Se connecter“น่าพักเดียว เดี๋ยวไปส่งถึงพงษ์ไพศาลกิจ จะได้ทันทานมื้อเย็นกับคุณหญิงด้วยเลยไง” เพียงแค่พูดถึงคุณหญิงประกาย ร่างที่กำลังแข็งขืนก็อ่อนยวบ เปรมจึงรอบยิ้มด้วยความพอใจ
“ค่ะ”
“ไปๆ...” ชายหนุ่มดันแผ่นหลังของกาสะลอง โอบกอดเรือนกายบอบบางกลายๆ จนหญิงสาวต้องหมุนตัวมาพูดเตือนน้ำเสียวแผ่วๆ
“ปล่อยค่ะ มันไม่เหมาะ”
“จะเป็นไรไปแตะนิดแตะหน่อยไม่สึกหรอหรอกคุณ”
“ค่ะมันไม่สึกไม่หรอ แต่มันดูไม่ดีในสายตาคนอื่น”
“ตามใจคุณ ไปกันเถอะเดี๋ยวเสียเวลา” เปรมรีบปล่อยมือที่ดันแผ่นหลังของกาสะลอง ชายหนุ่มเดินนำหน้า แอบกัดฟันกรอดด้วยความกรุ่นโกรธ
ร่างสูงใหญ่เดินนำลิ่วๆ กาสะลองต้องรีบเดินให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้ตามชายหนุ่มให้ทัน หญิงสาวซอยเท้ายิกๆ ก็ยังตามเขาไม่ทันได้ เธอจึงเร่งฝีเท้าเพิ่มขึ้นอีก ลมหายใจหอบโยน เหนื่อยจนหอบแฮกๆ กว่าจะตามทันเขา ก็ถึงบริเวณด้านหน้าลิฟต์แก้วที่กาสะลองโดยสารขึ้นมาจากชั้นล่างเสียแล้ว เปรมปรายตามองกาสะลองนิ่งๆ ริมฝีปากหนาหยักเม้มแน่น เขาอยากกระชากหญิงสาวเข้ามาจูบ
วัดแห่งหนึ่งกลางกรุงเทพฯ…งานสวดอภิธรรมในคืนแรกของคุณหญิงประกายคลาคล่ำไปด้วยญาติมิตรและคนที่นับหน้าถือตา นับเป็นครั้งแรกที่เปรมได้เจอกับบิดาจังๆ ชายวัยกลางคนลักษณะภูมิฐาน กับครอบครัวไฮโซมีหน้าตาในสังคม โสภาพรรณภรรยา พรรณนาราย เพลินตาน้องสาวต่างแม่ ทุกคนอยู่ในเสื้อผ้าแพรพรรณสุดหรูหรา นั่งโก้อยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่ในฐานะเจ้าภาพและบุตรชายคุณหญิงประกายกาสะลองนั่งพับเพียบข้างกระถางธูป คอยจัดส่งธูปให้แขกที่มาแสดงความไว้อาลัยคุณหญิงเฒ่าเงียบๆ ปลายจมูกแดงก่ำ เมื่อหยดน้ำตาไหลอยู่ตลอดเวลา เพราะความอาลัยอาวรณ์ เปรมยืนพิงเสาสองมือยกขึ้นกอดอกมองดูผู้คนด้วยสายตานิ่งสนิท ชายหนุ่มเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทุกรายการ แสดงความรักให้คุณหญิงประกายเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อมันสายเกินกว่าจะย้อนกลับไปแก้ไขผู้คนเริ่มบางตา เมื่อใกล้ถึงเวลาที่พระจะต้องลงมาทำพิธี เปรมเดินเข้าไปคุกเข่าใกล้ๆ กาสะลอง เธอส่งธูปให้ชายหนุ่มแบบอัตโนมัติ สายตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย เสียงสั่นๆ พึมพำขอบคุณเบาๆ ตบท้าย เปรมแหงนใบหน้ามองโลงศพที่ประดับดาด้วยมวลดอกไม้สวยงาม ตั้งจิตขออโหสิกรรมคุณหญิงประกาย ปลดปล่อยท่านจากพันธนาการทั
บทที่15.ความสูญเสียของเปรมที่ไม่สามารถเรียกคืนได้อากาศยามเช้าสดชื่น เสียงน้ำทะเลซัดเข้าหาฝั่งดังเหมือนทำนองดนตรี ขับกล่อมให้หลับสนิท เรือนกายอ่อนบางขยับเบาๆ อย่างเกลียดคร้าน หน้าหวานซุกแผงอกหนา มือเล็กๆ เกาะบั้นเอวตึงแน่นโอบกอดร่างใหญ่โตแสวงหาความอบอุ่นจากเรือนกายของเขา เบียดตัวแนบแน่นเมื่อสายลมพัดโชยกระทบผิวกายเปล่าเปลือยที่โผล่พ้นผืนผ้าห่ม“ดอกปีบๆ!” เสียงกระซิบเรียกดังเหมือนอยู่ไกลแสนไกล เพราะเธอรู้สึกอ่อนล้า อยากจะพักการเคลื่อนไหวทั้งหมดบนร่างกาย“คนสวยสายแล้วนะครับ คุณต้องไปเตรียมอาหารเช้าให้คุณหญิงประกายไม่ใช่หรือ?” สิ้นคำถามกาสะลองผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ผ้าห่มหนาหล่นลงมากองที่หน้าขา เปิดเปลือยผิวกายสีระเรื่อกับหน้าอกตูมเต่งให้คนกระซิบปลุกได้เห็นเต็มสองตาเปรมกลืนน้ำลายไม่ลงคอ เมื่อจู่ๆ ลำคอแห้งผากไร้น้ำหล่อเลี้ยงขึ้นมาดื้อๆ เขามองประติมากรรมชิ้นเอกที่งดงามหยดย้อยตาแทบถลน ดวงตาหยาดเยิ้มเต็มไปด้วยเพลิงปรารถนา “ว้าย!” กาสะลองตะครุ
“ขา...” เสียงรับคำหวานเชื่อม“คืนนี้ทะเลสวย พระจันทร์ก็สวย แต่สองสิ่งนี้สู้คุณไม่ได้เลยสักนิดเดียว” เสียงกระซิบแผ่วพร่าบอกความรู้สึกจากข้างในกาสะลองสะเทิ้นสะท้าน รับฟังคำพูดที่กระซิบบอกด้วยความปลื้มปริ่ม หัวใจในอกด้านซ้ายพองฟูจนเกือบจะทะลุออกมาให้เขาได้เห็นว่าตัวเธอเองยินดีปรีดากับน้ำคำที่เขาพร่ำละเมอขนาดไหนชายหนุ่มช้อนอุ้มเรือนกายอ่อนระทวยขึ้นสู่วงแขน เดินดุ่มๆ กลับที่พักด้านหลัง ทิ้งทั้งหมดไว้ที่ชายหาดเพราะร่างกายเกิดประจุไฟฟ้าจนเกือบจะรัดวงจร แผงอกหนากระเพื่อมด้วยแรงหอบหายใจ ดวงตาคมดุเปล่งประกายหยาดเยิ้ม ทั้งฤทธิ์แอลกอฮอล์และพลังงานบางอย่างที่ตีกระเตื้องมาจาช่วงล่างของลำตัว ประตูห้องพักเปิดอ้าชายหนุ่มใช้เท้าเตะให้ปิดลงอย่างไม่ใส่ใจ เดินย่างสามขุมท่ามกลางแสงพระจันทร์ที่ส่องนำเป็นทางเป็นเงาสลัวๆ เลือนราง ผิวที่นอนเย็นเยียบ จนกาสะลองผวาสะท้าน เมื่อเปรมบรรจงวางร่างกายอ่อนบางบนที่นอนหนา แสงจันทร์กระจ่างทอดยาวผ่านช่องหน้าต่าง กระทบกับร่างเปลือยเปล่าที่คลุกเคล้าแอ่นตัวเข้าหากัน เสียงลมหายใจหอบโยนดังประสานกับเสียงครางแผ่วๆ ประกอบกับเสียงกุกก
บทที่14.คืนหวานก่อนพายุ“สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตแม้จะหม่นมัวเพียงใด แต่มันก็ผ่านไปแล้ว ถ้าเราไม่ยอมปล่อยมันไปเราจะพลาดโอกาสที่จะรับสิ่งดีๆ เขามาในชีวิต เราไม่ควรไปยึดติดกับอดีตปล่อยวางมันลงเสียบ้างแค่นี้เราก็จะสบายใจ” เสียงแม่ดังสะท้อนก้องอยู่ในหู ขณะที่เปรมเดินทอดน่องเอื่อยๆ ลงมาจากตัวบ้านพักในรีสอร์ทริมหาดทราย หลังจากขอคำปรึกษาจากพิทีเซีย เขาสบายใจมากขึ้น แม้จะยังสับสนกับความรู้สึกที่กำลังเกิดขึ้นในหัวใจตัวเอง รอยยิ้มอ่อนเชื่อมส่งให้กาสะลอง เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมาจากเตาไฟ กลิ่นปลาหมึกย่างลอยฟุ้งยั่วน้ำลายให้สอ ท้องไส้ปั่นป่วนร้องโครกคราก เพราะไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเพราะมัวแต่เย้าหยอกกาสะลอง สลับกับคอยดูแลคุณหญิงประกาย หลังจากปล่อยวางความชิงชังในหัวใจ เปรมรู้สึกว่าร่างกายเบาบางขึ้นกว่าเดิม ตามความจริง...ต้องขอบคุณคุณหญิงประกายด้วยซ้ำ ถ้าไม่อย่างนั้นในวันนี้เปรมคงไม่ได้เดินอยู่บนถนนนักธุรกิจได้อย่างเต็มภาคภูมิ ความคับแค้นในอดีตผลักดันให้ชายหนุ่มมีความมานะอดทน เขาสามารถสร้างฐานะด้วยสองมือตัวเองโดยไม
“ใช้ใจสัมผัสดูสิลูก ว่าตัวลูกต้องการอะไร แม่ไม่เคยสอนให้ลูกเกลียดพวกเขานี่ เราสามารถยืนด้วยกำลังของเราเอง เป็นความภาคภูมิที่คุณตาปลื้มจนสามารถคุยฟุ้งได้ นี่คือความสามารถของเราโดยที่เขาได้แต่มอง” พิทีเซียกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ปลอบประโลมเปรมด้วยความรักทั้งหมดที่มี“ครับแม่ผมจะลองพยายามดู”“ดีมากเจนาส วันที่ลูกทำสำเร็จ ความสุขจะโถมเข้าใส่จนลูกแทบจะสำลักตาย” พิทีเซียพูดเสียงกลั้วหัวเราะ“แม่ครับผม…”“มีอีกรึ เอ... พักนี้ลูกมีปัญหาเยอะนะ” พิทีเซียท้วงเสียงนิ่มๆ“ผมกำลังสับสน ผมไม่เข้าใจตัวเองครับ ครั้งแรกที่ผมยอมเข้าใกล้คนพวกนี้เพราะมีบางสิ่งจูงใจ เวลานี้ผม! ผมกำลังไม่เข้าใจตัวเองครับแม่ หรือว่าผมอ่อนแอ ถึงได้รู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้น”“มีผู้หญิงมากกว่าหนึ่งคนใช่ไหมเจนาส ลูกถึงได้ถามแม่แบบนี้”“ครับ”“อืม... เอาไงดีลูกสับสนตรงไหน แม่จะได้ทำความเข้าใจกับมันถูก” พิทีเซียวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงาน พิงบั้นท้ายกับขอบโต๊ะปักห
“คนบ้า คนหื่น” เธอกระซิบเบาๆ ต่อว่าผู้ชายหน้าด้าน ด้านหลังที่หลังจากปล้นจูบจนพอใจ เขาก็ถอยหลังกลับไปนั่งรออาหารเช้า ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่แววตาพราวระยับ“เร็วๆ หน่อยทูนหัว เดี๋ยวผมเปลี่ยนใจไม่กินข้าว มากินคุณแทนจะเดือดร้อนนะเออ” เสียงเร่งเร้าด้านหลัง ทำให้หัวใจสาวเต้นระส่ำมากขึ้น แม้จะขัดอกขัดใจ แต่ดวงตาหวานก็กระจ่างใสแอบอมยิ้มเต็มมุมปาก“กึก!” ชามข้าวต้มชามใหญ่เบิ้ม ถูกกระแทกวางบนโต๊ะ โดยที่คนถือมาปั้นใบหน้าบึ้งตึง“ผมรู้นะว่าคุณชอบจูบผม ยอมรับมาดีๆ ดอกปีบ อย่าให้ผมเค้นเอาเอง” เปรมเอื้อมมือคว้าข้อมือเรียวเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่กาสะลองจะหลบหนี“ข้าวต้มชามสุดท้ายค่ะ ถ้าคุณเปรมไม่รีบทานเสียก่อน คุณจะต้องรับกาแฟแก้วเดียวเป็นอาหารมื้อเช้า” มือเล็กๆ ไล่แกะปลายนิ้วแข็งแรงที่จับยึดไว้แน่น พูดเสียงกระเส่า ก้มใบหน้าหลบปลายจมูกร้อนๆ ที่พยายามจะฝังบนผิวแก้ม“ผมทานข้าวเก็บแรงเอาไว้ก่อนดีกว่า เพราะถึงยังไงคุณก็หนีผมไม่พ้นหรอก คืนนี้หลังคุณย่านอนหลับ ผมจะฟัดคุณยันเช้า โทษฐานให้ผมนอนหนาวมาหลายคืน เปลี







