ฟิว..
ผมเดินลงมาจากรถเพื่อไปลานกิจกรรมรับน้องที่ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงส่วนไหนของมหาลัยเพราะมหาลัยแห่งนี้กว้างมากถ้าให้เดินรอบมหาลัยคงใช้เวลาทั้งวัน อ้อ ผมลืมบอกไปสินะว่าผมเพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ตอนนี้ผมต้องรีบไปลานกิจกรรมเพราะสายมากแล้วจากนั้นค่อยไปตามหาข้าวฟ่าง ข้าวฟ่างคือผู้หญิงที่แม่ขอร้องให้ผมมาดูแล บอกตามตรงว่าผมยังไม่เคยเจอข้างฟ่างเลยสักครั้งแต่ก็พอจะรู้ว่าเธอหน้าตาเป็นยังไงเพราะแม่ให้ดูรูป แต่ไม่ใช่แค่รูปของข้าวฟ่างคนเดียวหรอกนะที่แม่เอาให้ผมดูเพราะยังมีรูปของเด็กน้อยวัยสามขวบชื่อว่าข้าวปั้นกับข้างแป้งเด็กฝาแฝดลูกของข้าวฟ่างกับ..ไอ้เตอร์ แต่ไอ้เตอร์มันไม่รู้หรอกนะว่ามันมีลูกเพราะมันเลิกกับข้างฟ่างไปนานแล้วและตอนที่เลิกมันก็ไม่รู้ว่าข้าวฟ่างท้องสาเหตุที่เลิกก็เพราะมันเหี้ยไงได้เขาแล้วมันเกิดเบื่อก็เลยทำตัวเหี้ยใส่จนข้างฟ่างทนไม่ไหวหอบลูกในท้องหนีมันไปโดยที่มันก็ไม่รู้ หึ โง่ชิบหาย โคตรสมน้ำหน้า
ผมเดินมาจนเกือบถึงลานกิจกรรมก็เจอเข้ากับผู้หญิงคนนึงที่นั่งอยู่กับพื้นลักษณะเหมือนเธอจะหกล้มมากกว่าลงไปนั่งเองเพราะคงไม่มีใครบ้านั่งอยู่ตรงกลางถนนให้คนมองแบบนี้หรอกแบบนี้และดูเหมือนเธอพยายามจะลุกแต่ก็ลุกไม่ไหวผมก็เลยรีบเดินเข้าไปถาม
"นี่เธอเป็นอะไรหรือเปล่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย" ผมถามโดยที่ยังไม่ได้มองหน้าเพราะเห็นว่าที่หัวเข่าทั้งสองข้างของเธอมันถลอกจนมีเลือดไหลซึมออกมา แต่คำถามของผมที่ถามคนตรงหน้ายังไม่ได้คำตอบ หรือเจ็บจนพูดไม่ออกวะ นั่นคือสิ่งที่ผมคิดผมก็เลยเงยหน้าขึ้นมองปรากฏว่าเธอก็คือคนที่ผมตามหาอยู่ เธอคือข้าวฟ่างเมียเก่าไอ้เตอร์ ที่บอกว่าเมียเก่าเพราะตอนนี้ไอ้เตอร์มันมีเมียใหม่ไปแล้วซึ่งคงจะนับไม่หวาดไม่ไหวว่าเมียมันมีกี่คนเอาเป็นว่านิ้วมือคงไม่พอคงต้องยกนิ้วเท้ามานับด้วยเพราะความชั่วมั่วไม่เลือกของมันที่เห็นผู้หญิงสวยๆ ไม่ได้คลำดูไม่มีหามันก็เอาหมด คิดละก็อดสงสารแม่ของลูกมันไม่ได้ที่มาเจอผู้ชายเลวๆ อย่างไอ้เตอร์ แต่พอมาเจอหน้าเจอตัวเป็นๆ แบบนี้ อยากจะบอกว่าตัวจริงของข้างฟ่างเธอสวยกว่าในรูปที่แม่เอาให้ดูมากมากจนผมอดมองไม่ได้ข้าวฟ่างสวยมากสวยจนใจของผมเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน ผมตกหลุมรักคนตรงหน้าใช่หรือเปล่า
"เป็นอะไรไหมฉันถาม" ผมสลัดความคิดนั้นไปก่อนจะถามอาการของเธออีกครั้งคือผมต้องถามย้ำอีกครั้งเพราะไม่เห็นว่าเธอจะตอบคำถามของผม
"พี่ไม่.....เอ่อฉันไม่เป็นอะไรมากหรอกแค่หัวเข่าถลอกนิดเดียวเอง" เข่าถลอกปอกเปิกขนาดนี้บอกว่านิดเดียวบอกไม่เป็นอะไร หึหน้าตาดีแล้วยังปากแข็งอีกนะ อันนี้ผมคิดเองในใจ
"หัวเข่าเธอมีเลือดซึมออกมาด้วยนะฉันว่าเธอไปทำแผลที่ห้องพยาบาลมั้ยเดี๋ยวฉันพาไป"
"ไม่เอาอ่ะเป็นไรหรอกนิดเดียวเอง"
"นิดเดียวบ้านเธอสิเลือดออกขนาดนี้"
"นิดเดียวจริงๆ นะ"
"งั้นก็แล้วแต่เธอละกันเธอเจ็บไม่ใช่ฉันเจ็บ" ผมขี้เกียจพูดกับคนดื้อแต่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ นะ
"เอ่อ.....ว่าแต่นายเรียนอยู่ปีหนึ่งใช่หรือเปล่า"
"อื้มใช่ฉันเรียนปีหนึ่งคณะบริหารแล้วเธออ่ะ" ผมถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้ว
"ฉันก็เรียนบริหารนะ"
"จริงเหรอดีจังได้เจอคนที่เรียนคณะเดียวกันฉันชื่อฟิวนะเธอชื่ออะไร" ผมแสร้งทำเป็นไม่รู้จักเพราะตอนนี้ผมยังไม่ต้องการให้เธอรู้ว่าผมรู้จักเธอ
"ฉันชื่อข้าวฟ่างเรียกฟ่างเฉยๆ ก็ได้ ว่าแต่ฟิวนี่ ย่อมาจากกาฟิวป่ะ^^" กาฟิว?? คิดได้ไงวะใครจะมาชื่อปัญญาอ่อนขนาดนี้แต่ในเมื่อเธอคิดว่าผมชื่อนี้ก็แล้วแต่เลยเอาที่สบายใจเพราะดูเธอจะชอบชื่อนี้
"รู้ได้ไงอ่ะ"
"เดาเอาไม่คิดว่าจะถูกนะเนี๊ยะ555" รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่สดใสของเธอทำให้ผมหลงเธอหนักขึ้นไปอีก
"เรียกฉันว่าฟิวก็พอนะกาฟิวเอาไว้ให้ป๊าม๊าที่บ้านฉันเรียกก็พอ"
"อื้มมม ^^ ฉันว่าตอนนี้เรารีบไปเข้าแถวเถอะจะเลยสิบห้านาทีแล้ว"
"เออนั่นนะสิงั้นเรารีบไปกันเถอะว่าแต่....เธอเดินไหวไหม" ผมถามคนตรงหน้าที่พอได้มองใกล้ๆ ก็ทำให้ผมใจสั่นเข้าไปอีก
"ไหวสิ"
"แน่ใจ?? "
"อื้มมม...โอ๊ย เจ็บ" พูดไม่ทันขาดคำคนดื้อที่พยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองก็ล้มลงไปอีกรอบผมก็เลยปล่อยให้เธอล้มจะได้รู้ว่าตัวเองเดินไม่ไหวจริงๆ
"เห็นไหมฉันบอกแล้วว่าเธอต้องเดินไม่ไหวยังจะดื้ออีก งั้นเอางี้เธอขึ้นมาขี่หลังฉันละกัน"
"ไม่เอามันไม่เหมาะ"
"ไม่เหมาะอะไรเธอเจ็บขาเดินไม่ไหวฉันก็แค่ให้เธอขี่หลังไม่เห็นจะเป็นไรเลย ป่ะเร็วสายแล้วฉันไม่อยากโดนทำโทษเพราเธอหรอกนะ" ผมพูดพร้อมกับย่อตัวลงเพื่อให้เธอขึ้ขี่หลัง
"งั้นฉันไม่เกรงใจละนะ ขอบใจนะ^^"
"ขอหลบหน้าแก้อายหน่อยนะ" เธอกระซิบบอกผมก่อนจะเอาหน้ามุดเข้าที่ไหล่ของผมซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะมันรู้สึกดีไงที่ได้อยู่ใกล้ๆ ผมผิดไหมถ้าจะบอกว่าผมรู้สึกกับข้าวฟ่าง
(เรื่องของฮันเตอร์กับข้าวฟ่างอยู่ในเรื่อง ก็แค่เมียเก่า นะคะเผื่อใครยังไม่ได้อ่านไปตามอ่านกันได้นะคะ^^)
ห้าเดือนต่อมา...."อุ๊บ อุ๊บ อ๊วกกกกกกกก อ๊วกกกกกก" คุณฟิวลุกออกจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำทันทีที่ตื่นนอนขณะที่ฉันกำลังเปิดประตูห้องนอนเข้ามาหลังจากไปดูเด็กๆทานอาหารเช้าที่บ้านใหญ่ พอเห็นคุณฟิววิ่งเข้าห้องน้ำฉันก็รีบเดินตามเข้าไปช่วยลูบหลังให้" ทำไมมันทรมานแบบนี้ ฮือออ ฮืออออ ลูกแกล้งพ่อทำไมครับลูก ฮือออ อ๊วกกกก" คุณฟิวอาเจียนไปร้องไห้ไปบ่นไปอยู่อย่างนั้นนานหลายนาทีจนฉันแดสงสารเขาไม่ได้ ฉันค่อยๆประคองคุณฟิวออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่เขาอาเจียนเสร็จแล้วพาเขามานั่งพักที่เตียงก่อนจะยื่นน้ำส้มคั้นสดรสเปรี้ยวที่ฉันเพิ่งคั้นมาให้เขาดื่มเพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้องที่เป็นมาตลอดห้าเดือนเต็มเนื่องจากเขาจะเป็นแบบนี้ทุกเช้าตั้งแต่รู้ว่าฉันท้อง"อึก อึก อึก" คุณฟิวรับน้ำส้มคั้นที่ผสมน้ำมะนาวไปดื่มจนหมดแก้วฉันลอบกลืนน้ำลายลงคอไม่ใช่เพราะอยากทานหรอกนะแต่ฉันไม่รู้ว่าเขาทานมันไปได้ยังไงเพราะมันเปรี้ยวมากแม้ว่าฉันจะเคยแพ้ท้องมาก่อนถึงสองครั้งก็ตามแต่ฉันก็ไม่เคยแพ้ท้องหนักขนาดนี้อย่างมากก็แค่อยากทานผลไม้รสเปรี้ยวแค่นั้นแต่คุณฟิวทานทุกอย่างทั้งผลไม้สดทั้งน้ำผลไม้ที่ต้องมีรสเปรี้ยวเท่านั้นถ้าหวานเขาไม่แตะเลย บนหั
ใบบัว...หนึ่งเดือนต่อมา...ตอนนี้เรามาพักผ่อนกันที่หัวหินหลังจากที่ไม่ได้มานานตั้งแต่ฉันท้องสองแฝดแล้วอีกอย่างคุณฟิวก็ไม่ค่อยว่างพามาด้วยแต่ตอนนี้คุณฟิวตัดสินใจว่าจะทำที่บ้านแทนการเข้าบริษัทเขาบอกจะเข้าไปเฉพาะมีเรื่องเร่งด่วนเท่านั้นซึ่งทุกคนไม่ว่าจะเป็นคุณปกรณ์คุณท่านคุณเฟื่องก็เห็นดีด้วยเพราะที่ผ่านมาเขาเอาแต่ทำงานหนักทั้งที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องทำงานหนักขนาดนั้นก็ได้เพราะพนักงานที่ไว้ใจได้ก็มีแต่เขาให้เหตุผลว่าเขาอยากหาเงินเอาไว้เยอะให้ฉันกับลูกได้มีกินมีใช้จะได้ไม่ลำบาก ฉันรู้ว่าเขารักฉันกับลูกมากเขายอมทำงานหนักเพื่อพวกเราเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่เคยขัดใจเขาเลยไม่ว่าเขาจะขอให้ฉันทำอะไรฉันกำลังนั่งดูเด็กๆเล่นทรายกันอย่างสนุกสนานที่ริมหาดหน้าบ้านพัก ก่อนที่สายตาจะหันไปเจอคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนึงที่ดูเหมือนกำลังวุ่นวายฉันไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรแต่ลักษณะเหมือนจัดงานอะไรสักอย่างมีซุ้มดอกไม้ที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามถ้าให้ลองเดาดูเหมือนพวกเขากำลังจัดงานแต่งงานริมชายหาดแต่ฉันก็ไม่ได้เดินเข้าไปดูเพราะต้องดูแลสองสาวซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่สองสาวได้มาเที่ยวทะเลส่วนฟ้าครามรายนั้นกำลังช่วยคุณพ่อทำ
ฟิว..."ขอบัวอาบน้ำด้วยคนนะคะ" อ้อมกอดที่ได้สัมผัสมาพร้อมกับความนุ่มหยุ่นตรงกลางแผ่นหลังของผมทำเอาผมต้องยิ้มออกมาด้วยความพอใจ"มาแล้วเหรอครับ ผัวรอตั้งนาน" พอผมหันหลังกลับมาก็พบว่าตอนนี้เมียรักของผมยืนเปลือยเปล่าหมดทั้งร่างไม่มีอะไรมาปกปิด ผมมองเธออย่างหลงใหลไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไหร่เธอก็ยังสวยงามสำหรับผมอยู่เสมอ"ก็สองสาวของปะป๊านะสิคะไม่ยอมให้บัวมาง่ายๆ" "เหนื่อยมั้ยครับ" ผมถามเธอพร้อมกับดึงเธอมากอดอย่างแสนรัก"เหนื่อยเรื่องอะไรล่ะคะ""ก็เหนื่อยที่ต้องอยู่บ้านเลี้ยงลูกคนเดียวแบบนี้ไง พี่ไปทำงานแทบทุกวันไม่มีเวลาช่วยบัวดูแลเด็กๆเลย" คือตั้งแต่คลอดสองแฝดมาเธอก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลยนอกจากไปโรงพยาบาลเพื่อพาเด็กๆไปหาหมอไปฉีดวัคซีนตามที่หมอนัดยิ่งช่วงที่เด็กๆยังเป็นเบบี๋ตัวน้อยๆนี่ยิ่งเหนื่อยมากเพราะเด็กๆจะร้องไห้บ่อยผมกับบัวแทบจะไม่ได้นอนต้องคอยลุกมาดูลูกแทบทั้งคืนแต่ช่วงนี้เด็กๆโตขึ้นมากแล้วไม่เหนื่อยเท่าเมื่อก่อนแต่ก็ยังต้องดูแลพวกแกอย่างใกล้ชิดแม้จะมีบางวันที่ผมจะพาเด็กๆไปที่ทำงานด้วยเพราะที่ทำงานของผมผมให้สถาปนิกสร้างห้องเด็กเล่นไว้ให้ลูกซึ่งอยู่ภายในห้องทำงานของผมแต่ใบบัวไม่คอยอย
สามปีผ่านไปฟิว....ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ ตุ่บ "ปะป๊าาาาาามาแย้ววว""ปะป๊าาาาาาขาาาาาา"เสียงฝีเท้าวิ่งบนพื้นไม้ที่ดังมาพร้อมกับเสียงเรียกปะป๊าดังลั่นบ้านเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำเวลาผมเลิกงานกลับมาบ้านในตอนเย็นไม่ต้องแปลกใจว่าเป็นเสียงของใครที่เรียกปะป๊า เสียงของลูกสาวฝาแฝดจอมซนสุดแสบของผมเองครับน้องโฟกัสกับน้องเฟย่าคือชื่อของลูกสาวฝาแฝดที่ผมเป็นคนตั้งให้เพราะอยากให้ลูกทุกคนมีอักษร ฟ.คล้องจองกับชื่อของผม พ่อชื่อฟิว ลูกๆชื่อฟ้าคราม โฟกัส เฟย่า อยากจะบอกว่าผมเคยชวนใบบัวไปเปลี่ยนชื่อด้วยอีกคนครอบครัวของเราจะได้เป็นครอบครัวตัว ฟ. แต่ผมก็โดนเธอดุว่าผมไร้สาระไม่เข้าเรื่องตอนนี้น้องโฟกัสกับน้องเฟย่าอายุได้สองขวบแล้วครับกำลังซนเลยทั้งซนทั้งแสบและขี้อ้อนสุดๆเวลาที่ผมอยู่ที่ทำงานพวกแกก็จะรบเร้าให้ใบบัวโทรหาผมทุกวันและเมื่อผมรับสายเด็กๆก็จะแย่งกันพูดบอกคิดถึงปะป๊าอยากคุยกับปะป๊าเมื่อไหร่ปะป๊าจะกลับบ้านทั้งที่ผมเพิ่งมาทำงานได้ไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำแล้วแบบนี้ผมจะไปไหนรอดลูกอ้อนเก่งขนาดนี้แต่ก็น่ารักดีครับผมชอบนะเวลาพวกแกอ้อนแบบนี้มีแต่ลูกเท่านั้นแล่ะครับที่อ้อนส่วนเมียน่ะเหรอฝันไปเถอะครับว่า
ใบบัว...ตอนนี้ฉันท้องได้แปดเดือนแล้วค่ะอีกไม่ถึงเดือนก็ถึงกำหนดผ่าคลอดแล้ว บอกเลยว่าฉันทั้งกลัวทั้งกังวลเพราะครั้งนี้ฉันต้องคลอดลูกฝาแฝดแถมยังต้องผ่าคลอดอีกซึ่งตอนคราวฟ้าครามฉันคลอดธรรมชาติ แต่ที่ฉันไม่ต้องกังวลก็คือเด็กๆสมบูรณ์แข็งแรงดีมากทั้งสองสาว ค่ะฉันได้ลูกสาวสองคนเลยนางฟ้าน้อยของฉันแกกลับมาแล้วแต่ไม่ได้กลับมาแค่คนเดียวแกมาพร้อมกันถึงสองคนและคนที่ดีใจที่สุดคงหนีไม่พ้นคุณฟิวที่นับวันรอว่าเมื่อไหร่สองสาวจะคลอด เขาเห่อลูกมากถึงกับสร้างบ้านหลังใหม่ที่อยู่ในพื้นที่บริเวณบ้านเดิมเพราะคุณเฟื่องกับคุณท่านไม่ยอมให้ย้ายออก เขาก็เลยตัดสินใจสร้างบ้านอีกหลังเพื่อที่ครอบครัวของเราจะได้อยู่กันที่นั่น และตอนนี้เขาก็ได้สั่งให้สถาปนิกออกแบบห้องนอนให้ลูกสาวทั้งสองคนรวมถึงห้องนอนใหม่ของฟ้าครามแกอยากได้ธีมซุปเปอร์ฮีโร่ที่แกชอบซึ่งคุณฟิวก็ไม่ขัดลูกอยากได้อะไรเขาประเคนให้หมดทุกอย่างจนฉันกลัวว่าฟ้าครามจะกลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจแต่เปล่าเลยแกก็ยังเป็นฟ้าครามที่น่ารักของฉันเหมือนเดิม ทุกเย็นหลังเลิกเรียนแกจะคอยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันจนกว่าคุณฟิวจะเลิกงานซึ่งช่วงนี้เขาเปิดบริษัทใหม่ก็เลยต้องทำงานหนักกว่าเดิมสอ
ฟิว....ผมพาฟ้าครามมาเที่ยวสวนสนุกแกชวนผมเล่นเครื่องเล่นทุกอย่างที่ผู้ปกครองสามารถขึ้นไปเล่นกับลูกได้แม้ว่าผมจะไม่ชอบอะไรพวกนี้เพราะมันเลยวัยของผมมาแล้วแต่ในเมื่อลูกอยากเล่นเพื่อลูกผมก็ต้องตามใจเพราะจะให้แกเล่นคนเดียวแกก็กลัว เสียงหัวเราะของลูกทำให้คนเป็นพ่ออย่างผมต้องยิ้มตาม"คุณลุงค๊าบผมหิวน้ำ" ฟ้าครามเงยหน้าถามผมหลังจากที่เราลงมาจากเครื่องเล่น"ป่ะเดี๋ยวลุงอุ้มไปนะ""ค๊าบบบ^^" พูดจบแกก็อ้าแขนออกทันทีเพื่อให้ผมอุ้ม ผมก้มลงอุ้มลูกแล้วพาเดินไปยังโซนที่ขายอาหารเครื่องดื่ม"อยากทานน้ำอะไรสั่งเลยครับ" ผมถามลูกเมื่อเดินมาถึงร้านขายเครื่องดื่ม"เอาน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นค๊าบ" ลูกชี้ไปที่โซนขายผลไม้ปั่นซึ่งเด็กน้อยคนนักที่จะเลือกทานน้ำผลไม้ปั่นเพราะส่วนใหญ่ที่ผมเห็นเด็กๆจะชอบทานน้ำอัดลมมากกว่า หลังจากได้เครื่องดื่มแล้วผมก็พาลูกมานั่งทานที่ซุ้ม"คุณลุงทานมั้ยค๊าบอร่อยนะ" แกยื่นแก้วน้ำสตรอเบอร์รี่มาให้ผมแต่ผมส่วยหน้าเพราะผมซื้อน้ำเปล่ามาดื่มแล้ว"ฟ้าครามทานเถอะครับลูก" ผมตอบลูกพร้อมกับยิ้มแล้วนั่งมองดูลูกดูดน้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าของแกเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อเพราะไปเล่นเครื่องเล่นม