เกิดใหม่ไปใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณ

เกิดใหม่ไปใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณ

last updateLast Updated : 2025-04-18
By:  saengramOngoing
Language: Thai
goodnovel18goodnovel
Not enough ratings
20Chapters
164views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

"หากอยากมีชีวิตใหม่ข้าจะให้เจ้า พร้อมของวิเศษหนึ่งอย่าง" นั้นคือพรที่ได้รับจากชายชราก่อนจะถูกส่งดวงวิญญาณมาอยู่ในร่างเกอน้อยนามว่า ซีเจียง ในยุคจีนโบราณ

View More

Chapter 1

บทที่1นับแต่นี้ไปข้าคือซีเจียง

' นับแต่นี้ไปเจ้าคือซีเจียงเกอน้อยวัยสิบหกปีมีน้องชายและน้องสาวฝาแฝดที่ต้องเลี้ยงดู พ่อแม่เสียไปเมื่อสามเดือนก่อน จำไว้หากอยากมีชีวิตต่อไปเจ้าต้องสู้ชีวิต ขอให้โชคดี '

นั้นคือคำพูดของชายชราก่อนที่มือเหี่ยวย่นจะผลักดวงวิญญาณเขาเข้ามาในร่างของเกอน้อยซีเจียงที่เพิ่งหมดลมหายใจไปได้ไม่นานจากอาการตรอมใจและป่วยตาย

หลังลืมตาตื่นขึ้นมาเขาจึงตระหนักได้ว่านอกจากความทรงจำของร่างนี้เขายังมีความทรงจำเก่าในชีวิตก่อนตายกลับมาอีกด้วย ทั้งที่ตอนเป็นวิญญาณอยู่นานหลายปีเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใครมีชื่อว่าอะไร แต่ตอนนี้เขากลับจำได้แทบทุกอย่าง

ก่อนตายเขามีชื่อว่า เจียง เป็นพ่อครัวของร้านอาหารร้านหนึ่ง สาเหตุการตายหน้ามืดในขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเช่า ทำให้รถพุ่งชนเสาไฟฟ้าและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ตายตอนอายุสามสิบปีคงเพราะทำงานกลับดึกติดต่อกันหลายวัน

ซีเจียงถอนหายใจอย่างปลดปลง นั่นคือชีวิตก่อนจะตายแม้เสียดายแค่ไหนก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ชีวิตใหม่นี้ต่างหากที่เขาจะต้องกลับมาให้ความสนใจอย่างจริงจัง

ซีเจียง เกอน้อยวัยสิบหกปี มีน้องชายหนึ่งคนน้องสาวหนึ่งคนเป็นฝาแฝดกันอายุสิบปี บิดามารดาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อสามเดือนก่อนในขณะที่ครอบครัวพวกเขากำลังเดินทางย้ายถิ่นฐานเพื่อมาอาศัยกับครอบครัวฝั่งบิดาที่หมู่บ้านเล็กๆ ต่างเมือง

ระหว่างทางมีโจรป่าเข้ามาชิงปล้นสะดมบิดากับมารดาจึงถูกฆ่าตายแต่โชคดีที่พวกเขาสามคนพี่น้องหนีรอดมาได้

แม้ซีเจียงจะดิ้นรนพาน้องสองคนมาจนถึงหมู่บ้านซูไฉของเมืองซานหวนที่ท่านปู่ท่านย่าอาศัยอยู่ได้ แต่เพราะความเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตบิดาและมารดาจึงทำให้เจ้าตัวตรอมใจหนักจนจับไข้ได้ป่วยมาตลอดระยะเวลาสามเดือนและเพิ่งมาหมดลมหายใจเมื่อครู่นี้ก่อนแสงแรกของเช้าวันใหม่จะมาเยือน หลังจากนั้นเขาก็ถูกชายชราผมขาวผลักเข้ามาอยู่ในร่างเล็กๆ นี้แทนเจ้าของตัวจริง

ซีเจียงขยับตัวลุกขึ้นนั่ง มองบรรยากาศภายในห้องนอนเล็กๆ ที่ฝาผนังกั้นด้วยไม้ไผ่ แม้พวกเขาสามพี่น้องจะได้พบหน้าท่านปู่ท่านย่าแล้วก็จริง แต่เพราะบ้านใหญ่นอกจากมีท่านปู่ท่านย่าอาศัยอยู่แล้วก็ยังมีท่านลุงและป้าสะใภ้พร้อมบุตรของพวกท่านรวมอยู่ด้วยอีกทั้งหมดห้าคน

ในบ้านจึงมีห้องไม่พอให้พวกเขาสามพี่น้องอาศัยด้วย ท่านลุงจึงได้มาสร้างบ้านไม้ไผ่หลังเล็กๆ ให้พวกเขาอยู่ด้านหลังไกลจากบ้านใหญ่พอสมควรซึ่งติดกับลำธารสายเล็กๆ ซึ่งเป็นเขตที่ดินของสกุลซีนั่นเอง

ตลอดสามเดือนมานี้ตัวซีเจียงที่เป็นพี่คนโตแทบไม่ได้ช่วยน้องๆ ทำมาหากินอะไรเลย แทบไม่สนใจด้วยซ้ำว่าน้องฝาแฝดจะอยู่จะกินกันอย่างไร วันๆ ได้แต่นอนหมดอาลัยตายอยาก ข้าวต้มที่น้องสาวนำมาป้อนให้เพียงวันละมื้อก็แทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย และแล้วร่างกายที่ไม่สบายมานานแถมขาดสารอาหารก็ตายไปในที่สุด

หลังจากนั่งทบทวนจนรู้แจ้งแก่ใจซีเจียงเจ้าของร่างคนใหม่ก็ค่อยๆ พาร่างกายที่แสนอ่อนแรงลุกขึ้นยืนจนสำเร็จ

" บ้าจริง "

เมื่อร่างกายซวนเซจวนจะล้มลง มือเรียวผอมรีบคว้าพยุงตัวกับขอบประตูห้องนอนพร้อมคำสบถออกมาทันที ดูท่างานนี้เขาต้องทำให้ตัวเองแข็งแรงเสียก่อนแล้วค่อยมาคิดกันใหม่ว่าจะเอาอย่างไรกับชีวิตนี้ดี

คงเพราะร่างกายขาดสารอาหารจึงทำให้ทรุดโทรมอ่อนแรงมากขนาดนี้ หลังจากหายอาการหน้ามืดแล้วซีเจียงจึงเปิดประตูห้องออกมาก็เจอเข้ากับชานหน้าบ้านเล็กๆ เขาจึงเดินออกมานั่งลงแล้วพยายามมองหาน้องฝาแฝดทั้งสองคน

จากความทรงจำซีเจียงรับรู้เพียงว่าช่วงกลางวันน้องๆ จะหายไปเกือบทั้งวัน แล้วจะกลับมาอีกทีตอนท้องฟ้าใกล้มืดเต็มทีพร้อมข้าวต้นที่น้องสาวนำมาป้อนให้วันละหนึ่งมื้อเท่านั้น

คิดมาถึงตรงนี้ก็เกิดความสงสัยว่าเด็กสองคนนั้นหายไปไหนและไปทำอะไรกันทั้งวัน

หลังจากนั่งจนรู้สึกมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย ร่างผอมบางจึงเดินไปทางหลังบ้านที่มีลำธารน้ำใสไหลผ่าน ฝ่ามือผอมกอบน้ำขึ้นมาดื่มดับกระหายแล้วกวักขึ้นล้างหน้าล้างตาให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้เล็กน้อย

พอได้ดื่นน้ำร่างกายที่อ่อนแรงก็ดีขึ้นมาซีเจียงลุกขึ้นหันมองบ้านไม้ไผ่อีกครั้ง ดูอย่างไรมันก็กระต๊อบปลายนาดีๆ นี่เอง พวกเขาสามพี่น้องนอนห้องเดียวกัน หน้าบ้านมีชานบ้านเล็กๆ ให้นั่งกันนิดหน่อย ไม่มีครัว ไม่มีห้องน้ำ ไม่มีอะไรเลยที่จะเรียกว่าบ้านเต็มปากเต็มคำ

สามเดือนมานี้เด็กๆ อยู่กันได้อย่างไรนะ ซีเจียงอดคิดอย่างเวทนาไม่ได้ นึกถึงข้าวต้มเปล่าๆ ที่น้องสาวนำมาป้อนให้คนป่วยกินยิ่งพาลให้หัวใจเขาหดหู่อย่างบอกไม่ถูก

การใช้ชีวิตในโลกจีนโบราณแห่งนี้เขาคงต้องสู้ชีวิตสินะ

แต่ไม่เป็นไรหรอกตอนนี้เขาได้กลับมามีลมหายใจอีกครั้งแล้ว และเขาจะไม่ยอมตายอีกเด็ดขาด คนอย่างเขาสู้ชีวิตมาตลอดตั้งแต่ก่อนตาย ต่อให้ชีวิตใหม่นี้จะดูยากลำบากกว่าขนาดไหนเขาก็ไม่ย่อท้ออยู่ดี

ซีเจียงเดินกลับไปสำรวจกระต๊อบไม้ไผ่อีกครั้ง เปิดประตูเข้าไปก็มีเพียงหมอนสามใบ ผ้าห่มบางๆ สามผืน มุมห้องมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุดพับเรียงกันอยู่มองดูก็รู้ว่าทั้งสามคนมีชุดให้ใส่แค่คนละสามชุดเท่านั้น มีของใช้อีกนิดหน่อย มีกาต้มน้ำหนึ่งกาเล็กๆ เด็กๆ คงเอาน้ำจากในลำธารมาต้มดื่มเป็นแน่ และดูจากก้อนหินสามก้อนตรงพื้นข้างบ้านที่มีร่องรอยการก่อไฟและหม้อใบเล็กแขวนอยู่ใกล้ๆ กัน เด็กๆ คงใช้ตรงนี้ต้มน้ำและต้มข้าวต้ม ยิ่งคิดยิ่งทำให้ซีเจียงสงสารเด็กฝาแฝดสองคนนั้นเข้าไปอีกเป็นเท่าตัว

ซีเจียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อยากรู้ว่าตอนนี้น้องๆ หายไปไหน อยากเดินตามหาแต่ร่างกายเขาก็ไม่ได้มีแรงเยอะขนาดนั้น ก่อนจะออกตามหาน้องๆ เขาต้องทำให้ร่างกายนี้มีแรงเสียก่อนเป็นดีที่สุด

มือเรียวผอมคว้ามีดพร้าที่เหน็บอยู่ข้างบ้านมาถือไว้ เดินไปตัดต้นไผ่ต้นเล็กๆ มาเหลาจนปลายมันแหลมคม เขาจะนำไม้ไผ่มาแทงปลาในลำธาร

ปลาในลำธารเยอะนักแถมตัวใหญ่มาก หากใช้วิธีนี้จะทำให้การจับปลามาทำเป็นอาหารง่ายขึ้น

เมื่อเหลาไม้ไผ่เสร็จแล้วซีเจียงก็เดินย่องลงไปยืนนิ่งๆ อยู่กลางลำธารที่ความลึกของน้ำอยู่เพียงสะโพกเขาเท่านั้น

นัยน์ตากลมโตจ้องมองตัวปลาผ่านน้ำใส่กระจ่าง มือที่ถือไม้ไผ่ยกขึ้นตั้งท่าเมื่อได้จังหวะก็จัดการแทงปลาตัวใหญ่ทันที

" เยส! "

เสียงดีใจดังออกมาเมื่อได้ปลาอย่างที่หวัง ซีเจียงถอดปลาตัวใหญ่ออกจากไม้ไผ่แหลมคมโยนมันขึ้นไปบนฝั่งก่อนที่เขาจะหันมาจัดการแทงปลาตัวใหญ่ๆ ได้อีกสองตัว

เมื่อได้วัตถุดิบทำอาหารแล้ว ซีเจียงจึงถือโอกาสอาบน้ำอาบท่าเสียเลย ใช้เวลาล้างตัวอยู่ครู่หนึ่งก็ขึ้นจากลำธารแล้วไปเด็ดใบไม้ใบใหญ่มาทำเป็นที่รองปลาแทนกะละมัง จัดการเอาเครื่องในปลาออกมาจนหมดทั้งสามตัวแต่ไม่ได้ขดเกล็ดปลาแต่อย่างใดเพราะเขาตั้งใจจะย่างปลาทานนั่นเอง

หลังล้างปลาจนสะอาดแล้วซีเจียงเหลาไม้ไผ่เพื่อนำมาเสียบปลาทั้งสามตัว เมื่อเสียบปลาเสร็จแล้วก็มาจัดการก่อไฟโดยข้างเตามีถ่านหินก้อนเล็กๆ สองก้อน มันต้องเคาะเสียดสีกันไฟถึงจะติด หาไม้มีง้ามมาทำเป็นที่วางย่างปลาไว้เขาจะได้ไม่ต้องเมื่อยมือถือปลาให้เหนื่อย เขี่ยไฟให้มันกระจายตัวปลาที่ย่างไว้จะได้ไม่ไหม้ ซีเจียงจึงละไปจัดการตัวเองในบ้าน เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จก็นำผ้าที่เปียกไปซักน้ำเปล่าในลำธารอีกครั้งก่อนจะนำชุดไปตากไว้ที่ราวตากผ้า

แม้ชุดที่ใส่จะดูรุ่มร่ามแตกต่างจากเสื้อผ้าในชีวิตก่อนมากแต่เขาก็เข้าใจได้การแต่งกายของคนในยุคนี้ไม่ต่างอะไรกับหนังจีนที่เคยดูในทีวีเลย

เงยหน้ามองพระอาทิตย์ตอนนี้ก็คงใกล้เที่ยงเต็มที ไม่รู้ฝาแฝดทำอะไรอยู่กันแน่ อดเป็นห่วงขึ้นมาไม่ได้

เมื่อปลาตัวแรกสุกดีแล้ว ซีเจียงก็จัดการนำปลาตัวต่อไปย่างต่อทันที มือเรียวหยิบฟืนมาใส่ไฟแล้วหันมาจัดการทานเนื้อปลาเพิ่มพลังงานให้ร่างกายเร็วๆ เขาจะได้เดินไปดูน้องอีกสองคนว่าทำอะไรอยู่ถึงหายไปทั้งวันแบบนี้

กว่าจะทานปลาหมด ปลาตัวที่สามก็ย่างสุกพอดี ซีเจียงจัดการห่อปลาทั้งสองตัวไว้ให้น้องแล้วนำไปไว้ในบ้าน เขาดื่มน้ำจากในกาเสร็จก็เดินออกมาปิดประตูบ้านแล้วเดินมุ่งหน้าตรงไปทางบ้านใหญ่จากความทรงจำ

ระหว่างทางมือเรียวก็ยกขึ้นจัดการม้วนผมยาวๆ ของตัวเอง คว้ากิ่งไม้ข้างทางมาปักผมแทนปิ่นไว้อย่างแน่นหนา สายตามองสอดส่องไปทั่วบริเวณอย่างคนช่างสังเกตเห็นอะไรที่สามารถทานได้ก็หมายตาเอาไว้ ตอนเดินกลับจะได้แวะเอาไปทำของกินกัน

เดินมาสักพักเขาก็เห็นหลังบ้านที่สร้างด้วยอิฐอยู่ไม่ไกล แต่พอยิ่งเดินเข้าไปใกล้คิ้วเรียวก็ต้องขมวดเข้าหากันยุ่ง

" เลี้ยงเสียข้าวสุก! เจ้าสองคนพี่น้องตั้งใจจะถ่วงเวลาใช่หรือไม่ "

หากจำไม่ผิดผู้หญิงที่ยืนเท้าสะเอวค้ำหัวเด็กๆ อยู่นั้นมันป้าสะใภ้ของซีเจียงภรรยาท่านลุงซีถ่งชื่อว่านางลั่วหลัน

" ขอโทษเจ้าค่ะ/พวกข้าจะรีบซักให้เสร็จขอรับ "

และเด็กสองคนนั้นที่กำลังซักผ้ากองใหญ่อยู่มันน้องสาวและน้องชายฝาแฝดของซีเจียงหนิ

" รีบซักผ้าให้เสร็จแล้วตักน้ำให้เต็มโอ่งไม่เช่นนั้นพวกเจ้าอดได้ข้าวสารกลับไปทานแน่ "

ซีเจียงทนไม่ไหวเมื่อเห็นว่าป้าสะใภ้กำลังจะเดินเข้าบ้านไปเขารีบรั้งไว้ทันที

" หมายความเช่นไรที่ท่านกล่าวว่าจะไม่ให้ข้าวสารน้องข้ากลับไปทาน "

ลั่วหลันหันขวับมามองซีเจียงอย่างตกใจ ไม่ใช่แค่ป้าสะใภ้ที่ตกใจแต่น้องฝาแฝดทั้งสองก็ตกใจไม่แพ้กัน แตกต่างกันตรงที่เด็กๆ ดีใจที่พี่ชายหายจากอาการป่วยแล้ว ส่วนป้าสะใภ้กลับตกใจที่ซีเจียงมาได้ยินสิ่งที่นางกล่าวกับเด็กๆ สองคนนี้

" ว่าอย่างไรเล่าป้าสะใภ้ "

ซีเจียงรีบคว้าร่างน้องๆ สองคนมากอดไว้ก่อนจะเงยหน้ามองป้าสะใภ้อีกครั้งอย่างไม่พอใจกับการกระทำของนาง อย่าบอกนะที่น้องๆ หายไปทั้งวันเพราะต้องมาทำงานบ้านแทนป้าสะใภ้แลกข้าวสารเพียงวันละหนึ่งมื้อ

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

Comments

No Comments
20 Chapters
บทที่1นับแต่นี้ไปข้าคือซีเจียง
' นับแต่นี้ไปเจ้าคือซีเจียงเกอน้อยวัยสิบหกปีมีน้องชายและน้องสาวฝาแฝดที่ต้องเลี้ยงดู พ่อแม่เสียไปเมื่อสามเดือนก่อน จำไว้หากอยากมีชีวิตต่อไปเจ้าต้องสู้ชีวิต ขอให้โชคดี 'นั้นคือคำพูดของชายชราก่อนที่มือเหี่ยวย่นจะผลักดวงวิญญาณเขาเข้ามาในร่างของเกอน้อยซีเจียงที่เพิ่งหมดลมหายใจไปได้ไม่นานจากอาการตรอมใจและป่วยตายหลังลืมตาตื่นขึ้นมาเขาจึงตระหนักได้ว่านอกจากความทรงจำของร่างนี้เขายังมีความทรงจำเก่าในชีวิตก่อนตายกลับมาอีกด้วย ทั้งที่ตอนเป็นวิญญาณอยู่นานหลายปีเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใครมีชื่อว่าอะไร แต่ตอนนี้เขากลับจำได้แทบทุกอย่างก่อนตายเขามีชื่อว่า เจียง เป็นพ่อครัวของร้านอาหารร้านหนึ่ง สาเหตุการตายหน้ามืดในขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้านเช่า ทำให้รถพุ่งชนเสาไฟฟ้าและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที ตายตอนอายุสามสิบปีคงเพราะทำงานกลับดึกติดต่อกันหลายวันซีเจียงถอนหายใจอย่างปลดปลง นั่นคือชีวิตก่อนจะตายแม้เสียดายแค่ไหนก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว ชีวิตใหม่นี้ต่างหากที่เขาจะต้องกลับมาให้ความสนใจอย่างจริงจังซีเจียง เกอน้อยวัยสิบหกปี มีน้องชายหนึ่งคนน้องสาวหนึ่งคนเป็นฝาแฝดกันอายุสิบปี บิดามารดาเพิ่งเสียชีวิ
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่2ป้าสะใภ้ใจร้าย
ลั่วหลันเชิดหน้ามองซีเจียงอย่างไม่พอใจเช่นกัน" ก็อย่างที่เจ้าได้ยิน อยู่ที่นี่ต้องช่วยทำงานบ้านจะมากินฟรีอยู่ฟรีๆ ได้เช่นไรกันข้าไม่ยอมหรอก "" แล้วท่านลุงรู้เรื่องหรือไม่ขอรับว่าท่านใช้งานน้องๆ ข้าแลกกับเศษข้าว "ลั่วหลันตวัดตามองสามพี่น้องหลานๆ ของสามีอย่างไม่พอใจระคนรังเกียจ" เรื่องงานบ้านลุงเจ้าไม่เกี่ยวอย่าคิดปากพล่อยเอาความไปบอกไม่งั้นพวกเจ้าอดข้าวแน่ "ซีเจียงกระตุกยิ้มร้ายทันที" ท่านลุงไม่รู้สินะขอรับ ไม่เป็นไรน้องข้าไม่กล้าบอก แต่ข้ากล้า "" นี่เจ้า! "" ท่านเป็นป้าสะใภ้ที่ใจร้ายมาก ข้าไม่สบายหลายเดือนลุกขึ้นมาช่วยทำงานไม่ไหวท่านจึงหันมาใช้งานน้องๆ ข้าแทน ข้าวสารที่ให้ไปก็กินไม่อิ่ม พวกเราได้กินข้าววันละมื้อเท่านั้น ทำไมท่านใจร้ายใจดำเช่นนี้ขอรับ "ซีเจียงรีบทรุดตัวกอดน้องทั้งสองคนเมื่อเห็นท่านลุงเปิดประตูรั้วบ้านเข้ามา เขากล่าวเสียงดังเพื่อทำให้ท่านลุงหันมาสนใจ และเป็นดั่งใจเมื่อท่านลุงซีถ่งเดินตรงมาทางนี้โดยที่ป้าสะใภ้ยังไม่รู้ตัว" แค่วันละมื้อก็เกินพอแล้วสำหรับเด็กที่ไม่มีพ่อแม่เช่นพวกเจ้า ไอ้พวกเด็กเหลือขอ "" เจ้าพูดอะไรของเจ้าลั่วหลัน! "นางลั่วหลันสะดุ้งตกใจที่อยู่
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่3มิติวิเศษ
" พี่ซีเจียงวางมีดพร้าลงก่อนเจ้าค่ะข้ามีเข็ม "ซีหลินรีบวิ่งเข้าไปเอากระปุกใส่เข็มและด้ายออกมายื่นให้พี่ชายอย่างเร่งรีบ นางกลัวจริงๆ กลัวว่าพี่ซีเจียงจะใช้มีดพร้าบาดนิ้วตัวเอง กลัวว่าแทนที่จะได้เลือดเพียงหยดเดียวกลายเป็นเลือดที่ไหลไม่หยุดพร้อมนิ้วขาดไปหนึ่งนิ้วด้วยนี่สิ มีดพร้าเล่มนี้คมน้อยเสียที่ไหน" อา ขอบใจเจ้ามาก "ซีเจียงวางมีดพร้าลงก่อนจะรับเข็มอันเล็กมาถือไว้ มองสบตาน้องๆ ที่รอลุ้นไปด้วยกันก่อนจะทำการจิ้มเข็มลงบนนิ้วแล้วหยดเลือดลงไปบนกำไลหนึ่งหยดเท่านั้น" เห้ย! "เพียงเลือดหยดลงไป อยู่ๆ ร่างของซีเจียงก็หายวับไปต่อหน้าต่อตาน้องๆ ทั้งสองคนทันที" พี่ซีเจียง!/พี่ซีเจียงเจ้าค่ะ! "ซีเจียงเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เขาได้ยินเสียงน้องทั้งสองคนชัดเจนเพียงแต่ตอนนี้ร่างของเขามาโผล่งอยู่อีกสถานที่หนึ่งเสียแล้ว" โห้ "ตรงหน้าเขาฝั่งซ้ายคือแปลงผักหลากหลายชนิดสุดลูกหูลูกตารวมถึงเหล่าสมุนไพรมากมายทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ส่วนฝั่งขวาคือสวนผลไม้ มีตั้งแต่ผลไม้ชนิดไม้เลื้อยไปจนถึงไม้ยืนต้นสุดลูกหูลูกตาไม่ต่างกันแถมแต่ละต้นยังมีผลที่สุกเต็มต้นไปหมดเลย ส่วนตรงกลางมีบ้านปูนชั้นเดียวทรงโมเดิร์นปลูกอยู่
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่4เด็กๆช่างรู้ความนัก
เช้านี้ซีเจียงตื่นมารับรู้ได้ว่าภายนอกมิติวิเศษฝนกำลังตกหนัก แม้พวกเขาจะยังอยู่ในมิติแห่งนี้แต่ทุกความเคลื่อนไหวด้านนอกเขาได้ยินและรับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในมิติวิเศษมีกลางวันกลางคืนไม่ต่างกัน แต่บรรยากาศในนี้ไม่เหมือนบรรยากาศภายนอกแต่อย่างใด ด้านนอกตอนนี้ฝนกำลังตกหนักมากส่วนในมิติแห่งนี้กลับบรรยากาศดีมีลมพัดแผ่วเบาไม่ร้อนอบอ้าวและไม่หนาวจนเกินไปเมื่อคืนพวกเขาสามคนพี่น้องได้แยกกันนอนคนละห้องเป็นครั้งแรก หลังอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จซีเจียงจึงออกมาเข้าครัวเพื่อทำอาหารเช้าให้น้องๆทานมื้อเย็นเมื่อวานเด็กๆตื่นเต้นกันมากเมื่อเห็นอาหารที่เขาทำ ยิ่งได้ทานข้าวหอมมะลิเต็มเม็ดเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนเด็กฝาแฝดทั้งสองคนพากันน้ำตาคลอกันเลยทีเดียว เพราะที่ผ่านมาป้าสะใภ้ให้ข้าวสารพวกเขาเพียงวันละกำมือ เด็กๆจึงนำข้าวมาต้มเพื่อจะได้ทานกันพอทั้งสามคนพี่น้อง จากที่น้องสาวเล่าให้ฟังซีเจียงยอมรับว่าโกรธป้าสะใภ้มาก ข้าวสารหนึ่งกำมือกับผักหนึ่งกอเด็กสามคนจะทานกันอิ่มได้อย่างไร แค่คิดก็ปวดใจ เป็นป้าสะใภ้ที่ใจร้ายใจดำเป็นที่สุดเด็กๆเคยคิดจะนำความไปบอกท่านย่าหลายครั้งแต่ไม่กล้า เพราะป้าสะใภ้ขู่ว่าหากเรื
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่5 โสมอายุร้อยยี่สิบปี
เป็นครั้งแรกที่ซีเจียงได้ออกมาเห็นความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านหมู่บ้านนี้มีชื่อว่า หมู่บ้านซูไฉ เมืองซานหวน หนึ่งในเขตปกครองของแคว้นจ้าว ชาวบ้านดำรงอาชีพทำนาปลูกผักเป็นส่วนใหญ่ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีชาวบ้านอาศัยอยู่สองร้อยหลังคาเรือนเห็นจะได้กระมังระหว่างทางที่เดินไปชายป่าหลังหมู่บ้าน มีชาวบ้านหลายคนเอ่ยทักทายกับน้องชายเขาอย่างเป็นกันเอง ดูท่าอาหลงคงออกมาเดินเล่นในหมู่บ้านบ่อยทีเดียวแต่เพราะเป็นครั้งแรกของเขาที่ออกมาจากรั้วบ้านสกุลซี ชาวบ้านที่เดินผ่านจึงหันมองมาอย่างสนใจ แถมยังมีเสียงกระซิบกระซาบตามหลังให้ได้ยินอีกต่างหากมีการถกเถียงกันว่าตัวเขาเป็นเกอหรือไม่ ซีเจียงยอมรับว่าไม่ใคร่พอใจเท่าไหร่ที่ถูกนินทาในระยะเผาขนเช่นนี้" พี่ซีเจียงนำผ้าไปปิดหน้าหน่อยเถิดเจ้าค่ะ "ซีหลินยื่นผ้าที่นางคาดไหล่ให้พี่ชาย นางก็ลืมไปเกอในหมู่บ้านนี้ส่วนใหญ่ไม่เปิดเผยใบหน้าให้ผู้ใดเห็นมากนัก " ทำไมหรือ "แม้จะถามแต่มือก็รับผ้าผืนบางมาคลุมศีรษะแล้วตวัดปลายผ้าไปด้านหลังปิดบังใบหน้าไปครึ่งหนึ่ง" ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่บุรุษเกอที่นี่เขามักจะใช้ผ้าปิดหน้ากันเวลาออกนอกบ้าน "" เฉพาะเกอที่ยังไม่ออกเรือนขอรับที
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่6 แก้เผ็ดป้าสะใภ้
สรุปน้องน้อยฝาแฝดของเขาไม่ได้ต้องการสิ่งใด เพียงแต่พวกเขาสามคนพี่น้องพากันเดินชมตลาดในเมืองซานหวนกันอย่างตื่นตาตื่นใจและแวะทานอาหารดังๆกันเท่านั้น" หากเราได้ย้ายออกมาอยู่ในเมืองคงดีนะขอรับ "ซีหลงกล่าวออกมาตามที่คิด ในเมืองซานหวนช่างดูคึกคักนัก หากได้มีบ้านในเมืองพวกเขาคงมีความสุขน่าดู" นั้นสิเจ้าคะ ฝีมือการทำอาหารของพี่ซีเจียงเปิดร้านขายอาหารได้สบายเลย "เมื่อครู่พวกเขาแวะทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่ง รสชาติแม้จะทานได้แต่ไม่อร่อยเท่าฝีมือพี่ชายสักนิดซีเจียงพยักหน้ารับฟัง เขาเองก็มองที่ทางและสังเกตอาหารที่พ่อค้าแม่ค้านำมาขายในตลาดเช่นเดียวกัน อาหารส่วนใหญ่ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้านำมาขายก็คล้ายๆกันหมด หากเขาทำอาหารแปลกตามาขายดูบ้างคงน่าจะขายดีทีเดียวเงินสองตำลึงทองที่มีอยู่ก็สามารถนำมาเป็นทุนซื้อโต๊ะและอุปกรณ์การทำอาหารได้ แต่เขาอยากได้รถเข็นที่สามารถเข็นขายอาหารได้มากกว่านี่สิ ไม่รู้ในโลกใบนี้จะมีรถเข็นอย่างโลกเก่าก่อนหรือเปล่า หากมีรถเข็นเคลื่อนที่ได้มันจะสะดวกในการขายมากทีเดียว แต่หากไม่มีจริงๆเขาก็คงต้องหาบ้านเช่าให้เป็นหลักเป็นแหล่งเพื่อจะเปิดร้านอาหารไปเลย ให้มาตั้งโต๊ะหาบเร่แผงลอ
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่7 เช่าบ้าน
เหตุการณ์หลังจากนั้น ป้าสะใภ้ถูกตำหนิจากทั้งชาวบ้าน จากท่านลุงซีถ่งผู้เป็นสามี และท่านปู่ท่านย่าพ่อแม่สามีอีกด้วย และยังถูกท่านลุงทำโทษด้วยการยึดอำนาจการดูแลค่าใช้จ่ายภายในบ้านคืน ในที่นี้คือนางยังต้องทำงานบ้านตามปกติแต่นางจะไม่มีสิทธิ์ถือเงินแม้แต่อีแปะเดียวนั้นเองส่วนพวกเขาหลังจากที่ท่านปู่ท่านย่าทราบข่าวว่าจะออกไปเช่าบ้านอยู่กันเองท่านจึงยื่นเงินให้มาหนึ่งถุงไว้เป็นทุนในการใช้ชีวิตในเมืองเมื่อกลับมาถึงบ้านไม้ไผ่ซีเจียงจึงแกะถุงนำเงินออกมานับ สรุปว่าเงินที่ท่านปู่ท่านย่าให้มาคือสามร้อยตำลึงเงิน หากนำมารวมกับเงินของพวกเขาตอนนี้ก็จะเป็นเงิน สองพันหนึ่งร้อยตำลึงทองสองร้อยตำลึงเงินกับอีกห้าร้อยอีแปะ เพราะเมื่อวานพวกเขาจ่ายเงินซื้อขนมและอาหารในตลาดไปแล้วห้าร้อยอีแปะ ส่วนเงินค่าเช่าบ้านก็ไม่ต้องกังวนเพราะท่านลุงอาสาจะจ่ายให้เอง ตอนนี้จึงถือว่าพวกเขาสามคนพี่น้องมีเงินติดตัวไม่น้อยทีเดียวตอนแรกซีเจียงตั้งใจจะกลับบ้านมาทำแปลงปลูกผัก แต่ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนแผนแล้วล่ะ เพราะบ่ายวันนี้พวกเขาจะต้องเข้าเมืองกันอีกครั้งเพื่อจะไปหาบ้านเช่าพร้อมท่านลุงซีถ่งพวกเขาสามคนพี่น้องช่วยกับเก็บของที่แสนน้อ
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่8 ปลูกผัก
ยามเหม่า(05.00-06.59)ตอนนี้ทั้งซีเจียงและน้องสาวน้องชายต่างออกมาช่วยกับปรับหน้าดินตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่างดีจนตอนนี้พวกเขาทำแปลงผักได้ทั้งหมดยี่สิบแปลงแล้วอุปกรณ์ทุกอย่างซีเจียงก็นำออกมาจากมิติทั้งสิ้นแต่เพราะไม่ได้แตกต่างจากที่ชาวบ้านมีเขาจึงนำออกมาใช้ได้อย่างสบายใจ คงจะมีเพียงบัวรดน้ำกระมังที่คนในยุคนี้ไม่มี ส่วนจอบและที่พรวนดินชาวบ้านที่มีอาชีพทำสวนก็ต้องมีทุกบ้านอยู่แล้ว เพียงแต่ของเขาอาจจะดูทันสมัยกว่าก็เท่านั้นเอง" เอาน้ำในขวดแก้วเทใส่ในบัวรดน้ำแล้วนำมารดแปลกผักให้ทั่ว ก่อนนำต้นกล้าลงปลูก "ซีเจียงที่นั่งหมดแรงจากการใช้จอบทำแปลงผักขึ้นมายี่สิบแปลงอธิบายให้น้องๆฟังแล้วทำตาม ตอนนี้พวกเขาเนื้อตัวเต็มไปด้วยเหงื่อและเศษดินเต็มไปหมดดูมอมแมมมากทีเดียวเมื่อน้องๆรดน้ำทีละแปลงไปเรื่อยๆซีเจียงจึงนำต้นกล้าลงปลูกตามหลังทันที เขาจะปลูกชิงช่าย(กวางตุ้ง)ห้าแปลง ไป๋ช่าย(ผักกาดขาว)ห้าแปลง เปาซินช่าย(กะหล่ำปลี)ห้าแปลง และคงซินช่าย(ผักบุ้ง)อีกห้าแปลงก่อน อยากรู้ว่าจะปลูกผักได้สำเร็จหรือไม่เมื่อนำต้นกล้าผักทุกชนิดลงแปลงเสร็จแล้ว ซีเจียงก็นำน้ำจากสระมรกตมารดน้ำผักอีกรอบหนึ่ง เมื่อเสร็จทุกอย่
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่9 ขายผัก
ด้วยความที่ผักของพวกเขามันสมบูรณ์ต้นใหญ่จึงสามารถวางขายบนโต๊ะได้ไม่หมดส่วนที่เหลือต้องแยกใส่ไว้ในตะกร้าใบโตตรงพื้นด้านล่างแทนแต่ก็แยกชนิดผักไว้อย่างชัดเจนไม่ได้รวมกันแต่อย่างใดผักทั้งหมดซีเจียงจะขายในราคาเดียวกันคือจินละห้าสิบอีแปะ เมื่อครู่เขาลองนำผักแต่ละชนิดขึ้นตาชั่งแล้ว ผักที่มีน้ำหนักมากสุดถึงสิบจิน(5 กิโล)คือกะหล่ำปลี ส่วนกวางตุ้งกับผักกาดขาวมีน้ำหนักเท่ากันอยู่ที่หนึ่งต้นต่อแปดจิน(4 กิโล) และผักบุ้งสิบต้นต่อหนึ่งจินก็ถือว่าต้นสมบูรณ์มากๆแล้วบอกแล้วอย่างไรเล่าว่าผักของเขามีขนาดต้นที่ใหญ่มากกว่าในตลาดหลายเท่านักและคนที่มาอุดหนุนประเดิมการขายผักเป็นคนแรกก็คือท่านลุงเข่อจงเจ้าของบ้านเช่านั้นเอง ตอนแรกซีเจียงจะไม่คิดเงินเพราะตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะนำผักไปฝากท่านลุงท่านป้าเจ้าของบ้านเช่าตอบแทนขนมที่ท่านนำมาให้ทานบ่อยๆแต่ท่านลุงกลับไม่ยินยอมนี่สิ" ของซื้อของขายจะให้ลุงฟรีๆได้เช่นไร ไม่ได้นะอาเจียงลุงไม่รับ "เข่อจงกล่าวจนเด็กๆต้องยอมคิดเงินจนได้" เช่นนั้นก็ได้ขอรับ ขอบคุณท่านลุงมากนะขอรับที่มาเป็นลูกค้าคนแรกของพวกเรา "ซีเจียงแม้จะเกรงใจแต่ในเมื่อท่านลุงต้องการซื้อเขาก็ทำอะไร
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
บทที่10 ดั่งพระเอกขี่ม้าขาว
สามวันต่อมาผักที่พวกเขาสามคนนำมาปลูกแล้วรดน้ำจากสระมรกตก็โตขึ้นพร้อมเก็บขายได้อีกครั้งตอนนี้รอบบ้านของพวกเขาเต็มไปด้วยผัก โดยเฉพาะจำพวก พริก พริกไทย พริกหยวก และพริกหวาน ผลของมันเต็มต้นและมีสีสันน่ามองมาก" พวกเราคงเก็บไม่หมดในวันนี้แน่เจ้าค่ะ "ซีหลินชี้ไปทางพวกพริกทั้งหลายแต่ละต้นผลิดอกออกผลมากกว่าใบเสียอีก" นั่นสิ "ซีเจียงก็คิดเช่นนั้น วันนี้ทั้งวันพวกเขาสามคนคงเก็บพวกพริกเหล่านี้ไม่หมดแน่ๆ และหากมัวแต่เก็บพริกพวกนี้ผักชนิดอื่นก็คงไม่ได้เก็บขายไปด้วยพวกเขามีเวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม(2ชั่วโมง)ในการถอนผักมาวางขายก่อนที่ชาวบ้านชาวเมืองจะออกกันมาเดินตลาดจับจ่ายใช้สอยซื้อวัตถุดิบกลับไปทำอาหารมื้อเช้าทานกันที่บ้าน" เช่นนั้นพวกเราเก็บผักชนิดอื่นกันก่อนดีกว่าขอรับ ต้องนำมาล้างดินอีกเดี๋ยวจะไม่ทัน "" งั้นลงมือเก็บผักกันเลย "ซีเจียงก็เห็นด้วยกับอาหลงทั้งสามคนจึงช่วยกันถอนผักต้นโตๆออกมาใส่ไว้ในตระกร้าและแยกชนิดของผักไว้ไม่รวมกันจะได้ไม่เสียเวลาล้างแล้วนำไปวางขายตะกร้าไม้ไผ่สานอันใหญ่เหลานี้เขาก็ออกไปซื้อมาเพิ่มเมื่อวาน เพราะผักที่นำออกมาปลูกมีหลายชนิดกว่าครั้งแรก เขายังปลูกผักบุ้ง ผักกาดข
last updateLast Updated : 2025-04-11
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status