“ไม่มีเครื่องมืออะไรทั้งนั้นค่ะ เพราะฉันจะไม่ทำงานที่แบบนี้ และฉันบอกคุณชายไว้ก่อนเลยนะคะ ว่าคุณชายไม่มีทางที่จะบังคับฉันได้ เพราะฉันมาทำงานที่นี่โดยมีหนังสือสัญญาจ้างงานเป็นลายลักษณ์อักษร เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และกฎหมายก็จะคุ้มครองฉัน ไม่ให้นายจ้างอย่างคุณชายมาเอาเปรียบได้ ยิ่งเป็นงานที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีแบบนี้ด้วย ฉันยิ่งปฏิเสธจะไม่ทำได้ค่ะ”
อินถวาเชิดหน้าขึ้นพูดอย่างไว้ตัว เพราะสิ่งที่คุณชายลีทำกับเธอนั้นถือว่าหยามเกียรติมากไปแล้ว นี่แหละที่เขาเรียกว่า ‘ความหล่อติดลบ’ เพราะอาการปลาบปลื้มความหล่อของคุณชายหายวับเมื่อเขาใช้คำพูดแบบนั้นออกมา และเธอจะทำจริงตามที่พูด หากเขาบังคับเธอ เธอก็จะไปฟ้องร้อง จะไม่ยอมให้เขาเห็นเธอเป็นของเล่นชั่วคราวแน่ ให้รู้ไปว่าหญิงไทยมีศักดิ์ศรีไม่แพ้ผู้หญิงชาติใดในโลก
“อ๋อเหรอ รู้กฎหมายเหมือนกันนี่เรา แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าสัญญาระบุว่าเธอต้องสวมใส่เครื่องแบบที่นายจ้างกำหนด”
อินถวาชะงัก เพราะเงื่อนไขนั้นมีในสัญญาจริงๆ แต่ชุดเหล่านั้นก็เป็นชุดที่ทราบโดยทั่วกันว่าต้องเป็นชุดที่สุภาพ เหมาะสมกับงานที่ทำ แต่นี่ไม่ใช่
“แต่นั่นต้องเป็นชุดที่สุภาพและเหมาะสมกับการทำงานนะคะ ชุดแบบนี้ฉันจะใส่ไปได้ยังไง”
“ในสัญญามีระบุด้วยเหรอว่า ‘ชุดสุภาพ’ แล้วเธอยังไม่ลองใส่เลยนะ จะรู้ได้ยังไงว่าใส่ไม่ได้”
ไรเฟิลยิ้มยิ่งเห็นอินถวามีสีหน้ากระอักกระอ่วนใจ เขายิ่งสนุกมากขึ้นอีก ยังไงเสียเขาก็จะทำให้เธอยินยอมให้ได้ เพราะยิ่งอยู่ใกล้ ก็ยิ่งรู้สึกว่าอินถวาเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้ร่างกายเขาตื่นตัวได้ดีจริงๆ โดยเฉพาะอกอวบนั่น ยิ่งเห็นใกล้อย่างนี้ก็ยิ่งอิ่มเอิบจนกี่เพ้าแทบจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว และเขาก็คิดไปเองว่า มันคงจะอึดอัดมาก
“ชุดนี้เป็นไง สวยดีนะ เน้นช่วงอกเป็นพิเศษ ถ้าเธอใส่... รับรองว่าต้องอูมยิ่งกว่าเดิมแน่”
“คุณชาย! ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้นค่ะ ยังไงฉันก็จะไม่ใส่ชุดพวกนี้แน่ และฉันก็จะไม่ย้ายขึ้นมานอนที่นี่ด้วยค่ะ”
อินถวากอดอกตัวเองแน่นเมื่อสายตาเจ้าชู้นั้นมองมาที่ตรงจุด หากเธอใส่ชุดเหล่านั้นและขึ้นมานอนที่ตึกใหญ่นี้ คงไม่พ้นที่เธอจะเจออะไรดีๆ ที่มากกว่านี้แน่
“สัญญายังระบุอีกนะว่า ลูกจ้างจะต้องพักอยู่ในที่พักที่นายจ้างจัดเตรียมไว้ให้”
เขายังคงตอบโต้ ก็แหงล่ะนั่นคือสัญญาอีกข้อที่ระบุไว้จริง แต่เธอจะไม่ยอมทำตาม
“ยังไงฉันก็จะไม่ทำตามที่คุณชายบอกค่ะ เพราะทั้งเครื่องแบบและเรื่องที่พักเป็นเงื่อนไขสามัญที่นายจ้างและลูกจ้างต้องรับรู้ร่วมกันอยู่แล้วนะคะ ชุดเครื่องแบบที่นายจ้างจัดเตรียมไว้ให้ก็ต้องสุภาพเรียบร้อย และที่พักหากระบุไว้ในสัญญา ที่พักนั้นก็ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวให้กับลูกจ้างด้วยค่ะ คุณชายบังคับให้ฉันทำตามที่คุณชายสั่งไม่ได้หรอกค่ะ เพราะยังไงฉันก็ไม่ทำ”
อินถวาหมายความตามนั้นจริงๆ แม้เธอจะไม่ได้จบกฎหมายและไม่มีประสบการณ์ทำงานมาก่อน แต่เธอก็รู้ในสิทธิพื้นฐานที่พนักงานควรจะได้รับ ซึ่งทั้งหมดนั่นไม่ใช่สิ่งที่คุณชายลีจะนำมาเป็นสัญญาผูกมัด หรือบงการให้เธอทำอะไรตามใจเขาได้แน่ นอกเสียจากกว่าเธอตั้งใจจะมาทำงานแบบที่เขาต้องการจริงๆ เงื่อนไขทั้งหมดในสัญญาก็จะกลายเป็นองค์ประกอบที่ไม่มีความสำคัญอะไรเลย แต่นั่นไม่ใช่กับเธอแน่ เพราะเธอรู้เป้าหมายว่ามาทำงานที่นี่ด้วยเหตุผลใด
“แน่ใจเหรอ”
ไรเฟิลยิ่งสนุกเมื่อได้ยินคำพูดมุ่งมั่นและมั่นใจสุดๆ ของอินถวา ทว่าเมื่อเขาก้าวเข้าใกล้ เธอกลับถอยห่าง นี่สิคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้พี่เบิ้มเลือกเธอ เพราะเธอมีความมาดมั่นไม่กลัวเขา และเขาก็ไม่ได้อยากให้เธอกลัวสักหน่อย เขาอยากให้เธอพร้อมและสมยอมกับเขามากกว่า
“แน่ใจสิคะ”
“งั้นต้องพิสูจน์”
“คุณชาย... ไม่นะคะ คุณชายทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันไม่ยอม คุณชาย ไม่นะ คุณชาย! ไม่...”
อินถวาแทรกร่างกับบานประตูหวังจะหลบให้พ้นจากร่างสูงใหญ่ที่เคลื่อนกายเข้าใกล้ พร้อมหลับตาปี๋เพราะไม่กล้ามองเมื่อคิดว่าริมฝีปากช่างชีกอนั้นต้องทาบปิดลงมาที่ปากของเธอแน่ และฝ่ามือของเขาก็ต้องยื้อร่างเธอเข้าใกล้ ให้ปากแนบปาก ให้ฝ่ามือแนบอกอวบ และให้ช่วงตัวท่อนล่างทาบทับเข้าหากัน
แต่ไม่ใช่... ที่เธอรับรู้อยู่นี่ยังเป็นความว่างเปล่า ร่างกายยังของเขาไม่ได้เข้าใกล้เธอ มีเพียงเงาเท่านั้นที่ทาบทับลงมา ดวงตาหลับปี๋จึงค่อยๆ เปิดออก เพราะหากเห็นอะไรที่น่าเกลียดน่ากลัวเธอจะได้ปิดลงเร็วไว ทว่าสิ่งที่เห็นกลับเป็นรอยยิ้มของคนหล่อ
“สัญญา อ่านสิ จะได้รู้ว่าฉันจะบังคับให้เธอทำงานที่นี่ได้หรือเปล่า อ่านจบแล้วออกไปหาฉันด้านนอกนะ เอ่อ... คิดดูดีๆ นะ ก๋งก๊งของฉันอ่ะ ท่านชอบผู้หญิงไทย”
รอยยิ้มอย่างสนุกของไรเฟิลผุดขึ้นที่มุมปาก ยิ่งเห็นใบหน้าเหวอๆ ของอินถวาเขายิ่งอยากยิ้มให้กว้างมากขึ้นอีก เพราะคนสวยกลัวผีนี่น่ะเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นคนแรก แต่ถึงเธอไม่กลัวเขาก็จะทำทุกทางให้เข้าใกล้คำสัญญาที่ให้ไว้กับเหมยอิงไปทีละน้อย นั่นคือสัญญาว่าจะไม่ใช้กำลังแต่จะให้เธอสมยอม สาบานได้ว่าเอกสารสัญญาที่ยื่นให้ก็ไม่ได้ใช้กำลังเลยสักนิด แค่ใช้เทคนิคนิดหน่อยแปลงตัวเลขก็เท่านั้น
“ได้สิครับ ผมสัญญาจะทำให้ดีที่สุด เริ่มต้นจากส่งเมียจ๋าขึ้นสวรรค์ก่อน” “อ่ะ! ว้าย! ไรเฟิล...” อินถวาหมดหนทางจนต้องอุทานเพราะสิ่งที่เธอควรทำก็คือปิดริมฝีปากของตัวเองที่จะกรีดร้องจากความเสียวซ่านนั้นออกมา เพราะไรเฟิลวาดลวดลายผ่านปลายลิ้น ตั้งแต่ทั่วพื้นที่ของอกอวบจนดูดดุนเบาๆ ที่ยอดอก ก่อนจะลากริมฝีปากและปลายลิ้นมาตามร่องอกมาคลอเคลียอยู่ที่หน้าท้องที่ยื่นนูน จนคนที่อยู่ด้านในประท้วงตอดตุบๆ “ลูกจ๋า... พ่อจะเข้าไปเยี่ยม” “ไรเฟิล... บ้าจริง...” “บ้าที่ไหนกันครับ ผมจะไปเยี่ยมลูก ลูกจ๋า... รอพ่อนะครับ” “อื้อ... บ้า...” ไรเฟิลหัวเราะพาริมฝีปากไปสู่จุดหมายที่อินถวารอคอย ก่อนจะชะงักเพราะดอกไม้งามสีชมพูอ่อนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าดูอูมใหญ่กว่าเดิม รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เพราะรูปร่างที่เต็มไม้เต็มมือขึ้นกว่าเดิมบวกกับอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับชีวิตน้อยๆ ก็ยิ่งทำให้เรือนร่างของคุณแม่มือใหม่นี้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ รวมทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เจืออยู่ก็ทำให้ไรเฟิลอดใจไว้ไม่ไหว จมูกโด่งจึงจดลงดอมดมควา
ไรเฟิลประคองร่างอวบอิ่มของอินถวามานั่งที่โต๊ะยาวด้านข้าง เขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอรับรู้ เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนแห่งการดินเนอร์นั้น นั่นคือแผนการของพ่อแม่ เพื่อให้ท่านยอมรับในตัวของอินถวา และยอมรับว่าความรักของเขาคือความจริง ไม่ใช่เพียงหลงเสน่หาชั่วครั้งชั่วคราว เริ่มจากอินถวารักเงินหรือว่ารักตัวเขากันแน่ ซึ่งเธอก็พิสูจน์แล้วว่าเงินจำนวน 50 ล้านที่พ่อเขาเขียนเช็คให้เธอนั้น อินถวาไม่แม้แต่จะเปิดดู ด่านแรกเธอผ่านไปได้ แต่ด่านที่ 2 ที่ใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด ใน 3 เดือนที่ต้องจากกันอย่างเข้าใจผิด อินถวาจะยังซื่อสัตย์กับเขาหรือไม่ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าเขานั้นทรยศเธอไปแล้ว และอินถวาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย จากข่าวที่ได้รับจากเหมยอิงและมาร์กอส นั่นคืออินถวาไม่มีใครเลย เธอตั้งหน้าตั้งตาสร้างธุรกิจขนมไทยร่วมสมัยและใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ส่วนตัวเขาเองก็ต้องอดทนกับการไม่ได้เห็นหน้าเธอ เขาต้องไปทำงานทุกวัน ต้องอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงที่สวยงามมากมาย ทั้งซินเทียก็มาคลอเคลียกับเขาไม่ห่าง ใน 3 เดือน หากเขายังยึดมั่นอยู่กับอินถวา พ่อกับแม่ถึงจะ
ทว่าดวงตาสวยหวานของอินถวากลับหลับพริ้มแต่ก็ยังเห็นว่ามีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่ ระยะเวลา 3 เดือนที่จากกัน เขารู้ว่าเธอก็ทุกข์ ส่วนเขานั้นก็ทุกข์อย่างแสนสาหัสเพราะนี่คือ บทพิสูจน์ที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับเธอ “พุดซ้อนครับ ได้โปรดลืมตาขึ้นมองผม ผมอยากเห็นดวงตาของคุณ อยากเห็นผมอยู่ในนั้น อยู่ในสายตาของคุณอีก พุดซ้อนครับ ได้โปรดเถอะ” อินถวากลั้นสะอื้น แค่ได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือปนเว้าวอนอย่างนั้น เธอก็แทบจะซุกซบใบหน้าลงกับอกของเขา เพราะเธอเองก็คิดถึงเขาเหลือเกิน เวลา 3 เดือนที่ผ่านไปทำให้เธอมองเห็นโลกในต่างมุมมากขึ้น อารมณ์ชั่ววูบของเธอในวันนั้นทำให้ผลุนผลันจากมา แต่เมื่อคิดคำนวณทุกเหตุการณ์ก็จะพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างประจวบเหมาะ นั่นเพราะพ่อและแม่ของเขาต้องการให้เกิดอยู่แล้ว และเป็นเธอเองที่ติดกับดักที่ท่านสร้างขึ้น เพราะเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไรเฟิลที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงของซินเทียนั้น คนทั้งคู่เมคเลิฟกันจนเหนื่อยอ่อน หรือว่านั่นคือไรเฟิลถูกทำให้หลับ เพราะกับเธอนั้น เขาก็ไม่เคยเหนื่อยจนสลบถ้ายังไม่ถึงเช้า และหากเรื่องราวเป็นไปอย่างที่เธอคาดเดา
“ค่ะแม่ พุดก็ว่าจะรับอีกแค่สองคนเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้นพุดจะดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าขนมไม่ได้คุณภาพจะกลายเป็นผลเสียแทน แล้วน้าอิฐล่ะคะ เช้านี้พุดยังไม่เห็นเลย ไปธนาคารเหรอคะแม่” เธอถามหาน้าชาย เพราะปกติจะเห็นอยู่ในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้าม แต่เช้านี้เธอยังไม่เห็นเลย “ไปสนามบินน่ะ” “ไปทำไมคะ มีอะไรเหรอ” “ก็เรื่องที่น้าอิฐเขาจะนำเข้าอะไหล่รถนั่นแหละ วันนี้ทางนั้นเขาบินมา น้าอิฐก็เลยไปรับ” น้ำเสียงเศร้าๆ ของแม่ทำให้อินถวาโอบกอดรอบเอวเจ้าเนื้อของแม่เอาไว้ เธอรู้ว่าแม่รักธุรกิจเต็นท์รถมือสองนี้มาก เพราะนี่คือสิ่งที่สร้างรายได้จนแม่สามารถส่งเสียเธอเรียนจนจบ และก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอไปทำงานที่ฮ่องกง เพราะไม่อยากให้แม่ต้องสูญเสียสิ่งนี้ไป แต่วันเวลาก็ไม่แน่นอน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รถยนต์มือสองขายยากและก็ยังหาซื้อมาใส่เต็นท์ได้ยากเช่นกัน น้าอิฐจึงปรึกษากับแม่ว่าควรลดซื้อรถยนต์แต่เปลี่ยนมานำเข้าอะไหล่แทน และหากมีคู่ค้าอยู่ที่จีนหรือที่ญี่ปุ่นก็จะดีมาก เพราะการสั่งนำเข้าหรือการหาอะไหล่ที่ยากๆ ก็จะทำได้อย่างเร่งด่วน และตอนนี้แม่ก็วางมื
“ถ้าถือว่าผมเป็นเพื่อน ให้เพื่อนคนนี้ไปส่งให้ถึงเมืองไทยนะครับ เพื่อนจะได้สบายใจ ว่าได้ส่งเพื่อนถึงสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ไม่ลำบากหรอกครับ” อินถวาพยักหน้ารับดวงตารื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะขอตัวไปซื้อพลาสเตอร์แปะแก้เมาเครื่องบินก่อน โดยมีมาร์กอสมองตามร่างงามระหงที่เดินตรงไปยังร้านขายยา ดวงตาสีฟ้ามีแววกังวลใจก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นไม่หยุดขึ้นมา ‘ไรเฟิล’ แม้หน้าจอโทรศัพท์จะระบุชื่อคนโทรเข้าแบบนั้น แต่มาร์กอสกลับเลือกที่จะปิดเครื่อง เพราะในเวลานี้ทุกคนควรได้รับโอกาสในการไตร่ตรอง เกือบ 3 ชั่วโมงจากฮ่องกงมาเมืองไทย อินถวาไม่ได้พูดอะไรเลย มีเพียงน้ำตาของเธอเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไม่หยุด ทว่าเพียงถึงจุดหมายรอยยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดก็ฉายชัดขึ้น ดั่งว่าเธอคนนี้ไม่ได้นำความทุกข์ใจกลับมาจากฮ่องกงด้วย “ส่งฉันเพียงเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ ฉันถึงบ้านแล้ว ฝากคุณมาร์กอสขอโทษคุณวิคเตอร์กับคุณนายลีแทนฉันด้วยนะคะ สำหรับทุกเรื่องที่ฉันเสียมารยาทไว้ และฝากขอโทษคุณแม่บ้านใหญ่ ลุงฉี อาซู กับอาหนิงที่ฉันจากมาโดยไม่ได้ลา” “แล้วคุณไรเฟิลล่ะครับ คุ
“ถ้าเราท้องขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ไรเฟิลจะหาว่าเรามีลูกเพื่อไว้จับเขาหรือเปล่า และพ่อแม่เขาอีกล่ะ เขาจะทำยังไงกับเรา”อินถวาพึมพำก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เธอรีบเดินไปที่โทรศัพท์แต่ยังไม่วายจะชำเลืองมองไปที่ตึกใหญ่ เพราะคนที่โทรมาคือคนในตึกนั้น ดวงตาสวยมีแววเศร้ามองโทรศัพท์อย่างชั่งใจเพราะไรเฟิลไปดินเนอร์กับครอบครัวที่ตึกใหญ่และสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ทั้งที่เธอเองก็เผื่อใจไว้อยู่แล้วว่าคงไม่เร็วแน่ เธอก็ไม่อยากได้ยินว่าเขาจะขออยู่ต่ออีกกี่ชั่วโมง จะกลับดึกกว่านี้ หรือว่าค่ำคืนนี้จะไม่กลับ “ฮัลโหล...” เสียงหวานเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ ‘ไหว’ ที่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เพราะคิดว่าคนที่โทรมาในยามดึกนี้คงมีแค่ไรเฟิลคนเดียวเท่านั้น ทว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับทำให้อินถวารีบคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากตึกเล็กมุ่งตรงไปสู่ตึกใหญ่ในทันที เพียงไม่นานเธอก็มาถึงจุดหมายที่ใครคนนั้นบอกเอาไว้ ห้องนอนชั้น 2 ของปีกซ้าย ประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ทำให้อินถวาถือวิสาสะเดินเข้าไปทันที ในนาทีที่หัวใจเธอใกล้จะระเบิดก็ขอให้เธอได้เห็นกับตาตัวเอง และสิ่งที่มองเ