Se connecter"อื้ออ~"
"เวียนหัว..." มินตราที่นั่งอยู่บ่นอุบพลางใช้มือลูบใบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติหลังจากที่นั่งดื่มมาได้สักพัก ซึ่งตอนนี้เธอกำลังเริ่มเมาได้ที่แล้ว
"ไปล้างหน้าหน่อยดีกว่า" หญิงสาวพูดขึ้นกับตัวเองแล้วตั้งท่าจะลุกขึ้นไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปบอกกับเม็ดทรายที่เมาอยู่เช่นกัน
"เราไปล้างหน้าแปปหนึ่งนะ"
"อืมม~" หญิงสาวพยักหน้ารับเพียงเล็กน้อย ซึ่งเม็ดทรายในขณะนี้ก็อยู่ในสภาพที่เมามายไม่ต่างกัน
"ให้พี่เดินไปส่งไหม" เสียงของรุ่นพี่ที่เป็นคนยื่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มินตราเอ่ยถามขึ้น
"ไม่เป็นไรค่า เดี๋ยวมินเดินไปเองง~" มินตรายิ้มตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงยานคางแล้วเดินออกมาจากกิจกรรมรอบกองไฟนั้นทันที คนตัวเล็กเดินมายังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลโดยไม่รู้เลยว่ามีคนกำลังเดินตามเธออยู่
"อ๊ะ!" เสียงของหญิงสาวร้องดังขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ดีๆ ข้อมือบางก็ถูกจับเข้าอย่างแรงจนต้องหยุดเดิน มินตราหันกลับไปเพื่อมองเจ้าของการกระทำนั้นด้วยความสงสัยแต่แล้วดวงตากลมก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นพี่คนเดิมที่เดินตามมา
"พี่บอกแล้วไงว่าจะไปส่ง"
"ปะ...ปล่อยนะ"
"จะกลัวทำไม แค่ไปอยู่กับพี่สักคืนเดี๋ยวพี่ก็ปล่อยเราไปแล้ว"
"มะ...ไม่ ฮึก! อย่าทำอะไรมินเลย"
"มาอยู่กับพี่ดีๆ ดีกว่า อย่าให้พี่ต้องใช้กำลัง"
"ไม่นะ ปล่อย!" ร่างเล็กตะโกนออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อโดนบังคับให้เดินตามรุ่นพี่คนนั้นไป แต่ไม่ว่าเธอจะตะโกนเท่าไหร่ก็ไม่มีใครที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อยเนื่องจากงานรอบกองไฟค่อนข้างเสียงดังพอสมควร จนตอนนี้หญิงสาวได้ถูกรุ่นพี่หนุ่มลากมายังบริเวณโซนบ้านพักของผู้ชายแล้ว
"ฮึก อย่าทำอะไรหนูเลย"
"คงไม่ได้หรอก เพราะพี่น่ะคอยมองเราตั้งแต่วันแรกที่มาค่ายเลยนะ"
"อึก..."
"แล้วในที่สุดพี่ก็มีโอกาส..." ชายหนุ่มพูดขึ้นแล้วพยายามจะเข้าไปฉีกกระชากเสื้อผ้าของคนตรงหน้า
"กรี๊ดดดด!"
หมับ ผวั๊ะ!!
"เฮ้ย! อะไรวะ" เสียงของรุ่นพี่ที่พยายามจะลวนลามมินตราตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีคนมากระชากเข้าที่คอเสื้ออย่างแรงแล้วต่อยเข้าหนักๆ บริเวณมุมปากจนมีเลือดไหลซึมออกมา
"ถ้าเงี่xxขนาดนั้นก็ควรไปซื้อกินนะ ไม่ใช่มาฉุดคนอื่น"
"ไอ้ชาร์วี"
"เออ กูเอง"
"มึงอย่ามาเสือกเรื่องของกู"
"กูคงไม่เสือกถ้ามึงไม่พยายามจะบังคับข่มขืนใครอยู่"
"ออกไปซะในตอนที่กูยังพูดดีด้วย" ชาร์วีจ้องมองคนตรงหน้านิ่งแล้วเอ่ยออกมาเสียงดุดัน
"หึ คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกหรือไงวะ" แล้วชายหนุ่มคนนั้นก็เดินเข้าไปหาเรื่องชาร์วีทันที ทั้งคู่แลกหมัดกันอยู่พักใหญ่ก่อนที่อีกฝ่ายจะโดนชาร์วีเล่นงานจนหมดสติไป
"..." ดวงตาคมปรายตามองคนที่นอนหมดสติเพียงนิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ มือเล็กกำเสื้อที่ถูกฉีกจนขาดวิ่นไว้แน่นในขณะที่ใบหน้าหวานยังคงมีน้ำตาไหลออกมา
"ตามฉันมานี่" มือหนาเลื่อนไปจับตรงแขนเรียวเล็กของหญิงสาวอย่างไม่แรงนัก แล้วออกแรงดึงพาเธอเดินเข้ามาที่บ้านพักของตัวเองด้วยกันเนื่องจากบ้านพักของผู้หญิงและผู้ชายค่อนข้างห่างกันพอสมควร และมินตราตอนนี้ก็ยังอยู่ในสภาพที่ไม่ควรจะเดินไปไหนมาไหนไกลด้วย
"เอาเสื้อฉันไปใส่ เดินไปแบบนี้เดี๋ยวก็โดนฉุดอีก" ชาร์วียื่นเสื้อยืดตัวโคร่งของเขาให้ร่างบางที่ยืนตัวสั่นเทาอยู่ เธอปรายตามองเสื้อที่ถูกยื่นมาเพียงนิดก่อนจะเอ่ยออกมา
"คนใจร้าย"
"..??"
"ฮึก! ในเมื่อไม่ชอบแล้วให้ความหวังมินทำไม ที่มินเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่แหละ ได้ยินไหมว่าเพราะพี่ๆๆ" ด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้มินตราพูดความในใจออกมาจนหมด สองมือเล็กทุบเข้าที่แผงอกแกร่งอย่างแรงตามอารมณ์ความเสียใจที่มี
"อึก...ฮือออ"
"พูดจบแล้วใช่ไหม?" ร่างสูงปล่อยให้หญิงสาวระบายอารมณ์กับร่างกายของเขาจนพอใจ เรี่ยวแรงของเธอไม่สามารถทำให้เขาเจ็บได้ แต่มันก็น่ารำคาญไม่น้อยที่มีผู้หญิงมาฟูมฟายตรงหน้า
"มินจะกลับบ้านพัก" มินตราพูดขึ้นแล้วตั้งท่าจะเดินออกไป ในเมื่อเขาไม่เคยสนใจเธอ เธอก็จะไม่สนใจเขาเช่นเดียวกัน
"เดี๋ยว" ริมฝีปากหยักได้รูปเอ่ยห้ามแล้วคว้าเข้าที่แขนของหญิงสาวก่อนที่เธอจะได้หันหลังเดินออกไป
"..."
"มาทุบตีฉันแล้วไม่คิดจะรับผิดชอบ?"
"นี่มันยังน้อยไปค่ะกับสิ่งที่มินต้องรู้สึก พี่ยังเจ็บไม่ได้ครึ่งหนึ่งของมินด้วยซ้ำ" มินตราเชิดหน้าตอบกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว
"เจ็บ? เธอเจ็บอะไร"
"ก็เจ็บที่พี่ทำเหมือนสนใจ ทำเหมือนมีใจให้มินยังไงล่ะคะ! ถ้าไม่ชอบจะมาให้ความหวังกันทำไม" มินตราพรั่งพรูความในใจขึ้นมาอีกครั้งเมื่อชาร์วียังคงทำเป็นเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร
"หึ" มุมปากหนายกยิ้มอย่างพึงพอใจให้กับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า เมื่อได้เจอกับเรื่องสนุกที่คิดไว้ในขณะที่เธอยังคงจ้องหน้าเขาเขม็งอยู่อย่างนั้น
"ใครบอกล่ะว่าฉันไม่ชอบเธอ..." ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับก้าวเข้ามาประชิดตัวของหญิงสาวไปด้วย มือหนาลูบที่ริมฝีปากบางเบาๆ โดยที่ดวงตาคมกริบยังคงจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง
"พี่ชาร์วี..." มินตราเรียกชื่อของชาร์วีเสียงเบาราวกับต้องมนต์สะกดเมื่อได้สบตากับแววตาที่ชวนให้หลงไหลของคนตรงหน้าอีกครั้ง
"เธอ...มีอะไรจะบอกฉันไหม" ในเมื่อมินตรายอมปริปากพูดออกมา เขาเองก็จะเล่นกับความรู้สึกของเธออีกหน่อย
"..."
"ฉันอยากได้ยินจากปากของเธอนะ ว่ายังไง หืม?"
"มิน..."
"ถ้าเธอไม่บอกฉันก็ไม่รู้หรอกนะ"
"..." ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างชั่งใจ มินตราเงียบไปพักใหญ่จนชาร์วีที่รอคำตอบต้องพูดออกมา
"ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีอะไรแล้วเธอก็ไปเถอะ แล้วก็อย่าลืมใส่เสื้อของฉันไปล่ะ" ชาร์วีแสร้งพูดขึ้นอย่างตัดพ้อพร้อมกับหมุนตัวทำท่าจะเดินออกไปแต่แล้วเสียงเล็กก็ดังขึ้นอีกครั้งจนสองเท้าหนักต้องหยุดชะงัก
"มินชอบพี่ชาร์วีค่ะ!" มินตรารีบโพล่งขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าโอกาสสุดท้ายของเธอกำลังจะหายไป
"หึ" ร่างสูงหมุนตัวกลับมาเมื่อได้ยินคำสารภาพรักจากปากของหญิงสาวอย่างที่ต้องการ ตอนนี้เขามั่นใจแล้วว่ามินตราชอบเขาจริงๆ และเธอ...ก็ยอมเดินตามเกมของเขาอย่างง่ายดายอีกด้วย
"งั้นเหรอ..." แววตาที่เคยอ่อนโยนในตอนแรกเปลี่ยนเป็นนิ่งเรียบอย่างยากจะคาดเดา ชาร์วีดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อยราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
มินตราถอยหลังออกมาสองสามก้าวเมื่อร่างสูงเดินเข้ามาประชิดตัวเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะเอ่ยถ้อยคำร้ายกาจออกมาอย่างไม่สนใจความรู้สึกของเด็กสาวที่ใสซื่อตรงหน้า
"ทำไมไม่ลองอ้าขาให้ฉันดูล่ะ เผื่อฉันจะสนใจเธอบ้าง"
"..!!" หญิงสาวเบิกตาโพลงออกมาให้กับถ้อยคำร้ายกาจของรุ่นพี่หนุ่ม ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบพักใหญ่หลังจากที่ชาร์วีพูดจบก่อนที่มินตราจะเป็นฝ่ายถามออกมาเสียงสั่น
"พะ...พี่หมายความว่ายังไง"
ชาร์วีเดินเข้าไปประชิดของตัวหญิงสาวอีกครั้ง มือหนาเชยคางมนขึ้นมาให้สบตากันก่อนจะพูดประโยคที่คนฟังต้องใจสั่นขึ้นมาอย่างรับรู้ว่าเธอจะต้องเดินตามเกมของเขาเพียงเพราะประโยคนี้
"เธอน่ะ...ตรงสเปคของฉันเลยนะ"
"พี่..."
ปกติเขาไม่จำเป็นที่จะต้องหว่านล้อมเหยื่อหรือทำอะไรแบบนี้เลย เพราะถึงยังไงก็จะมีคนมาเสนอตัวให้เขาอยู่แล้ว แต่กับคนตรงหน้าชาร์วีเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องลงทุนกับเธอมากขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะมินตราดูเป็นคนหัวอ่อนไม่ทันคน และพอจะเอามาเป็นของเล่นแก้เบื่อได้ เขาจึงยอมเสียเวลาลงไปเล่นกับเธออีกสักหน่อย ถ้ามันจะให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจตามมา
"ทำไมไม่ลองใช้สิ่งที่ตัวเองมีให้เป็นประโยชน์ล่ะ" มือหนาเริ่มลูบไล้ไปทั่วลำตัวขาวเนียนของหญิงสาว
"บางครั้งถ้าเธอยอมทำตามที่ฉันต้องการ ฉันอาจจะสนใจเธอขึ้นมาก็ได้นะ" ชาร์วีพูดอย่างไม่อ้อมค้อม เขารู้สึกสนุกที่ได้เล่นกับความรู้สึกของหญิงสาวที่อ่อนต่อโลกตรงหน้า
"ถ้ามินยอมพี่จะสนใจมินบ้างใช่ไหม..." ปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามออกมา ถึงเธอจะไม่รู้ว่าชาร์วีต้องการอะไรแต่เพื่อให้เขาสนใจแล้ว เธอยอมทำได้ทุกอย่าง
"พี่จะมองมินด้วยสายตาแบบที่มองผู้หญิงคนอื่นหรือเปล่า มินจะมีโอกาสได้ยืนข้างๆ พี่แบบนั้นบ้างไหมคะ" เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้มินตราระบายความรู้สึกออกมาทั้งหมดอย่างเจ็บลึกอยู่ข้างใน ในขณะที่ดวงตาคู่สวยเริ่มมีน้ำตาไหลออกมา สำหรับเธอที่เฝ้ามองชาร์วีมาตลอดสองปีมันทำให้เธออยากเป็นคนที่ได้ยืนข้างๆ เขาบ้าง...
"มันก็อยู่ที่ว่าเธอจะทำให้ฉันถูกใจมากแค่ไหน"
"ถ้าสามเดือนนี้ก่อนที่ฉันจะเรียนจบ เธอสามารถเปลี่ยนแปลงความรู้สึกของฉันได้ ฉันจะยอมตอบรับคำสารภาพของเธอ แต่ถ้าไม่..."
"...เราก็ต่างคนต่างอยู่"
"มันน่าสนใจดีนะ...อย่างน้อยเธอก็จะได้มีโอกาสลองเสี่ยงดูไง ว่าไหม หื้ม~" ชาร์วีเริ่มใช้คำพูดให้คนตรงหน้าคล้อยตาม
"..."
"ว่ายังไง จะยอมรับข้อเสนอของฉันหรือเปล่า"
@วันวาเลนไทน์-คอนโดชาร์วี"แน่ใจเหรอว่าจะไม่ไปกินข้าวที่ร้านอาหารจริงๆ" ร่างสูงที่กำลังถือจานอาหารเอ่ยถามหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงโต๊ะอีกครั้งซึ่งมินตราที่อยู่ในชุดสีชมพูหวานก็วางดอกไม้ในมือลงแล้วตอบกลับแฟนหนุ่มไปอย่างมั่นใจ"ทานที่ห้องนี่แหละค่ะ ที่ร้านอาหารคนเยอะและมินก็อยากอยู่กับพี่วีสองต่อสองมากกว่า""หึ เป็นเด็กติดพี่เหรอ""ติดแฟนค่ะ" ใบหน้าหวานหันกลับมาตอบกลับอย่างทะเล้นก่อนที่ชาร์วีจะวางอาหารที่สั่งมาลงบนโต๊ะกระจกแล้วสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลังพลางเอ่ยถ้อยคำที่ทำให้คนฟังต้องหน้าแดงออกมา"กินที่ห้องก็ดีเหมือนกัน จะได้อุ้มขึ้นเตียงง่าย"เพี๊ยะ!"พะ...พอเลยค่ะ ครั้งก่อนก็โดนปะป๊าจับได้ มินอายนะคะ" มือเรียวฟาดที่ต้นแขนแกร่งอย่างแรงแล้วทำหน้ามุ่ยออกมาให้กับความหื่นของรุ่นพี่หนุ่มที่เขาได้ทำเรื่องน่าอายไว้ที่บ้านของเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนจนธันวาเดินเข้ามาเห็นภาพที่ชาร์วีกำลังซุกไซ้เธออยู่ในห้องครัว"ครั้งนี้ทำบนเตียง ไม่ได้ทำที่ห้องครัวแล้ว""ชิ มินไม่พูดกับพี่แล้วค่ะ" มินตราแสดงท่าทีกระฟัดกระเฟียดออกมาแล้วหยิบดอกกุหลาบที่เหลืออยู่ขึ้นมาจัดใส่แจกันต่อโดยไม่สนใจร่างสูงที่กำลังคลอเคลียเธออย
"มิน! ฟังพี่ก่อน""มินตรา...มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ" ฝ่ามือแกร่งเลื่อนจับล็อกที่ท่อนแขนเรียวเอาไว้แล้วพยายามอธิบายให้หญิงสาวตรงหน้าฟัง หัวใจแกร่งกระตุกวูบเมื่อเห็นน้ำตาใสของคนตัวเล็กที่กำลังไหลออกมา"ฮึก...""ใจเย็นๆ นะมิน มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดนะ" ชาร์วีรั้งตัวของคนตัวเล็กเขามาสวมกอดไว้แน่นพลางลูบที่เรือนผมของเธอไปด้วยเพื่อให้มินตราใจเย็นลงแต่ว่าทุกอย่างมันกลับไม่ได้ง่ายแบบนั้น"ปล่อยมินค่ะ มินจะกลับบ้าน" มินตราพยายามออกแรงดิ้นเพื่อให้พ้นจากพันธนาการของชายหนุ่มทว่าชาร์วีก็ยังคงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ"มันไม่มีอะไรจริงๆ นะมิน""แน่ใจเหรอคะว่าไม่มีอะไร" น้ำเสียงที่เยือกเย็นดังออกมาจากคนตัวเล็กอีกครั้ง มินตราผละใบหน้าออกแล้วจ้องมองแฟนหนุ่มเขม็งในขณะที่ชาร์วีซึ่งพอจะรับรู้ถึงสายตาคนตรงหน้าได้ก็รีบบอกความจริงออกมาเพราะเขาไม่มีอะไรจะต้องปิดบังเธออยู่แล้ว"ฉันกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีอะไรด้วยกันมานานแล้ว ตั้งแต่ที่มีเธอเราก็ไม่ได้ยุ่งกันอีก""พี่แน่ใจแล้วเหรอคะว่าไม่เคยยุ่งกันอีก" มินตราเอ่ยถามคนตรงหน้าเสียงสั่นในขณะที่ชาร์วีขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความงุนงงเพราะเขาไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคน
@หลายเดือนต่อมา-มหาวิทยาลัย"คุยกับพี่ชาร์วีอยู่เหรอ" เสียงหวานของเม็ดทรายเอ่ยถามคนด้านข้างที่กำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่หลังจากที่ออกมาจากห้องเรียนแล้วก่อนที่มินตราจะละสายตาจากหน้าจอแล้วหันมาตอบกลับเพื่อนสนิทด้วยรอยยิ้มหวาน"ใช่~ พี่วีบอกว่ามารอหน้าตึกแล้ว""เฮ้อ เบื่อคนมีความรักจริงๆ เลย" หญิงสาวลอบถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ให้กับความคลั่งรักของทั้งสองคนที่ไม่ว่าจะเป็นมินตราที่มักพูดถึงแฟนหนุ่มของตัวเองให้เธอฟังอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่ชาร์วีเองก็มารับมินตราทุกวันรวมถึงถ่ายรูปของเธอแล้วบอกรักลงอินสตาแกรมอยู่บ่อยครั้งจนทุกคนต่างอิจฉาให้กับความคลั่งรักของทั้งคู่ที่ดูจะยิ่งมากขึ้นในทุกๆ วัน"แต่ก็เอาเถอะ เห็นว่าผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ จะยอมให้ก็แล้วกัน" เม็ดทรายแสร้งกอดอกแล้วเอ่ยออกมาอย่างไม่จริงจังนักจนมินตราหลุดเสียงหัวเราะออกมาให้กับท่าทางของเธอ"ฮ่าๆๆ งั้นเธอคงต้องยอมเราทุกวันแล้วล่ะเพราะเรากับพี่วีผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากกก" มินตรายิ้มตอบกลับไปอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงเรื่องราวในอดีต ทุกเหตุการณ์เธอยังคงจดจำมันได้อยู่เพียงแค่มันไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกหรือทำให้เธอต้องเจ็บปวดอีกแล้วเพียง
"แฮ่ก~""พี่รักเรานะครับ" ชาร์วีกดจูบลงบนไหล่มนชุ่มเหงื่อแล้วบอกรักคนที่นอนอยู่ไปด้วยในขณะที่ตัวของเขาเองก็เหนื่อยหอบไม่ต่างกัน ฝ่ามือหนาดึงแก่นกายใหญ่ออกจนน้ำคาวสีขุ่นไหลทะลักออกมาก่อนจะล้มตัวลงนอนราบแล้วจับร่างบางขึ้นมานั่งบนหน้าตักไปด้วย"พี่วี ไม่ทำแล้วนะคะ มินเหนื่อยแล้ว" มินตรางอแงออกมากชุดใหญ่อย่างรับรู้ความต้องการของแฟนหนุ่ม เพียงแค่เห็นความใหญ่โตที่ผงาดขึ้นอีกครั้งตรงหน้าก็พาลทำให้หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ"พี่บอกแล้วไงว่าจะปล่อยเราตอนทุ่มครึ่ง แต่ถ้า..." ปากหนาจงใจเว้นคำในประโยคสุดท้ายแล้วเลื่อนมือไปสัมผัสเอวคอดไปด้วยจนร่างบางขนลุกซู่ไปทั้งตัวก่อนที่ชาร์วีจะเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงร้ายกาจ"ถ้าเราขึ้นให้พี่ พี่จะให้จบแค่น้ำเดียว""ละ...ลามกที่สุดเลย" ใบหน้าจิ้มลิ้มแดงระเรื่อด้วยความเขินอายให้กับคำพูดลามกของคนด้านล่างแล้วพยายามลุกขึ้นออกจากตรงนั้นทว่ากลับโดนฝ่ามือแกร่งรั้งเอวคอดไว้มั่นจนเธอไม่สามารถหนีไปได้"พี่ให้เวลาเราตัดสินใจนะ ถ้าเราหนีอีกพี่จะจับกระแทกจนถึงเวลาที่บอก" "อึก..." มินตราลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ให้กับท่าทีที่ดูจริงจังเหล่านั้นพลางเม้มปากเข้าหากันแน่
"เลิกร้องได้แล้วครับ" มือหนาเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยนในขณะที่คนตัวเล็กยังคงสะอื้นไห้ออกมาเบาๆ อยู่ ชาร์วีอมยิ้มออกมาเล็กน้อยให้กับนิสัยที่ขี้แงของหญิงสาวแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาก็ตกหลุมรักเด็กน้อยคนนี้จากนิสัยนั้นเหมือนกัน"ดีขึ้นหรือยัง""ฮึก! มะ...มันยังอยากร้องอยู่เลยค่ะ อึก มินกลั้นน้ำตาไว้ได้""งั้นไปร้องต่อในห้องก็แล้วกันนะ แต่เป็นร้องคราง""อ๊ะ! ไม่ทำนะคะพีวี" ร่างเล็กออกแรงดิ้นเมื่อถูกคนตัวสูงช้อนตัวเข้าไปในห้องนอนด้วยความรวดเร็วทว่าเรี่ยวแรงอันน้อยนิดของเธอไม่สามารถสู้ชาร์วีได้ ชายหนุ่มวางแฟนสาวลงบนเตียงด้วยความแผ่วเบาจากนั้นจึงรีบไปคร่อมตัวของเธอเอาไว้แล้วโน้มใบหน้าลงไปซุกไซ้ตามลำคอขาวเนียนด้วยความหื่นกระหาย"อื้ออ~ พี่วีทำเบาๆ หน่อยค่ะ อ๊ะ! มินเจ็บนะคะ ยะ...อย่าทำรอยเดียวปะป๊าเห็น อื้ออ" เรียวปากบางส่งเสียงร้องประท้วงออกมาไม่หยุดเมื่อคนด้านบนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ชาร์วีสูดดมกลิ่นกายหอมหวานของคนตัวเล็กอย่างหลงใหล ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาคิดถึงร่างบางนุ่นนิ่มนี้มาตลอด"ไม่ไหวแล้วมิน พี่ขอเอาเลยนะ" ชายหนุ่มผละใบหน้าออกมาเอ่ยบอกเสียงแหบพร่าแล้วรีบปลดเปลื้องเส
@วันต่อมา-บ้านมินตรา"พี่วีอย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ เดี๋ยวมินก็ใจอ่อนหรอก" มินตราแสร้งทำหน้ายู่ออกมาแล้วเอ่ยต่อว่าคนตรงหน้าอย่างไม่จริงจังนักให้กับสายตาที่ดูอ้อนวอนของชายหนุ่มเนื่องจากเธอจะไม่ได้กลับไปนอนที่คอนโดด้วยกัน"เพิ่งได้นอนกอดกันแค่คืนเดียวเอง ยังไม่หายคิดถึงเลย" ร่างสูงรั้งคนตัวเล็กเข้าไปสวมกอดไว้แน่นด้วยความโหยหาพลางกดปลายจมูกโด่งลงบนศีรษะทุยเล็กไปด้วยจนมินตราลอบยิ้มออกมาให้กับความออดอ้อนของเขา"มินนอนที่บ้านแค่ไม่กี่วันเองค่ะ เดี๋ยวก็ได้กลับไปอยู่ด้วยกันแล้วนะ""ไม่กี่วันตรงไหน ตั้งสี่วัน แล้วยังได้กลับไปนอนด้วยกันแค่สองวันเอง""ปกติตอนปิดเทอมมินกลับมานอนที่บ้านเป็นเดือนเลยนะคะ ตอนนี้เหลือแค่เป็นวันเอง~ มานอนที่บ้านสี่วันแล้วกลับไปนอนกับพี่สองวันมันก็ไม่น้อยเลยนะคะ""แต่ฉันอยากมีเวลาสัมผัสเธอมากกว่านี้""น้อยๆ หน่อย นี่ยังอยู่ที่บ้านอยู่นะ" ธันวาที่เดินออกมาเอ่ยบอกชายหนุ่มรุ่นลูกที่กำลังกอดหอมลูกสาวของเขาอยู่เสียงดุทำให้ชาร์วีต้องยอมผละตัวออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ในขณะที่มินตราก้มหน้างุดด้วยความเขินอายที่พ่อของตัวเองเข้ามาเห็นในเวลาแบบนี้"ถึงพ่อจะอนุญาตให้คบกันแล้วแต่ก็ไม่ใช่ว







