“คุณช่อ เลิกงานคุณแล้วจะไปไหนต่อรึเปล่า ไปกินมื้อเย็นกับผมหน่อยสิ” พชรถอดเสื้อสูทเอามาพาดไว้กับท่อนแขน ปลดเนกไทออกจากคอ จากนั้นก็ปลดกระดุมเม็ดบนออกสองเม็ดขณะหันไปพูดกับหญิงสาวที่เดินข้างกายด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หากแต่ภายในใจนั้นกลับลุ้นอยู่ว่าเธอจะตอบรับหรือปฏิเสธ
“เย็นนี้คงจะไม่ได้ค่ะท่านประธาน ดิฉันต้องกลับบ้านแม่น่ะค่ะ”
ช่อมาลีหันมายิ้มแกน ๆ ให้เขา พชรจับความรู้สึกไม่สบายใจได้ในน้ำเสียงจึงไม่อยากตอแยคาดคั้นอะไรให้มากความ เพราะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาไม่ควรก้าวก่าย
“งั้นหรือ...อืม ไม่เป็นไร วันหน้ายังมี เดินทางปลอดภัยนะ”
“ไม่ได้ไกลอะไรหรอกค่ะท่านประธาน แค่ปทุมธานีนี่เอง นั่งรถตู้ไปแค่สองชั่วโมงก็ถึงแล้วค่ะ ถ้ารถไม่ติด” ช่อมาลีหันไปพูดกับเขา พชรจึงพยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงรับรู้ก่อนจะพูดลาหญิงสาว
“ถ้างั้นก็เจอกันพรุ่งนี้ครับ”
ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ก่อนเดินออกจากลิฟต์เมื่อถึงลานจอดรถที่ตนเองต้องลง ช่อมาลีจึงยกมือขึ้นไหว้ เธอมองตามแผ่นหลังกว้างในเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่เดินห่างออกไปด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก
ช่อมาลีกลับไปห้องพักก่อนเพื่อเปลี่ยนชุด และจัดเสื้อผ้าสำหรับใส่มาทำงานในวันรุ่งขึ้น เพราะอย่างไรเสียคืนนี้ก็ต้องนอนค้างบ้านแม่อยู่แล้ว กว่าจะจัดการเรื่องของน้องชายตัวดีเสร็จคงดึกแน่นอน เวลาอย่างนั้นคงไม่มีรถตู้เข้ามาในเมืองอีก แค่คิดเรื่องของน้องชายก็ให้รู้สึกหนักใจเมื่อนึกถึงยอดเงินคงเหลือในบัญชี ไม่รู้ว่างานนี้เธอต้องเสียเงินอีกเท่าไร
หญิงสาวมาถึงสถานีตำรวจในเวลาเกือบสามทุ่ม เธอเดินเข้าไปข้างในทันทีที่ลงจากรถตู้ แล้วตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องขังของผู้ต้องหา เห็นร่างผอมบางของมารดานั่งตาแดงก่ำอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลจากห้องขังจึงรีบไปทรุดตัวลงนั่งใกล้ ๆ
“แม่!”
ช่อฟ้าหันมาตามเสียงเรียก ทันทีที่เห็นหน้าบุตรสาวคนโต น้ำตาก็หยดแหมะร่วงพรูลงมาอีกคำรบ
“มาลี...ช่วยน้องมันด้วยนะลูก ช่วยเขตมันด้วย”
เห็นคนเป็นแม่ร่ำไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดแล้วก็ให้สะท้อนในอก กี่ครั้งกี่คราวแล้วที่แม่ต้องเป็นอย่างนี้เพราะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงคนเดียว ที่ขยันหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ละครั้งเธอต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากเพื่อประกันตัวเขตไท น้องชายตัวดีให้ออกมาจากห้องขัง
“คราวนี้มันไปทำอะไรอีกล่ะแม่” ช่อมาลีพยายามบังคับน้ำเสียงไม่ให้เกรี้ยวกราดตอนพูดกับมารดา หากแต่คนฟังก็ยังรู้สึกได้
ช่อฟ้าเข้าใจดีว่าบุตรสาวต้องเหน็ดเหนื่อยกับการหาเงินมากแค่ไหน และก็ต้องมาหมดไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่องของบุตรชายคนเล็ก แต่หล่อนเป็นแม่ จะให้นิ่งดูดายนั่งมองบุตรชายติดคุกติดตะรางก็ทำไม่ได้เช่นกัน
“อ้าว...มาลี”
ยังไม่ทันที่มารดาจะตอบ เสียงทุ้มคุ้นหูของใครคนหนึ่งก็เรียกช่อมาลีจากด้านหลัง ทำให้หญิงสาวต้องหันกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นใครจึงส่งยิ้มให้แกน ๆ
“พี่โจ้” ช่อมาลีลุกขึ้นยืน เป็นเวลาเดียวกับที่ร่างสูงใหญ่ของร้อยตำรวจเอกชินกฤตเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับรอยยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าของหญิงในดวงใจ
“เป็นยังไงบ้าง หายหน้าหายตาไปเลย แล้วนี่มาประกันตัวน้องชายหรือ” ผู้กองหนุ่มหันไปมองมารดาของหญิงสาว แล้วก็ต้องลอบถอนหายใจเล็กน้อย เขาพยักหน้าให้ช่อมาลีเดินตามเข้าไปคุยในห้องทำงาน
“เดี๋ยวหนูมานะแม่”
หญิงสาวหันไปบอกมารดา ก่อนจะก้าวเท้าตามผู้กองหนุ่มไป เมื่อเข้าไปในห้อง ชินกฤตก็ผายมือเชิญให้เธอนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับเขา
“คราวนี้เขตมันเจอคดีอะไรอีกคะพี่โจ้”
ช่อมาลียิงคำถามกับชายหนุ่มทันที ผู้กองชินกฤตระบายลมหายใจออกมาอย่างลำบากใจกับการที่จะต้องบอกปัญหาเกี่ยวกับน้องชายของเธอ
“อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับพวกเสพยาน่ะ คราวนี้โดนจับคาของกลางเลย แต่ตรวจปัสสาวะแล้วไม่เจอสีม่วงนะ”
ผู้กองหนุ่มตอบพร้อมกับจ้องใบหน้าเล็ก ๆ ของช่อมาลีด้วยความเห็นใจ ยิ่งเห็นมือทั้งสองข้างของหญิงสาวยกขึ้นมากุมศีรษะ เท้าศอกไว้กับโต๊ะแล้วหลับตานิ่ง เขาก็รู้แล้วว่าเธอเครียดแค่ไหน
“ประกันตัวเท่าไรคะพี่โจ้”
ช่อมาลีรู้สึกโล่งอกที่น้องชายยังไม่ได้เสพยา พลางถามเขาทั้งที่ยังหลับตาอยู่ ภาวนาให้ไม่เกินวงเงินที่เธอมีในตอนนี้ เพราะถ้าหากเกินกว่านี้ ไม่แคล้วต้องโทร. ไปขอหยิบยืมจากเพื่อนในวงอีกตามเคย
“หนึ่งหมื่น ถ้ามาลียังไม่มีเอาเงินพี่ก่อนก็ได้นะ”
ชายหนุ่มอาสาช่วยอย่างเต็มใจ เขาเห็นใจช่อมาลี เพราะเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมา หญิงสาวก็เพิ่งมาจ่ายค่าปรับให้น้องชายอย่างเขตไทในคดีแข่งรถจักรยานยนต์บนถนน
“ขอบคุณมากเลยนะคะพี่โจ้ แต่ถ้าหมื่นเดียวมาลียังพอมีเงินเก็บอยู่บ้างค่ะ อีกอย่างมาลีไม่อยากรบกวนพี่โจ้ด้วย เกรงใจ”
หญิงสาวรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจที่เขามอบให้ ตั้งแต่บิดาเสียไปในหน้าที่เมื่อตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ก็มีแต่ผู้กองหนุ่มคนนี้ที่คอยช่วยเหลืออะไรหลาย ๆ อย่าง
“พี่ล้อเล่น! เจ้าเขตมันไม่ได้เสพ พี่จะไปเอาผิดอะไรมันได้เล่า ที่ขังเอาไว้นี่ก็แค่จะดัดสันดานเฉย ๆ จะเกรงใจพี่ทำไม มาลีก็รู้ว่าทุกอย่างที่พี่ทำให้ พี่ยินดี และเต็มใจทุกครั้ง”
เขาเอื้อมไปกุมมือหญิงสาวเอาไว้ ตาคมดุมองสบกับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่งามภายใต้แว่นสายตาที่เธอใส่อยู่
เมื่อตอนที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งเป็นตำรวจใหม่ ๆ บิดาของช่อมาลีเป็นผู้บังคับบัญชาที่เขาให้ความเคารพนับถือคนหนึ่ง ครั้นเมื่อบิดาของเธอเสียชีวิตลงเพราะถูกยิง เขาก็รู้สึกสงสารและเห็นใจครอบครัวนี้มาก ตอนนั้นช่อมาลีเป็นแค่เด็กมัธยมปลายธรรมดา ที่เขาให้ความเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น
ทว่าพอหญิงสาวเริ่มโตขึ้น ความสวยผุดผาด ความดี และความเป็นคนสู้ชีวิตของเธอ จึงทำให้ความรู้สึกของเขาค่อย ๆ แปรเปลี่ยนจากรักแบบน้องสาวมาเป็นรักในแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักผู้หญิงสักคนได้ และเขาก็เชื่อว่าหญิงสาวตรงหน้าเขานี้ก็รู้ดีว่าเขาคิดกับเธออย่างไร
ช่อมาลีหลุบตาลงเพื่อหลบเลี่ยงสายตาคมกริบคู่นั้น ผู้กองชินกฤตจัดว่าเป็นผู้ชายที่ดีและเพียบพร้อมคนหนึ่ง เธอเองก็ไม่ได้รังเกียจเขา แต่เพราะในเวลาอย่างนี้ เธอไม่มีกะจิตกะใจจะไปนึกถึงเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ อะไรทั้งสิ้น น้องชายก็ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย เธอกับมารดายังต้องคอยตามล้างตามเช็ดให้อยู่ทุกวี่วัน แล้วจะให้เธอตัดช่องน้อยแต่พอตัวหนีไปมีครอบครัวได้อย่างไร ตราบใดที่เขตไทยังไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้มารดาได้
“ยังไงก็เกรงใจอยู่ดีค่ะ แค่นี้ก็รบกวนพี่โจ้จะแย่อยู่แล้ว”
หญิงสาวก้มหน้าก้มตาพูด พลางค่อย ๆ ถอนมือออกจากการเกาะกุม ผู้กองหนุ่มเองก็พอจะเข้าใจจึงชักมือกลับ ก่อนจะคุยถึงเรื่องของเขตไทต่อ
“มาลีไม่ต้องห่วงเรื่องเจ้าเขตมันหรอกนะ พี่คอยดูแลให้อยู่ ยังไงเสียเขตไทมันก็เหมือนน้องชายพี่คนหนึ่ง บางครั้งพี่อาจทำรุนแรงกับมันไปบ้าง มาลีก็อย่าโกรธพี่นะ พี่ทำเพราะพี่หวังดีจริง ๆ”
“จัดการได้เต็มที่เลยค่ะพี่โจ้ ถ้าคิดว่ามันเป็นน้องนุ่งคนหนึ่งแล้วละก็พี่ไม่ต้องเกรงใจมาลีกับแม่เลย”
ช่อมาลีรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจที่เขามีให้สม่ำเสมอ ก่อนจะพึมพำขอบคุณชายหนุ่มเบา ๆ ที่เป็นธุระจัดการเรื่องให้
หญิงสาวเดินออกจากห้องของผู้กองชินกฤตด้วยท่าทางเหม่อลอย ในหัวครุ่นคิดไปถึงสาเหตุของความเหลวแหลกของน้องชายเพียงคนเดียวว่าเกิดจากอะไรแต่ก็นึกไม่ออก เพราะครอบครัวของเธอก็ไม่ใช่ครอบครัวที่มีปัญหา แค่ขาดพ่อ แต่แม่ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ทำหน้าที่ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ได้ดีเสมอมาไม่มีขาดตกบกพร่อง ออกจะตามใจมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ
หรือเพราะการเป็นเด็กช่างกล จึงต้องมีเรื่องพวกนี้เข้ามาข้องเกี่ยว รถ ยา ผู้หญิง ตีรันฟันแทง มันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่เด็กนักเรียนช่างกลทุกคนควรจะต้องทำหรืออย่างไรกัน
ร่างผอมเก้งก้างของเขตไทเดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา เด็กหนุ่มไม่กล้าสบตาผู้เป็นพี่สาวนักเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงโกรธมาก แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เขาพยายามวิ่งหนีแล้วแต่มันหนีไม่ทัน และเขาก็โดนจับไปแล้วด้วย
“กลับไปคุยกันที่บ้าน”
ช่อมาลีพูดเสียงกดต่ำกับน้องชายอย่างคนที่พยายามระงับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านไม่ให้ระเบิดอารมณ์ใส่น้องชายต่อหน้าคนอื่น เธอหันไปร่ำลาผู้กองชินกฤตที่ยืนส่งสายตาอาวรณ์มาให้ เพราะเขาขันอาสาขับรถไปส่งที่บ้าน แต่หญิงสาวปฎิเสธเพราะเกรงใจ และเห็นว่าเขายังไม่ออกเวร
“มาลีกลับก่อนนะคะพี่โจ้”
ชายหนุ่มพยักหน้าส่งยิ้มให้ มองตามร่างระหงที่เดินนำหน้าน้องชายกับมารดาออกไปจากโรงพักด้วยความรู้สึกของคนที่อยากปกป้อง และอยากร่วมรับผิดชอบในชีวิตของเธอ
แต่เขาก็ไม่รู้จะหาทางเข้าถึงจิตใจของช่อมาลีได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ชีวิตของเธอมีแต่คำว่างาน เงิน และครอบครัวเท่านั้น
“ตอนนี้ที่คลับลูกค้าเยอะมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะระบบรักษาความปลอดภัย และการคัดกรองพนักงานที่เข้มงวดมากขึ้น ผู้จัดการคลับก็มีสองคน คนหนึ่งดูแล และแก้ปัญหาเกี่ยวกับลูกค้า อีกคนหนึ่งดูแลพนักงานทั้งหมด ฝ่ายบัญชี และจัดซื้อก็ยังใช้พนักงานชุดเก่า มีวงดนตรีที่มาเล่นประจำให้ที่คลับสามวงต่อสัปดาห์ ซึ่งวงบัตเตอร์ฟลายจะเล่นศุกร์เสาร์อาทิตย์เหมือนเดิม แต่เล่นแค่รอบเดียวคือรอบปิดท้าย ส่วนอีกรอบเราจะใช้นักดนตรีจากอีกวงหนึ่งมาเล่นให้ เท่ากับว่าในวันศุกร์เสาร์อาทิตย์จะมีวงดนตรีมาเล่นให้วันละสองวง”“ผมคิดว่าเราน่าจะเพิ่มบาร์ค็อกเทลนะพี่ จัดสักมุมหนึ่งของฮอลล์ มีบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อสาวสวยเป็นคนผสมเครื่องดื่มให้ตามแต่ที่ลูกค้าต้องการเหมือนตามโรงแรมน่ะ”รชตเสนอความเห็นให้พี่ชาย เขาเคยไปที่คลับหลายครั้งแล้ว และเขาคิดว่าที่คลับควรจะต้องมีบาร์ค็อกเทลเหมือนเมืองนอก หรือตามโรงแรมใหญ่ ๆ เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับลูกค้า“อืม...ก็น่าสนใจนะ พี่ก็เคยคุยเรื่องการขยายพื้นที่ของซุสกับภีมมันเหมือนกัน เพราะได้ข่าวมาว่าผับที่อยู่ถัดไปจากซุสกำชังจะหมดสัญญาเช่าที่ พี่กับเจ้าภีมเลยคิดว่าจะไปเทก
สองปีต่อมาพชรนั่งคิ้วขมวดเป็นปมอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พร้อมกับนิ้วมือที่กำลังคีย์ข้อความลงไปอย่างรัวเร็ว สลับกับการรื้อกองเอกสารที่ไร้ระเบียบตรงหน้าอย่างวุ่นวาย เขาจำไม่ได้แล้วว่านั่งอยู่ตรงนี้นานเท่าไรแล้ว รู้แต่ว่าเขาต้องจัดการเอกสารกองนี้ให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสรุปทุกอย่างใส่ลงในเอ็กเซล เพื่อที่จะได้เอากลับไปทำต่อที่บ้านเขาไม่อยากแบกเอกสารหนาหนักพวกนี้กลับไปด้วย เพราะนอกจากเสี่ยงที่จะสูญหายแล้ว ช่อมาลีก็อาจทนไม่ได้จนต้องลงมือเข้ามาช่วยเขาจัดการกับพวกมันทั้งหมด ซึ่งเขาไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เธอเพิ่งคลอดบุตรชายคนแรกให้เขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาอยากให้หญิงสาวพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย มากกว่าที่จะต้องมาทำงานให้เขาทั้งคู่เข้าพิธีแต่งงานด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว และเลิกคุมกำเนิดด้วยการกินยาแต่หันมาใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมชาติแทน ตอนที่คุยกัน ช่อมาลียังไม่พร้อมจะตั้งครรภ์ เพราะอยากใช้ชีวิตอยู่กันสองคนแบบนี้ไปก่อน ซึ่งเขาเองก็เห็นด้วย ทั้งที่ตอนแรกเขาอยากมีลูกเร็ว ๆ ให้พ่อกับแม่ได้อุ้มหลานทว่าไม่นานนักความต้องการของเขาก็สัมฤทธิ์
“ต้องยังงี้สิ ไปกันเถอะ” พชรโอบไหล่พาช่อมาลีเข้าไปในงาน ซึ่งการจัดงานนั้นเป็นแบบเปิดโล่งริมชายหาด รถสปอร์ต และยนตรกรรมสุดหรูจอดเรียงรายกันบนหาดทราย โดยมีพริตตี้สาวสวยในชุดบิกินีคาดช่วงล่างด้วยผ้าบาติกมัดย้อมคลุมจนถึงเข่าโดยมัดปมไว้ที่สะโพกอีกข้างหนึ่งเพื่ออวดเรียวขาวับแวมยืนให้คำอธิบายเกี่ยวกับสมรรถนะต่าง ๆ อยู่ข้างรถตลอดทั้งวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติแห่กันเข้ามาดูรถหรูไม่ขาดสาย บ้างก็มาเพื่อถ่ายรูปสาวสวยที่ยืนข้างตัวรถ บ้างก็มาเพื่อขอทดลองนั่งด้านใน และก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งจบงานในวันสุดท้าย หรือวันที่สามของการจัดงาน ซึ่งสิ่งที่ทำให้ท่านประธานยิ้มไม่หุบเลยนั่นก็คือยอดจองรถที่ทะลุเป้าหมายจากที่วางเอาไว้ถึงสองร้อยเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการตอบรับจากลูกค้าที่ดีมาก“ผมขอดื่มให้กับทุกคนสำหรับงานมินิมอเตอร์โชว์ในครั้งนี้ และขอขอบคุณพวกคุณทุก ๆ คนที่ทำให้งานในครั้งนี้ผ่านไปได้ด้วยดี แทบจะเรียกว่าดีมากจนเกินเป้าหมายที่ผมวางไว้ด้วยซ้ำ ขอบคุณมากครับ”พชรลุกขึ้นยืนตอนที่พูด คนอื่น ๆ จึงลุกขึ้นตามไปด้วยพร้อมกับยกแก้
“เฮ้ย! อะไรเนี่ย แปลว่าที่พูดไปเมื่อกี้นี่ฟังไม่รู้เรื่องใช่ไหมคุณ”ช่อมาลีวางช้อนและส้อมลงทันที สองตาตวัดมองไปยังคนหน้าไม่อายตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง แต่คนถูกมองหาได้เกรงกลัวไม่ เขากลับหัวเราะคิกคักพลางจ้องคนสวยหน้าบึ้งด้วยแววตาเป็นประกายราวกับถูกอกถูกใจนักหนา“โอเค...ไม่ลุกใช่ไหม...ได้”ช่อมาลีคลี่ยิ้มเยือกเย็นส่งให้พร้อมกับทำท่าจะคว้าเอาแก้วน้ำส้มที่วางอยู่ตรงหน้า แต่ทว่าไม่ไวพอเท่าชายหนุ่มที่เอื้อมมาคว้าไปได้ก่อนพร้อมกับดื่มน้ำส้มแก้วนั้นเสียเองจนหมดแก้วไปต่อหน้าต่อตาช่อมาลีลุกพรวดขึ้นทันที ตั้งใจไว้ว่าจะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ของทางโรงแรมให้มาลากเขาออกไป พอดีกับที่พชรรีบเดินเร็ว ๆ กลับมาที่โต๊ะด้วยท่าทางเอาเรื่องเพราะเห็นแฟนสาวกำลังถูกคุกคาม“มีอะไรรึเปล่าม็อท” พชรถามหญิงสาวแต่สายตาจ้องเขม็งไปยังแผ่นหลังของชายหนุ่มที่มาก้อร่อก้อติกแฟนสาว จนเมื่อเดินมาถึงโต๊ะ และได้มองหน้าของผู้ชายคนนั้นชัด ๆ จากสายตากรุ่นโกรธก็เปลี่ยนเป็นเบิกกว้างขึ้นทันที“อ้าวเฮ้ย! เจ้าอาร์ต นี่แกกลับมาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย”พชรพูดเสียงไม่เบานักเพราะความประหลาดใจที่เห็นน
ช่อมาลีค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาทีละนิด แล้วก็ปิดตาลงไปเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏเป็นแผงอกหนั่นแน่นของใครบางคน เธอตั้งสติแล้วลืมตาขึ้นมามองใหม่อย่างไม่ค่อยแน่ใจในสายตาของตนเองเท่าไรนัก ตาคู่สวยเบิกกว้าง ใบหน้าเริ่มเห่อร้อนขึ้นมาเป็นริ้ว ๆ เมื่อความทรงจำแสนวาบหวามเมื่อคืนย้อนกลับเข้ามาสู่ความทรงจำอีกครั้งช่อมาลีค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองคนตัวโตที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสบายใจ วางท่อนแขนหนัก ๆ พาดไว้ที่เอวของเธอพร้อมกับเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อมองใบหน้าของเขาให้เต็มสองตา เพราะในเวลาปกติ เธอไม่อาจมองเขานาน ๆ ได้ตั้งแต่รู้ตัวว่าคิดกับเขาไม่เหมือนเดิมใบหน้ายามหลับของพชรแลดูอ่อนโยนไม่มีพิษมีภัย เครื่องหน้าลงตัว อย่างผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดี เขาไม่ใช่คนหล่อชนิดที่ว่าเห็นครั้งแรกแล้วต้องตะลึงมองเหมือนคริส เพื่อนในวงดนตรี แต่เขาก็จัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีมีเสน่ห์อย่างหาตัวจับได้ยาก โดยเฉพาะนัยน์ตาเจ้าเล่ห์คู่นี้ที่ตวัดมองมาแต่ละครั้งก็สามารถทำให้ใจแทบละลายได้ แล้วไหนจะรอยยิ้มมุมปากแสนกระชากใจนั่นอีกเล่าที่สะกดสาว ๆ มานักต่อนักแล้ว ไม่เว้นแม้กระท
ชายหนุ่มรัดร่างหญิงสาวไว้จากด้านหลัง แล้วดันให้เธอเดินหน้าไปยังเตียงนอนหลังใหญ่ที่อยู่กลางห้อง แต่เจ้าหล่อนกลับพยศรั้งตัวเองไว้ไม่ยอมเดินไปตามเขา พชรจึงตัดสินใจช้อนตัวขึ้นอุ้มเสียเลย“คุณโอมขา ม็อทขอโทษที่โกหก ก็ม็อทอยากว่ายน้ำนี่นา”หญิงสาวกระถดตัวหนีเมื่อพชรวางเธอลงบนเตียง จนเสื้อคลุมหลุดลุ่ยอวดผิวขาวนวลเนียนตัดกับสีแดงของบิกินี่ตัวจิ๋ว“อยากว่ายก็ว่ายไปสิครับ ผมไม่ได้หวงสักหน่อยนี่นา สระว่ายน้ำที่นี่จะคุณหรือผมใช้ได้ก็เหมือนกันนั่นแหละ” ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เมื่อมองเห็นหยดน้ำจากเส้นผมที่เปียกลู่ของเธอกำลังไหลผ่านซอกแคบระหว่างภูเขาย่อม ๆ สองลูกให้ตายเถอะ! เขาอยากใช้ปากและลิ้นเช็ดตัวเธอให้แห้งจริง ๆ“ถ้าม็อทว่ายตอนคุณโอมอยู่ อย่างกับว่าม็อทจะได้ว่ายสบาย ๆ งั้นแหละ ก็คุณน่ะชอบมาหาเศษหาเลยกับม็อทเรื่อยเลย”ช่อมาลีบ่นงอดแงดพลางเอาหมอนมากอดไว้เพื่อบังร่างเกือบเปลือยของตนเองเมื่อเห็นสายตาราวกับจะกลืนกินของเขาพชรหลุดขำหัวเราะร่า ก่อนจะอาศัยจังหวะที่เธอเผลอกระโดดเข้าตะครุบตัวหญิงสาวแล้วกอดเอาไว้แน่น ช่อมาลีดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอ