หลังจากศึกรักอันเร่าร้อนผ่านพ้นไป ในยามเช้าน้ำชาเขาก็ได้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแล้วพยายามถูแรงๆยังรอยที่เอกภพเขาที่ฝากเอาไว้ เพียงเพราะหวังว่าจะลบรอยอันอัปยศเหล่านี้ออกได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะเขายิ่งถูเท่าไหร่รอยแดงมันก็ยิ่งชัดขึ้นเท่านั้น
ก็อก ก็อก ก็อก "คุณน้ำชาค่ะ เสร็จหรือยังคะคุณเอกภพให้ดิฉันขึ้นมาตามลงไปทานข้าวค่ะ "เสียงของป้าแก้วเคาะประตูห้องน้ำแล้วเอ่ยบอกกับคนที่อยู่ด้านใน "เสร็จแล้วครับป้า" น้ำชาเขาได้ตะโกนตอบอีกฝ่ายแล้วพยายามล้างคราบน้ำตาพร้อมทั้งล้างฟองสบู่ที่อยู่บนตัวออกอย่างรวดเร็ว "ผมขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ป้าต้องรอนาน" เมื่อน้ำชาเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ได้ทำการขอโทษผู้สูงวัยด้านนอกทันที "ไม่เป็นไรค่ะมาเถอะเดี๋ยวป้าช่วยแต่งตัว" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วเขาก็ได้เดินมาหาน้ำชาแล้วช่วยอีกฝ่ายเช็ดตัวเช็ดผมแล้วก็ช่วยแต่งตัวเหมือนกับน้ำชาเป็นเด็กเล็ก นั่นก็ทำให้น้ำชาเขารู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ และเมื่อแต่งตัวให้น้ำชาเสร็จเรียบร้อยแล้วป้าแก้วเขาก็ได้พาอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารที่เจ้าของบ้านได้นั่งรออยู่แล้ว "สวัสดีครับคุณเอกภพ "เมื่อน้ำชาเขานั่งเรียบร้อยแล้วเขาก็หันไปทำความเคารพผู้เป็นเจ้าของบ้าน "เมื่อคืนฉันบอกว่าอะไรจำไม่ได้หรอ หรือต้องให้คืนนี้ฉันไปทบทวนความจำอีกรอบ" เมื่อเอกภพเขาได้ยินดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย และนั่นก็ทำให้น้ำชาหน้าขึ้นสีความนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน "พะ...พี่เอก..."น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นอย่างกระตุกกระตักแต่นั่นก็ทำให้เอกภพเขารู้สึกมีอารมณ์ขึ้นมาอยากจะจับอีกฝ่ายมาทรมานอยู่ใต้ร่างของเขา "กินข้าวเถอะเพราะถ้าหากเธอยังทำตัวน่ารักไม่เลิกแบบนี้ฉันจะจับเธอกินแทนข้าวแล้ว" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมจ้องมาที่น้ำชาด้วยสายตาที่อยากจะกลืนกิน และเมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็ตักข้าวต้มที่วางอยู่ตรงหน้าเข้าปากทันที "แล้วพี่เอกไม่กินข้าวหรอครับ" หลังจากกินมาได้สักพักน้ำชาเขาก็สังเกตเห็นว่าเจ้าของบ้านไม่ได้กินข้าว "ตอนเช้าฉันไม่กินข้าวฉันกินขนมปังกับกาแฟ " เอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นจากเอกสารแล้วเอ่ยตอบ และเมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็พยักหน้าเข้าใจแล้วหันมาลงมือกินข้าวต่อ "เออ...พี่เอกครับถ้าผมอยากจะเข้าครัวทำขนมได้ไหมครับ" หลังจากที่กินข้าวเสร็จน้ำชาเขาก็ได้เอ่ยถามอย่างช้าๆ "เธออยากจะทำอะไรเธอก็ทำไปเลยไม่ต้องขอฉัน เธออยากจะทำอะไรในบ้านหลังนี้เธอก็ทำให้เต็มที่ " "ขอบคุณครับ "น้ำชาเขาเอ่ยขอบคุณคนตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มที่สดใสนั่นก็ทำให้หัวใจของเอกภพสั่นไหวอย่างรุนแรง ในเมื่อน้ำชาขอบคุณเสร็จแล้วเขาก็ได้ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องครัวทันที โดยมีป้าแก้วเดินตามหลังน้ำชาไปติดๆ "คุณน้ำชาจะทำอะไรหรอค่ะ "ป้าแก้วเธอได้เอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงห้องครัวแล้ว "ผมจะทำขนมอินทนิลครับ มันเป็นขนมที่ผมกับแม่ใหญ่เคยทำด้วยกันตอนที่แม่ใหญ่ยังอยู่" "แล้วมีส่วนผสมอะไรบ้างคะป้าจะได้ให้คนไปเตรียมให้ " "แป้งมันสำปะหลัง ใบเตย น้ำตาลทราย กะทิถ้าเกิดว่าหากะทิอบควันเทียนได้ก็ยิ่งดีนะครับ ดอกเกลือแล้วก็น้ำเปล่าครับ " เมื่อป้าแก้วเธอได้ฟังดังนั้นเธอจะได้ให้คนไปเตรียมของทั้งหมดทันที แล้วเมื่อน้ำชาเขาได้เห็นดังนั้นเขาก็เริ่มลงมือทำทันที โดยสิ่งแรกที่เขาทำก็คือคั้นน้ำใบเตย และเมื่อเขาคั้นน้ำใบเตยเสร็จเขาก็ได้นำแป้งมันสำปะหลังมาแล้วเทน้ำใบเตยที่เขาคั้นเสร็จ เขาจึงได้นำทั้งหมดมาใส่พร้อมทั้งคนแป้งและน้ำใบเตยจนเข้ากัน เขาจึงนำมันไปพักไว้แล้วหันมาเตรียมน้ำกะทิ โดยเขาได้ตั้งน้ำด้วยไฟปานกลางต้มจนน้ำเริ่มเดือดเขาก็ใส่ใบเตยลงไปประมาณ 4-8 ใบแล้วเคี่ยวจนใบเตยส่งกลิ่นหอมเขาจึงได้ใส่น้ำตาลทรายลงไปเคี่ยวจนละลายแล้วสุดท้ายเขาก็เติมกะทิลงไปแล้วต้มต่ออีกอีกสักพักก่อนจะปิดไฟแล้วยกลง เมื่อทำน้ำกะทิเสร็จแล้วนั้นเขาก็จะได้นำแป้งที่นำไปนวดกับน้ำใบเตยนำมาใส่กระทะแล้วไปตั้งบนเตาโดยใช้ไฟอ่อน ก่อนจะเริ่มค่อยๆกวนอย่างเบามือจนแป้งจากเดิมเป็นสีเขียวขุ่นตอนนี้เป็นสีเขียวใสแล้วถือว่าเป็นอันเสร็จ และเมื่อน้ำชาได้เตรียมทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ได้ปั้นแป้งเป็นลูกพอดีคำจัดใส่จานอย่างสวยงามพร้อมนำน้ำกะทิมาราดแล้วโรยงาคั่วเล็กน้อยเพิ่มกลิ่นหอม "คุณน้ำชาเก่งจังเลยนะคะ" ป้าแก้วเธอได้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าน้ำชาทำเสร็จแล้ว "ไม่หรอกครับป้าแก้วนี่มันก็เป็นเมนูง่ายๆ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมเอาขนมไปให้คุณเอกภพก่อนนะครับ ในส่วนที่เหลือนอกจากที่ผมแบ่งเอาไว้ป้าก็ให้คนอื่นกินได้นะครับ "น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมนำขนมขึ้นไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็นที่ทำงานของเจ้าของบ้าน ก๊อก ก๊อก ก๊อก "คุณเอกภพครับคุณน้ำชามาขอพบ " "ให้เขาเข้ามา "เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนั้นบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่หน้าห้องก็เปิดประตูให้น้ำชาเดินเข้ามาข้างใน "พอดีว่าผมทำขนมเลยอยากเอามาให้คุณชิมครับ" เมื่อน้ำชาเดินเข้ามายังภายในเขาก็ได้วางถ้วยที่ใส่ขนมไว้บนโต๊ะทำงานแล้วเอ่ยบอกพร้อมทั้งทำท่าจะหันหลังเดินกลับ "ฉันอนุญาตให้เธอออกไปได้แล้วหรอ" เมื่อเอกภพเขาได้เห็นว่าน้ำชากำลังจะเดินออกไปเขาก็ได้เอ่ยขึ้นมานั้นก็ทำให้ปลายเท้าของน้ำชาหยุดชะงักทันที ก่อนที่ตัวของเขาจะค่อยๆหันไปมองที่เอกภพ "มานี่สิ" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมตบมาที่ขาของตัวเอง เมื่อน้ำชาได้ฟังอย่างนั้นเขาก็เดินไปนั่งยังตักของเอกภพนิ่งไม่ขยับ "ป้อนฉันหน่อยสิ" เมื่อเอกภพคอยได้เห็นว่าคนตรงหน้านี้ช่างไม่เป็นงานเอาซะเลย เขาเลยบอกอีกฝ่ายให้รู้ว่าต้องทำอะไร และเมื่อน้ำชาเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็เอื้อมมือไปหยิบช้อนตักขนมขึ้นมาป้อนเอกภพ แต่เอกภพกลับไม่กินมันเอาแต่จ้องที่ริมฝีปากของน้ำชา ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้น้ำชาต้องหน้าแดงขึ้นเพราะตัวของน้ำชาเข้าใจความหมายที่เอกภพต้องการจะสื่อ "กินมันเข้าไป "เมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็นำจนมที่ตักเข้าปากของตัวเอง และเมื่อเอกภพได้เห็นดังนั้นเขาก็ไม่รอช้ารีบก้มลงไปจูบน้ำชาทันที พร้อมทั้งใช้ปลายนิ้วโป้งเขี่ยตรงคางของน้ำชาเล็กน้อยเพื่อให้เปิดปากกว้างจนเขาสามารถแทรกลิ้นเข้าไปเอาของที่อยู่ในปากน้ำชามาใส่ในปากตัวเองได้ เอกภพเขาได้ใช้ลิ้นของเขาเข้าไปชิมในปากของน้ำชาอย่างเอาเป็นเอาตายจนทำให้น้ำชาเกือบขาดอากาศหายใจ "หึ รสชาติก็ไม่เลวเลยเอาใหม่ฉันอยากกิน" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมจ้องมาที่น้ำชาด้วยสายตาที่เหมือนจะกลืนกินน้ำชาเข้าไปทั้งตัว และเมื่อน้ำชาได้ฟังดังนั้นเขาก็หน้าแดงด้วยความเขินอายก่อนจะตัดขนมเข้าปากของตัวเอง แล้วเงยขึ้นเพื่อให้เอกภพสามารถกินได้ง่ายๆ น้ำชาเขาได้ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนขนมที่เขานำมาหมด "หึ รสชาติก็ไม่เลว คราวหน้าทำมาให้ฉันกินอีกฉันชอบ "เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งกอดเอวของน้ำชาไว้แน่นไม่ปล่อย "คุณเอกภพครับ " "ฉันบอกให้เรียกฉันว่าอะไร" เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เข้มพร้อมจ้องมาที่น้ำชาที่สายตาคาดโทษ "พี่เอกครับปล่อยผมได้แล้วครับ ถ้าทำแบบนี้พี่จะทำงานไม่ได้นะครับ" เมื่อน้ำชาได้เห็นดังนั้นเขาก็รีบเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน "น้ำชาเธออย่าไปทำแบบนี้ให้ใครเห็นเด็ดขาดเข้าใจไหม "เมื่อเอกภพได้เห็นดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิดเพราะคิดว่าถ้าหากคนบนตักตนนั้นไปทำแบบนี้กับคนอื่นเขาคงต้องควักลูกตาแล้วตัดหูของคนผู้นั้นทิ้งเพื่อระบายความโกรธ เมื่อน้ำชาเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ พร้อมทั้งพยายามดิ้นออกจากอ้อมแขนนั้นแต่มันก็ไม่เป็นผล และเขาได้นั่งอยู่ในอ้อมแขนของเอกภพนั้นจนถึงเวลาอาหารเที่ยง"คุณเอกภพจะทำอะไรครับ!!! ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะครับ!!!" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นพร้อมพยายามผลักเอกภพออก เพียะ!!!! "มึงไม่มีสิทธิ์มาห้ามกู!!!! "เอกภพตบน้ำชาเสียงดังพร้อมทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ออกอย่างรุนแรง "ในเมื่อมึงคิดจะหนีกู มึงก็ต้องเตรียมตัวรับผลกรรมที่มึงสร้างได้เลยน้ำชา!!!! "เอกภพในยามนี้เขาเหมือนกับปีศาจร้ายทั้งฉีกกระชากเสื้อผ้าของน้ำชาออกเป็นชิ้นๆทั้งกัดทั้งดูดตัวของน้ำชาอย่างโหดเหี้ยมทารุณ "โอ้ย!!! ผมเจ็บนะครับ" เมื่อเอกภพกัดและขยี้ฟันที่ยอดปทุมถันน้ำชาเขาก็ได้ร้องออกมาอย่างเจ็บแสบ "เจ็บสิดี!!! มึงก็ได้รู้ว่าตอนที่มึงคิดจะไปกูรู้สึกยังไง!!!" เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นและทำการพลิกตัวของน้ำชาให้นอนคว่ำหน้าลงแล้วเขาก็ได้เริ่มไล่กัดทั่วทั้งแผ่นหลังของน้ำชา เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เพียะ!!! เมื่อเอกภพเขาได้ไล่ลงมาจนถึงก้อนซาลาเปาทั้ง 2 ลูกของน้ำชา เอกภพเขาก็ได้ตบอย่างรุนแรงพร้อมทั้งขยำขยี้จนมันแดงไปทั่ว น้ำชาในยามนี้เขาได้ร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล ตัวของเขานั้นสะอื้นจนเสียงแทบไม่มีจะพูดแต่นั่นก็ไม่ทำให้เอกภพใจอ่อนขึ้นมาเลย "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ร้อง!!! มึงร้องออกมาเยอ
"ฉันรู้เรื่องที่แกพาเด็กเข้าบ้านแล้ว "เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ยังทำฉีดผ้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "คุณพูดเรื่องอะไรผมไม่เข้าใจ" เอกภพด้วยเอ่ยขึ้นแล้วพยายามจะเดินหนี "แกไม่ต้องทำมาเป็นไขสือ เด็กที่ชื่อน้ำชานั้นฉันรู้แล้ว " "คุณพูดเรื่องอะไรคุณ " "เด็กคนนี้เป็นใครเอกภพแกไม่ต้องมาปฏิเสธฉัน ฉันไปสืบประวัติเด็กคนนั้นมาหมดแล้ว แต่ฉันอยากฟังจากปากแก " "เด็กคนนี้เป็นเด็กบำเรอของผมเองแม่มีอะไรหรือเปล่าครับ" เมื่อเอกภพได้ฟังดังนั้นเขาก็ได้เอ่ยขึ้นอย่างจนใจด้วยน้ำเสียงที่ไร้ความรู้สึก และเมื่อสิ้นเสียงนั้นของเอกภพป้าแก้วก็ได้พาตัวน้ำชาลงมา "หึ เดี๋ยวนี้รู้จักพัฒนานะกล้าพาเด็กขายมาบ้าน" เมื่อผู้เป็นมารดาได้ฟังดังนั้นเขาก็หันมามองที่น้ำชาด้วยความเหยียดหยาม เมื่อเอกภพได้เห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกไม่พอใจผู้เป็นมารดาเป็นอย่างมาก "แล้วแม่มาหาผมมีเรื่องอะไรถ้าจะมาก็เพราะเรื่องแค่นี้กลับไปอยู่วิมานสวรรค์ของคุณเถอะ คุณต้องการให้ผมพาคนของแม่ไปกินข้าวผมก็พาไปแล้วไงจะมายุ่งอะไรกับผมอีก " เอกภพเขาได้เอ่ยบอกผู้เป็นมารดาด้วยความไม่พอใจ " ถ้าวันนี้ฉันไม่มาที่บ้านแก แล้วมีคนมารายงานฉันเรื่องของเด็
เมื่อป้าแก้วได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นกับน้ำชาเธอก็รู้สึกสงสารเด็กตรงหน้านี้เป็นอย่างมาก "ป้าขอโทษคะที่ถามอะไรไม่เป็นเรื่องแบบนี้" "ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ขอแค่ชีวิตเด็กๆปลอดภัยผมจะเป็นยังไงก็ช่างมันเถอะครับ" และเมื่อหญิงชราได้ฟังดังนั้นนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพนับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน "นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้อ
นับตั้งแต่วันที่น้ำชาได้เข้ามาอยู่ยังบ้านของเอกภพบัดนี้ก็เป็นเวลาถึง 1 เดือนแล้ว โดยตลอด 1 เดือนนี้น้ำชากับเอกภพพวกเขาทั้งคู่ต่างก็ได้หลับนอนด้วยกันตลอดทุกวัน "นี่มันก็ 1 เดือนแล้วเขายังไม่เบื่อฉันอีกหรอ" น้ำชาได้เอ่ยขึ้นพร้อมอาบน้ำ และเมื่อเขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเขาก็ได้เดินลงมายังด้านล่างเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับผู้เป็นเจ้าของบ้านอย่างเช่นปกติ "นายท่านแย่แล้วครับ คุณผู้หญิง...คุณผู้หญิงมาครับ" เข้มได้วิ่งเข้ามารายงานผู้เป็นนายถึงการปรากฏตัวของแม่ของเอกภพ ในเมื่อเอกภพเขาได้ฟังดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันที "น้ำชาเธอขึ้นไปอยู่บนห้องก่อนถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ห้ามลงมาเด็ดขาด "เอกภพเขาได้หันมาเอ่ยกับน้ำชาด้วยน้ำเสียงที่เข้มนั่นก็ทำให้น้ำชารีบขึ้นไปยังห้องของตัวเองทันที ส่วนป้าแก้วเธอก็รู้ว่าต้องทำอย่างไรเธอก็รีบไปเก็บข้าวของทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้ำชาซ่อนเอาไว้ทั้งหมด "เอกภพวันนี้แม่มีเรื่องสำคัญจะพูดกับแก" เมื่อคุณหญิงมุกดาผู้เป็นมารดาของเอกภพเข้ามายังห้องรับแขกเธอก็ได้เอ่ยขึ้นมาทันที "แม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับผม ก็รีบพูดมาเถอะผมไม่มีเวลาว่างทั้งวัน" เมื่อเอกภพคอยได้ฟังดังนั้น
หลังจากศึกรักอันเร่าร้อนผ่านพ้นไป ในยามเช้าน้ำชาเขาก็ได้ลุกขึ้นมาอาบน้ำแล้วพยายามถูแรงๆยังรอยที่เอกภพเขาที่ฝากเอาไว้ เพียงเพราะหวังว่าจะลบรอยอันอัปยศเหล่านี้ออกได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เพราะเขายิ่งถูเท่าไหร่รอยแดงมันก็ยิ่งชัดขึ้นเท่านั้น ก็อก ก็อก ก็อก "คุณน้ำชาค่ะ เสร็จหรือยังคะคุณเอกภพให้ดิฉันขึ้นมาตามลงไปทานข้าวค่ะ "เสียงของป้าแก้วเคาะประตูห้องน้ำแล้วเอ่ยบอกกับคนที่อยู่ด้านใน "เสร็จแล้วครับป้า" น้ำชาเขาได้ตะโกนตอบอีกฝ่ายแล้วพยายามล้างคราบน้ำตาพร้อมทั้งล้างฟองสบู่ที่อยู่บนตัวออกอย่างรวดเร็ว "ผมขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ป้าต้องรอนาน" เมื่อน้ำชาเดินออกมาจากห้องน้ำเขาก็ได้ทำการขอโทษผู้สูงวัยด้านนอกทันที "ไม่เป็นไรค่ะมาเถอะเดี๋ยวป้าช่วยแต่งตัว" เมื่อกล่าวจบป้าแก้วเขาก็ได้เดินมาหาน้ำชาแล้วช่วยอีกฝ่ายเช็ดตัวเช็ดผมแล้วก็ช่วยแต่งตัวเหมือนกับน้ำชาเป็นเด็กเล็ก นั่นก็ทำให้น้ำชาเขารู้สึกเขินอายเป็นอย่างมากแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ และเมื่อแต่งตัวให้น้ำชาเสร็จเรียบร้อยแล้วป้าแก้วเขาก็ได้พาอีกฝ่ายไปยังห้องอาหารที่เจ้าของบ้านได้นั่งรออยู่แล้ว "สวัสดีครับคุณเอกภพ "เมื่อน้ำชาเขานั่งเรียบร้อ
"นายท่านทำเช่นนี้มันจะดีเหรอครับ" เข้มเขาได้เอ่ยขึ้นด้วยความสงสารอีกฝ่าย "มันมีอะไรที่ไม่ดี เขาไม่ต้องทำอะไรก็แค่มานั่งกินนอนกินแล้วค่อยบำเรอกูตอนกลางคืน ไม่ต้องทำงานหนักใครเขาก็ชอบ "เอกภพเขาได้เอ่ยขึ้นอย่างไม่รู้สึกว่าผิดอะไร และเมื่อเข้มได้ฟังดังนั้นเขาก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจทั้งๆที่ในใจของเขามันร่ำร้องให้นายท่านปล่อยเด็กคนนั้นไปแต่เขาก็พูดไม่ได้ ก๊อก ก๊อก ก๊อก "นายท่านขอรับคุณน้ำชามาขอพบ" บอดี้การ์ดด้านนอกเขาได้เคาะประตูแล้วเอ่ยบอก "มึงเห็นไหมเข้มกูบอกแล้วว่าเขาชอบ เชิญเขาเข้ามา "ประโยคแรกเอกภพเขาได้เอ่ยบอกกับเลขาคนสนิทส่วนอีกประโยคเขาได้ตะโกนบอกคนที่อยู่ด้านนอก "ผมอยู่ที่นี่ผมต้องทำอะไรบ้างครับ" น้ำชาเขาได้เอ่ยขึ้นอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ "นายไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น อยู่เฉยๆรอทำงานให้ฉันตอนกลางคืนก็พอ" เอกภพเขาได้เอ่ยบอกทั้งๆที่เขายังไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร "ครับ แล้วผมสามารถเดินรอบๆบ้านได้ไหมครับ" น้ำชาเขาได้เอ่ยถามผู้เป็นเจ้าของบ้าน "ได้นายจะไปไหนก็ได้ในอาณาเขตบ้านหลังนี้ ""ครับถ้าอย่างนั้นผมขอตัว "เมื่อกล่าวจบน้ำชาเขาก็ได้ทำความเคารพแล้วหันหลังกลับออกจากห้องนี้ไปทันที แ