ศิวกรเอนตัวพิงพนักโซฟา ดวงตาคมจ้องมองแก้วไวน์ในมือพลางนึกถึงใบหน้าดื้อ ๆ ของใครบางคน"เฮ้อ..."
ตั้งแต่เจอรัน เขารู้สึกเหมือนตัวเองเปลี่ยนไป จากที่เคยเย็นชา ไม่สนใจใคร ตอนนี้กลับมาคอยคิดถึงแต่เด็กดื้อคนนั้นตลอดเวลา "ให้ตายสิ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "คิดอะไรอยู่?" เสียงทุ้มของเสี่ยสหัสวินดังขึ้น เขาทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามพร้อมกับมองหน้าเพื่อนสนิท "ไม่มีอะไร" ศิวกรตอบเสียงเรียบ สหัสวินยกคิ้วขึ้น "อย่ามาโกหก เห็นนั่งถอนหายใจแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" ศิวกรเหลือบตามองเพื่อน ก่อนจะวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะ "ฉันไม่ได้ถอนหายใจ" "หรอ แล้วเมื่อกี้ที่ถอนหายใจล่ะ" ศิวกรชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะปรายตามองสหัสวิน "พูดมาก" สหัสวินหัวเราะ "ยอมรับเถอะว่าหลงเด็กนั่นจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแต่หันหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางเหมือนคนกำลังปฏิเสธความจริง "ถึงขนาดมานั่งคิดถึงเขาตอนอยู่กับเพื่อนแบบนี้ ไม่เรียกว่าหลงก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วว่ะ" สหัสวินแซวขำ ๆ ศิวกรถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "ก็นิดหน่อย" "หึ นิดหน่อยของนายก็คือโคตรมากล่ะสิ" ศิวกรไม่เถียงอะไร ปล่อยให้เพื่อนพูดไป ในใจกลับคิดถึงแต่รัน เด็กดื้อที่เขาอยากจับมากอดไว้ทั้งคืนให้ตายเถอะ หลงเด็กไม่ไหวแล้วจริง ๆ ศิวกรเอนตัวลงพนักโซฟา ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ดวงตาคมมองแก้วไวน์ในมืออย่างเหม่อลอย ก่อนจะนึกถึงใบหน้าของรันที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ รัน ตั้งแต่เด็กคนนั้นเข้ามาในชีวิต เขาก็เริ่มไม่เหมือนเดิม หงุดหงิดง่ายขึ้น ใจร้อนขึ้น และที่สำคัญเขาคิดถึงรันแทบตลอดเวลา "เฮ้อ..." ศิวกรพึมพำกับตัวเองก่อนจะยกไวน์ขึ้นจิบ "ถอนหายใจอีกแล้ว" "อะไร" ศิวกรเลิกคิ้วถาม "นายเป็นแบบนี้ตั้งแต่มีเด็กคนนั้นเข้ามา" สหัสวินยกแก้วขึ้นจิบไวน์พลางยิ้มมุมปาก "แบบไหน" "แบบที่ถอนหายใจบ่อย คิดอะไรไม่รู้แล้วก็เหม่อลอย" ศิวกรนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพึมพำเบา ๆ "ก็อาจจะใช่" "โอ้โห ปกตินายไม่เคยยอมรับอะไรแบบนี้" สหัสวินหัวเราะออกมา "เด็กนั่นทำให้นายยอมรับตัวเองได้ขนาดนี้เลย" ศิวกรยกแก้วขึ้นดื่มอีกอึก ก่อนจะวางลงแล้วเอนตัวพิงโซฟา "ก็ไม่รู้ว่ะ" "ไม่รู้ หรือรู้แต่ไม่อยากยอมรับ" ศิวกรนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดเสียงเรียบ "ฉันรู้แค่ว่าฉันอยากอยู่ใกล้ ๆ เขา อยากเห็นหน้าเขาทุกวัน" สหัสวินเลิกคิ้วสูง "พูดขนาดนี้ ทำไมไม่รีบทำให้เป็นของตัวเองไปเลยล่ะ" ศิวกรหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว "ก็เด็กมันดื้อ" "ดื้อแล้วยังไง" "ดื้อแล้วน่ารัก..." "..." "และฉันก็หลงเด็กดื้อนั่นจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว" สหัสวินมองหน้าเพื่อน ก่อนจะหลุดขำออกมา "ไอ้เสี่ยศิวกรที่แสนเย็นชา กลายเป็นเสี่ยที่คลั่งรักเด็กแล้วจริง ๆ สินะ" ศิวกรไม่ตอบอะไร เพียงแค่ยกไวน์ขึ้นดื่มอีกอึก แต่ในใจกลับคิดถึงใบหน้าของรันไม่หยุดเขาจะทำยังไงให้เด็กนั่นยอมรับความรู้สึกของตัวเองสักทีนะ หลังจากนั่งคิดวนไปวนมาเกี่ยวกับเด็กคนนั้น ศิวกรก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกเสียงสัญญาณดังขึ้นเพียงไม่นาน ปลายสายก็กดรับ "ครับเสี่ย" เสียงของจอม บอดี้การ์ดคนสนิทดังขึ้น "รันอยู่ไหน" ศิวกรถามเสียงเรียบ แต่ในใจกลับร้อนรนอย่างไม่รู้สาเหตุ "อยู่ที่ห้องครับ ดูเหมือนจะเล่นเกมอยู่กับเพื่อน" ศิวกรขมวดคิ้ว "เพื่อน" "ครับ มีไอ้เด็กชื่อภูมินทร์อยู่ด้วย" แค่ได้ยินชื่อ ศิวกรก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา เขาจำไอ้เด็กคนนั้นได้ดี ไอ้เด็กที่ชอบทำตัวสนิทสนมกับรันเกินไป "สองคนนั้นทำอะไรกันอยู่" เสียงของศิวกรเข้มขึ้น "นั่งเล่นเกม หัวเราะกันเสียงดังเลยครับ" ศิวกรหรี่ตาลง "ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้" "ครับเสี่ย" ศิวกรตัดสายทันที ก่อนจะคว้ากุญแจรถแล้วเดินออกจากคอนโดด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ รันนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง มือถือจอยเกมไว้แน่น ดวงตาจับจ้องอยู่ที่หน้าจอ ส่วนข้าง ๆ มีภูมินทร์ที่กำลังนั่งหัวเราะไปด้วย "เฮ้ย ยิงมันเลย ๆ" ภูมินทร์พูดเสียงดัง "เออ กำลังยิงอยู่" รันตั้งใจเล่นเกมสุดชีวิต แต่จู่ ๆ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ทำให้รันชะงัก "หืม ใครมา" ภูมินทร์หันไปมองประตู รันก็สงสัยไม่แพ้กัน เขาวางจอยเกมลงก่อนจะเดินไปเปิดประตู แต่ทันทีที่เปิดออก ดวงตาก็เบิกกว้างเมื่อเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า "เสี่ย มาที่นี่ได้ยังไง" ศิวกรกวาดตามองรัน ก่อนจะหรี่ตามองเข้าไปในห้อง แล้วก็เห็นภูมินทร์ที่กำลังมองมาที่เขาเหมือนกันแค่เห็นหน้าไอ้เด็กนี่ อารมณ์หงุดหงิดก็เพิ่มขึ้นทันที "ฉันมาหาหวานใจของฉัน อีกอย่าง คอนโดนี่ฉันก็เป็นคนซื้อให้นายฉันมีสิทธิ์จะเข้าจะออกก็ได้" ศิวกรพูดเสียงเรียบ แต่สายตากลับเเข็งกร้าว "หวานใจ ผมไม่ใช่หวานใจเสี่ยสักหน่อย" รันรีบเถียงทันที ศิวกรไม่ตอบอะไร แต่เดินเข้าไปในห้องหน้าตาเฉย ก่อนจะหันไปมองภูมินทร์ที่นั่งอยู่บนเตียง "นาย กลับได้แล้ว" ภูมินทร์ทำหน้ามึน " ทำไมผมต้องกลับ" "เพราะตอนนี้ฉันจะอยู่กับรันแค่สองคน" "..." รันอ้าปากค้าง มองเสี่ยสลับกับภูมินทร์ ก่อนจะหันไปกระซิบเพื่อน "มึงรีบไปเหอะ ก่อนที่คนแก่จะจับโยนออกจากหน้าต่าง" ภูมินทร์กลั้นขำ แต่ก็ยอมลุกขึ้น "โอเค ๆ ไว้เจอกัน" เมื่อภูมินทร์ออกไปแล้ว ศิวกรก็ปิดประตูล็อกทันที " ล็อกทำไม" รันเริ่มใจคอไม่ดี ศิวกรก้าวเข้ามาใกล้ ก่อนจะยกมือเท้ากับประตู กักรันไว้ในอ้อมแขน "ฉันคิดถึงนาย" เสี่ยพูดเสียงทุ้มต่ำ "..." รันเงยหน้ามองเสี่ยที่กักตัวเองไว้กับประตู ดวงตาคมของศิวกรจ้องลงมาไม่วางตา แววตานั่นมันอันตรายเกินไป "เสี่ย... ถอยไปก่อนดิ ผมหายใจไม่ออก" รันพยายามดันอกกว้างออกไป แต่ศิวกรไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว "ฉันบอกแล้วไง ว่าคิดถึง" ศิวกรพูดเสียงทุ้ม ดวงตาคู่นั้นมีแววบางอย่างที่ทำให้รันรู้สึกขนลุก "เวอร์ละเสี่ย เพิ่งเจอกันไม่กี่วันเอง" "กี่วันก็ช่าง ฉันคิดถึงก็คือคิดถึง" รันเม้มปาก พยายามเบือนหน้าหนี แต่ศิวกรกลับยกมือขึ้นมาจับคางให้หันกลับมาสบตา "มองหน้าฉันดี ๆ รัน" "มองแล้วทำไม" "เห็นมั้ยว่าฉันจริงจังแค่ไหน" "..." รันกลืนน้ำลายลงคอ ใบหน้าของเสี่ยอยู่ใกล้เกินไป ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากตัวเขา "เสี่ย... จะทำอะไร" "จะกอด" "ห๊ะ" ไม่ทันให้รันตั้งตัว ศิวกรก็ดึงเขาเข้าไปกอดแน่น "ปล่อยดิ" รันดิ้น แต่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกกระชับอ้อมแขนมากขึ้น "กอดให้หายคิดถึง" เสียงของเสี่ยทุ้มต่ำ ใกล้ใบหูจนรันสะดุ้ง "เสี่ยแม่ง! คนแก่บ้า หื่นจังน่ะเสี่ย อย่าหื่นสิ" ศิวกรขำลั่นแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย รันได้แต่ยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ย แม้จะพยายามดิ้นออกแต่ก็เหมือนดิ้นให้เหนื่อยเปล่า เพราะยิ่งดิ้น เสี่ยก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น "เสี่ยพอได้แล้ว" ศิวกรหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่ก็ยอมคลายอ้อมแขนเล็กน้อย มือหนายังคงวางอยู่ที่เอวของรัน ดวงตาคมมองเด็กดื้อที่หน้าแดงจัดอย่างพึงพอใจ "หน้าแดงอะไรขนาดนั้น นายเขินเหรอ" "ไม่ได้แดง" รันเถียงกลับทันที แต่ใบหูที่แดงเถือกกลับหักล้างคำพูดตัวเองไปหมด ศิวกรกระตุกยิ้ม ก่อนจะยื่นมือไปเขี่ยแก้มรันเบา ๆ "เด็กอะไร ขี้เถียง แล้วยังน่ารักอีก" "บ้า เสี่ยแม่ง น่าขนลุกว่ะ" รันรีบผลักตัวเสี่ยออกแล้วเดินหนีไปนั่งที่เตียง มือขยุ้มผ้าห่มแน่น ใบหน้ายังร้อนผ่าวไม่หาย ศิวกรเดินตามไปแล้วนั่งลงข้าง ๆ ก่อนจะมองรันนิ่ง ๆ "รัน" "อะไร" "คืนนี้ไปกินข้าวกับฉันนะ" รันหันขวับ "ห๊ะ ไม่เอาอะ" ศิวกรขมวดคิ้ว "ทำไม" "ผมมีนัดเล่นเกมกับไอ้ภูมินทร์" ทันทีที่ได้ยินชื่อเพื่อนสนิท รังสีอำมหิตของเสี่ยก็พวยพุ่งออกมา "ยกเลิกซะ" เสียงเข้มจนรันสะดุ้ง "ไม่เอา นัดไปแล้ว" ศิวกรจ้องหน้ารัน ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปใกล้ "ฉันบอกให้ยกเลิก" "ทำไมต้องยกเลิกว่ะ" "เพราะฉันอยากอยู่กับนายเเค่สองคนคนอื่นไม่เกี่ยว" "นาย ต้องกินข้าวกับฉันเท่านั้น" รันเม้มปากแน่น หัวใจเต้นโครมครามเมื่อเจอสายตาคลั่งรักของเสี่ยเข้าไปเต็ม ๆ"วาเลนไทน์ปีนี้ อยากได้กี่ดอกครับ หืม" เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหู ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะกดจูบลงบนซอกคอขาว รันตัวสั่น ยกมือดันอกแกร่งของเสี่ยศิวกรออก แต่ก็ไม่อาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้ "อึก…เสี่ย…พอแล้ว ผมเหนื่อย" ศิวกรหัวเราะในลำคอ ดวงตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบไม่ใช่แบบนี้" รันแหวใส่ หน้าแดงจัดเมื่อเข้าใจความหมายของเสี่ยชัดเจน "หึ งั้นก็เอาทั้งกุหลาบ ทั้งดอกนี้ไปพร้อมกันเลยแล้วกัน" ไม่ทันให้ตั้งตัว ศิวกรพลิกตัวคร่อมทับ ก่อนจะเริ่มบทลงโทษที่ทำให้รันไม่ได้ออกจากห้องทั้งวัน รันดิ้นพล่านอยู่ใต้ร่างแกร่ง ดวงตากลมโตฉายแววตกใจปนเขินอาย "โอ๊ย!เสี่ย พอได้แล้ว" "ยังไม่ตอบเลยว่าจะเอากี่ดอก" เสี่ยศิวกรกระซิบเสียงพร่า รันตัวสั่นสะท้าน ใบหน้าแดงก่ำ "ผมหมายถึงดอกกุหลาบ ไม่ใช่..." "ฉันก็หมายถึงดอกกุหลาบไง" เสี่ยศิวกรหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบช่อกุหลาบสีแดงสดขึ้นมา "แต่ถ้านับ ดอก ที่คิดอยู่...ก็ต้องรอดูคืนนี้แล้วล่ะ ว่าจะได้กี่ดอก" รันเม้มปากแน่น ทั้งอายทั้งขัดใจแต่ก็เถียงไม่ออก เพราะสายตาของเสี่ยมันเจ้าเล่ห์เกินต้าน
รันแอบลอบถอนหายใจเบา ๆ หลังจากอุ้มลูกน้อยจนหลับสนิท เขาเหลือบมองเสี่ยศิวกรที่นอนกอดอกมองมาเหมือนจะจับกินอยู่รอมร่อ "ไปไหนครับ" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามทันทีที่รันค่อย ๆ ย่องออกจากห้อง รันสะดุ้ง รีบส่ายหน้าแล้วหัวเราะกลบเกลื่อน "เปล๊า จะไปหาอะไรกิน" เสี่ยศิวกรหรี่ตา "ให้เสี่ยไปด้วยไหม" "ไม่ต้อง แค่หน้าปากซอยเอง" รันรีบพูดก่อนจะเดินเร็ว ๆ ออกจากห้องไป จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้หิว แต่จะหนีไปนอนห้องอื่นต่างหากตั้งแต่คลอดลูก เสี่ยก็ดูจะหื่นขึ้นกว่าเดิมอีกสิบระดับ แล้วแบบนี้เขาจะพักผ่อนได้ยังไงกัน แต่ยังไม่ทันจะพ้นประตูคอนโด เสียงคุ้นหูก็ดังขึ้น "อ้าว รัน มาทำทำอะไรดึก ๆ" รันชะงัก หันไปมองก็เจอ เสี่ยสหัสวิน เพื่อนสนิทของศิวกร กำลังยืนพิงรถหรูมองมาอย่างสงสัย "เอ่อ…" "แอบหนีผัวเหรอ" สหัสวินถามตรง ๆ พร้อมยิ้ม รันหน้าซีด รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน "เปล่าผมแค่มาหาอะไรกิน" แต่ยังไม่ทันจะพูดจบ จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านจากด้านหลัง "หืม… มาหาอะไรกิน หรือจะหนีเสี่ยกันแน่ครับ รัน" เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้น
รันหอบหายใจแรง ฝังหน้าลงกับแผ่นอกแกร่งของเสี่ยศิวกร ขณะที่มือหนาลูบไล้แผ่นหลังของเขาไปมา "อื้ม… เสี่ย พอแล้วม..." "แง๊" เสียงร้องไห้จ้าของเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในเปลทำให้ทั้งคู่ชะงักทันที รันรีบผละออกจากอกเสี่ย หันไปมองลูกน้อยที่กำลังดิ้นงอแง ดวงตากลมโตเอ่อคลอด้วยน้ำตา "โอ๋ ๆ ลูก หิวนมเหรอครับ" รันรีบคว้าผ้าคลุมมาห่อตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปอุ้มลูกน้อย เสี่ยศิวกรที่กำลังขัดใจสุด ๆ ขยี้หัวตัวเองอย่างหงุดหงิด "ให้ตายสิ ลูกพ่อเลือกเวลาตื่นเก่งจริง ๆ" รันหันกลับมาค้อนใส่ "เพราะเสี่ยไม่พักเองต่างหาก" เสี่ยหัวเราะในลำคอ มองภรรยาตัวน้อยที่กำลังกล่อมลูกด้วยสายตาหลงใหล แต่ในใจเขาคิดไว้แล้ว… คืนนี้แหละ รอให้ลูกหลับก่อนเถอะ เสี่ยจะเอาคืนให้หนักเลย "โอ๋ ๆ ไม่ร้องนะครับคนเก่ง" รันโยกตัวเบา ๆ กล่อมลูกน้อยที่ยังสะอื้นอยู่ในอ้อมแขน ขณะที่เสี่ยศิวกรมองตามด้วยสายตาเซ็ง "รัน… ลูกนอนเองได้มั้ย" เสี่ยถามเสียงพร่า ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการที่ยังค้างอยู่ รันหันขวับ ค้อนใส่ทันที "เสี่ย นี่ลูกเสี่ยนะ จะมาขัดใจกันแบบนี้ไม่ได้" "ก็เสี่ยยังไม่หายอยาก
รันแทบไม่มีแรงแม้แต่จะลืมตา ร่างกายระบมไปหมดเพราะเมื่อคืนถูกเสี่ยศิวกรเล่นงานจนแทบไม่ได้พัก เขาพยายามขยับตัว แต่แขนแกร่งของเสี่ยกลับรั้งเขาไว้แน่น "อื้ม... เสี่ย ปล่อยผมหน่อย" รันครางเสียงแผ่ว พยายามดิ้นหนี แต่กลับถูกกอดแน่นกว่าเดิม "ยังไม่ให้ไปไหน" เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู "เมื่อคืนยังไม่พอ "พอแล้ว" รันเถียงทันที "เสี่ยไม่ปล่อยให้ผมพักบ้างเลย" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ พลิกตัวขึ้นคร่อมรันไว้ มือหนาลูบไล้เอวบางอย่างอ้อยอิ่ง "ก็เสี่ยติดใจเมีย..." "ใครเมียเสี่ยกันล่ะ" รันโวยวายแต่แก้มแดงก่ำ "มีลูกด้วยกันเเล้วถ้าไม่ใช่เมียจะเรียกว่าอะไรครับ หรือจะให้ผัวคนนี้สั่งสอนเเบบจัดหนักจัดเต็มครับเมีย" "เดี๋ยว ไม่เอาแล้ว เสี่ย อื้อออ" เสียงร้องประท้วงถูกกลืนหายไปในจูบเร่าร้อนของเสี่ยศิวกร รันพยายามดิ้นหนีแต่ก็ไร้ผล ศิวกรคร่อมร่างเขาไว้แน่น ดวงตาคมกริบจ้องมองมาอย่างพอใจ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แต้มมุมปากก่อนที่เขาจะก้มลงมากระซิบเสียงพร่า "ทำไมต้องหนีล่ะครับ หืม หรือว่าเมื่อคืนเสี่ยยังทำให้ไม่พอ" "พอแล้ว ผมจะไม่ไหวแล้วนะเสี่ย" รันโวยวาย ใบหน
รันนั่งหน้างออยู่บนเตียงหลังจากถูกเสี่ยศิวกรกอดรัดฟัดเหวี่ยงไปมา เหมือนหมาป่าหวงลูกกระต่ายตัวน้อย ๆ ที่กำลังพยายามดิ้นหนี "เสี่ย พอได้แล้ว ผมบอกว่าไม่พร้อมไง" รันโวยวายเสียงเบา กลัวจะปลุกลูกสาวที่กำลังหลับอยู่ ศิวกรยิ้มเจ้าเล่ห์ "แต่เสี่ยพร้อมแล้วนี่ครับ" เขาพูดพลางลูบแผ่นหลังบางไปมา "อีกอย่าง... ลูกเราน่ารักขนาดนี้ มีอีกสักคนจะเป็นไรไปครับ" รันหรี่ตามองเสี่ยอย่างจับผิด "ไม่ใช่ว่าอยากมีลูกหรอก เสี่ยแค่อยาก..." "อยากอะไรครับ" ศิวกรเลิกคิ้วถามอย่างท้าทาย มือหนายกขึ้นลูบแก้มรันเบา ๆ รันเม้มปากแน่นก่อนจะสะบัดหน้าหนี "เปล่า แต่ผมยังไม่พร้อมไง เสี่ยจะให้ผมอุ้มท้องอีกคนตอนนี้เลยหรือไง" "อืม... ก็น่าสนใจนะครับ" ศิวกรหัวเราะเบา ๆ แล้วขยับเข้าใกล้รันมากขึ้น "เสี่ย" รันรีบหยิบหมอนขึ้นมากันตัวเองไว้ ศิวกรหัวเราะอย่างเอ็นดู ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของรัน "โอเค ๆ ถ้ารันยังไม่พร้อม เสี่ยก็จะรอ" รันถอนหายใจอย่างโล่งอก "แต่คืนนี้ขอแบบไม่ป้องกันนะครับ" เสี่ยกระซิบเสียงพร่า ขณะจ้องมองใบหน้าที่แดงซ่านของรัน "เสี่ย" "หืม ทำหน้างอแบ
หลังจากแต่งงานกันได้ไม่นาน รันก็เริ่มท้องโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ต้องลาคลอด เสี่ยศิวกรที่เคยเป็นนักธุรกิจสุดเคร่งขรึม ตอนนี้กลับกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่เต็มตัว คอยดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับลูก ทั้งอุ้ม กล่อมนอน เปลี่ยนผ้าอ้อม และแม้แต่ร้องเพลงกล่อมลูกก็ยังทำ ส่วนรันที่เป็นแม่แต่ยังเรียนไม่จบ ก็ต้องกลับไปเรียนตามเดิม ตอนเช้า “เสี่ย ผมไปเรียนก่อนนะ” รันพูดขึ้นขณะจัดกระเป๋านักศึกษา รันหัวเราะเบา ๆ เดินเข้าไปใกล้เสี่ยแล้วจุ๊บแก้มลูกเบา ๆ “เสี่ยเลี้ยงลูกดี ๆ นะ” เสี่ยศิวกรทำหน้าไม่พอใจ “กูเป็นพ่อของลูกนะ รันอย่ามาดูถูกกู” รันหัวเราะ “โอเค ๆ งั้นไปล่ะนะ” เสี่ยมองตามรันที่เดินออกไป ก่อนจะก้มลงมองลูกน้อยที่กำลังหลับตาพริ้ม “หึ… เมียกูไปเรียน ส่วนกูเลี้ยงลูก นี่กูเป็นเสี่ยหรือเป็นพ่อบ้านกันแน่วะ” แม้จะบ่น แต่เสี่ยศิวกรก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะตอนนี้ทั้งรันและลูกคือลมหายใจของเขาทั้งหมดแล้ว หลังจากรันออกไปเรียน เสี่ยศิวกรก็นั่งมองลูกน้อยที่กำลังหลับอยู่ในเปลโยก สองมือใหญ่ลูบหัวเบา ๆ อย่างอ่อนโยน "เฮ้อ... ทำธุรกิจพันล้านยั