เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสามคนก้าวออกมาและเข้าสู่ผับหรูที่ตั้งอยู่บนยอดตึกสูง ดีเจที่อยู่หลังโต๊ะเปิดแผ่นกำลังเล่นเพลงมันส์ที่เต็มไปด้วยจังหวะที่กระฉับกระเฉงและเบสที่หนักหน่วง ทำให้บรรยากาศของผับเต็มไปด้วยพลังและชีวิตชีวา ทุกคนในร้านกำลังเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน
ขณะที่เพลงมันส์จากดีเจและแสงไฟที่หมุนเวียนไปทั่วร้านเพิ่มความรู้สึกเซ็กซี่และเต็มไปด้วยพลัง
เฟอร์นิเจอร์หนังสีดำและทองคำถูกจัดวางอย่างมีสไตล์ เพิ่มความหรูหราให้กับสถานที่ ผนังของร้านประดับด้วยไฟสีทองที่สลัว ส่องสว่างไปที่โต๊ะและบาร์ ทำให้บรรยากาศดูลึกลับและน่าหลงใหล
คีธเดินนำหน้าในชุดสูทสีเข้มที่ดูเนี๊ยบแต่เต็มไปด้วยสไตล์ เขาไม่ผูกเน็กไทและปล่อยให้เชิ้ตด้านในเปิดลงสามเม็ด ทำให้เห็นความเซ็กซี่และมั่นใจในรูปร่างของเขา ทำให้เขาดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่พยายาม
แอนนาและลลนาเดินตามมาในเดรสสั้นสีดำที่โดดเด่นและเซ็กซี่ แอนนาในเดรสที่เน้นการตัดเย็บเรียบหรูและตกแต่งด้วยลายละเอียดที่เพิ่มความมีเสน่ห์ ขณะที่ลลนาในเดรสที่ท้าทายและทันสมัย ชุดของเธอเน้นรูปร่างได้อย่างดี ทำให้เธอดูเซ็กซี่และสง่างามอย่างเห็นได้ชัด เครื่องประดับที่เธอสวมใส่และรองเท้าส้นสูงที่เปล่งประกายเพิ่มความน่าสนใจให้กับลุคของเธอ
เมื่อพวกเขาเดินเข้าไปในผับ ทุกสายตาหันมาที่พวกเขาด้วยความชื่นชมและความสนใจ
ที่บาร์สองหนุ่มใหญ่ที่นั่งอยู่ มองไปที่ทางเข้าด้วยความสนใจ ภาคินเห็นหลายสายตาที่จับจ้องมาที่สาวน้อยของเขา เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาแอนนาและลลนา มือใหญ่ของเขาโอบเอวเล็กๆ ของลลนาอย่างมั่นคง ดึงเธอเข้ามาใกล้และพาเดินไปยังโต๊ะ
เคนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ มองเหตุการณ์ด้วยท่าทางนิ่งเฉย เอียงคอเล็กน้อย แต่ไม่ขยับตัว เมื่อภาคินและสาวๆ เข้ามาใกล้ เคนจึงลุกขึ้นและเดินไปที่โต๊ะริมบาร์ พร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
คีธดึงเก้าอี้ให้แอนนาอย่างสุภาพ ขณะที่เคนมองตามด้วยความไม่รู้ว่าคีธคือเพื่อนของสองสาวนี้ ใบหน้าของเคนเริ่มตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย
ภาคินดึงลลนามานั่งลงบนตักของเขา มือใหญ่โอบรอบเอวเล็กๆ ของเธออย่างมั่นคง แสดงออกถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
เคนมองภาคิน ส่ายหน้าแบบระอาใจ ส่วนคีธมองไปที่แอนนาทั้งสองมองตากันอมยิ้ม ความหมายในใจคือรู้สึกอิจฉาลลนาอย่างมาก แต่ภาพที่เคนเห็นกลับมีความหมายที่แตกต่างออกไป
แอนนาเรียกพนักงานและสั่งบรั่นดีด้วยท่าทางมั่นใจ ขณะที่คีธสั่งไวน์อย่างพิถีพิถัน ลลนาก็เลือกไวน์เช่นกันเพราะมันเป็นเครื่องดื่มโปรดของเธอ ภาคินเงียบขณะรอเครื่องดื่ม เขาเลือกบรั่นดี เคนเองก็เช่นกัน
เมื่อเพลงอีดีเอ็มจากดีเจเริ่มขึ้น อินโทรที่คึกคักและจังหวะแดนซ์ได้กระตุ้นให้บรรยากาศในผับเต็มไปด้วยพลัง แอนนาและคีธมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น เพราะเพลงนี้เป็นเพลงโปรดของทั้งคู่
คีธลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ดึงแอนนาให้ลุกตาม เขาจับมือเธออย่างมั่นใจและพาเธอไปยังฟลอร์ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเคลื่อนไหวไปตามจังหวะของเพลง แอนนาและคีธก้าวเข้าสู่พื้นที่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
พวกเขามาถึงฟลอร์ แอนนาและคีธเริ่มเต้นด้วยท่าทางเร่าร้อนที่เปี่ยมไปด้วยพลัง พวกเขาหมุนตัวและโยกย้ายตามจังหวะเพลงอย่างเต็มที่ การเคลื่อนไหวของพวกเขาเต็มไปด้วยความร้อนแรงและความรู้สึกอิสระ แอนนาหมุนตัวไปตามจังหวะเพลง ส่วนคีธยืดแขนและขยับสะโพกตามจังหวะดนตรีอย่างมั่นใจ
เคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมองตามด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ ความไม่พอใจแวบหนึ่งในดวงตาของเขาแสดงถึงความไม่พอใจและอึดอัดใจในภาพที่เห็น คีธและแอนนาทำให้ฟลอร์เต้นร้อนแรงไปด้วยการเคลื่อนไหวที่เซ็กซี่และมีเสน่ห์ ดึงดูดความสนใจของทุกคนที่อยู่ในผับ
เพลงอีดีเอ็มเริ่มขึ้นด้วยจังหวะที่กระตุ้นรุนแรงสนุกสุดเหวี่ยงและเต็มไปด้วยพลังงาน ลลนาที่คล้องแขนเล็กๆ ของเธอที่ต้นคอของภาคิน เตรียมตัวจะลุกไปเต้นที่ฟลอร์ที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง แต่ทันใดนั้น ภาคินก็ดึงเธอไว้
เขาใช้มือใหญ่ของเขาจับที่เอวเล็กๆ ของลลนาอย่างมั่นคง ดึงเธอเข้ามาใกล้และให้เธอกลับมานั่งบนตักของเขาอย่างอ่อนโยน ภาคินยิ้มให้เธอ ขณะที่ดวงตาของเขาแสดงถึงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
"ไม่ไปไหนนะครับ"
ลลนาเงยหน้าขึ้นมองเขาและกระซิบเสียงเบาอย่างเป็นกันเอง
"ขอไปสนุกกับเพื่อนๆหน่อยนะคะ คนแก่"
เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและความขี้เล่น
ภาคินยิ้มเจ้าเล่ห์และจับที่เอวของลลนาอย่างมั่นคง ก่อนที่เขาจะกระซิบด้วยน้ำเสียงต่ำและเต็มไปด้วยความอบอุ่น
"ถ้าอยากไป สนุกกับเพื่อน จูบทีนึงก่อนสิ"
ยิ้มหวาน
"โอเคค่ะ"
ลลนาพยายามโน้มตัวไปจูบภาคินตามคำขอของเขา มือใหญ่ของภาคินกลับดึงเธอเข้ามาใกล้ เขาไม่ปล่อยให้จูบเป็นแค่จูบเบาๆ เท่านั้น แต่เปลี่ยนเป็นจูบที่เร่าร้อนและเต็มไปด้วยความรักและความปรารถนา
ภาคินจับที่เอวของลลนาแน่น ดึงเธอเข้ามาใกล้มากขึ้น จูบของเขาลึกและดึงดูดอย่างที่ไม่อาจปฏิเสธ ความร้อนแรงของจูบทำให้ลลนาไม่สามารถละสายตาจากเขาได้ เธอรู้สึกถึงความรักและความเป็นเจ้าของที่ชัดเจน จูบของภาคินเต็มไปด้วยความรู้สึก เขาใช้ริมฝีปากและลิ้นสัมผัสลลนาอย่างนุ่มนวลและเร่าร้อน
เมื่อจูบจบลง ลลนาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหลและความพอใจ ภาคินยิ้มให้เธอด้วยความสุข และเธอก็ยิ้มตอบ
"ไปสนุกกับเพื่อนๆเถอะ"
ลลนาหัวเราะเบาๆ และเดินไปยังฟลอร์เต้นรำด้วยความตื่นเต้นและมีความสุข ในขณะที่ภาคินนั่งอยู่ที่โต๊ะมองเธอด้วยความรัก
“โอ้ยยยย เหม็นกลิ่นความรักเว้ย”
เคนที่นั่งอยู่ที่อีกฟากของโต๊ะเลิกคิ้วและทำหน้ารังเกียจเล็กน้อย เขาหยิบแก้วบรั่นดีของเขาขึ้น ภาคินที่เห็นท่าทางของเคนก็ไม่สามารถหยุดหัวเราะได้ เขายิ้มอย่างมีความสุข
ภาคินที่ได้ยินลลนาบอกมานานแล้วว่าเพื่อนสนิทสมัยเรียนอีกคนคือคีธ และคีธเป็นเกย์ แต่ด้วยความที่เขาอยากแกล้งเคน เลยพูดออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
"เฮ้ เคน ดูท่าทางแอนนากับคีธนี่จะเป็นแฟนกันรึเปล่านะ?"
เคนที่กำลังจิบบรั่นดีอยู่ หยุดชะงักและมองไปที่ภาคิน
“จริงเหรอ?” เคนถามอย่างไม่แน่ใจ
“ใครจะไปรู้ล่ะ” ภาคินพูดพร้อมกับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “บางทีอาจมีอะไรที่เรายังไม่รู้ก็ได้”
เคนมองไปที่แอนนาและคีธที่กำลังเต้นรำอย่างสนุกสนานบนฟลอร์ ด้วยท่าทางที่ดูมีความสนิทสนมกันอย่างเห็นได้ชัด
ภาคินหัวเราะเบาๆ และยกแก้วบรั่นดีขึ้นเพื่อดื่ม ในขณะที่เคนยังคงมองไปที่ฟลอร์เต้นรำด้วยสีหน้าที่เริ่มจะบึ้งตึงขี้น
"เอาล่ะ มา....ดื่มกันต่อเถอะ" ภาคินพูดพร้อมกับอมยิ้มอย่างพอใจ
คีธกอดแอนนาแน่นและกระซิบที่ข้างหูของเธอแอนนาพยักหน้าเข้าใจและยิ้มให้เขา ขณะที่คีธเดินออกจากฟลอร์เต้นรำและมุ่งตรงไปหาภาคินที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ
“คุณลุงครับ พอดีมีธุระด่วน ขอตัวก่อนนะครับ”
“ฝากสาวๆ ด้วยนะครับ”
เขาพูดพร้อมกับยิ้มกว้างให้กับเคน ก่อนจะหันไปโบกมือให้สองสาวบนฟลอร์แอนนาและลลนาเห็นคีธเดินออกไปก็พยักหน้าให้เขา แล้วก็หันกลับมาสนุกกันต่อ
……………………………………………….
คนขับรถจอดรถหรูหน้าตึกสูง ภาคินยิ้มให้ลลนาขณะที่เขายังคงโอบเอวของเธอ หันไปพูดกับแอนนา
“เดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งนะแอนนา” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
เคนเดินตามมา ก่อนที่จะดึงแขนแอนนาเบาๆ
“เดี๋ยวฉันไปส่งเอง”
ภาคินมองสถานการณ์ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนหันกลับไปที่รถหรูที่จอดรออยู่ ขณะที่เคนดึงมือแอนนาพาเธอเดินไปที่รถของเขาที่มีคนขับรถรออยู่เช่นกัน
“คุณลุงวางแผนอะไรหรือเปล่าคะ?”
ภาคินยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ขณะที่เขาเอนตัวพิงพนักนั่งในรถ
“ทำไมล่ะ?
ภาคินกดปิดม่านระหว่างห้องโดยสารและคนขับด้านหน้า ก่อนหันมาหาลลนา เขายิ้มเล็กน้อย
“ อย่าพูดถึงเรื่องอื่นเลย คืนนี้เรามาพูดเรื่องของเราดีกว่า ”
ภาคินยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ ก่อนจะดึงลลนามานั่งลงบนตักของเขาอย่างเป็นธรรมชาติมือของเขาโอบรอบเอวของเธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา เขาโน้มตัวลงไปใกล้ลมหายใจของเขาร้อนระอุเมื่อเขาเริ่มจูบเธออย่างดูดดื่มและเร่าร้อนลลนารู้สึกถึงความร้อนแรงที่แผ่ซ่านจากภาคิน ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ตื่นเต้นและลุ่มหลง เธอไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ได้ ความเร่าร้อนในจูบทำให้เธอรู้สึกถึงความใกล้ชิดและความหลงใหลที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อรถจอดสนิท ภาคินรู้ว่าพวกเขาถึงบ้านแล้ว เขาส่งเสียงไปยังคนขับว่า
"นายปล่อยรถไว้ตรงนี้เถอะ ไปได้แล้ว" สั่งคนขับ
ก่อนจะกลับมาที่ลลนาในอ้อมแขนของเขา มือใหญ่ของเขายังคงโอบรอบเอวเธอ เขาโน้มตัวลงไปอีกครั้งและจูบเธออย่างเร่าร้อนต่อ ความรู้สึกที่สะสมอยู่ตลอดทางทำให้จูบนี้เต็มไปด้วยความหลงใหลและความร้อนแรง
เสียงลมหายใจหนักขึ้นเมื่อทั้งสองเข้ามาใกล้กันมากขึ้น แสงสลัวจากหน้าต่างส่องผ่านเข้ามาในรถ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยความปรารถนา เขาใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆ ไปตามลำคอของเธอ ความร้อนจากผิวกายของเธอทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจจะระเบิดเธอหลับตาลง หายใจติดขัดเล็กน้อยเมื่อเขาโน้มเข้ามาใกล้ ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับเธอเบาๆ ในตอนแรก ก่อนที่ความร้อนแรงจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อร่างทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น ภาคินดึงลลนาเข้ามาใกล้ ขณะที่ทั้งสองนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ เขาจับเธอไว้แน่น จูบเร่าร้อนที่ไม่ต้องการคำพูดใดๆ เสียงลมหายใจถี่ๆ ดังสอดคล้องกันในความเงียบของรถที่หยุดนิ่ง ลลนาตอบรับจูบของภาคินอย่างเผลอไผล เธอรู้สึกได้ถึงความกระหายและความต้องการในท่าทีของเขา ริมฝีปากของพวกเขาเคลื่อนไหวรุนแรงและเต็มไปด้วยความปรารถนา มือของภาคินลูบไล้ไปตามร่างกายของลลนา ขณะที่เขาเริ่มปลดชุดของเธอออกช้าๆ ลลนาหอบหายใจแรง ขณะที่ความรู้สึกเร่าร้อนจากจูบและสัมผัสของเขาเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ“คุณลุงคะ...” เธอพึมพำเบาๆ แต่เขาไม่ตอบ เพียงแต่จูบลึกลงไปอีก เสียงหายใจและสัมผัสร้อนแรงปกคลุมทั้งคันรถ ภาคินยังคงกดริมฝีปากจูบลลนา
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ทั้งสามคนก้าวออกมาและเข้าสู่ผับหรูที่ตั้งอยู่บนยอดตึกสูง ดีเจที่อยู่หลังโต๊ะเปิดแผ่นกำลังเล่นเพลงมันส์ที่เต็มไปด้วยจังหวะที่กระฉับกระเฉงและเบสที่หนักหน่วง ทำให้บรรยากาศของผับเต็มไปด้วยพลังและชีวิตชีวา ทุกคนในร้านกำลังเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนานขณะที่เพลงมันส์จากดีเจและแสงไฟที่หมุนเวียนไปทั่วร้านเพิ่มความรู้สึกเซ็กซี่และเต็มไปด้วยพลัง เฟอร์นิเจอร์หนังสีดำและทองคำถูกจัดวางอย่างมีสไตล์ เพิ่มความหรูหราให้กับสถานที่ ผนังของร้านประดับด้วยไฟสีทองที่สลัว ส่องสว่างไปที่โต๊ะและบาร์ ทำให้บรรยากาศดูลึกลับและน่าหลงใหลคีธเดินนำหน้าในชุดสูทสีเข้มที่ดูเนี๊ยบแต่เต็มไปด้วยสไตล์ เขาไม่ผูกเน็กไทและปล่อยให้เชิ้ตด้านในเปิดลงสามเม็ด ทำให้เห็นความเซ็กซี่และมั่นใจในรูปร่างของเขา ทำให้เขาดูหล่อเหลาและมีเสน่ห์ในแบบที่ไม่พยายามแอนนาและลลนาเดินตามมาในเดรสสั้นสีดำที่โดดเด่นและเซ็กซี่ แอนนาในเดรสที่เน้นการตัดเย็บเรียบหรูและตกแต่งด้วยลายละเอียดที่เพิ่มความมีเสน่ห์ ขณะที่ลลนาในเดรสที่ท้าทายและทันสมัย ชุดของเธอเน้นรูปร่างได้อย่างดี ทำให้เธอดูเซ็กซี่และสง่างามอย่างเห็นได้ชัด เครื่องป
บรรยากาศในร้านอาหารหรูสไตล์โมเดิร์นที่ทั้งสามนั่งกันนั้นเต็มไปด้วยความทันสมัยและความเรียบหรู ร้านตกแต่งด้วยเส้นสายที่คมชัดและเน้นความเรียบง่าย แต่ยังคงความสง่างามไว้ได้อย่างดี โทนสีหลักของร้านคือสีขาว ดำ และเทาเข้ม ตัดด้วยแสงไฟนีออนสลัวที่ส่องจากเพดานและผนังกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดรับวิวทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนโต๊ะที่พวกเขานั่งเป็นโต๊ะไม้เรียบๆ ตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้สดสไตล์มินิมอล พร้อมกับเก้าอี้ที่ออกแบบมาให้ดูหรูหราแต่ยังคงความสบาย เมนูที่เสิร์ฟบนโต๊ะเป็นอาหารฟิวชั่นที่จัดเรียงอย่างประณีตในจานเซรามิกเรียบหรู เครื่องดื่มค็อกเทลหลากสีถูกเสิร์ฟมาในแก้วคริสตัลดีไซน์เก๋ ที่โต๊ะริมหน้าต่างบานใหญ่ในร้านอาหารหรูบนยอดตึกสูง สามเพื่อนรัก คีธ แอนนา และลลนา นั่งอยู่ด้วยกัน ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง เสียงหัวเราะของพวกเขาดังขึ้นเป็นระยะ ขณะที่พวกเขาเล่าเรื่องราวเก่าๆ และแซวกันด้วยความสนิทสนม วิวด้านนอกเผยให้เห็นแสงไฟของเมืองที่ระยิบระยับใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน สะท้อนกับกระจกบานใหญ่ที่ล้อมรอบพวกเขาอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเขากำลังลอยอยู่เหนือเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาพวกเขาพูดคุยถึงเรื่
เคนนั่งหลังพวงมาลัย บึ่งรถหรูของเขากลับบ้าน แต่คำถามของภาคินยังคงก้องอยู่ในหัว "นายกับแอนนา... ไปถึงไหนกันแล้ว?" แม้จะตอบไปแบบคร่าวๆ แต่เขายังคงคิดถึงเหตุการณ์ที่ทะเล ความทรงจำนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในใจเขา เขาหันกลับมานึกถึงค่ำคืนนั้น ภาพของแอนนาภายใต้แสงจันทร์ที่สะท้อนบนผิวน้ำ เสียงคลื่นที่กระทบฝั่ง กับแรงปรารถนาที่ทั้งสองต่างไม่อาจต้านทานได้ เคนขบกรามแน่นเล็กน้อย ขณะที่ความรู้สึกที่เขามีต่อแอนนาค่อยๆ ทวีความซับซ้อนมากขึ้น เขาหัวเราะในลำคอ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า ภาพแอนนาท่ามกลางแสงจันทร์ริมทะเล แทบจะไม่สวมอะไรเลย ยังคงติดตรึงในหัวเขา คืนที่เร่าร้อนและไม่มีใครลืมได้ง่ายๆ เคนไม่ใช่คนที่จะติดใจใครง่ายๆ แต่กับแอนนา เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างที่ท้าทายและยั่วยวนเกินจะต้านทาน……………………………………………………..ค่ำคืนนั้น........ แอนนาที่ดื่มจนได้ที่ รู้สึกถึงความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทุกวินาที ค่ำคืนนี้เธอตัดสินใจไม่ยับยั้งความรู้สึกของตัวเอง สวมชุดชั้นในสีดำบางเบาที่แสนวาบหวิว รัดรูปเผยให้เห็นทุกสัดส่วนของร่างกายอย่างยั่วยวน เธอเดินช้าๆ ด้วยท่วงท่าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ตรงไปที่ห้องของเ
เคนเดินวนไปวนมาด้วยความร้อนใจในห้องทำงานของภาคิน พอได้ฟังเรื่องทั้งหมด เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง“ห๊ะ? สารภาพรักแล้วจูบกันนิดหน่อย แล้วก็แค่กอดกันทั้งคืนเหรอ?” เคนพูดเสียงหลง ก่อนจะทำท่าจะบ้าตาย “ภาคิน ไอ้บ้านี่ อายุอานามเท่าไหร่แล้ววะ? มาเล่นบทหนุ่มน้อยอยู่ได้ บอกว่าให้จัดการให้อยู่หมัดไงวะ!”เขาส่ายหัวด้วยความไม่พอใจ “เดี๋ยวเธอก็หนีไปอีกหรอก อย่ามาทำแบบนี้! ต้องทำอะไรให้ชัดเจนสิ ไม่งั้นจะกลายเป็นเรื่องไม่จบไม่สิ้น”เคนเดินไปมาเหมือนเป็นคนขาดสติ เขามองภาคินด้วยความคาดหวังและความผิดหวังในเวลาเดียวกัน “เอาให้เด็ดขาด! อย่ามาเล่นตัวแบบนี้ ถ้ารักจริงต้องทำให้เธอเห็นสิ!”ภาคินยิ้มให้กับความร้อนใจของเคน แต่เขาก็รู้ดีว่าเคนพูดถูก ในใจเขายังคงรู้สึกถึงความไม่มั่นคงและความหวั่นใจ แต่เขาต้องหาทางจัดการกับความรู้สึกนี้ให้ได้“ขอบใจที่เตือน” ภาคินพูดเบาๆ “แต่บางครั้งก็ต้องให้เวลาหัวใจตัวเองได้คิดบ้าง”เออ แล้ววันนั้นแกกับแอนนาไปพักที่ไหน ไม่ใช่ว่าแกทำอะไรเกินไปแล้วนะเว้ย พูดมา ภาคินคาดคั้น เคนละล่ำละลักจะปฏิเสธ แต่โดนเพื่อนรักไล่ต้อนจนในที่สุดก็เล่าถึงสถานการณ์ของเขากับแอนนาให้ภาคินฟัง ภาคินฟังแ
ภาคินนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นหลังจากมื้อค่ำและการโต้เถียงกับลลนา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำลายความเงียบ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นชื่อ "เคน" ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขากดรับสายด้วยความรู้สึกหนักหน่วง"อย่าปล่อยโอกาสนี้เสียเปล่าไปนะเพื่อน" เคนพูดขึ้น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและแรงกระตุ้นภาคินถอนหายใจ ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร เขาพยายามควบคุมความรู้สึกของตัวเอง"ปล้ำเลยสิ" เคนพูดอีกครั้งอย่างเร่งรีบภาคินส่ายหัวเบา ๆ ในใจ เขาไม่อยากทำร้ายลลนา เขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องใช้ความระมัดระวัง"หรือจะยอมปล่อยไปล่ะ" เคนกล่าวต่อ"ไม่" ภาคินตอบกลับสั้น ๆ"อาทิตย์หน้าเขาก็จะหนีไปตลอดกาลเลยนะ คิดดูดี ๆ ถ้ารักก็ทำเลย" เคนบีบให้ภาคินคิดให้รอบคอบ ภาคินนิ่งเงียบในขณะที่เสียงของเคนสิ้นสุดลง เขารู้ว่าเคนพูดถูก แต่ความรู้สึกที่แสนสับสนและความกดดันทำให้เขายังไม่สามารถตัดสินใจได้ เขากดวางสายโทรศัพท์อย่างเงียบ ๆ ก่อนยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มเพื่อพยายามปลอบประโลมตัวเองในขณะที่ความคิดวิ่งวนในหัว………………………………………..ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ลลนาเดินไปเปิดประตูและพบกับชายร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านนอก ภาคินที่ดูไม่ค่อยเหมือนค