แดดยามบ่ายส่องผ่านหน้าต่างกระจกของร้านกาแฟในมหาวิทยาลัย เสียงเพลงแจ๊สเบาๆ ดังแทรกเสียงพูดคุยของนักศึกษาที่นั่งอยู่รอบๆ ไทเกอร์นั่งอยู่มุมหนึ่งของร้าน สายตาจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่ความคิดลอยไปไกล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดของมาร์ค ไทเกอร์พยายามอย่างหนักที่จะหลีกเลี่ยงการเจอกับเลโอ เขาเปลี่ยนที่นั่งในห้องเรียน หลบมุมในโรงอาหาร และพยายามใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกมหาวิทยาลัยเมื่อไม่มีเรียน
"เฮ้! นั่นบอสกับพี่แฮมไม่ใช่เหรอ?" เสียงมาร์คดังขึ้น พลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโต๊ะไทเกอร์
ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ ก่อนจะมองไปทางที่มาร์คพยักเพยิด เขาเห็นเพื่อนรุ่นพี่สองคนกำลังคุยกับสาวสวยกลุ่มหนึ่งที่โต๊ะใหญ่อีกฝั่งของร้าน
"อือ" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
"มึงโอเคป่าววะ? ช่วงนี้ดูแปลกๆ " มาร์คถาม น้ำเสียงเจือความกังวล
"กูสบายดี" ไทเกอร์ตอบเร็วเกินไป
มาร์คเลิกคิ้ว แต่ไม่พูดอะไร เขามองไทเกอร์อย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
"เรื่องนนนี่ เธอบอกกูว่าคืนนั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้น" มาร์คเริ่มพูดถึงเรื่องวันนั้น
"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดถึงเรื่องนี้
"แปลกนะเพราะปกติมึงไม่เคยปล่อยโอกาสดีๆ แบบนั้นหลุดมือไปเลย" " มาร์คบอกกับเสื้อผู้หญิงตัวพ่อที่ไม่เคยพลาด
ไทเกอร์ไม่ตอบ เขาจิบกาแฟและมองออกไปนอกหน้าต่าง
"หรือว่ามึงไปสนใจใครอื่นอยู่?" มาร์คหรี่ตาลง
"ไม่มี" เขาปฏิเสธ ไทเกอร์รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันที
"แล้วที่มึงหายหัวไปหลายวัน แล้วก่อนหน้านั้นดันสนิทกับไอ้เลโอขึ้นมาทันที..." มาร์คพูดอย่างใช้ความคิด ก่อนจะหยุดกลางคัน ตาเบิกกว้างเหมือนมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมา
"เฮ้ย..."
"อย่าคิดมาก กูแค่ไม่ค่อยสบาย เลยไม่ค่อยออกไปไหน" ไทเกอร์ตัดบท
"วันเสาร์นี้บอสจัดปาร์ตี้ที่บ้าน" เขาเปลี่ยนเรื่อง "เขาชวนมึงด้วย มึงไปมั้ย?" มาร์คยังคงมองเพื่อนด้วยสายตาสงสัย แต่ไม่ซักไซ้ต่อได้แต่ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย
"กูว่า คงไม่ไปว่ะ" ไทเกอร์ไปอย่างไม่ลังเล
"อะไรวะ มึงไม่เคยพลาดงานปาร์ตี้ของบอสนะ! มึงเป็นไรไหมนี่ " มาร์คทักท้วง
"กูแค่อยากอยู่เงียบๆ ช่วงนี้" ไทเกอร์ถอนหายใจ
"มีอะไรก็บอกกูได้นะเว้ย กูเป็นห่วงมึง" มาร์คพูดอย่างจริงจัง
"ไม่มีอะไรหรอก" ไทเกอร์ยืนยัน
ขณะที่ทั้งสองคุยกันอยู่นั้น ประตูร้านกาแฟเปิดออก และเลโอเดินเข้ามาพร้อมกับพีทเพื่อนสนิท สายตาของเลโอกวาดมองไปรอบร้านจนมาหยุดที่โต๊ะของไทเกอร์ ทั้งสองสบตากันชั่วขณะ ก่อนที่ไทเกอร์จะรีบหลบสายตา
"เฮ้ย นั่นไม่ใช่เลโอเหรอ?" มาร์คชี้ไป
"อืม" ไทเกอร์พยักหน้า แกล้งยุ่งกับโทรศัพท์ของตัวเอง
"มึงไม่ทักเขาเหรอ? กูนึกว่าพวกมึงสนิทกัน" " มาร์คถาม
"ไม่เป็นไร เขากำลังคุยกับเพื่อนอยู่" ไทเกอร์ตอบอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งที่ใจเต้นแรง
มาร์คมองไทเกอร์อย่างสงสัย แต่ไม่พูดอะไรอีก
ตอนเย็นวันเดียวกัน ที่ผับหรูย่านทองหล่อ ไทเกอร์นั่งอยู่ในบูธวีไอพีกับหญิงสาวผมบลอนด์ที่แนะนำตัวว่าชื่อแอมเบอร์ เธอเป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่เรียนอยู่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังอีกแห่งหนึ่ง
"คุณดื่มอะไรดีคะ?" แอมเบอร์ถาม ยิ้มหวาน
"วิสกี้โซดาครับ" ไทเกอร์ตอบ
แอมเบอร์หันไปสั่งเครื่องดื่มกับบริกรที่เข้ามาในบูธ ก่อนจะหันกลับมาหาไทเกอร์ด้วยรอยยิ้มเย้ายวน
"คุณเป็นเดือนคณะวิศวะนี่ใช่ไหมคะ? ฉันเคยเห็นรูปคุณในอินสตาแกรมของเพื่อน"
"ครับ" ไทเกอร์ตอบ พยายามยิ้มตอบ แต่ใจกลับไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
หลังจากเหตุการณ์กับนนนี่ในคืนงานปาร์ตี้ ไทเกอร์ตัดสินใจที่จะออกเดทกับผู้หญิงให้มากขึ้น เพื่อพิสูจน์กับตัวเองว่าสิ่งที่เขารู้สึกกับเลโอเป็นเพียงความเข้าใจผิดชั่วขณะจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เท่านั้น นี่เป็นสาวคนที่สามในสัปดาห์นี้ที่เขาพาออกมาเดท แต่ไม่ว่าจะอยู่กับใคร ความรู้สึกก็ยังเหมือนเดิม... ว่างเปล่าและขาดบางสิ่ง
แอมเบอร์คุยเก่งและน่าสนใจ แต่ไทเกอร์กลับไม่สามารถโฟกัสกับบทสนทนาได้ เขาฝืนยิ้มและพยักหน้าเป็นพักๆ แต่ความคิดของเขากลับลอยไปหาใบหน้าของเลโอที่เขาเห็นในร้านกาแฟวันนี้ ดวงตาเรียวคมที่มองเขาด้วยความสงสัยและเจือความผิดหวัง
"คุณกำลังฟังฉันอยู่รึเปล่าคะ?" แอมเบอร์ถาม น้ำเสียงเจือความน้อยใจ
"อ่า... ครับ ขอโทษครับ" ไทเกอร์รีบตอบ
"ฉันรู้สึกเหมือนคุณกำลังคิดถึงใครบางคนอยู่ คุณมีแฟนอยู่แล้วใช่ไหมคะ?" "แอมเบอร์พูด น้ำเสียงจริงจัง
"เปล่าครับ ผมไม่มีแฟน" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"แต่มีคนที่คุณกำลังคิดถึงใช่ไหม?" แอมเบอร์ถามต่อ
ไทเกอร์ไม่ตอบ เขาจิบเครื่องดื่มแก้ปากแทน
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเข้าใจ... แต่น่าเสียดายนะ ฉันคิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้ดี" แอมเบอร์ถอนหายใจเบาๆ
"ผมขอโทษจริงๆ คุณเป็นผู้หญิงที่สวยและฉลาดมาก แต่..." ไทเกอร์พูดอย่างจริงใจ
"แต่ใจคุณไม่ได้อยู่ที่นี่ ฉันว่าคุณควรไปคุยกับคนที่คุณคิดถึงมากกว่านะคะ" แอมเบอร์ต่อให้ พร้อมยิ้มเศร้าๆ
ไทเกอร์ได้แต่นิ่งเงียบ คำพูดของแอมเบอร์ดังก้องในหัวของเขา
"ฉันว่าฉันจะกลับแล้วดีกว่า" แอมเบอร์ตัดสินใจ "ขอบคุณสำหรับเครื่องดื่มนะคะ"
"ให้ผมไปส่งไหมครับ?" ไทเกอร์เสนอ
"ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อนฉันอยู่อีกบูธหนึ่ง ฉันจะกลับกับเขา" " แอมเบอร์ส่ายหน้าและบอกไทเกอร์
หลังจากแอมเบอร์จากไป ไทเกอร์นั่งอยู่คนเดียวในบูธวีไอพี เขาถอนหายใจยาวและดื่มวิสกี้ที่เหลืออยู่ในแก้วหมดในอึกเดียว ความรู้สึกสับสนและข้องใจยังคงวนเวียนอยู่ในใจ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เปิดแอพไลน์และเลื่อนหาชื่อเลโอ ข้อความล่าสุดที่พวกเขาคุยกันเป็นเพียงนัดหมายเรื่องการติวหนังสือเมื่อสองสัปดาห์ก่อน นิ้วของไทเกอร์ลังเลอยู่เหนือแป้นพิมพ์ เขาอยากส่งข้อความไปหาเลโอ แต่ไม่รู้จะพูดอะไร จะบอกว่าขอโทษที่หลบหน้าเหรอ? หรือจะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
"เฮ้อ..." ไทเกอร์ถอนหายใจ เก็บโทรศัพท์และเรียกบริกรมาคิดเงิน
วันต่อมา ที่โรงยิมของมหาวิทยาลัย ไทเกอร์กำลังเล่นบาสเกตบอลกับเพื่อนอีกสองสามคน เขาเล่นอย่างเอาเป็นเอาตาย วิ่งไล่บอล กระโดดชู้ต และเบียดแย่งบอลอย่างไม่กลัวเหนื่อย ราวกับต้องการระบายอารมณ์บางอย่างออกมา
"เฮ้ย ไทเกอร์! เบาหน่อยวะ นี่แค่เล่นเพื่อความสนุกนะเว้ย"
มาร์คเอ่ยขึ้น หลังจากที่ไทเกอร์เบียดเขาอย่างแรงเพื่อแย่งบอล
"ขอโทษ" ไทเกอร์ตอบสั้นๆ เหงื่อไหลโซมใบหน้า
"เป็นอะไรของมึงเนี่ย?" มาร์คถาม
"ไม่มีอะไร" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"ไปพักกันดีกว่า" หนุ่มเสนอ พลางโยนบอลให้รุ่นน้องอีกกลุ่มที่รออยู่
พวกเขาเดินไปนั่งที่ม้านั่งริมสนาม ไทเกอร์ดื่มน้ำอึกใหญ่และเทน้ำราดศีรษะเพื่อให้เย็นลง
"อีกเดี๋ยวกูมีคลาสเลคเชอร์ รูมเมทมึงอยู่ในคลาสด้วย" มาร์คบอกพลางดูนาฬิกาข้อมือ
"รูมเมท?" ไทเกอร์ทวนคำ "กูไม่มีรูมเมทนะ"
"เปล่า กูหมายถึงเลโอ มึงเคยบอกว่าเขาไปค้างที่ห้องมึงบ่อยๆ ตอนมึงเพิ่งกลับมาเรียนใหม่ๆ" มาร์คอธิบาย
"เขาไม่ใช่รูมเมทกู" ไทเกอร์รู้สึกเกร็งขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินชื่อเลโอ
"แล้วช่วงนี้เขาไม่ได้มาค้างที่ห้องมึงแล้วเหรอ?" มาร์คถามต่อ
"ไม่" ไทเกอร์ตอบเรียบๆ
"แปลกจังวะ ช่วงนี้กูไม่ค่อยเห็นพวกมึงอยู่ด้วยกันเลย ทะเลาะกันรึเปล่า?" มาร์คทำหน้างง
"ไม่ได้ทะเลาะ แค่ต่างคนต่างยุ่ง" ไทเกอร์ปฏิเสธ
"เออ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย ทุกคนก็คงยุ่ง" มาร์คมองเพื่อนด้วยความสงสัย แต่ไม่ซักไซ้ต่อ
ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกโล่งอกที่มาร์คไม่ถามต่อ แต่ความจริงคือเขาเลือกที่จะไปห้องสมุดเพราะรู้ว่าเลโอกำลังจะเข้าคลาสเลคเชอร์ นั่นหมายความว่าเขาจะไม่เจอเลโอที่ห้องสมุดแน่นอน
ห้องสมุดของคณะวิศวกรรมศาสตร์เงียบสงบในช่วงบ่ายแก่ มีนักศึกษาไม่กี่คนนั่งอ่านหนังสืออยู่กระจัดกระจาย ไทเกอร์เลือกมุมเงียบๆ ในสุด ห่างไกลจากทุกคน เขาวางกระเป๋าลงและหยิบหนังสือแคลคูลัสออกมา
แม้จะพยายามอ่านหนังสือ แต่สมาธิของเขากลับไม่อยู่กับเนื้อหาตรงหน้า ความคิดของเขาวนเวียนกลับไปที่คืนนั้นบนระเบียงของงานปาร์ตี้ ภาพของเลโอที่เปิดปากรับควันบุหรี่จากเขา ภาพที่เลโอป้อนวิสกี้ ความรู้สึกเมื่อริมฝีปากของพวกเขาเกือบสัมผัสกัน
"นี่มึงเป็นอะไรของมึงวะ!" ไทเกอร์บ่นกับตัวเองเบาๆ พยายามสลัดความคิดเหล่านั้นออกไปเขาพยายามอ่านหนังสือต่อ และในที่สุดก็สามารถจดจ่อกับเนื้อหาได้บ้าง แต่แล้วเสียงกระเป๋าวางลงบนโต๊ะฝั่งตรงข้ามก็ทำให้เขาเงยหน้าขึ้น
ไทเกอร์แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นว่าคนที่มานั่งตรงข้ามเขาคือเลโอ
"เฮ้" เลโอทัก เสียงเรียบ ใบหน้าไร้อารมณ์
"เฮ้ คลาสเลิกแล้วเหรอ?" ไทเกอร์ตอบกลับ พยายามทำเป็นปกติ
"อาจารย์ไม่มา เลยมาอ่านหนังสือแทน" เลโอตอบสั้นๆ
ไทเกอร์พยักหน้า ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ บรรยากาศระหว่างทั้งสองเต็มไปด้วยความอึดอัด
"ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหน้ามึงเลย" เลโอพูดขึ้น
"กู... ยุ่งน่ะ" ไทเกอร์แก้ตัว
"อืม" เลโอตอบรับ แต่สายตาบ่งบอกว่าเขาไม่เชื่อ
ความเงียบอึดอัดกลับมาอีกครั้ง เลโอหยิบหนังสือออกมาเปิดอ่าน ไทเกอร์ก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือของตัวเอง แต่ไม่สามารถจดจ่อได้เลย ใจของเขาเต้นแรงและเร็ว เหมือนจะทะลุออกมาจากอก
"ถ้ากูทำอะไรให้มึงไม่พอใจก็บอกกูตรงๆ จะได้จบๆ กันไป" เลโอพูดขึ้นเบาๆ โดยไม่เงยหน้าจากหนังสือ
"มึงไม่ได้ทำอะไรผิด" ไทเกอร์รีบปฏิเสธและเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
"แล้วทำไมมึงถึงหลบหน้ากู?" เลโอถามตรงๆ สายตาจ้องมาที่ไทเกอร์อย่างจริงจัง
ไทเกอร์อ้าปากจะตอบ แต่กลับไม่มีคำพูดใดออกมา เขาไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเขาเองก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเอง
"ถ้ามึงไม่อยากคบกับกูแล้ว ก็บอกมากูเข้าใจได้ " เลโอพูดต่อ น้ำเสียงเรียบแต่แฝงความเจ็บปวด
"ไม่ใช่แบบนั้น มันแค่... ซับซ้อนไทเกอร์ตอบเสียงสั่นเครือ
"ซับซ้อนยังไง?" เลโอถาม
"กูยังอธิบายไม่ได้" ไทเกอร์ส่ายหน้า
"ก็ได้ แต่ถ้ามึงพร้อมจะคุย กูอยู่ตรงนี้" เลโอถอนหายใจ
ไทเกอร์พยักหน้า รู้สึกแย่ที่ทำให้เลโอรู้สึกสับสน แต่เขาเองก็ยังสับสนไม่แพ้กัน
"ว่าแต่ มึงอ่านถึงไหนแล้ว? ใกล้สอบแล้ว" เลโอเปลี่ยนเรื่อง
"เพิ่งเริ่มอ่านเรื่อง Integrals" ไทเกอร์ตอบ ดีใจที่บทสนทนาเปลี่ยนไปเรื่องเรียน
บทสนทนาดำเนินต่อไปอย่างเนิบช้า ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเรียน แม้บรรยากาศจะยังอึดอัด แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างน้อยพวกเขาก็ยังคุยกันได้ เมื่อถึงเวลาที่ห้องสมุดใกล้ปิด ทั้งสองเก็บของและเดินออกมาด้วยกัน
"มึงกลับยังไง?" เลโอถาม
"ขับรถ มึงล่ะ?" ไทเกอร์ตอบ
"รถเมล์" เลโอตอบ
"ให้กูไปส่งไหม?" ไทเกอร์เสนอ แม้จะกลัวที่จะอยู่ใกล้เลโอนานๆ แต่เขาก็ยังห่วง
"มึงแน่ใจเหรอ?" เลโอมองหน้าไทเกอร์อยู่ครู่หนึ่ง
"อืม มืดแล้วด้วย" ไทเกอร์พยักหน้า
"งั้น... ก็ได้" เลโอตอบรับ
ทั้งสองเดินไปที่ลานจอดรถด้วยกัน บรรยากาศระหว่างพวกเขายังคงตึงเครียด แต่ไม่มากเท่าก่อนหน้านี้ ไทเกอร์รู้สึกว่าอย่างน้อยวันนี้เขาก็ได้คุยกับเลโออีกครั้ง แม้จะยังไม่สามารถบอกความรู้สึกที่แท้จริงได้ ระหว่างขับรถส่งเลโอที่หอพัก ทั้งสองแทบไม่ได้พูดคุยกันเลย มีเพียงเสียงวิทยุเบาๆ และเสียงเครื่องยนต์รถเท่านั้นที่แทรกความเงียบ ไทเกอร์จอดรถหน้าหอพักของเลโอ ดับเครื่องยนต์ ความเงียบปกคลุมรถทันที
"ขอบคุณนะ" เลโอพูดขึ้น ขณะที่เริ่มเก็บของใส่กระเป๋า
"ไม่เป็นไร" ไทเกอร์ตอบ
เลโอจับประตูรถจะเปิด แต่แล้วก็ชะงัก เขาหันกลับมามองไทเกอร์ ดวงตาจ้องนิ่ง
"ถ้าวันนั้น... ที่งานปาร์ตี้ ถ้ากูทำอะไรเกินเลยไป กูขอโทษ" เลโอเริ่มพูดเสียงแผ่วเบา
"มึงไม่ได้ทำอะไรผิดกูนั่นแหละที่..." ไทเกอร์รู้สึกใจเต้นแรงและเขาตอบเสียงสั่นเครือ
"ที่อะไร?" เลโอถาม
"กูไม่รู้ กูสับสน กูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกันแน่" ไทเกอร์ส่ายหน้า
"มึงรู้ไหม... บางทีการหลีกหนีความรู้สึกก็ไม่ได้ช่วยให้มันหายไป" เลโอมองไทเกอร์อย่างเข้าใจ นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ก่อนจะพูดขึ้น
"ฝันดีนะ" เลโอพูดทิ้งท้าย ก่อนเปิดประตูรถและก้าวลงไป
ไทเกอร์ได้แต่นิ่งเงียบ คำพูดของเลโอเหมือนคมมีดที่กรีดลงบนหัวใจเขา
ไทเกอร์มองตามร่างของเลโอที่เดินเข้าไปในหอพัก ความรู้สึกหลากหลายแล่นปะทะกันในอก ทั้งความสับสน ความกลัว ความโหยหา และอีกมากมายที่เขาไม่อาจบรรยายได้
ไทเกอร์สตาร์ทรถและขับออกไป แต่แทนที่จะขับกลับเพนท์เฮาส์ของเขา เขากลับขับวนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดหมาย ความคิดวนเวียนในหัวไม่จบสิ้น เขาเคยคิดว่าตัวเองรู้จักตัวเองดี รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ชอบอะไร และต้องการอะไร แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับพังทลายลงตรงหน้าเขา สิ่งที่เคยมั่นใจกลับกลายเป็นความสงสัย สิ่งที่เคยชัดเจนกลับพร่าเลือน
"กูจะทำยังไงดีวะ.." ไทเกอร์ถามตัวเองเบาๆ ขณะที่ขับรถผ่านถนนที่แสงไฟกำลังเริ่มสว่างในยามค่ำคืน ลึกๆ ในใจ
เขารู้คำตอบดีแต่การยอมรับมันอาจเป็นเรื่องที่ยากที่สุดในชีวิตเขา
ตอนพิเศษบทส่งท้าย NCหลังจากที่เลโอเปิดสำนักงานใหม่ของบริษัททวีวงศ์กรุ๊ปสาขากรุงเทพฯแล้ว การบริหารงานของเลโอก็ประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาเพียง 6 เดือน สามารถปิดดีลงานได้หลายโครงการจนต้องมีการปิดรับดีลใหม่เพื่อทำงานที่รับมาแล้วให้มีมาตรฐานที่สุด และยังสามารถดีลกับบริษัททัวร์ทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติด้วย เรียกว่าเสริมให้เลโอกลายเป็นนักธุรกิจไฟแรงแนวหน้าของประเทศ ซึ่งตอนนี้เขาออกสื่อมากขึ้นทำให้ภาพลักษณ์ดูโดดเด่นมากส่วนไทเกอร์ตอนนี้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาดูแลบริษัทในเคลือของครอบครัวทั้งหมดจากแต่ก่อนนั้นที่เขาดูแลเพียงบริษัทของตัวเองคือบริษัทภูริกรุ๊ป ตอนนี้คุณพ่อวางมือให้ไทเกอร์บริหารงาน 100% แล้ว ดังนั้นงานบริหารต่างๆ จึงตกอยู่ที่ซีอีโอหนุ่มไฟแรงคนนั้นเช่นกันตั้งแต่เลโอกลับเข้ามาในชีวิตไทเกอร์ เขาพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยเขาเองรู้แล้วว่าเลโอ คือ คนที่มีความสำคัญต่อชีวิต ต่อจิตใจ ต่อทุกสิ่งอย่างของเขา เขาจะไม่มีทางทำให้เลโอเสียใจอีกครั้งเป็นอันขาด"เอกสารทั้งหมดเรียบร้อยแล้วครับ คุณภูริ"ไทเกอร์เงยหน้าขึ้นจากแบบแปลนที่กำลังตรวจสอบ เห็นธันย์ผู้ช่วยคนใหม่ยื่นแฟ้มเอกสา
เมื่อประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้น 37 หัวใจของไทเกอร์เต้นแรงขึ้น เขากำลังกลับบ้านที่มีเลโอรออยู่ ความคิดนั้นทำให้เขารู้สึกตื้นตันจนแทบหายใจไม่ออก เขากดรหัสประตูเพนท์เฮาส์และพบว่าไฟในห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ กลิ่นอาหารหอมฟุ้งมาจากห้องครัว"เลโอ?" เขาเรียก"ในครัว!" เสียงตอบกลับมาไทเกอร์เดินเข้าไปในห้องครัว และพบเลโอกำลังยืนหันหลังให้ คนตัวสูงในเสื้อยืดขาวกับกางเกงยีนส์กำลังคนอะไรบางอย่างในหม้อ"มึงทำอาหารเหรอ?" ไทเกอร์ถามพลางวางกระเป๋าเอกสารลงบนเคาน์เตอร์"อืม ระหว่างรอมึงกลับ กูขอรับผิดชอบเรื่องอาหารเย็น มึงติดประชุมนานกว่าที่คิด" เลโอหันมายิ้ม"โทษทีนะ พวกนักลงทุนจีนโทรมาเพิ่มเติม กูเลยต้องคุยกับพวกเขาต่ออีกชั่วโมง""ไม่เป็นไร" เลโอตอบ "กูว่าเอาไว้คุยกันที่โต๊ะอาหารเถอะ อีกห้านาทีก็เสร็จแล้ว" ไทเกอร์มองนาฬิกา เห็นว่าเกือบทุ่มแล้วไทเกอร์ยืนมองเลโอที่กำลังวุ่นอยู่กับการทำอาหาร รู้สึกราวกับกำลังฝัน หลายปีที่ผ่านมา เขานึกภาพเลโอในบ้านของเขาบ่อยครั้ง นึกถึงความรู้สึกที่จะกลับมาเจอเลโอหลังเลิกงาน แต่ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ เขาเดินเข้าไปหาเลโอ โอบกอดจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับต้นคอ
ท้องฟ้าเป็นสีเทาอ่อนในเช้าวันที่ไทเกอร์จะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เขาเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางอย่างเชื่องช้า เหลือบมองโทรศัพท์เป็นระยะ รอการติดต่อจากเลโอ แต่ไม่มีข้อความหรือสายเรียกเข้าใดๆห้าวันผ่านไปตั้งแต่ค่ำคืนที่เขาไปหาเลโอที่บ้าน ตลอดห้าวันนี้ ไทเกอร์แทบไม่ได้เจอเลโอเลย ได้ยินแต่ข่าวจากทีมงานว่าเลโอติดประชุมต่อเนื่อง และมีธุระสำคัญที่ต้องจัดการ ไทเกอร์ส่งข้อความไปอีกครั้งเมื่อคืนก่อนเดินทางTKPuri: พรุ่งนี้กูบินกลับแล้ว มึงจะมาส่งกูที่สนามบินไหม?"ไม่มีคำตอบกลับจากเลโอไทเกอร์ถอนหายใจยาว เขารู้อยู่แล้วว่าทางเลือกนี้อาจจบลงแบบนี้ การที่เลโอไม่ตอบข้อความบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่พร้อม ทั้งที่ใจหนึ่งหวังว่าจะได้เห็นหน้าเลโออีกครั้งก่อนจากไป แต่ในอีกใจหนึ่งก็เข้าใจรถของโรงแรมมารับไทเกอร์ตามเวลานัด เขาเหลือบมองโทรศัพท์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋า ระหว่างทางไปสนามบิน เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ทิวทัศน์ของสุราษฎร์ธานีเคลื่อนผ่านไป บางที นี่อาจเป็นจุดจบของเรื่องราวระหว่างเขากับเลโอ บางทีการจากกันครั้งที่สองนี้อาจเป็นการจากกันครั้งสุดท้าย"คุณดูเศร้านะครับ ไม่อยากกลับกรุงเทพฯ
ตืด ตืด เสียงวิทยุติดตามตัวดังขึ้น"ข่าวดีครับ! น้ำลดแล้ว และทีมช่วยเหลือกำลังมาที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะถึงภายในชั่วโมงนี้""ดีมาก" ไทเกอร์ตอบกลับคนขับรถ"แล้วเรื่องพื้นที่ก่อสร้างล่ะครับ?" เลโอถาม"ทางสำนักงานบอกว่าให้กลับไปก่อน พวกเขาจะส่งทีมสำรวจมาตรวจสอบความเสียหายก่อน แล้วค่อยนัดวันใหม่" " คนขับรถตอบทั้งไทเกอร์และเลโอพยักหน้า เริ่มเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ ขณะที่เลโอกำลังพับเสื้อใส่กระเป๋า ไทเกอร์เข้ามาใกล้และกระซิบ"เป็นไงบ้าง? หลับสบายไหม?" ไทเกอร์พยักหน้า แล้วมองไปที่เลโอ"ดีที่สุดในรอบหลายปี" เลโอตอบพร้อมรอยยิ้ม"กูเหมือนกัน" ไทเกอร์ยิ้มตอบ" เมื่อคืนกูนอนฝันดีมาก""ฝันถึงอะไร?" เลโอถาม"ฝันว่าพวกเราได้กลับมาได้รักกัน" ไทเกอร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม "นั่นไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ"เลโอยิ้มตอบทั้งสองมองกันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ไม่มีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่อีกต่อไป มีเพียงความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า และโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งคืนแห่งการเปิดใจในบ้านพัก กลางป่า อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ดีกว่าเดิม ไม่ใช่แค่คู่นอน อีกต่อไป แต่อาจเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งและมั่นคงกว่า... สิ่ง
หลังจากต่างคนต่างบอกฝันดีซึ่งกันและกันแล้ว ไทเกอร์นอนมองดูแผ่นหลังของเลโอที่นอนตะแคงข้างหันหลังให้เขาอยู่ ไทเกอร์อยากเข้าไปนอนกอดเหลือเกิน เขาจะทำยังไงดีนะคะ และแล้วไทเกอร์ก็ตัดสินใจดันตัวเข้าไปหาเลโอแล้วพลิกอีกคนเข้ามาในอ้อมกอดของเขา เลโอไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดตอนนี้เขาอยาจจะปล่อยไปตามหัวใจตัวเองถึงแต่อยากจะขอเวลาก็ตาม"กูให้เวลามึงเต็มที่เลยแต่คืนนี้กูขอมัดจำก่อนได้ไหม นะครับนะ" เสียงไทเกอร์กระซิบข้างหู ลมหายใจอุ่นปะทะซอกคอ ส่งความร้อนซ่านไปทั่วร่างเลโอชะงัก แขนแข็งค้างอยู่ในอ้อมกอดของไทเกอร์ หัวใจเต้นระรัวขณะที่คำว่า "มัดจำ" ยังก้องในหัว เขาควรปฏิเสธ สมองส่วนที่มีเหตุผลบอกให้หยุด ให้เวลาตัวเองก่อนแต่ร่างกายกลับตอบสนองต่างออกไป"เลโอ.. อย่าให้กูต้องรออีกเลยนะ " ไทเกอร์เรียกชื่อเขาอีกครั้ง ฟังดูอ้อนวอนและเร่งเร้า มือหนารั้งร่างของเลโอให้แนบชิดยิ่งขึ้น"มึง..." เลโอกลืนน้ำลาย พยายามเก็บน้ำเสียงให้มั่นคง"มึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะต่อรองนะ""แต่มึงรู้ว่ามึงต้องการกูเหมือนกัน" ไทเกอร์ขยับตัว เบียดร่างเข้าใกล้มากขึ้นให้เลโอได้รู้สึกถึงความรู้สึกของเขาที่เริ่มตื่นตัวเลโอสูดลมหายใจเข้าลึก
สามวันผ่านไปอย่างอึดอัดหลังจากเหตุการณ์ในคืนนั้น เลโอทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการอยู่ตามลำพังกับไทเกอร์ เขามาถึงที่ประชุมในนาทีสุดท้าย รีบออกทันทีที่ประชุมเสร็จ และอ้างว่ามีงานเร่งด่วนทุกครั้งที่ไทเกอร์พยายามขอคุยเป็นการส่วนตัวไทเกอร์นั่งอยู่ในห้องทำงานชั่วคราวที่บริษัททวีวงศ์กรุ๊ปจัดให้ สายตาจ้องที่เอกสารตรงหน้า แต่ความคิดล่องลอยไปไกล เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ"เข้ามาได้" ไทเกอร์เอ่ย"รบกวนเวลาหน่อยได้ไหม?" คุณประพัฒน์ พ่อของเลโอ เปิดประตูเข้ามา"ได้ครับ" ไทเกอร์รีบลุกขึ้นยืน "มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?""พรุ่งนี้ต้องการให้คุณไปตรวจพื้นที่ก่อสร้างกับเลโอ พวกวิศวกรรายงานว่ามีปัญหาเรื่องพื้นที่ด้านทิศตะวันออก เราอาจต้องปรับแบบบางส่วน" คุณประพัฒน์พูดพลางเดินมานั่งที่โซฟาในห้อง “ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมไม่แน่ใจว่าคุณเลโอจะสะดวก" ไทเกอร์พยักหน้าแต่เขาลังเลเล็กน้อยเพราะกลังว่าเลโอจะไม่อยากไปด้วย"ผมสั่งเขาไปแล้ว เขาต้องไป ไม่มีทางเลือก" คุณประพัฒน์ยิ้มน้อยๆไทเกอร์อึ้งไปเล็กน้อย ดูเหมือนคุณประพัฒน์จะรับรู้ถึงความตึงเครียดระหว่างเขากับเลโอ"ผมจะให้คนขับรถพาพวกคุณไป" คุณประพัฒน์ว่