตัวคนเดียว...”
“ค่ะ พี่แมทต้องรีบมานะคะ ต้องมานะคะ มาจัดการพวกมัน...” เมริสาบอกด้วยน้ำเสียงสดใสเมื่อพี่ชายรับปากมั่นเหมาะก่อนจะตัดสัญญาณการติดต่อไป...
แมทธิวนั้นรู้สึกเจ็บปวดกับความโศกเศร้าเสียใจของน้องสาว แต่ในขณะเดียวกันเมริสากลับยิ้มร้ายกาจกับตัวเองเมื่อคิดว่าพี่ชายจะต้องมาจัดการกับคนที่มันบังอาจมาทำให้เธอเสียใจ บัดนี้ในใจของเธอมีแต่ความขุ่นแค้นจากสิ่งที่เธอคิดว่ามันคือความรัก...
ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่อย่างโกรธจัดจนเก้าอี้ตัวใหญ่ที่นั่งอยู่เลื่อนไปกระทบผนังห้องดังปัง ชายหนุ่มกัดกรามกรอดเมื่อได้รับข่าวร้ายจากเมืองไทยอีกครั้งหลังจากที่คุยกับน้องสาวไปเมื่อไม่นานมานี้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มวาวโรจน์ด้วยความแค้นเคือง มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ เมื่อคืนก่อนเขายังคุยกับน้องสาวดีๆ อยู่เลยและวันนี้เขาก็กำลังคิดว่าจะเดินทางไปเมืองไทยหลังจากที่เคลียร์งานสำคัญเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ไม่คิดว่าเรื่องร้ายมันจะเกิดขึ้นรวดเร็วเช่นนี้
“แล้วฉันจะกลับไปจัดการเอง นายดูแลคุณแม่กับน้องสาวฉันดีๆ ก็แล้วกัน ใครที่มันทำให้น้องสาวฉันเจ็บ มันจะต้องเจ็บกว่า...” กล่าวจบชายหนุ่มก็วางสายหากแต่ประกายกล้าในหน่วยตาคมก็ไม่ได้ลดความร้อนแรงลง
“คาลส์ เตรียมเครื่องบินฉันจะกลับเมืองไทยเย็นนี้...”
หันมาสั่งลูกน้องคนสนิทอีกคนเสียงเข้มแล้วร่างสูงก็เดินออกจากห้องทำงานไปด้วยย่างก้าวที่มั่นคง...
ตอนที่61. อวสานแมทธิวมองใบหน้ากลมป้อมแก้มยุ้ยแดงปลั่งของลูกชายอย่างแสนรัก ดวงตาสีมรกตที่ถอดแบบจากเขานั้นใสแจ๋วไร้เดียงสา จมูกเล็กๆ โด่งเป็นสันมีเหงื่อซึมเพราะวิ่งเล่นอย่างซุกซน ริมฝีปากแดงสดที่ได้มาจากคุณแม่นั้นทำให้ผู้เป็นพ่อไพล่นึกถึงริมฝีปากนุ่มๆ หวานๆ ของผู้เป็นภรรยาเสียร่ำไป ชายหนุ่มพลิกตัวนอนคว่ำเท้าแขนแกร่งกับพื้นหญ้าแล้วถามลูกชายตัวน้อยเมื่อพ่อหนูเอาแต่มองหน้าเขานิ่ง“มีอะไรน้อง มองหน้าพ่อนิ่งเชียว”“ปาปา แก่...” คำตอบของลูกชายที่ไม่ค่อยชัดนั้นทำให้แมทธิวแทบสำลักน้ำลายตัวเอง จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก แต่คุณมาร์คกลับหัวเราะลั่นเลยทีเดียว แมทธิวจึงหันไปมองค้อนบิดาเสียยกใหญ่“ฮ่าๆๆ หลานปู่มันฉลาดเหมือนปู่เลย มานี่มาลูกมาหาปู่ดีกว่า”“ปูๆ หาปู หล่อๆ” เด็กชายลุกขึ้นเดินไปหาคุณปู่ที่อ้าแขนต้อนรอรับแล้วหอมแก้มคุณปู่อย่างประจบออดอ้อน แมทธิวได้แต่เข่นเขี้ยวเจ้าตัวแสบที่มีแววแสบสันได้ใจตั้งแต่เล็กแต่น้อย“ทำอะไรกันอยู่คะหนุ่มๆ มากินของว่างกันได
ตอนที่60.“แหวะหลงตัวเอง”“บอกรักพี่แมทอีกครั้งสิจ๊ะทูนหัว”“ไม่...” หญิงสาวเง้างอดหน้าแดงก่ำ“บอกหน่อยไม่ได้เหรอครับ พี่แมทอยากฟังอีกจัง”“ตัวเองก็บอกเขาก่อนสิ” หญิงสาวต่อรองพร้อมทั้งเอนพิงอกกว้างของเขาอย่างยอมจำนนหลุบตามองมือเล็กของตนในอุ้งมือใหญ่อบอุ่นของเขาด้วยหัวใจพองโต น้ำตาเหือดแห้งไปพร้อมกับความอุ่นซ่านแผ่กระจายครอบคลุมไปทั้งดวงใจที่มืดมิดหนาวเหน็บมานานด้วยความหวั่นระแวง“ผม แมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ รัก นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเธอกับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และผมจะบอกรักเธอกับลูกๆ ทุกวัน ตราบเท่าชีวิตของผม...” เสียงทุ่มนุ่มนวลบอกเบาๆ กับใบหูบางทว่าหนักแน่นเต็มไปด้วยพลังแห่งรักที่เธอสัมผัสได้ด้วยใจ“ฉัน นางพราวแสงแข โรดิเกรซ มาเวลส์ ก็จะรัก นายแมทธิว โรดิเกรซ มาเวลส์ เท่าชีวิต และจะรักเขากับลูกๆ ของเราตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะบอกรักเขากับล
ตอนที่59.หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วพราวแสงแขก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนของตนซึ่งสามีสุดหล่อของเธอกำลังปูที่นอนของตนเองหน้าเตียงเล็กๆ ของเธอเช่นทุกวัน หญิงสาวมองแผ่นหลังกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามของเขาอย่างหลงใหลและแอบหน้าแดงที่ตนกลายเป็นสาวใจแตกชอบมองแผงอกล่ำๆ กล้ามสวยๆ ของสามีไปเสียแล้ว จากแรกๆ ที่เคยต่อว่าที่เขาไม่ใส่เสื้อเข้านอน ตอนนี้กลายเป็นว่าเธอชอบให้เขาเปลือยอกล่ำๆ ให้มอง และอยากมองทุกวัน...“พราวมานอนเถอะดึกแล้ว เดี๋ยวพี่เอาแก้วนมไปเก็บก่อนนะครับ”เขาลุกขึ้นแล้วหยิบแก้วนมออกไปเก็บแต่ขณะที่เดินผ่านเธอก็โน้มใบหน้าลงมาจุ๊บแก้มนวลใสเสียฟอดใหญ่แล้วก็ผิวปากเดินออกไปอย่างอารมณ์ดีปล่อยให้เธอค้อนลมค้อนฟ้าอยู่คนเดียว“คนบ้า ฉวยโอกาสตลอดเลย”หญิงสาวบ่นเขาด้วยหัวใจพองโตแล้วคลานขึ้นเตียงอย่างง่วงงุนแต่ก็พยายามฝืนความง่วงไว้เพราะเธอยังมีเรื่องจะคุยกับเขามากมาย และจะต้องคุยกันให้จบในคืนนี้“ทำไมยังไม่นอนล่ะครับคนสวย เอ.. หรือว่าเจ้าตัวเล็กอยากใ
ตอนที่58.“คุณพ่อคุณแม่ให้พรผมกับพราวมั่งสิครับ” แมทธิวเอ่ยขึ้นบ้างพลางรั้งให้พราวแสงแขมานั่งตรงหน้าบิดามารดาของตนพร้อมทั้งมารดาของพราวแสงแขด้วย“อะไรกันแมทนี่ล่ะก็ เราก็ได้พรจากพ่อกับแม่ไปแล้วไงจ๊ะ”“ก็ผมอยากได้อีกนี่นา แล้วก็ยังอยากได้ไปเรื่อยๆ จนกว่าพรของคุณพ่อคุณแม่จะหมดนั่นล่ะครับ”ชายหนุ่มพูดอย่างนุ่มนวลร่างสูงนั่งพับเพียบดูนอบน้อมพราวแสงแขมองสามีด้วยความชื่นชม แมทธิวเป็นคนทำงานเอาจริงเอาจังเสียงดังและเด็ดขาดเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องแมทธิวจะเป็นเจ้านายที่เข้มงวดจริงจัง ในการทำงานของเขานั้นจะเต็มไปด้วยความเฉียบขาดดุดันจนเป็นที่กล่าวขวัญและใครๆ ต่างก็ยำเกรง แต่เมื่อเขาอยู่กับคนในครอบครัว แมทธิวจะเป็นผู้ชายที่อบอุ่น อ่อนโยนและเอาใจใส่ทุกคนในครอบครัวอย่างดี และเขายังปฏิบัติต่อมารดาของเธออย่างนอบน้อมไม่มีท่าทางที่ทำให้รู้สึกว่าเขารังเกียจเธอกับมารดาว่าต่ำต้อย นั่นคือสิ่งที่พราวแสงแขสัมผัสได้แม้ในคราแรกที่พบกันเขามักจะใช้ถ้อยคำรุนแรงและดูถูกเธอก็ตาม แต่ในวันนี้แมทธิวให้เกียรติเธอกับม
ตอนที่57.“เหรอจ๊ะ แหม.. แม่ก็นึกว่าพราวจะแกล้งอะไรแมทอีก”“แม่น่ะ ชอบมองพราวเป็นเด็กเกเรไปได้”“ก็เราน่ะเหลือเกินจริงๆ นี่พราว เรื่องมันก็แล้วไปแล้วอย่างอนนักเลยลูก เดี๋ยวพี่เขาก็เบื่อกันพอดี” คำพูดของมารดาทำให้พราวแสงแขหน้างอ“ใช่สิ.. แม่มีลูกใหม่แล้วนี่พราวก็เป็นหมาหัวเน่า” พราวแสงแขตัดพ้อน้ำตาคลอๆ เหมือนจะร้องไห้“แล้วกันไปกันใหญ่แล้วลูกคนนี้ เฮ้อ.. แมทอย่าตามใจพราวนักนะลูก ยายพราวน่ะเขาดื้อเงียบ ดูสิ.. แค่นี้ก็ว่าแม่รักคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง เอาล่ะแม่ไม่กวนแล้วแม่จะไปช่วยคุณมาลินีเตรียมของจัดงานเลี้ยงคืนนี้ เย็นนี้เราจะไปทานข้าวที่บ้านโน้นนะจ๊ะ แล้วคืนนี้จะเป็นวันฉลองการแต่งงานของหนูเมรี่กับหลุยส์ด้วย” ผู้เป็นแม่บอกอ่อนโยนดังเดิมแล้วขยี้เรือนผมของลูกสาวแสนงอนเบาๆ แล้วเดินไปขึ้นรถที่คนจากบ้านของแมทธิวมารอรับ”คืนนี้เมียพี่จะต้องสวยพอๆ กับเจ้าสาวแน่ๆ เราไปดูชุดที่จะไปคืนนี้กันมั้ยครับ”“
ตอนที่56.“จะหน้าด้านอยู่ที่บ้านฉันอีกนานแค่ไหนคะ” หญิงสาวเท้าสะเอวมองคนที่กำลังรีดผ้าหน้าเป็นมันอยู่อย่างฉุนๆ ตอนนี้แม่แขของเธอรักลูกเขยมากคอยปกป้องเข้าข้างเขาทุกอย่าง ยิ่งเธอพยายามแกล้งเขามากเท่าไหร่เขาก็ไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ง่ายๆ ไม่ว่าจะทำงานบ้านซักผ้ารีดผ้า เอาผ้าไปส่งลูกค้า ดูแลบ้านและทำสวนผักเล็กๆ ไว้รับประทานเองแมทธิวก็ทำได้ และทำหน้าที่ทุกอย่างที่เธอตั้งกฎไว้ได้ดีไม่มีที่ติซึ่งมันทำให้เธอหงุดหงิดประสาคนท้องที่อารมณ์แปรปรวนง่าย“เมียอยู่ที่ไหน ผัวก็อยู่ที่นั่นจ้ะ พราวไปนั่งสิจ๊ะ ยืนนานๆ เดี๋ยวก็เมื่อย ลูกเราจะเมื่อยด้วยนะครับ” นอกจากจะไม่สนใจความฉุนเฉียวเธอแล้วแมทธิวยังเจ้ากี้เจ้าการพาเธอมานั่งที่เก้าอี้หวายตัวใหญ่แสนสบายที่เขาซื้อให้เธอนั่งพักผ่อน พอเห็นเก้าอี้ตัวนี้พราวแสงแขก็นึกถึงที่มาของมันอย่างเสียไม่ได้และนึกดีใจที่เขามีความเห็นอกเห็นใจคนอื่นเมื่อวันก่อนที่ไปฝากครรภ์เธอเดินผ่านร้านขายเก้าอี้หวายข้างทางเท้าก่อนถึงโรงพยาบาล ซึ่งคนขายเป็นตาแก่ๆ คนหนึ่งกับหลานชายตัวเล็กๆ มาช่วยกันขาย