“ไม่เป็นปัญหา เพราะชุดนี้จะไว้ใส่เวลาเธออยู่ในห้องนอนของฉันเท่านั้น หรือหากเธอจะใส่ไปเดินข้างนอกก็ไม่มีใครว่า เพราะคนของที่นี่รู้ดี ถ้าฉันมีคุณแม่บ้านอยู่ด้วย จะไม่มีใครกล้าเข้ามาที่นี่ ถ้าฉันไม่ได้สั่ง หึหึหึ... ไม่ต้องทำหน้างง เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรในห้องนอนฉัน หรือด้านนอก ใส่ชุดพวกนี้ก็คงไม่เป็นปัญหา”
อินถวาทำหน้างงตามที่เขาพูด หรืออาจเรียกว่าหน้าเอ๋อก็ได้ เพราะหากเป็นจริงอย่างที่คุณชายลีพูดไว้จริง ก็เท่ากับว่าเธอจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิงน่ะสิ ไม่นะ ยังไงเธอก็จะไม่ยอม ยิ่งหนีให้ห่างก็ยิ่งถูกเงื่อนไขผูกมัด เธอต้องหาทางออก
“อย่างนั้นก็ยิ่งไม่เหมาะค่ะ เพราะถ้าฉันต้องทำความสะอาดทั้งห้องน้ำ ห้องนอน ชุดสวยๆ พวกนี้คงจะเสียหายแน่ ให้ฉันใส่ชุดเดิมนะคะคุณชาย ฉันจะได้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น”
“จุ๊ จุ๊ จุ๊... เข้าใจผิดแล้วล่ะพุดซ้อน ฉันจะบอกหน้าที่ของแม่บ้านขั้นสองให้เธอเข้าใจ ที่เธอพูดมาน่ะ นั่นมันงานพื้นๆ ที่แม่บ้านขั้นหนึ่งเขาทำกัน แต่เธอน่ะพิเศษกว่านั้น”
จากนั้นคุณชายไรเฟิล เจ้านายโดยตรงก็อธิบายหน้าที่ของแม่บ้านขั้นสองให้เธอฟัง อินถวารู้สึกได้ถึงความร้อนที่พวยพุ่งอยู่ในร่างกายก่อนจะกระจายวาบไปทั่วทั้งตัว ร้อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ร้อนเข้าไปในหู ในตา และในหัวใจ เมื่อสิ่งที่คุณชายพูดมานั้น คือเธอต้องสวมใส่ชุดเหล่านี้เพื่อทำหน้าที่บริการคุณชายทุกอย่าง
เริ่มตั้งแต่เสิร์ฟอาหารหวานคาวถึงบนเตียง ทุกมื้อที่คุณชายเรียกร้อง เตรียมเสื้อผ้าและของใช้ประจำวันให้คุณชายสวมใส่ แต่หากวันไหนไม่ใส่ก็ไม่ต้องเตรียม และเตรียมน้ำอุ่นให้คุณชายอาบ รวมทั้งต้องขัดตัว ถูหลัง และนวดตัวให้คุณชายด้วย และที่สำคัญคือเธอต้องย้ายจากห้องพักด้านหลังขึ้นมานอนบนตึกของคุณชายด้วย
“เป็นยังไงล่ะ หน้าที่ของคุณแม่บ้านขั้นสอง ไม่ยากเลยนะ เธอทำได้แน่ งานสบาย เงินดี ส่วนเงินที่เธอเบิกไปล่วงหน้าฉันจะมากกว่านั้นอีกนะ ถ้าเธอทำงานถูกใจ”
ใบหน้างดงามที่ซีดเหลือ 2 นิ้วเมื่อได้ฟังหน้าที่ของคุณแม่บ้านประจำตัวเขาเสร็จ ยิ่งทำให้ไรเฟิลคลั่ง อยากจะมอบหมายหน้าที่แรกเริ่มให้เธอซะตอนนี้ เพราะขืนทนต่อไป พี่เบิ้มคงไม่ยอมแน่
“เริ่มงานเลยดีกว่า ฉันเหนียวตัวอยากอาบน้ำ เธอจะได้เรียนรู้การขัดตัวนวดตัวให้ฉันด้วยไง”
อินถวาหูผึ่งเมื่อเขาเอ่ยชวน และเมื่อร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าหาพร้อมฝ่ามือเคลื่อนไปที่รังดุมเสื้อสูท ทำท่าคล้ายจะปลดเอาสิ่งห่อหุ้มความงดงามแห่งบุรุษเพศให้หลุดออกไป อินถวาก็ถอยหลังกรู ดวงตาเบิกกว้างไปกับสิ่งที่ใกล้จะได้เห็น แต่ไม่นะ เธอจะไม่ยอมให้เป็นแบบนี้
“ไม่นะคะ ฉันไม่ทำค่ะ ว้าย! คุณชายอย่าเข้ามาใกล้ฉันนะ”
“อ้าว... ทำไมกันเล่า ไม่ให้ใกล้กัน จะเริ่มงานได้ไง เอางี้ เรียกว่าฝึกงานก็ได้ ถ้าเธออาบน้ำขัดตัวผ่าน ค่อยเริ่มงานแม่บ้านตัวจริง มาเถอะมาปรุงเซ็กซ์ของเธอให้อร่อย เพราะถ้าถูกใจฉัน ค่าจ้างของเธอจะเพิ่มเป็นสองเท่า’
อินถวาส่ายหน้าดิกพร้อมถอยหลังเร็วกว่าเท่าตัว เธอต้องอยู่ให้ห่างเขา สติที่ยังมีทำหน้าที่ประมวลความควรไม่ควร แม้เขาจะเป็นสเปกหนุ่มหล่อในฝันของเธอ แต่เธอก็จะไม่ยอมเสียเวอร์จิ้นให้เขาแน่ หากจะยอมนั่นคือต้องเกิดจากความรัก แต่เธอไม่ได้รักเขา เธอไม่รักผู้ชายหล่อๆ ที่เพียงแค่เห็นกันไม่ถึงครึ่งวันด้วยซ้ำ เธอจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น
“จะฝึกงานหรือทำจริง ฉันก็ไม่ทำค่ะ ฉันจะไม่มีวันทำสิ่งที่คุณชายบอก ฉันยินดีเป็นแม่บ้านขั้นหนึ่งขั้นต่ำอะไรนั่นก็ได้ จะให้ล้างจาน ล้างห้องน้ำ กวาดหยากไย่ ทำความสะอาดสวนก็ได้ แต่ฉันจะไม่ทำงานบนเตียงอย่างที่คุณชายต้องการแน่ คุณชายไปหาคนอื่นเถอะ”
“จุ๊ จุ๊ จุ๊... ไม่เอาไม่พูด ใครกันให้เธอเรียกว่างานบนเตียง นั่นน่ะไม่ใช่แค่บนเตียงนะ เพราะที่ผืนพรม บนโต๊ะทำงาน บนระเบียง ริมหน้าต่าง หรือแม้แต่ในห้องน้ำ ถ้าฉันต้องการให้ทำ เธอก็ต้องทำไม่มีข้อยกเว้น”
ปฏิกิริยาที่อินถวาเป็นยิ่งทำให้ไรเฟิลสนุก ดวงตาซุกซนกวาดไล้ไปตามเรือนร่างที่ถอยล่นไปจนชนประตูห้อง ซึ่งอินถวาผวาทันทีที่รู้ว่าไม่มีทางที่จะถอยได้อีก ดวงตาหวาดหวั่นของเธอจับจ้องที่แผงมือจับที่อยู่คนละฝั่ง และทันทีที่เธอขยับตัว เขาก็ก้าวไปขวางไว้ได้แล้ว
“ยังไม่ได้ฝึกงานเลย จะหนีแล้วเหรอ งานง่ายไม่ยากหรอก รับประกันว่าสอนแค่ครั้งเดียวก็ทำเป็นแล้ว เพราะเธอน่ะมีเครื่องมือ”
ดวงตาซุกซนเคลื่อนจากใบหน้าตื่นตระหนกลงมาที่ทรวงอกอวบ เพราะนั่นน่ะเครื่องมือที่ดีสุดสำหรับการนวดแบบบอดี้ทูบอดี้หรือแบบ b2b ไปทั่วทั้งตัวของเขา และแค่มองอินถวาก็กระชับท่อนแขนขึ้นกอดอกทันที พร้อมกับแนบตัวเข้ากับประตูห้องแต่งตัวมากขึ้น ถ้าเธอแทรกร่างเข้าไปได้เธอก็คงจะเข้าไปแล้วล่ะ แต่ถึงอย่างนั้นอินถวาก็ยังเชิดหน้าขึ้น เม้มริมฝีปาก ราวกับต้องการสะกดกลั้นความหวาดหวั่นเอาไว้ให้มิด ก่อนที่ดวงตาของเธอจะฉายแววบางอย่างที่เป็นต่อเขา
“ได้สิครับ ผมสัญญาจะทำให้ดีที่สุด เริ่มต้นจากส่งเมียจ๋าขึ้นสวรรค์ก่อน” “อ่ะ! ว้าย! ไรเฟิล...” อินถวาหมดหนทางจนต้องอุทานเพราะสิ่งที่เธอควรทำก็คือปิดริมฝีปากของตัวเองที่จะกรีดร้องจากความเสียวซ่านนั้นออกมา เพราะไรเฟิลวาดลวดลายผ่านปลายลิ้น ตั้งแต่ทั่วพื้นที่ของอกอวบจนดูดดุนเบาๆ ที่ยอดอก ก่อนจะลากริมฝีปากและปลายลิ้นมาตามร่องอกมาคลอเคลียอยู่ที่หน้าท้องที่ยื่นนูน จนคนที่อยู่ด้านในประท้วงตอดตุบๆ “ลูกจ๋า... พ่อจะเข้าไปเยี่ยม” “ไรเฟิล... บ้าจริง...” “บ้าที่ไหนกันครับ ผมจะไปเยี่ยมลูก ลูกจ๋า... รอพ่อนะครับ” “อื้อ... บ้า...” ไรเฟิลหัวเราะพาริมฝีปากไปสู่จุดหมายที่อินถวารอคอย ก่อนจะชะงักเพราะดอกไม้งามสีชมพูอ่อนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าดูอูมใหญ่กว่าเดิม รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เพราะรูปร่างที่เต็มไม้เต็มมือขึ้นกว่าเดิมบวกกับอวัยวะที่ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับชีวิตน้อยๆ ก็ยิ่งทำให้เรือนร่างของคุณแม่มือใหม่นี้ดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบ รวมทั้งกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เจืออยู่ก็ทำให้ไรเฟิลอดใจไว้ไม่ไหว จมูกโด่งจึงจดลงดอมดมควา
ไรเฟิลประคองร่างอวบอิ่มของอินถวามานั่งที่โต๊ะยาวด้านข้าง เขาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอรับรู้ เริ่มตั้งแต่ค่ำคืนแห่งการดินเนอร์นั้น นั่นคือแผนการของพ่อแม่ เพื่อให้ท่านยอมรับในตัวของอินถวา และยอมรับว่าความรักของเขาคือความจริง ไม่ใช่เพียงหลงเสน่หาชั่วครั้งชั่วคราว เริ่มจากอินถวารักเงินหรือว่ารักตัวเขากันแน่ ซึ่งเธอก็พิสูจน์แล้วว่าเงินจำนวน 50 ล้านที่พ่อเขาเขียนเช็คให้เธอนั้น อินถวาไม่แม้แต่จะเปิดดู ด่านแรกเธอผ่านไปได้ แต่ด่านที่ 2 ที่ใช้ระยะเวลาเป็นตัวชี้วัด ใน 3 เดือนที่ต้องจากกันอย่างเข้าใจผิด อินถวาจะยังซื่อสัตย์กับเขาหรือไม่ ทั้งๆ ที่เธอก็เห็นว่าเขานั้นทรยศเธอไปแล้ว และอินถวาก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเลย จากข่าวที่ได้รับจากเหมยอิงและมาร์กอส นั่นคืออินถวาไม่มีใครเลย เธอตั้งหน้าตั้งตาสร้างธุรกิจขนมไทยร่วมสมัยและใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับครอบครัว ส่วนตัวเขาเองก็ต้องอดทนกับการไม่ได้เห็นหน้าเธอ เขาต้องไปทำงานทุกวัน ต้องอยู่ในวงล้อมของผู้หญิงที่สวยงามมากมาย ทั้งซินเทียก็มาคลอเคลียกับเขาไม่ห่าง ใน 3 เดือน หากเขายังยึดมั่นอยู่กับอินถวา พ่อกับแม่ถึงจะ
ทว่าดวงตาสวยหวานของอินถวากลับหลับพริ้มแต่ก็ยังเห็นว่ามีหยาดน้ำเอ่อคลออยู่ ระยะเวลา 3 เดือนที่จากกัน เขารู้ว่าเธอก็ทุกข์ ส่วนเขานั้นก็ทุกข์อย่างแสนสาหัสเพราะนี่คือ บทพิสูจน์ที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับเธอ “พุดซ้อนครับ ได้โปรดลืมตาขึ้นมองผม ผมอยากเห็นดวงตาของคุณ อยากเห็นผมอยู่ในนั้น อยู่ในสายตาของคุณอีก พุดซ้อนครับ ได้โปรดเถอะ” อินถวากลั้นสะอื้น แค่ได้ยินน้ำเสียงสั่นเครือปนเว้าวอนอย่างนั้น เธอก็แทบจะซุกซบใบหน้าลงกับอกของเขา เพราะเธอเองก็คิดถึงเขาเหลือเกิน เวลา 3 เดือนที่ผ่านไปทำให้เธอมองเห็นโลกในต่างมุมมากขึ้น อารมณ์ชั่ววูบของเธอในวันนั้นทำให้ผลุนผลันจากมา แต่เมื่อคิดคำนวณทุกเหตุการณ์ก็จะพบว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นช่างประจวบเหมาะ นั่นเพราะพ่อและแม่ของเขาต้องการให้เกิดอยู่แล้ว และเป็นเธอเองที่ติดกับดักที่ท่านสร้างขึ้น เพราะเธอไม่มีทางรู้ได้เลยว่าไรเฟิลที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงของซินเทียนั้น คนทั้งคู่เมคเลิฟกันจนเหนื่อยอ่อน หรือว่านั่นคือไรเฟิลถูกทำให้หลับ เพราะกับเธอนั้น เขาก็ไม่เคยเหนื่อยจนสลบถ้ายังไม่ถึงเช้า และหากเรื่องราวเป็นไปอย่างที่เธอคาดเดา
“ค่ะแม่ พุดก็ว่าจะรับอีกแค่สองคนเท่านั้นค่ะ ไม่อย่างนั้นพุดจะดูแลไม่ทั่วถึง ถ้าขนมไม่ได้คุณภาพจะกลายเป็นผลเสียแทน แล้วน้าอิฐล่ะคะ เช้านี้พุดยังไม่เห็นเลย ไปธนาคารเหรอคะแม่” เธอถามหาน้าชาย เพราะปกติจะเห็นอยู่ในออฟฟิศฝั่งตรงกันข้าม แต่เช้านี้เธอยังไม่เห็นเลย “ไปสนามบินน่ะ” “ไปทำไมคะ มีอะไรเหรอ” “ก็เรื่องที่น้าอิฐเขาจะนำเข้าอะไหล่รถนั่นแหละ วันนี้ทางนั้นเขาบินมา น้าอิฐก็เลยไปรับ” น้ำเสียงเศร้าๆ ของแม่ทำให้อินถวาโอบกอดรอบเอวเจ้าเนื้อของแม่เอาไว้ เธอรู้ว่าแม่รักธุรกิจเต็นท์รถมือสองนี้มาก เพราะนี่คือสิ่งที่สร้างรายได้จนแม่สามารถส่งเสียเธอเรียนจนจบ และก็เป็นเหตุผลหลักที่เธอไปทำงานที่ฮ่องกง เพราะไม่อยากให้แม่ต้องสูญเสียสิ่งนี้ไป แต่วันเวลาก็ไม่แน่นอน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ รถยนต์มือสองขายยากและก็ยังหาซื้อมาใส่เต็นท์ได้ยากเช่นกัน น้าอิฐจึงปรึกษากับแม่ว่าควรลดซื้อรถยนต์แต่เปลี่ยนมานำเข้าอะไหล่แทน และหากมีคู่ค้าอยู่ที่จีนหรือที่ญี่ปุ่นก็จะดีมาก เพราะการสั่งนำเข้าหรือการหาอะไหล่ที่ยากๆ ก็จะทำได้อย่างเร่งด่วน และตอนนี้แม่ก็วางมื
“ถ้าถือว่าผมเป็นเพื่อน ให้เพื่อนคนนี้ไปส่งให้ถึงเมืองไทยนะครับ เพื่อนจะได้สบายใจ ว่าได้ส่งเพื่อนถึงสถานที่ที่ปลอดภัยแล้ว ไม่ลำบากหรอกครับ” อินถวาพยักหน้ารับดวงตารื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะขอตัวไปซื้อพลาสเตอร์แปะแก้เมาเครื่องบินก่อน โดยมีมาร์กอสมองตามร่างงามระหงที่เดินตรงไปยังร้านขายยา ดวงตาสีฟ้ามีแววกังวลใจก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงที่สั่นไม่หยุดขึ้นมา ‘ไรเฟิล’ แม้หน้าจอโทรศัพท์จะระบุชื่อคนโทรเข้าแบบนั้น แต่มาร์กอสกลับเลือกที่จะปิดเครื่อง เพราะในเวลานี้ทุกคนควรได้รับโอกาสในการไตร่ตรอง เกือบ 3 ชั่วโมงจากฮ่องกงมาเมืองไทย อินถวาไม่ได้พูดอะไรเลย มีเพียงน้ำตาของเธอเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไม่หยุด ทว่าเพียงถึงจุดหมายรอยยิ้มอย่างมีความสุขที่สุดก็ฉายชัดขึ้น ดั่งว่าเธอคนนี้ไม่ได้นำความทุกข์ใจกลับมาจากฮ่องกงด้วย “ส่งฉันเพียงเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ ฉันถึงบ้านแล้ว ฝากคุณมาร์กอสขอโทษคุณวิคเตอร์กับคุณนายลีแทนฉันด้วยนะคะ สำหรับทุกเรื่องที่ฉันเสียมารยาทไว้ และฝากขอโทษคุณแม่บ้านใหญ่ ลุงฉี อาซู กับอาหนิงที่ฉันจากมาโดยไม่ได้ลา” “แล้วคุณไรเฟิลล่ะครับ คุ
“ถ้าเราท้องขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง ไรเฟิลจะหาว่าเรามีลูกเพื่อไว้จับเขาหรือเปล่า และพ่อแม่เขาอีกล่ะ เขาจะทำยังไงกับเรา”อินถวาพึมพำก่อนจะสะดุ้งเพราะเสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น เธอรีบเดินไปที่โทรศัพท์แต่ยังไม่วายจะชำเลืองมองไปที่ตึกใหญ่ เพราะคนที่โทรมาคือคนในตึกนั้น ดวงตาสวยมีแววเศร้ามองโทรศัพท์อย่างชั่งใจเพราะไรเฟิลไปดินเนอร์กับครอบครัวที่ตึกใหญ่และสัญญาว่าจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด ทั้งที่เธอเองก็เผื่อใจไว้อยู่แล้วว่าคงไม่เร็วแน่ เธอก็ไม่อยากได้ยินว่าเขาจะขออยู่ต่ออีกกี่ชั่วโมง จะกลับดึกกว่านี้ หรือว่าค่ำคืนนี้จะไม่กลับ “ฮัลโหล...” เสียงหวานเอ่ยทักเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ใช้ ‘ไหว’ ที่เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง เพราะคิดว่าคนที่โทรมาในยามดึกนี้คงมีแค่ไรเฟิลคนเดียวเท่านั้น ทว่าเสียงที่ตอบกลับมากลับทำให้อินถวารีบคว้าเสื้อคลุมและเดินออกจากตึกเล็กมุ่งตรงไปสู่ตึกใหญ่ในทันที เพียงไม่นานเธอก็มาถึงจุดหมายที่ใครคนนั้นบอกเอาไว้ ห้องนอนชั้น 2 ของปีกซ้าย ประตูห้องที่เปิดแง้มไว้ทำให้อินถวาถือวิสาสะเดินเข้าไปทันที ในนาทีที่หัวใจเธอใกล้จะระเบิดก็ขอให้เธอได้เห็นกับตาตัวเอง และสิ่งที่มองเ