หนึ่งเดือนต่อมา
ณ บริษัทชาไทยจำกัด ภายในห้องทำงานส่วนตัวบัวตองกำลังนั่งเรียนรู้งานต่างๆ อย่างตั้งใจเหมือนเช่นทุกวัน อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้นเธอจึงรีบหยิบขึ้นมาพอเห็นว่าเป็นเบอร์ใครเธอจึงกดรับสายทันควันด้วยความดีใจ
"ฮัลโหลปาย"
"บัวเธอสบายดีนะ"
"อืม ฉันสบายดี แล้วเธอล่ะ หมู่นี้โทรไปไม่ค่อยจะรับสายเลยนะ"
"พอดีช่วงนี้ฉันยุ่งๆ อยู่อะ มีหลายเรื่องที่ต้องคิดและเรียนรู้"
"พ่อของเธอคงจะใช้งานเยอะสินะ"
"อืม ก็ไม่เชิงหรอก" ปายเอ่ยเสียงอ่อน
"ปายเธอเป็นอะไรหรือเปล่า"
"เปล่า ฉันมีข่าวดีจะบอกเธอน่ะ" ปายรีบปรับเปลี่ยนเสียงให้สดใสมีความสุขขึ้น
"ข่าวดีอะไรเหรอ" บัวตองตั้งใจฟังด้วยความอยากรู้
"ฉันกำลังจะหมั้นเดือนหน้าแล้วนะ"
"อะไรนะ ! ปายเธอพูดใหม่สิ" บัวตองตกใจลุกขึ้นยืน
"เธอฟังไม่ผิดหรอก ฉันกำลังจะหมั้นจริงๆ "
"กับใคร"
"พี่ทิน ลูกชายเพื่อนพ่อฉันน่ะ"
"เธอรักเขาเหรอ เธอถึงได้ยอมหมั้น เธอถูกบังคับใช่ไหม"
"เปล่า ฉันเต็มใจหมั้นเอง ฉันเชื่อนะว่าพี่เขาจะรักและดูแลฉันได้ อีกอย่างฉันอยากจะทำให้คุณพ่อกับคุณแม่มีความสุข"
"แล้วนัทล่ะ เธอรู้ไหมว่านัทเขารู้แล้วว่าเธอแอบชอบอยู่"
"ฉันรู้แล้วล่ะ "
"แล้วนัทว่ายังไง"
"เขาบอกให้ฉันตัดใจ เพราะเขาไม่มีทางตัดใจจากเธอ และไม่มีใครมาแทนที่ได้"
"ฉันไม่คิดเลยนะ ว่านัทจะใจแข็งขนาดนี้" บัวตองส่ายหน้า
"เธอก็ไม่ต่างกันหรอกบัว ยอมรับรักจากนัทเขาเถอะ เขารักเธอมากนะ"
"ปายฉันขอโทษนะ ที่เป็นตัวปัญหาระหว่างเธอกับนัท แต่จะให้ฉันรับรักจากนัทมันเป็นไปไม่ได้จริงๆ "
"เธออย่าโทษตัวเองสิบัว เรื่องของหัวใจไม่มีใครบังคับใครได้หรอกจริงไหม"
"ขอบคุณนะปาย ที่เธอไม่เคยเห็นฉันเป็นศัตรูเลย" บัวตองเอ่ยเสียงสั่นเครือ
"เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันไม่มีทางมองเธออย่างนั้นเด็ดขาด เธออย่าลืมมางานหมั้นฉันล่ะ "
"แล้วเธอบอกนัทเขาแล้วหรือยัง"
"ยังเลย ฝากเธอบอกด้วยก็แล้วกัน"
"ปายถ้าเธอไม่ได้รักเขา ก็อย่าหมั้นเลยนะ ถ้าเธอยังรักนัทเขาอยู่"
"ถึงตอนนี้ความรักมันไม่สำคัญแล้วล่ะ ฉันไม่อยากจะวิ่งตามทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เธอคงเข้าใจนะ"
"ในเมื่อเธอตัดสินใจแล้วมันย่อมดีเสมอ ไว้ฉันจะบอกนัทให้นะ"
"ขอบใจนะ ไว้ฉันจะโทรมาคอนเฟิร์มวันอีกที"
"จ้ะ" บัวตองรับคำ
หลังจากที่ปายวางสายจากบัวเธอก็ทรุดตัวนั่งลงบนเตียงด้วยความอ่อนล้าภายในห้องนอน ถ้าหากนัทรู้ว่าเธอกำลังจะเข้าพิธีหมั้นหมายในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เขาคงจะไม่รู้สึกอะไรและคงจะยินดีกับเธอแค่นั้น เพราะไม่ว่าจะยังไงชายหนุ่มก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจจากบัวมารักหรือสนใจเธอได้หรอก และเธอหวังว่าชายหนุ่มที่เธอกำลังจะเปิดใจหรือหมั้นหมายด้วยจะทำให้เธอรักได้ในไม่ช้า
"ฮัลโหลนัท สะดวกคุยหรือเปล่า เรามีเรื่องสำคัญจะบอก" บัวตองกรอกเสียงใส่ปลายสายทันทีที่รับสาย
"สะดวกสิ บัวมีเรื่องอะไรเหรอ หรือว่าคิดถึงเรา"
"เราไม่ตลกนะ !"
"แหม แค่นี้ก็ต้องดุด้วย มีเรื่องอะไรก็ว่ามาเลยรอฟังอยู่"
"ปายจะหมั้นเดือนหน้าแล้วนะ"
"อะไรนะ! บัวพูดใหม่สิ!" นัทตกใจถามเพื่อความแน่ใจ
"ปายกำลังจะหมั้นเดือนหน้า เพิ่งโทรมาบอกเราเมื่อกี้นี้เอง"
นัทได้ยินในสิ่งที่บัวตองพูดย้ำก็ชะงักนิ่งไปพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่คิดว่าเพื่อนสาวที่เคยแอบรักเขากำลังจะไปหมั้นหมายกับผู้ชายคนอื่นในอีกไม่ช้า ชายหนุ่มพยายามควบคุมสติแล้วกลับมาสนใจคู่สนทนาต่อ
"นัทยังฟังเราอยู่หรือเปล่า"
"ฟังสิ เราฟังอยู่"
"นัทรู้ไหม ว่าปายกำลังจะหมั้นกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก"
"คนจะหมั้นหมายกันมันต้องเกิดจากความรักอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ" นัทถามกลับ
"นัทก็รู้อยู่แก่ใจว่าปายรักใคร แล้วก็รักมานานแล้วด้วย ที่ตัดสินใจหมั้นก็เพราะพ่อกับแม่แนะนำทั้งนั้น "
"แล้วจะทำยังไงได้ ก็ในเมื่อปายตัดสินใจแล้ว"
"นัทรู้ไหมเพราะนัทไม่ยอมตัดใจจากเรา มันกำลังจะทำให้นัทเสียปายไป"
"_____" นัทหน้าเปลี่ยนสีพูดไม่ออก
"ยังพอมีเวลานะ ที่นัทจะเอาปายกลับมา เลิกปากแข็งและยอมรับใจตัวเองสักทีเถอะ นัทอย่าคิดนะว่าบัวไม่รู้ ว่าที่นัทไปตามห่วงตามช่วยเหลือปายทุกครั้งที่ผ่านมา จริงๆ แล้วนัทก็มีใจให้ปายอยู่"
"บัวอย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลยน่า"
"ตามใจ นัทอยากจะปล่อยปายไปให้ผู้ชายคนอื่นครอบครองก็ตามใจ แค่นี้ก่อนนะเราต้องทำงานต่อ" พูดจบบัวตองก็วางสายด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง
นัทนั่งแทบจะนั่งไม่ติดหลังจากที่รู้ข่าวว่าปายกำลังหมั้นหมายกับผู้ชายคนอื่น เขารู้อยู่แก่ใจว่าบัวไม่มีทางเปิดใจให้เขาอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นเธอคงจะรับความรู้สึกดีๆ ที่เขามีให้เธอตั้งนานแล้วแต่เขาจะลองดูอีกครั้ง แล้วกับปายล่ะเขารู้สึกยังไงกันแน่ แต่ที่เขากำลังรู้สึกในตอนนี้เขาไม่อยากจะให้เธอไปเป็นของใครทั้งนั้น และจะต้องไปฟังจากปากของเธอด้วยตัวเองว่าความจริงมันเป็นยังไงกันแน่ทำไมเธอถึงได้เปลี่ยนใจไปจากเขา
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเลขาหน้าห้องของวินเดินเข้ามา
"คุณวินรอทานข้าวอยู่ค่ะ"
"ค่ะ" บัวตองรับคำ
"คุณวินบอกว่าเร็วๆ หน่อยนะคะ เดี๋ยวคุณษาจะรอนาน"
"ค่ะ" รับคำเสียงอ่อน
บัวตองเดินตรงไปยังห้องประธานบริษัทพร้อมกับเคาะประตู พอผลักประตูเข้าไปเธอก็เจอษากำลังนั่งอยู่บนตักของชายหนุ่ม เธอจึงรีบหมุนตัวหันหลังให้คนทั้งคู่ทันทีด้วยความตกใจ ส่วนษาก็รีบผละลุกขึ้นจากตักของชายหนุ่มทันควัน
"ไปทานข้าวกันเถอะ ผมหิวแล้ว" วินพูดพลางเดินจับจูงแขนษาเดินผ่านบัวตองออกไปจากห้อง
บัวตองเห็นอย่างนั้นก็เดินตามหลังคนทั้งคู่ไปห่างๆ ระหว่างที่เดินตามเธอก็เอาแต่จ้องมองมือของทั้งสองคนที่จับจูงกันเดินไปข้างหน้าไม่ยอมปล่อย เธอสัมผัสได้ว่าวินรักและเอาใจใส่ษามากและดูจะมากกว่าฝ่ายหญิงเสียอีก เห็นแบบนี้แล้วเธอก็อดที่จะนึกถึงจูบแรกที่วินเป็นคนมอบให้เธอเลยไม่ได้จริงๆ เธอพยายามจะไม่นึกถึงแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้จริงๆ เพราะมันยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเธอไม่จางหาย
วินขับรถพาษากับบัวตองไปนั่งทานอาหารแห่งหนึ่งไม่ไกลจากบริษัทมากนัก อาหารบนโต๊ะเกือบทั้งหมดส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่ษาชอบทั้งนั้นซึ่งชายหนุ่มเป็นคนสั่งให้ บรรยากาศบนโต๊ะอาหารตลบอบอวลไปด้วยความรัก ด้วยคนทั้งคู่ต่างคนก็ต่างตักอาหารเอาใจกันและกันอยู่ตลอดเวลา เสมือนว่าไม่มีใครอยู่ร่วมโต๊ะด้วย
"บัวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ" บัวตองเอ่ยขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน
"จ้ะ" ษาส่งยิ้มให้บัวตองด้วยความจริงใจ
"เอานี่ ษาทานปลาหน่อยนะ" วินยังคงเอาใจหญิงสาวต่อ
"ขอบคุณค่ะ ษาว่าเราจะหวานกันเกินไปแล้วนะคะ บัวคงจะเลี่ยนแล้วล่ะค่ะ"
"ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย มันเป็นเรื่องปกติของคู่เราอยู่แล้ว"
"ษาว่าดูบัวจะแปลกๆ ไปนะคะ เงียบๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ"
"ผมว่าก็ปกติดีนะ ปกติก็ไม่เห็นจะมีปากมีเสียงอะไรกับใครอยู่แล้ว"
"ก็จริงนะคะ สงสัยษาจะคิดมากไปเอง ว่าแต่ไม่มีหนุ่มๆ คนไหนมาขายขนมจีบให้บัวบ้างเลยเหรอคะ"
"น่าจะมีอยู่มั้ง" วินพูดพลางนึกถึงนัทเพื่อนสมัยเรียนของบัวที่กำลังตามตื้อเธออยู่
"แหม น่ารักขนาดนี้ก็ต้องมีอยู่แล้วแหละค่ะ "
"ครับ" ส่งยิ้มให้ษาแต่ในใจกลับนึกถึงรสจูบที่เขาเคยได้สัมผัสจากบัวตองในคืนนั้น
บัวตองเดินตรงกลับมาที่โต๊ะแต่ภาพความรักอันหวานชื่นของทั้งสองคนก็ยังคงอยู่ ร่างบางจึงนั่งลงทานอาหารต่อจนอิ่มท้องโดยพยายามจะไม่สนใจทั้งสองคน
"เอ่อ ขอโทษนะคะ" เสียงหวานเอ่ยขึ้น
"มีอะไรจ้ะบัว" ษาถามกลับ
"ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปบัวขอไปพักกลางวันกับเพื่อนๆ พนักงานคนอื่นนะคะ " บัวตองพูดพลางมองหน้าวิน
"ทำไมเหรอ อาหารไม่ถูกปากเธอหรือไง"
"เปล่าค่ะ บัวแค่อยากจะทานอะไรง่ายๆ แถวๆ บริษัทค่ะใกล้ดี "
"ตามใจเธอก็แล้วกัน" วินเอ่ยเสียงราบเรียบ
"ขอบคุณค่ะ"
ช่วงเย็นหลังจากที่บัวตองเลิกงานเธอก็ตรงกลับบ้านพร้อมวิน พอเข้าไปข้างในบ้านเธอก็เจอนัทมานั่งรอเธออยู่ในห้องรับแขกพร้อมกับช่อดอกกุหลาบสีแดงช่อโต วินพอรู้ว่าหญิงสาวมีแขกจากแม่บ้านก็เดินตามหลังไปติดๆ แต่พอเห็นว่าใครมาหาเธอถึงที่บ้านก็เกิดความไม่พอใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น แต่ก็เลือกที่จะเดินกลับขึ้นห้องตนเองไปเงียบๆ
"นัทมาหาเราทำไม คนที่นัทควรจะไปหาคือปายนะไม่ใช่เรา"
"เราแค่อยากจะลองอีกครั้ง แต่ถ้าไม่สำเร็จเราก็จะหยุด"
"นัทพูออะไร เราไม่เข้าใจ"
"บัวเป็นแฟนเรานะ ขอร้องล่ะเรารักบัว บัวเห็นใจเราหน่อยจะได้ไหม" นัทพูดพลางคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้เธอ
"นัทลุกขึ้นเถอะ ทำแบบนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอ"
"บัวมีใครอยู่ในใจแล้วใช่ไหม" นัทถามพลางลุกขึ้นยืน
"ก็ไม่เชิงหรอก"
"พูดแบบนี้แสดงว่ามี"
"นัทอย่าสนใจเรื่องของเราเลย มันไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก"
"เอาล่ะ เราขอยอมแพ้ ขอให้บัวเจอคนที่บัวรักและรักบัว อย่างที่บัวต้องการนะ" นัทส่งยิ้มให้หญิงสาว
"ขอบคุณนะ" บัวตองยิ้มรับ
"งั้นเราขอตัวกลับก่อนนะ ส่วนดอกไม้นี่เราให้ รับไปสิ"
"รับก็ได้" รับช่อดอกไม้มาถือไว้พร้อมกับก้มหน้าลงสูดดมกลิ่น
คล้อยหลังนัทกลับไปบัวตองก็เดินตรงไปยังห้องนอนพร้อมถือช่อดอกไม้ไว้ในมือ กำลังจะเปิดประตูเข้าไปก็หันไปเห็นวินกำลังยืนจ้องมองเธออยู่ใกล้ๆ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก บัวตองจึงหันไปทางชายหนุ่มด้วยอาการประหม่าทำตัวไม่ถูก
"เธอนี่มันเสน่ห์แรงจริงๆ มีหนุ่มๆมาตามตื้อถึงที่บ้าน" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ
"ใช่ค่ะ นัทเขามาขอบัวเป็นแฟน แต่บัวปฏิเสธไปแล้ว"
"ฉันว่าไม่จริงมั้ง ดอกไม้คามือซะขนาดนี้"
"นัทเขาให้ในฐานะเพื่อน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น "
"ให้มันจริงเถอะ จะทำอะไรคิดถึงหน้าแม่ฉันด้วยก็แล้วกัน"
"ค่ะ บัวจะจำไว้" รับคำหนักแน่น
วันต่อมา
ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งนัทกำลังนั่งรอคนสำคัญที่เขานัดให้มาพบหลังจากที่เขาโทรนัดหมายเมื่อหลายนาทีก่อนหน้านั้นอย่างใจจดใจจ่อ เธอรับปากว่าจะมาพบเขาตามที่เขาต้องการ แต่เขานั่งรอนานเป็นครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเธอจะมาเลย เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหมายจะกดโทรตามแต่เธอก็เดินเข้ามาพอดี
"มาแล้วเหรอ นั่งลงก่อนสิ" นัทรีบลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้ปายนั่งลงด้วยความดีใจ
"นายเป็นอะไร ทำไมต้องทำขนาดนี้ด้วย" ปายอดที่จะประหลาดใจกับท่าทางของชายหนุ่มไม่ได้
"เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร" ส่งยิ้มให้หญิงสาว
"แล้วนายนัดฉันมามีเรื่องอะไรกันแน่"
"ฉันว่าเราสั่งอาหารกันก่อนดีกว่า ฉันหิวแล้ว"
"นายจะให้ฉันทานข้าวกับนายเหรอ"
"ใช่ ฉันอยากทานข้าวกับเธอน่ะ"
"ฉันว่านายมีเรื่องอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะ ฉันไม่ตลกกับนายหรอกนะ"
"ใครว่าตลกล่ะ นั่งทานข้าวเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ" นัทจ้องมองใบหน้าเนียนด้วยสายตามุ่งมั่น
"ที่นายพยายามคะยั้นคะยอให้ฉันออกมาพบ แค่มานั่งทานข้าวกับนายเนี่ยนะ ไหนบอกมีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉันไม่ใช่เหรอ"
"ก็ได้ งั้นก็ทานข้าวคุยไปด้วยก็แล้วกัน โอเคไหม"
"อืม" ปายยอมทำตามที่ชายหนุ่มขอแต่โดยดี
ทั้งสองคนสั่งอาหารคนละอย่างสองอย่าง รอไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะ ทั้งคู่จึงลงมือทานพร้อมกับลอบมองหน้ากันไปมาในจังหวะที่ต่างคนต่างเผลอ จนปายเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบขึ้น
"นายมีเรื่องอะไรก็พูดมาเถอะ"
"เธอจะหมั้นจริงๆ เหรอ"
"ใช่ ฉันจะหมั้นเดือนหน้าแล้ว นายอย่าลืมไปร่วมงานนะ"
"เธอรักเขาเหรอ ถึงได้ตัดสินใจหมั้น"
"อืม ฉันรักเขา" ปายยิ้มมุมปาก
"รักหรือทำในสิ่งที่พ่อกับแม่ของเธอต้องการกันแน่"
"มันไม่เกี่ยวกับนาย ถ้าหมดธุระแล้วฉันขอตัว" ปายรีบลุกขึ้นยืนทันที
"เดี๋ยวก่อน เรายังคุยกันยังไม่จบเลยนะ" นัทรีบลุกตาม
"นายจะคุยอะไรอีก ทางที่ดีเราสองคนอย่าเจอกันอีกเลยจะดีกว่า"
"เธอคิดดีแล้วเหรอ ที่จะหมั้นกับคนที่เธอไม่ได้รัก"
"ฉันจะรักหรือไม่รัก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย"
"ใช่มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน แต่ในฐานะเพื่อนฉันอยากจะให้เธอมีความสุข ไม่ใช่ต้องทนฝืนใจรักคนที่ไม่ได้รัก"
"นายอย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลย หัวใจของฉัน ฉันดูแลเองได้ ไม่ต้องให้นายมาบอกหรอก"
"จริงๆ ที่ฉันนัดเธอมาในวันนี้ ฉันแค่อยากจะมาได้ยินจากปากเธอเอง ว่าเธอได้ตัดใจจากฉันไปแล้ว "
"นายจะพูดถึงมันอีกทำไม ในเมื่อตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันแค่คิดไปคนเดียวฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้"
"ถ้าตอนนี้ ฉันจะบอกว่าฉันอยากจะเริ่มต้นกับใครสักคนที่ไม่ใช่บัวล่ะ เธอคิดว่ายังไง"
"ฉันไม่คิดอะไรทั้งนั้นแหละ เพราะฉันก็กำลังจะเริ่มต้นใหม่เหมือนกัน"
"เธออยากจะรู้ไหม ว่าคนนั้นเป็นใคร"
"ไม่! ฉันเสียเวลางานมามากแล้ว ขอตัวนะ" พูดจบปายก็รีบเดินออกไปทันที
นัทเห็นอย่างเห็นอย่างนั้นคิดจะเดินตามไป แต่สุดท้ายเขาก็ไม่กล้าพอ จึงได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นแต่ก็อดที่จะตำหนิตนเองในใจไม่ได้ที่ขี้ขลาดเกินไป แต่ถึงยังไงเขาก็จะหาทางให้ปายเปลี่ยนใจยกเลิกงานหมั้นให้ได้ในเร็ววันก่อนที่อะไรจะสายเกินไป
ปายเดินเข้าไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานในบริษัทของบิดาด้วยความสับสน เธอไม่เข้าใจในเมื่อนัทรู้เรื่องที่เธอจะหมั้นแล้ว ไม่เห็นจะต้องนัดเธอไปเจอเลย แถมยังพูดจาแปลกๆ กับเธออีก ท่าทางดีใจจากชายหนุ่มเมื่อได้เห็นเธอในร้านอาหารยังคงทำให้เธอคลางแคลงใจอยู่
ณ บริษัทชาไทยจำกัดบัวตองกำลังวิ่งวุ่นส่งเอกสารต่างๆ ไปยังแผนกต่างๆ ตามที่วินและเลขาของเขาสั่ง ถึงแม้เธอจะมีห้องทำงานส่วนตัวของตัวเอง แต่ตำแหน่งงานของเธอยังไม่แน่นอน งานหลักๆ ของเธอคือทำตามที่ทุกคนมอบหมายให้ทำ หากช่วงเวลาว่างเธอจะปลีกตัวเข้าไปในห้องศึกษาและอ่านเอกสารเกี่ยวกับการบริหารงานต่อ
"อ้าว บัวเที่ยงแล้ว ยังไม่พักทานข้าวอีกเหรอ" นพพลเอ่ยทักทายหญิงสาวที่หอบเอกสารเต็มมือ
"กำลังจะพักค่ะ" บัวส่งยิ้มให้นพพล
"แล้วนี่เอกสารอะไรเยอะแยะเลย"
"เอกสารเก่าค่ะ บัวจะเอาไปอ่านศึกษาเพิ่มเติม"
"ขยันจริงๆ นะเรา ไอ้วินคงจะภูมิใจน่าดูที่มีน้องสาวขยันแบบนี้"
"ค่ะ" บัวตองยิ้มรับ
"ไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ"
"ได้ค่ะ"
"ไปร้านไหนกันดี บัวอยากจะทานอะไรบอกพี่ได้เลยนะ"
"บัวทานอะไรก็ได้ค่ะ"
ระหว่างที่คนทั้งคู่กำลังยืนคุยกันอยู่ วินก็ควงแขนษาเดินผ่านมาเห็นพอดี จึงเดินเข้าไปหาทั้งสองคน พอเข้าไปใกล้ษาก็ส่งสายตาไม่พอใจไปให้นพพลทันที แต่ชายหนุ่มกลับไม่ใส่ใจทำเฉยเมย ส่วนวินก็เอาแต่จ้องใบหน้าบัวตองที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอ่อนๆ บนใบหน้า ส่งให้เธอน่ารักสดใสมากยิ่งขึ้นจนเขาไม่อยากจะละสายตาจากเธอเลย
"ฉันกับษากำลังจะไปทานมื้อเที่ยง แกไปด้วยกันไหม" วินเอ่ยถามเพื่อนรัก
"แกพาษาไปเถอะ ฉันกับบัวจะไปทานด้วยกัน"
"ษาเพิ่งจะรู้นะคะ ว่านพสนิทกับบัว"
"ทำไมจะสนิทไม่ได้ล่ะ ก็บัวออกจะน่ารักขนาดนี้" นพพลหันไปมองสบตากับบัวตอง
"ตามใจแกก็แล้วกัน ฉันกับษาไปล่ะ" วินโอบเอวหญิงคนรักแล้วเดินจากไป
ภายในร้านอาหารตามสั่งข้างทางร้านหนึ่งใกล้ๆ บริษัท บัวตองกับนพพลสั่งก๋วยเตี๋ยวคนละชามทานไปเงียบๆ บัวตองแอบสงสัยในท่าทางของชายหนุ่มตรงหน้าเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่างอยู่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นเขายังอารมณ์ดีอยู่เลย
"พี่นพเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ"
"เปล่า"
"พี่น่าจะไปทานข้าวกับพี่วินคุณษานะคะ ไม่ต้องมาทนนั่งร้อนแบบนี้หรอกค่ะ"
"พี่ไม่มีปัญหากับอากาศหรือว่าอาหารหรอกนะ เพราะพี่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย"
"แล้วคิดยังไงถึงได้ชวนบัวมาทานข้าวด้วยคะ"
"พี่เห็นบัวไม่มีเพื่อนน่ะ ก็เลยอยากจะชวนมาทานเป็นเพื่อน"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ปกติบัวก็ทานกับพนักงานคนอื่นอยู่แล้ว"
"ว่าแต่ทำไมบัวถึงไม่ไปทานกับไอ้วินมันล่ะ"
"บัวไม่อยากไปเป็น กขค. พี่วินกับคุณษาน่ะค่ะ ช่วงนี้เห็นหวานกันตลอดเลย"
นพพลได้ยินอย่างนั้นก็กำมือแน่นด้วยความขุ่นเคืองในใจ จากนั้นก็ลุกเดินออกจากร้านหน้าตาเฉย บัวตองพยายามเรียกตามหลังแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ เธอจึงได้แค่มองด้วยความงงงวยเท่านั้น
ถึงเวลาเลิกงานบัวตองรีบเก็บข้าวของบนโต๊ะตรงไปนั่งรอวินอยู่ตรงหน้าห้องประธานบริษัทเหมือนเช่นเคย รอสักพักชายหนุ่มก็เดินออกมาจากห้องเธอจึงรับลุกเดินตามชายหนุ่มไปติดๆ เข้าข้างในลิฟต์ ระหว่างที่อยู่ในลิฟต์บัวตองก็เลือกที่ยืนรักษาระยะห่างอยู่พอสมควร วินจึงไปเหลือบหันไปมองหน้าเธอแวบหนึ่งด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
"ตอนกลางวันไปทานข้าวกับไอ้นพเป็นยังไงบ้าง" เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น
"ก็ดีค่ะ"
"มันจีบเธอหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ"
"ไอ้นพมันก็เป็นคนดีคนหนึ่งนะ แถมยังโสดอยู่ด้วย ถ้าเธอจะชอบมันฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะ อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าเพื่อนของเธอ"
"บัวยังไม่อยากจะมีใครค่ะ อยากทำงานและดูแลคุณแม่มากกว่า"
"หึ ทำให้ได้อย่างที่พูดก็แล้วกัน ไม่ใช่เที่ยวหว่านเสน่ห์ไปทั่วจนผู้ชายติดเป็นพวน" วินพูดจบก็เดินนำออกจากลิฟต์ไป
บัวตองเดินตามชายหนุ่มตรงไปที่รถ แต่ในหัวก็อดนึกถึงคำพูดของชายหนุ่มไม่ได้ เธอเข้าใจว่าชายหนุ่มเป็นห่วงกลัวว่าเธอจะทำให้เนตรนภาผิดหวังที่อุตส่าห์อุปถัมภ์เลี้ยงดูเธอกลัวจะเสียคน นั่งรถมาเรื่อยๆ จนจะครึ่งทางแล้วแต่อยู่ๆ วินก็เลี้ยวรถจอดข้างทาง
"เธอลงไปโบกแท็กซี่กลับบ้านเองเลยก็แล้วกันนะ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น
"ทำไมคะ!" บัวตองตกใจ
"ฉันมีนัดกับษาน่ะ ไม่อยากเข้าบ้านแล้วเสียเวลา"
"____" บัวตองได้ยินอย่างนั้นก็นิ่งไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
"เธอเป็นอะไร รีบลงไปสิ เสียเวลา!"
"ค่ะ" บัวตองรีบเปิดประตูลงจากรถทันควัน
ทันทีที่บัวตองลงจากรถรถคันหรูก็รีบเร่งเครื่องแล่นผ่านหน้าเธอไปด้วยความรวดเร็ว บัวตองได้แต่ยืนนิ่งมองตามจนรถแล่นลับสายตาเธอไปเท่านั้น ร่างบางยืนรอสักพักก็มีแท็กซี่แล่นผ่านมาเธอจึงโบกพร้อมกับบอกจุดหมาย ระหว่างนั่งอยู่ในรถเธอก็อดที่จะน้อยใจไม่ได้ เธอรู้ตัวเองดีว่าอยู่ในฐานะน้องสาวของวิน และษาเป็นหญิงสาวที่ชายหนุ่มรักมากที่สุด ไม่แปลกหรอกที่เขาจะไม่แคร์ความรู้สึกของเธอเลย
โปรดติดตามตอนต่อไป....